ทิวทุ่งสีฟ้าม่วงของดอกหงอนนาคที่ภูสอยดาว

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=20></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right><DD></DD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=15></TD><TD background=images/parks/nationalparks/par_nat_sub_bghead.gif>

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ​

</TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE align=left border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>อุทยาน แห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอบ้านโคก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิษถ์ และอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ 149,375 ไร่ จากสภาพพื้นที่ที่เป็นขุนเขาสูงสลับซับซ้อนในพื้นที่ 2 จังหวัด และความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ทำให้มีพันธุ์ไม้หลายชนิด นอกจากนั้นยังมีไม้ดอกซึ่งจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละฤดูกาลเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอุทยานแห่งนี้ <DD>อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีพื้นที่ประมาณ 149,375 ไร่

<DD>

​

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD background=images/parks/nationalparks/par_nat_sub_bghead.gif>

บันทึกแห่งกำเนิด​

</TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE align=left border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>

​

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD background=images/parks/nationalparks/par_nat_sub_bghead.gif>

จุดเด่นและสถานที่ท่องเที่ยว​

</TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE align=left border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>ลักษณะภูมิประเทศ <DD>พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า <DD>สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดิบเขาสลับทุ่งหญ้า และป่าสนบนสันเขาสูง ซึ่งมีที่ราบประมาณ 3,000 ไร่ โดยทั่วๆไปเป็นป่าสนสามใบ จุดสูงสุดของเทือกเขานี้สูงประมาณ 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ราบบนสันเขานี้จะมีไม้ดอกหลากหลายชนิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวชมในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ล้วนประทับใจในความสวยงามและเพลินเพลินกับธรรมชาติ <DD>ช่วงเวลาในการท่องเที่ยวที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ <DD>ลักษณะภูมิอากาศ <DD>สภาพภูมิอากาศ ค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติซึ่งมีพันธุ์ไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ในช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็นและมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเป็นจำนวนมาก
<CENTER>จุดเด่นที่น่าสนใจ </CENTER><DD>ทุ่งหญ้า ป่าสน และทุ่งดอกไม้ มีพันธุ์ไม้ดอกหลายชนิดตามเส้นทางเดิน นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวที่สวยงามได้เห็นทัศนียภาพผ่านแนวขุนเขาของเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ บริเวณลานสน จะเป็นที่ราบกว้างเขียวขจี มีสนสามใบ สนสองใบต้นโต ที่ยืนต้นเรียงราย ด้านล่างจะปกคลุมด้วยหญ้าสั้นๆ สำหรับดอกไม้นั้นจะมีดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อน ดอกกระดุมเงิน และดอกไม้ป่าอื่นๆหลากสีสันบริเวณทุ่งหญ้าก็เต็มไปด้วยดอกไม้สองข้างทางเดิน นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวที่สวยงามได้เห็นทัศนียภาพผ่านแนวขุนเขาของเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ บนยอดภูสอยดาวนี้ยังมีสภาพเป็นป่าสนสลับกับป่าดงดิบ มีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ <DD>นอกจากนั้นยังมีจุดตั้งแคมป์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะกางเต้นท์บนลานสน บนลานสนมีลำธารไหลผ่านกลางทุ่งสน เป็นลำธารใส สามารถใช้ในการอุปโภคและบริโภคได้ <DD>น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตกที่สวยงาม อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1268 มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นล้วนแต่สวยงาม และที่บริเวณน้ำตกภูสอยดาวนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคณะจะต้องติดต่อประสานงานกับศูนย์บริการฯนี้ก่อนขึ้นทุกครั้ง <DD>น้ำตกสายทิพย์ เป็นน้ำตกที่อยู่บนลานสนและมีความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวทุกคณะ เนื่องจากต้องใช้น้ำตกสายนี้ดื่มกิน และใช้สอยในด้านต่างๆ เมื่อไปพักแรมบนลานป่าสนของภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์นี้มีความสูง 7 ชั้น

<DD>

​

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD background=images/parks/nationalparks/par_nat_sub_bghead.gif>

การเดินทาง​

</TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD><TABLE><TBODY><TR><TD><DD>การเดินทาง สู่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีอยู่ 2 เส้นทาง คือ <DD>1. กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ เมื่อถึงอุตรดิตถ์ เดินทางต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 1047 ระยะทาง 68 กิโลเมตร ถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเลี้ยวขวาบริเวณโรงพยาบาลน้ำปาด ตามทางหลวงหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จะพบทางสามแยก(เลี้ยวซ้ายจะไปบ้านห้วยมุ่น) ให้ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 1268 อีก 18 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว(บริเวณน้ำตกภูสอยดาว) <DD>2. กรุงเทพฯ-พิษณุโลก จากพิษณุโลก เดินทางต่อไปยังอำเภอนครไทย และจากอำเภอนครไทยเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 1143 ระยะทาง 31 กิโลเมตร ถึงอำเภอชาติตระการ แล้วเดินทางต่อจากอำเภอชาติตระการไปอีก 73 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว <DD>อนึ่ง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นตั้งแต่เวลา 8.00-13.00 น. เส้นทางเดินค่อนข้างชัน ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชั่วโมง

<DD>

​

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD background=images/parks/nationalparks/par_nat_sub_bghead.gif>

สถานที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก​

</TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD><DD>ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวยังไม่มีบ้านพักสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยว แต่ได้จัดบริเวณสำหรับกางเต็นท์พักแรมไว้ให้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเต็นท์และเครื่องนอนไปเอง </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE>น่าไปมากครับช่วงหมดฝนใหม่ ๆ จะสวยมาก หรือช่วงปลายฝนที่ยังมีฝนประปรายอยู่ เพราะดอกหงอนนาคจะยังไม่โรย แต่การพักและการเดินทางก็ทรหดมาก

การเดินขึ้นภูหนักกว่าภูกระดึงนะครับ

มองดูข้างทางให้ดีครับจะพบกับ ขนุนดินหรือโหราเท้าสุนัขที่หาดูได้ยากครับ

และอาจเจอกับกระโถนฤาษีที่หาดูได้ยากเช่นกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ครับ ช่วงนี้เหมาะมากเลย