สงสัยว่าต้องถ่อไปทำไมตั้งไกล หวังเพียงขอพรเท่านั้นเหรอ
ไม่มีอะไรที่จะบอกได้ว่าเราจะได้พรนั้นจริงหรือไม่
ต่อให้ท่านศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์มากเพียงใด ถ้าถูกกำหนดมาแล้วท่านก็ให้ไม่ได้
ถ้าอยากได้พร ไหว้พ่อไหว้แม่ก็พอแล้วครับ
ทำไมพระพุทธรูปแต่ละวัด มีความศักดิ์สิทธิ์ไม่เท่ากัน ใครพอทราบช่วยตอบทีนะครับ
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คนทำสงคราม, 27 ธันวาคม 2011.
หน้า 2 ของ 2
-
คำถามนี้ เมื่อก่อนผมก็ยังสงสัย ว่าพระพุทธรูป ทำไมมีชื่อไม่เหมือนกัน
ในเมื่อพระพุทธเจ้าที่ผมรู้ (ตอนนั้นเข้าใจว่ามีพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียว)
ก็มีชื่อว่าสมณะโคดมพุทธเจ้า หลังจากที่ได้ศึกษาหาความรู้ ก็เข้าใจว่า
พระพุทธเจ้ามีมากมายจนนับไม่ถ้วน มีทั้งชื่อซ้ำกันอีกด้วย
ส่วนพรที่ขอ ในชีวิตคนเราจะขอพรได้หนึ่งครั้งที่สำเร็จสมประสงค์
ถ้าใครขอพรสำเร็จแล้ว จะขอซ้ำคิดว่าคงจะยากและคงจะไม่สำเร็จทุกคน
หาสำเร็จได้อาจจะเป็นเพราะบุญส่งเสริมให้ -
สิ่งที่เห็นนั้นคือรูปแต่ไม่จริง
และบางสิ่งเราเห็นไม่ใช่รูปแต่มันจริง -
-
-
พ่อแม่ มีจิตเจตนาปรารถนาดีกับลูกเสมอๆ กราบไหว้ขอพรกับพ่อแม่ดีที่สุดครับ ตามความเชื่อของผม
ขับรถไปทางไกลๆ เพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่ขอพร ดีกว่าตะลอนไปไหว้พระตามกระแสนิยม
ไม่มีพ่อแม่ คุณจะเกิดมาลืมตาดูโลก ยกมือไหว้พระรูปปั้นตามวัด ไม่ได้หรอกครับ
หมื่นคุณธรรม กตัญญูมาเป็นอันดับแรก -
ผมว่านะถ้าใครสักคนกราบและเขามองเห็นไปไกลกว่าความศักดิ์สิทธิ์ ไปไกลกว่าความสวยงามของพุทธรูป บางคนพูดว่าผมเห็นเทวดาครับ ใช่คุณอาจจะเห็นจริงแต่คุณแน่ใจจริงหรือว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือความจริง ถ้าคนบ้าบางคนยังมองเห็นตัวเองมายืนสนทนากับตัวเองได้ หรือกรทั้งสร้างบุคลิกของตัวตนขึ้นอีกคนโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว แล้วอะไรล่ะคือ ความจริง จะแน่ใจได้อย่างไรว่าตัวเรามิใช่ภาพอันเลือนลางของความฝันของพระเจ้า ถ้าใช้คำนี้ได้นะครับ เมื่อมองไปที่องค์พระ เคยมีใครสักคน สังเกตุเห็นในสิ่งที่องค์พระเป็นหรือไม่ นั้นคือความเงียบสงบ ความสุขที่แท้ เห็นจนกระทั้งตัวตนของเราหายลับไปในองค์พระ ณ ช่วงเวลาที่ประตูแห่ง สมาธิ ได้เปิดออก จนคนๆนั้นสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเราเองได้อย่างแท้จริง เพียงแค่จับชั้วขณะแห่งสันติสุขในใจของเรานั้นได้ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ว่าไหมครับ
-
ยังมีสติเห็นว่ากราบขอพรพระเสร็จแล้วก็ไม่ได้นึกถึงพระพุทธเจ้าเลย
คิดแต่เรื่องอนาคตว่าจะสมปรารถนาไหมพอมีสติมาปัญญาก็เกิดเป็นรู้ละอายแก่ใจ
ว่าทำอะไรลงไปที่แย้งกับปณิธานความตั้งใจของตัวเอง
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้รู้ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นทางประเสริฐเพราะมีเหตุผล
ยิ่งเราพึ่งพาตนเองได้ ทำตามที่ปรารถนาได้สำเร็จด้วยความสามารถของตนเอง
เราจะมีความมั่นใจและศรัทธาในตนเอง ทำให้เรามีกำลังและบารมีที่เข้มแข็งขึ้น
ถึงแม้จะสำเร็จบ้างล้มเหลวบ้าง ช้าไปบ้าง แต่ผลที่เกิดในใจเรามันหนักแน่น
ส่วนการที่เราไปพึ่งพาคนอื่นหรือศรัทธาอื่นๆนั้น ถึงแม้จะสำเร็จเร็วเพราะ
มีคนอื่นมาช่วย แต่เราต้องสูญเสียความเชื่อใจในความสามารถของตัวเอง
ไปให้คนอื่น สูญเสียศรัทธาในตนเองไปให้คนอื่น และบางทีนะ สิ่งนั้นสำเร็จได้
เพราะตนเองแท้ๆ แต่เพราะไปขอพรมาทำให้คิดว่าสำเร็จได้เพราะพรของคนอื่น
คนบางคนเพราะกลัวผิดหวังจึงต้องทำทุกทางเพื่อช่วยให้กำลังใจตนเอง
เพราะคาดหวังไว้มาก ไม่ยอมรับความผิดหวัง จึงทำได้ทุกอย่างแม้แต่การ
ก้มหัวให้ผู้อื่น จริงๆมันก็ไม่มีอะไรผิดหรอกเพราะคนเราก็อยากสมปรารถนา
กันทั้งนั้น เพียงแต่ถ้าเข้าใจชีวิต เข้าใจเรื่องโชคชะตา เข้าใจเรื่องความจริง
ว่ามีสมหวังได้ก็มีผิดหวังได้ เราก็จะเข้มแข็งหัดรู้วิธีพึ่งพาตนเองได้ ก็จะลดหรือ
เลิกการพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิภายนอกไปเอง จะหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ
ที่อยู่ในใจตนเองแทน(พระในใจ) ต่อไปเวลากราบพระก็จะเลิกขอพรไปเอง เหลือแต่
เห็นพระพุทธรูปเป็นเหมือนแรงบันดาลใจถึงพระพุทธองค์ เป็นบุคคลที่เราเอา
เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต -
ผมเห็นพระพุทธรูปที่ไหน ไม่เคยสนว่า ชื่ออะไรวัดอะไร เพราะผมเห็นพระพุทธรูป ก็คือ เห็นพระพุทธเจ้า ตลอดครับ เลยไม่เคยสนใจความศักดิ์สิทธิ ด้วยเพราะ เห็นแต่พุทธองค์ อยู่เต็มหัวใจ
-
ผมว่าการตั้งชื่อพระพุทะรูป เป็นชื่อต่างๆกันไป นั่นเป็นพระเพณีปฏิบัติมากกว่าครับ ให้สอดคล้องกับศรัทธาของศาสนิกชนในท้องถิ่นต่างๆ แต่ในที่สุดแล้วทุกคนจะเห็นตรงกันว่า เป็นรูปแทนองค์พระพุทธเจ้าทุกองค์ ยังไม่มีใครกล้าตั้งชื่อพระพุทธรูปเป็นชื่อบุคคลต่างๆเลย และคงไม่มีใครหาญกล้าขนาดนั้น
ถ้าเราสังเกตุชื่อของพระพุทธรูปแต่ละองค์ จะเห็นว่าชื่อนั้นจะสื่อความหมายไปในลักษณะบูชา ยกย่อง สรรเสริญ พระพุทธเจ้า หรือตั้งชื่อตามสถานที่ตั้งของพระพุทธรูปและลักษณะของพระพุทธรูป เช่น
พระพุทธชินราช พระพุทธสิหิงส์ พระพุทธโสธร ชื่อจะสื่อถึง การยกย่องสรรเสริญ
หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ชื่อตั้งตามสถานที่ตั้ง
พระแก้วมรกต ชื่อตั้งตามลักษณะของวัสดุที่ใช้สร้าง
ทั้งหลายทั้งปวง เมื่อผู้คนกราบไหว้ ก็เชื่อว่านั่นคือการกราบพระพุทธเจ้า
ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตัวผมเชื่อว่า ในเมื่อเป็นรูปแทน เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพระองค์เล็กๆทำจากเนื้อดินง่ายๆ กับพระองค์โตมวลศาลสูงค่า ล้วนศักดิ์สิทธิ์เท่ากัน ที่เราเข้าใจว่าไม่เท่ากัน เพราะนั่นเป็นความเห็นของผู้คนในสังคมมากกว่า
ที่สังคมให้ค่าความศักดิ์สิทธิ์ไม่เท่ากัน ก็เนื่องจากพระแต่ละองค์มีประวัติความเป็นมา มีสาเหตุการสร้าง มีสถานที่ตั้ง แตกต่างกันไป ด้วยความเห็นของมนุษย์ผู้ยังทรงกิเลสมากอยู่ ก็ย่อมยกย่องพระแต่ละองค์แตกต่างกันไป
ผู้คนยกย่องให้พระแก้วมรกตเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง คนส่วนมากก็ย่อมเห้นว่า ศักดิ์สิทธิ์มากๆ และอาจมากกว่าพระองค์อื่นๆ กับพระที่ปลุกเสกจากวัดบ้านนอกองค์หนึ่ง คนก็ให้คุณค่าแตกต่างกันไป แม้มนุษย์จะให้คุณค่าความศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันไปตามความเข้าใจของตนอย่างไรก็ตาม พุทธานุสสติ ของพระพุทธรูปก็ต้องเท่าเทียมกันแน่นอน -
เคารพ นับถือ และ ศรัธา กราบไหว้ทุกๆๆๆๆๆ วัน เพราะผมนับถือ ศาสนา พุทธ ครับ ผมว่าทุกพระองค์ คงความศักดิ์หมดแหละครับ
-
ลบนะครับ
มีความเข้าใจผิดนิดนึง
-
และอื่นๆอีกที่มีตู้ให้หยอด -
-
ในใจอยากให้ได้สมดังหวังน่ะครับ
หน้ามืดเลยลืมนึกถึงพระพุทธองค์ -
ขอขอบคุณทุกท่านนะครับ
ตาผมเริ่มสว่างแล้วครับ
แต่ยังมีงงๆอยู่ที่หลายท่านเขียนมาบอกกล่าว
ช่วงนี้เวลาน้อยมากครับ
ตอนนี้ลูกชายกวนขอตัวพาลูกนอนก่อน
ไว้มีเวลาจะมาถามข้อสงสัยนะครับ
หน้า 2 ของ 2