เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

  1. พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เรื่องเล่า : เล่าเรื่องตามหาคำตอบข้อสงสัยฯ

    ตอน : ปัญหาค้างคาใจ (2)

    ตามที่เคยบอกไปนานแล้วว่าผมเป็นคนชอบอ่าน อ่านแม้กระทั่งถุงกระดาษหนังสือพิมพ์ เป็นเพราะบางครั้งสถานการณ์บังคับให้อ่าน

    เพราะเฝ้าลอบเฝ้าเบ็ดอยู่กลางทุ่งนา ไม่รู้ว่าจะไปเล่นกับใคร สมัยก่อนโน้น จังหวัดอ่างทองน้ำท่วมตลอดอย่างปี 2554 ที่ผมดูยังไง

    ก็ไม่เห็นแปลก การที่ไปลอยเรือกลางทุ่งกลางนาก็ไม่มีอะไรให้เล่น ก็ได้แต่อ่านหนังสือหรือไม่ก็เอาตำรายาหรือตำราคาถาที่ปู่คอยหา

    เอามาจากวัดให้ลอกเก็บเอาไว้ มีข้อสงสัยหลายๆ อย่าง บางอย่างก็ถามได้ บางอย่างก็ไม่รู้จะถามใคร บางอย่างถามสุ่มสี่สุ่มห้าก็จะโดน

    ข้อหาอวดดีสู่รู้ ก็ทำให้ไม่รู้ตลอดมา บางทีก็ลืมถามไปเลย ผมเคยสงสัยว่าศาสนาพุทธเสื่อมศรัทธาจากอินเดียไปได้อย่างไร? ในยุคก่อน

    จะถามใคร? ผมเคยสงสัยว่าใครนะแอบไปได้ยินหมอดูจีนทำนายทายทักพระเจ้าตาก กับ ร.๑ ตอนที่ยังบวชเป็นพระอยู่ ผมก็ไม่กล้า

    ถามใคร บางอย่างผมก็เชื่ออย่างผิดๆ เพราะลิเกเล่นให้ดูหรือคนเล่าให้ฟัง อย่างประวัติศาสตร์ยุคสมัยพระนารายณ์ต่อมาจนถึงพระพุทธ

    เจ้าเสือ พระเพทราชา กับดอกเดื่อดูจะเป็นตัวร้าย เจ้าพระยาวิชาเยนทร์กับขุนท้าวกีบทอง หรือ เดอร์กีมาร์ เป็นตัวดี ผมเชื่อโดยไม่สงสัย

    จนโตแล้วได้ข้อมูลจดหมายเหตุจากประวัติศาสตร์ของไทย ที่คนของสเปน,ของฝรั่งเศส บันทึกไว้ก็พอได้รู้เรื่องบ้างจริงไม่จริงอีกเรื่องหนึ่ง

    ตำนานห้ามสามัญชนกินปลาตะเพียน หรือเรื่องโหดร้ายแบบข่มขืนแล้วฆ่าเอาศพออกทางประตูผี ผมก็ได้มาจากลิเกกับชาวบ้านเล่าแทบ

    ทั้งนั้น ผมจำได้ว่ามีสมาชิกของเราท่านหนึ่งบอกว่าเคยดูลิเกคณะนายต๋าตอนไปป่าโมก จ.อ่างทอง คณะนายต๋านี่แหละที่คนพูดถึงว่า แสดง

    เป็นพระนารายณ์ดีที่สุด เรื่องเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ก็ได้จากภาพยนตร์ยุคก่อนปี 2500 อะไรที่เป็นประวัติศาสตร์เดี๋ยวนี้พอหาได้ง่ายๆ ถ้าไม่

    ติดยึดกับความรู้เก่าๆ ผมเคยได้ฟังครู/อาจารย์ของผมท่านหนึ่งบอกผมว่าศาสนาพุทธก็ไม่ค่อยจะมีความละเอียดเท่าไหร่ ผมอยากจะเถียง

    ก็ไม่กล้า ได้แต่คิดในใจว่า คำสอนมากขนาดนี้ยังไม่ละเอียดอีกหรือ แต่ไม่กล้าเถียงเพราะผมรู้จักท่านมากพอสมควร เป็นคนที่ชอบไปวัด

    สนทนาธรรมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่มาก็มาก เขียนหนังสือธรรมก็เยอะ ท่านเคยเขียนเรื่อง"วิญญาณศาสตร์"แจกกันอ่าน วิญาณศาสตร์ที่ท่าน

    เขียนไม่มีผี แต่เป็นคล้ายๆ"สมการ"เหมือนหมอดูแต่ไม่ใช่หมอดู ทำนองนั้น อ่านแล้วเข้าใจค่อนข้างยากเพราะพื้นฐานผมน้อย แต่ดูเป็น

    วิทยาศาสตร์ดี ถึงตอนนี้ก็พอมองเห็นคร่าวๆ ว่าผมมีข้อสงสัยที่ตามหาคำตอบอยู่ เช่น ศาสนาพุทธเสื่อมจากศรัทธาของชาวอินเดียไปได้อย่างไร?

    หรือเพราะอะไร? และที่ว่าศาสนาพุทธยังขาดความละเอียดจริงหรือ ผมไม่ได้ตามหาแต่คำตอบ ผมตามหาความเข้าใจทั้งของผมเอง เพราะผม

    เชื่อว่า ที่อ่านๆ มาก็แค่ข้อสันนิษฐานเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีใครในยุคนี้ได้เคยเห็นของจริงหรอก พอโตขึ้นมีสตางค์พอจะซื้อหนังสืออ่านเองได้

    ก็เลยตลุยซื้อหาเอามาอ่านมากขึ้นเข้าใจมากขึ้น พอไปเรียนรัฐศาสตร์ผมเรียนในสาขา"การเมืองการปกครองเปรียบเทียบ เอก ความสัมพันธ์ระหว่าง

    ประเทศ"หลักสูตรมันบังคับให้เรียนเรื่องการเมืองทุกรูปแบบ ทั้ง ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช,ระบอบประชาธิปไตย,ระบอบคอมมิวนิสต์,สังคมนิยม,

    สังคมจิตวิทยาฯ แล้วนำเอามาเปรียบเทียบกัน ต้องเรียนประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีความสำคัญทางการเมือง แล้วเอามาเปรียบเทียบ ต้องเรียน

    สังคมในแบบต่างๆ ทุกหนแห่ง แล้วเอามาเปรียบเทียบ ต้องเรียนศาสนาและลัทธิต่างๆ แล้วเอามาเปรียบเทียบฯลฯ...................

    ตอนเรียนรู้ลัทธิขงจื้อ จำได้ว่าท่านเคยตอบคำถามลูกศิษย์ท่านว่า "ถ้าอยากจะรู้อะไรที่เป็นข้อสงสัย ก็ให้ไปถามท่านที่อยู่ทางทิศตะวันตก

    เพราะท่านนั้นรู้ดีเป็นที่สุด(อะไรทำนองนั้น)" และท่านที่อยู่ทางทิศตะวันตกของ"ขงจื้อ"นั้น ก็คือพระพุทธเจ้านั่นเอง ผมไม่รู้ว่าข้อสงสัยอะไรบ้าง

    แต่ทำให้รู้ว่าท่านเกิดร่มสมัยกับพระพุทธเจ้า คือ ก่อน ค.ส. 551 ปี ขงจื้อ ท่านคงไม่ต้องการให้ใครไปถามพระพุทธเจ้าจริงๆ หรอก เพราะ

    พระพุทธองค์เสด็จสู่ปรินิพพาน ตอนขงจื้อมีอายุได้ 8 ขวบ เพียงแต่ท่านต้องการให้รู้ว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นพระผู้รู้แจ้งด้วยพระองค์เองฯลฯ

    ทั้งหมดที่เขียนมาจนยาวนั้นมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมหาหนังสือเอามาอ่านเทียบเคียงกับตำราต่างๆ เช่น หนังสือศิลปวัฒนธรรม,และมีหนังสือ

    ต่วยตูน พิเศษ,หนังสือ National Geographapic ได้สาระบ้างไม่ได้บ้าง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ทำให้ได้พบรูปสวยๆ น่าติดตาม ตามที่

    เอามาลงให้ดูก่อน



    เมืองเพตรา หรือเพตรามหานครหินสีชมพู ผมพบครั้งแรกในหนังสือต่วยตูนพิเศษ



    อีกมุมหนึ่งของ เพตรา ผมตามดูรายละเอียดใน เส้นทางสายไหม

    อ่านหนังสือต่วยตูน ผมสนใจเรื่อง UFO แต่ที่ประทับใจมากก็เมืองเพตรานี่แหละ ผมคิดว่ามันน่าทึ่งสำหรับผม ปัจจุบันอยู่ในจอร์แดนฯ



    บางมุมของ วัดถ้ำอชันตา วัดของพระพุทธศาสนาวัดนี้อยู่ห่างจากบอมเบย์ (ปัจจุบันเรียก บุมไบ)ประมาณ 40 กม. ผมไปเมืองบอมเบย์ก็หลายครั้ง

    ถึงบอมเบย์ทุกครั้งแต่ไปไม่ถึงวัดถ้ำอชันตา สถานที่แห่งนี้และยุคนี้แหละที่พุทธศาสนาค่อยๆห่างและหายไปจากศรัทธาของชาวอินเดียถึง 700 ปี

    นับจากประมาณปี พุทธศักราช 400-500 มีเวลาจะเข้ามาเขียนต่อ วัดถ้ำอชันตา ฝีมือไม่น้อยหน้า เมืองเพตรา



    สังเกตรูปสลักของพระพุทธเจ้าที่วัดถ้ำอชันตา เอาไว้ครับ แล้วค่อยๆ นำไปเปรียบเทียบกับสถานที่อื่นๆ ทั้งรูปแบบ และกาลเวลา กษัตริย์กรีก

    มีอยู่ประมาณ 6-7 พระองค์ ที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนา ไม่ใช่แค่อเล็กซานเดอร์เท่านั้น ผมยังค้นรายชื่อไม่พบ จดเอาไว้นานแล้ว

    ถ้าพบแล้วจะเอามาขียนให้อ่าน เรื่องจีวร พระพุทธเจ้า เป็นหน้าที่ของหนุ่มทิพย์ ตั้งข้อสันนิษฐานไว้แล้ว หนุ่มทิพย์คงชอบการแต่งตัวของ จูเลียส ซีซาร์

    จึงหารูปมาเปรียบเทียบ ผมจำคำพูดของ ซีซาร์ได้ตอนที่กล่าวว่า เจ้าก็ด้วยรึ"บลูตัส"สุดคาดการณ์ ถ้าเช่นนั้น วายปราณเถิดซีซาร์



    ความหมาย ตอนหนึ่งของคำว่า สีหไสยาสน์ คือ พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่กับพื้นข้างพระเขนย รูปนี้อยู่ที่มหาสถูป เกสริยา หรือเกสเรีย(กุสินารา)



    เอาอีกรูปเพื่อยืนยันว่า สีหไสยาสน์ ที่บ้านเมืองอื่นเขาเป็นอย่างนี้ พระพุทธองค์จะได้ไม่ทรงพระเมื่อยมาก(ศัพท์ของผมเอง)

    เดี๋ยวนี้ผมติดพันธ์"อินชอนเกมส์" เลยไม่ได้เข้ามาเขียน เมืองนี้มีคนรุ่นใกล้ๆผมพูดไทยเล็กๆ น้อยๆ ได้หลายคน คือพอจะทักทายกันได้

    พอถามว่า ไปเรียนภาษไทยมาหรือ ได้คำตอบว่าเปล่า ถามว่าพูดได้อย่างไร? ตอบว่าพ่อเป็นทหารไทย ที่มาช่วยรบ คือรุ่น

    สงครามเกาหลี เชื่อไหมครับ ปี 1982 เกาหลีเริ่มประชาสัมพันธ์ว่า เขาจะจัดกีฬาเอเชี่ยนเกมศ์ ปี 1986 และเลยไปถึงว่า จะเป็นเจ้าภาพ

    จัดโอลิมปิคส์ ปี 1988 พอเรือสินค้าที่ผมทำงานอยู่ ผ่านเข้า BREAK WATER เพื่อเข้าไปเทียบท่าทำการส่งส่งสินค้าที่ขนมาจาก ประเทศ

    อัฟริกาใต้ พวกผมได้ยินเสียงเพลง กรุงเทพฯ 200 ปีขึ้นเสียงมาจากบนฝั่งของเมืองท่า"อินชอน"ให้คนไทยอย่างพวกผมได้ยิน ทำให้คิดถึงบ้านที่จากไป

    เสียนาน และรู้ว่าบ้านเรากำลังจะจัดงานครบรอบ 200 ปี ของกรุงเทพฯ แต่เมื่อผมกลับมาเมืองไทยไม่ค่อยได้ยินแบบประทับใจเลย อย่าแปลกใจว่า ทำไม

    เขาถึงเจริญก้าวหน้ากว่าเรา ยังไมจบต้องต่ออีก เอาไว้ตอนต่อไป ที่เขียนครั้งนี้เพราะหนุ่มทิพย์เขาบังคับมา ขอขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
     
  2. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    กระทู้เงียบๆ เพราะไม่มีของจะขาย มานึกขึ้นได้ว่าผมยังติดค้างพระผงของขวัญทรงเมตตากับเพื่อนสมาชิกอยู่

    อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมต้องขอแรงคุณพ่อประดู่มาช่วยจัดห้องพระฯ ตามคุณชนะมาช่วยด้วย
    ถ้าวันนั้นเธอมาได้ คงได้กวาดพระฯผมไปหลายองค์แน่ เพราะผมได้มาเยอะเกินจำเป็น สมัยที่ยังตระเวนหาเกจิอยู่

    ตอนนี้ห้องพระฯเรียบร้อยน่ากลับเข้าไปสวดมนต์เหมือนเดิมแล้ว ต้องขอบพระคุณผู้ชำนาญการการบรรจุตู้สินค้าลงเรือเป็นอย่างมาก ตัวผมเองถนัดคำนวนสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ แต่มาเจอผงเข้าตาอย่างห้องพระฯนึกไม่ออกเลย....

    ผมไม่ได้สวดมนต์มานานมาก เพราะห้องพระฯเหมือนป่าดงดิบ ยากแก่การเข้าไปธุดงค์

    ที่พูดถึง เพราะจะกลับมายุให้สวดมนต์ไหว้พระฯกันอีกครั้ง

    ............

    ช่วงที่ห่างการสวดมนต์ผิวพรรณผมจะดูหยาบ ไม่ชอบแม้แต่จะมองกระจกดูตัวเอง และผมจะโดนตามให้กลับมาสวดมนต์แบบน่ากลัว....

    ย้อนกลับไปสมัยเด็ก สวดมนต์เก่งมาก เก่งขนาดที่หลับไปแล้ว แต่อยากจะตื่นเมื่อไหร่ก็ได้
    แม้ว่าจะฝัน ก็ยังรู้ตัวว่าฝันอยู่นะ จะตื่นหรือจะฝันต่อ... ไม่ยากเลย แค่ลมหายใจอย่างเดียว เพราะในฝันไม่มีลมหายใจ ในฝันไม่มีสีเขียวสีแดง เราจะแยกสีไม่ออก อ่านหนังสือไม่ได้ และไม่เห็นลายมือตัวเองประมาณนั้น ถ้าเห็นแบบนั้น จะรู้เลยว่าฝันอยู่ แล้วเราจะบังคับฝันได้

    แต่ถ้าเรากำหนดลมหายใจไว้ที่ระหว่างหลับกับตื่น เราจะอยู่ในสมาธิแบบนั้น รอบข้างไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า สีขาวใสเหมือนหลับตามองหลอดไฟไม่มีประมาณ ตื่นแต่จิต กายไม่ตื่น

    สิ่งสำคัญจากการสวดมนต์บ่อยๆ อย่างน้อยจะได้ประมาณที่ผมบอก ขอแค่ขยันๆให้มากๆ
    สำคัญอย่างไรนั้น จะยกตัวอย่าง...

    ผีที่ตายแบบไม่รู้ตัว ผีแบบนี้จะอยู่เหมือนในสภาวะของความฝัน ไม่มีลมหายใจแต่ไม่รู้ตัว
    จิตสุดท้ายคิดอะไรอยู่ก็วนอยู่ตรงนั้น เหมือนคนฝันแล้วฝันอีก ไปผุดไปเกิดไม่ได้

    คนหลับกับคนตายเหมือนกันตรงนี้ ถ้าตอนนี้เราไม่ฝึกตายซะก่อน ถึงคราตายจริง เราจะลำบากให้คนมาสวดถอนวิญญาณ

    แต่ถ้ายังไม่ตาย เราก็สามารถอธิฐานได้ แค่สวดมนต์จนเป็นสมาธิ ก่อนหลับก็อธิฐานแล้วกำหนดลมหายใจหรือจิตไปจนกายหลับ ถ้าไม่โชคดีรักษาจิตให้อยู่ระหว่างหลับกับตื่นได้ ก็จะฝันดี และอาจจะฝันเห็นสิ่งที่อยากเห็นได้

    เอาแบบโชคดีก่อน จากประสพการณ์ ถ้าจิตอยู่ระหว่างหลับกับตื่น เราจะเห็นสิ่งรอบตัวเป็นสีขาวอย่างที่บอก ไม่มีสูงต่ำ ไม่เห็นพื้น ไม่เห็นอะไรเลย แต่รู้ตัวว่าเราไม่ฝันและไม่ตื่น อยากไปไหนก็กำหนดไปได้เลย

    หรือเอาแบบเป็นการเป็นงาน ช่วงจบใหม่ๆ ผมไปสอบเข้าช่อง9เมื่อประมาณ20ปีก่อน ผมทำข้อเขียนได้ดีมาก ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้ (ใช้ปากกาที่หลวงปู่หงษ์ให้มา เป็นปากการุ่นแรก) ผมสอบข้อเขียนจนเข้าไปถึงรอบสุดท้าย คือสัมภาษณ์ ผมเจอคุณแสงชัย สุนทรวัฒน์ ผมประหม่า ไม่คิดว่าระดับ ผอ. จะมาสัมภาษณ์เอง แล้วต้องไปยืน Test หน้ากล้อง

    หน้าตาอาจจะผ่าน แต่สัมภาษณ์ไม่รู้... ผมสวดมนต์ตามปรกติ แล้วขอให้ครูอาจารย์ช่วย
    คืนวันที่จะไปดูผล ผมเห็นหลวงปู่บุดดา กับหลวงปู่เกษม ผมเข้าไปกราบนมัสการ รู้ว่ากำลังฝัน ก็ทำตัวให้เรียบร้อยหน่อย เอ่ยปากไม่ให้เสียโอกาส "หลวงปู่ฯ ผมผ่านไหม"

    หลวงปู่บุดดาท่านให้ผมไปดูที่กระดาน ท่านบอกช่วยให้ได้เท่านี้
    ผมไปอ่านรายชื่อ มีอยู่ไม่กี่คนที่สอบผ่าน และเห็นมีรายชื่อสำรองด้วย
    ตื่นมาผมยังงงอยู่ ว่าโฆษณาระบุว่ารับจำนวนมาก สมัครกันเกือบ300คน ผมเข้ารอบไม่ถึง30คน รับจำนวนมากมันกี่คนแน่

    ผมไปที่ช่อง9 ดูบอร์ดประกาศผล เห็นมีผ่านอยู่3-4คน และมีสำรองไม่กี่คน ผมไม่ผ่าน ผมไม่แปลกใจ แต่ในฝันมันเหมือนกับที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้เลย....

    ............

    ผมไม่ชอบเล่าอะไรแบบนี้ มันเหมือนเรื่องโกหก แต่ให้ลองทำดูก่อน ไม่เสียหายอะไร ได้บุญด้วย

    ใครอยากได้หนังสือสวดมนต์ จะจัดส่งให้ ไม่คิดสตางค์.......
     
  3. นายน้ำ5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +7,282
    ผมไม่ชอบเล่าอะไรแบบนี้ มันเหมือนเรื่องโกหก แต่ให้ลองทำดูก่อน ไม่เสียหายอะไร ได้บุญด้วย
    สวัสดีครับทานพี่หนุ่มทิพย์
    สวดมนต์และนั่งสมาธิบ่อยๆมีเทวดามาให้รางวัลบ้างมั้ยครับ เล่าให้อ่านบ้างครับ

    ใครอยากได้หนังสือสวดมนต์ จะจัดส่งให้ ไม่คิดสตางค์.......
    หนังสือสวดมนต์มีมากแล้วครับท่านพี่หนุมทิพย์ แต่พระยังมีน้อยอยู่

    ขอถามท่านพี่หนุ่มทิพย์บ้างครับ ผมทำงานแล้วเจอคนโกงชาติโกงแผ่นดินฉ้อราษบังหลวงมาเกือบสิบปีแล้วผมนั่งดูเขาโกงไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย แบบนี้ผมจะบาปมั้ยครับ
     
  4. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ต้องจูนให้เข้าใจตรงกันก่อน

    คำว่ารางวัลของคุณหมายถึงอะไร?.......

    ............

    ผมเคยได้ยินบ่อยมาก กับคำว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป"
    ไม่รู้ว่าเจ้าของคำพูดนี้ไปลงนรกหรือยัง

    บ่อยมากกับการเห็นคนบ่นท้อถอย เพราะอ้างว่าตัวเองทำดีมาตลอด แต่ไม่เคยได้รับผลดีกลับมาเลย...

    คนแบบนี้ผมจะอยู่ห่างๆ เพราะคนที่ไม่เข้าใจความดี จะสอนหรือให้สติก็ไม่มีประโยชน์ เธอจะไม่รับอะไรทั้งนั้น

    ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว พระท่านสอนมาดีแล้ว

    แต่คนที่ไม่มีปัญญาหรือขาดความรู้ จะไม่เข้าใจความหมายหรือไปจดจำคำพูดไร้สาระอย่างที่ผมยกมาให้อ่านนั้น

    กินข้าวต้องอิ่ม วิ่งต้องเหนื่อย นี่เป็นสัจธรรม
    ทำดีก็ย่อมต้องได้ดี แต่คนที่คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว แต่ทำไมไม่มีผลตอบแทน
    นั้นแปลว่าเค้าคิดว่าความดีคือผลตอบแทน บางคนคิดว่าความดีคือเงิน ทำดีแล้วต้องได้เงิน เพราะเงินคือตัวแทนของความดี

    ถ้าคิดแบบนี้ เราจะมีคนดีมากๆอยู่หลายคนเต็มประเทศ
    คนเลวคือคนที่ไม่มีเงิน!.... เป็นแบบนั้นรึเปล่า?
    ถ้าเป็นแบบนั้น เราจะมีคนที่พยายามทำตัวเป็นคนดี ด้วยการโกงเพื่อให้ได้เงิน ให้ได้ตำแหน่ง แล้วเราจะนับถือคนดีแบบนี้ไหม

    ความดีเป็นเรื่องจับต้องไม่ได้ และผมจะไม่นิยามความหมายของคำว่า "ความดี"

    .............

    กลับมาที่คำว่า "รางวัล"
    ถ้าคุณหมายถึง สิ่งที่ได้รับแล้วสุขใจ ผมจะตอบว่า "ใช่ครับ ผมได้มาตลอด"
    แต่ความสุขของผมอาจไม่เหมือนของคุณ
    ความสุขของผมคือการได้อยู่อย่างสงบ ไม่ร้อนรน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ขวนขวาย และได้ใช้ทุกวินาทีอย่างมีประโยชน์ ได้อยู่กับคนที่รักกัน และได้ตอบแทนความรักระหว่างกัน

    ผมจะไม่พูดถึงรางวัลที่เป็นปาฏิหาริย์ที่คุณอยากฟัง เพราะรางวัลแบบนั้น เทียบไม่ได้กับผลตอบแทนของคนที่ไม่คำนึงถึงวิธีการที่จะได้มา คือทำเอาเองก็ได้ ไม่ต้องขอ ไม่ต้องอ้อนวอน เป็นรางวัลที่ได้โดยไม่มีความภูมิใจ

    ปาฏิหาริย์คือ คนที่เกิดมาจน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี แต่ถีบตัวเองให้สูงขึ้นได้ เป็นคนดีของสังคม เป็นที่ยอมรับของสังคม และเป็นผู้มีคุณค่าของสังคม แบบนี้ผมเรียกปาฏิหาริย์ และเป็นเรื่องภาคภูมิใจที่เอาไปเล่าให้ใครฟังได้

    .........

    อะไรที่มีเยอะจริง เค้าจะแบ่งปันครับ
    ถ้าหนังสือสวดมนต์มีเยอะแล้ว จะเอามาแบ่งปันก็ยินดี ใครที่ไปต่างจังหวัดบ่อย ผมว่าเด็กๆต่างจังหวัดหรือชาวบ้านเค้าก็คงอยากได้บ้าง เอาไปแจกเถอะครับ

    หรือถ้าพระเครื่องยังมีน้อยไม่พอ จะให้เหลือน้อยลงไปอีก ก็เอามาแจกในกระทู้นี้ก็ได้ ผมอนุญาต

    ........

    ผมขับรถกลับบ้าน เห็นคนเดินลอดใต้สะพานลอย ไม่เคารพกฎหมาย ผมก็เฉยๆ
    เห็นตำรวจขับมอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน๊อค ผมก็เฉยๆ
    ผมเห็นพระพูดจาตลกคะนอง ไม่สำรวม ผมก็เฉยๆ
    ผมเห็นสมาชิกเช่าพระเครื่องฯไม่คิดหน้าคิดหลัง ฟังแต่โฆษณา ผมก็เฉยๆ
    มันไม่ใช่เรื่องของผมที่จะไปจับผิดใคร
    แต่ผมต้องไม่ทำผิดซะเอง

    ผมเห็นลูกน้องทำผิด ผมเพิกเฉยไม่ได้ ผมต้องเข้าไปสอนไปแนะนำ
    ถ้าผมไม่ทำอะไรเลย ผมผิดกับนายจ้าง ผมไม่กตัญญูกับเงินเดือนเบี้ยเลี้ยง ผมผิดกับลูกน้องที่ฝากตัวกับผม และผิดกับตัวเองที่ไม่รักษาหน้าที่
    ผมเห็นภรรยาไปเล่นไพ่ ถ้าไม่ตักเตือนก็ผิดหลักสามีที่ดี ถ้าไม่หุงหาอาหารเตรียมไว้ เธอกลับมาหิว ก็รู้สึกแย่ไม่สบายใจ เพราะเรารับปากผู้ใหญ่เอาไว้

    อะไรที่เป็นหน้าที่ เราต้องไม่ผิดต่อหน้าที่
    เรื่องของบาปบุญ เป็นเรื่องของศีลธรรม คุณจะยืนดูคนจมน้ำตายก็ได้ ถ้าคุณไม่ใช่ซีเคียวริตี้การ์ดและว่ายน้ำไม่เป็น แต่ถ้ามารู้สึกผิดทีหลัง ก็เหมือนเอานรกเล็กๆมาไว้ที่อกตัวเอง

    คุณเป็นข้าราชการ รับราชการ หน้าที่สนองคุณแผ่นดิน คุณก็ต้องไม่ผิดต่อหน้าที่ตัวเอง และไม่อกตัญญูต่อเบี้ยหวัดแผ่นดินที่เลี้ยงคุณและครอบครัว

    .....แค่คุณขยันเข้ามาอ่าน ผมก็นิยมแล้วครับ
     
  5. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    กิจวัตรประจำวันของภรรยาผม คือเลิกงานถึงบ้านสามทุ่ม
    ต้องไม่เจอข้าวแฉะ เปิดทีวีช่อง3รอ(ทำไมจอมันไม่ดำซะที) และส่งโทรศัพท์มือถือให้เธอเล่นเกมส์ทั้งคืน

    ก่อนเล่นเกมส์จะตรวจเช็คก่อนว่ามีใครโทรฯมาบ้าง ไลน์มาบ้าง ผมไม่มีความลับเลยไม่ใช่ปัญหา แต่ลำคาญต้องคอยตอบคำถามว่านี่ใคร นี่อะไร

    แล้วถ้าใครจะไลน์เข้ามา ชวนผมให้มีความเคารพเมียเพิ่มขึ้น เธอจะบอกว่าเค้าคนนั้นเป็นคนดี ก็ช่วยรู้เทคนิคกันซะหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องเกมส์..ไม่ต้องส่งเข้ามา มันขัดจังหวะการทำงานของผมและขัดจังหวะการเล่มเกมส์ของเธอ

    เช้านี้เสธฯ ล้อผมเล่น แต่เย็นนี้เมียจะเล่นผม ไม่รู้ออกหัวออกก้อย!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • export_61.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.3 KB
      เปิดดู:
      164
  6. เอ๋เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +1,791
    เมียของหนุ่มทิพย์น่ากลัวเนอะ
     
  7. ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    น่ากลัวจริงๆๆครับ
     
  8. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    คุณghostlinux ใช้ตรีวัยดูหลังวันเกิดดวงนี้หน่อยครับ
    แล้วใช้ทักษากำเนิด+ทักษาจรแยกทายรายปีใช่ไหม ฉายหนังหน่อยครับ

    อ้อ...เคยใช้โปรแกรมนี้ไหม? ต้องคารวะเจ้าของโปรแกรมในเรื่องความอุสาหะและฝีมือexel จริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. pakatu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +679
    กราบสวัสดีรุ่นน้า รุ่นพี่ในวงการครับ(smile)
     
  10. ghostlinux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,496
    ถ้าจำไม่ผิดเป็นต้นฉบับคนแรกๆ ที่นำคัมภีร์สุริยยาตร์มาแปลงเป็นสูตรexcel คำนวนดาวตามตำรา
    รู้สึกว่าคนเขียนจะเป็นอาจารย์สอนการใช้ excel แบบขั้นประยุกต์ใช้งานด้วยครับ รุ่นหลังนำสูตร(สุริยยาตร์)ของอ.ท่านนี้มาปรับใช้กันเยอะครับ

    ดวงนี้เดี๋ยวมาดูให้อีกทีนะครับ ใช้ตรีวัยผมดูร่วมกับดาวครองวัยตามมหาทักษาปกติครับ
    แล้วคอยดูว่าช่วงตรีวัยไหนครองอายุ มีดาวใหญ่จรเข้าเรือนตรีวัยหรือเปล่าจะเปล่า หรือดาวใหญ่ทับดาวตรีวัย
    จะเป็นตัวบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ในช่วงวัยนั้นในเรื่องดาว/เรือนนั้นไป

    ส่วนทักษากำเนิด ที่ใช้ภูมิบริวาร-กาลกิณี ผมใช้บ้างเฉพาะส่วนพื้นกำเนิด ปกติไม่ต้องนำมาใช้ร่วมกันเลยก็ได้ครับ
    ทักษาจรใช้แบบที่ผมใช้ปกติครับ(ผมไม่ใช้ภูมิบริวาร-กาลกิณี) ดูในกรณีดาวตรีวัยกับดาวครองทักษาปีเป็นดาวเดียวกัน
    หรือดาวครองภูมิทักษาปีจรเข้าเรือนตรีวัยหรือจรทับดาวตรีวัย หรือในพื้นดวงอยู่ในเรือนหรือกุมตรีวัยอยู่แล้ว
     
  11. ghostlinux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,496

    ดวงคุณหมอนี่เอง ผมก็ว่าวันเกิดคุ้นตาอยู่ ผมจะลองทายแบบตรีวัยผสมดูนะครับ

    ปัจจุบันตรีวัยที่ครองอายุ(ประมาณ33เศษ-41เศษ)คือ อังคารกับราศีเมษ ในพื้นดวงเรือนราศีเมษไม่มีดาวลอย
    เรื่องจึงไปอยู่ที่ ๓ ที่สถิตย์ราศีมิถุนเรือนวินาสน์ ราศีเมษเป็นเรือนกัมมะ ช่วงวัยนี้จึงหนักไปเรื่องของการงาน
    เรือนวินาสน์กับอังคารแสดงถึง เจ้าชะตาในวัยนี้ขยันในหน้าที่รับผิดชอบ ต้องรับผิดชอบงานหลายอย่างพร้อมกัน
    งานของเจ้าชะตามักเป็นงานที่ใช้ทักษะฝีมือสูง และเป็นงานที่ไม่เปิดเผยหรือเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องปกปิดเป็นต้น
    และมักจะทำงานเป็นจ๊อบไปทำงานจบเป็นเคสไป มักไม่ค่อยอยู่กับที่ และจะมีเกณฑ์ไปเมืองนอกไปต่างประเทศด้วย(๓ธาตุลม)

    ถ้าจะดูทางมหาทักษาประกอบ เป็นช่วง ๕เสวยอายุ และมี ๒ แทรก เอามาสัมพันธ์กันกับตรีวัย
    ๕ เองได้อัมพุเกณฑ์จาก ๓ ตรีวัย มีเกณฑ์จะเรียนต่อและมีแนวโน้มจะไปเมืองนอกระยะหนึ่ง(เพราะเป็นดาววัย)
    ๒ ดาวแทรกก็รับกำลังโยคและธาตุจากอังคาร มีรายได้จากการงานเป็นอย่างดีในช่วงวัยนี้
    มีรายได้จากจ๊อบข้างนอกหรือรายได้พิเศษค่อนข้างดี จากงานที่ใช้ฝีมืออันละเอียดอ่อน
    เรื่องความรักเองก็จะมีคนมาชอบและสนใจ เพียงแต่มาจากวินาสน์อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือคบหากันแบบไม่เปิดตัว(๓โยค๒๖)

    เราดูตรีวัยเป็นภาพกว้างๆของวัยซึ่งหลายปี ถ้าจะให้ชัดเจนว่าจะเกิดเรื่องอะไรเมื่อไหร่ เราสามารถดูดาวจรประกอบ
    เรือนราศีเมษช่วงนี้ไม่มีดาวจรใหญ่เข้าไปเลย เรื่องก็ดูที่๓เป็นหลัก ปีก่อนมีดาว๕ จรทับ
    ก็สนใจจะศึกษาต่อต่างประเทศ ถูกผู้ใหญ่จับไปทำงานไกลที่อยู่เดิม ต้องไปวุ่นวายกับงานที่ต้องรับผิดชอบสูง(กึ่งถูกบังคับให้ทำ)
    ราศีเมษเองในอนาคต ช่วงปี59 ก็จะมี ๐ จรเข้าทับทำให้มีแนวโน้มจะโยกย้ายที่ทำงาน ไปทำงานแดนไกลหรือไปถึงเมืองนอก
    ลองมองมหาทักษา ก.ย.58 อังคารจะแทรก ซึ่งตรงกับตรีวัย อังคารจะมีอิทธิพลสูง
    ทำให้ตั้งแต่ช่วงนั้น๓ทำงาน จะเริ่มย้ายที่ทำงานหรือได้ไปอยู่ต่างประเทศได้ก็ตอนช่วงนั้น
    พอ๐เข้ามาร่วม อาจจะตัดสินใจอยู่เมืองนอก(ถ้าได้ไป)จนถึงช่วงสิ้นตรีวัย(อายุ41ปี8เดือน)เลยก็ได้

    ดังนั้นโดยรวมของช่วงตรีวัยนี้ เจ้าชะตามีความก้าวหน้าทางการงานดี มีหน้าที่รับผิดชอบเยอะ ย้ายที่ทำงานบ่อย
    เพียงแต่งานที่ทำมักจะถูกผู้ใหญ่บังคับเสียมาก สุดท้ายถ้าไม่ไปศึกษาต่อเมืองนอกก็คงจะทำงานที่เดิมได้ไม่นาน
    ช่วงนี้จะเหมาะกับการศึกษาต่อ เพราะ๕เสวยอายุ ทำงานที่ไม่อยู่กับที่นักไม่เปิดเผยหรือไปเมืองนอกเลย
    พอรวมกับ๓ในวินาสน์ ที่ต่อไป ๐ จะส่งผลก็หมายถึงก่อนหมดช่วงตรีวัยนี้เจ้าชะตาไม่แคล้วได้อยู่เมืองนอกซักระยะหนึ่งครับ

    อันนี้เป็นแนวคร่าวๆที่ผมลองใช้ตรีวัยจากตนุเศษประกอบมหาทักษาและดาวจรครับ
    ลองเอาไปทดสอบใช้กันดู ช่วยให้เห็นรายละเอียดชัดขึ้นเพราะมหาทักษามักให้อิทธิพลจากความหมายดาวสูง
    ซึ่งถ้าคนถนัดอ่านทางเรือนชะตามักจะอ่านได้ไม่ชัดเจน ทางตรีวัยจะอ่านทางเรือนได้ชัดเจนกว่ามหาทักษา
    ถ้านำมาใช้ร่วมกันจะอ่านได้ทั้งทางเรือนและดาวประกอบกัน ถ้าอ่านได้ทั้งสองแบบจะได้เรื่องราวดีมาก(แบบกว้างๆ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ที่ไม่สนใจแต่แรก ก็เพราะระบบตรีวัยครองอายุตั้ง8ปี4เดือน มันกว้างไป แต่ถ้าตั้งพิกัดให้แคบลงได้ ก็จะลองศึกษาดูครับ

    อย่างดวงนี้ เมื่ออายุพ้น 41ปี 8เดือน ก็จะเข้ามัชฌิมวัยภพลาภะ
    มีดาว๔เป็นเจ้าวัย ของเรือนวินาสน์ลัคน์ และมี๓ลอยอยู่เดิม
    ดาว๔ ไปลอยเป็นเกษตรอยู่ในภพสหัชชะ ได้ตำแหน่งอุจจ์ด้วย
    ก็ทายว่าเจ้าชะตาจะมีเกียรติมีชื่อเสียงในวงสังคม มีความมั่นคงในหมู่พี่น้อง ต้องมีการเดินทางเสมอ มีข้อตกลงเจรจาสัญญาผูกพันกับผู้ใหญ่ หลายสิ่งดำเนินไปตามความตั้งใจของเจ้าชะตา

    ทางทักษา จันทร์เสวย อังคารแทรก
    ...ที่เหลือ ทายไม่ออก! งง......

    เอาใหม่
    ๔ตรีวัยรักษาการณ์ ในภพวินาศน์ มี๓เป็นดาวลอย ทายว่าเรื่องงานยังเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นคู่ดาว3+4 คู่ทฤษฎีคู่ปฏิบัติ ๔มาลอยเป็นเกษตรในภพสหัชชะ แผนงานที่วางไว้สำเร็จเป็นไปตามความตั้งใจหรือเหนือกว่าที่คาด
    ๔ ในทักษากำเนิดคืออุตสาหะ งานที่ทำเปลี่ยนแปลงไปสู่ความมั่นคงและมีเกียรติ ดาว๓ที่ลอยอยู่ในภพวินาสน์ ก็เป็นมูละ อาจจะมีบ้านหลังน้อยซักหลังด้วย และมีรายได้ย่อยๆเสริมเข้ามาอีก

    ช่วงเข้าเปลี่ยนวัย มีจันทร์เสวย อังคารแทรก
    ดูไม่เป็นแบบนี้ เดาเอาว่า จันทร์คู่มิตรกับพุธ ก็น่าจะทำให้เจ้าชะตามีความชุ่มชื่นดี ส่วนอังคารก็ไปเสริมเรื่องการวางแผนอนาคต แบบเหน็จเหนื่อยก็เพื่อเธอเสมอประมาณนั้น
    ส่วนดาวจร ก็มีพฤหัสจรเข้ามาทับ๔เดิม ทายแบบเดิม คือมีความสำเร็จทางวิชาการ อาจจะเป็นวิทยานิพนธ์หรือโครงการณ์โปรเจ็คใดๆ

    ....ทายไม่ออกจริงๆ ใช้ชัณษาจรง่ายกว่าเยอะเลย.....
     
  13. chatchai_/\_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +1,104
    ขอร่วมบุญด้วยครับพี่ทิพย์

    โอนร่วมบุญแล้วครับ
    จำนวนเงิน (บาท) 1,150.88
    วันที่โอนเงิน 01/10/2014
    บันทึกช่วยจำ โอนเงินร่วมสร้างโรงเรียน 1000 และซื้อผ้าไตร 150 บาทถ้วน

    ************************************************
    หมายเลขอ้างอิง TRTR141001073523459
    รายละเอียดการทำรายการ
    จากบัญชี 526-x-xxxxx-9
    เพื่อเข้าบัญชี 604-2-33303-2 MR. MANCHAI PENGJAMSRI
    ************************************************

    อนุโมทนา สาธุ
    chatchai_/\_
     
  14. Funfun27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +7,868
    สวัสดีพี่หนุ่มทิพย์ และเพื่อนร่วมขบวนการทุกท่าน,

    เย็นนี้ จะทำการอัพเดทตารางให้ทราบนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  15. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผมต้องส่งพระผงของขวัยทรงเมตตาให้เพื่อนสมาชิก เน้นให้ผมเห็นชัดๆหน่อยนะครับ จะจัดส่งให้วันเสาร์นี้
     
  16. นายน้ำ5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +7,282
    เข้ามาติดตามอ่านได้มุมมองใหม่ๆ
    ได้แง่คิดอะไรหลายๆอย่างครับท่านพี่หนุ่มทิพย์

    เดี๋ยวได้เหรียญที่หลวงปู่อฐิษฐานจิตเสร็จหลังออกพรรษาจะเอามาแจกสิบเหรียญครับ
     
  17. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ใครอยากได้เหรียญน้ำใจใสแจ๋ว ก็มารอตามอ่าน
    วันไหนคุณนายน้ำประกาศขอรายชื่อ ก็ให้รีบจับจองท่านละ1เหรียญ

    กติการมีแค่ แจ้งประสงค์จะขอรับน้ำใจ จากนั้นส่งรายชื่อและที่อยู่หลังประกาศรายชื่อที่จะได้

    โปรดติดตาม

    ...................

    เพื่อนสมาชิกที่ผมติดค้างรายการใดๆ ผมจะเติมพระเครื่องเพิ่มเติมไปให้นะครับ เป็นพระเครื่องที่ผมเคยไปทำบุญมาเมื่อวัยเด็ก อายุพระเครื่องแต่ละองค์ก็ไม่น้อยแล้วละครับ ขึ้นอยู่กับผมหยิบองค์ไหนได้ ก็ใส่องค์นั้นนะครับ แล้วแต่ใครจะโชคดี

    ของอาจไม่มีราคาในวงการ แต่เป็นของที่ได้จากหนุ่มทิพย์...แค่นั้นครับ
     
  18. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    อยู่ประเทศอะไรครับ ใช่เส้นทางสายไหมหรือเปล่า?
    มีค่าผ่านประตู หรืออนุญาติให้เข้าชมภายในหรือไม่ครับ
    มีชื่อเต็มว่าอะไร?
     
  19. ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ
     
  20. numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143


    ขัดใจ... เป็นอะไรที่ถ้าไม่เข้าใจแล้วเลิกไม่ได้ด้วย

    ดาวเจ้าวัยคือ๓ เป็นภพกัมมะของลัคนา สถิตเรือนวินาสน์(เป็นคุณแก่เจ้าชะตา) ไม่มีตำแหน่งดาว ร่วมราศีกับ๔ คู่วิวาทะ,ทฤษฎี ๓มีตำแหน่งทางทักษาคือมูละ ทรัพย์ที่ดินถิ่นฐาน
    อ่านว่า การงานเป็นไปด้วยความกระตือรือร้นหรือขันแข็งพอประมาณ ไม่เอื่อยเฉื่อย ไม่โดดเด่น แต่มั่นคง(เจ้าเรือน๔เป็นเกษตร) ในการงานนี้มีการเจรจาตกลง(๔) เพื่อเปลี่ยนแปลง(สหัชชะ) แต่มีผลเพียงชั่วคราว(๓/ปุตตะ) และเป็นงานที่อยู่เบื้องหลัง(วินาสน์) วัยนี้จะสร้างฐานะให้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น(มูละ)ทีละน้อยหรือเป็นอย่างๆ(ปุตตะ)

    วัยนี้ทำงาน 8ปี4เดือนดังนี้แล....(จากอายุ33ขวบปี 4เดือน ถึง 41ขวบปี 8เดือน)

    จากนั้นจะหาทางไล่เจาะทีละปี...

    .................

    ขอทายแบบไม่ทบทวน
    จะลองใช้ทักษาจรอ่านประกอบ
    ช่วงอายุ33ขวบปี 4เดือน-34ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นกาลี มีเหตุให้ต้องใช้เงินอย่างเสียไม่ได้ หรือรายจ่ายสุรุ่ยสุร่าย กิจการงานก็วุ่นวายสับสน เหนื่อยกายเหนื่อยใจ

    อายุ34-35ขวบ
    ๓จรเป็นมนตรี เริ่มสะสมทรัพย์ ผู้ใหญ่ให้ความสำคัญ และให้ความสำคัญกับผู้ใหญ่ฝ่ายเรา

    อายุ35-36ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นอุตสาหะ กิจการงานเริ่มยุ่งมากขึ้น ด้วยภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น ขยันหาทรัพย์ เร่งสร้างเนื้อสร้างตัว

    อายุ36-37ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นมูละ งานที่รับผิดชอบสร้างรายได้ให้อย่างมาก มีหลักฐานบ้านช่องมั่นคงขึ้น

    อายุ37-38ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นศรี หน้าที่การงานได้รับการปรับปรุงพัฒนา มีฝีมือมากขึ้น มีรายได้ดีขึ้น ตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นเกียรติ

    อายุ38-39ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นเดช ได้รับการยอมรับในตำแหน่งหน้าที่ มีบริวารหรือลูกน้องลูกมือเพิ่มขึ้น ให้คุณให้โทษใครได้ เป็นเจ้านาย!

    อายุ39-40ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นอุตสาหะ กิจการงานเริ่มยุ่งมากขึ้น ด้วยภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น ขยันหาทรัพย์ เร่งสร้างเนื้อสร้างตัว

    อายุ40-41ขวบ
    ๓ทักษาจรเป็นอายุ สุขภาพ ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ได้รับการกระทบกระเทือนจากกิจการงานเป็นอย่างมาก

    41ขวบปี-41ปี4เดือน
    ๓ทักษาจรเป็นบริวาร มีเหตุให้ต้องคะนึงถึงคนที่เกี่ยวข้อง กับกิจการงาน และผู้ที่ร่วมกันครองทรัพย์ที่หามาได้ หรือช่วยกันหาทรัพย์
     

แชร์หน้านี้