อยากได้คาถาที่มีคำว่าพระพุทธเจ้าขึ้นต้นหรือลงท้ายทั้งหมดครับ
บทสวดมนต์ - คาถา
ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย รณรงค์, 3 ธันวาคม 2012.
-
ยังจะค้นต่อไปอีกอยู่ นะครับ
(นวมํ สยมฺปฏิภาณิยตฺเถราปทานํ )
[๕๙] กกุธํ วิลสนฺตํว เทวเทวํ นราสภํ
รถิยํ ปฏิปชฺชนฺตํ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
ตมนฺธการํ นาเสตฺวา สนฺตาเรตฺวา พหุํ ชนํ
ญาณาโลเกน โชตนฺตํ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
วสีสตสหสฺเสหิ นิยฺยนฺตํ โลกนายกํ
อุทฺธรนฺตํ ฬหู สตฺเต โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
อาหนิตฺวา ธมฺมเภรึ มทฺทนฺตํ ติตฺถิเย คเณ¬
สีหนาทํ ว นทนฺตํ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
ยาวตา พฺรหฺมโลกมฺหา อาคนฺตฺวาน สพฺรหฺมกา
ปุจฺฉนฺติ นิปุเณ ปเญฺห โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
ยสฺสญฺชลึ กริตฺวาน อาธาวนฺติ ๑ สเทวกา
เตน ปุญฺญํ อนุโภนฺติ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
สพฺเพ ชนา สมาคนฺตฺวา สมฺปวาเรนฺติ จกฺขุมํ
น วิกมฺปติ อชฺฌิฏฺโฐ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
นครํ ปวีสโต ยสฺส นทนฺติ ๑ เภริโย พหู
วินทนฺติ คชา ๒ มตฺตา โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
วีถิยา คจฺฉโต ยสฺส ปภา ๓ วา โชตเต สทา
อพฺภุนฺนตา สมา โหนฺติ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
พฺยาหรนฺตสฺส พุทฺธสฺส จกฺวาฬมฺหิ สุยฺยติ
สพฺเพ สตฺเต วิญฺญาเปติ โก ทิสฺวา นปฺปสีทติ ฯ
สตสหสฺเส อิโต กปฺเป ยํ พุทฺธมภิกิตฺตยึ
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ กิตฺตนาย อิทํ ผลํ ฯ
กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ ภวา สพฺเพ สมูหตา
นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา วิหรามิ อนาสโว ฯ
สฺวาคตํ วต เม อาสิ มม พุทฺธสฺส สนฺติเก
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ ฯ
ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส วิโมกฺขาปิจ อฏฺฐิเม
ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺติ ฯ
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา สยมฺปฏิภาณิโย เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ ฯ
สยมฺปฏิภาณิยตฺเถรสฺส อปทานํ สมตฺตํ ฯ
คำแปล
(๙. สยัมปฏิภาณิยเถราปทาน) ประวัติในอดีตชาติของพระสยัมปฏิภาณิยเถระ
(พระสยัมปฏิภาณิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๔๕] พระพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชน
ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ งามเหมือนดอกซ่าง(กุ่ม)
ผู้เสด็จดำเนินอยู่ที่ถนน ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๔๖] พระพุทธเจ้าผู้กำจัดความมืดมนให้พินาศ
ทรงช่วยให้ชนจำนวนมากข้ามพ้น
โชติช่วงอยู่ด้วยแสงสว่างคือญาณ
ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า :๑๑๑ }
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๗. สาลกุสุมิยวรรค] ๙. สยัมปฏิภาณิยเถราปทาน
[๔๗] พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
กำลังเสด็จออกไปพร้อมกับพระขีณาสพผู้ได้วสี
จำนวน ๑๐,๐๐๐ รูป
ผู้ทรงช่วยสัตว์จำนวนมากให้ข้ามพ้นจากเปือกตมคือกาม
ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๔๘] พระพุทธเจ้าผู้ย่ำกลองคือพระธรรม ย่ำยีหมู่เดียรถีย์
ทรงบันลือสีหนาท ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๔๙] เทพทั้งหลายพร้อมทั้งพรหมทุกหมู่เหล่าพากันมาจากพรหมโลก
แล้วทูลถามปัญหาที่ลึกซึ้งกับพระพุทธเจ้า
ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๕๐] มนุษย์พร้อมทั้งเทวดาพากันมาประนมมือ
แด่พระพุทธเจ้าพระองค์ใด
ย่อมได้เสวยบุญด้วยการทำอัญชลีกรรมนั้น
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๕๑] ชนทั้งปวงมาประชุมห้อมล้อมพระพุทธเจ้า
ผู้มีพระจักษุ พระองค์ได้รับนิมนต์(เพื่อตอบปัญหา)
แต่ไม่ทรงหวั่นไหว ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๕๒] เมื่อพระพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชนพระองค์ใด
เสด็จเข้าพระนคร กลองจำนวนมากประโคมกึกก้อง
คชสารที่ตกมันก็พากันบันลือ
พระพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชนพระองค์นั้น
ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๕๓] เมื่อพระพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชนพระองค์ใดเสด็จดำเนินไปตามถนน พระรัศมีย่อมส่องสว่างทุกเมื่อ
ทั้งที่ลุ่มที่ดอนก็กลายเป็นที่สม่ำเสมอ
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ หน้า :๑๑๒ }
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๗. สาลกุสุมิยวรรค] ๙. สยัมปฏิภาณิยเถราปทาน
[๕๔] เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสอยู่ หมู่สัตว์ในจักรวาลได้ยินกันทั่วพระองค์ทรงสามารถยังสัตว์โลกให้รู้ชัดได้ทั่วกัน
ใครเล่าเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส
[๕๕] ในกัปที่ ๑๐๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้สดุดีพระพุทธเจ้าไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการสดุดี
[๕๖] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[๕๗] การที่ข้าพเจ้ามาในสำนักของพระพุทธเจ้า
เป็นการมาดีแล้วโดยแท้
วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
[๕๘] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าก็ได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสยัมปฏิภาณิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สยัมปฏิภาณิยเถราปทานที่ ๙ จบ