นักปฏิบัติพึงสังวร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 4 มีนาคม 2018.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    นักปฏิบัติพึงสังวร ระวัง “อนันตริยกรรม” (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
    เทศนาธรรมของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

    ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ท่านจะกรรมอะไรที่ท่านอดทนไม่ได้ ทำไปเถอะ ขออย่างเดียว อย่าไปเผลอทำ “อนันตริยกรรม” ก็แล้วกัน
    “อนันตริยกรรม” นั้น ถ้าทำลงไปแล้วเสื่อมจากมรรคผล นิพพาน ตั้งอยู่ในฐาน “ปาราชิก” คือ ผู้พ่ายแพ้ในพระพุทธศาสนา อย่าทำมันบาปหนัก
    ๑. ฆ่าบิดา๒. ฆ่ามารดา๓. ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิตขึ้น๔. ฆ่าพระอรหันต์
    ๕. ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน

    ระวังนะ เวลาพระวัดใดวัดหนึ่ง ขัดผลประโยชน์กัน แตกสามัคคีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน ญาติโยมอย่าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เดี๋ยวจะกลายเป็น “อนันตริยกรรม” ไม่รู้ตัว
    เช่นอย่าง หลวงพ่อวัดใต้ หลวงพ่อวัดเหนือ ต่างก็มีหน้าที่กันเยอะแยะ ขัดผลประโยชน์กันแล้วก็ไปทะเลาะถีบเถียงกัน ต่างคนก็ต่างมีลูกศิษย์
    ทั้งพระทั้งโยมแตกกันเป็นพรรคเป็นพวก ยกพวกขึ้นมารบกัน ถ้าพระสงฆ์แตกสามัคคีกันเป็นกลุ่มตั้งแต่ฝ่ายละ ๔ รูปขึ้นไป นั่นเป็น “สังฆเภท”ในเมื่อ “สังฆเภท” แล้วก็เป็น “อนันตริยกรรม” ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน บาปนัก บาปหนา เพราะฉะนั้นการกระทำกรรม ให้ระวัง “อนันตริยกรรม” ให้มาก ๆ

    และอีกอย่างหนึ่งถ้าท่านจะเป็นนักปฏิบัติอย่างแท้จริง ท่านอย่าไปถือพวก ถือพรรค ถือคณะ ว่าหมู่เขา หมู่เรา อาจารย์เขา อาจารย์เรา ขอให้ยึดถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่ง ถือพระศาสดาคือพระพุทธเจ้าองค์เดียวเป็นครู พระสาวกที่เผยแผ่ศาสนาอยู่ในปัจจุบันนี้ ถอดแบบจากพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทั้งนั้น

    เพราะฉะนั้นการที่ถือพรรค ถือพวก ถือลัทธิแห่งการปฏิบัตินั้น ย่อมยังส่อแสดงว่าเป็นผู้ยังมีกิเลส ยังมีอุปาทานในการยึดมั่นถือมั่น ถ้าตราบใดที่เรายังยึดถือมั่นในพรรค ในพวก ในเรา ในเขา ของเรา ของเขาอยู่ เราก็ยังไม่หมดอุปาทาน

    บางทีคณะนี้..โจมตีคณะโน้น คณะโน้น..โจมตีคณะนี้ ในทำนองนี้ ผู้ที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์กันจริง ๆ นั้น ขอได้โปรดทำจิตให้เป็นกลาง ให้ปล่อยวางลงไป ว่าผู้ประพฤติผิด เข้าใจผิด เป็นบุคคลผู้ที่น่าสงสาร
    ผู้ปฏิบัติถูก ทำถูกต้องและได้ผลดี เป็นบุคคลผู้ที่น่าอนุโมทนา

    ผู้ที่ทำผิด ไม่ใช่นักปฏิบัติธรรม จะต้องไปกล่าวจ้วงจาบด้วยคำพูดหยาบคาย แม้ว่าเขาจะทำผิด ก็เป็นเรื่องของเขา แต่เราไปกล่าวจ้วงจาบ ด้วยวาจาที่หยาบคาย เป็นการสร้างบาปกรรมขึ้นใส่ตัวเอง

    ****อย่าไปสำคัญว่าคนทำผิด ด่าไม่เป็นไร ไม่บาป คนทำผิด เราด่า ก็บาป คนทำผิด เราตำหนิ ก็บาป****

    แต่ถ้าเราติเพื่อก่อนั้นได้บุญ แต่ตำหนิเพื่อจะให้เสียหาย เสียชื่อเสียเสียงนั้นบาป มันบาปอยู่ที่ตรงไหน เพราะเรากล่าวคำหยาบ ผรุสวาจาย เวรมณี..มันเป็นอกุศลกรรมบถ เป็นวจีทุจริต ในเมื่อวจีของเรายังหยาบ ยังทุจริตอยู่ มันก็ผิดศีลข้อมุสาวาท เพราะคำหยาบเป็นฉายาแห่งมุสาวาท เพราะฉะนั้นนักปฏิบัติพึงสังวร ระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดี พยายามทำความรู้แจ้งเห็นจริง ให้มันปรากฏขึ้นภายในจิตของตัวเอง

    ถ้าเรายังสำคัญว่าเรานี่ดีกว่าคนอื่น เก่งกว่าคนอื่น นั่นแสดงว่าเรายังโง่กว่าเขา ถ้าเรามีความสำคัญว่า เราเนี่ยโง่กว่าเขา ไม่เก่งเท่าเขา เราก็ยังโง่อยู่อีกนั่นแหล่ะ แต่ถ้าเราสำคัญว่าเรามีความรู้สึกเป็นกลาง ๆ มีความเป็นธรรมอย่างแท้จริง นั่น..เราเริ่มฉลาดขึ้นมาบ้าง

    เพราะฉะนั้นขอให้สังวร ระวัง ในเรื่องการกล่าวตำหนิ ติเตียน ซึ่งกันและกัน หรือการถือพรรค ถือพวก ถือหมู่ ถือคณะ

    พระพุทธเจ้าสอนว่า..สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน แต่เรายังจะมาถืออหังการ มมังการ มีตัว มีตน มีเรา มีเขา มีพรรค มีพวก มันก็ผิดต่อหลักคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    .. ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก ..
     
  2. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    เหม่ อ่านกระทู้แล้วรู้สึกเหมือนมีคนเริ่มปลดสัมภาระ เตรียมหาทางข้ามเขาเลย
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ยุคทุนเสรีกำลังแรงและแผ่ขยายล่วงล้ำ
    เข้าไปในขอบเขตของศาสนาด้วย
    การสะสมทุนของวัดวาอารามจึงเกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมในวิธีหาทุน
    ศิษยานุศิษย์ที่มีความศรัทธาวัดวาอารามที่มั่งคั่ง
    ก็สามัคคีกันเพื่อป้องครูบาอาจารย์ของตน
    เมื่อเห็นว่าจะมีใครมาย่ำยี หรือมาลดทอนความ
    น่าศรัทธาเลื่อมใส
    ของหมู่คณะตน
    ตรงนี้แหล่ะคือภัยร้ายแรง
    ที่จะเกิดกับญาติโยม โดยไม่รู้ตัว คับ
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    โชคดีที่ได้อ่านคับ
    คนที่ตายไปก่อนที่ไม่เคยได้อ่าน จะเป็นยังงัย
    กันบ้างไม่รุ
     
  5. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    โชคดีของผมเหมือนกัน ที่ชอบอ่านธรรม ที่ครูบาอาจารย์สอน อ่านไปเรื่อย

    กลายเป็นอ่าน ศึกษา เรียนรู้ เกือบทุกแบบ เลยแยกสายอะไรกับเค้าไม่ได้เลย

    ครูบาอาจารย์เราทั้งนั้นเลย เราเลือกสิ่งดีๆที่เราทำได้ มาใช้ทั้งหมด

    ท่านก็สอนให้เป็นคนดี มีศีลธรรม สำรวม กาย วาจา ใจ มีเมตตา สมาธิ วิปัสสนา กันทั้งนั้น
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ให้เคารพนับถือ
    แต่อย่ายึดมั่นถือมั่น(ปัญหามาจากการยึด)
    และถ้าจะติ
    ควรติเพื่อก่อ
    หาใช่ติเพื่อทำลาย
    หรือเพื่อยกตน

    ยกเว้นบางกรณี
    ถ้าไม่ไหวจริงๆ
    ก็อุเบกขารับรู้ซะ

    จะลดจำนวนคนที่กายยังเป็นมนุษย์
    ในขณะที่จิตอยู่ในนรกได้เองครับ
     
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ขนาดโยมสนับสนุน โยมยังโดนเลย ดังนั้น พระวัดเดียว แตกแยกกับ พระทั้งประเทศ นี่ สาหัสกว่ามากมายหลายเท่านะ...
    +++ ต่อให้ได้อ่าน ก็คงจะเปลี่ยนแปลงจิตใจเขาไม่ได้หรอก เขาได้ "ลิขิตกรรม" ตนเองไว้ในระดับที่ ไม่สามารถถอน "ตน" ได้แล้ว แต่ก่อนยังไม่เท่าไร แต่เดี๋ยวนี้ ไปยัง "สุดก้นบึ้ง" เรียบร้อยแล้ว

    +++ วาจาของพระพุทธองค์ "กัมมุนา วัตตติ โลโก" สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม

    อุทฺเทส กมฺมปจฺจโย เพราะมี "เจตนาตั้งใจ" เป็นปัจจัย

    "เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ เจตยิตฺวา กมฺมํ กาเยน วาจาย มนสา" (อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต) ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า เจตนาคือตัวกรรม สัตว์ทั้งหลายที่ทำกรรม ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจก็ดี ย่อมมีการปรุงแต่ง คือคิดนึกก่อนแล้วจึงทำ

    กมฺมสฺสโกมฺหิ เมื่อทำกรรมไว้อย่างไร ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นตามที่ทำไว้

    กมฺมทายาโท เป็นทายาทของกรรมที่ทำแล้ว (กำหนด กาย)

    กมฺมโยนิ มีกรรมเป็นกำเนิด (กำหนด ภพภูมิ)

    กมฺมพนฺธู มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ (กำหนด species)

    กมฺมปฏิสรโณ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศํย (กำเนิด เกิดและอยู่ ไปตามกรรม)

    +++ แม้ว่า พระพุทธองค์ จะกล่าวไว้เพียงสั้น ๆ ก็ตาม แต่ "ลึกล้ำ" เกินกว่า DNA จะไปถึง

    +++ แม่นบ่ ลุงแมว...
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    แหม่นล๋ายคั่กๆ เจ้า
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ผมว่า กิเลสหลอกให้สัตว์โลกทำกรรม มันฉลาดมากนะ

    ยิ่งเป็นนักปฏิบัติธรรม ยิ่งอันตราย
    ปฏิบัติไป กิเลสยิ่งตัวใหญ่ขึ้น อัตตาหนักขึ้นมากขึ้น

    จะเห็นในวงเสวนา ของผู้ศึกษาธรรม มักทะเละกัน แบ่งฝ่ายกัน
    หลงในธรรมที่ตนเรียนรู้มา

    พระศาสดาบอกไว้ ธรรมทั้งหลายไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
    เพราะกิเลสมันเอาธรรมของพระศาสดา ไปตอบสนองอำนาจกิเลสตัวเอง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...