ด่านอื่นพอว่านะ..อสุภะนี่...ตกม้าทุกทีเฮ้อ...:'(
นิทาน เรื่อง "พญานาค"
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.
หน้า 552 ของ 1157
-
คุณมุกมิก หายไปไหนล่ะคุณงุบงิบ
สงสัยกลับไปฟังเสียงคลื่น ในหน้าที่ผ่านมา สำลักคลื่นแล้วล่ะมั้ง มุกมิก
แพะะะะๆๆ... (ลูกคอ) ^^ -
เพราะว่ามันจะเห็นอยู่อย่างนี้ ไม่ว่าจะเรื่องทุกข์ เรื่องไม่มีตัวตน เรื่องความไม่เที่ยง ก็จะเห็นอยู่อย่างนั้น ซ้ำๆ ตั้งแต่พิจารณาไม่เป็น จนเอะใจแล้วจับขึ้นมาพิจารณาจากหยาบไปสู่ละเอียด ตั้งแต่ไม่ได้ตั้งใจ จนตั้งใจพิจารณาอย่างจริงจัง เดี๋ยวนี้ก็เลยชินไปเลย คือกลายเป็นธรรมดาไปทุกเรื่อง -
นั่นจิ๊...คุณมุกมิกไปไหนอ๊ะ...:cool:
-
-
-
:cool: สงสัยจะได้เวลานอนละจ้า....
จะหนีเที่ยวคืนนี้อ๊ะ..อิอิ... -
มิก เม้นท์หน่อยจิ เดี๋ยวเราก็จะไปเ่อ่เอ้แล้วเหมือนกัน
-
-
ไปไหนดีค่ะ..คุณนุ๊ก อิอิ..ไว้พบกันในฝันค่ะ...
เอ่อ..คุณมุกมิก..พี่แพะไปด้วยกันไหมคะ.. -
-
โอ้ย ยุคนี้ หากใครที่ยังโสด แต่ทว่ายังอยากที่จะมีครอบครัว ก็โง่ตามพิกัด ล่ะหว่า
ทองก็แพง หากมีลูก ไหนจะนมกระป๋องก็อย่างแพง พอโตมาหน่อยไหนจะต้องเส้นแป๊ะเจี๋ย
อีกทั้งต้องผจญภัยในสังคม ยาเสพติดก็เยอะ
พอใช้เนตเป็นหน่อย เล่นฟ้องครูอังสุมาริน ลงยูตูบ นั่นเลย
ใครมีลูกเป็นหญิง นั่นก็งามหน้านักสมัยนี้ มีอะไรโชว์ โชว์
ถ้าเป็นคนอื่นเค้าจะบอกว่านั่น อาหารตา แต่หากเป็นลูกหลานล่ะบอกอายชาวบ้าน ก็เป็นซะอย่างนี้ล่ะ โลก
พอเห็นโลกรอบๆตัวแล้ว จิปาทะสาระพัด โสดนั่นแหละดี ไม่้ต้องมีบ่วงอะไรมากมาย
หากยังอยากจะเสพสุข โน้นบนสวรรค์ชั้นฟ้าโน้น สิ่งที่ละเอียดยังมีอยู่
เพราะหากยังไม่สิ้นกิเลสในชาตินี้ พยายามสั่งสมบุญกุศล และสติปัญญา
เจริญในไตรลักษณ์เ้ข้าไว้ ให้เป็นอุปนิสัยสืบต่อในอินทรีย์บารมี
ไม่เห็นรึบ้างคู่ แต่งกันจนมีลูกเข้าโรงเรียนได้ กลับแยกทางกันซะนี่
แล้วยังมีหน้ามาบอกว่า คุณแม่ยังสวย เป็นซะอย่างนั้นล่ะ คำรบสอง
มองพิจารณาไปที่โทษ นั่นแหละดี แต่ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย เสียทุกอย่าง
ส่วนมากแล้ว ก็โลกมันเป็นอย่างนี้ล่ะเนาะ ^^ -
ป๊าดดด และแล้วปี้หม้อ...ก็ป้อนธรรมะหื้อน้องๆ ก่อนนอนซะแล้ว อะ...อั้ม
อ้าปากแล้วยัง บอกให้อ้าไง อ้าาาาาา อั้ม จะได้หลับฝันดีถ้วนหน้า...สาธุ -
เวลาที่สมควรแล้วนะ ง่วงแล้วอ่ะ ต้องไปทำอะไรก่อนนอนอีกมากมาย
วันนี้คงเพียงพอสำหรับความสำราญแล้วนะเพื่อนๆ ขอราตรีสวัสดิ์ทุกคนค่ะ
นอนหลับฝันดีถ้วนหน้า...แล้วพรุ่งนี้ค่อยเข้ามากอบโกยความสำราญกันต่อไปนะคะ จุ๊บๆ รักทุกคนค่ะ -
ไปไหนกันหมดแล้วค่ะนี้
-
ขอบคุณค่ะที่นำธรรมะมาสอนให้เสมอๆ. ฝันดีนะคะทุกท่าน -
-
แต่จะเป็นไปได้หรือ กับสถานการณ์ในโลกยุคปัจจุบัน อย่างที่มีให้เห็นๆอยู่
ต้องลองพิจารณาดูอีกว่า "ขนโค ย่อมมากกว่าเขาโค ฉันใด"
สิ่งอกุศล นิวรณ์ ที่วนเวียน ให้เข้ามากระทบ ลงภายในจิตใจ
เมื่อไม่มีสติรู้ทัน ก็มักจะไหลไปตามกระแส เป็นอย่างขนโค ฉันนั้น
แต่หากเป็นเรื่องของ "บุพเพสันนิวาส" มีศรัทธา จาคะ ศีล และปัญญา เสมอกัน
เดินสายกลางรู้เขารู้เรา เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่เป็นอย่าง "บุพเพอาละวาด"
คุณmomoru หรือใครๆ หาบตาชั่งวัดตักตวงได้ ก็คงไม่ว่ากันล่ะ
เพชรย่อมแทรกอยู่ในเมล็ดทราย คู่เขาโคที่แข็งแกร่ง ก็ย่อมมีอยู่บนหัวโค
แต่ไม่ใช่เขาแพะเน้อ ^^ -
สวัสดีวันวิสาขบูชาค่ะ
ไปทำบุญกันหรือยังคะ วันนี้วันพระใหญ่ ฟังเทศน์กันแต่เช้าเลย...
ชีวิตมันก็แค่นี้แหละค่ะ มีอยู่แค่นี้จริงๆ
กิน กาม เกียรติ (3 ก.) หลุดออกมาได้เมื่อไหร่ก็สบาย
ทำใจๆๆๆๆๆ มองว่าปกติแล้วกันนะ ธรรมดาๆ
ตราบใดที่ยังอยู่กับโลก ทางกายคงต้องปล่อยไป สำรวมได้เท่าที่สำรวม
ทำได้แค่ทางใจค่ะ สำรวมได้มากกว่าแน่นอน เพราะว่ามิดชิดกว่า รู้ได้ด้วยตนเอง
ปยานาคจำศีลหรือเปล่าคะวันนี้ จำแล้วต้องนำมาปฏิบัติด้วยนะคะ
มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย มีทุกข์ทางกาย มีทุกข์ทางใจ
ยึดติด ปรุงแต่ง เวียนว่ายวนไป เรียนรู้ภายใน มองเห็นทั่วจักรวาล
พระพุทธองค์ทรงข้ามผ่าน วัฏสงสารที่ยาวไกล
พระพุทธองค์ทรงค้นใจ มองเห็นทางแห่งความจริง
เปิดฟ้าผ่านแสงธรรมส่อง ให้เรามองเห็นทุกสิ่ง
กิเลสครองหัวใจพ่ายดับสูญ...สิ้น คือนิพพาน
ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย หมดทุกข์ทางกาย หมดทุกข์ทางใจ
เลิกติดปรุงแต่ง ดับสิ้นภายใน หมดเชื้อปรุงใจ มองเห็นทางสัจจะธรรม
พระพุทธองค์ทรงข้ามผ่าน วัฏสงสารที่ยาวไกล
พระพุทธองค์ทรงค้นใจ มองเห็นทางแห่งความจริง
เปิดฟ้าผ่านแสงธรรมส่อง ให้เรามองเห็นทุกสิ่ง
กิเลสครองหัวใจพ่ายดับสูญ...สิ้น คือนิพพาน
แสงทองส่องทาง แสงธรรมส่องใจ เสียงธรรมทรงไว้ หัวใจเบิกบานไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ประเดิมนิทานฝันเรื่องแรกให้แล้วกันนะคะ
ฝันนี้เมื่อหลายปีก่อนแล้วค่ะ
นานมาแล้วไ้ด้ฝันว่า ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งค่ะ ไม่รู้จักว่าเป็นที่ไหน แต่ทุกอย่างเหมือนกับโลกเรา ระหว่างที่เดินไป ดูโน่น ดูนี่เพลินๆ ก็เหลือบไปเห็น ดอกไม้สวยงามมาก ดอกโตบะเิริ่มเทิ่มเลยค่ะ มีด้วยกันทั้งหมด 3 ดอก เป็นดอกไม้แก้วที่ผุดขึ้นมาจากดิน ดอกแรกเป็นกล้วยไม้แก้ว ดอกที่สองเป็นชบาแก้ว และดอกที่สามเป็นดอกบัวแก้วที่บานแล้ว
เราเดินผ่าน...ดอกแรกก็ผุดขึ้นมาให้ได้เห็น เป็นดอกกล้วยไม้แก้ว ดอกอย่างใหญ่ เอ..ดอกไม้อะไรนี่สวยจังเลยเป็นแก้วใส มีดวงตาเป็นเกสร ไม่เคยเห็นมาก่อน พอเดินผ่านดอกแรกก็ผุดกลับลงไป และดอกที่สองก็ผุดขึ้นมา ทีนี้เป็นดอกชบาแก้วมีดวงตาเป็นเกสรเหมือนกัน ดอกใหญ่เช่นกัน เราชมว่าสวยแต่ก็ไม่นึกอยากได้ เดินผ่านไปอีก
ขณะำกำลังคิดว่าไม่เห็นมีอะไรเลย กลับดีกว่า พอหันหลังกลับ ก็พบดอกบัวแก้วขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาขวางหน้า เป็นบัวบานริมกลีบสีออกแดงเรื่อๆ และมีดวงตาเป็นเกสร ไม่รอช้าดอกนี้สวยถูกใจ เอากลับไปไว้บูชาพระที่บ้านดีกว่า ก็เลยเก็บดอกบัวดอกนั้น ถือไว้ในมือและนำกลับมาที่บ้านค่ะ....ตื่นพอดี
จบค่ะ
หน้า 552 ของ 1157