ทำไมพระเจ้ามาป้วนเปี้ยนแถวนี้บ่อยจัง ผมจะอธิบายเรื่องพระเจ้าจริงๆให้ฟัง

ถามคุณขันต์
พระเจ้าเกิดมาจากที่ใด มาทำไม เพื่ออะไร และจะไปที่ใด
ในพุทธะได้อธิบายสิ่งนี้ไว้ไหม ว่าจิตวิญญาณเกิดมาอย่างไร

 

ผมไม่ใช่ท่านขันธ์ แต่ผมอยากตอบ...

พระเจ้าคือธาตุธรรม แบ่งเป็น 3 ภาค
กุสลา อกุสลา อัพยาตกา คือระดับต้นธาตุต้นธรรม
ละเอียดรองลงมาเป็นวิญญาณธาตุ คือธาตุรู้
ละเอียดลงมาจากธาตุรู้ คืออากาศธาตุ "ความเวิ้งว้าง" เป็นสิ่งที่ละเอียดมาก ไม่ใช่ว่างเปล่า แบ่งมาเป็นมหาภูตธาตุ คือ น้ำ ดิน ไฟ ลม
กอปรกันขึ้นเป็นสสารต่างๆ
น้ำ คือ คุณสมบัติเกาะเป็นกลุ่ม
ดิน คือ คุณสมบัติเป็นมวลสสาร
ไฟ คือ อุณหภูมิ ความร้อน (ความเย็นไม่มี มีแต่ความร้อน ตามวิทยาศาสตร์เลยครับ อากาศที่เย็นที่สุดคืออุณหภูมิสัมพัทธ์ ประมาณว่าไม่มีความร้อนอยู่เลย ^^)
ลม คือ การเคลื่อนที่ เคลื่อนไหว

จิตวิญญาณเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
- จิตวิญญาณ เกิดขึ้นมานับประมาณมิได้แล้ว นานยิ่งกว่าแสนโกฏิอสงไขย
แต่การเกิดของจิตวิญญาณ แน่นอนว่าแยกมาจากต้นธาตุธรรม
เพราะธาตุต่างๆก็จากละเอียดมาหยาบ (ลองพิจารณาดูจากอะตอม)
จริงๆ เรื่องอนุภาคที่เล็กๆสุดๆ พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงไว้ ให้ชื่อว่าปรมาณู (ปรมะ+อณู)
เป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดของสารนั้นๆ แยกไปอีกจะไม่เหลือคุณสมบัตินั้นๆแล้ว
ประมาณ1/82ล้านกว่าๆของเมล็ดข้าวเปลือก (ไปหาอ่านเอาเอง) ^^

จริงๆแล้วเรื่องต้นกำเนิดของจิตวิญญาณ พระพุทธองค์ไม่ทรงแสดงไว้ตรงๆ
เนื่องจากไม่ได้มีประโยชน์ต่อมรรค ผล นิพพานเลย เป็นใบไม้ที่พระองค์ไม่ทรงยื่นให้เรานั่นเอง เพราะยื่นมา ยังไงพวกเราก็ได้แต่ยืนอึ้ง เพราะปัญญาของพวกเราเพียงแค่หางอึ่งเท่านั้น ^^ ปัญญาของพระพุทธมีแต่พระพุทธเท่านั้นที่หยั่งถึง แม้แต่พระปัจเจกก็หยั่งไม่ถึง (สำนวนของเมียวโฮเร็งเงเคียวครับ ^^)

สรุปครับ รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ แต่ผมก็ตอบไปแล้ว (ที่ตอบไปเป็นแนวคิดแบบคล้ายๆของพราหมณ์โบราณ พรหมัน มหาตมัน ปรมาตมันอะครับ แต่อธิบายให้ลึกกว่านั้น)
เพราะปรมาตมันจริงๆแล้ว ก็คือขั้นจิตสากล ประมาณอรูปพรหมเท่านั้นเองครับ

สมัยก่อน เขาเห็นจิตเป็นอาตมันเที่ยงแท้ แต่พุทธก็ได้ค้นพบแล้วว่า
จิตก็เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนแน่นอน เปลี่ยนแปลงเสมอ เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์
แล้วอะไรหละที่ไม่เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ ไม่ได้เป็นไปตามกฏวัฏฏะ?
นิพพานไงครับ นิพพานไม่มีจิต แต่นิพพานก็ไม่ได้ดับสูญ!
อายตนะนิพพาน เป็นที่สุดแล้วของภพชาติ ไม่มีภาชนะไว้รองรับกรรม ไม่มีเชื้อที่ปรุงไว้เกิด
นิพพานไม่ใช่จิตแล้ว เพราะหมดคุณสมบัติของความเป็นจิตแล้ว ละเอียดสุดละเอียดแล้ว
จึงไม่มีจิต ^^ เหตุที่ยังเป็นจิตอยู่ เพราะอวิชชายังปรุงให้เป็นจิตอยู่ กิเลสยังมีอิทธิพลอยู่
โลกนี้ล้วนมายา ทุกอย่างก็มาจากการปรุงแต่ง ไม่มีอะไรเกิดเลย ไม่มีอะไรดับด้วย
นอกจากทุกข์ตัวเดียวเท่านั้น ^^ สาธุรติฯ

 

อันนี้จำเขามาตอบ เเล้วภาษาก็ของมีลิขสิทธิ์ มีอะไรที่ไม่ได้เอามาจากความรู้ของคนอื่นมั้งไหม?

ของตัวเองมีไหม?????????????????????

ถ้าน้องจะคุยกับคนห้องวิทย์ อย่าเอาตำรามา เพราะว่า นักวิทยาศาสตร์ฉลาดเองไม่ได้จำใครมาบอกต่อ มันไม่เท่ห์หรอกนะ

ข้อมูลของน้องพี่ กูเกิ้ลหาอ่านเองได้

 

แล้วไปก๊อปใครเขามาเหรอครับ เพิ่งคิดเมื่อกี้นี้เอง - -

จริงๆแล้ว จะห้องไหน ก็ยังโง่เหมือนกันหละครับ

ยังถูกจิตปรุงแต่งหลอกลวงอยู่เลย ^^

แล้วเอาตำราที่ไหนเหรอครับ แค่ยืมมาบางส่วน แล้วอธิบายเพิ่ม

นักวิทย์ฯเขามีความรู้จากการอ่าน+วิเคราะห์เพิ่ม

ไม่ใช่จินตนาการอย่างไม่มีแก่นสาร

ผมเอาองค์ความรู้มาเผยแพร่ ไม่ได้ไปก๊อปใครเขามา

ถ้าจะลอกผมไม่เสียเวลานั่งพิมพ์หรอกครับ

และอีกอย่างผมไม่ใช่พวกเมาอัตตาฉลาดด้วยครับ ^^

อยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง อิอิ

ปล.1/82ล้านกว่าๆ ผมคำนวณเองนะครับ
ไปหาอ่านเอาเองก็คือไปหาอ่านในพระไตรฯเอง หมวดอภิธรรมครับ
ถ้าว่างๆจะบอกที่มาให้ละเอียดเลย

 

นักวิทย์ที่ดี ควรมีตรรกศาสตร์ควบคุมทิศทางนะครับ
ไม่งั้น การทดลองก็เป็นเรื่องเพอ้ฝันหนะสิ
จินตนาการอย่างเดียว ไม่วิเคราะห์ความน่าจะเป็น ^^

นักวิทย์ต้อง Sci-Fi อย่างเดียวเหรอครับ ???
วิทยา องค์ความรู้ ศาสตร์ ความหมายเดียวกับวิทยา เป็นภาษาสันสกฤษ
สรุปคือ องค์ความรู้ของความรู้ แล้วที่เอามาโพสต์กันๆก็เป็นองค์ความรู้ทั้งนั้น
พระไตรปิฎกก็องค์ความรู้ พระไตรปิฎกก็ตำราวิทย์ที่เหนือวิทย์
ไม่เห็นจะต่างอะไรเลย ต่างกันแค่ภาษาใหม่หรือเก่า ^^
เรื่องจิตก็เหมือนกัน คนเราเสพแต่ภาพภายนอก
นักจิตวิทยา อธิบาย บอกเป็นเรื่องของวิทย์
พระ อธิบาย บอกว่าเป็นเรื่องของพระ ทั้งๆก็พูดเรื่องเดียวกัน - -

 

เพ้อเจ้อ คือ พูดไม่มีเเก่นสาร เกิดจากการจินตนาการสูง

พวกที่จำมาพูดเเละคิดว่ามีเเก่นสาร ไม่เรียกว่า มีปัญญา

ปัญญาเกิดจากความเฉลียวเเละคิดได้เอง

 

ไม่รู้สินะ รู้สึกชอบสันโดษ ตั้งแต่กระทู้ ก่อนๆ แล้วอ่า อิอิ

สงสัย เพราะมีเพื่อน ที่มีแนวคิดเดียวกันแบบสันโดษอยู่มั้ง...

แต่ ก็ นะ... มนุษย์ก็ไม่ได้ฉลาดอะไรมากหรอก ลองมองปลาในน้ำสิ

รู้สึกเหมือน...นะ ช่างมานเถ๊อะ

 

ขอค้านครับ นักวิทย์ไม่ได้ฉลาดเองครับ
แต่ฉลาดเพราะองค์ความรู้จากทฤษฎีเก่าๆครับ เอามาต่อยอด
แม้แต่นกวิทย์รุ่นเก่าๆ ก็ได้องค์ความรู้มาจากรอบตัว
ได้มาจากที่อื่นชัดๆ ไม่ได้มาจากข้างในหนิครับ
มีคุณสมบัติช่างสังเกตไงครับ พวกนี้ดูแล้วจำแล้วทำแล้วบันทึกครับ
ส่วนรุ่นหลังก็เอามาท่องๆๆๆ แล้วก็พร่ำเพร้อว่าฉันสุดยอดด
ประหนึ่งว่าค้นพบเองซะงั้น

วิทย์ฯปัจจุบัน นักวิทย์ฯก็ยอมรับกันครับ ว่ายังมืดบอดอยู่เลย
แค่ 4%เองครับ จากองค์ความรู้ที่ซ่อนๆไว้ทั้งหมด
แถบทฤษฎีที่เรียนๆกัน ก็รอทฤษฎีใหม่มาหักล้างอยู่เสมอ
แต่ก็ดีครับ จะได้ให้นักวิทย์ฯรุ่นใหม่มาไขความลับ ^^

ย้ำ นักวิทย์ ไม่ใช่พวกจินตนาการแบบเพ้อเจ้อนะครับ
จินตนาการบนฐานของความรู้ครับ
อีกอย่างนักวิทย์ควรเปิดใจให้กว้างเข้าไว้
พร้อมยอมรับทฤษฎีใหม่ๆอยู่เสมอ ^^

 

จำ แล้ววิเคราะห์ครับ

ปัญญาเหรอครับ คำว่าปัญญาจริงๆ ใช้เฉพาะกับความฉลาดทางจิตวิญญาณนะครับ
แต่เดี๋ยวนี้เอามาใช้กันมั่วแล้ว - -

ส่วนแบบนี้ยังไม่เข้าขั้นที่เรียกว่าปัญญาครับ

นอนดีกว่า สาธุ

 

:boo:เข้ามาอ่านแล้วก็ งงๆ ทำไมเวลาจะอธิบายอะไรกัน ให้คนอื่นเค้าเข้าใจ อธิบายกันดีๆไม่ได้เหรอ ต้องว่าเค้าอยากโน้นอย่างนี้ แปลกคน

 

คำว่า ปัญญายังมีขั้นด้วยหรอน้อง?

เเล้วปัญญาอ่อน กับ ปัญญาเเข็ง ต่างกันมากไหม?

 

รู้จัก นักวิทยาศาสตร์ ที่เกิดไอเดีย หลังจากเเอปเปิ้ลหล้นจากต้นมั้งไหมน้อง?

 

อ่า เพ่ครับ เวลานักวิทยาศาสตร์ เค้าจะค้นพบอะไรซักอย่างนี่ ต้องไปหาอ้างอิงจากตำราไหนก่อนมั้ยอ่าฮะ?

ป๋มเคยจำได้แค่ นิวตัน เห็นแอปเปิ้ลตก แล้วเค้าก็จับมาพิจารณาเรื่องทฤษฏีเองนาฮะ

ป๋มยังไม่เคยเห็นว่า นิวตันไปเอาอะไรมาอ้างจากตำราแล้วก็มาแปะๆๆเป็นคำสอนเลยอ่าฮะ

นอกจากเอามาทำความเข้าใจเอง แล้วสรุปเป็นสิ่งที่ตัวเองเข้าใจอ่าฮะพี่

ป๋มว่าเรื่องพระเจ้านี่ คำตอบใครคำตอบมันดีกว่านาฮะ

ทดลอง แล้วจะหาคำตอบเอง ป๋มว่า น่าจะดีกว่า เที่ยวมารับคำตอบจากคนอื่นแล้วนะฮะ เด่วคำตอบ

ไม่ตรงกัน พาลจะจิกกันได้อีกนี่ฮะ

เราทดลองแล้วค่อยเอาสิ่งที่เจอมาประมวลผลเอา แล้วสรุปเป็นทฤษฏีพระเจ้าดีกว่าฮะ ไม่ต้องไปอิงตำรา อิงคำตอบ

จากคนอื่นฮะ น่าภูมิใจกว่า

 

มาเรื่อยๆ ครับ ...

 

คิดจากข้อมูลอ้างอิง ก็ก๊อปเขามาอะสิครับ
ทีผมทำไมถึงว่าหละครับ - -
ผมก็เอาองค์ความรู้มาคิด เฮ้อๆ คนหนอคน

ขัดขาตัวเองแล้วหละครับ

 

ตำราของเซอร์ไอแซก นิวตันหรืออะไร
ก็แอปเปิลไงครับ ผมก็บอกแล้วนะ ว่าจากสิ่งรอบตัว
แล้วแอปเปิลตกมันมาจากภายในเหรอ มันก็มาจากภายนอก
ตกปรัชญานะครับเนี่ย^^ ตีความกันไม่แตก - -

 

ปัญญา แปลว่า อะไรไปดูเอา
ปัญญาอ่อน กับ ปัญญาแข็ง ไม่มีครับ
ภาษาไทยมั่วเอาเอง
ปัญญา ก็คือปัญญา นักจิตวิยาเรียกว่า SQ
ถามอย่างครับว่า Wisdom กับ Intelligence ต่างกันมั้ย??? อิอิ
ไปคิดดูเอาเองแล้วกัน ^^

 

หูยยยยยย น้องฉลาดนะเนี๊ย พี่ว่า เอาความรู้ของน้องไปโพสต์เลยนะ

พี่สนับสนุนความรู้อันชาญฉลาด จริงๆ พี่เเย้งไม่ออก เพราะไม่ฉลาดเท่าน้อง

 

ข้อมูลอ้างอิง เราก็ไม่ได้เอามาทั้งก้อนแล้วแปะไว้เฉยๆนี่ฮะ

คนที่ใช้ข้อมูลอ้างอิง จะมีอยู่สองพวกนา อย่าลืมนา อิอิ

หนึ่ง พวกที่เอามาแปะไว้เฉยๆอาฮะ แปะแล้วก็ไม่ได้ อ่าน ไม่ได้คิดอะไรตามนะฮะ

อันนี้เสียเวลาร่างกายฮะ สมองไม่งอกฮะ

สอง แปะเหมือนกันฮะ แต่พวกเค้ายยังจะฉลาดกว่านะฮะ อ่านแล้วยังวิเคราะห์เอง สรุปเป็นความคิดของตัวเอง

ออ.....ฝากนิดนึงฮะ เถียงไปเถียงมาเพื่อเอาหน้านะ ฮะ สงสารคุณเว็บสโนว์บ้างฮะ

รับบริจาคกันปาวๆๆๆ เคยช่วยบ้างมั้ยฮะ ?

ป๋มว่าค่อนข้างรกนะฮะ ไม่ใช่พื้นที่เว็บนะ แต่เป็นความคิดของพวกคุณ นะฮะ

 

ชีวิตคนนะหนู ปรัชญามันไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอก

อยู่ที่เราจะมองสิ่งต่างๆที่เราเจอยังไง ให้สบายใจมากที่สุด

หากเราอยากได้การยอมรับ เราทำอะไรไป แล้วสบายใจที่สุด

คนที่สบายใจ คือคนที่ถอยออกมามองพวกหนูทะเลาะกันอยู่น่ะนั่น

เห็นตัวเองกำลังอ่านใจของเธอมั้ย?