น้ำท่วมเมืองคอน พระ-เณร ออกบิณฑบาตไม่ได้ [9 ธ.ค. 51 - 13:09]

น้ำท่วมเมืองคอน พระ-เณร ออกบิณฑบาตไม่ได้ [9 ธ.ค. 51 - 13:09]



สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดภาคใต้ ยังคงน่าเป็นห่วง โดยที่ จ.นครศรีธรรมราช ตลอดคืนวันที่ 7 ธ.ค. จนถึงช่วงเช้าวันที่ 8 ธ.ค. ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในระลอกที่ 3 ส่งผลให้พื้นที่ 22 อำเภอ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกน้ำท่วม และระดับน้ำเริ่มลดลงเกือบเป็นปกติ แล้ว แต่เมื่อมีฝนตกซ้ำลงมาอีกปรากฏว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไหลบ่าท่วมพื้นที่การเกษตร ถนน และบ้านเรือนที่ปลูกในพื้นที่ลุ่มเสียหายอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 7 อำเภอ ที่ถูกน้ำท่วมหนักนานนับเดือน ระดับน้ำในพื้นที่ยังสูงกว่า 1 เมตร ในอำเภอปาก-พนัง เริ่มมีน้ำเน่าเสียจนชาวบ้านไม่กล้าเดินลุยน้ำ เพราะกลัวเชื้อโรคร้ายที่มากับน้ำ และมีชาวบ้านป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าจำนวนมาก ตามวัดต่างๆ พระภิกษุ สามเณร ได้รับความเดือดร้อนเพราะออกบิณฑบาตไม่ได้ ทำให้ไม่มีอาหารฉัน ทั้งชาวบ้านและพระภิกษุต่างต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆ

ขณะที่กลุ่มชาวบ้านใน ต.บางศาลา อ.ปากพนัง อ้างว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเป็นเวลานาน เนื่องจากน้ำระบายลงสู่ทะเลไม่ได้ สาเหตุมาจากโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังปิดประตูเขื่อนตลอด เวลา ซึ่งหากเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบดูแลปิด-เปิดประตูระบายน้ำเป็นระยะๆ โดยเมื่อน้ำทะเลหนุนก็ให้ปิดประตูเขื่อน และเมื่อน้ำทะเลลงก็เปิดประตูเขื่อน น้ำที่ท่วมขัง เต็มพื้นที่จะระบายออกสู่ทะเลได้หมด จึงอยากให้ทางโครงการลุ่มน้ำปากพนัง หรือผู้มีอำนาจช่วยพิจารณาการปิด-เปิดประตูระบายน้ำด้วย

ที่ จ.ปัตตานี หลังจากมีฝนตกหนักมา 4 วัน ทำให้ เกิดน้ำท่วมอีกครั้งใน 12 อำเภอ ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปัตตานี ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงทุกอำเภอ ให้เฝ้าระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.นี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ ราบลุ่ม และติดแม่น้ำปัตตานี ตลอดจนแม่น้ำสายบุรี จะมีน้ำเหนือจาก จ.ยะลา ไหลเข้าท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะ พื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรีเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ผลมาจากน้ำที่ไหลจาก จ.ยะลา สำหรับพื้นที่น้ำท่วม ราษฎร ได้รับผลกระทบในขณะนี้ทั้งหมด 12 อำเภอ 89 ตำบล 311 หมู่บ้าน 13,816 ครัวเรือน 33,578 คน โรงเรียนถูกน้ำท่วม 18 โรง จนต้องประกาศปิดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด สถานที่ราชการ 11 แห่ง วัด มัสยิด ถูกน้ำท่วม 7 แห่ง ถนนเสียหาย 144 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหาย เกือบ 20,000 ไร่

ที่ จ.นราธิวาส ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักอีกระลอก แพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ไหลทะลักลงมาสมทบกับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลัก ซึ่งล้นตลิ่งอยู่แล้ว มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทาง การเกษตรบริเวณตลอดแนวริมตลิ่ง และพื้นที่ราบลุ่ม 3 อำเภอ คือ สุไหงโก-ลก แว้ง และตากใบ โดยมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎร 18 ตำบล 122 หมู่บ้าน ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 80-100 ซม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำเรือท้องแบนอพยพชาวบ้านและสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นมาอาศัยอยู่ ชั่วคราวยังสถานที่ราชการและเต็นท์ที่กางไว้ริมถนน หลังเจ้าหน้าที่ประเมินว่าฝนตกในครั้งนี้จะเกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่อีกระลอก ส่วนราษฎรในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ บางนรา และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งถูกน้ำท่วมขังเริ่มกลับสู่ ภาวะปกติ เหลือเพียง 21 ตำบล 179 หมู่บ้าน ที่ยังมีน้ำท่วมขัง มีระดับน้ำสูงโดยเฉลี่ย 30 ซม.

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศในช่วงเย็น วันที่ 8 ธ.ค. ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไปมีฝนหนาแน่น และมีฝน หนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามภูเขาสูง และริมแม่น้ำระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 1-2 วันนี้ สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นต่อเนื่อง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา

http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=114505

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o><o></o><o></o><o></o>

 

น่าเห็นใจครับ คุณตา-ยายของลูกชายก็โทรศัพท์มาบอกเหมือนกันว่า นาและสวนผลไม้ น้ำท่วมมากเลย แต่คงไม่เป็นไร เพราะตรงนั้นไม่เคยท่วม คงเป็นแค่ทางน้ำผ่านเชยๆ