<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Cko%5CIMPOST%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New"; mso-no-proof:yes;} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT="]นิมิตหลวงพ่อโอภาษี [FONT="]
พอดีเมื่อวานมีเพื่อนส่งเมลล์มาให้อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกันอ่านไปหลังๆแล้วขนลุมาก
ถ้าเคยอ่านแล้วขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะเข้าเรื่องเลยนะครับผมก็ไปกับที่บ้านรวม 5 คน เข้าไปถึงกุฎิที่พ่อผมบอกว่าเป็นพี่ชายของเจ้าอาวาสเห็นบอกว่าองค์นี้เก่งมากก็เข้าไปถวายเทียนพรรษา พร้อมๆกับอีกหลายๆคน ที่มาหาหลวงพ่อเช่นกันพอถวายเทียนเสร็จหลวงพ่อท่านก็เล่าว่าท่านนิมิต( ฝัน)ว่าท่านได้ไปนรกครับไปเจอเท้าเทพสุวรรณ(ยมฑูต)ท่านก็เล่าว่า ท่านถามสุวรรณว่าท่านตายแล้วเหรอ?สุวรรณบอกว่าท่านยังไม่ตายแต่จะพาไปเที่ยวแล้วเค้าก็พาหลวงพ่อเดินไป เดินไปเรื่อยๆจนถึงระยะหนึ่ง หลวงพ่อหยุดเดิน สุวรรณที่เดินนำก็เดินกลับมาครับ แล้วถามว่า หยุดทำไม?ท่านก็ตอบว่า เดินตั้งนานแล้วในนรกไม่เห็นมีอะไรเลยระหว่างนั้นท่านก็บรรยายบรรยกาศของนรกว่า นรกมีไฟเพลิงสีส้มแดง แต่ไม่มีควัน แล้วก็ไม่ร้อนที่ท่านไม่ร้อนเพราะท่านมีบุญดีอยู่แล้วสุวรรณก็ถามต่อครับว่า อยากเห็นอะไรละ?ท่านตอบว่า อยากเห็นต้นงิ้ว และกะทะทองแดงสุวรรณบอกว่าไม่มีหรอก มนุษย์อุปโหลกขึ้นมาเองทั้งนั้นในนี้มีแต่ไฟโลกัณฑ์ เดินไปอีกหน่อยแล้วจะรู้เองท่านก็ได้เดินต่อไป สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ เหวที่มีไฟแดงฉานอยู่ข้างล่างสุวรรณบอกว่า ใครทำกรรมชั่วมากก็จะอยู่ข้างล่างสุดทำกรรมชั่วน้อยก็จะอยู่ข้างบน ซึ่งข้างล่างจะร้อนกว่าข้างบนคราวนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ ท่านก็เห็นทางสามแพร่งมีน้ำกันอยู่ จึงได้ถามสุวรรณว่านี้คืออะไรสุวรรณตอบว่านี่คือทางไปนรก สวรรค์ โลกมนุษย์ซึ่งมีคนยืนในช่องทางไปโลกเยอะมากๆมีบางคนแอบซุกเพื่อหลบน้ำที่จะต้องผ่านท่านจึงถามว่าน้ำนี่คืออะไรสุวรรณตอบว่าน้ำนี่ใช้ชะล้างจิตใจ ให้ลืมอดีตแล้วไปเกิดใหม่ คนที่หลบหลีกน้ำนี้ไปได้จะต้องเป็นทุกข์(ที่เข้าใจคือระลึกชาติได้)แล้วท่านก็เล่าว่า พวก สส.ที่มันได้ดีเพราะมันกินบุญเก่าเหมือนปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ ตัวเองปลูกตัวเองก็ได้กินเมื่อต้นแอปเปิ้ลหมดก็อดกิน ก็เหมือนกับพวก สส.ที่กินบุญเก่าอยู่ เราไม่สามารถไปทำอะไรเค้าได้ ต้องรอให้เค้าหมดบุญไปเองหลวงพ่อท่านก็ถามสุวรรณต่อว่าวิญญาณมนุษย์ไปเกิดก็เยอะ แล้ววิญญาณที่ยังอยู่ที่โลกก็เยอะทำไมไม่จับมาให้หมด สุวรรณก็ตอบว่าจับมาไม่ได้เพราะเค้ายังไม่หมดอายุขัย ร่างกายคนเรา<o:p></o:p>[/FONT][/FONT]
[FONT="]มี สังขาร (ร่างกาย) และจิตวิญญาณ เมื่อละสังขารแล้วแต่ยังไม่ละจิตวิญญาณ คือยังไม่ถึงที่ตาย เช่นพวกฆ่าตัวตาย หรือถูกรถชนตาย วิญญานก็จะต้องวนเวียนอยู่ในโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ละวิญญาณแล้วถึงจะไปรับมาได้ ท่านจึงถามต่อว่าพ่อหลวงจะมีอายุยืนยาวไหม[FONT="]?สุวรรณตอบว่า ท่านสิ้นอายุขัยแล้วแต่มีคนต่ออายุขัยให้ท่านซึ่งก็คือพี่สาวของท่านเองแล้วประเทศไทยละจะเป็นอย่างไรต่อไป?สุวรรณตอบว่า บอกไม่ได้<o:p></o:p>[/FONT][/FONT]
[FONT="]แล้วหลวงพ่อก็เดินต่อไปอีกคราวนี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อนซึ่งมองไปที่กำแพงกั้นน้ำ สิ่งที่ท่านเห็นคือม้าตัวผอมเซียว[FONT="] ซึ่งมี พระเจ้าตาก และ พระปิยะมหาราช ยื่นขวางลำน้ำอยู่ท่านบอกว่า ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆช่วยไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมจริงๆกรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไปนานแล้วแต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม้าจะหมดแรงจากความหนาวของน้ำและการอดอาหารมานานหลวงพ่อท่านพูดจบน้ำตาท่านก็ไหลออกมา<o:p></o:p>[/FONT][/FONT]
[FONT="]แล้วบอกให้ทุกคนที่ได้รับฟังเรื่องราวของท่านว่า เป็นนิมิตของท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ เพราะท่านก็ยังคิดว่าเป็นความฝันของท่าน...แต่ท่านก็กำชับกับทุกๆคนเอาไว้ว่า[FONT="]<o:p></o:p>[/FONT][/FONT]
[FONT="] เวลาไปที่วงเวียนใหญ่ หรือพระบรมรูปทรงม้าหรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี พระบรมรูปให้กราบไหว้โดยนำ หญ้าที่ม้ากินล้างให้สะอาดไปถวายด้วยเพื่อให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปจริงๆเพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือมันแปลกมากที่อยู่ๆเข้าไปถวายเทียนแล้วท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังในเมื่อมีโอกาสได้รับรู้ก็ควรเผยแพร่แก่ทุกๆคนครับก็อยากจะฝากเพื่อนๆ แต่อันนี้สุดแล้วแต่ความเชื่อ<o:p></o:p>[/FONT]
[FONT="] ขอบคุณครับ<o:p></o:p>[/FONT]
[FONT="]<o:p> </o:p>[/FONT]
[FONT="]เป็นหลวงพ่อ อายุราวๆ[FONT="] 70 ตาซ้ายเสียอ่ะครับ<o:p></o:p>[/FONT][/FONT]
[FONT="]<o:p> </o:p>[/FONT]
นิมิตหลวงพ่อโอภาษี
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย HS4OFL, 1 มกราคม 2010.
-
น่าจะเป็นหลวงพ่ออ๊อดพี่ชายหลวงพ่ออุสา เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี เป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อโอภาสี ลูกชายหลวงพ่อกิ้มเส็ง น้องชายหลวงพ่อโอภาสี
-
อนุโมทนาครับ
ขอบคุณมากครับที่นำเรื่องที่มองข้ามไปมาเล่า
ฟังแล้วน้ำตาจะไหลถึงความเสียสละของท่านจริงๆ
ผมเองก็ไม่เคยนำหญ้าสดไปถวายม้าท่านเหมือนกัน -
รู้แค่ว่าผมเองก็เสียใจ
-
สาธุ ครับ
<iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://www.needearn.com/aft/4ea5db6c/11110002.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>
<iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://thai.th.nu/link/afiil1.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe> -
เอาอะไรมาพูดว่าพระเจ้าตากกับพระปิยมหาราชอยู่ในนรก
ทั้งสองพระองค์ท่านถึงซึ่งพระนิพพานแล้ว
ระวังนรกจะกินหัวนะ -
สิ่งที่หลวงพ่อโอภาสี พูดกับลูกศิษย์ไว้คือ
1.บางมด จะกลายเป็นบางหมด คือ สวนไร่ของชาวบ้านเริ่มกลายเป็นหมู่บ้านและโรงงาน สวนได้หายไป โดนถมที่
2.ต่อไปนี้ศิษย์ไม่ต้องมาทางเรือ ซึ่งภายหลังมีถนนตัดผ่าน รถยนต์ก็วิ่งถึง การใช้เรือก็เลิกไป
3.คนที่จะเป็นเจ้าอาวาสดูแลต่อ ต้องเป็นญาติท่านเท่านั้น
4.อีกหน่อยจะกลายเป็นวัด -
<iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
</iframe> -
อิ๊ อิ๊ error error ไปกันใหญ่แระ