ทำไม มนุษย์ต่างดาว ไม่ทักทาย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Revealed, 24 กรกฎาคม 2013.

  1. Revealed

    Revealed Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +92
    มีคนถามมา และมีคนตอบไป
     
  2. Revealed

    Revealed Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +92
    ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจเรื่อง เวลา และ ระยะทาง ก่อน

    จักรวาล มีเวลา

    โดยการตรวจสอบของสมองของมนุษย์ พวกเราจะมองเวลาเป็นเส้นตรง จากอดีต ไปปัจจุบัน ไปอนาคต

    แต่สำหรับมนุษย์ต่างดาว พวกเขาจะมองต่างจากเรา

    เพราะเขา สามารถปรากฏตัวที่ ช่วงเวลาไหนๆของจักรวาลก็ได้

    ดังนั้น "เวลา" จึงไม่มีความสำคัญกับเขา

    แต่หากเทียบเป็นเวลาแบบเส้นตรง ตามอย่างที่มนุษย์เรารู้สึกและเข้าใจได้

    พวกเขา มาจาก "ปลายสุดของกาลเวลา"

    เขาก็เหมือนเรา แต่เขาเป็นมนุษย์ที่วิวัฒนาการไปจนสุด เขาวิวัฒนาการไปจนสุดปลายของวิวัฒนาการแล้ว ไม่มีอะไรให้ก้าวหน้ากว่านี้อีกแล้ว

    มนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้ เป็นผลจากการวิวัฒนาการ ตามความเชื่อของสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่า "มนุษย์"

    ต่อไปพวกเรา จะใช้แรงน้อยลง ทำให้ตัวเราผอมลีบ และตัวเล็ก การดำรงชีวิตใต้น้ำและการเดินทางในอวกาศ ทำให้ขนตามร่างกายของเราหายไป(มันจะมีช่วงหนึ่ง ของมนุษย์ ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ที่เป็นน้ำทั้งดวง ไม่มีแผ่นดิน) สรีระที่เปลี่ยนไปเป็นผลมาจากการวิวัฒนาการที่ผ่านไปแสนล้านปี ไม่ใช่ร้อยหรือพันปี แต่ผ่านไปเป็นแสน เป็นล้านปี นับจากนี้

    ในช่วงเวลาหนึ่งของมนุษย์เรา พวกเราจะมีความเห็นพ้องต้องกันว่า พลังจิต เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง

    มนุษย์ในปัจจุบันยังไม่ยอมรับเรื่องนี้ ทั้งๆที่มันมีอยู่จริง --' อยู่ในสายเลือดพวกเราทุกคน แต่มันต้องฝึก มันถึงจะมี

    ช่วงหนึ่งของมนุษย์ อีกหลายพัน หลายหมื่นปี ต่อจากนี้ไป เราจะมีทั้งการศึกษาด้านพลังจิต และวิทยาศาสตร์ ควบคู่กันไป

    จนเมื่อเวลาผ่านไปหลายแสนปี การฝึกฝนพลังจิต และการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จะทำให้สรีระของเราเปลี่ยนไป และมนุษย์ที่เกิดใหม่จะเริ่มมีพลังจิตโดยกำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการฝึก

    มนุษย์ต่างดาวกลุ่มที่มาที่โลกของเรา เขาใช้พลังจิต ในการติดต่อสื่อสารและใช้ในการขับเคลื่อนยานของเขา มาที่โลกของเรา

    จริงๆเขาแทบไม่ได้เดินทางเลย เขาแค่เปลี่ยนฉากตรงหน้า มาเป็นโลกของเรา เขาไม่ได้เดินทางด้วยซ้ำ

    พวกนี้ มีอายุหลายพันปี ไม่ค่อยกิน(ใช้วิธีการดูดซืมสารอาหารเข้าทางผิวหนัง ไม่ได้กินเข้าทางปาก) ตัวเล็ก หัวโต ไม่ใส่เสื้อผ้า ไม่มีอวัยวะเพศ

    ต่อไป มนุษย์เรา.. จะเริ่มมีกิเลสน้อยลง เพราะความรัก ความโกรธ ความหลง ทำให้การคิดค้นทฤษฎีต่างๆเป็นไปอย่างเชื่องช้า

    ในอนาคต ผู้คนจะบ้าการศึกษา การค้นหาสิ่งใหม่ๆ การคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ละครทีวีเกี่ยวกับความรัก ความใคร่ จะเริ่มเป็นที่น่ารังเกียจของสังคม

    มันเป็นความเชื่อ ที่ส่งผลต่อการวิวัฒนาการของเรา เพราะต่อไป เราจะฉลาดมาก.. แต่.. แทบไม่มีอารมณ์ อวัยวะสืบพันธ์จะหายไป อารมณ์รัก โลภ โกรธหลง จะหายไป แต่จะมีพลังจิตสูง และเรียนรู้ได้เร็ว

    จนในที่สุด ก็มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ นั่นคือ การผสมผสาน ระหว่าง พลังจิต และ เทคโนโลยี บวกกับสรีระร่างกายที่เปลี่ยนไป ทำให้มนุษย์เรา เริ่มเดินทางข้ามมิติ กาล-อวกาศได้ โดยไม่ตาย

    แล้วต่อไปมนุษย์เราจะอายุยืนขึ้นเรื่อยๆ แต่คนจะไม่เยอะ เพราะการสืบพันธุุ์ตามธรรมชาติ จะหายไป

    ---

    มนุษย์ต่างดาวพวกนี้ กลับมาทำอะไรที่โลก ???

    แล้วทำไมเขาบินผุบๆโผ่ๆ ไม่ยอมลงจอด ไม่ทักทาย ??

    ทำไมทำตัวลับๆล่อๆ

    ถ้าคุณ รู้จักเขา คุณก็จะเข้าใจ

    เขาไม่ต้องการเป็นพันธมิตรกับเรา พวกเขา ไม่รู้จัก "ความผูกพันธ์" ไม่รู้จัก "มิตรภาพ"

    เขามาที่โลกนี้ เพื่อมาศึกษาพวกเรา ล้วนๆ

    เขาไม่ได้จะมาล้างโลก หรือมาเข่นฆ่า แล้วก็ไม่ได้จะมาเป็นมิตรกับใคร

    แต่เขามา ศึกษา พวกเรา

    และพวกเราบางกลุ่ม เป็นอันตรายกับเขา มีหลายชาตินะ ที่พบเห็นเขาแล้วพยายามจะยิงจรวดใส่ยานของเขา

    มนุษย์บางพวกก็มีเมตตา แต่บางพวกก็ใจร้าย

    มนุษย์ต่างดาวไม่เข้าใจความรู้สึกพวกนี้ เขาไม่รู้ว่า ทำไมมนุษย์เราต้องทำร้ายเขา แต่มนุษย์อีกบางพวก กลับมีจิตใจดี

    ที่ดาวของพวกเขา ไม่มีคนเลว และไม่มีคนดี เขาไม่ฆ่ากัน เมื่อไม่มีการเข่นฆ่า จึงไม่มีความเมตตา

    คนดี จะต้องมีคนชั่วนะ ไม่งั้นคนดีจะไม่เกิด

    คนมีเมตตา ต้องอยู่ในสังคมคนใจร้าย ไม่งั้นจะมีเหตุการณ์ให้แสดงความมีเมตตาได้อย่างไร ???

    เรื่องนี้ซับซ้อน

    มนุษย์ต่างดาว ก็คล้ายๆพวกเราบางคน พวกเขา สงสัย ? สงสัยว่า จักรวาลนี้คืออะไร และเขา มีตัวตนขึ้นมา เพื่ออะไร ???

    ความสงสัยของพวกเขา มีมากกว่าเรา เพราะมนุษย์เราบางคน ยึดติดในตัวตน มีความรัก หัวเราะ มีความสุข บางคนนั่งร้องไห้ อยากฆ่าตัวตาย

    แต่มนุษย์ต่างดาวพวกนี้ ไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย พวกเขาไม่มีความรัก ไม่เคยร้องไห้

    เขาสังเกตเห็นว่า มนุษย์โลกเรา ยังรักชีวิต บางคนปรารถนาในการเกิด บางคนปรารถนาในการตาย

    แต่มนุษย์ต่างดาวพวกนี้ กลับไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย

    พวกเขาไม่ได้รู้สึกสุข หรือทุกข์ มันทำให้พวกเขา เหมือน.. ไม่มีความหมาย ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

    พวกเขามีความเชื่อว่า การศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ จะทำให้เขาหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ได้ พวกเขาจึงเรียกตัวเองว่า "ผู้เรียนรู้" เขามาที่โลกของเรา เพื่อเรียนรู้ เพื่อศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ

    เขากระจายตัวกันอยู่ตามช่วงเวลาต่างๆของโลกเรา

    ที่มีภาพวาดเขาปรากฏในประวัติของโลกยุคโบราณ เพราะคนสมัยก่อน ทำร้ายเขาไม่ได้ เพราะไม่มีอาวุธ ทำให้เขาสามารถปรากฏตัวได้อย่างอิสระ และบางครั้งก็ลงมาเดินที่พื้นผิวโลก

    ต่างกับปัจจุบันนี้ ที่มนุษย์เรามีอาวุธที่ร้ายแรง และบางทีก็ชอบยิงใส่เขา ทำให้เขามักจะใช้วิธี อำพรางตัว และแทบไม่เคยลงเหยียบผิวโลกหากไม่จำเป็น

    และเขาไม่สนใจ ที่จะเป็นพันธมิตรกับเรา เขาซุ่มตัว ดูเรา มองดูพวกเรา มองดูความโหดร้ายของเราที่เข่นฆ่ากันเอง มองดูความเมตตาของเรา ที่เขาไม่รู้จัก

    เขากำลังศึกษาเรา และเขากระจายอยู่ทุกช่วงเวลา ทั้งในอดีต และในอนาคต

    พวกเขาคิดว่า หากพวกเขาสามารถมีความรู้สึก รัก ผูกพันธ์ หรือโกรธแค้น ได้เหมือนมนุษย์เรา อาจทำให้เขา เข้าใจอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับการมีตัวตนของเขา มากขึ้น!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2013
  3. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ดีครับ ค่อนข้างชัดเจน ดี ยังมีอีกไหมครับ

    ดีกว่า ภาพอื่นๆ ที่นำมาเล่า... นี่ น่าจะเป็นยุคหลังๆ

    ของเขาหรือเปล่า ครับ ยุคที่มีการพัฒนาสุดๆ แล้ว

    ยุคก่อนการพัฒนา ของเขา อาจจะมีภาพการแข่งขันกัน

    เรื่องเทคโนโลยี อย่างเอาเป็นเอากันตายหรือเปล่า
     
  4. diowcnx

    diowcnx Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +46
    คุณ Revealed ทราบได้อย่างไรครับ ? ทำไมเขาไม่ย้อนไปดูอดีตของเขาเองหล่ะครับ ? มาดูของเราทำไม เรียนรู้จากอดีตของตนเองก็จะได้คำตอบอยู่แล้ว อย่างนี้ก็แสดงว่ายังวิวัฒนาการไม่สุดหน่ะสิครับ เพราะจากที่เขียนมา ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะวิวัฒนาการลงอีกหรือเปล่าครับ

    "พวกเขาคิดว่า หากพวกเขาสามารถมีความรู้สึก รัก ผูกพันธ์ หรือโกรธแค้น ได้เหมือนมนุษย์เรา อาจทำให้เขา เข้าใจอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับการมีตัวตนของเขา มากขึ้น!"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2013
  5. สามโบสถ์

    สามโบสถ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +54
    ถ้าเกิดผมมีคำถามมากมายและสามารถ ย้อนเวลาได้คงไปหาพระพุทธเจ้า ถ้าไม่เข้าใจอีกก็ย้อนกลับไปหาอีก คิดว่า มนตด.คงจะรู้จักพระพุทธเจ้า เพราะเป็นบุคลแห่งยุค
     
  6. TT_GOVERNMENT

    TT_GOVERNMENT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +711
    มนุษย์ต่างดาว คือ พระเจ้า หรือ ศาสดา ท่านจะติดต่อเฉพาะผู้ได้รับเลือก
     
  7. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154




    อ่านดู..เหมือนพวก..งง..งง..สับสนในตัวเอง..นิ๊.
     
  8. jibakunmk2

    jibakunmk2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +146
    เขาน่าจะรอให้อะไร ต่อ มิอะไร เรียบร้อยก่อนนะครับ
    ประมาณเหลือรัฐบาลโลก แค่รัฐบาลเดียวนี่แหละ คุยง่าย
    rat_wting
     
  9. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ก่อนจะย้อนเวลาไปหาพระพุทธเจ้า อย่าลืมศึกษาภาษามคธ หรือภาษาอินเดียให้เข้าใจนะครับ

    อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้พูดภาษาไทย

    แล้วควรย้อนเวลาไปช่วงหลังๆของพุทธกาล
    ถ้าไปในช่วงแรกๆที่เพิ่งจะประกาพระศศาสนาใหม่ๆนี่ธรรมวินัยบางอย่างยังไม่ได้บัญญัติ
    หากไปถามเข้าอาจจะงงทั้งสองฝ่าย

    ถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะอ่านใจเราได้ แต่เราไม่ได้สามารถไปอ่านใจพระพุทธเจ้าได้นี่ครับ

    เราถามด้วยใจ พระพุทธเจ้าทรงอ่านใจเราได้ แต่พอพระองค์ตอบด้วยใจ เรากลับอ่านใจพระองค์ไม่ได้

    เพราะฉะนั้นก่อนไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ควรศึกษาภาษาอินเดียสมัยนั้นให้เข้าก่อน จะได้ใช้การสื่อสารกันแบบธรรมดา
    ไม่ต้องมานั่งเดาใจว่าพระองค์ตรัสอะไร นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...