ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

พุทธะ คือ ผู้รู้
จิตมันไม่อยู่ ก็ไม่รู้
สิ่งใดเกิดขึ้น ให้รู้ให้หมด
เมื่อเรารู้แล้ว เราก็ไม่ยึดสิ่งเหล่านั้น
ความชั่วทั้งหลาย ทุกข์ทั้งหลาย ก็ไม่ยึด
มันก็วางหมด ว่างหมดใจเรา
มันก็ปล่อย มันละหมด
เรียกว่า ปล่อยวาง
…หลวงปู่ฝั้น อาจาโร…



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

โอวาทธรรมพระคุณเจ้าท่านพ่อเฟื่อง โชติโก

ธรรมะประจำวันที่ 5~9~2561

คำสอนพระอริยะเจ้าอนุโมทนากันเอานะครับ



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

๕ กันยายน ๒๕๖๑ เป็นวันมหามงคล
เป็นวันคล้ายวันเกิดขององค์หลวงปู่ลี กุสลธโร

องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร นามเดิมขององค์ท่านชื่อ ลี สาลีเชียงพิณ
ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๕ กันยายน ๒๔๖๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีจอ ที่อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งวันจะไม่ตรงกับในทะเบียนบ้านและหนังสือสุทธิ (ในหนังสือสุทธิเป็นวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๔๖๕ ในทะเบียนบ้านเป็นวันที่ ๔ กันยายน ๒๔๖๕ ) องค์ท่านเมตตาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านเกิดในวันบุญข้าวสาก (บุญเดือนสิบ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐) และเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ท่านจึงให้ถือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ของทุกปี เป็นวันมุทิตาสักการะ ( ในปี ๒๕๖๑ นี้ ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน แต่ในปีนี้องค์ท่านอยู่ในช่วงฟื้นฟูและพักรักษาธาตุขันธ์ ทางวัดป่าภูผาแดงจึงงดจัดงานมุทิตาสักการะ อายุวัฒนะองค์หลวงปู่ ครบรอบ ๙๖ ปี )

เนื่องในวันมหามงคล วันครบรอบ ๙๖ ปี ขององค์หลวงปู่ลี กุสลธโร พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณธรรมแห่งภูผาแดง ในนามของคณะผู้ดูแลเพจ ขอน้อมบูชาคุณองค์หลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า และขอเชิญสมาชิกแฟนเพจทุกท่านปฏิบัติบูชาถวายเป็นอาจริยบูชาแด่องค์ท่านในวันมหามงคลเช่นนี้…ร่วมกัน

ได้ข้อมูลและรูปภาพจาก พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ภูผาแดงฯ



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

เป็นหญิงก็บรรลุธรรมได้..!

‘..ความเด็ดเดี่ยวของคุณแม่บุญเรือน สละทางโลกยอมตายเพื่อปฏิบัติธรรม
คุณแม่บุญเรือน อุบาสิกาผู้บรรลุธรรม ท่านเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยคุณงามความดี มีอำนาจจิตและชื่อเสียงในด้านอิทธิ
ฤทธิ์ และบารมีในการช่วยเหลือผู้คน พิสูจน์ได้เป็นที่ประจักษ์หลายต่อ
หลายครั้ง ว่าความเป็นเพศหญิงนั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุธรรมเลย ท่านเป็นผู้สร้าง “พระพุทโธน้อย”
วัตถุมงคลอันลือลั่นในเรื่องพุทธคุณ
เต็มเปี่ยมของล้ำค่าชิ้นเอกที่ฝากไว้บน
แผ่นดินไทย

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เคยเล่าถึงเหตุการณ์ตอนที่ท่านจะ
บรรลุธรรมไว้กับพระรูปหนึ่ง (หลวงตาสุวรรณ) อันมีนัยยะอัน
สำคัญตอนหนึ่งว่า…
“ตั้งใจจะขอปฎิบัติธรรมให้สำเร็จอยู่ที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์ เป็นเวลา 90 วัน โดยถือศีล 8 บวชเป็นชี นั่งสวดมนต์
ภาวนา เจริญวิปัสสนาตามแนวทาง
ของท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลา
จารย์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ (ในสมัยนั้น) การปฏิบัติธรรมดำเนิน
ไปจนล่วงเข้าวันที่ 89 ก็ยังไม่สำเร็จ
ธรรมหรือเห็นธรรมแต่ประการใด จึงคิดท้อใจกลับบ้านที่บ้านพักตำรวจ
ปทุมวัน ได้พบกับสิบตำรวจโทจ้อย ผู้เป็นสามี ซึ่งได้ทักมาว่า “กลับมาแล้วหรือ ? เมื่อกลับมาแล้ว
ก็อยู่บ้านเถิด…”

คุณแม่บุญเรือนจึงว่า “เมื่อจะให้อยู่บ้าน ก็ขอให้โยมจ้อย
ถือศีล 8 เลิกยุ่งเกี่ยวฉันสามีภรรยา
จะได้ไหม ?”
สิบตำรวจโทจ้อยก็รับคำ จากนั้น
สิบตำรวจโทจ้อยก็ขอตัวออกไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ ที่บ้านคงเหลือแต่โยม
มารดาของคุณแม่บุญเรือนและหลานๆ
2-3 คน คุณแม่บุญเรือนจึงอาบน้ำ นุ่งขาวห่มขาว เตรียมตัวไหว้พระ
สวดมนต์ ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.00 นาฬิกา เดือน 6 ขึ้น 14 ค่ำ
ปี พ.ศ. 2470 จากนั้นคุณแม่บุญเรือน
ก็ได้แลเห็นโยมมารดาและหลานๆ นอนหลับกันหมดแล้ว โยมมารดานั้น
มีอาการกรน ส่วนหลานๆ ก็มีอาการ
ละเมอบ่นพึมพำ และกัดฟันกรอดๆ รู้สึกเกิดธรรมสังเวชเบื่อหน่ายต่อ
สภาพอย่างนั้นขึ้นมาในขณะนั้นที
เดียวว่า “เออ…..สังขารร่างกายนี้ ถึงแม้จะหลับใหลไปแล้ว แต่ก็ยังมี
เวทนาผุดซ้อนขึ้นมาอีกนะนี่…”

ท่านจึงคิดอยากหลีกหนีเสียชั่วคราว ครั้นแล้วคุณแม่บุญเรือน ก็ได้นั่งสมาธิ
กรรมฐานในห้องพระ จนกระทั่งถึง
เวลาประมาณตี 2 ก็มีอาการแน่น
หน้าอก อึดอัด หายใจไม่ออก คล้าย
กำลังจะตาย จึงตั้งสติว่า “ถ้าจะตายก็ขอให้ตายในตอนนี้เถิด จะได้หมดเวรหมดกรรม ธรรมก็ยัง
ไม่ได้บรรลุเลย”
น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เมื่อคุณแม่
บุญเรือนคิดดังนี้เท่านั้น อาการทุกข
เวทนาทั้งปวงก็พลันหายไปสิ้น บังเกิด
ความสว่างขึ้นมาทั้งตัวมีความใสสว่าง
อย่างสุดที่จะประมาณ รู้ชัดว่าตนเอง
บรรลุอภิญญาถึง 5 อย่าง มีพระธรรม
เข้าประทับ เมื่อนึกอยากรู้อยากเห็น
อะไร ก็รู้แจ้งแทงตลอดสว่างไสว
ไปหมด และยังได้อิทธิปาฏิหาริย์
อีกด้วย !” กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพนี้ด้วย



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

โอวาทธรรม:พระคุณเจ้าหลวงพ่อสมใจ วัดเขาถ้ำเทพพิทักษ์ จ.ปราจีนบุรี



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

๏ ครบรอบ ๙๖ ปี หลวงปู่ลี กุสลธโร ๏

วันนี้ วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๑ เป็นวันมหามงคล เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ ๙๖ ปีของหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

หลวงปู่ลี กุสลธโร นามเดิมขององค์ท่านชื่อ ลี สาลีเชียงพิณ
ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๕ กันยายน ๒๔๖๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีจอ ที่อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งวันจะไม่ตรงกับในทะเบียนบ้านและหนังสือสุทธิ (ในหนังสือสุทธิเป็นวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๔๖๕ ในทะเบียนบ้านเป็นวันที่ ๔ กันยายน ๒๔๖๕ ) องค์ท่านเมตตาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านเกิดในวันบุญข้าวสาก (บุญเดือนสิบ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐) และเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ท่านจึงให้ถือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ของทุกปี เป็นวันมุทิตาสักการะ ( ในปี ๒๕๖๑ นี้ ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน แต่ในปีนี้องค์ท่านอยู่ในช่วงฟื้นฟูและพักรักษาธาตุขันธ์ ทางวัดป่าภูผาแดงจึงงดจัดงานมุทิตาสักการะ อายุวัฒนะองค์หลวงปู่ ครบรอบ ๙๖ ปี )

เนื่องในวันมหามงคล วันครบรอบ ๙๖ ปี ขององค์หลวงปู่ลี กุสลธโร พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณธรรมแห่งภูผาแดง คณะศิษย์ขอน้อมบูชาคุณองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า สาธุๆๆ



ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

โอวาทธรรมพระคุณเจ้าหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก



ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

“เวลาไม่มีครูบาอาจารย์ ก็ปฏิบัติไปนะ อย่าถอยหลัง”

พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ



ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น

 

“ทางสายกลาง”

ไม่ได้หมายถึงในด้านกาย และ วาจาของเรา แต่หมายถึงในด้านจิตใจ เมื่อถูกอารมณ์มากระทบ

ถ้าอารมณ์ที่ไม่ถูกใจ มากระทบกระทั่ง ก็ทำให้วุ่นวาย ถ้าจิตวุ่นวายหวั่นไหวเช่นนี้ ก็ไม่ใช่หนทาง

เมื่ออารมณ์ที่ชอบใจ ดีใจ เกิดขึ้นมา แล้วก็ดีอกดีใจ ติดแน่นอยู่ในกามสุขับลิกานุโยโค อันนี้ก็ไม่ใช่หนทาง..

…หลวงปู่ชา สุภัทโท…



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

หลักของการปฏิบัติเพื่อขจัดราคะ โทสะ โมหะ
อยู่ที่พยายามทำจิตทำใจให้เสพคุ้นกับ
…การรักษาศีล การทำสมาธิ การเจริญปัญญา
ทั้งสามอย่างนี้เป็นหลักของการปฏิบัติ
เมื่อนักปฏิบัติทั้งหลายมาฝึกอบรมให้มากๆเข้า
ทำให้มากๆ ทำจนคล่อง ทำจนกระทั่งศีล สมาธิ ปัญญามีพลัง
กลายเป็นสติวินโย มีสติเตรียมพร้อมอยู่ที่จิตทุกขณะจิต
ทุกลมหายใจ พลังของศีล สมาธิ ปัญญานั้นๆ
จะกลายเป็นปุญญาภิสังขาร คอยปรุงแต่งจิตของท่าน
ให้ดำเนินไปสู่แนวทาง คือ ทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ
เห็นว่า บุญมี บาปมี ข้อวัตรปฏิบัติอยู่นี้ย่อมเกิดมีผล
ทำให้เกิดความดำริชอบ คือ ดำริในสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล
ทำให้พยายามพากเพียรชอบ คือ ทำสิ่งที่เป็นไปเพื่อละความชั่ว
เจริญความดี ทำใจให้บริสุทธิ์สะอาด ทำให้มีการเจรจาชอบ
ทำให้มีการเลี้ยงชีพชอบ ทำให้มีการฝึกฝนอบรมจิต
ให้มีความตั้งมั่น ซึ่งเรียกว่า สัมมาสมาธิ และทำความเห็นให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้

พระราชสังวรญาณ
(หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
ได้แสดงปาฐกถาธรรมเรื่องการเจริญพระพุทธคุณ หนังสือชุดธรรมะจากพระอริยสงฆ์, หน้า 19.

ขออนุโมทนากับผู้มีส่วนแห่งสาระธรรมและภาพประกอบนะคะ



ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

 

ครั้งหนึ่งหลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ได้รับนิมนต์ทางจิต จากหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี ให้เดินทางไปพบญาติเก่าแก่ หลวงปู่พรหมมา ท่านเน้นย้ำกับหลวงปู่จามว่าให้มาพบให้ได้ หลวงปู่จามจึงได้เดินทางไปตามกิจนิมนต์

เมื่อเดินทางถึงวัดสวนหินผานางคอย ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว หลวงปู่ทั้งสองได้สนทนากันพอสมควรแก่เวลาแล้ว หลวงปู่พรหมมา จึงได้ให้ลูกศิษย์เดินนำทางหลวงปู่จาม เพื่อไปพบญาติเก่าแก่ยังจุดนัดพบ ริมน้ำโขง

บรรยากาศของคืนข้างขึ้น ใกล้เที่ยงคืน ตอนนั้นเงียบสงบมาก เงียบมากจนผิดปกติ สักครู่หลวงปู่จาม ก็พูดออกมาเบาๆ ว่า

“มาแล้วติ….ขั่นมาแล้ว กะขึ้นมาพ่อกัน ข้างเทิ่งนี่”

(มาแล้วเหรอ…ถ้ามาแล้ว ก็ให้ขึ้นมาพบกัน ข้างบนนี้)

ยามนั้นเบื้องหน้าของหลวงปู่จาม ประมาณ 20 เมตรได้ ในลำน้ำโขง ได้ปรากฏเป็นฟองน้ำแตกกระจาย พร้อมกับการปรากฏกายของวัตถุ เป็นแท่งยาวใหญ่พุ่งขึ้นมาจากผืนน้ำ แสงสว่างจากแสงดาวและแสงเดือนสาดส่องให้เห็นวัตถุสิ่งนั้นอย่างชัดเจน

สายตาทุกคู่ จ้องมองไปทิศทางเดียวกันหมด …เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน งูยักษ์ชัดๆ งูยักษ์ทำไมมีหงอนสีแดงอยู่บนหัว แถมด้านหลังมีแผงขนยาวเหมือนแผงคอของม้าเลย สีของลำตัวเมื่อต้องกับแสงจันทร์และแสงดาวเป็นประกายวาววับสวยงาม ลำตัวของงูยักษ์นั้นมีขนาดใหญ่พอๆ กับลำต้นตาลขนาดย่อม

ลูกศิษย์ที่ติดตามมา ต่างพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นกลัว

“พญานาค…พญานาค…พญานาค…”

หลวงปู่จาม ท่านนั่งหลับตาด้วยความสงบ หลวงปู่มิได้แสดงอาการอื่นใด ….เวลาประมาณ 10 นาที แต่เหมือนเนิ่นนานจริงๆ พญานาคที่อยู่เบื้องหน้าหลวงปู่นั้นก็อยู่ในความสงบยิ่ง

ทุกคนต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้งกับเสียงกู่ก้องร้อง ที่ดังออกมาจากพญานาคตนนั้น หลังจากนั้นพญานาคได้แสดงอาการก้มหัวลงจรดพื้นน้ำโขง เหมือนโค้งคารวะองค์หลวงปู่จาม จากนั้นก็พุ่งส่วนหัวลงพื้นน้ำด้วยความเร็วจนน้ำแตกกระจายเป็นสาย ดำดิ่งลงสู่ใต้ลำน้ำโขง

หลวงปู่บอกแต่เพียงว่า

“เพิ่นเป็นญาติเฮาแต่ปางก่อน …เพิ่นคึดฮอด อยากพ่อหน้าเฮาซื่อๆ ดอก“

(เค้าเป็นญาติเราแต่ชาติปางก่อน เค้าคิดถึงเรา อยากพบหน้าเราเฉยๆ หรอก)

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร



ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต