ความทุกข์ใจเกิดจากอะไร ส่วนใหญ่เกิดเพราะความคิด ไปนึกถึงอดีต นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไป นึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว นึกถึงเงินที่หาย โทรศัพท์ที่ถูกขโมย ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังทุกข์
หรือบางทีใจก็คิดถึงอะไรที่ยังมาไม่ถึง ลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีหน้าจะได้หรือเปล่า ไปนึกถึงงานคอยอยู่ งานที่คาอยู่ ไปนึกถึงหนี้ที่ยังไม่ได้ชำระ นึกถึงพ่อที่ป่วย พอคิดแบบนี้เข้า ใจก็เป็นทุกข์ แต่อาจจะไม่ใช่เศร้า ไม่ใช่โศก ไม่ใช่เสียใจ แต่เป็นความกังวล ความวิตก เรื่องใจทั้งนั้น
เวลาทุกข์ใจแบบนี้ ขอให้นึกถึงคาถาของหลวงพ่อพุทธทาส คาถานี้บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน ส่วนใหญ่คงไม่เคยได้ยิน คาถานี้ให้จำไว้ในใจ “กูไม่ได้เกิดมาเป็นทุกข์โว้ย”
เด็กจำไว้ จำได้หรือเปล่า “กูไม่ได้เกิดมาเป็นทุกข์โว้ย” หรือหนูก็ได้ ถ้ากูไม่สุภาพ ไม่ได้เอาไว้พูดกับใคร เอาไว้พูดกับตัวเอง ตวาดใส่ตัวเอง ว่า #ทำไมกูโง่แบบนี้ “กูไม่ได้เกิดมาเป็นทุกข์โว้ย” เวลาเราตวาดใส่ตัวเองด้วยคาถาแบบนี้ บางทีมันตื่น ได้คิด #เกิดสติขึ้นมา กูจะบ้าอะไรอยู่ จะจมกับความทุกข์ทำไม
บางคนเห็นหน้าตัวเองในเฟซบุ๊กไม่สวย เป็นทุกข์ เมื่อเร็วๆนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งชาวออสเตรเลีย เขาคงไปลักเล็กขโมยน้อย ถูกตำรวจจับ ไปดัดสันดาน ไปอยู่บ้านที่ควบคุมพฤติกรรม เขาก็หนีมาได้ ตำรวจก็เอาภาพของเขาตอนที่ถ่ายอยู่ในบ้านดัดสันดาน เอาขึ้นเว็บไซต์ เพื่อประกาศตามตัว ปรากฏว่าหน้าตาดูไม่ได้เลย หน้าตาแบบไม่มีความสุขเลย ผู้หญิงคนนี้เขาทนไม่ได้ เขาก็เขียนจดหมาย เขาก็ส่งข้อความไปทางเว็บไซต์ บอกว่า เอารูปเขาทางเฟซบุ๊กดีกว่า รูปในเฟซบุ๊กของเขาสวยกว่า ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น ตำรวจก็จับเขาได้ เพราะว่าไปส่งข้อความไปทางเว็บไซต์ ตำรวจเลยรู้ว่า มาจากไหน ถ้าอยู่เฉยๆ ตำรวจคงจับไม่ได้ คงจะลอยนวล แต่ทนไม่ได้เห็นหน้าตัวเองไม่สวย อันนี้ไม่รู้โง่หรือฉลาด ตำรวจเลยจับได้เลย เพราะทนไม่ได้ที่เห็นหน้าตัวเองไม่สวย ไม่เท่เหมือนกับที่ในเฟซบุ๊ก
คนเดี๋ยวนี้ทุกข์เพราะเรื่องนี้ โดยเฉพาะหนุ่มสาว ให้บอกตัวเองว่า “กูไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์โว้ย”
แต่บางอย่างความทุกข์เป็นของจริง เช่น เจ็บป่วยเป็นของจริง คือ ไม่ใช่แค่คิดเอา แต่ก็มีส่วนแห่งความคิดด้วย ใจมีส่วนทำให้ทุกข์ด้วย คนเราเวลาเจ็บป่วย เราไม่ได้ป่วยกายแต่ป่วยใจ ป่วยใจเพราะอะไรรู้ไหม เพราะ #ใจไม่ยอมรับ
คนเราใจไม่ยอมรับอะไร ก็กลายเป็นทุกข์ขึ้นมาทันที เสียงดัง แดดร้อน อากาศอ้าว พวกนี้ไม่ได้ทำให้ทุกข์ใจเลย แต่พอใจเราไม่ชอบ ใจเราผลักไส ใจเราต่อต้าน เป็นทุกข์เลย ลองทำใจเป็นปกติ เสียงดังก็ดังไป อากาศร้อนก็ร้อนไป ไม่ทุกข์
พระไพศาล วิสาโล
บทความให้กำลังใจ(พุทธศาสนาในโลกกว้าง เลียบแม่น้ำ ข้ามขุนเขา ธุดงค์ในญี่ปุ่น)
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 8 พฤษภาคม 2017.
หน้า 17 ของ 66
-
-
Relaxing Piano Music: Romantic Music, Beautiful Relaxing Music, Sleep Music, Stress Relief ★122
Soothing Relaxation
42,923,862 views
•Sep 11, 2017
-
-
-
Beautiful Relaxing Music • Peaceful Piano, Cello & Guitar Music by Soothing Relaxation
Soothing Relaxation
-
-
-
-
ขยะในใจ
การจัดการขยะทำได้ง่ายๆโดยการย้ายขยะจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง โดยจุดรวมขยะจากหลายๆที่จะทำการกำจัดขยะโดยการเผาหรือกลบฝังทำให้เราคิดว่าขยะได้หายไปจากโลกนี้แล้ว ทั้งที่เราย่อมรู้ สสารไม่มีวันสูญสลาย(ใครหนอช่างคิดได้ไม่ใช่ผมแน่นอน)
จึงทำให้เกิดปัญหาขยะล้นโลก มลภาวะทางอากาศ ดิน และ น้ำ ยิ่งนานวันยิ่งทำให้เป็นภัยกับมนุษยชาติตาดำๆ ที่ไม่มีตู้ออกซิเจน คอยบริการ หลังจากวิ่งทำงานงกๆตามนายสั่ง
ขยะบนโลกยิ่งมายิ่งมากยิ่งเป็นภัย แล้วขยะในใจเราล่ะ เราซ่อนขยะอะไรไว้ในใจเราบ้างหรือเปล่า มีมั่งไหมที่แอบซุกไว้เหมือนกวาดขยะเก็บไว้เข้าใต้พรม
ภายใต้หน้าตาที่สวยใส จิตใจยังหม่นหมองมัวหรือเปล่า ยิ้มที่อ่อนหวานที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจบ้างไหม หรือใบหน้าที่เคร่งขรึมคุณหลงมัวเมาอะไรอยู่
เรามากวาดเอาขยะในใจเราออกมากันไหม?
เรียนรู้ รับรู้ ค้นหา พบเจอแล้วรับรู้ มันมีขยะในใจเรา เป็นน้ำเน่าในใจเรา ทำให้เรานั้นสุดจะทนทานได้ ทั้งกรีดร้อง แหกปากตะโกนก้อง หรือขดตัวมุดไปในซอกมืดของหุบเหว ก็ยังกวาดออกมาไม่ได้.... ยอมรับมัน มันมีอยู่จริง
ระบายมันออกมา ได้พูดระบายมันออกมาบ้าง บอกกับคนที่คุณไว้ใจ คนที่จะรับคุณได้ทุกอย่าง คนที่จะไม่ทำร้ายคุณ และพร้อมจะปกป้องคุณ ก็พอบรรเทาไปได้บ้าง ทรมานน้อยลง แต่ขยะเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหน มันยังวนเวียนอยู่ในใจเรา
กำจัดมันซะ...ทิ้งมันไปสิ่งเลวร้ายที่เราเก็บมันไว้
จ : แรงแท้ ทำไงละ?
ส : สำเร็จเป็นพระอรหันต์ แล้วไปนิพพาน
จ : ง่ายจัง ทำได้ยัง?
ส : ยังไม่ได้.... ไม่ง่ายเลย
จ : เอาไงดีล่ะ....
ส : คิดก่อนนะ...
ถ้าในใจเราเป็นเหมือนถังน้ำ ที่มีขยะอยู่ในใจเรา เป็นเหมือนน้ำที่เน่าเสีย แต่เราก็ไม่ได้มีแต่ขยะในใจเรานี่นา เรายังมีครามรัก ความอารี ความเอื้ออาทร ความมีเมตตา มีความใผ่ดีอยู่ไม่น้อยนะเป็นดั่งน้ำดี
งั้นในใจเราเองมีทั้งน้ำดีและน้ำเสียปนกันไป ถ้าน้ำที่ดีเยอะกว่าก็จะไม่ทำร้ายใจเรา แต่ถ้ามีน้ำเสียเยอะกว่า ก็จะทำร้ายใจเรา
ตักน้ำเสียออกเลยก็ไม่ได้ ขยะในใจไม่ใช่ขยะในครัวจะได้ตักออกได้ ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ นี่ตักออกไม่ได้เลย ขนาดพระโสดาบัน... ยังมี
เอาไงดีล่ะ.... สอน
เอางี้ทำใจให้เบิกบานก่อน มีความสุขกับความดีที่เคยทำมาก่อน... ง่ายป่ะ ทำมาเยอะ
- สิ่งดีๆควรระลึกให้บ่อยๆ
- จากนั้นเราก็ไม่เพิ่มขยะเข้าไปในใจเรา น้ำที่เน่าเสียก็จะคงที่ ไม่ไปทำร้ายใคร ไม่อยากได้ของของใคร ไม่พูดปด ไม่ขาดสติ
- ใส่สิ่งดีๆเข้าไปในใจ ทั้ง ทาน ศีล สมาธิ ทำเข้าไป พอความดีมาก น้ำดีก็เยอะ
- อยู่บ้าน... เติมบุญ
- สุขในการให้
ถึงขยะในใจเราจะไม่หมดไป แต่เมื่อใส่สิ่งดีๆเข้าไปในใจมากๆ จนขยะในใจเราไม่สามารถทำร้ายเราได้.... ใจก็พอจะมีสุขบ้างแล้ว
ถึงแม้เรายังไม่พ้นทุกข์ ก็อย่าไปคลุกคลีกับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์เลย
หากผิดพลาดสิ่งใดขออโหสิกรรมด้วยครับ
:- https://www.blockdit.com/posts/5dd3386d0d437f41643fc16a
-
(cont.)
มาถึงเรื่องคนอยู่บ้านแต่อยากได้บุญ ทำไงดี เอ้ามาเริ่มกันเลยดีกว่า โม้มานาน
ตื่นมาก็ สมาธิจดจ่อเรื่องธุระส่วนตัว
กินตามที่มี ไม่หาสิ่งเกินมี
สำรวจกิจในบ้าน ต้องทำอะไรบ้าง... เห็นก็ทำ
เสร็จกิจ ก็ชื่นชมผลงานตัวเองซะหน่อย.. ชื่นใจบ้านสวย
หยิบมือถือมาเปิดซะหน่อย... เจริญปัญญานิดๆ
ปล่อยทุกอย่างออกจากสมองเรา.. คิดได้คิดไป
เจริญสมาธิจริงจังละ...
อานาปานสติ... ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก รู้
วิปัสนากรรมฐาน... กาย เวทนา จิต ธรรม
สลับกันไป.... ไม่นานหลับ มารมันเยอะ
หิวก็กิน เท่าที่มี
อิ่มก็สมาธิ... จิตสงบก็พบสุข
อยากหาย โมโหคลาย โมหะนี่ตามบุญตามกรรมเด้อคับ
เหอะๆๆ อย่าอ้างอยากทำสมาธิจนละเลยดูแลคนในบ้านนะ... ม่ะได้เลยนะ อย่าดื้อ
ทำไปไม่นานหมดกันวันหยุด ต้องกลับไปทำเวรทำกรรม เอ้ย... ทำงานอีกละ เสียดายจัง
:- https://www.blockdit.com/articles/5dc62162f541970cf4d24c46
-
Relaxing Music with Birds Singing - Beautiful Piano Music & Guitar Music by Soothing Relaxation
Soothing Relaxation
-
-
-
-
พลังของการ ‘พูดให้น้อยเข้าไว้’ | Talk less, ‘Say’ more | คำนี้ดี EP.533
THE STANDARD
Nov 24, 2020
-
-
-
-
-
-
-
-
ข้อคิดดีๆ จาก "รอยตะปู"
Cr.ปันสุข
มีเด็กน้อยคนหนึ่งอารมณ์ไม่ค่อยจะดีพ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุงและบอกเขาว่า ทุกครั้งที่ลูกรู้สึกไม่ดี โมโห หรือโกรธใครก็ตาม ให้ตอกตะปู 1 ตัวลงไปที่รั้วหลังบ้านก็แล้วกัน วันแรกผ่านไปเด็กน้อยตอกตะปูเข้าไปที่รั้วถึง 37 ตัว วันที่ 2 และ วันที่ 3 และแต่ละวันที่ผ่านไป ผ่านไปจำนวนตะปูก็ค่อยๆ ลดลง ลดลงๆ เพราะเด็กน้อยรู้สึกว่า การรู้จักควบคุมตัวเองให้สงบ ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
แล้ววันหนึ่ง หลังจากที่เขาสามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น ใจเย็นมากขึ้น เขาเดินไปหาพ่อเพื่อบอกว่า เขาคิดว่าเขาไม่จำเป็นที่ต้องตอกตะปูอีกแล้ว เพราะเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาสามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนแล้ว
พ่อยิ้มแล้วบอกลูกชายว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ลองพิสูจน์ให้พ่อดู ทุกๆ ครั้งที่ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเองได้ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้านที่ละ 1 ตัว วันแล้ววันเล่า เด็กชายก็ค่อยๆ ถอนตะปูออกทีละตัวๆ จนในที่สุด วันหนึ่งตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออก เด็กชายดีใจมากรีบวิ่งไปบอกพ่อของเขาว่า ผมทำได้แล้วครับในที่สุดผมก็ทำได้สำเร็จ
บทความให้กำลังใจ กลอนให้กำลังใจ ข้อความให้กำลังใจ
พ่อไม่ได้พูดว่าอะไร แต่จูงมือลูกของเขาไปที่รั้วนั้น แล้วบอก...ลูกทำได้ดีมากทีนี้ลองมองกลับไปที่รั้วสิ เห็นมั๊ยว่ารั้วมันไม่เหมือนเดิมมันไม่เหมือนกับที่มันเคยเป็นก่อนหน้านี้ ลูกจำไว้นะว่า เมื่อไหร่ที่เราทำอะไรลงไปด้วยการใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมักจะเกิดรอยแผล เหมือนกับการเอามีดไปกรีดหรือแทงใครเข้า ต่อให้ใช้คำว่า..ขอโทษ..สักกี่หนก็ไม่อาจจะลบรอยแผลหรือความเจ็บปวดที่เกิดกับเขาคนนั้นได้ ลูกจงจำคำว่า..ขอโทษ..ไว้เสมอนะ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตามนะ จำไว้อีกด้วยว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้น รอยร้าวที่เกิดขึ้นกับเขา เขาอาจจะไม่มีวันลืมมันได้...ตลอดไป
สิ่งที่สำคัญคือ รู้ทันความโกรธให้เร็วที่สุด ทันทีที่สติรู้ทันว่า เราปล่อยให้ความโกรธครอบงำ อย่างน้อยมันจะหยุดเพ่งโทษคนอื่นวางความยึดมั่นว่าเราถูกลงเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขสถานการณ์ดีกว่าปล่อยให้ความยึดว่าตัวเองถูกเสมอ หรือทิฐิมานะมาทำลายทุกอย่างรวมทั้งชีวิตตัวเราเอง -
หน้า 17 ของ 66