เมขลา เป็นเทพธิดาผู้รักษาน่านน้ำ และนางผู้ถือดวงแก้วล่อให้รามสูรขว้างขวานทำให้เกิดฟ้าแลบและฟ้าร้อง นิยายพื้นบ้านของไทยยกเรื่องฟ้าคะนองขึ้นมาเล่าว่า นางเมขลาหรือมณีเมขลามีดวงแก้วประจำตัว รามสูรพอใจในดวงแก้วและความงามของเมขลา จึงเที่ยววิ่งไล่จับนาง เมื่อจับไม่ทันก็ใช้ขวานขว้าง แต่ไม่ถูก เพราะเมขลาใช้แก้วล่อจนเป็นฟ้าแลบ แสงแก้วทำให้ตารามสูรมัวจึงขว้างขวานไม่ถูก
เรื่องเมขลารามสูรนี้ในวรรณคดีเก่า ๆ เช่น เฉลิมไตรภพ ว่า มีพระยามังกรการตนหนึ่งอมแก้วไว้เสมอ จะไปไหนก็เอาดวงแก้วทูนศีรษะไว้ มังกรการได้แปลงเป็นเทวดาไปสมสู่กับนางฟ้ามีบุตรีชื่อ เมขลา เมื่อเจริญวัยขึ้นมีความงามยิ่ง มังกรการได้นำบุตรีและดวงแก้วไปมอบแก่พระอิศวร ครั้งหนึ่งเมขลาได้ขโมยดวงแก้ววิเศษนั้นไป ราหูผู้มีครึ่งตัวเพราะถูกจักรพระนารายณ์เมื่อครั้งแปลงเป็นเทวดาไปดื่มน้ำอมฤต ได้อาสาไปจับเมขลา และได้ชวนรามสูรผู้เพื่อนไปด้วย รามสูรได้ขว้างขวานจนกลายเป็นฟ้าลั่น
เรื่องฟ้าคะนองนี้มีอีกว่า เป็นเพราะรามสูร เมขลา และพระประชุนมาชุมนุมรื่นเริงกัน พระประชุนคือพระอินทร์ในสมัยพระเวทที่มีหน้าที่ทำให้เกิดพายุฝน พระอินทร์ในหน้าที่นี้เรียกว่า ปรรชันยะ หรือ ปรรชัยนวาต ไทยเรียกเป็นพระประชุน เมื่อมีการชุมนุมรื่นเริงกันของเทพแห่งฝน เมขลาผู้มีดวงแก้วและรามสูรผู้มีขวานจึงทำให้เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เป็นเรื่องเอานิยายไทยมาปนกับอินเดีย
เมขลาของจีนมีชื่อว่า เง็กนิ้ง แปลว่า นางหยก บางทีก็ชื่อ เตียนบ๊อ แปลว่าเจ้าแห่งสายฟ้า แต่ไม่ได้ถือดวงแก้ว หากถือธงหรือกระจกเงาทำให้เกิดแสงแวบวับ
นิทาน เรื่อง "พญานาค"
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.
หน้า 708 ของ 1157
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
งายไส
งายไส เป็นสัตว์ผสมชนิดหนึ่งในป่าหิมพานต์ ชื่อ งายไสนั้น เป็นชื่อที่ค่อนข้างแปลก ผู้ประพันธ์เองได้ พยายามหาที่มาของ ชื่อนี้แต่ก็ยังไม่ทราบว่ามาจาก ไหนและแปลว่าอะไร แต่ในตำนานได้บรรยายว่างายไสมีลักษณะผสมระหว่างสิงห์กับม้า โดยมีหัวเป็นสิงห์ มีเขาบนหน้าผาก ๒ ข้าง บ้างก็เชื่อว่างายไสมีหัวเป็น กิเลน มีลักษณะแบบม้าจากช่วงคอลงมา มีสีเขียวคราม เป็นสีพื้น งายไสเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร
สัตว์ที่งายไสล่าเป็นเหยื่อ มีตั้งแต่สัตว์เล็กจนไปถึงสัตว์ใหญ่ บางครั้งก็ล่ามนุษย์เป็นอาหาร คนส่วนใหญ่มักจำงายไส สลับกับดุรงค์ไกรสรเพราะสัตว์ทั้ง ๒ ประเภทมีร่างเป็นม้าและมีส่วนหัว เป็นสัตว์ประเภทสิงห์ จะต่างก็เพียงแต่หัวของดุรงค์ไกรสรไม่มีเขา
สินธพกุญชร
มีกายเป็นม้าสีเขียว แต่ส่วนหัวกลบเป็น ช้าง ในตำรากล่าวว่ามีกีบสีดำเหมือนม้าเช่นกัน
อัสดรวิหค
เป็นม้าผสมที่เกิดจากม้าและนก ร่างกายเป็นม้ามีสีเหลืองเป็นสีพื้น ส่วนหัวเป็นนก มีขนคอเป็นสีส้มแดง ปีกมีสีแดงชาด กีบและหางมีสีดำ อัสดรวิหคสามารถ เหาะเหินเดินอากาศได้เพราะ ปีกที่มีพละกำลังมหาศาล เช่นเดียวกับม้าผสมประเภทมีปีกเช่น ม้าปีกและดุรงค์ปักษิณ อัสดรวิหคเป็นสัตว์ที่กิน ทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร อาหารหลักของอัสดรวิหคได้แก่ แมลง สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ตัวเล็กๆ และ เมล็ดพืชไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ตำนานรักพระลอ ความว่า เดิมเจ้าราชวงศ์แมนสรวงกับเจ้าราชวงศ์สรองเป็นปรปักษ์ต่อกัน แต่โอรสและธิดาของ 2 เมืองนี้เกิดรักกันและยอมตายด้วยกัน ฝ่ายชายคือพระลอเป็นกษัตริย์แห่งเมืองแมนสรวง มีพระชายาชื่อนางลักษณวดี พระลอเป็นหนุ่ม รูปงามมากเป็นที่เลื่องลือไปทั่วจนทำให้พระเพื่อนพระแพงเกิดความรักและปรารถนาที่จะได้พระลอมาเป็นสวามี พี่เลี้ยงของพระเพื่อนพระแพง ชื่อนางรื่นนางโรย ได้ออกอุบายส่งคนไปขับซอยอโฉมพระเพื่อนพระแพงให้พระลอฟัง และให้ปู่เจ้าสมิงพรายทำเสน่ห์ให้พระลอเกิดความรักหลงไหลคิดเสด็จไปหานาง
ฝ่ายพระนางบุญเหลือชนนีของพระลอทราบ จึงหาหมอแก้เสน่ห์ได้ แต่ปู่เจ้า สมิงพรายได้เสกสลาเหิน(หมากเหิน) มาให้พระลอเสวยในตอนหลังอีก ถึงกับหลงไหลธิดาทั้งสองมากขึ้น จึงทูลลาชนนีและพระนางลักษณวดีไปยังเมืองสรอง พร้อมกับนายแก้วนายขวัญพี่เลี้ยง เมื่อมาถึงแม่น้ำกาหลงได้เสี่ยงทายกับแม่น้ำ แม่น้ำกลับวนและเป็นสีเลือด ซึ่งทายว่าไม่ดี แต่พระลอก็ยังติดตามไก่ที่ปู่เจ้าสมิงพรายเสกมนต์ล่อพระลอให้หลง เข้าไปในสวนหลวง แล้วแอบได้พระธิดาทั้งสองเป็นชายา นายแก้วนายขวัญก็ได้กับนางรื่นนางโรยพี่เลี้ยง
เมื่อพระพิชัยพิษณุกร พระบิดาของพระเพื่อนพระแพงทราบเรื่องก็ทรงกริ้ว แต่พอทรงพิจารณาเห็นว่าพระลอมีศักดิ์เสมอกันก็หายกริ้ว แต่พระเจ้าย่า(ย่าเลี้ยง) ของพระเพื่อนพระแพงโกรธมาก เพราะแค้นที่พระบิดาของพระลอได้ประหารท้าวพิมพิสาครสวามีในที่รบ พระเจ้าย่าถือว่าพระลอเป็นศัตรู จึงสั่งทหารให้ไปล้อมพระลอที่ตำหนักกลางสวน และสั่งประหารด้วยธนู ทั้งพระลอ พระเพื่อน พระแพง และนายแก้ว นายขวัญ นางรื่น นางโรย ร่วมกันต่อสู่ทหารของพระเจ้าย่า อย่างทรหด จนสุดท้ายถูกธนูตายในลักษณะพิงกัน ตายด้วยความรักทั้ง 3 องค์
ท้าวพิชัยพิษณุกร ทรงทราบว่าพระเจ้าย่าสั่งให้ทหาร ฆ่าพระลอพร้อมพระธิดาทั้งสององค์ ทรงกริ้วและสั่งประหารพระเจ้าย่า(เพราะมิใช่ชนนี)เสีย แล้วโปรดให้จัดการพระศพพระลอกับ พระธิดาร่วมกันอย่างสมเกียรติ และส่งทูตนำสาส์นไปถวายพระนางบุญเหลือ ชนนีของพระลอ ที่เมืองแมนสรวง สุดท้ายเมืองสรองกับเมืองแมนสรวงกลับมีสัมพันธไมตรีกันต่อมา
คติและแนวคิด
ตำนานรักพระลอเป็นนิยายพื้นบ้านที่ให้รสวรรณคดีทุกรส ได้แก่ ความรัก ความโศก กล้าหาญ และเสียสละ ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงผลเสียของความแค้น ความอาฆาต พยาบาท ตลอดจนอนุภาพแห่งความรัก ที่เป็นอมตะรักของพระลอ พระเพื่อนพระแพง
*******************************************
ช่วยพี่นุ๊ก หาอะไรมาอ่านเพลินๆ คั่นเวลารอท่านประธาน
หายไปนานเลยเชียวไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สงสัยว่าจะไปที่ชอบแล้วเหมือนกันมั้ง น้องฟ้ามุ่ย อิอิ
-
สงกะสัยจะได้อ่าน ได้รู้ วันรุ่งพรุ่งนี้เป็นแน่จ้ะ :cool: -
ได้ครบ 12 เสียง ไม่น่าเชื่อ ตามใจ จันทร์เทวี อ่านต่อพรุ่งนี้นะครับ
-
ท่านประธาน.... อย่าสิคะ เฝ้ารอมาทั้งวันแล้ว
มาแล้ว ก็เล่าเสียเลย ... :cool:
นะจ้ะ นะจ้ะ .... -
งั้นตามใจ จันทร์เทวีครับ พญาศรีสุทโธ พาข้าพเจ้าลอยไปสถานที่แห่งหนึ่ง โดยพญาศรีสุทโธนั้น ร่างเป็นงูสีดำยาวประมาณ สามสิบเมตรครับ
พญาศรีสุทโธ กล่าวว่า มาดูอะไรดีๆ ที่นี้ ข้าพเจ้าเห็นบ้านสองชั้น ป้ายหน้าบ้านเขียนว่า ตำหนักท่านปู่ศรีสุทโธ แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นนั้น คือ... -
ขอบพระคุณมากค่ะท่านประธาน ที่กรุณาเล่าให้ฟังต่อ ไม่ยกไปวันพรุ่งนี้.... (เฮ้อออ เกือบไปแล้วเชียวเรา)catt7 -
มีลุ้น..ตาหลอด.ดดด
-
ข้าพเจ้าเห็น สัมภเวสี กายทิพย์สีขาว อาศัยอยู่ที่นั้น พญาศรีสุทโธก็พาไปดูอีกหลายที่ บางที่ก็เป็นสัมภเวสี กายทิพย์สีดำ และบางที่ก็เป็นหัวหน้าสัมภเวสี พอพวกเขาเห็นเราทั้งสอง ก็พากันมาขับไล่ พญาศรีสุทโธ กล่าวว่า ไม่ดังได้อย่างไร เห็นไหม ดังเหมือนดาราไหม ข้าพเจ้าเลยไม่พูดอะไร
ท่านพญาศรีสุทโธเลยถามว่า อยากรู้เรื่องอะไรอีก ข้าพเจ้าเลยตอบว่า อยากรู้เรื่องพระชายาของท่านสักองค์ พอจะเล่าได้ไหมครับ พญาศรีสุทโธกล่าวตอบว่า ได้ อยากรู้เรื่องใคร นามว่ากระไร บอกได้หมด ข้าพเจ้าเลยตอบกลับไปว่า งั้นเอาท่านที่มีนามว่า ศรีสุดาจันทร์ทิพย์ ครับ พญาศรีสุทโธ หัวเราะเสียงดังแถมอมยิ้มพร้อมกล่าวอีกว่า แถม ทิพย์อักษร อีกนางก็ได้... -
โอยยยย เข้มข้นมากๆ ....rabbit_run_away
แต่สงสัยเรื่องสัมเวสีที่เขาขับไล่ ทำไมถึงขับไล่คะ แล้วทำไมเขาถึงไปอยู่บนตำหนักท่านปู่ได้ สงสัยหนอ -
fahmui said: ↑โอยยยย เข้มข้นมากๆ ....rabbit_run_awayClick to expand...
น้องฟ้ามุ่ย...ใจเย็น ๆ นะจ๊ะ... ระวังสุขภาพด้วย..
พี่มีดอกไม้มาฝากจ้ะ..(f) -
มาปูเสือรอฟังต่อ
พร้อมขนมขบเคี้ยว -
ก็ลุ้นอีกแระ...โชคดี ที่ชาวปยานาคไม่เป็นโรคหัวใจ...ไม่งั้น ..ตื่นเต้นส์.ส์ส์
แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกาย...และสุขภาพ...เหอะ..เหอะ<!-- google_ad_section_end -->
งั้น เล่าต่อวันหลังแล้วกันครับ เดี๋ยว สิริเทวีจะ...ซะก่อนครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปดูพิธี รำถวาย พรธิดาหยาดฟ้า ครับ -
ดาว* said: ↑น้องฟ้ามุ่ย...ใจเย็น ๆ นะจ๊ะ... ระวังสุขภาพด้วย..
พี่มีดอกไม้มาฝากจ้ะ..(f)Click to expand...
********************************************
;9k;9k ......... โอ้วววว โดนทำร้ายจิตใจ ท่านประธานไม่ต่อเสียอย่างนั้น -
คุรุวาโร said: ↑ก็ลุ้นอีกแระ...โชคดี ที่ชาวปยานาคไม่เป็นโรคหัวใจ...ไม่งั้น ..ตื่นเต้นส์.ส์ส์
แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกาย...และสุขภาพ...เหอะ..เหอะ<!-- google_ad_section_end -->
งั้น เล่าต่อวันหลังแล้วกันครับ เดี๋ยว สิริเทวีจะ...ซะก่อนครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปดูพิธี รำถวาย พรธิดาหยาดฟ้า ครับClick to expand...
เข้าใจหาทางออกซะด้วย..ท่านประธานที่เคารพ..แต่ไม่เนียน..ขอบอก อิอิ...
เล่าให้ลุ้นตามสบายเลยจ้า...สิริเทวี ...ใจเพชร อยู่แล้ว ท่านก็รู้... -
คุรุวาโร said: ↑ก็ลุ้นอีกแระ...โชคดี ที่ชาวปยานาคไม่เป็นโรคหัวใจ...ไม่งั้น ..ตื่นเต้นส์.ส์ส์
แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกาย...และสุขภาพ...เหอะ..เหอะ<!-- google_ad_section_end -->
งั้น เล่าต่อวันหลังแล้วกันครับ เดี๋ยว สิริเทวีจะ...ซะก่อนครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปดูพิธี รำถวาย พรธิดาหยาดฟ้า ครับClick to expand... -
fahmui said: ↑catt15 ขอบพระคุณค่ะพี่ดาว นั่งรอก่อนก็ได้ อิอิClick to expand...
ฮ่า..ฮ่า.. น่าร้าก.กกก อ่ะ.
แต่พี่กำลังจะแย่...จะโดน(ปยานาค)..รุม ..นิ
หน้า 708 ของ 1157