นายแบบหวิวรับบท พระพุทธเจ้า สมควรแล้วหรือ

มาร์ค" เชื่อทีมงานรู้ถ่ายหวิวก่อนรับบท " พระพุทธเจ้า" เผยผู้ใหญ่เรียกไปคุยแล้ว แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องของการปลดแต่อย่างใด ด้านหัวหน้าผู้กำกับ "พยุงเวทย์" ออกลูกเสียใจถูกมองเห็นแก่เงิน ยันทำเพื่อชาติและศาสนาจริงๆ ก่อนปิดปากไม่ขอวิจารณ์ถึงงบฯ 1,200 ล้านบาท บอกเป็นเรื่องของประธานและกรรมการโครงการ

ร้อนระอุทีเดียวสำหรับโครงการการสร้างภาพยนตร์ " พระไตรปิฎก" ของมหาเถรสมาคม และมหามกุฏราชวิทยาลัย ภายหลังการเปิดตัวนักแสดงหลักที่จะมารับบทเป็นองค์สัมมาสมเด็จพระพุทธเจ้าอย่างหนุ่ม "มาร์ค สงกรานต์ ทัพมณี" จากเวทีเอ็มไทยแลนด์ ซึ่งเคยถ่ายงานในลักษณะที่วาบหวิวมาก่อน รวมไปถึงงบประมาณที่สูงถึง 1,200 ล้านบาท เป็นเหตุให้ผู้เกี่ยวข้องต้องประชุมหารือกันเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว

สอบถามความคืบหน้าล่าสุดไปยังนักแสดงหนุ่ม มาร์คเผยว่า หลังตกเป็นข่าวทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องได้เรียกตนเข้าไปถามถึงรายละเอียดต่างๆ ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงหรือไม่นั้นเจ้าตัวบอกว่าไม่เห็นผู้ใหญ่พูดถึงเรื่องนี้เลย

 

มารค์ นับถือพุทธ รึเปล่าคะ ...
อันนี้ สำคัญมาก

 

ถ้าหากเขาคิดว่าหลังจากนี้ไม่ไปถ่ายอีกก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ
แต่หลังจากนี้ เขาเองคงต้องรักษาภาพลักษณ์ของเขาให้มากกว่าดาราคนอื่น

 

............................................

 

เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากพอสมควรเลยครับ ต้องระวังมาก

 

เป็นเรื่องที่ต้องระวังให้มาก

 

1. ไม่สมควรครับ ในประเทศอย่างอินเดียการสร้างตัวแทนไม่ทำกันนะครับ
2. เท่าที่ทราบโครงการนี้ทำเพื่อสนองเพื่อน พ้อง ลูกศิษย์ของพระผู้ใหญ่วัดราชาที่ออกมาเรื่องพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติแต่ สร้างจตุคราม ผมยังงงอยู่เลย เสียดายสถานบันสงฆ์ที่อยู่มานาน

 

นี่คือความจริงคะ

กรุณาอ่านความเห็นนี้ให้จบก่อนนะคะ แล้วค่อยตัดสินพี่มาร์คเค้า
ลองคิดดูนะคะพี่มาร์ค เค้าไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ รูปก็ไม่เห็นจะน่าเกลียดตรงไหน ไม่ได้โป๊ เปลือย ไม่ได้ส่อในทางไม่ดีด้วย ก็แค่รูปถ่าย เป็นการถ่ายแบบธรรมดา กางเกงว่ายน้ำขาสั้นธรรมดา ที่เห็นได้ตามสระว่ายน้ำ หรือ ชายหาดทั่วไป คนทั่วไปก็ใส่กัน ทำไมประโคมข่าวว่าถ่ายนู้ดหละคะ พี่เค้าไม่ได้ทำตัวเสียหายอะไรซักหน่อย

ตัวจริงพี่มารค์เป็นคนดี นิสัยดีมากๆเลยคะ ใจดีเป็นที่สุด เรียนภาษาอังกฤษกับพี่เค้าบ่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนิทกับพี่เค้าแต่ดูออกคะว่าพี่เค้าเป็นคนดีจริงๆ ขอยืนยัน ตัวจริงไม่หยิ่งเลยด้วย เป็นกันเองกับทุกๆคน ขี้เล่นด้วย เรื่องเป็นเกย์ก็ไม่จริงคะ พี่มารค์ออกจะแมน พี่เค้าชอบผู้หญิงแล้วจะเป็นเกย์ได้ยังไงหละคะ ทุกๆคนที่รู้จักตัวจริงของพี่มารค์รักและชอบพี่มารค์ทุกคนคะ เพราะพี่เค้านิสัยดีจริงๆ คนที่ลงข่าวอ่า ระวังบาปน้าใส่ร้ายป้ายสีชาวบ้านเค้ามันไม่ดีน้าค้า ไม่ได้เข้าข้างพี่เค้านะคะ แล้วก็ไม่ได้เป็นแฟนคลับของพี่เค้าด้วย เพียงแต่ทนไม่ได้ ที่เห็นคนดีๆคนหนึ่งโดนเล่นงานอย่างไม่เป็นธรรม อยากให้มองตัวตนที่แท้จริงของพี่มาร์คเค้านะคะ การที่พี่เค้าถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันไม่ได้หมายความว่าพี่เค้าเป็นคนไม่ดีนี่คะ ถ้าพี่เค้าทำอะไรที่ไม่ดีผิดกฎหมายหรือทำให้ใครต้องเดือดร้อนก็ว่าไปอย่าง พี่เค้าทำตามหน้าที่คะ มันเป็นอาชีพของพี่เค้า พี่เค้าไม่ผิดอะไร มันเป็นอาชีพสุจริตไม่ใช่หรือคะ แล้วที่พี่เค้ามาเล่นหนังเรื่องนี้ก็เป็นการช่วยส่งเสริมพระพุทธศาสนานะคะ ถ้าเหตุผลที่พี่เค้าไม่เหมาะมาเล่นหนังเรื่องนี้เพียงแค่เหตุผลเดียวคือเคยถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมาก่อนแค่นั้นหรือคะ ทำไมมันฟังไม่ขึ้นเลย ลองพิจารณาดูนะคะ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ตอนเด็กๆ ดูหนังอินเดียเรื่ององคุลีมาลย์ ก็มีนักแสดงเป้ฯพระพุทธเจ้าด้วย แต่เห็นนิดเดียว ไม่ให้เห็นด้านหน้า ขึ้นอยู่กับแนวทางและเจตนาของผู้กำกับ คนแสดงคนๆ นั้นที่แสดงเป็นพระพุทธเจ้าอาจเป็ฯช่างไฟในกองถ่ายก็ได้ ใครจะรู้

ส่วนเรื่องที่คูอานูว์ รีฟ แสดงเป็ฯพระพุทธเจ้านั้น ยายผีป่าไปดูก็อดชื่นชมนักแสดงทุกคนไม่ได้ แต่ไม่ได้คิดถึงประวัตินักแสดง คิดแต่ว่าเขาถ่ายทอดออกมาดี ตามบทได้ดี ไม่มีที่ติ ทำให้เราย้อนไปถึงครั้งพุทธกาลได้ ถ้าไม่มีหนังสือ ไม่มีหนัง วันข้างหน้าเราลูกหลานเราอาจนึกไม่ออก ยายผีป่าดูองค์คุลีมาลย์ของอินเดียตั้งแต่อายุไม่เท่าไร ครูเขาพาไปดู นี่คือการดูหนังในโรงครั้งแรกของชีวิตยายผีป่า ภาพนั้นเรื่องราวเหล่านั้นยังตราตรึง ทำให้หันมาสนใจการปฏิบัติดี เกรงกลัวและละอายต่อการทำผิด

ไม่เคยคิดว่า ดาราเหล่านั้นคือพระพุทธเจ้าจริงๆ ไม่เคยสนใจว่าชื่ออะไรบ้างที่มาแสดงบทต่างๆ คนอื่นๆ อาจดูหนังแล้วคิดต่างไปจากยายผีป่า คือยายผีป่าเอาเนื้อหาค่ะ ไม่เอาเรื่องหยุมหยิม

อย่างพระเองกคนนี้ เขาเป็นนายแบบ ผ่านเวทีเอ็มมาแล้ว นั้นคือชีวิตที่เขาผ่านมา บทบาทของการก้าวเดินสู่อาชีพหรือหาประสบการณ์ของเขา

การเฟ้นตัวหานักแสดง เขาต้องเฟ้นหาคนที่หน้าตาตามสเปคที่บทเขียนไว้ จริงอยู่ประวัตินักแสดงนี่ต้องเลือกที่ไม่ด่างพล้อย

แต่ก่อนคุณโดโด้ ก็เคยเอาใบบอนปิดบางชิ้นส่วนมิใช่หรือ แต่ทุกวันนี้ คุณโดโด้ห้มขาว ถือศีล ๘ เป็ฯวิทยากรสอนธรรมะ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมิสซูโอะ คะเวสโก เราถามว่า คนเราไม่มีเปลี่ยนแปลงเลยหรือ

ถ้าเราต้องการนักแสดงที่เป็นพระพุทธเจ้าและตัวแสดงเป็นพระสาวกและอื่นๆ ในสมัยนั้น และไม่ต้องการให้มีเรื่องด่างพร้อยนะคะ

ไปหาเอาในวัดค่ะ แล้วอย่ามาบ่นนะคะว่าตัวแสดงไม่เห็นรูปงามนักเลย พระรูปงามๆ ภายนอกท่านก็ไม่คอยมีมาก ส่วนมากจะงามภายใน เลยต้องใช้นายแบบไงล่ะ เพราะเราติดที่คิดเสมอว่า พรรณะของพระพุทธเจ้าสง่างามมากๆ เราทุกคนเกิดไม่ทัน เวลาตั้งจิตไปกราบท่านๆ มาในองค์ที่สง่างามจริงๆ แต่อย่าลืมนะคะว่าท่านเกิดในอินเดีย เอาเด็กๆ อินเดียเป็นตัวอย่างสิคะ หน้าตาท่านจริงๆ คงไม่ต่างจากคนเชื้อสายอินเดีย เนปาลหรอกค่ะ อาจผิวพรรณดีกว่าเด็กอื่นๆ เพราะเป็นเชื้อกษัตริย์

จะบอกให้นะคะ เคยอ่านนิตยสารชีวิตจริง หรืออะไรๆ ที่เขาชอบมาเล่าให้อ่านว่า

หนูตอนนี้บวชชีค่ะ หนีความเจ็บปวดที่ประสบมาในชีวิต หนูเคยโดนข่มขืน หนูเคยติดยา มาอยู่วัด หนูได้รู้แล้วว่า สิ่งที่ถูกต้องคืออะไร

ถ้าถามว่า แม่ชีรูปนี้ดีไหม บางคนบอกว่าประวัติไม่ดี ห้ามคบหา ห้ามนับถือ

บางคนบอกว่า อนุโมทนา เขาตื่นแล้ว

อย่าไปดูหนังเพราะติดใจรูปลักษณ์ภายนอก ให้ดูที่บทบาท เนื้อเรื่อง

พอหนังจบให้นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระสาวก อย่านึกถึงว่า เอ...อยากเป็ฯแฟนคลับพระเอกคนนี้จังเลย

และถ้าคนวัยนี้ที่มาเป็นนักแสดง พอคลุกคลีกับเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า คุณเชื่อไหมว่า สักวันหนึ่ง เขาจะเปลี่ยนไปในทางที่เราคาดไม่ถึง

พวกเขาอาจเป็นนักปฏอบัติธรรมชั้นเยี่ยมเลยก็ได้

 

ผิดแล้วรู้จักแก้ไข ย่อมประเสริฐ
ผิดแล้วผิดต่อไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย

..................................................................
"..ถึงแขนขวาขาดไปจะเป็นไร ข้าก็ยังมีแขนซ้ายที่ใช้กอดท่านได้.."

 

ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติ อย่าไปยึดติดกับมัน รอดูผลงานที่ออกมาดีกว่าว่าคุ้มกับเงินที่ใช้ไปหรือไม่

 

เห็นด้วยกับท่านยายผีป่าจริงๆ ค่ะ

คนเรา อดีต มันผ่านมาแล้ว
อนาคต มันยังมาไม่ถึง

ดูกันที่ ปัจจุบันกันดีกว่าไหม ว่า เขาทำอะไร เป็นอย่างไร และการไปยึดติดกับภาพลักษณ์ของคนที่จะมาแสดงนั้น มันไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่นะ เพราะเขาเป็นนักแสดง ไม่ใช่ตัวแทนของพระพุทธเจ้า

หากเขาได้เล่นเรื่องนี้แล้ว วันข้างหน้า เขาทำสิ่งไม่ดีขึ้นมา ถือเสียว่าเป็นกรรมของเขาที่ครั้งหนึ่ง เขาเคยได้เป็นคนถ่ายทอดเรื่องราวของพระพุทธองค์ แต่สิ่งดีๆ เหล่านั้นไม่เข้าสู่จิตของเขาเลย

บทบาทการแสดง ก็คือ การเอาหน้ากากของตัวละครที่ได้รับมาใส่เอาไว้ ปกปิดตัวตนที่แท้จริง และถ่ายทอด อารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิด ของตัวละครนั้นให้คนดูได้รับรู้ และจินตนาการตามไปด้วยให้เข้าถึงสิ่งเหล่านั้น และสามารถจดจำภาพลักษณ์ของตัวละครนั้น ไม่ใช่การจดจำภาพลักษณ์ของคนแสดง ฉะนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร มาจากไหน ขอให้เขาแสดงออกมาให้คนจดจำภาพลักษณ์ของพระพุทธองค์เพียงอย่างเดียวพอ และขอให้เขาถ่ายทอดความเป็นพระพุทธองค์ให้คนเลื่อมใส และศรัทธาได้อย่างเต็มเปี่ยม ก็เพียงพอแล้วค่ะ สำหรับเราที่เป็นชาวพุทธ

ชีวิตจริง ก็คือ การเอาหน้ากากเหล่านั้นออกไป แล้วเผยตัวตนออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับหน้ากากที่เคยสวม เมื่อถอดหน้ากากแล้ว เขา ก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ที่ยังคงมีอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ไม่ต่างไปจากคนอื่นทั่วไป เพียงแต่ในช่วงแรกก็อยากจะขอให้รักษาภาพพจน์ไว้ก่อนก็ดี เพราะคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงติดในภาพลักษณ์ที่เคยแสดง

ดูหนัง ดูละคร แล้วจงย้อนมาดูตัวเอง อย่าไปดู ไปเปรียบกับคนอื่นเลย เปรียบกับตัวเราเองดีกว่า ว่า เรา เป็นอย่างไร ทำดีแค่ไหนแล้ว ทำชั่วไปเท่าไหร่ คิดดี คิดชั่ว พูดดี พูดชั่ว ปรับปรุงตัวเองหรือเปล่า ทำอะไรเพื่อสังคมบ้างไหม

หากทุกคนในสังคม หันมามองตัวเองก่อน ไม่นานหรอก สังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้จะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน

 

บทบาทสมมุติที่กำหนดให้คุณมาร์คแสดงเป็น "พระพุทธเจ้า" นั้นเป็นสิ่งสำคัญและละเอียดอ่อน ที่ทุก ๆ ฝ่ายควรไตร่ตรองให้รอบคอบเพราะมีผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของชาวพุทธทั้งหลาย
หากเป็นไปได้ อยากให้เปลี่ยนตัวแสดงน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะทำใจไม่ได้ องค์พระศาสดาจะต้องสูงส่งและบริสุทธิ์ แต่ คุณมาร์ค นั้นเล่า หาเป็นเช่นนั้นไม่ อนิจจาจะสร้างภาพยนตร์พุทธประวัติทั้งที หาคนที่ดี ๆ ที่ภาพลักษณ์ไม่เสียหาย ไม่ได้เชียวหรือ ???

 

ขออนุญาตนะค่ะ

"ต่างคน ต่างใจ (ต่างความคิด นานาจิตตัง)" แต่ละคนมองคนละแง่เพราะกำลังใจไม่เท่ากัน
เห็นด้วยกับคุณยายและคุณโมกป่าค่ะ แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความปรารถนาดี ของคุณเพชรกลาง(ไม่ทราบว่าอ่านถูกไหม?)
คนดูกำลังใจไม่เท่ากันค่ะ คิดกันคนละแง่ สองแง่หลายๆแง่
กลัวคนดูบางคนเกิดอกุศลจิตเอาง่ายๆมั้งค่ะ

ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เข้าใจทั้งสองฝ่าย

ต้องดูเจตนาของผู้แสดงมั้งค่ะอย่างนี้ต้องให้ผู้แสดงขอบารมีและขออนุญาต พระพุทธเจ้าก่อนดีกว่ามั้งค่ะ เพราะหากกำลังเป็นกุศลย่อมสัมผัสพระบารมีญาณได้ บางทีพระท่านอาจเลือกมาแล้วก็ได้ จึงดลใจให้คนนี้สมัครและได้รับเลือก

(จนปัญญญาที่จะรู้ค่ะ) แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกอย่างมีเหตุผลของมันเสมอค่ะ

ทำไมคนนี้จึงตัดสินใจสมัครและทำมคนนี้ถึงได้รับเลือกจากหลายๆคนที่พิจารณา
ถูกค้านแต่ทำไมมีกำลังใจเดินหน้าต่อ ทำไมๆๆๆ(สุดจะรู้ค่ะ)
กฏแห่งกรรมนำไป

 

เห็นด้วยกับคุณเพชรกลางครับ

เป็นหนังที่ละเอียดอ่อนมากๆ และเป็นหนังระดับประเทศ เมื่อมีคนคิดทั้งสองฝ่าย ไม่น่าที่จะเสี่ยงกับการถูกวิจารณ์เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ถ้ามีคนที่หน้าตาดีและเหมาะสมแค่คนเดียวอาจจำเป็นต้องให้แสดงแต่ไม่เชื่อว่าจะหาคนหน้าตาดีที่ภาพลักษณ์ไม่เสียหายมาแสดงไม่ได้