@ น้ำ มั น พื ช . . . อั น ต ร า ย ร ะ ดั บ ช า ติ ! ! !

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย แสงอมตะ, 13 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. แสงอมตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +486
    @ น้ำ มั น พื ช . . . อั น ต ร า ย ร ะ ดั บ ช า ติ ! ! !

    คนไทยตาสว่างเสียที…เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึม อดีตเมื่อก่อน 30 ปีที่แล้ว คนไทยใช้น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหมูทำกับข้าว

    จู่ๆโฆษณา ( แหกตาอีกแล้วครับท่าน )ฝรั่ง มากล่าวโทษวิถีไทยเดิมๆ มาขี้ตู่ หาว่าน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหมู ทำให้คลอเลส
    เตอรอลสูง เพราะจับตัวเป็นไข

    แล้วขี้ตู่ว่าวิธีแก้คือ การใช้น้ำมันพืชปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อผิดๆที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา
    แ ต่ ป ร า ก ฏ ว่ า . . . . อั ต ร า ก า ร เ ป็ น โ ร ค ต่ า ง ๆ ม า ก ขึ้ น … ไ ข มั น ใ น เ ลื อ ด สู ง , โ ร ค หั ว ใ จ , โ ร ค ไ ต , ภู มิ แ พ้ … เ ป็ น ต้ น

    ว ง ก า ร สุ ข ภ า พ ข อ ง ต ะ วั น ต ก เ พิ่ ง จ ะ ม า ต า
    ส ว่ า ง เ มื่ อ ค้ น พ บ โ ท ษ ข อ ง น้ำ มั น พื ช ส ห รั ฐ ฯ ไ ด้ อ อ ก ม า ต ร ก า ร ล ด ล ะ เ ลิ ก ใ ช้ น้ำ มั น พื ช
    ผ่ า น ก ร ร ม วิ ธี ( t r a n s f a t o i l ) ใ น ห ล า ย ๆ รั ฐ ท่ า น ส า ม า ร ถ อ่ า น ข่ า ว เ ห ล่ า นี้ ไ ด้ เ ช่ น
    อ า ร์ โ น ล ด์ ช ว า ช เ น ก เ ก อ ร์ ผู้ ว่ า ก า ร รั ฐ แ ค ลิ ฟ อ ร์ เ นี ย กั บ ก า ร แ บ น ก า ร ใ ช้ น้ำ มั น พื ช ผ่ าน
    กร ร ม วิ ธี โ ด ย ก ล่ า ว ว่ า “ ก า ร ใ ช้ น้ำ มั น พื ช
    ผ่ า น ก ร ร ม วิ ธี ทำ ใ ห้ เ ป็ น โ ร ค ห ล อ ด เ ลื อ ด หั ว ใ จ …”
    http://gov.ca.gov/press-release/10291/

    รัฐ เท็กซัส…พระราชบัญญัติขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหารภายใน สิงหาคม 2553 KFC เริ่มเห็นโทษของน้ำ มันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช Transfat McDonald ประกาศเริ่มใช้ น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อปี 2007 เริ่ม ต้นที่ 1,200 สาขา Dunkin Donut ประกาศ เลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี 2550 เว๊บไซท์ ต่อต้าน transfat

    Ban Trans Fats: The Campaign to Ban Partially Hydrogenated Oils โ ร ค ที่ ม า กั บ น้ำ มั น พื ช ผ่ า น ก ร ร ม วิ ธี … ร ะ บ บ เ ผ า ผ ล า ญ อ า ห า ร
    เ สื่ อ ม , เ บ า ห ว า น , ธั ย ร อ ย ด์ , เ สื่ อ ม
    ส ม ร ร ถ ภ า พ ท า ง เ พ ศ , โ ร ค หั ว ใ จ , โ ร ค อ้ ว น , โ ร ค ไ ต
    http://transfatdisease.com/why.html

    อาหารที่พบอยู่ทั่วไปมีน้ำมันพืชเสมอ… ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไทย, หอยทอด, ราดหน้า, ผัดผักทุกชนิด, ไก่ทอด, ปาท่องโก๋, ข้าวผัด ขนมอบ เบอเกอรี่…ส รุ ป ร ว ม ว่ า อ า ห า ร ทุ ก ช นิ ด ที่ ใ ช้ ก ะ ท ะ ( ผั ด ท อ ด ) ใ ช้ น้ำ มั น พื ช ทั้ ง นั้ น
    น้ำ มั น พื ช เ กื อ บ ทุ ก ช นิ ด

    ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใดจึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้น

    อย่าให้คำว่า ‘ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีกน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมูที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข…แต่เมื่อ น้ำ มั น พื ช เ ข้ า ไ ป อ ยู่ ใ น ร่ า ง ก า ย อุ ณ ห ภู มิ 3 7 อ ง ศ า จ ะ ก ล า ย เ ป็ น ก า ว เ ห นี ย ว เ ก า ะ ติ ด ลำ ไ ส้ ตั้ ง แ ต่ ลำ ค อ ล ง ม า ถึ ง ลำ ไ ส้ ใ ห ญ่ ไ ม่ ส า ม า ร ถ ล้ า ง อ อ ก ไ ด้ ด้ ว ย พื ช ผั ก ที่ เ ร า ท า น เ ข้ า ไ ป แ ล ะ ไ ม่ ส า ม า ร ถ ล้ า ง อ อ ก ไ ด้ ด้ ว ย น้ำ ช า ธ ร ร ม ด า…

    แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และจะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้

    หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก 10 นาที อุณภูมิจะประมาณ 30 กว่าองศาใกล้เคียงร่างกายมนุษย์…ท่านเช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่ากาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อนจำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่านั้นแต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตากแดด…

    จะพบว่าล้างออกได้โดยง่ายเมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็วเสมือนกับท่านทานน้ำ 100% น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ 100%

    นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมท่านทานน้ำแล้วฉี่บ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะ ตามมา เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน

    * * วิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้ หวัด ไวรัสเมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก

    @ จ บ ล ง ด้ ว ย ก า ร เ สี ย เ งิ น ซื้ อ ย า ฝ รั่ ง เ งิ น ท อ ง ไ ห ล อ อ ก น อ ก ป ร ะ เ ท ศ เ พ ร า ะ เ พี ย ง แ ค่ ท่ า น ห ล ง เ ชื่ อ ว่ า น้ำ มั น พื ช ส มั ย ใ ห ม่ ไ ม่ เ ป็ น อั น ต ร า ย ! ! !

    น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
    - ฟอก สี (bleached) เพื่อให้สีดูสวย สดใส
    - แต่งกลิ่น (deodorized) เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหื มีกลิ่นตามที่ต้องการใส่ ไฮโดรเจน (hydrogenated)
    -กระบวนการเหล่านี้ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อทานเข้าไปแล้วเป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง

    เ มื่ อ ใ ด ที่ เ ห็ น ข้ า ง ข ว ด ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ว่ า น้ำ มั น
    พื ช ผ่ า น ก ร ร ม วิ ธี ข อ ใ ห้ รู้ ว่ า นั่ น คื อ . . . . .
    " ย า - พิ ษ ! ! " โ ย น ทิ้ ง ข ย ะ ทั น ที ! ! ! …

    ถึงเวลาล้างได้แล้ว ท่านจำเป็นต้องล้างน้ำมันพืชในร่างกาย ที่สะสมมาตั้งแต่เกิดเสียที ด้วยสูตรตามธรรมชาติที่ท่านสามารถพึ่งพาตัวเองได้ มี 2 สูตร ที่ได้รับการทดสอบจากประชาชนทั่วไปมากกว่าห้าหมื่นคน และ ได้ผลสูตรที่เร็วที่สุด คือ

    * * น้ำชามะละกอ (ล้างอย่างเดียว แต่เร็ว)
    วิธีทำ : มะละกอดิบที่ใช้ตำส้มตำ นำมาหั่นเป็นชิ้นเหมือนชิ้นฟัก ประมาณ 6-8 ชิ้นต่อน้ำ 2 ลิตร จะขาดจะเกิน ไม่ผิด(ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้บูดง่าย มะละกอดิบที่เหลือ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป) และ ใบเตย หรือ เก๊กฮวย อย่างใดอย่างนึง กะเอง ต้มในน้ำ จนเดือด พอเดือดได้ ประมาณ 1 นาที ปิดไฟทันที อย่าต้มต่อ ให้เอามะละกอ กับ ใบเตยทิ้ง(อย่า ปล่อยให้มะละกอเดือดจนเละ) แล้ว ใส่ใบชา ลงไปแช่ประมาณ 4 นาที ห้ามแช่นานกว่า 4 นาที เพราะสารแทนนินจะออกมา ทำให้ท้องผูก แล้วตักใบชาทิ้ง จะได้น้ำชามะละกอ ดื่มร้อน หรือ เย็นได้ น้ำชาที่เหลือให้แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้ประมาณ 2 วัน เกินกว่านั้น จะบูด (ยางมะละกอล้างไขมัน, ใบเตยให้ความสดชื่น, ชาดับกลิ่นมะละกอ)

    * * นมสดโยเกิร์ตน้ำผึ้งมะนาว (ล้างและบำรุง ค่อยๆล้าง)
    นมสด โยเกิร์ต น้ำผึ้ง มะนาว : ใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วย ผสมนมสดชนิดจืด 1 กล่อง เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา และ บีบมะนาว 2 ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยดื่ม
    คุณสมบัติ : ให้วิตามิน B บำรุงสมอง วิตามิน C เพิ่มภูมิต้านทาน, จุลินทรีย์ตัวดีช่วยย่อยน้ำ มันพืช, นมสด ให้แคลเซียม

    @ ขอให้ท่านมองดูคนป่วยรอบกายท่าน คนป่วยในสังคม แล้วถามตัวเองว่า
    - คนเหล่านั้น ทานน้ำมันพืชแล้วภูมิคุ้มกันมีปัญหา ป่วย แต่ไปรักษาปลายเหตุ ใช่หรือไม่ ?
    - คนป่วยเหล่านี้มากพอหรือยัง เงินที่คนป่วยเหล่านี้ต้องจ่ายซื้อ ยา เงินนั้นอยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศ ?
    - เศรษฐกิจพอ เพียงจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากคนไทยยังไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ต้องพึ่งพายาฝรั่งไปเรื่อย ๆ ? ท่านอย่าเพิ่งเชื่อบทความนี้ จนกว่า ท่านหาจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมใน search engine (google) ต่างๆ ด้วยตนเอง โดย พิมพ์ key word ต่อไปนี้ (พิมพ์ครั้งละ 1 คำ) Transfat, transfat bill, vegetable oil bad health, hydrogenated oil, ชามะละกอ, อันตราย น้ำมันพืช

    @ แ ล้ ว จ ะ ใ ห้ ใ ช้ น้ำ มั น อ ะ ไ ร ? ? ?

    ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่าปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้ เข้าใจถึงผลดีผลเสียของการบริโภคน้ำมันแต่ละชนิดว่า ชนิดใดเหมาะสมหรือไม่ต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง หลายคนเริ่มหลีกเลี่ยงน้ำมันไม่ดีหันมาใช้น้ำมันที่มีสัดส่วนกรดไขมันชนิดดีมากขึ้น ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี เช่น . . . . น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนล่า ซึ่งพบว่ามีกรดไขมันดี ชนิดไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว มีผลต่อการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 เป็นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งหมายถึงกรดไขมันที่ร่างกายสร้างไม่ได้ต้องได้รับจากอาหาร ที่ได้จากน้ำมันทานตะวัน และเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง EPA และ DHA ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มีส่วนช่วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี

    ดร.เรวดีกล่าวว่า ขณะนี้นักวิจัยพบว่าร่างกายคนควรบริโภคกรดไขมันชนิด โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในปริมาณที่พอเหมาะและสัดส่วนสมดุล โดยสถาบันแพทย์มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ แนะนำให้บริโภคโอเมก้า 6 : โอเมก้า 3 ในสัดส่วน 4 : 1 เพื่อความสมดุลของร่างกายและช่วยป้องกันภาวะผิดปกติของร่างกาย ในสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นทางเลือกใหม่การบริโภคน้ำมันชนิดใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง "น้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน" ทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้รักสุขภาพว่าเป็นน้ำมันที่ดีมีคุณค่าต่อสุขภาพ โดยนำมาผสมในสัดส่วนน้ำมันคาโนล่า 4 ส่วนต่อน้ำมันทานตะวัน 1 ส่วน ผ่านการค้นคว้าแล้วว่าสมดุลเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

    สำหรับน้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน ต้องผ่านการผสมผสานในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ 4 : 1 จึงจะได้เป็นน้ำมันผสมที่มีความสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ พร้อมกันนี้น้ำมันผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ยังมีกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันทรานซ์ต่ำ ไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Blended oil ที่เกิดจากการผสมของน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันในสัดส่วนนี้ยังมีโอเมก้า 9 และวิตามินอีสูง มีจุดเดือดสูงถึง 230 องศา สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้ง ผัด ทอด ย่าง หมัก ทำน้ำสลัด แม้น้ำมันผสมระหว่างน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันทานตะวันยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ประโยชน์จากคุณค่าที่โดดเด่นของน้ำมันทั้ง 2 ชนิด เมื่อมารวมกันจึงช่วยเพิ่มสมดุลของกรดไขมันที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี โอเมก้า 6 ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติ และโอเมก้า 9 ที่มีผลช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ทุกวันนี้ เราเสพข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งงานวิจัยต่างๆ
    โดยไม่ทราบว่าเราควรเชื่อ หรือไม่เชื่ออะไรดี
    ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ ที่นำข้อมูลนี้มาให้อ่านนะคะ
     
  3. ศีเลนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +101
    ผู้ที่ใช้ น้ำมันพืช ผ่านกรรมวิธี ให้สังเกตพัดลมดูดควันออกจากห้องครัว

    จะเห็นได้ว่ามีคราบเหนียวติดแน่นมากล้างออกยากครับ

    ผมขอสนับสนุนเหตุผลนี้ด้วยครับ
     
  4. DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    แต่ที่แน่นอนอยู่เมืองนอกมาฝรั่งไม่ใช้น้ำมันพืชทำอาหารนะคะ ลักษณะอาหารเขาแตกต่างจากทาง ไทย จีน ไม่ค่อยมีอาหารผัดๆ เค้าใช้เนย เทียมที่สกัดมาจาก ไขมันนม หรือ ดอกทานตะวัน ในการทอดอาหารด้วยกะทะ ซึ่งเป็นวิธีที่ธรรมชาติและ มีกันมาแต่โบราณแล้ว จะใช้กันก็น้ำมันมะกอกใช้เฉพาะอาหารของ ทางฝรั่งเศส กะ อิตาลี ซึ่งทำให้ครัวาหารต่างประเทศจะดูสวยสะอาดกว่าของทางเราเพราะ ไม่มีน้ำมัน กบกลิ่นคาวอาหารกระเด็นกระดอนสาดไปที่ผนัง จริงๆแล้วน้ำมันพืชพัฒนากันขึ้นมาในเอเชียรี้แหละในการผัดอาหารทางเอเชีย เพราะอยู่เมืองนอก ไม่เคยเห็นฝรั่งใช้น้ำมันพืชทอดอาหารสักที ในซุปเปอร์ น้ำมันพืชที่ขยก็เป็น เมด อิน ไทยแลนด์

    ฝรั่งใช้เนยเทียมแบบนี้ทอดอาหารหรอก



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. pornchai17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +410
  6. แสงอมตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +486
    ข้อเท็จจริง
    ตัวน้ำมันพืชที่อยู่ในข่าวนั้นเป็นน้ำมันพืชแบบ Transfat โดยทำการปรับปรุงน้ำมันพืชที่ปรกติเป็นไขมันไม่อิ่มตัวให้กลายเป็นไขมันอิ่มตัวเหมือนไขมันจากสัตว์ ซึ่งกรณีบ้านเราจะไม่นิยมบริโภคไขมันอิ่มตัวเช่นน้ำมันมะพร้าว แต่นิยมไขมันไม่อิ่มตัว จึงไม่มีขั้นตอนการทำ Hydrogenation อย่างที่บ่งชี้ใน FWD Mail นี้ การทำ Transfat เริ่มต้นใช้เพราะกระแสต้านการใช้ไขมันจากสัตว์ในการประกอบอาหาร แต่การทำอาหารทอดให้กรอบ จำเป็นต้องใช้ไขมันอิ่มตัว จึงมีการปรับน้ำมันพืชให้มีสมบัติเหมือนไขมันจากสัตว์ อาหารที่มี Transfat เยอะและถูกกลุ่มที่ทำการศึกษาต้านได้แก่ขนม OREO ซึ่งจะซ่อน Transfat ไว้ในรูปไขมันไม่บ่งชนิด ปัจจุบัน OREO ปรับสูตรไม่ใช้น้ำมันพืชปรับสภาพแล้ว และไปใช้ไขมันไม่อิ่มตัวแทน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • X9565662-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.4 KB
      เปิดดู:
      79
  7. ไฟฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +112
    แล้วถ้า จน ละครับ สงสัยอนาคต โลกเรา พวกรวยๆเท่านั้นที่อยู่ได้
     

แชร์หน้านี้