วันนี้ก็ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร เลยอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหรือความเชื่อส่วนบุคคล
จขกท. เดิมเป็นชาวพุทธ สมัยเรียนมัธยมเรียนโรงเรียนคริสต์(และได้ศึกษาคริสต์) ได้เคยบวชพระมา 15 วัน ก่อนจะสึกออกมาและได้เข้ารับอิสลาม จากการแต่งงาน
ว่าด้วยนิพพาน ที่ที่ซึ่งมีแต่สุขไร้ทุกข์ปะปน
ก่อนอื่นขอให้ทำความเข้าใจในเนื้อหากระทู้ก่อนๆที่กระผมได้เคยโพสต์ไว้
https://pantip.com/topic/40002400 VERSE/ภพ/ภูมิ/อนันตภพ
https://pantip.com/topic/39920300 ความตาย
https://pantip.com/topic/39612065 ตกลงโลกเรากลมหรือแบน
*ความเชื่อเรื่องหลังความตายแบบสุดโต่ง 2 ขั้ว
-เชื่อว่าตายแล้วดับไปเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว
-เชื่อว่าตายแล้วยังคงเดินทางต่อไป เชื่อว่ามีโลกต่อไปหลังความตาย
ทีนี้กล่าวถึงนิพพาน หลายๆคนอาจสงสัย ว่าเป็นสภาวะที่เป็นอะไร ยังไง ก่อนอื่น ตามที่ได้ยินได้ฟังมาบ่อยๆ นิพพาน คือสภาวะ สภาวะหนึ่ง ที่ซึ่งมีแต่สุขไร้ทุกข์เจอปน แล้วเกี่ยวกับ อาบาดัน อย่างไร???
อาบาดัน ก็คือสภาวะ สภาวะหนึ่ง กล่าวคือ เป็นการตายจากโลกเก่า และเข้าสู่โลก(มิติ/ภพ/โลกธาตุ/โลกทัศน์/ความถี่) ต่อไป โดย ผู้ที่อยู่ในสภาวะดังกล่าว มักจะไม่รู้ว่าตัวตาย(ได้หมดเวรหมดกรรมเก่าไปส่วนหนึ่ง) ซึ่ง ไม่รับรู้ว่าตัวเองได้ตาย(จากโลกเก่า)ไปแล้ว(เหมือนตายไม่รู้ตัว) และยังคงดำเนินชีวิตต่อไปตามที่เป็นอยู่(มักเกิดบ่อยในผู้ที่ ฟีซบีลิลลา*ค้นหาเพิ่มเติมเองนะ) โดยร่างเก่า(โลกเก่า)ได้สลัดออกเหมือนคราบของ งู,แมลง โดยที่ดวงจิตยังดำรงค์เดินต่อไป (#เพิ่มเติม ร่างกายคือโลกธาตุหนึ่ง (มิติ,เอกภพ) *https://pantip.com/topic/40002400 VERSE/ภพ/ภูมิ/อนันตภพ) โดยได้เข้าไปยังเอกภพในร่าง(จะรู้สึกตกจากที่สูง แล้วตื่นขึ้น แบบอินเซปชั่น ฝันซ้อนฝัน โดยความทรงจำโลกก่อนหน้ากลายเป็นฝันไป) และรับการสะท้อนจากกรรมเก่า(f<=f> :จ่ายค่าติดแบบผ่อนส่ง) (เข้าใกล้คำว่าอมตะ จะหน้าเหี่ยวหน้าแก่ ขึ้นกับการดูแลตนเอง เช่นดื่มสุราสูบบุหรี่ ไม่ดูแลตัวเอง ก็จะเห็นตัวเองแก่) และดำรงค์ต่อไป สุดแล้วแต่กรรม พบเจอทั้งสุขทุกข์ปะปนกันไปตามชีวิตปกติ
ความเหมือนที่แตกต่าง ของ อาบาดัน(อิสลาม) กับ นิพพาน(พุทธ) นั่นคือ นิพพานจะมีแต่สุข สาเหตุล่ะ???
ก่อนอื่นผู้ที่ต้องการดำรงค์ในสภาวะดังกล่าว จะต้อง รู้จัก ละ ปลง ปล่อยวาง(อุเบกขา) และเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ(โดยความบริสุทธิ์ทั้งปวงในธรรมชาติ รวมฟิวชั่นกัน ขอเรียกว่า พระธรรม(ชาติ) ซึ่งคุณสมบัติ ตรงกับ อัลลอฮ์ ของอิสลาม และเป็นผู้สร้างกฏแห่งกรรม ภายใต้กฏฟิสิกส์(แปลว่าธรรมชาติ) อย่างกฏพื้นฐานฟิสิกส์ f<=f> :แรงซ้ายเท่ากับแรงขวา ฉันใด กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง ก็ฉันนั้น #เพื่อเป็นผู้พิพากษากรรม )
และ เมื่อเข้าใจ สภาวะ อาบาดันแล้ว(ซึ่งยังมีทุกข์เจือปนอยู่) การจะอาบาดันโดยพบแต่สุข อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า "จะต้อง รู้จัก ละ ปลง ปล่อยวาง(อุเบกขา) รู้จักที่จะละการสร้างบาปกรรม และเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ" ก็จะทำให้ห่างไกลจากทุกข์ ในขณะที่ใช้ชีวิต อาบาดัน(คล้ายอมตะ) ซึ่งหากเข้าใจและปฏิบัติตามในจุดนี้ได้ คุณ...ก็จะเข้าใกล้สภาวะ "นิพพาน" (เวอร์ชั่น2) สิ่งที่ใครๆที่รู้จักและเข้าใจ มักจะปรารถนา ครับผม
*ความเชื่อเรื่องหลังความตายแบบสุดโต่ง 2 ขั้ว
1เชื่อว่าตายแล้วดับไปเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว
2เชื่อว่าตายแล้วยังคงเดินทางต่อไป เชื่อว่ามีโลกต่อไปหลังความตาย
#เนื้อหาสรุปจาก "ปัจจัตตัง" (JOURNEYs ของตนเองหลังจากที่ได้รวบรวมและสรุปจากประสบการณ์ที่ผ่านมา)
#เนื้อหาดังกล่าวอาจเข้าข่ายอจินไตย แต่ได้พยายามเรียบเรียงเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้(พยายามที่สุดแล้ว)
อิสลามถือว่ามุสลีมีน(ผู้นับถืออิสลาม) คือ นักบวชทุกคน โดยเน้นการอยู่ร่วมกันในทางโลกอย่างสันติวิธี(อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข)
ซึ่งหากเป็นทางพุทธนั้น จะเน้นไปทางการศึกษาทางธรรม ซึ่งมุสลีมีนก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ โดยที่ทางอิสลามเอง ก็มีคำสอนหนึ่ง ว่า "หากมีโอกาส จงศึกษาให้กว้างให้มากที่สุด เท่าที่โอกาสเอื้ออำนวย)
#บทสรุปทางเดินแบบทางลัด ที่ใครๆก็สามารถนำไปปฏิบัติตามได้
ส่วนตัวผมเองเลือกเดินสายกลางและนำคำสอนและข้อดี ของแต่ละแคลน(ศาสนา,ลัทธิ ;ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี) มาประยุกต์ใช้ในชีวิต รวมถึงลัทธิซาตาน https://pantip.com/topic/39877324/comment3 และวางตัวเป็นกลาง เดินควบคู่ไปกับทุกศาสนา พร้อมทั้งพยายามหาข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมเท่าที่สะดวก แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิต แต่หลักๆ(ปัจจุบัน)คือถือ อิสลาม
พุทธเน้นทางธรรม และการดับทุกข์
ส่วนอิสลามเน้นการอยู่ทางโลกครับ โดยมีการเมืองการปกครองมาเกี่ยวข้องด้วย
อัลลอฮ์ = พระธรรม(ชาติ) (*ไม่ได้หมายถึงคำสอน แต่หมายถึงในส่วนจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของสรรพสิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่าง)
อิสลามสอน อย่าไหว้พระอิฐพระปูน โดยใช้สัญลักษณ์ อัลลอฮ์ เป็นสื่อกลางแทน ซึ่งของพุทธเอง ก็สอนเหมือนกัน อย่าไหว้พระอิฐพระปูน แต่ให้ระลึกพระธรรมคำสั่งสอนเป็นหลัก หลายๆอย่างเหมือนกันมาก ต่างกันเพียง ภาษาถิ่นที่ใช้เรียกในสิ่งที่เกี่ยวข้องเท่านั้นครับ
และอย่างที่บอก อิสลาม เน้นการอยู่ร่วมกันทางโลกร่วมกันอย่างสันติ แต่ปัญหาในปัจจุบัน มาจากการบิดเบือนคำสอน ซึ่งเป้าหมายที่เห็นชัดๆ ว่ามาจากการเมืองระหว่างประเทศและภายใน(เมือง)ทั้งนั้น
พิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไปครับ
ขอให้นึกภาพตาม หากท่าน คือ บุคคล ที่ได้ปฏิบัติตามคำสอนอิสลาม,พุทธ,คริสต์
ที่จะสามารถทำให้อยู่ทางโลกได้พอสมควร
เช่น
ทางโลก,สังคม,การเมือง,การบริหารจัดการ(อิสลาม)
รู้วิธีการดับทุกข์ เจริญสติ ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น โดย รู้จักการละและปลง อย่างเหมาะสม(พุทธ)
และมีความรัก เมตตากรุณา ใจกว้าง รู้รักรู้อภัย ซึ่งกันและกัน(คริสต์)
(แม้แต่ซาตานก็คือครูที่แจกบททดสอบ(สอบภาคปฏิบัติ)เรื่องจิตใจเช่นกัน)
การอยู่ร่วมกันอย่างสันติก็จะเกิด
แน่นอนว่าต้องได้มาจากการเรียนการสอน มีประสบการณ์ชีวิตจากการใช้ชีวิต
คำสอนที่ดีมีอยู่มากมาย หาเรียนได้ทั่วไปและต้องพึ่งตนเองเป็นหลักเพื่อพาตัวเอง
เพื่อเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)
ศาสดา ก็คือครู ที่สอนวิชาต่างๆ ที่เราเรียนกันในห้องเรียน เปลี่ยนวิชาก็เปลี่ยนครู
ส่วนจะเป็นคนดีได้แค่ไหนเรียนรู้รับทราบเข้าใจได้แค่ไหน สุดแล้วแต่กระทำตน(ขวนขวายพยายาม)
* คำแนะนำสำหรับผู้ที่ขาดทักษะการอยู่ทางโลก ควรศึกษาอิสลามควบคู่ไปด้วย
* และมุสลีมีนที่ต้องการดับทุกข์ ควรหาศึกษาวิธีการจาก พระพุทธศาสนาควบคู่กันได้เช่นกัน
* และคริสต์นั้น ได้สอนให้เราต่างรู้จักรักและให้อภัยซึ่งกันและกัน(แม้แต่กับคนที่เขาเกลียดเรา)
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขสันติสุขครับ
*ความเชื่อเรื่องหลังความตายแบบสุดโต่ง 2 ขั้ว
-เชื่อว่าตายแล้วดับไปเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว
-เชื่อว่าตายแล้วยังคงเดินทางต่อไป เชื่อว่ามีโลกต่อไปหลังความตาย
โดยส่วนตัว
นิพพาน คือสภาวะการพักผ่อน นิพพานชั่วคราว(ก่อนปรินอพพาน/ยังไม่เสียชีวิต) คือการหลับสนิท Quick Charge โดยว่างไม่ฝันไม่อะไร หลับเต็มตื่นได้เร็ว เสร็จแล้วก็มาสานต่อ
ลองคิดตามผมดู เอกภพ พหุภพ(อนันตภพ) เกิดขึ้นและดับไปตลอดเวลา ถ้าเทียบเป็นพลังงานงานและความเป็นไป เข้าขั้นอนันต์
#หลุมดำคือปากถ้ำเอกภพอื่นที่เชื่อกันระหว่างพหุภพของอนันตภพ(หลุมดำ/มิติช่องความถี่(มีเป็นอนันต์) สามารถรวมกันได้ เหมือนลูกจากพ่อแม่รวมกัน)
#ขอให้นึกภาพตาม ห้องห้องหนึ่ง(โฟลเดอร์) มีพื้นที่ความจุเป็นอนันต์ มีห้อง(โฟลเดอร์) ข้างใน เพิ่มและหายไปได้ตลอดเวลา และในแต่ละห้อง(โฟลเดอร์) มีพื้นที่ความจุเป็นอนันต์ และมีห้องในห้องซ้อนกันต่อเนื่อง เพิ่มบ้างหายไปบ้างตลอดเวลา และจำนวนรวมทั้งหมด เพิ่ม-ลดตลอดเวลา จะเพิ่มห้อง/ประตูห้อง เท่าไหร่ก็ได้ จะ เพิ่ม/ลบหรือจะทำให้หายไป(ลบ ทั้งชั่วคราว(อำพราง/Hide Folder)หรือลบถาวรก็ได้) ซึ่งแต่ละห้องสามารถให้มีห้องซ้อนในห้องเท่าไหร่ก็ได้แบบมิติซ้อนมิติฝันซ้อนฝัน (ลองหาดูในโดราเอม่อน/เรื่องอินเซปชั่น/เรื่องซอสโค้ด :ตัวอย่างจำลองเหตุการณ์) โดยปริมาณพื้นที่นั้นใกล้และหรือเป็นอนันต์/ยากที่จะวัดปริมาณที่แท้จริง(เทคโนโลยีเหนือกว่าควอนตั้มในปัจจุบัน+กฏสรรพสิ่ง)
หากเราเข้าใจธรรมชาติและความเป็นไปอย่างเต็มขั้น(บรรลุ)จะสามารถเข้าถึง จนถึงขั้นสามารถควบคุมได้เอง(ดีมั้ย?)
เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ใครๆที่รู้ก็คงเกิดความต้องการที่จะเข้าถึง
สมมติหากอยากทำได้ 1.ไปให้ถึง มิติที่ 6(ขึ้นไป) 2.บรรลุ(เข้าใจอย่างเต็มขั้นแท้จริง)ธรรม(ชาติ) 3. ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการบิดเบือนธรรมชาติ(แต่ผู้กระทำก็ไม่สามารถหลุดจากกฏแห่งกรรมได้)
ห้องแรกคือห้องเอกภพ/โลกธาตุ ของตัวเอง
*ค้นเพิ่มเติมเรื่องร่างกายคือจักรวาลๆหนึ่ง(โลกธาตุ)) เมื่อเราตาย เรา(ดวงจิต)จะรู้สึกเหมือนตกจากที่สูง แล้วตื่นขึ้นในโลกธาตุ(ในร่างกายตัวเองของมิติก่อนหน้า พร้อมทั้งรับผลจากกรรมเก่าเมื่อตอนอยู่มิติก่อนหน้าที่ได้กระทำไป)
เมื่อมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เราก็แค่เอามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น(ผู้อื่นจะได้รัก จนกลายมาเป็นผีที่คุ้มกันเรา :คนดีผีคุ้ม)
ต้องตื่น ต้องรู้ จะได้เบิกบาน การเดินทางมีต่อไม่สิ้นสุด ขึ้นอยู่กับตนเองว่าจะเดินเกมส์?อย่างไร ก็จะได้เจออย่างนั้น(*กฏแรงดึงดูด)
f<=f> กฏพื้นฐานฟิสิกส์(ฟิสิกส์ แปลว่า ธรรมชาติ) ถอดความได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง" เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สร้างแต่กรรมดีเถิด จะได้พบเจอแต่กรรมดีที่สะท้อนกลับมา เหนื่อยนักก็พัก หายเหนื่อยก็เดินต่อ
#พักในนิพพาน
#เดินสายอาบาดันอย่างเจอแต่สุขต้องใช้กฏแห่งกรรมให้เป็นประโยชน์ สร้างกรรมดีกุศลกรรมให้มากๆ(ทำบุญเพื่อเอาบุญก็ว่าได้) ใช้ทฤษฏี 21วัน ทำจนติดนิสัยอย่างต่อเนื่อง กรรมดีจะค่อยๆสะท้อนกลับมาอย่างต่อเนื่องเอง#อาบาดันเชิงบวกนี้ อาจจะเป็นสภาวะ นิพพาน ที่แท้จริงก็ได้ใครจะไปรู้ พระพุทธเจ้าก็ดันไม่ได้บอกไว้(บอกไว้แค่ต้องเจอกับตัวเองเท่านั้นจึงจะเข้าใจได้จริง)
นิพพาน อาบาดัน ความเหมือนและแตกต่าง
ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย MUSAFA, 5 สิงหาคม 2020.
-
"ความเหมือนที่แตกต่าง ของ อาบาดัน(อิสลาม) กับ นิพพาน(พุทธ) นั่นคือ นิพพานจะมีแต่สุข"
ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับข้อความนี้ แต่ไม่รู้จะให้เหตุผลอะไรเพราะไม่ได้ศึกษาอิสลามมาก่อน ฉะนั้นก็จะไม่สามารถให้ความเห็นที่ตรงได้ แต่นิพพานในทางพุทธเป็นความว่างแล้วไม่น่าจะบอกว่าสุขหรือทุกข์นะ -
แต่โดยส่วนตัวนะครับ
*ความเชื่อเรื่องหลังความตายแบบสุดโต่ง 2 ขั้ว
-เชื่อว่าตายแล้วดับไปเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว
-เชื่อว่าตายแล้วยังคงเดินทางต่อไป เชื่อว่ามีโลกต่อไปหลังความตาย
นิพพานก็คือสภาวะการพักผ่อน นิพพานชั่วคราวคือหลับสนิท Quick Charge ไม่ฝันไม่อะไร หลับเต็มตื่นได้เร็ว เสร็จแล้วก็มาสานต่อ
ถ้าตามผม เอกภพ พหุภพ(อนันตภพ) เกิดขึ้นและดับไปตลอดเวลา ถ้าเทียบเป็นพลังงาน งานและความเป็นไป เข้าขั้นอนันต์
เมื่อมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เราก็แค่เอามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น(ผู้อื่นจะได้รัก จนกลายมาเป็นผีที่คุ้มกันเรา :คนดีผีคุ้ม)
ต้องตื่น ต้องรู้ จะได้เบิกบาน การเดินทางมีต่อไม่สิ้นสุด ขึ้นอยู่กับตนเองว่าจะเดินเกมส์?อย่างไร ก็จะได้เจออย่างนั้น
f<=f> กฏพื้นฐานฟิสิกส์(ฟิสิกส์ แปลว่า ธรรมชาติ) ถอดความได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง" เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สร้างแต่กรรมดีกันดีกว่า จะได้พบเจอแต่กรรมดีที่สะท้อนกลับมา เหนื่อยนักก็พัก หายเหนื่อยก็เดินต่อ
#พักในนิพพาน
#เดินสายอาบาดันอย่างเจอแต่สุขต้องใช้กฏแห่งกรรมให้เป็นประโยชน์ สร้างกรรมดีกุศลกรรมให้มากๆ(ทำบุญเพื่อเอาบุญก็ว่าได้) ใช้ทฤษฏี 21วัน ทำจนติดนิสัยอย่างต่อเนื่อง กรรมดีจะค่อยๆสะท้อนกลับมาอย่างต่อเนื่องเอง ^_^ -
D.(Username) ธรรมมะ จะกาโล มะโหติธรรม ผู้เจริญทำยํย้อมมีทุกข์
และได้ปั่นจักรยาน เพื่อไปพบพี่สาว
เส้นทางไกลมากผมได้ ปั่นจักรยานเพื่อไป
พบพี่ แต่ล่ะก็ว่า ผมได้แต่มุ้งไปข้างน่า
จนไม้ได้ เดี๋ยวหลังก็เรยหันไปประกดว่า
มีผู้ชายใส่เสื้อสีแดงวิ่งตามหลังมา
เค้าได้ถือไม้มาด้วยแต่ตอนหันหลังกลับไป
และหันกับก็ไม่รู้ถูกดักตีก่อนหน้ารึเปล่านะ
แต่ผมก็ไม่รู้อ่ะประสบการน์ในการตาย -
D.(Username) ธรรมมะ จะกาโล มะโหติธรรม ผู้เจริญทำยํย้อมมีทุกข์
ไม่ตายเสียยังดีกว่า
เดี๋ยวจะอยู่บนบ่ก
ก้อได้อยู่ในน้ำก็ดี
เจรืญ ๆ ๆ ๆ สบายๆ -
D.(Username) ธรรมมะ จะกาโล มะโหติธรรม ผู้เจริญทำยํย้อมมีทุกข์
ได้ตาย(จากโลกเก่า)ไปแล้ว(เหมือนตายไม่รู้ตัว)
ตายแล้วไปไหนอยากทราบครับ -
*ความเชื่อเรื่องหลังความตายแบบสุดโต่ง 2 ขั้ว
-เชื่อว่าตายแล้วดับไปเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว
-เชื่อว่าตายแล้วยังคงเดินทางต่อไป เชื่อว่ามีโลกต่อไปหลังความตาย
ผนวกกันตามที่ผมโพสต์ไว้ข้างบน
เหนื่อยนักเบื่อนักก็พัก
ตื่นแล้วเบิกบานแล้วก็เดินทางต่อ