ทำบุญอะไรถึงส่งเสริมให้เวลาบนหรือขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วได้ตามที่ขอ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นักขัต, 17 พฤษภาคม 2014.

  1. นักขัต

    นักขัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +777
    ถ้าจำไม่ผิดต้องเป็นคนรักษาสัจจะ
    เอ่ยไรแล้วต้องทำ

    ซึ่งผมเองก็รักษาสัจจะมาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องทั่วไป เรื่องทางพระพุทธศาสนา
    ลั่นวาจาไปแล้ว ก็จะทำตลอด ไม่ชอบผิดคำพูดตัวเอง หรือตั้งใจว่าวันนี้จะสวดมนต์ทำสมาธิก็จะทำตามที่คิด วันพรุ่งนี้จะไปใส่บาตรก็ไป นัดกับเพื่อนแล้วก็ไปตามนัดตลอด (เลยโดนยกเลิกนัดอยู่ฝ่ายเดียวเสมอๆ)

    แต่ทำไมเวลามีเรื่องร้อนใจ ทุกข์ใจ บนขอที่ไหนไม่เคยได้เลยครับ
    (ยกเว้นเสด็จพ่อร.5 เคยให้เรื่องงานเรื่องเดียวครั้งเดียว)
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    อนุโมทนาในการประพฤติรักษาสัจจะด้วยครับ..

    ท่านจขกท. อย่าพึ่งท้อแท้หวั่นไหวกับความไม่ประสบสิ่งที่ปรารถนาในเวลานี้เลย ท่านย่อมทราบความจริงว่า ธรรมทั้งหลายย่อมไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาร้องขอหรือบนบานของใคร แท้จริงแล้วสิ่งที่ดีและเลวย่อมเกิดได้ด้วยการประชุมพร้อมของเหตุปัจจัยจำนวนมากมาย ที่ต่างก็ไม่มีใครควบคุมบังคับให้เป็นดังใจใครๆไม่...การทำความเห็น(ทิฏฐิ)ให้ตรงได้ย่อมช่วยให้เราเข้าใจและยอมรับสิ่งที่กำลังเกิดด้วยความสงบ ด้วยสติ..เมื่อมีสติแล้วย่อมทราบหนทางแก้ไขด้วยดีตามจริง ไม่น้อยใจถามหาความถูกต้องในหนทางที่ไม่ใช่วิถีเพื่อการพ้นปัญหาอะไร...

    ท่านจขกท พึงทราบว่า ความสุขสมปรารถนาทั้งปวงย่อมไหลมาจาก"เหตุ"ที่สมควรคือ ทาน ศีล และภาวนาเท่านั้น ไม่ใช่มาด้วยเหตุที่ไม่สมควรอื่นๆเลย..ดังนั้น ท่านพึงขวนขวายตรวจตาดูว่าตนเองกำลังขวนขวายในเหตุที่ดีหรือเสียมากกว่า และอย่างไรบ้าง..

    ก็เมื่อท่านยังไม่ได้สิ่งที่หวัง..ก็พึงเข้าใจว่าแม้อกุศลกรรมที่ตนทำมามากมายในสังสารวัฏ ก็ย่อมมีโอกาสสบช่องนำความทุกข์ขัดสนอึดอัดคับแค้นต่างๆนานามาส่งให้ได้รับเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ผู้ใดมีฤทธิ์มากเพียงใดก็ไม่อาจสามารถมาช่วยปัดเป่าออกไปได้เลย .มีแต่บุญกุศลของตนเท่านั้นที่สามารถเข้ามาช่วยตนได้อย่างแท้จริง..

    ท่านจขกท พึงอดทนและรวบรวมสติปัญญา รักษาใจให้สงบั่นคงลงก่อน จิตที่ระส่ำระสายจะเป็นโอกาสแห่งบาปกรรมอื่นๆมากมายให้เกิดได้ อันจะยิ่งซ้ำเติมตนเองโดยใช่เหตุ.....

    สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ตั้งอยู่ระยะหนึ่ง ในที่สุดก็ย่อมจบหมดไป มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นแทน ท่านจขกท เคยอยู่ดีมีสุข..บัดนี้กลับทุกข์ก็เพราะปัจจัยแห่งสุขหมดไป แต่ในไม่ช้า ทุกข์ที่เกิดก็ย่อมคลายจบไปเช่นกัน ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ตั้งมั่นเช่นนั้นตลอดไปจริงๆ..

    การพึ่งตนได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะการพึ่งสิ่งอื่นนอกตัว ย่อมไม่แน่นอน ..บุคคลย่อมพ้นทุกข์เพราะความเพียร..นี้เป็นคำตรัสสอนของพระบรมศาสดาที่เป็นได้แต่ความจริง ไม่มีใครค้านได้เลย .....


    เป็นกำลังใจให้ท่านจขกท ประสบความสมปรารถนาในกุศลกิจทั้งปวงโดยราบรื่นสะดวกรวดเร็วพลันครับ..
     
  3. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    หลวงปู่ดู่ท่านบอกว่า หากมีกรรมทางวาจา ก็ตัดรอนนะคะ แทนที่จะได้มากก็ได้น้อย
    แทนที่จะได้น้อย ก็ไม่ได้เลย

    สงสัยต้องสว่างหมด ทั้งกาย วาจา ใจ ถึงจะได้ค่ะ
    ต้องสะสมเรื่อยไป
     
  4. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    ที่เคยสังเกตมาบนบานแล้วให้ได้ผล

    - จะต้องมีบุพกรรม ร่วมกันมากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    นั้นๆ จะทำให้สำเร็จเร็วขึ้น
    - ไม่ใช่ช่วงที่วิบากกรรมมาแทรก

    ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยคุณได้หรือเปล่านะ แต่ขอให้โชคดีค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2014
  5. bannasanoo

    bannasanoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +135
    ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะนี้สินในบุญบารมี ที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว
    เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเจ้า

    จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นเมื่อถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า "

    นี่คือคำเทศนาของ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ให้ในนิมิตรหลังจากที่ท่านล่วงลับไปแล้วเมื่อ 100 กว่าปี
     
  6. ปวรรุจ

    ปวรรุจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +44
    ทำกำลัง(บารมี) ตัวเองให้มีมากๆก่อนครับ ค่อยขอ การขอก็เหมือนกับว่าท่านเติมในส่วนที่ขาดให้ได้นิดหน่อย เท่าที่ท่านจะช่วยได้ เช่นอีกนิดหนึ่งจะได้แล้ว ท่านก็เติมให้ได้ เหมือนน้ำในแก้วนั่นหละครับ อีกนิดจะเต็มก็เติมให้เต็ม แต่ถ้าน้ำไม่มีในแก้วมาเลยมาเติมให้เต็มเลยอันนี้ก็คงไม่ได้ครับ อย่างคนขอรางวัลที่ ๑ แต่ไม่เคยมีฐานบุญทำทานมาก่อน ก็ยากครับ จริงๆแล้วก็คือว่าเราต้องมีฐานมาก่อนนั่นหละครับ ถ้าเราไม่มีฐานมาเลยก็ช่วยยาก ของอย่างนี้มีตัวแปรหลายอย่างประกอบกัน
     
  7. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    หลวงปู่ดู่สอนศิษย์

    หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลที่สำคัญที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้
    นำไปปฏิบัติ คือ มงคล 38 ประการ มงคลที่ท่านพูดถึงบ่อย ๆ
    นั่นคือ สัมมาวาจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งที่เป็นมงคล
    ท่านว่าคนส่วนมากมักสร้างกรรมทางวาจา เพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย
    แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรม เมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไร
    คำพูดนั้นสำคัญมาก บางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่น
    จนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มี
    บางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี
    คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตาย
    ก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ

    หลวงปู่ท่านสอนอยู่เสมอว่า อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา
    ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบมันก็จะไม่มีเรื่องกัน
    แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละเรื่องใหญ่ ท่านสอนศิษย์เสมอว่า
    อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา
    เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่
    ถ้าแกไปพูดเข้าเมื่อไหร่กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง

    ท่านบอกไว้อีกว่า คนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่นรวมไป
    ถึงการพูดไม่ดีต่าง ๆ กับคนอื่นนั้น กรรมจะมาเร็วมาก
    เขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน
    ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกับเป็นคนที่น่ารังเกียจ
    แก่คนทั้งหลาย กรรมนี้จะทำให้เขามีเรื่องและเดือดร้อนอยู่เสมอ ๆ
    ทั้งทางกายและทางใจ บางคนทำกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว
    พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือเหลือน้อยลง
    กรรมชั่วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่างหนักทั้งในภพนี้และภพหน้า
    ในภพนี้เวลาที่กรรมดีแต่ปางก่อนจะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ
    กรรมชั่วก็จะเข้ามาตัดรอนกรรมดี เหมือนอย่างเขาผู้นั้น
    ซื้อหวยเลข 56 หวยก็จะออกเลข 55 หรือ 57 บางที
    ก็ติดต่อการค้าหรืองานต่าง ๆ มองเห็นอยู่ว่างานนี้ได้แน่นอน
    แต่พอถึงเวลาก็ไปไม่ทันบ้าง ไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุต่าง ๆ
    มาทำให้มีอุปสรรคอยู่เสมอ ๆ ซึ่งที่จริงแล้วผู้นั้นจะมีโชคที่ควร
    ได้ประมาณเป็นล้าน ๆ เขาก็จะได้แค่หมื่นสองหมื่นหรือโชคครั้งนี้
    จะได้หลายหมื่น แต่เขากับได้เพียงไม่กี่พันบาทหรือเพียงได้
    ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเอง นี้เป็นเพราะกรรมชั่วเข้ามาตัดรอนกรรมดี
    และรวมถึงญาติพี่น้องลูกหลาน เขาเหล่านั้นก็จะทำความ
    เดือดร้อนเสียหายมาให้ มีพี่น้องหรือญาติไปจนถึงเพื่อนฝูง
    ก็จะโกงทรัพย์สินเงินทองของเราบ้าง บางครั้งก็พูดใส่ร้ายให้โทษ
    ด่าว่าทะเลาะวิวาท ทำให้เราไม่สบายกายและสบายใจเป็นอย่างมาก
    มีเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาอย่างไม่จบสิ้น
    มีลูกหลานก็จะดื้อด้าน ว่านอนสอนยาก ทำความเดือดร้อน
    ให้เสียเงินทองอยู่มิได้ขาด ว่ากล่าวลูกหลานไม่เชื่อฟัง
    ไม่เครารพนับถือ ลูกหลานบางคนก็จะอกตัญญูตนเองมัก
    จะเดือดร้อนด้วยการเป็นโรคร้ายที่รักษายากหรือรักษาไม่หาย
    เช่น อัมพฤต อัมพาต มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคร้ายต่าง ๆ
    อีกมากมายหลายชนิด

    หลวงปู่ท่านบอกไว้ว่า กรรมทางวาจามีร้ายแรงมาก
    การที่เราพูดใส่ร้ายหรือพูดไม่ดีจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเสียใจ
    หรือไปพูดทำลายความหวังต่าง ๆ ของเขาถ้ารู้ตัวให้หยุดเสีย
    ถ้าไม่หยุดหรือเลิกทำเสียกรรมไม่สนองแต่ในชาตินี้
    พอตายลงไปยังต้องไปใข้กรรมยังนรกตามขุมต่าง ๆ อีก
    ท่านจะพูดและสอนศิษย์อยู่เสมอว่า "คนดีเขาไม่ตีใคร"
    ความหมายว่าคนดีไม่ตีใคร ไม่ใช่เอาไม้หรือของแข็ง ๆ ไปตีเขา
    แต่ท่านไม่ให้พูดจากไม่ดีด่าว่าใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นเดืดดร้อนเสียหาย
    และทุกข์ใจ หลวงปู่บอกว่าคนดีเขาไม่ว่าใคร
    ถ้าแกไปว่าเขาแกก็จะเป็นคนไม่ดี

    หลวงปู่ดู่สอนศิษย์เรื่อง กรรมทางวาจา
     
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ถ้าเป็นเรื่องเนื่องด้วยกามภพ

    เช่นอยากได้กามหละ

    จำเป็นต้องถอดรองเท้า

    วางรองเท้าไว้โจ่งแจ้ง เดินสวดอิติปิโส วนตามเข็มนาฬิกา วนตรงไหนก็ได้เอาที่ไม่เขิลหนะ

    สามรอบ สวดอิติปิโสไปเรื่อยๆ วนแคบๆก็ได้ วนเกินสามรอบก็ได้ เอาว่าให้เป็นวง ที่มีศุนย์กลางชัดเจน แล้วกำหนดจิตขอ ว่าหากจะสมปราถนาขอให้มีเหตุการณ์พิเศษ
    เป็นนิมิตเครื่องหมาย

    เช่นมีคนเดินเข้ามาทักว่าทำอะไร ประมาณนี้

    แล้วก็ไปนั่ง ปรกติแล้วพระภูมิเจ้าที่หรือบริวารจะมา ภาวนาสวดอิติปิโสต่อก้ได้
    อย่าเพิ่งใส่รองเท้าทิ้งรองเท้าไว้ที่เดิม

    อุทิศกุศลให้กับท่านที่ทำอาการให้เป็ฯนิมิต เชื่อว่าคือพระภูมิเจ้าที่ตรงที่เราเดินวน

    ถ้าเป็ฯคนมีลางสังหรหรือมีเสียงในหัว
    จะทราบว่า ที่อยากได้จะสมหวังหรือไม่สมหวัง
    ท่านจะแจกแจงมาเอง

    พอสมใจแล้วก็ใส่รองเท้า

    ถ้าท่านอยากได้เครื่องเซ่นท่านจะกำหนดว่าอยากได้อะไรแล้วกำหนดจุดวางเครื่องเซ่น

    ปรกตินิยมไปเดินวนๆนี่ ในบริเวณที่ใกล้จุดที่หวังที่สุดเท่าที่จะสะดวก
    เพราะต้องเดินวนๆ ถอดรองเท้า
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    เจดีย์ ย้ายได้
    อาหารคือความคิด
     
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ผมทดสอบด้วยตัวเอง
    เช่นปรกติผมพยายามถวายดอกไม้ธุปเทียน ให้พระภูมิที่บ้าน โดยเอาไปไว้ที่ศาลเลย

    หลายปีอยากรู้

    ในที่สุดทราบเองโดนคิดไปเองว่า
    ถ้าท่านสั่งเอง เอาไปวางไว้ตรงที่สั่ง

    แนะนำให้หัดอารธนา บารมีคาถาจักรพรรดิ์ตามแบบวัดถ้ำเมืองนะก็ดี

    ออกแนวไสยศาสตร์ไปหน่อย และมีเสียงในหัวมาเกี่ยวข้อง
    ผมทำแค่ให้หายสงสัย สบายใจ

    ผมเอาของไปวางไว้ วางไว้ตรงที่ต่างๆได้
    ไม่จำเป็นเลยที่ต้องไหว้พระภูมิต้องเอาของไปวางไว้ที่ศาล

    ท่านเอาให้สัมภเวสีกินก็ได้ เปรตก็ได้ อสุรกายก็ได้

    โดยผมเป็นเบ้ท่าน ท่านก็เทห์ไป ผมก็อ๋อ หายสงสัย
     
  11. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ปรกติคนจะหลัวสิ่งแอบแฝงเข้ามา
    แทนที่พระภูมิเจ้าที่

    ท่านก็ว่าปรกติ กูก็โดนมารหรือรูปนามปราณีตกว่าสิง

    ก็เลยปรงๆ
     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    คือเราต้องเรียนรู้สิอ่งที่เรียกว่าคุณผี เพียวๆ
    เพื่อจะเรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าคุณคน

    ไม่มีทางเลือกอื่น
    และถุ้าหาทางลงให้ตัวเองไม่ได้ ก็อาจจะกลายเป็นหมอผีในที่สุด
    เหอๆ

    ลองเลย พระภูมิที่บ้านก็ได้ ที่ๆเราถอดรองเท้า เดินวนเป็นวงตามเข็มนาฬิกาได้เกินสามรอบ

    เอาขนมชิ้นเดียวก็ได้บ้านเรา
    ขนมมดจะขึ้น พระภูมิท่านไม่กินหรอก
    ท่านเอาให้รูปนามต่ำๆกิน

    อันนี้ค่อนข้างปลอดภัยเพราะพระภูมิบ้านเรา ซวยก็ทำไงได้
    ก็บ้านเราเอง

    ลองดุว่าท่านจะสั่งให้เอาขนมไปวางไว้ไหน
     
  13. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    เปลี่ยน ไม่เอาขนมแล้ว
    ท่านว่าทอฟฟี่ก็ได้ ยาแก้ปวดลดไข้ก้ได้
    เอาแบบว่าคนเก็บไปกินได้ มันมีห่อ มีเปลือกหนะ

    เราจะทราบว่าแท้ที่จริงพระภูมิที่คุ้มตรงที่เราเดินวน ที่ๆท่านมีอานาจจริงอยู่ตรงไหน
    มีการทับซ้อนกะผีบ้านไหนบ้าง หรือรขเทวดา ไหนบ้าง
    ยาแก้ปวดลดไข้ มีหลายเม็ดในแผง เอากรรไกรตัดก็ได้ โดนน้ำยาแก้ปวดก็จะยังไม่เสย

    เรนาก็จำเอาไว้ว่าวางไว้ตรงไหน ถ้าหายไปก็อาจจะมีคนเอาไปทิ้งก็ได้
    เดี๋ยวท่านจะให้วางวงกว้างขึ้น ระวังตัวหน่อย
    ไหนๆก็อยากรู้คุณผี ลองด้วยตัวเองเลย
     
  14. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    สัจจะนี่ต้องทำเอง
    เวลาเราตั้งใจจะทำอะไรบุญมันจะหนุนนำเองให้ได้สำเร็จและเข้าใจในเรื่องนั้นๆ
    อย่างท่านมาพิมธรรมเรื่องสัจจะ นี่ก็เป็นบุญอยู่แล้วครับ เวลาท่านจะทำอะไร
    ส่วนที่ท่านทำนี้ก็จะช้วยส่งเสริมท่านเองครับ
    เวลาผมจะตั้งใจขึ้นเรื่องอะไร ผมจะไม่ไปบนอะไรกับใครครับ
    ผมจะดูว่ามีอันไหน
    ที่ผมพอจะทำดีได้จะทางตรงหรือทางอ้อม แล้วกุศลนั้นจะทำให้เรา เข้าใจและ
    กระจ่างในเรื่องต่างๆ เองครับ มันมีทั้งแบบตั้งใจไปด้วยและทำไปด้วย
    กับตั้งใจเพื่อสิ่งอื่นๆไปด้วย
    คือเรา ต้องการความกระจ่างทางธรรมเพิ่มขึ้น เราก็ทำไปด้วยเท่าที่เราทำได้
    แล้วก็มีแวะมาพิมธรรมไปด้วย พอพิมไปเรื่องๆนึงที่เราเข้าใจและทำได้
    เราก็จะเข้าใจมากขึ้นและก็มีเรื่องอื่นๆที่เราเข้าใจเป็นของแถมหลายเรื่อง
    ท่าตั้งใจเพื่อสิ่งอื่นๆไปด้วย ก็กุศลที่ทำอันนี้ เพื่อ ลาภ เพื่อการงาน
    เพื่อศัตรูและญาติมิตรสหายทั้งหลาย
    อย่างกุศลในครั้งนี้ผมจะไม่ไปบนกับใคร แต่ขอตั้งใจขึ้นว่าขอให้อากาศ
    ในประเทศไทยเย็นขึ้นๆ เพราะตอนเที่ยงบางทีอากาศมันร้อนไป
    เดี๋ยวคนไทยจะเครียด 5555 ขอกุศลนี้หนุนนำอากาศที่เย็นๆมาที
    เอาแบบเย็นสดชื่นทั้งวัน
     
  15. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าไม่ให้ขอ แต่เราก็ขอ เช่น การงาน ความสุข ฯลฯ กับครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ บางครั้งท่านก็ตอบมาในความฝัน ยกเว้นอะไรที่เป็นกรรมเวรของเรา อกุศลจิตมันก็บดบังได้
     
  16. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    ส่วนตัวผม ทำบุญอะไรก็ได้ที่สัมพันธ์กับสิ่งที่ปรารถนา แล้วถ้าสิ่งที่หวังเป็นจริงก็แล้วไป แต่เมื่อไม่ได้นี่แหละจิตมักจะเศร้าหมองทันที ให้พลิกใจกลับมาอีกข้างให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แล้วคอยเติมกำลังให้ใจอยู่เสมอ(พยามอย่าให้จิตเศร้าหมองนานมันไม่ดีกับเรา) เวลาที่ผมรู้ว่าสิ่งที่หวังนั้นไม่สมหวังแล้ว ผมจะดูใจตัวเองก่อนซักพักพอดูไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้น แต่สักพักมันก็กลับไปคิดเรื่องนั้นอีก จะวนไปมานานจนเริ่มรับความผิดหวังนั้นๆได้บ้าง แล้วเรื่องดีๆก็มักจะตามมาหลังจากนั้น เคยได้ฟังเรื่องที่เกี่ยวกับกฏแรงดึงดูด เวลาเราอยากได้อะไรเราก็ต้องทำตัวให้เหมาะสมกับสิ่งนั้นๆ ถ้าเราอยากได้เพื่อนดีๆ เราก็ต้องฝึกจิตเราให้ดีก่อนมันก็จะดึงดูดสิ่งเหล่านั้นมา ถ้าจิตผมยังคงหวังวัตถุ ชาตินี้วัตถุนั้นก็ไม่มาแน่ เพราะจิตผมไม่มีคุณภาพดีพอเพราะยังหวังก็คือโลภ แต่หากว่าได้ก็อาจเป็นเพราะบุญเก่าส่งให้ เวลาผมหวังอะไรส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะได้ตามที่หวังจนกว่าใจของผมจะปล่อยวางสิ่งที่อยากได้นั้นลงก่อน โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า อยากได้อะไรทำจิตของเราให้เหมาะสมกับสิ่งที่อยากได้นั้นๆก่อน
     
  17. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    เวลาเดินทักษิณาวัต ผมก็พิมพ์สะกดไม่ถูกหรอก
    เดินวนตามเข็มนาฬิกา สามรอบ
    ให้เส้นผ่านศูย์กลางของวง ถ้าทำได้ควรจะเกิด สี่ศอก

    คือถ้าออกแนวผีๆอย่างนี้ ให้มันมีศุนย์กลางก็พอ
    แต่มีหลายท่านบอกว่าไหนๆ ก็ควรให้มีรัสมีวงกลมเกินสี่ศอก
    หรือ เส้นผ่านศุนย์กลางเกินสี่ศอก

    สวดอิติปิโส หลายๆจบเลยสวดจนสะบายใจ
    เช่นสวดสามสิบจบ เดินวงเล็กๆ ก็แปลว่าอาจจะเดินไปหลายสิบรอบ
    แล้วอุทิศกุศลให้แก่พรหมเทพเทวา พระภูมิเจ้าที่ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
    อาณาบริเวณที่ข้าพเจ้าเดินวนรอบ

    อุทิศเสร็จเดินวนต่อ ตอนอุทิศก็อย่าหยุดเดิน
    สวดอิติปิโสต่อจนสบายใจ

    จากนั้นก็ไปนั่งก็ได้พักเหนือย
    ขอพรท่านที่เราเพิ่งอุทิศกุศลนี้ ว่าถ้า่อยากได้ ปราถนาอย่างนี้ต้องทำเหตุปัจจัยอะไร

    แล้วรอ อาจจะหลายวัน
    ท่านจะมาบอก

    ออกแนวไสยเลยหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...