"นองปิง360"สีสันใหม่ในฮ่องกง

"นองปิง360"สีสันใหม่ในฮ่องกง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2549 18:00 น. โดย:มะเมี้ยะ

พระพุทธรูปกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่วัดโป่หลินมองมุมไหนก็จะเห็นท่านเสมอ หลังจากที่ฉันได้ไปเที่ยวงานยักษ์ของฮ่องกงส่งท้ายปีอย่าง "ฮ่องกงวินเทอร์เฟส 2006" ในตอนที่แล้ว มาครั้งนี้ฉันจึงอยากจะเล่าเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในฮ่องกงที่ฉันได้ไปประสบพบเจอมาบ้าง ทริปนี้ฉันและคณะพักอยู่ที่ย่าน"มงก๊ก" (Mong Kok)ที่เป็นย่านที่มีบรรยากาศจอแจน่าแวะไปจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างยิ่ง ทั้ง แลงแฮม เพลส (Langham Place) ชอปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ของฮ่องกง เลดี้ส์ มาร์เก็ต ที่นักช้อปทั้งหลายไม่ควรพลาด เพราะเป็นที่หนึ่งที่มีศูนย์รวมของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและข้าวของนานาชนิดมากมาย ซึ่งถ้าหากเปรียบกับย่าน จิม ซา โจ่ย(Tsim Tsa Tsui) แล้วก็ เป็นเหมือนมวยคู่เอกยังไงยั้งงั้น เพราะว่ามงก๊กเป็นย่านการค้าที่คนฮ่องกงนิยมมาเดิน ส่วนที่จิม ซา โจ่ย เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยมาเยือนฮ่องกงต่างก็คงไม่พลาดที่จะมาที่นี่เพราะจิม ซา โจ่ย จัดได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวขาช้อปชาวไทยเป็นที่สุด ขึ้นกระเช้านองปิงอีกหนึ่งสีสันใหม่ของฮ่องกง วันที่สองในฮ่องกงของฉันเราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปกินอาหารเช้ากันที่โรงน้ำชา "พี่มาลี"ไกด์ผู้น่ารักของเราก็มารอรับเราแต่เช้าเช่นกัน เมื่อพร้อมหน้าพร้อมตาก็พากันออกเดินทางไปยังโรงน้ำชาทันที เมื่อมาถึงโรงน้ำชาฉันอดจะแปลกใจนิดๆไม่ได้เพราะมันดูไม่เหมือนภาพที่คิดไว้เลย ภาพของฉันคือโรงน้ำชาคงคล้ายๆกับร้านขายโอเลี้ยงบ้านเรา ทว่าเปล่าเลยโรงน้ำชาที่นี่ความจริงมันก็คือภัตตาคารดีๆนี่เอง พี่มาลีเล่าถึงเคล็ดลับการดื่มชาของคนฮ่องกงให้ฟังว่าการกินชาของคนฮ่องกงนั้น หากบริกรรินน้ำชาให้เราแล้วเราต้องการแสดงความขอบคุณ ก็ให้งอนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าหากันแล้วใช้นิ้วเคาะที่กาน้ำชาสามครั้งเป็นสัญลักษณ์แทนการขอบคุณ มีตำนานกล่าวว่าสมัยจีนโบราณมีฮ่องเต้พระองค์หนึ่ง ทรงเสด็จออกประพาสนอกวังเพื่อดูความเป็นอยู่ของราษฎรแต่ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าพระองค์เป็นฮ่องเต้ จึงสั่งห้ามขุนนางผู้ติดตามมิให้บอกใครให้ทำเป็นเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง สองสาวกำลังสาธิตวิธีชงชาที่หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง พวกเขาทั้งหมดแวะพักดื่มชากันที่โรงน้ำชาแห่งหนึ่ง เมื่อเสี่ยวเอ้อยกน้ำชามาวาง ฮ่องเต้ในคราบสามัญชนก็เป็นผู้รินชาใส่ถ้วยให้แก่เหล่าขุนนาง ขุนนางเหล่านั้นตกใจมากที่ฮ่องเต้ต้องมารินชาให้พวกเขาดื่ม ครั้นจะคุกเข่าขอบพระทัยก็ไม่ได้เพราะฮ่องเต้ปลอมเป็นสามัญชนอยู่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงใช้วิธีงอนิ้วชี้กับนิ้วกลางแล้วเคาะไปที่กาน้ำชาสามครั้ง นิ้วทั้งสองแทนการคุกเข่า ส่วนการเคาะสามครั้งก็แทนการคำนับ ตั้งแต่นั้นก็เลยกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบมา จากนั้นจึงมุงหน้าสู่จุดหมายต่อไปของวันนี้นั้นก็คือ"นองปิง360"ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะลันเตา เกาะที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 เท่าของเกาะฮ่องกงและเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรฮ่องกง จุดประสงค์ของการมานองปิงก็คือเพื่อมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชมทัศนียภาพมุมสูงรอบตัวที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ทั่วเกาะลันเตา ทั่วอ่าวตุงชุง ไปจนถึงวนอุทยานลันเตาเหนือ และสนามบินนานาชาติฮ่องกง หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิงในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน กระเช้านองปิงข้างในไม่ติดแอร์แต่ก็ไม่ร้อนกลับออกเย็นๆเสียด้วยซ้ำ อัตรค่าบริการแบ่งเป็นขาขึ้นอย่างเดียวเด็ก 28เหรียญ,ผู้ใหญ่58เหรียญ ทั้งขาขึ้นและขาลงเด็ก45เหรียญ,ผู้ใหญ่88เหรียญ เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์เวลา 10.00น. -18.00 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์และวันหยุดจะให้บริการถึงเวลา 18.30 น. จากตุงชุงเราใช้เวลา 25 นาที วิ่งเป็นระยะทาง 5.7 กิโลเมตร เพื่อขึ้นมายังที่ราบนองปิงเมื่อมาถึงแล้วสิ่งแรกที่เราจะได้พบคือ "หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง"( Ngong Ping Village ) ที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมจีนโบราณแต่ไม่ใช้ของที่มีมาแต่เดิมหรอกนะ ทางนองปิงเขาสร้างหมู่บ้านทั้งหมดขึ้นใหม่ สร้างบนพื้นที่1.5 เฮคตาร์ ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทั้งร้านค้า ร้านอาหาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของฮ่องกงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านนองปิงแห่งนี้มีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย ทั้งการแสดงกลางแจ้ง อาทิ อุปรากร มายากล การแสดง กังฟูจากสตั๊นท์แมน การแสดงย้อนรอยสู่เส้นทางแห่งการตรัสรู้ ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ หอพุทธประวัติ "Walking with Buddha" หรือเพลิดเพลินกับละครชาดกในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ แอนนิเมชั่น สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ ที่โรงละคร "Monkey

 

พระพุทธรูปกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่วัดโป่หลินมองมุมไหนก็จะเห็นท่านเสมอ