นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (ที่สุดแห่งปี...รุ่นอภิญญาใหญ่)

ชี้ทางมหากุศล ท่านใดร่วมทำจะเกิดมารูปงาม ผิวสวยทุกชาติภพ ร่วมบูรณะปิดทองพระประธานวัดพระธาตุหริภุญชัยได้ครับ บัญชีตามภาพ...

 

Version 2 เตรียมปลุกเสก ไว้นำออกมาในอนาคต อีกซัก 10-20 ปี

จะเห็นว่าเทียบกับพระสมเด็จก่อนเสก (ย้ำก่อนเสก...คงไปเทียบหลังเสกไม่ได้ นั่นเกินประมาณแล้ว) จะแจ่มกว่าด้วยใช้ผงหลวงปู่โตที่นำเข้าเสกพร้อมพระสมเด็จด้วยและผงพิธีคชสีห์...

ชุดนี้เสก 3 วันครับไม่อยากรบกวนครูบาอาจารย์มาก เสกเดี่ยวเน้นมหาปราบ... เพราะเภทภัยในอนาคต 10-20 ปีข้างหน้ามีแต่ยิ่งกว่าปัจจุบัน T T (ให้คนที่เขายังไม่มีนะครับผู้มีชุดพระสมเด็จ ชุดทิ้งทวน นั้นสบาย ๆ ไม่มีปัญหาอะไร)

ส่วน Version 1 อันนี้ โปรดเฝ้ารอ รับรองเด็ดดวง ไว้สำเร็จผมจะส่งไปรีวิวที่ลำพูนให้ 555 กินแรงผมสุด ๆ ชุดนี้ ถึงได้เสกนาน...

 

Version 1 ตามภาพ เริ่มเสก 18 พ.ค.64 รุ่นนี้คือสุดยอดอภิมหาตำนาน...

ขอเบลอภาพกันหมู่มารตามราวีนะครับ...

รับรองเสกเสร็จครบกระบวนยุทธ... ส่งไปรีวิวลำพูนอาจมีช็อค (ท่านยังไม่รู้นะ อุบท่านไว้อยู่55)

ผงหลวงปู่โตมีเท่าไรผมเทใส่ไม่ยั้งมือ ไม่นับผงอื่นที่เสกทุก ๆ พิธีในสายปราบนะครับ...

โครงการทิ้งทวนเหล่านี้ถ้าว่าตามนิยายคือ มาจากนิมิตรพิศวงครับ... รวมทั้งชื่อรุ่นด้วย เพราะบางท่านถาม ตั้งชื่อได้เพราะพริ้งดี เราก็ตอบซื่อ ๆ ว่า..มาจากนิมิตร

 

คุยกับที่ปรึกษาวันนี้ อันว่า พระสมเด็จมหาโภคทรัพย์ นับว่าสูงส่งยิ่งนัก ขลังเท่าพระพันปีได้เลย ท่านยืนยันตรงกับผมว่า "ขนาดไม่ได้นำติดตัวแต่ใส่พานบูชาก็ส่งผลให้ราบรื่น เมตตาธรรมสูงยิ่ง..."

และแน่นอน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นคำถามต่อมาในโครงการทิ้งทวนว่า "เมื่อมีมหาโภคทรัพย์ต่อไปก็ต้องมี...มหาเดชะบารมีนี่เอง..."

ย้ำยังไม่รับจองใด ๆ เพราะผมรีบๆ ให้ทันฤกษ์เสก 18 พฤษภาคม จึงยังไม่ได้นับดีว่ามีกี่องค์ แต่น้อยกว่าเดิมชัวร์ ๆ เพราะรีบ ๆ.. และสร้างยากมาก ๆ

 

สำหรับรุ่นทิ้งทวน V1 ปลุกเสกเต็มสูตร 49 วัน (เกือบ 2เดือน) กำหนดรับพระ 4-5 กรกฏาคม ผมได้พระตรวจนับแล้วจะเปิดให้บูชาครับ แน่นอนจะไลน เฟสแจ้งขาประจำก่อนครับ ..

โปรด รอ ....สร้างน้อยกว่าเดิมเพราะทำยากมากๆ..

เสกทุกวันแต่ลงมหาอำนาจบารมี ตรงวันแข็ง...

การเสกนี้ที่ปรึกษาเคยวิจารณ์ครั้งนึงว่า "สุดยอดอภิมหาพิสดารโคตรไร้เทียมทาน มหาอำนาจ มหาปราบไร้เทียมทานจริงๆ "

 

กะลังดัง แม่กำเนิดไม่ใช่อีเป๋อเด้อ...ผมไม่ได้จองนะ เพราะได้อยู่แลวเนื่องจากซื้อแป้ง 7 ส่งไปเป็นมวลสาร หลักวิชาเขาว่ามาจากแม่คลอดลูก

ของแนวแปลกๆมีได้ตลอดในหลักคาถาอาคม...

 

ไปรับพระรุ่นทิ้งทวน V 2 จากตอนแรกพฤหัสบดีที่แล้วท่านบอกมารับวันอาทิตย์แต่เราไม่รับกลับ ให้ท่านเสกต่อ 55

ซึ่งคำว่าทิ้งทวนก็ปรากฎผลดังนี้

1. พฤหัสบดีที่แล้ว ครูบาท่านได้กล่าวเป็นนัย ๆ หลายอย่าง และมอบของดีและตำราวิชาให้ที่ปรึกษาไปหลายอย่าง จนที่ปรึกษาถาม "ไม่ใช่ครูบาบอกเป็นนัย ๆ นะ ว่าจะทิ้งทวนแล้ว"

ครูบากล่าวว่า "ไม่รู้นะ อนาคตไม่แน่นอนหรอก ไม่ใช่พระอรหันต์"

2.วันนี้ท่านกล่าวว่า "ทำให้เต็มที่แล้วนะ เต็มที่จนแทบจะหายใจไม่ออก กะแล้วว่าต้องให้ลงให้หลายวันยังไม่มารับกลับง่าย ระหว่างการเสก มีครูบาอาจารย์มาอยู่กับท่านด้วย ทำให้ท่านอิ่มเอิบ ทำอะไรราบรื่นตลอด..ฯลฯ " !!!!!

คำถามนี้ผมถามที่ปรึกษา "ท่านกล่าวไหมครับครูบาอาจารย์ท่านไหนมาอยู่ด้วย (ในใจคิดว่าเป็นหลวงปู่โต เจ้าของผงวิเศษ)"

ที่ปรึกษา "ท่านไม่บอกนะสิว่าคือท่านใด"

เมื่อถามถึงรีวิวกระแสพลัง ต่างจากพระสมเด็จอย่างชัดเจน พระสมเด็จรัศมีขาวใสสว่าง แต่ชุดนี้ พลังออร่าทองคำ ....

ทีนี้ ไม่อยากบรรยายมาก เพราะไว้แจกในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ภัยพิบัติที่จะมากกว่าทุกวันนี้หลายเท่านัก...

สำหรับ รุ่นทิ้งทวน V 1 ไม่น้อยหน้าแน่นอนครับ เพราะมวลสารหลักเสกมาจนนับไม่ถ้วน...

สรุป นี่คือการปิดตำนานผงวิเศษ พุทธคุณ 5 ประการอย่างแท้จริง ครูบาอาจารย์ที่เสกให้ทุกท่านการันตี ว่ามีดวงจิตญาณบารมีของครูบาอาจารย์ เทพพรหมในผงวิเศษ สมดังที่เจ้าของผงกล่าวว่า "ผมได้มา 20 ปีนำไปเสกมาแล้วนับไม่ถ้วน"


ได้มาตอนแรก


ใช้ไปตอนสร้างพระสมเด็จ...


หมดเกลี้ยงแล้ว สร้างชุดทิ้งทวนและมอบให้ผู้อื่นไปสร้างพระต่อ และมอบให้ที่ปรึกษาไป...

โปรดรอ ชุด V 1 อีก 2 อาทิตย์นิด ๆ ครับ ... อยู่ระหว่างการเสกแบบดุเดือด..

 

ปฐมเหตุแห่งการสร้างรุ่นทิ้งทวน V 1

ดังในการสร้างรุ่นกายสิทธิ์ทิ้งทวนหลวงปู่เหิร ท่านได้กล่าวว่า "หลวงปู่ได้ลงอนุสาสนีปาฏิหารย์ไปด้วย"

ผมก็สงสัยว่าจะดึงพลังแนวนี้ออกมาเช่นไร จึงคิดได้สร้างพิมพ์ที่จะดึงพลังนี้ออกมา บวกกับให้มีอำนาจเสริมต่อจากรุ่นมหาโภคทรัพย์....

จึงนำมวลสารขอครูบาอาจารย์เสกลงทุกรุ่นในสายปราบ แบบลงหลายๆ วันด้วยสะสมมายาวนาน

รวมถึงนำผงวิเศษหลวงปู่โตเสกพร้อมชุดสมเด็จมหาโภคทรัพย์ด้วย

ปัญหาต่อมาหาผู้รวมธาตุรวมกระแสพลังให้เป็นหนึ่งและให้เกิดความแตกต่าง

ในตอนนี้อาศัย connection ที่มีสามารถนำขอครูบาอาจารย์เก่งๆ ได้มากมายลงรวมพลังให้ ไม่ว่าภาคใต้ เหนือ อีสาน แม้ไม่ไปเองก็ พรรคพวกอาสาทำให้จะเสกข้ามปีกันก็ได้55

แต่ผมได้พิจารณาแล้วว่า ต้องมีท่านนี้ล่ะที่โดนใจและ ทำได้ยาก

ครูบาอาจารย์ระดับสูงนั้น เกินปัญญาที่เราจะมาตอบได้ว่า ใครเก่งกว่า ใครเก่งสุด เพราะระดับครูบาอาจารย์มีแต่ยกย่องกันเอง ไม่เหมือนบรรดาศิษย์ชอบคุยอวดข่มคนอื่น 55

ดังนั้น การเสกที่ยาวนานจึงเริ่มขึ้นเต็มสูตรท่าน 49 วัน...

 

ปฐมเหตุ รุ่นทิ้งทวน

เหตุใดต้องเสก 49 วัน เหตุใดต้องเป็นท่านนี้ ???

ในคำสอนครั้งสุดท้ายที่หลวงปู่ท่านสอน ก่อนละสังขาร 10 วัน

ได้กล่าวถึงภัยพิบัติหลายอย่างและได้พยากรณ์อื่น ๆ อีกมาก ยกตัวอย่างน้ำจิ้มเล็ก ๆ

....ท่านได้กล่าวถึงพลังหลวงปู่โต ซึ่งท่านบอกว่า "หลวงปู่จะขอหลวงปู่โตให้ ต้องได้ "!!!!

ณ วันนี้ความจริงก็ปรากฎ หากตอนสมเด็จมหาโภคทรัพย์พลังที่ออกมาแรงจนครูบาอาจารย์ทุกท่านบอกไว้ "แน่นไปหมด เหนื่อยเลย สร้างมาได้ถูกที่ถูกเวลามาก"

ณ วันนี้ก็ได้ปรากฎอีกครั้งใน V 2 ที่ครูบาผู้อธิษฐานจิตกล่าวว่า "พวกสูนี่มีอะไรที่คาดไม่ถึงเลยนะ...."

สิ่งเหล่านี้จึงดูเหมือนเป็นเรื่องดี แต่น่าหนักใจในภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าภัยธรรมชาติ ภัยโรคระบาด ฯ...

จึงเป็นเหตุให้รีบสร้างเก็บไว้ เพราะอนาคตจะหาผู้ทรงอภิญญา อริยสงฆ์ยากเย็นแสนเข็ญ

ดังหลวงปู่ได้สอนไว้ "พระอริยหายาก แต่พระอภิญญาน่ะมีเยอะ"

แน่นอนถึงมีผมก็หยุดการไขว่คว้าแล้ว มีหน้าที่อื่นต่อไป...


ทิ้งทวนนี้ต้องเต็มที่...


ทิ้งทวนนี้จึงต้องจัดเต็มสูตร รอ ๆ ๆ ผมนับวันรอตลอด อีก 2 อาทิตย์นิด ๆ...

 

ตะกรุดไม่เคยเก่า...ไม่ล้าสมัย

 

ภัยสังคมมีอยู่ทุกที่

เคสล่าสุดมีการนำประคำ อ้างว่าของเก่าสมัยหลวงพ่อท่านนึงที่ผมเองเคยไปกราบทำบุญกับท่าน เชื่อกันว่าท่านเป็นเทพเจ้าแห่งลูกประคำเลย

สมัยก่อนผมก็ได้รับแจกมาก็สูญหาย แจกคนอื่นเขาไปมั่งไม่เหลือเลย

ลูกประคำของท่าน ก็ของชาวบ้านทำละครับไม่มีเอกลักษณ์ตอกโค้ดอะไร มาเสกแล้วแจกจ่ายกัน

ทีนี้ ล่าสุดเป็นของพิเศษต่างจากของโหลหน่อย ก็มาหลอกขายกัน ซึ่งก็พูดง่ายๆ ของไม่ได้เสกล่ะครับ

จะมาตรวจพลังก็ใช่ที่ เพราะเป็นเรื่องอจินไตยไป และไม่ใช่สิ่งชี้วัด

จริงๆ เรื่องแนวนี้มีบ่อย เช่นหลอกขายเกศาพระดัง ซึ่งมรณภาพไปหลายสิบปีแล้ว ถามว่าเกศาจะมาหลงเหลือกันทุกวันนี้เหรอครับ จะมาตรวจ DNA ก็คงเกินไป

อย่าถามเรื่องตรวจพลัง น้อยรายครับที่จะแยกกระแสกันได้ แค่ไปเสกมามาก ๆ เรา ๆ ก็ได้แค่รู้ว่าดีแรง ส่วนจะมโนว่าของหลวงพ่อนี้แบบจะ ๆ ยากกก ดูง่ายๆ ตรวจพลังพระสมเด็จว่าหลวงปู่โตเสกเองไหมยังว่ายากแสนยากเลย ระดับตรวจได้มีแต่มาดุเราด้วยซ้ำ ว่า อย่ายึดติด เผลอ ๆ ท่านตอบเอาใจ ปลอบใจว่าทัน ใช่แท้ๆ ไปเลยซะอีกจะได้จบ ๆ เรื่องไม่ให้เราฟุ้งซ่าน

จีวรพระดังผมก็เคยเจอ ขายมาถามเค้นหน่อยใช่ของหลวงพ่อพระดังไหม สุดท้ายตอบแบบอาย ๆ ว่าเอามาจากรูปหล่อท่าน แล้วก็ มโนปลอบใจว่ามีกระแสนะ เสมือนของท่านครองเองสมัยยังอยู่ ซึ่งจริงๆ ไม่เถียงว่ามีกระแสจากศรัทธา แต่ก็อะนะ...

ไม่มีของดีราคาถูก และไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ คำนี้คือสัจธรรมเสมอครับ...

 

"คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ "


จริงๆ การดูสง่าราศี ก็เป็นสิ่งบ่งบอกอยู่นะครับในเบื้องต้น

อย่างพบพระอริยเจ้า ราศีความเยือกเย็นของท่านก็แผ่ออก แต่ใช่ว่า มิจฉาชีพจะหน้าตาชั่วร้ายหมดนะ มีราศีดูดีก็มี ผมถึงบอกแค่เบื้องต้น

ผมเองเคยเจอ คบกะนายทุนตัวนึงในอดีต ที่หลายคนเตือนเลย ลักษณะถูกต้องครบในมหาบุรุษเลว ๆ คือ หัวหยิกคอสั้น ตอนนี้ เป็นนายทุนใหญ่ไปเลย สร้างพระขายหลายเพจพระ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การดูคน ว่ายากดูพระยากกว่าอีก มารศาสนาก็เพียบ

พระในศาสนาพุทธจริง ๆคือ พระอริยสงฆ์นะครับ นอกนั้นคือสมมติสงฆ์ แต่ปัจจุบัน ก็ตัวใครตัวมัน แล้วแต่บุญกรรม

ปัจจุบันดังหลวงปู่ท่านสอนผมไว้นับว่าจริงแท้ทุกประการ ผมเองช่วงเบื่อ ๆ รอคอยกำหนด ก็ส่องเพจพระไปเรื่อย จนบางทีเกิดอาการโลภก็มีอยากเช่า ซื้อเพิ่มแต่ก็เอะใจได้ว่า เอ๊ะ เริ่มจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนล่ะ เอามาก็ไม่ห้อย ห้อยก็เงียบ เบื่อ รกห้องไปอีก

ล่าสุดกลับไปอ่าน บทความพุทธานุภาพลี้ลับพระเครื่องอีกครั้ง ทบทวนความเข้าใจก็ตรงตามนั้นเลยครับขออ้างอิงมาดังนี้...


ไขความลี้ลับ พุทธานุภาพกับพระเครื่อง

ผมไปกราบนมัสการ ( ผมขอสงวนนามและฉายาของท่าน ) พระอาจารย์ในการปฏิบัติธรรมของผม เพื่อกราบเรียนถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติ และในโอกาสเดียวกันนี้ผมได้กราบนมัสการถามข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องพระพุทธคุณในพระเครื่องและเครื่องรางของขลังต่างๆ
สิ่งที่พระอาจารย์ ได้เมตตาอธิบาย ทำให้ผมได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นเป็นอันมาก ซึ่งผมคิดว่าไม่ควรจะเก็บเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวเพราะเมื่อทบทวนดูแล้ว เนื้อหาสาระน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สนใจ
ก่อนอื่น การที่เราพากันเรียกว่า พุทธาภิเษก นั้นไม่ถูกต้อง เพราะคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่แล้ว จึงไม่มีใครจะไปปลุกเสกท่านได้อีก อันที่จริงนั้น โบราณจารย์ ท่านใช้ คำว่า “ นั่งปรก “
เคยมีคนไปถาม หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต วัดบางแก้วผดุงธรรม อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
พระอริยสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับว่าทรงคุณธรรมขั้นสูง ( มรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ อายุ ๙๔ พรรษา ) ว่า เวลาท่านได้รับอาราธนานิมนต์ไปนั่งปรกนั้นท่านทำอย่างไร ท่านตอบว่า ก็ทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียวเฉยๆ และเข้าถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น ไม่ได้ไปปลุกเสก
พระอาจารย์ของผมท่านอธิบายต่อไปว่า ผู้ที่จะนั่งปรก วัตถุมงคลต่างๆได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่สามารถทำระดับของจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเข้าถึงกระแสแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงจะสามารถทำให้วัตถุมงคลต่างๆมีพลังอิทธิฤทธิ์ขึ้นได้
พลังที่จะลงไปอยู่ในพระเครื่องหรือวัตถุมงคลจะสูงหรือต่ำ แรงหรือไม่แรง เพียงไร ขึ้นอยู่กับ คุณธรรม ของผู้นั่งปรก หรือพูดง่ายๆว่า ระดับภูมิธรรมของ ผู้ที่ใส่พลัง ลงไปในวัตถุมงคล ซึ่งมีหลายระดับ เริ่มจากอริยบุคคลขั้นโสดาบัน ขึ้นไป จนถึงระดับพระอรหันต์ที่บรรลุมรรคผลนิพพาน
พลังหรืออานุภาพที่พระท่านบรรจุลงไปนั้น อาศัยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนจะให้สัมฤทธิ์ผลในทางใดนั้นท่านจะใช้พระคาถาเป็นสื่อ
พระคาถาที่กล่าวถึงนี้เป็นพระคาถา หรือ อักขระโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ที่พระเถราจารย์ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และส่วนใหญ่แล้วจะพบว่าเป็นคำสรรเสริญพระพุทธเจ้า หรือ หัวใจของพระคาถาต่างๆที่ปรากฏ ในพระไตรปิฏก เช่น พระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ พระคาถาอิติปิโส หัวใจต่างๆ พระคาถาที่เรียกว่า ตับพระไตรปิฎก และอื่นๆ ซึ่งเป็นมงคลคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในด้านต่างๆ
พระคาถา เหล่านี้แตกต่างจาก คาถาทางไสยเวทย์ หรือ เวทย์มนต์ดำ ( ซึ่งมักจะมีคำที่ไม่สุภาพ) และการบรรจุพลังลงในเครื่องรางของขลังในสายไสยเวทย์ก็จะใช้เวทย์มนต์คาถาแบบนี้ ของขลังแบบไสยเวทย์นี้ผู้บรรจุพลังลงไปเป็นแต่เพียงผู้ที่ได้ฌานสมาบัติซึ่งอยู่ในระดับโลกียฌานเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรมขั้นสูง
ที่กล่าวไปแล้วนี้คือเป็นสิ่งที่พระอาจารย์ท่านเมตตาอธิบายและผมเอาเผยแพร่ต่อเท่าที่ความรู้ทางธรรมขั้นต่ำๆอย่างผมจะสามารถเข้าใจได้
ต่อไปนี้คือข้อความที่ผมได้กราบนมัสการถามและพระอาจารย์ได้เมตตาให้ความกระจ่าง และผมได้พยายามเก็บความเท่าที่จะสามารถกระทำได้
ถาม พระเครื่องที่จะมีพระพุทธคุณคุ้มครองนั้นเราต้องอาราธนาหรือไม่
ตอบ การอาราธนานั้นคือการทำจิตให้ตั้งมั่นแบบหนึ่ง ดังนั้น จึงควรจะมีการทำจิตให้ตั้งมั่นก่อนเพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระ แต่สิ่งที่จำเป็นต่อการที่บุคคลจะได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธคุณ คือ ต้องมีศีลเสียก่อน อย่างน้อยที่สุดก็มีศีล ๕
ถาม เหตุใดพวกโจรผู้ร้ายบางคนก็ได้ข่าวว่ายิงไม่ออก ฟันไม่เข้า
ตอบ ส่วนมากแล้วพวกโจรหรือนักเลงหัวไม้นั้นจะใช้เครื่องรางประเภทคุณไสยซึ่งแม้ไม่มีศีล ๕ ก็อาจสามารถปกป้องคุ้มครองได้ และโจรผู้ร้ายบางคนก็ ถือ สัจจะ ซึ่งสามารถมีผลช่วยปกป้องได้บ้าง แต่เมื่อกระแสกรรมชั่วที่ก่อขึ้นสะสมก็ไม่อาจจะมีอำนาจใดๆมาปกป้องได้
ถาม พระเครื่องที่ได้รับการบรรจุพลังแล้ว เสื่อมได้หรือไม่ เคยได้ยินว่า ห้ามการลอดราวผ้า หรือนำไปในสถานที่ไม่บังควร
ตอบ พระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่ผ่านการสร้างโดยท่านผู้ทรงคุณธรรมอย่างสูงแล้วจะไม่เสื่อม พุทธานุภาพจะดำรงอยู่ในนั้น วัตถุที่สร้างนั้นเสื่อมสลายไป แต่ผู้ใช้ต้องมีศีลดังที่ได้บอกไว้แล้ว
ถาม วัตถุมงคลที่เป็นรูปสัตว์ สามารถคล้องคอรวมกับพระเครื่องได้หรือไม่ ( ผู้เขียนถาม โดยหมายถึงรูปหล่อหนุมานซึ่งเสกโดยหลวงปู่ ทิม อิสริโก )
ตอบ ได้ เพราะรูปสัตว์ต่างๆนั้นเป็นรูปสมมติ เว้นแต่ของขลังจำพวกชิ้นส่วนของสัตว์ เช่น หนัง เขา เขี้ยว ล้วนเป็นชิ้นส่วนของสัตว์เดียรัจฉานที่ท่านบรรจุด้วยคุณไสย จึงไม่ควรแขวนรวมกับพระเครื่อง
ถาม พระเครื่อง ใส่กระเป๋ากางเกงจะทำให้เสื่อมไหม
ตอบ ไม่ทำให้เสื่อม แต่การที่เอาพระไปใส่กระเป๋าในที่ต่ำนั้นเป็นอาการแสดงออกซึ่งการไม่เคารพในพระเครื่อง ซึ่งไม่ควรทำ
ถาม การอาราธนาพระสงฆ์เป็นจำนวนมากๆ มานั่งปรก พระเครื่องหรือวัตถุมงคลนั้นๆย่อมมีพลังแรงกว่าการนั่งปรกองค์เดียว ดังนี้ใช่หรือไม่
ตอบ พลังที่บรรจุลงไปจะแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับระดับคุณธรรมของผู้นั่งปรก ซึ่งถ้าพระสงฆ์ที่อาราธนานิมนต์มาไม่มีระดับคุณธรรมที่สูงถึงจุดที่สามารถเข้าสู่กระแสแห่งคุณพระแล้ว นั่งปรกกันสักกี่รูปพลังจะไม่เท่าพระที่มีคุณธรรมเพียงรูปเดียว
พระอริยะที่ท่านคุณธรรมสูง เมื่อท่าน “ บรรจุ “ พลังลงไป พลังที่เกิดจากคุณธรรมขั้นสูงของท่านจะลบล้างพลังของคุณธรรมที่บรรจุอยู่ก่อนแต่มีระดับผู้ทรงคุณที่ต่ำกว่า แต่ถ้าเป็นพระที่อยู่ในระดับภูมิธรรมสูงด้วยกัน พลังของท่านจะปรากฏเป็นหนึ่งของแต่ละองค์โดยไม่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ยกตัวอย่างเช่น พระเครื่ององค์นี้ผู้นั่งปรกองค์แรก เป็นอริยสงฆ์ระดับ อนาคามี ถ้าพระอรหันต์ซึ่งมีภูมิธรรมสูงกว่านั้น ทำการ บรรจุพลัง คุณธรรมอันสูงของท่านจะลบล้างพลังของเก่าที่มีคุณธรรมอันต่ำกว่า
พระภิกษุที่อยู่ในคุณธรรมระดับพระอรหันต์เพียงแต่ใช้เวลาแค่ไม่ถึง ๕ นาที ก็บรรจุพลังลงไปในพระเครื่องหรือวัตถุมงคลเสร็จแล้ว
ถาม เหตุใดจึงมีข่าวว่าหลวงปู่บางองค์นั่งปรกทั้งคืน
ตอบ ท่านก็นั่งเจริญพระคาถา เป็นประธานไปอย่างนั้น เพื่อฉลองศรัทธาที่มีคนอาราธนานิมนต์ไป ความจริงนั้นท่านใช้เวลาไม่ถึง ๕ นาทีก็เสร็จแล้ว
ถาม เหตุใดพระเครื่องแต่ละรุ่นของผู้นั่งปรกองค์เดียวกันจึงมีพลังหรือระดับของพระพุทธคุณไม่เท่ากัน
ตอบ ดังที่อธิบายแล้วว่า พลังของพระเครื่องและวัตถุมงคลขึ้นระดับของคุณธรรมของผู้ที่ปลุกเสก ว่าในขณะนั้นท่านอยู่ในระดับใด ดังนั้น พระของหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมของท่านในขณะนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเครื่องที่ท่านบรรจุพลังในระยะหลังๆจึงปรากฏว่ามีพลังสูงกว่ารุ่นแรกๆ ยิ่งถ้ารุ่นแรกห่างกันมากๆหลายปี ก็ยิ่งพบว่ารุ่นหลังมีระดับพลังสูงกว่า เพราะท่านมีการพัฒนาคุณธรรม หรือ ระดับแห่งจิตของท่าน
สรุป ผมคิดว่าสาระข้างบนนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ที่ศรัทธาในพระเครื่องทุกคน ที่่หวังพึ่งพระพุทธคุณเพื่อปกป้องตนเองจากภยันตรายต่างๆ


เครดิต

 

ไขความลี้ลับ พุทธานุภาพกับพระเครื่อง ( ๒ )

ยังมีบางประเด็นที่อาจจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สนใจเรื่องพระพุทธคุณแห่งพระเครื่อง
บทความในรูปของคำถามคำตอบต่อจากนี้ เป็นการสรุปความความเข้าใจของผมเอง เพื่อให้อ่านง่าย มิใช่การถอดบันทึกการสนทนาระหว่างผมกับพระอาจารย์ชนิดคำต่อคำ อรรถาธิบายบางเรื่องเป็นเรื่องที่ผมได้พบจากที่ต่างๆในการค้นคว้า
ถาม พระพุทธคุณในพระเครื่องมีเสื่อมหรือไม่
ตอบ พระเครื่องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพระพุทธคุณนั้น สำเร็จได้ด้วยอำนาจแห่งพลังจิตของพระอรหันต์ที่ทรงสภาวธรรมขั้นสูงแล้ว ไม่มีวันเสื่อมจนกว่าพระเครื่องหรือวัตถุนั้นๆจะเสื่อมสลายไปอันเป็นธรรมดาของโลก
ถาม เมื่อไม่เสื่อมแล้วเหตุใดบางคนจึงไม่ได้รับผลแห่งพระพุทธคุณในพระเครื่อง
ตอบ ดังที่เคยกล่าวไปในบทความก่อนแล้วว่า อิทธิฤทธิ์ของพระเครื่องนั้นสำเร็จได้ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และเป็นการ “ บรรจุ” หรือ “ สำเร็จ” ได้ด้วยอำนาจแห่งพลังจิตของพระอริยะ ผู้ทรงศีล ดังนั้น ผู้ที่อาราธนาคล้องพระเครื่องจักได้ผลก็ต้องมี ศีล ๕ เสียก่อน ถ้าไม่มีศีลเสียแล้วก็ไม่ได้รับผลใดๆ
หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า พระและของขลังของท่านผู้ใช้จะต้องอยู่ในศีลธรรมจึงจักได้ผล
อีกประการหนึ่ง คือ เร่ืองของกรรม เมื่อกรรมทั้งของเก่าและที่สร้างใหม่ส่งผล และหมดอายุขัยแล้ว พระเครื่องหรือของขลังใดก็ช่วยไม่ได้ องค์ผู้บรรจุพลังคุณวิเศษก็ยังต้องตาย
ถาม จริงหรือที่ว่าพระเลี่ยมอัดกรอบพลาสติกกันน้ำ จะทำให้พระพุทธคุณแผ่ออกมาคุ้มครองไม่ได้
ตอบ ข้อที่พูดกันนี้ผมเคยได้ยินมาเช่นกัน เป็นเรื่องน่าขันมากที่พากันคิดไปเช่นนั้น พุทธานุภาพเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรมากั้นขวางได้ เพราะเป็นเรื่องเหนือโลกและไม่อาจจะอธิบายทางวิทยาศาสตร์
ถาม ถ้าเครื่องรางประเภทคุณไสย ผู้ที่นำติดตัวไม่ต้องรักษาศีล ๕ เหมือนคุณพระเช่นนั้น พวกเราพากันหาพระเครื่องหรือเครื่องรางเช่น ตะกรุด ขลังๆด้านไสยเวทย์มาคุ้มตัวไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องศีล
ตอบ สิ่งที่มีอิทธิฤทธิ์ด้านไสยเวทย์นั้นเป็นของต่ำกว่าคุณพระศรีรัตนตรัย การบรรจุพลังด้านไสยเวทย์แบบนี้ผู้ที่มีภูมิจิตเพียงระดับ โลกียญาณ เช่น กสิณ ก็สามารถทำได้แล้ว
เครื่องรางประเภทไสยดำนี้ มีคนเลื่อมใสอยู่มาก ยิ่งเป็นประเภทสักยันต์ ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า เสน่ห์มหานิยม จะมีคนนิยมมาก สาเหตุหนึ่งน่าจะเป็นเพราะผู้ที่ใช้ไม่จำเป็นต้องมีศีล ๕ แต่อาจมีข้อห้ามแปลกๆบางอย่างแตกต่างกันไปตามสำนัก เช่น ห้ามกินอาหารบางอย่าง ห้ามลอดราวตากผ้า ฯลฯ
อำนาจของเครื่องรางหรือพระเครื่องที่ทำขึ้นด้วยไสยดำนั้น เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับพระพุทธคุณในพระที่สำเร็จด้วยอานุภาพของคุณพระศรีรัตนตรัยซึ่งได้บรรจุ “ ลง “ ไปในพระเครื่องด้วยพลังจิตหรือการอธิษฐานของพระอริยะสงฆ์ พวกเครื่องรางไสยดำจึงไม่ควรแขวนกับพระเครื่องชั้นสูง
เครื่องรางแบบไสยดำส่วนมาก ทำให้คนใช้เกิดความฮึกเหิม ไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรม นานวันเข้าหรือละเมิดข้อห้ามบางอย่างก็พลอยตกอยู่ภายใต้อำนาจมืดของคุณไสยเหล่านั้นเสียเอง และมักจะมีแนวโน้มที่จะประกอบกรรมเวรต่อไปเรื่อยๆ จะสังเกตได้ว่า ผู้ที่ใช้เครื่องรางประเภทคุณไสยมักมีใบหน้าหมองคล้ำ ไม่มีราศี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ไสยดำเหล่านี้ไม่อาจทำอันตรายแก่ผู้ที่มีคุณพระคุ้มครองอยู่ได้เลย
ถาม เหตุใด พระอริยะสงฆ์บางองค์จึงสร้างเครื่องราง เช่น ตะกรุด หรือวัตถุรูปสัตว์ต่างๆ
ตอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะของท่านที่เราไม่อาจทราบได้ อาจเป็นเพราะพระสงฆ์บางรูปท่านศึกษาด้านไสยเวทย์มาก่อน ท่านจึงสร้างขึ้นเพื่อสนองศรัทธาลูกศิษย์ และเพื่อให้ทำความดี แต่เท่าที่ทราบ พระสงฆ์ที่มีระดับภูมิธรรมสูง เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่ทิม อิสริโก พระและตะกรุด เครื่องรางของท่านมีพระพุทธคุณในระดับโลกุตร ทั้งนั้น ไม่ปรากฏว่ามีคุณไสยบรรจุอยู่เลย และท่านจะย้ำว่าให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม
พระคาถาที่ บรรจุลงไปในเครื่องรางบางประเภทนั้นจะไม่นิยมบรรจุลงไปในรูปพระซึ่งเป็นรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น คาถาเกี่ยวกับการถอดถอนคุณไสย ป้องกันลมเพลมพัด ซึ่งพบในเบี้ยแก้ พระคาถาสุริยประภา และจันทรประภา ซึ่งโบราจารย์ท่านบรรจุลงไปในเคร่องรางรูปราหูอมจันทร์ เป็นต้น
เครื่องรางที่มีชื่อเสียงสมัยโบราณ เช่น เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น เบี้ยแก้สำนักวัดนายโรง หรือ วัดกลางบางแก้ว หรือสำนักวัดโบสถ์ อ่างทอง ราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อยก็ล้วนแล้วแต่สำเร็จด้วยพระพุทธคุณทั้งสิ้น หาใช่ไสยศาสตร์ไม่
ถาม ควรจะเลือกแขวนพระเครื่ององค์ใด
เรื่องพระพุทธคุณของพระเครื่องไม่มีใครสามารถบอกได้ ยกเว้นท่านที่มีคุณธรรมทางจิต และต้องเป็นระดับสูงเท่านั้น พูดภาษาชาวบ้านก็ คือ ต้องเป็นจิตของผู้ที่พ้นไปแล้วหรือจิตของพระอรหันต์นั่นเอง จิตในระดับโลกิยญาณอาจตรวจสอบได้แต่มีโอกาสที่จะผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง หรือ พูดง่ายๆว่าถูก “ จิต “ ของตนเองสร้างภาพขึ้นมาเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ที่สามารถตรวจสอบอย่างแท้จริงจึงหาได้ยากมาก
ดังนั้น การที่เราเชื่อว่าพระเครื่องดีทางนั้นทางนี้ก็ด้วยประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าที่บอกกันต่อๆมา เช่น พระรอด บอกกันมาว่าท่านเป็นเลิศในทางแคล้วคลาด พระซุ้มกอท่านมีพุทธคุณทางอำนวยลาภผล ความเจริญ หรือ พระท่ากระดาน ทางดีทางมหาอุตม์ คงกระพันชาตรี ดังนี้เป็นต้น
ต้องไม่ลืมว่าในยุคเก่า ยังไม่มีพุทธพาณิชย์ที่มีการจัดตั้งเป็นระบบเครือข่ายดังทุกวันนี้ พระเครื่องที่มีชื่อเสียงทุกองค์ล้วนแล้วแต่เป็นพระที่สำแดงพุทธานุภาพให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คน ครั้งแล้วครั้งเล่า หาใช่เพียงแต่การประโคมข่าว ลงหนังสือ หรือ โฆษณาโดยผู้สร้างพระดังที่พบเห็นกันในยุคปัจจุบัน

อ้างอิง

 

ไขความลี้ลับ พุทธานุภาพกับพระเครื่อง ( ๒ )
ผมได้เล่าถึงพระพุทธคุณกับพระเครื่อง ซึ่งสรุปจากการสนทนากับพระอาจารย์ของผม หลังจากนั้น ผมได้มีโอกาสสนทนากับท่านอีกหลายครั้งในระหว่างการปฏิบัติธรรม และได้ใช้โอกาสนี้กราบเรียนถามเพิ่มเติม
ยังมีบางประเด็นที่อาจจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สนใจเรื่องพระพุทธคุณแห่งพระเครื่องจึงได้เขียนขึ้นเพิ่มเติม
ขอเรียนว่า ผมเขียนบทความนี้ในรูปของคำถามคำตอบต่อจากนี้ เป็นการสรุปความความเข้าใจของผมเอง หาใช่การถอดบันทึกการสนทนาระหว่างผมกับพระอาจารย์ชนิดคำต่อคำ อรรถาธิบายบางเรื่องเป็นเรื่องที่ผมได้พบจากที่ต่างๆในการค้นคว้า การเขียนในลักษณะนี้ก็เพื่อให้อ่านง่ายเป็นประเด็นๆไป หากเป็นเรื่องที่ผมเข้าใจผิดก็ขอให้ถือว่าเป็นความผิดพลาดของผมแต่ผู้เดียวเท่านั้น
ถาม พระพุทธคุณในพระเครื่องมีเสื่อมหรือไม่
ตอบ พระเครื่องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพระพุทธคุณนั้น สำเร็จได้ด้วยอำนาจแห่งพลังจิตของพระอรหันต์ที่ทรงสภาวะธรรมขั้นสูงแล้ว ไม่มีวันเสื่อมจนกว่าพระเครื่องหรือวัตถุนั้นๆจะเสื่อมสลายไปอันเป็นธรรมดาของโลก
ถาม เมื่อไม่เสื่อมแล้วเหตุใดบางคนจึงไม่ได้รับผลแห่งพระพุทธคุณในพระเครื่อง
ตอบ ดังที่เคยกล่าวไปในบทความก่อนแล้วว่า อิทธิฤทธิ์ของพระเครื่องนั้นสำเร็จได้ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และเป็นการ “ บรรจุ” หรือ “ สำเร็จ” ได้ด้วยอำนาจแห่งพลังจิตของพระอริยะ ผู้ทรงศีล ดังนั้น ผู้ที่อาราธนาคล้องพระเครื่องจักได้ผลก็ต้องมี ศีล ๕ เสียก่อน ถ้าไม่มีศีลเสียแล้วก็ไม่ได้รับผลใดๆ นี่เป็นภาคบังคับ
หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า พระและของขลังของท่านผู้ใช้จะต้องอยู่ในศีลธรรมจึงจักได้ผล
ถาม ถ้าผู้ใช้ต้องมีศีลแล้ว เหตุใดจึงมีข่าวว่าโจรผู้ร้ายบางคนในสมัยก่อนบางคน คงกระพัน
ตอบ สันนิษฐานว่า โจรผู้ร้ายนั้นใช้เครื่องรางและพระเครื่องที่บรรจุพลังด้านไสยเวทย์ ซึ่งถ้าดวงชะตายังไม่ถึงฆาตและกรรมยังไม่หนักมาก เครื่องรางที่สำเร็จด้วยคุณไสยเหล่านี้ก็อาจคุ้มครองได้ในระดับหนึ่ง
ถาม ถ้าเช่นนั้น พวกเราพากันหาพระเครื่องหรือเครื่องรางเช่น ตะกรุด ขลังๆด้านไสยเวทย์มาคุ้มตัวไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องศีล
ตอบ สิ่งที่มีอิทธิฤทธิ์ด้านไสยเวทย์นั้นเป็นของต่ำกว่าคุณพระ การบรรจุพลังด้านไสยเวทย์แบบนี้ผู้ที่มีภูมิจิตเพียงระดับ โลกียะญาณ เช่น กสิณ ก็สามารถทำได้แล้ว หากพิจารณาให้ดี คุณไสยต่างๆ เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตเจริญขึ้น มีแต่จะก่อเกิดความฮึกเหิม ก่อกรรมใหม่ๆ จะสังเกตว่าเครื่องรางหรือพระที่บรรจุพลังด้านนี้มีข้อห้ามแปลกๆ และจะมีการเสื่อมถ้าผิดข้อห้าม พลังคุณไสยไม่ได้สูงส่งแบบอำนาจของพระพุทธคุณ ผู้ที่พกเครื่องรางของขลังแบบไสยเวทย์ ถ้าถูกคนที่มีความรู้ “ คัด” เอาของออกก็หมดสิ่งป้องกัน
ถาม เหตุใด พระอริยะสงฆ์บางองค์จึงสร้างเครื่องราง เช่น ตะกรุด หรือวัตถุรูปสัตว์ต่างๆ
ตอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะของท่านที่เราไม่อาจทราบได้ อาจเป็นเพราะพระสงฆ์บางรูปท่านศึกษาด้านไสยเวทย์มาก่อน ท่านจึงสร้างขึ้นเพื่อสนองศรัทธาลูกศิษย์ และเพื่อให้ทำความดี แต่เท่าที่ทราบ พระสงฆ์ที่มีระดับภูมิธรรมสูง เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่ทิม อิสริโก พระและตะกรุด เครื่องรางของท่านมีพระพุทธคุณในระดับโลกุตร ทั้งนั้น ไม่ปรากฏว่ามีคุณไสยบรรจุอยู่เลย และท่านจะย้ำว่าให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม
ถาม การที่พระพระเครื่องของพระคุณเจ้ารูปต่างๆ รุ่นแรกได้รับความนิยมสูงกว่าพระเครื่องรุ่นหลัง เป็นเพราะเหตุใด
ตอบ น่าจะเป็นเพราะความเชื่อว่าพระรุ่นแรกมีความเข้มขลังกว่ารุ่นหลัง
เรื่องนี้ เคยกราบนมัสการถามท่านอาจารย์ คำตอบสรุปได้ว่า ถ้าจะพูดถึงความเข้มข้นหรือ “ พลัง “ ในองค์พระ พระรุ่นหลังมักมีพลังมากกว่ารุ่นแรก เพราะพระอริยะสงฆ์ท่านก็มีพัฒนาการทางจิตของท่านสูงขึ้นตามลำดับ ดังนั้น พลัง หรือ อำนาจ ที่ท่านบรรจุลงไปในพระเครื่องจะสูงต่ำ หรือ เข้มข้นเพียงใดก็เป็นไปตามภูมิธรรมของท่านในขณะนั้น
พบว่าพระเครื่องของพระสงฆ์หลายรูป ที่ท่านอธิษฐานจิตรุ่นหลังๆ จะมีระดับชั้นของพลังสูงกว่ารุ่นแรกเสมอ ยิ่งห่างกันหลายปีรุ่นหลังก็มีพลังเพิ่มสูงขึ้นเพราะภูมิธรรมของท่านที่สูงขึ้น
ถาม พระเครื่องที่มีการโฆษณาว่าปลุกเสกตลอดคืน หรือ ปลุกเสกตลอดไตรมาส จะมี “ พลัง “ แรงกว่าพระเครื่องที่ปลุกเสกระยะสั้นๆหรือไม่
ตอบ ดังได้กล่าวไปแล้วว่า พลังของพระเครื่อง หรือพูดง่ายๆว่า “ อิทธิฤทธิ์” ของพระเครื่องนั้น ขึ้นอยู่กับภูมิธรรมของพระอริยะเจ้าผู้ “ บรรจุ “ พลังแห่งพระพุทธคุณลงไป ถ้าจะพูดสั้นๆคือ การบรรจุพลังของพระอรหันต์ระดับสูงจริงๆนั้นใช้เวลาเพียงแค่ ๑ หรือ ๒ นาที พระเครื่องนั้นๆก็เต็มเปี่ยม สูงส่งตามภูมิจิตภูมิธรรมของท่าน
ถ้าพระเครื่ององค์นั้นถูกบรรจุ หรือ มีพลังอยู่บ้างแล้ว โดยพระสงฆ์ที่ภูมิธรรมต่ำกว่า พลังในระดับที่ “ อ่อน “ กว่า ก็จะถูก “ ลบ “ โดยพลังจิตของพระที่ทรงภูมิธรรมสูงกว่า
แต่ถ้าพระอรหันต์ในระดับเดียวกัน พลังแห่งจิตนั้นก็จะถูกบรรจุลงไปในพระเครื่องเป็น ๒ พลัง ไม่มีการลบล้างกัน
ถ้าพระสงฆ์ที่ไม่มี “ ภูมิธรรม “ หรือภูมิธรรมไม่ถึงขั้น จะปลุกเสกกี่คืน หรือกี่ไตรมาส ก็จะไม่มีพลังบรรจุลงไปในพระเครื่องนั้นๆเลย แม้แต่น้อย
ผมเคยไปกราบหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ตอนท่านยังดำรงขันธ์อยู่ เวลาทำน้ำมนต์สนองศรัทธาคนที่ไปกราบ ท่านนั่งรถเข็นแค่มองไปที่ปี๊บบรรจุน้ำที่เรียงรายเป็นสิบๆลูก ไม่ถึงนาทีหนึ่งแล้วก็ทำท่าเหมือนท่านเป่าปาก เพี้ยงเป็นอันเสร็จ
พระที่ผมเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยะระดับสูงในทุกวันนี้( ขอไม่ระบุนาม ) ผมก็เห็นท่านทำคล้ายๆอย่างนี้ ไม่ได้เห็นท่านนั่งปรกทั้งคืน ส่วนที่บอกว่าปลุกเสกตลอด ไตรมาส หรือจัดพิธีนั่งปรกตลอดคืน นั้นเท่าที่ผมเห็นมักจะเป็นคนที่สร้างพระนั่นแหละ นำพระไปไว้ให้ท่านในโบสถ์ หรือ ในกุฏิท่าน ขอให้ท่านปลุกเสกทั้งพรรษา หรือตลอดคืน ทั้งนี้ เพื่อหวังว่าหากท่านปลุกเสกนานๆพระเครื่องจะเข้มขลังกว่าปกติ ท่านก็สนองศรัทธา

อ้างอิง

 

ดังบทความเหล่านี้ให้ความรู้ความเข้าใจ ซึ่งตรงกับที่ผมได้ศึกษามา... แต่ทั้งนี้คือในแง่ของพระเครื่องนะครับ

สำหรับเครื่องรางต่าง ๆ ก็มีความกระจ่างได้ถูกต้อง ตามแนวทางของเรา

ดังหลวงปู่ได้สอนผมมาแล้วว่า คาถาอาคมต่างๆ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าใช้ในทางโลกียซะส่วนใหญ่เช่นให้เมตตา แคล้วคลาด เสน่ห์ หรือคุณไสย มนต์ดำ มหาปราบต่างๆ ก็มาจากศาสนาพราหมณ์

ศาสนาพราหมณ์มีมาก่อนศาสนาพุทธนะครับ ซึ่ง อ้างอิงการขออำนาจเทพเจ้า อำนาจอื่นๆ เพื่อมาช่วยเหลือตัวเรา และเบี่ยงชะตากรรม เลี่ยงกรรมซึ่งเขาเชื่อของเขาอย่างนั้น...

ศาสนาพุทธ จะให้พึ่งตนเอง ดังคำว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พุทธแท้จึงไม่มีทำวัตถุมงคล ของขลัง นอกจากขัดศรัทธาลูกศิษย์ไม่ได้ก็ทำให้ แต่.... ก็จะมีข้อแม้คือต้องอยู่ในศีล 5 เป็นอย่างน้อยถึงได้ผล

ผลแห่งการดึงอำนาจพุทธคุณแท้จึงอยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญ ที่เห็นได้ชัดคือเมตตา ถ้าเราไม่ไปด่าใครก่อนนะ และคุ้มครองกันภัย (ถ้าเราไม่ไปรุกรานคนอื่นก่อนนะ) จนกว่ากรรมจะมานั่นล่ะครับ อมพระสมเด็จก็ไม่รอด...

ทีนี้ หลักการสร้างตะกรุดสายปราบเราก็ ใช้แนวทางนี้ คือ ดึงพลังฆราวาส คาถาอาคมลงให้สุดก่อน แล้วขอพระอริยเจ้าสายปราบตบท้าย

ดังที่ปรึกษาเคยบอกมาแล้ว "เวลาดวลกัน เขาจะเลาะกันเป็นเปราะ ๆ ชั้น ๆ สุดท้ายฆราวาสก็แพ้พระอริยอยู่ดี"

แน่นอน ต้องลงปิดด้วยพระอริยเจ้าสายปราบนะครับ คือ ท่านมาสายฆราวาสก่อน หรือ เล่นคาถาอาคมมาก่อน แบบอำนาจตบะเดชะท่านสูง ชนิดที่พระด้วยกันยังกลัวเกรงท่านนั่นล่ะครับ ถึงตรงแนวทาง

ถามว่าจะมีเก่งกว่านี้ไหม ที่ปรึกษาว่า "มีแต่หลวงปู่ใหญ่แล้วล่ะ !!!!" แต่ทั้งนี้ระดับหลวงปู่ใหญ่ไม่มายุ่งแนวนี้แล้วล่ะครับ...

คาถาอาคมเห็นได้ชัด ว่าจะมีข้อห้าม ข้อแม้ หรือต้องไหว้ครูกันทุกปี เพื่อคงรักษาไว้ซึ่งอำนาจ... และทำบุญให้ครูบาอาจารย์เสมอ ดังคำว่า "ของฟรีไม่มีในโลก..."

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการนำตะกรุดเครื่องรางต่าง ๆ มาช่วยส่งเสริมชีวิตเรานั่นล่ะครับให้ แก่กล้าในทั้งทางโลกและบารมี จนเราสามารถพึ่งตัวเอง เอาตัวรอดปลอดภัยได้ สร้างกรรมดีมาก ๆ กรรมไม่ดีจะได้ไล่ตามไม่ทัน หรือ เบี่ยง ปัด เลี่ยงไปนั่นเอง...

 

ณ ตอนนี้ ผมนับวันรอ รอ ร๊อ รอ จนลิ้นแทบห้อย ยาวนานจริงวุ่ย

บางท่านบอกเสกนานจัง ทุกทีเสกกันเร็วปานจรวด ใช่ครับ ...

จะเสกวันเดียว 3 วัน อาทิตย์นึงก็ย่อมได้ ผมส่งไป ลำพูน ป่านี้เสร็จไปแล้ว แบบ V 2 ....

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดังบอกเจตนาไป "ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา"

รุ่นทิ้งทวนสุดท้ายแล้ว ก็ไม่กล้าบอกว่าสุดท้ายตลอดไปนะ อย่างน้อยปีนี้ไม่สร้างอีกแน่ ผมอยากให้ถึงระดับ "ไร้เทียมทาน" ชนิดที่ว่าจะไม่มีโอกาสสร้างให้เหนือกว่าอีก...

แต่หากมีท่านใดทำได้ที่เหนือกว่าจริงๆ ผมจะยินดีมาก ผมจะขอเช่าขอบูชาด้วย...55 (เป็นผู้บริโภคดีที่สุด...)

แน่นอน นิสัยผมผมรู้ดี แบบศิลปิน ไม่มีอารมณ์ไม่ทำ เพราะผมไม่ได้มาขายของ ผมมีอาชีพทำมาหากินปกติ ไม่ได้ถึงกับรวยนะ ยังผ่อนรถอยู่ครับ 55 ผมสร้างเพราะชอบ...

แต่สำหรับนักชอป ไม่ต้องห่วง เพราะเดี๋ยวของวัดหมูเปิ้งมีเป็นระยะ ๆ ครับ... จะมาแจ้ง หรือตามเฟสวัดก็ได้...

สรุป อีก 1 อาทิตย์ครับ ผมไม่เปิดจองทางการเพราะกลัวพลาดแบบชุดพระสมเด็จ คือ รับจองก่อนได้พระ สุดท้ายพระนอ้ยกว่าการจอง ต้องลดยอดท่านท้ายๆ เลย

โปรดรอครับ... รุ่นทิ้งทวนนี้สร้างน้อยกว่าเดิมมาก เพราะ...สร้างยากมากครับไม่เหมือนพระสมเด็จ กดทีเดียวได้เลย ไม่มีรายละเอียดมาก

แต่รุ่นทิ้งทวน V1 นี้รายละเอียดมาก บางองค์กว่าจะกดได้ 1 องค์เล่นไป 5 ครั้ง คือไม่สวยยุบทำใหม่ สุดท้าย พิมพ์ท้ายๆ ได้น้อย หมดแรงซะก่อน

แล้วหากตอนไปรับ พระหาย พระแตกหักยุ่งเลย ... ย้ำ ผมนับวันรอเพราะจะเสกให้ไร้เทียมทาน 49 วัน ครบสูตรแห่งสายสำเร็จลุน....

 

กำหนดรับพระ 4-5 กรกฎาคม ถ้าไปรับเองได้จะไป นอกจากมีเหตุให้ไปไม่ได้ก็ขอให้ทางวัดส่งมาให้ครับ....

จากความสำเร็จในพระสมเด็จมหาโภคทรัพย์ ต่อยอดมารุ่นนี้คือ มหาเดชะบารมี....

ถือว่ารวบรวมความรู้ เกศา มวลสารต่างๆ ่ ที่เข้มข้นกว่าเดิมมากหลาย...

ผมเฝ้าค้นหาคำสอนหลวงปู่ท่านมาซะนานนม โดยเฉพาะ ที่ท่านบอกว่า "หลวงปู่ลงอนุสาสนีปาฏิหารย์ไว้ด้วย ฯ)ในชุดกายสิทธิ์ทิ้งทวน

จึงต้องการดึงพลังออกมาให้มากที่สุดนั่นเอง และเป็นปริศนาธรรมต่อไป...

จึงขอนำทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ในรุ่นนี้ครับ ถึงเสกกันนานจนลิ้นห้อย นับวันรออย่างทรมาณสุด ๆ

 

จากเรื่องราวของ อ.ไพฑูรย์ที่ดวลปืน กับขุนฯ ท่านนึงที่ห้อยพระสมเด็จ และดวลกับโจรยิงไม่ออกมาตลอด แต่เจอ อ.ไพฑูรย์คัดด้วยคาถาคัดของ จนขุนท่านนั้นโดน อ.ไพฑูรย์ยิงจนตาย

เรื่องนี้หากว่ากันเคยปรึกษาที่ปรึกษาก็ว่า "ชะตาขาดแล้ว"

จริงๆ ที่ปรึกษาเคยคุยกับครูบาระดับสูงสุดได้แยกแยะไว้ว่า "ครูบาบอก พระกับตะกรุดต้องแยกกันนะ ในเรื่องพลังและการใช้งาน"

พระจะเป็นด้านโภคทรัพย์ความรุ่งเรือง ซึ่งตรงกับปี 2543 ที่ผมเคยเล่าตอนสร้างหลวงปู่ใหญ่ วิเคราะห์กระแสพลังพระกันในทัวร์รอบนั้น ที่ได้พบ ครูบาอิน อินโท หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทาง และครูบาบุญปั๋น...

"พลังพระเครื่องจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตามกระแสพระ"

ตัวผมเองเคยพบเจอตัวเอง 2 รอบในเรื่องกระแสพระส่งผลต่อชีวิต เรียกว่าพอเห่อพระใหม่ๆ เปลี่ยนห้อยปุ๊ป กระแสกรรมมาแทรกเลย ทำให้ทุกวันนี้ผวาเลย ไม่กล้าเห่อเปลี่ยนพระพร่ำเพรื่อ...

ดังนั้น สุดท้ายการเห่อพระสะสมมายาวนาน จนเห่อการดูพลังพระเครื่องมาจบที่ในชุดนี้ล่ะครับ ในชุดสมเด็จมหาโภคทรัพย์ ซึ่งชัดเจนแน่นอนชนิดที่ที่ปรึกษายังการันตี...

คือมีพลังแนวทางหลวงปู่โต และรวมมวลสารพระสกุลลำพูนที่ การันตีว่า คัดไม่ได้... เรื่องราว อ.ไพฑูรย์เล่าชัดเจนว่ายิงไม่ออกจริงๆ ...

ไม่นับมวลสารอื่นที่เด็ดดวง มากมายมหาศาลจนขี้เกียจบรรยาย... แค่แร่กายสิทธิ์ผมทุ่มเทไปมากมายเสาะหามาเอง ปีนเขาปีนถ้ำเองก็ลิ้นห้อยแล้ว..

ไม่นับครูบาอาจารย์ที่เสกท่านการันตีมานะครับว่าสุดยอดแค่ไหน ดังท่านเจ้าคุณกล่าวว่า "สร้างมาได้ถูกที่ถูกเวลามาก"

ในรุ่นทิ้งทวนก็เช่นกัน จึงต้องฝากผลงานไว้... ตอนนี้เตรียมสตาร์ทรถล่ะครับ รอนับวันเท่านั้น นอกจากมีเหตุไปไม่ได้ก็ขอทางวัดส่งมาให้...

ต้องเอาให้ไร้เทียมทานไปเลย...

 

การสร้างกริชปราบไตรจักรทิ้งทวน เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน

ไม้พญางิ้วดำที่ได้ทำฝักได้นำเสกด้วย 7 วันส่งไปให้ที่ปรึกษาดูถึงลำพูน

"สุดยอดอภิมหาพิสดาร โคตรไร้เทียมทาน มหาอำนาจมหาปราบไร้เทียมทานจริง ๆ "

นั่นคือเสก 7 วันนะครับ.... เหตุที่ต้องส่งไปให้ดูของจริงเพราะ ดูพลังจากภาพไม่ได้ครับ คือจะดูเหมือนไม่แรง โดนอั้น โดนบังการดูกระแสทุกรุ่นเลย

ท่านซ่อนการดูไว้ลึกล้ำจริง ๆ.... ใครกิ๊กก๊อก ๆ ไปดูว่าแรงไม่มาก แรงใช้ได้ เจอกรรมปรามาสไปเลย ตัวใครตัวมัน...

กริชรุ่นนี้ผมเองมีแต่ต้นแบบเท่านั้นเอง 555 เกลี้ยง

งานนี้เลยคัดสรร ขอเสกแบบเต็มสูตร 49 วัน ครบตำราของท่าน....เพื่อรวมธาตุจากมวลสารที่สุดยอดเสกมาทั่วสารทิศ ใต้เหนือ กลางครบทุกภาคให้เป็นหนึ่งเดียว เน้นความถนัดของท่านคือ มหาปราบมหาอำนาจแบบโคตรไร้เทียมทาน

 

ส่วนนึงที่ผมรู้สึกอิ่มตัวจนตั้งใจจะถอนตัวแล้วเพราะเหตุนี้ด้วยเช่นกัน คือ พอแล้วครับ

ตะกรุดมหาระงับทศทิศสร้าง 2 รุ่น รุ่นแรกเป็นทองคำผสมชนวนตะกรุดทองคำเก่าครูบาข่ายและทองคำจากสร้างตะกรุดรุ่นก่อนๆ ที่เสกมาจนเหลือคณา... รู้สึกสร้าง 7 ดอกเองมั่ง...

ส่วนมหาระงับทศทิศรุ่น 2 สร้างพร้อมตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ ซึ่งเป็นแผ่น Butterfly คือผสมชนวนมากมายหลอมรีดมา

บางท่านบูชาไปจนจำไม่ได้ 555

ทั้งนี้โดยสรุป ผมเลยกล้าคุยว่า สายเราเป็น "เจ้าแห่งตะกรุด" แล้ว (ขอยอของตัวเองนิด)

ตะกรุดมหาระงับผมห้อยติดคอเลย ในภาพคือชุดที่ใช้บ่อยสุด นอกจากเดินทางใช้อีกชุด หากสบายๆ ก็ใช้ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์



ตะกรุดมหาระงับผมเสาะหามายาวนาน เพราะเกี่ยวเนื่องกับชีวิตการทำงานด้วย ตัดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง คดีความ

เคยเช่ามาแพง ๆ ก็ดอกละ 5,000 ของหลวงพ่อสมภพหลายปีก่อน ก็ใช้ได้ผล แต่ดอกใหญ่ไป ไว้แช่น้ำมนต์อาบตามตำราจะดีสุด (ปัจจุบันไม่ต่ำกว่า หมื่น)

ส่วนมหาระงับดอกละหมื่น สำนักดัง เคยคิดจะเอาไปฟัดจอง แต่พอแล้ว ของหลวงพ่อสมภพก็ไม่แพ้กัน....

แต่ทีนี้ มาเจอของสายเรา จบแค่นี้เลย พกพาง่ายและได้ผล

หลักการคือใช้วิชาสายฤาษีจะได้ผลดีสุด เพราะบางทีเราทำพลาดเอง หากใช้สายพระอาจจะไม่ค่อยช่วยเท่าไร55

สรุป ผมห้อยติดคอดังภาพจนพลาสติกเริ่มเสื่อมล่ะ แต่ก็คงใช้ได้่ยาวนานเป็นสิบปีล่ะครับ ค่อยเปลี่ยนกรอบ

หมายเหตุ ระวังครั่งบอบบางมากจะตกแตกเอาได้