ท่านปุตตะภิกขุ (โอภาสีสมัยพุทธกาล) ได้บรรลุอรหัตผลเข้าสู่พระนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย attasade, 5 ตุลาคม 2014.

  1. attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    ท่านปุตตะภิกขุ (โอภาสีสมัยพุทธกาล) ได้บรรลุอรหัตผลเข้าสู่พระนิพพาน

    "..เมื่อเช้าตรู่วันที่ 10 สิงหาคม ไปพระนิพพาน เมื่อไปถึงแล้วก็นมัสการพระตามลำดับที่เคยนมัสการเป็นปกติ เมื่อไหว้แล้วก็กราบถามท่านว่า "ท่านโอภาสีเป็นใคร" พระท่านเรียกพระแก้วองค์หนึ่งมาหาพระองค์นี้ตัวสวยเหมือนแก้วที่ถูกแสงอาทิตย์สาด สวยมาก ท่านชี้ให้ดูแล้วบอกว่า "องค์นี้แหละที่ชาวโลกเรียกว่า โอภาสี" บอกท่านสวยสมชื่อจริง ๆ "โอภาสี" แปลว่า "มีแสงสว่างเป็นปกติ" ท่านสว่างสมชื่อ เมื่อพบกันแล้วก็ถามชื่อแซ่กันตามธรรมเนียม ท่านตอบว่า "เมื่อเป็นพระคนท่านชื่อ ปุตตะภิกขุ เป็นลูกชาวเมืองปาฐา เป็นหัวหน้าคณะพระ 30 รูป ที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้าจนพระพุทธเจ้ามีพระพุทธานุญาตให้พระนางวิสาขาถวายกฐินเป็นรายแรกในศาสนานี้"

    เมื่อก่อนบวชท่านได้พบพระสารีบุตร เลื่อมใสท่านพระสารีบุตรแล้วบวชกับท่าน แต่อาศัยที่เป็นพระโพธิสัตว์มีบารมีขั้นปรมัตถบารมีหลายอันดับ เป็นเหตุให้ท่านพระสารีบุตรไม่สามารถสอนให้บรรลุมรรคผลได้ ท่านพวกสาวกภูมินี้มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวที่จะสอนได้ เมื่อออกพรรษาท่านพระสารีบุตรพามาหาพระพุทธเจ้า เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านลาออกจากพุทธภูมิ ท่านศึกษาไม่นานก็ได้บรรลุอรหัตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ เมื่อนิพพานแล้วเพราะอาศัยที่เป็นพระโพธิสัตว์มาก่อนก็เลยโปรดคนตามอัชฌาสัย ให้นามตัวเองว่า "โอภาสี" แปลว่า "มีปกติฉายแสงสว่าง" ถามว่า "เมื่อเป็นพุทธสาวกทำไมเล่นเผาของ ทำให้ศาสนาเสื่อม คนหลงผิดกันตั้งหลายเมือง" ท่านบอกว่า "ท่านมาเฉพาะธรรม เรื่องเผาของเป็นเรื่องของคนอยากดัง เขาเล่นกลกันเอง" ถามว่า "บางวาระคนที่ทรงก็มีผีอื่นปลอม ทำไมไม่ห้ามผีอื่น" ท่านตอบว่า "ร่างของเขา เจ้าของจะมีสิทธิ์จะให้ใครทรงก็ได้ ท่านมาเฉพาะธรรม อย่างอื่นไม่เกี่ยว" ถามว่า "เรื่องกองทานมาจากใคร" ท่านบอกว่า "มาจากพวกอยากดัง" กลับลงมาบันทึกเมื่อเวลา 04.32 นาฬิกา.."

    *คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 8 หน้า 47 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     

แชร์หน้านี้