ภาวนาอยู่เนืองๆ เพื่อ...อาจจะไปสนทำอย่างอื่นมากกว่า ...เช่น ไปสวดมนต์เย็นทุกวันพระที่วัดป่า...
บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.
หน้า 62 ของ 100
-
ตามปกติสวดมนต์เสร็จก็จะ การแผ่เมตตาโดยการกรวดน้ำ ปกติจะนำน้ำไปเทที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งประจำ( ในรูปต้นซ้ายมือ)
มีวันหนึ่งเปลี่ยนใจ นำน้ำนั้นไปเทอีกต้นหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ปรากฏว่า กลับมานิมิตเห็นรุกขเทวดามาบอกว่า อุตส่าห์รอมาร่วมสร้างบุญบารมี แต่กลับไปทำ...เสียได้ เหตุการณ์แบบนี้นะเหรอ จะให้มาเล่าให้คนอื่นฟัง หาประโยชน์อันใดไม่ได้ สู้รับรู้แล้วก็ปล่อยวางก็พอแล้ว..,เพราะเล่าแล้ว คนไม่เชื่อก็จะมาทดลองทดสอบ...เสียเวลา... -
นั่งปั้นพระอย่างเดียว ดูกายดูจิต เจริญสติกำกับอิริยาบถ หัวถึงหมอนจับลม พุทโธ 5-10 คู่ หลับปุ๋ย
หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุขจริงๆ -
อยากเล่าหรือเปล่าล่ะ เราชอบอ่านนะ:D
-
ถนนคอนกรีตกว่าจะมาเป็นคอนกรีต มันก็เคยเป็นป่า เป็นหลุม เป็นบ่อ....
แล้วก็ถูกถากถาง ถม... โรยด้วยลูกรัง
จากลูกรังก็มาเป็นยางมะตอย
จากยางมะตอยก็เป็นคอนกรีต
ใช้เวลาร่วมหลายสิบปี
การพัฒนาของจิตก็เป็นอย่างนั้น
จากโง่ๆ ก็มีความฉลาดขึ้นเป็นลำดับๆ ไป เมื่อมาฝึกมาหัดจิต
เริ่มต้นจาก 0-->1 2 3 4 5 6.........----> finishing 0
ขณะที่อยู่ระหว่างกลางนี่แหละ มันหลง มันมีมากไง
มีอะไรใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเพิ่มเข้ามา เมื่อไปรวมเข้ากับกิเลส ความทะยานอยากต่างๆ ที่ยังมีอยู่ในจิต ก็ยึดๆๆๆ ยึดไว้ว่าเป็นของตน ตนเก่ง จึงหลง
บางคนหลงนาน บางคนหลงไม่นาน ขึ้นอยู่กับกิเลส กรรม วิบาก ที่สั่งสมมา -
งั้นเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่งก็ได้...
วันหนึ่งนิมิตไปว่า มีสถานที่แห่งหนึ่ง ลักษณะมีโบสถ์เป็นเหมือนในรูป..,
ในนิมิตนั้น พอเดินออกมาปรากฏว่า พื้นดินนั้นทรุดตัว ข้างล่างเป็นโพรง มีงูอยู่เป็นจำนวนมาก
ก็เลยหาทางขึ้นมาข้างบน พอขึ้นมาได้ก็เจอพญานาคสีน้ำตาลตัวใหญ่
แล้วก็เจอป้ายวัด ว่าวัดป่านาคนิมิต
วันหยุดก็เลยไปเสาะแสวงหาดู ก็พบว่า โบสถ์วัดนี้เหมือนในนิมิต ..ก็แปลกดี -
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆ สนุกๆ มาเล่าให้อ่านค่ะ -
มารู้จักปิติ องค์ที่ ๕ กัน เพราะเคยเกิดปิตินี้ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าชื่ออะไร บล๊อกนี้เค้าเขียนได้ตรงกับสภาวะที่เคยสัมผัส ก็เลยขอก๊อปมาแบ่งปันกันอ่านจ้ะ
.
.
.
๕. ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน เป็นปีติที่หมายในอัปปนาสมาธิ
มีลักษณะดังนี้คือ
๑. แผ่ซ่านเยือกเย็นไปทั่วร่างทั้งหมด
๒. กายเย็นดุจอาบน้ำ หรือ ดุจถูกน้ำแข็ง
ผรณาปีติ เกิดจากการกำหนดลมหายใจเท่านั้น ผู้ที่ปฏิบัติทำฌาน โดยไม่ใช้ลมหายใจประกอบด้วยลมปราณ จะไม่เกิดผรณาปีตินี้เป็นอันขาด
และการเกิดผรณาปีตินี้ก็กำหนดได้ทั้งหลับตา ลืมตา ทำได้ทั้งอริยาบทนั่งและนอน
และเป็น ” ธรรมเอก ” คือ ธรรมสำคัญที่จะไปใช้สัมปยุตในธรรมชั้นสูง อันเป็นองค์ประกอบให้เกิด ” ความปราโมทย์ยิ่ง ” ในอานาปานสติ
สำหรับผู้ที่เจริญสติ จะจับได้ตั้งแต่การเกิด ความเย็นเกิดตั้งแต่กลางอก แล้วจะแผ่ความเย็นไปทั้งตัว เหมือนความเย็นในตู้เย็นประมาณนั้น ตามด้วยสุขยิ่งนัก ทำให้ไม่อยากขยับกายหรืออกจากสมาธิจนกว่าสมาธิจะคลายตัว
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังของสมาธิด้วยว่ามีความแนบแน่นมากแค่ไหน
ถ้ามีความแนบแน่นมาก สภาวะนี้จะตั้งมั่นอยู่ได้นานเป็นชม. จะรู้อยู่กับรูปนามได้ดี
จากมหาอัสสปุระสูตร ว่าด้วยฌาน พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ หน้า ๔๑๓ ข้อ ๔๒๗
” ดูกรภิกษุทั้งหลาย ยังมีอีกข้อหนึ่ง ภิกษุบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตก วิจารสงบไป ไม่มีวิตก วิจาร มีปีติ และสุขอันเกิดแต่สมาธิ ไม่มีเอกเทศไหนๆแห่งกายของเธอทั่วทั้งตัวที่ปีติและสุข อันเกิดแต่สมาธิจะไม่ถูกต้อง
เปรียบเหมือนห้วงน้ำลึกมีน้ำขังอยู่ ไม่มีทางน้ำจะไหลมาได้ ทั้งในด้านตะวันออก ตะวันตก ด้านเหนือ ด้านใต้ ทั้งฝนก็ไม่ตกเพิ่มตามฤดูกาล แต่สายน้ำเย็นพุขึ้นจากห้วงน้ำนั้นแล้ว จะพึงทำให้ห้วงน้ำนั้นแลชุ่มชื่นเอิบอาบ ซาบซึมด้วยน้ำเย็น ไม่มีเอกเทศไหนๆแห่งห้วงน้ำนั้นทั้งหมดที่น้ำเย็นจะไม่ถูกต้อง ฉะนั้นฯ"
Cr. บทความ Wilaiblog -
เมื่อคืนฝันน่ากลัวมาก อยู่ๆ ท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดมิดด้วยก้อนเมฆสีดำทั่วท้องฟ้า ดวงอาทิตย์กลมโตไม่มีสีแดง เป็นสีขาว. อีกฟากหนึ่งในท่ามกลางสีดำของหมู่เมฆ เป็นเจ้าแม่กวนอิมในชุดขาวเปล่งออร่าสีน้ำเงินขาวลอยอยู่
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะ บารมีของพระโพธิสัตว์เพียงพระองค์เดียวจะช่วยเหลือได้ทั้งหมดหรือเปล่า -
กสิณ 10 กองเป็นนิมิต เป็นการบริกรรมเพ่งนิมิต เพื่อให้จิตจดจ่อจนรวมลงเป็นเอกัคตา อาศัยภาพติดตาอันเป็นรูปมาเพ่งเป็นสมาธิ อานุภาพของกสิณแต่ละกองก็เกิดจากพลังของจิตที่เป็นเอกัคตา พลังจิตทำให้เกิดฤทธิ์ต่างๆ ได้ โดยอาศัยรูปเป็นสื่อนำจิต
ผู้สำเร็จกสิณจึงได้สมาธิ ฌาน และฤทธิ์ที่เป็นโลกิยะ เสื่อมได้หากไม่มีศีลเป็นบาท
ควรศึกษาเพิ่มเติมในการนำผลของกสิณ ไปใช้เจริญวิปัสสนา เพื่อให้จิตเกิดปัญญา (โลกุตระ) ก้าวล่วงสู่ความพ้นทุกข์ในวัฏสงสารต่อไปไฟล์ที่แนบมา:
-
-
บางคนบอกว่ากวนอิมมีแค่องค์เดียว และลาพุทธภูมิสำเร็จอรหันต์ไปแล้ว โดยอ้างอิงบทความจากเวปต่างๆ เราไม่แย้งนะ องค์นั้นลาไปแล้ว อรหันต์ไปแล้วก็คือองค์นั้น
โดยส่วนตัว กวนอิมเป็นตำแหน่งทางโลกทิพย์ของพระโพธิสัตว์ ผู้บำเพ็ญเพียรที่ตั้งความปรารถนาจะโปรดสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ต้องเพียรสั่งสมบารมีเป็นขั้นเป็นตอน บารมีที่เต็มแล้วตามภูมิธรรมที่สั่งสมได้ในแต่ละขั้น จะเป็นชื่อเรียกนั้นๆ บ่งบอกถึงภูมิธรรมภูมิจิตที่สำเร็จแล้ว โปรดสัตว์ได้แล้ว
จะเห็นได้ว่าภาพของกวนอิมมีมากมาย หลากหลายลักษณะและอิริยาบท บางภาพมีสัตว์พาหนะ บางภาพไม่มีสัตว์พาหนะ บางภาพทรงมังกร บางภาพนั่งหรือยืนบนดอกบัว บางภาพทรงกิเลน เป็นต้น
เหตุผลเดียวกันกับที่ว่าพระพุทธเจ้ามิได้มีเพียงพระองค์เดียว ที่เคยอุบัติขึ้นบนโลกนี้ค่ะไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เล่าความฝัน (31/8/61)
เมื่อคืนฝันว่าไปทำบุญที่วัด แล้วอยู่ปฏิบัติธรรม
เพื่อนๆ ที่ไปด้วยทุกคนอยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกันหมด สวมใส่ชุดขาว เห็นแต่สีขาวเป็นจำนวนมาก ก็เลยเปลี่ยนชุดขาวเพื่อไปรวมกับพวกเขา ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตร
เล่าไม่ค่อยถูก ชุดขาวที่ใส่เป็นชุดเก่าใช้มานานหลายปีแล้ว เสื้อขาวก็จะเป็นสีออกนวลๆ แต่เห็นประกายที่หน้าอก พอก้มลงมองก็เห็นเป็นลูกไม้สีขาวบางๆ ระยิบระยับอย่างกับผ้าทิพย์
ผ้าถุงสีขาวด้านหลังมีรายชื่อของผู้ร่วมบุญ เขียนด้วยปากกาไวท์บอร์ดสีน้ำเงิน รายชื่อเรียงเป็นตับตั้งแต่ส่วนเอวลงมาถึงชายผ้าด้านล่าง เป็นชื่อคนและจำนวนเงิน ฝันแปลก
เดี๋ยวสีเสื้อเปลี่ยน เดี๋ยวสีผ้าถุงเปลี่ยน ก็งง เราใส่ขาวทั้งชุด ทำไมตอนนี้สีผ้าถุงเปลี่ยนเป็นผ้าสีส้ม พอมองเสื้อ เสื้อสีขาวทำไมเปลี่ยนเป็นเสื้อสี เห็นสลับกันไปมาอย่างนั้น จึงเอามือจับเสื้อและผ้าถุงที่สวมใส่ ปรากฏว่าชุดขาวนั้นยังมีอยู่ด้านในทั้งชุด แต่ดันมีผ้าสีมาสวมทับไว้ด้านนอก เราเอามาสวมทับไว้เองตอนไหนก็ไม่รู้..............
รู้แล้วหละ รายชื่อผู้ร่วมบุญที่ปรากฏบนผ้านุ่งนั้น เกิดจาก เงินทุกบาทที่ได้จากงานปั้น ได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายและเลี้ยงพระในการปฏิบัติธรรมทุกครั้งทั้งหมด
ส่วนผ้าสีที่นำมาสวมทับชุดขาวสลับไป สลับมานั้น แสดงถึงการปกปิด.............( ):p -
ธรรมทั้งปวงอยู่ที่ลมเข้าลมออกนี่แหละ
กิเลสก็ลม ตัณหาก็ลม อุปาทานก็ลม
สมาธิ ฌาน วิปัสสนาญาน ก็ลม
คนอ่านที่ไม่เข้าใจ จะด่าว่าเรามั่ว
กิเลสก็ลม ตัณหาก็ลม อุปาทานก็ลม---->โลก
สมาธิ ฌาน วิปัสสนาญาน ก็ลม---->ธรรม
ลมหายใจแบบโลก กับแบบธรรม จะมีลักษณะต่างกัน
ลมเปลี่ยนทิศ...อันนี้เพลง 555
จึงต้องมาฝึกลมไง
ฝึกหายใจ คอนโทรลลมให้เป็นปกติอย่างสม่ำเสมอไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไม่เคยหลับลึก มีแต่รู้ตัวขณะหลับไปจนตื่น ตื่นมาก็สดชื่นมีกำลัง ไม่เซื่องซึม ฝึกมีสติขณะหลับมาตั้งแต่เด็ก
ที่บ้านเคยเกิดเพลิงไหม้เวลาดึก ใครๆ แตกตื่นพากันขนของหนีไฟ แต่เรายังหลับปุ๋ย ยายทั้งเรียก ทั้งเขย่าตัวก็ไม่ตื่น จนโดนทุบดี จึงรู้สึกตัว ยายด่าว่านอนยังไง หมาเห่าเต่าหอนยังไม่รู้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็กำหนดสติฟังเสียงเต่าหอน
ในความหมายที่หลายๆ คนพูดถึง หลับลึกของเรา จึงหมายถึงการหลับไหลไม่ได้สติ แต่เรารู้หมดในฝันทำอะไร ตัวที่นอนอยู่ นอนท่าไหน พลิกยังไง หลับด้วยสติไม่เหนื่อยนะ หลับแค่ 10-20 นาทีนี่เหมือนชั่วโมงเลย ตื่นรู้ตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นปกติอย่างนั้นมานานแล้ว
ไม่แม่นทฤษฎีนะ อายตนะ6 ถูกฝึกอย่างเข้มข้น
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบปุ๊บรู้ทันที
วิญญานธาตุเกิดทางทวาร6
วิญญานธาตุ คือสิ่งที่ถูกรู้ จิตคือผู้รู้
ถ้าพูดผิดขออภัย
เหตุแห่งทุกข์ทั้งหลายเข้ามาทางทวาร 6 -
ต้องเรียกว่า หลับสนิทสิ...แบบปิดสวิทการทำงาน ...
-
เล่าให้ฟังเรื่องแปลกๆ เคยไปวัดหนึ่ง...
พอลงไปในถ้ำวัดนี้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นพญานาค(เคยรู้สึกแบบนี้ที่บ่อน้ำคำชะโนด)
พญานาควัดนี้มีเหล่ากายทิพย์อยู่บริเวณใกล้ๆ พอกลับมาก็นิมิตเห็น สภาพเป็นดินแดนลับแล... -
-
ใจถ้ามีหลักใจแล้วย่อมไม่โอนเอนตามลมปากใคร
เขาจะเอารักมาล่อก็ไม่สน เอาโกรธมาล่อก็ไม่สน เอาโลภมาล่อก็ไม่สน เอาหลงมาล่อก็ไม่สน เพราะใจมีหลักแล้ว
ถ้าใจไม่มีหลักมันจะเต้นตามเขาไปหมด ก็เดือดร้อนไปทั่ว -
หวังว่าคุณธีรชัช จะมาเล่าเรื่องโลกทิพย์ต่อนะครับ
-
หน้า 62 ของ 100