บทแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลต่างๆ

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 กรกฎาคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำขอขมาและอธิฐานจิต,
    จากหนังสือ เกิดแก่กรรม 4 (แม่ชีธนพร/ทศพร)



    คนเราเกิดมาแล้ว หลายภพหลายชาติ แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน
    การสวดขอขมาจะเป็นการลดและปลดหนี้กรรม ให้น้อยลง

    คำขอขมาและอธิฐานจิต

    อธิษฐานหน้าพระพุทธรูปหรือสวดก่อนนอน

    ตั้งนะโม 3 จบ
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเมทันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

    หากข้าพเจ้าจงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา มารดา
    ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระอรหันต์ทุกพระองค์
    พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
    และท่านเจ้ากรรมนายเวรจะด้วย กาย วาจา ใจก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

    หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตนมา ขออนุญาต มีคู่มีครอบครัวเหมือนคนปกติทั่วไป
    ขอถอนคำอธิฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู๋ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน

    ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
    ขอบุญบารมีในอดีตกาล ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้า
    และครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ
    สุขะ พละ ลาภยศ สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
    อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป

    ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และ ทางธรรม
    ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

    หากมีผู้ใดเคนสร้างเวรกรรมกับข้าพเจ้า
    ไม่ว่าชาติภพใดก็ตาม ข้าพเจ้า ยินดี อโหสิกรรมให้
    ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาตทุกภพ
    ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปคำแช่ง ของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร

    ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทางโลก และทางธรรมเทอญ
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    “ อุกาสะ ข้าพเจ้านมัสการ พระพุทธศักราช พระศาสนา ของสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ เสด็จลงมาตรัสในพื้นแผ่นปฐพีอันกว้างใหญ่หนาแน่น ได้ 2แสน 8 หมื่นโยชน์ ”

    “สัปปุริสา ดูกรสัปบุรุษพุทธเวไนย์ทั้งหลาย ชายหญิงสิ้นทั้งปวง
    แต่ล้วนปรารถนาจะใคร่ลุล่วงไปในนฤพานด้วยกันทุกคน จงตั้งจิตให้เป็นกุศล ฟังดังจะกล่าว.....

    ." ด้วยอำนาจสิทธิ ความสำเร็จกิจ แห่ง ศาสนจักรอาณาจักร พุทธจักร
    มรรคผล นิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว ในฝ่ายบุญภาคปราบล้วนทั้งลับและเปิดเผยข้าพเจ้าจักตั้งกัลยาณจิต แผ่สมาธิจิตไปยังเหล่าธาตุธรรมทั้งหลายทั้งปวง สรรพสัตว์ตลอดโลกธาตุและทั่วทุกอณูจักรวาลโดยไม่มีประมาณ ด้วยมหาเดชแห่งบุญของข้า ฯ นี้ ปรารถจิตให้ข้า ฯ จงมี

    .......อิทธิบาทในพระกุศลธรรมเจริญพระอริยะบุคคลทันใด...... แผ่เดชบุญญฤทธิ์เกริกไกรแผ่อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล.....ปกคลุมทั่วพื้นภาค จักรวาลโดยไม่มีประมาณ
    ......ขอให้ข้า ฯ จงเจริญในฌานรู้พระพุทธธรรมอันเป็นแก่นสาร .....บรรลุพระอริยะธรรมพลัน.... เข้าถึงพระนฤพานโดยเลิศเทอญ
    ด้วยมหาเดชแห่งบุญของข้า ฯ นี้...ให้ครอบครัวของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้บรรพบุรุษของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้บุพพการีของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้มารดาบิดาของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้ครูบาอาจารย์ของข้า ฯจงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้ญาติสนิทมิตรสหายของข้า ฯ จงมี....อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้เจ้ากรรมนายเวรของข้า ฯ จงมี....อิทธิบาทในพระกุศลธรรม
    ให้ศัตรูผู้จองล้างผลาญของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมเจริญพระธรรม....โดยบริสุทธิ์เลิศล้ำอำไพเป็น พระอริยะบุคคลทันใด......แผ่เดชบุญญฤทธิ์เกริกไกรแผ่อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ไพศาล......ปกคลุมทั่วภาคพื้นจักรวาลโดยไม่มีประมาณ
    ....ปรารถจิตให้ท่านผู้เจริญของข้า ฯ จงเจริญในฌานรู้พระพุทธธรรมอันเป็นแก่นสาร...บรรลุพระอริยะธรรมพลัน...เข้า ถึงพระนฤพานโดยเลิศเทอญ... ด้วยมหาเดชแห่งบุญของข้า ฯ นี้...ให้สรรพสัตว์ทั้งปวงจงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม เจริญพระธรรม...โดยบริสุทธิ์เลิศล้ำอำไพเป็นพระอริยะบุคคลทันใด......แผ่เดช บุญญฤทธิ์เกริกไกรแผ่อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล.....ปกคลุมทั่วพื้นภาค จักรวาลโดยไม่มีประมาณ....ให้สรรพสัตว์ทั้งปวงจงเจริญในฌาน
    รู้พระพุทธธรรมอันเป็นแก่นสาร....บรรลุพระอริยะธรรมพลัน....เข้าถึงพระนฤพานโดยเลิศเทอญ...สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ สาธุ สาธุ สาธุ

    นิพพานปัจจโย โหตุ

    http://board.agalico.com/showthread.php?t=15175&page=2
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    คำอธิษฐานบูชาพระพุทธบาท



    “ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมี องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และพระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ผู้เป็นพระอัครสาวก และพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ผ่านไปแล้วในอดีด ตั้งแต่ต้นพุทธวงศ์ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา พระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย อันตลอดจนถึงพรหมโลก ภาคผู้เลี้ยง ผู้รักษา ศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพาน สวรรค์ทุกชั้นฟ้าทั้งหมื่นโลกธาตุ ทั่วแสนโกฎิจักรวาล ผู้มีหน้าที่รักษาทรัพยากรของชาติ รักษานภากาศ รักษามหาสมุทร จนกระทั่งสุดพื้นปฐพีคือที่เป็นอากาศเทวดาก็ดี เป็นรุกขเทวดาก็ดี เป็นภุมเทวดาก็ดี จะเป็นประเทศอื่นหรือประเทศไทยก็ดี ที่ยังเป็นเขตแดนพระพุทธศาสนา คือผู้ที่รักษาอาณาเขตนี้ และที่รอยพระพุทธบาททุกแห่ง กับทั้งที่พระบรมธาตุทุกสถาน พระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และเจ้าพ่อหลักเมือง ทั่วทั้งเมืองไทย ขอได้โปรดเสด็จมา ณ สถานที่นี้ ต่อหน้าพระแท่นธรณี เพื่อเป็นสักขีพยาน ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะขอตั้งสัตยาธิษฐาน ประสานผลบุญราศรีที่ได้บำเพ็ญมา นับตั้งแต่อดีตชาติมาจนถึงโอกาสนี้ ซึ่งมีการบูชาสักการะรอยพระพุทธบาทบรม ด้วยการมอบกายถวายชีวิต จนถึงกิจงานรวมภาคครั้งนี้ ขออานิสงส์บุญทั้งหมดที่มีทับทวีมารวมตัวกันให้เต็มครบถ้วนทั้ง ๓๐ ทัศ จัดอยู่ในปรมัตถบารมี ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระบรมครูที่ได้ตรัสรู้แจ้งแห่งธรรมแล้ว ขอให้ลูกแก้วทั้งหลาย จงได้เห็นธรรมนั้นทุกประการ หากยังไม่เข้านิพพานเพียงใด ขอคำว่า “ ไม่มี ” ทั้งหมด จงอย่าได้มาปรากฏ เมื่อสังขารหมดสิ้นไป อารมณ์ใจอย่าได้มืดมัว ขอให้แสงสีรัศมีกาย จงส่องกระจายไปทั่ว และทิพย์วิมานทั้งหลาย จงเฉิดฉายงามสดใส ถ้าโลกจะประสบสงครามใหญ่ ซึ่งอาจมีต่อไปในกาลข้างหน้า ตามที่พระศาสดาทรงทำนาย ว่ายักษ์ร้ายนอกพุทธศาสนา อาจจะรบราฆ่าฟันกัน ด้วยอาวุธอันทันสมัย หากเป็นจริงตามนั้นไซร์ โปรดได้อภิบาลชาวไทยผู้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมทั้งหลาย ให้พ้นจากภัยพิบัติเหล่านั้น ครั้นจะย่างก้าวไปในสารทิศใด ขอเทพไท้เทวาแต่ละทิศ จงมีจิตคิดเมตตา โปรดจำหมู่ข้าพเจ้าไว้ ขอทั้งศาสตราและสรรพอาวุธ ทั้งอุบัติเหตุอาเพทภัย ทั้งคุณไสยยาพิษ ผู้คิดเป็นศัตรูหมู่พาล จงอย่าได้ทำอันตรายทั้งหมด หากมีผู้คิดคดทรยศ ต่อสถาบันชาติ พระศาสนาและพระมหากษัตริย์ โปรดขจัดให้สิ้นไป อย่าให้ทำการสิ่งใดสำเร็จ จงได้สูญหายมลายไปด้วยภัยของตนเองขอให้พ้นจากทุพภิกขภัย คือความอดอยากยากจน และพ้นจากภัยธรรมชาติทั้งปวง คือ ฟ้าผ่า ลมแรง ไฟไหม้ น้ำท่วมใหญ่ และแผ่นดินไหว เป็นต้น สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร จงพินาศหมดสิ้นไป ด้วยชัยมงคลทั้งหลายเมื่อกาลเวลามาถึงไซร้ ขอให้มีผู้บริหารบ้านเมืองที่ทรงธรรม คนดีเข้ามารักษาประเทศชาติ เพื่อให้ประชาราษฏร์มั่งคั่งเกษมศรี ให้มีความอยู่ดีกินดี พืชสวนไร่ในนาอย่าได้เสียหาย ค้าขายก็ขอให้ได้กำไรดีอีกทั้งแร่ธาตุทองคำ และน้ำมันทั้งหลาย อันเป็นทรัพยากรของชาติ ขอจงได้ปรากฎโดยเร็วพลัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวไทย จนถึงเข้ายุคชาวศรีวิไล แล้วมีความรุ่งเรืองไปในอาณาประเทศ เพื่อจะสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา อันจะแผ่ไปในภายภาคหน้า ตามพุทธพยากรณ์ไว้ว่า หลังกึ่งพุทธกาลแล้ว.......... พระศาสนาจะรุ่งเรืองอีกวาระหนึ่ง ขอให้มีผู้ปฎิบัติได้ เพื่อช่วยกันประกาศศาสนา เป็นการขจัดภัยจากอลัชชี คือ ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฎฐิทั้งหลายสาธุ... ด้วยอำนาจแห่งสัจจะอธิษฐานนี้ ขอพระบารมีทุกท่านได้โปรดประทานพร ให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของพระองค์ อันนับเนื่องอยู่ในศากยวงศ์ ถ้าหากคงไม่เกินวิสัย ขอให้เป็นไปตามนั้น และให้สามารถปฎิบัติตนจนได้ผล ทั้งสุกขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ และปฎิสัมภิทัปปัตโต โดยฉับพลันนั้นเทอญ...”

    อานิสงส์การกราบไหว้บูชาพระพุทธบาท

    พระพุทธเจ้าทรงพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จไปเผยแผ่ และทรงเหยียบรอยพระพุทธบาท และประดิษฐานพระบรมธาตุไว้บุคคลชายหญิงคฤหัสถ์และนักบวช ที่ได้สักการบูชา พระบรมธาตุและพระพุทธบาท ก็จะได้ผลานิสงส์เป็นอันมาก อันนับประมาณมิได้ กล่าวคือ..

    1. เป็นบุคคลที่ไม่มีโอกาสไปเกิดในอบายทั้งสี่ แต่จะพุ่งดิ่งตรงต่อพระนิพพาน
    2. เสมอดังได้พูดได้คุยได้ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกวันเวลา
    3. เสมอดังได้เดินตามหลังพระพุทธเจ้าทุกบาททุกก้าว
    4. เสมอดังได้ปลูกสร้างพระเจดีย์ พระวิหาร
    5. เสมอดังได้บำเพ็ญ กุศล ส่วนบุญด้วยปาก ด้วยกาย ด้วยใจทุกเวลา

    ด้วยเดชแห่งผลานิสงส์ดังนี้ จะอุปถัมภ์ค้ำชูอุดหนุนให้ตั้งอยู่ในทางสัมมาปฎิบัติ ประกอบ ด้วยยศศักดิ์ ชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ เป็นผู้ฉลาด มีญาณปัญญายิ่งกว่าคนทั้งหลาย ภัยอันตรายต่างๆก็ดี โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็ดี อุบาทว์และศัตรูต่างๆ ก็ดี ย่อมระงับดับหายไปจะสัมฤทธิ์สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิ่งของ เงินทอง ข้าวเปลือกข้าวสาร ทั้งปศุสัตว์ จักอุดมด้วยฤทธิ์เดชยิ่งนัก จะประสบสุขในชาตินี้และชาติต่อๆไป หากมีบุญสมภารมาก ก็จะได้ถึงพระนิพพาน ในศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมะนั้นแน่นอนแม้นว่าบุญสมภารยังไม่บริบูรณ์เต็มที่ ก็จะได้เห็น พระศรีอริยะเมตไตรย และจะได้มรรคผลในศาสนาของพระองค์อย่างเที่ยงแท้แน่นอน โดยไม่ต้องสงสัย ดังนี้แล ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2008
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]




    บทกราบพระพุทธเจ้า เพื่อขอขมากรรม


    พระพุทธองค์ ผู้ทรงมหาเมตตา มหากรุณาสงสารสรรพสัตว์พระพุทธองค์ ผู้ทรงมหามุทิตา มหาอุเบกขาฉุดช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งสิ้นพระพุทธองค์ ผู้ทรงวรลักษณ์ และฉัพพรรณรังสีอันสง่า งดงามยิ่งข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมคารวะกราบไหว้สุดหัวใจ




    <center>ขอนอบน้อม แด่ ท่านวัชระคุรุจารย์ขอนอบน้อม แด่ พระพุทธเจ้าขอนอบน้อม แด่ พระธรรมขอนอบน้อม แด่ พระสงฆ์วันนี้ ข้าพเจ้าขออธิษฐานเพื่อสรรพสัตว์ ขอให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ล้วนได้รับผลบุญ คราใดได้ยินเสียงมนต์อันวิเศษ จะระลึกรู้ได้ และเข้าถึงโพธิสัตว์มรรคาปรารถนาปวงโพธิสัตว์ทั้งหลาย โปรดประทาน และได้อาศัย ญาณอันเลิศ นั้นคือ โพธิจิต ให้ข้าพเจ้าและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้รับซึ่งแสงแห่ง พระอนุตรสัมมาสัมโพธิ โดยพร้อมเพรียงกันด้วยเทอญ</center><center> </center><center></center><center>ขอนอบน้อมถึง พระพุทธเจ้าทั้งสิบทิศ </center><center> </center><center></center><center>ใน อนันตจักรวาลเป็นสรณะขอนอบน้อมถึง พระธรรม ในอนันตจักรวาล เป็นสรณะขอนอบน้อมถึง พระอริยสงฆ์ ในอนันตจักรวาล เป็นสรณะขอนอบน้อม แด่ปวงพระพุทธเจ้า ผู้มีพุทธคุณ 10 ประการดังนี้ พระพุทธองค์ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองเป็นผู้ไกลจากกิเลส สมควรที่มนุษย์และเทวดาเคารพบูชา เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ สุคโต เป็นผู้ไปแล้วด้วยดีโลกวิทู ผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้งเป็นเอกบุรุษ ไม่มีบุรุษใดเหนือกว่าเป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้เป็นครูผู้สอนของ เทวดา และมนุษย์ทั้งหลายเป็นบุรุษที่คนทั้งโลกเคารพนับถืออันจักรวาลต่างๆ บรรดามีทั้งหมดนี้เป็นต้น ปวงพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ซึ่งล้วนเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนในจักรวาล และยังทรงอยู่ในโลก ปรารถนาจิตให้ปวงพระพุทธองค์นี้ โปรดได้เมตตาระลึกถึงข้าพเจ้าด้วย ไม่ว่าในปัจจุบันชาติ ในอดีตชาติอันยาวไกล ได้เกิด-ตายมาไม่มีประมาณ อันอกุศลกรรมทั้งหลายที่ได้กระทำมาแล้ว ไม่ว่าจะกระทำเอง ไม่ว่าจะสอนผู้อื่นให้กระทำ ไม่ว่าจะยินดีในการกระทำของผู้อื่นไม่ว่าจะอยู่ในเขตพุทธาวาส ไม่ว่าจะอยู่ในเขตสังฆาวาส ไม่ว่าจะเป็นสมบัติของสงฆ์ทั้ง 4 ทิศ ไม่ว่าจะหยิบฉวยเอาเอง ไม่ว่าจะสอนผู้อื่นให้หยิบฉวยเอา ไม่ว่าจะยินดีเห็นผู้อื่นหยิบฉวยเอา อันกรรมหนักทั้ง 5 นั้น ไม่ว่าจะได้กระทำเอง ไม่ว่าจะใช้ผู้อื่นกระทำแทน ไม่ว่าจะยินดีที่ผู้อื่นได้กระทำ อันอกุศลกรรมทั้ง 10 ไม่ว่าจะได้กระทำเอง ไม่ว่าจะใช้ผู้อื่นให้กระทำแทน ไม่ว่าจะยินดีที่ผู้อื่นได้กระทำ อันโทษทัณฑ์ทั้งหมดที่ได้กระทำแล้ว ที่ได้กระทำซ้ำแล้วซ้ำอีก และได้ปกปิดไม่ให้ผู้อื่นรู้ หรือที่มิได้กระทำซ้ำแล้วซ้ำอีก และมิได้ปิดบังซึ่งล้วนมีโทษทัณฑ์ต้องตกนรก เมื่อรับโทษแล้ว อันเศษกรรมต่างๆ ที่เหลือ ยังต้องมาเกิดเป็นเปรตผู้หิวโหย และกำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน จากนั้น ยังต้องมาเกิดเป็นคนผู้ต่ำต้อยที่สุด ในแดนอันเลวทราม อันบาปอกุศลต่างๆ ที่ได้กระทำดังกล่าวนี้เป็นต้น บัดนี้ ข้าพเจ้าได้สำนึกถึงความผิดแล้ว ขอให้ปวงพระพุทธเจ้าในบัดนี้ โปรดได้เป็นพยานว่า รู้จักข้าพเจ้าระลึกถึงข้าพเจ้าได้แล้ว ต่อเบื้องพระพักตร์ของปวงพระพุทธเจ้านี้ </center><center> </center><center></center><center></center><center>ข้าพเจ้าขอเปล่งวาจาว่า............</center><center> </center><center></center><center>หากในปัจจุบันชาติ และอดีตชาติ ได้เคยทำบุญทำทาน ได้เคยรักษาศีล ได้เคยให้อาหารแก่สัตว์ทั้งหลาย ได้เคยปฏิบัติธรรมมาแล้ว ด้วยกุศลมูลนี้ ได้เคยช่วยเหลือสรรพสัตว์ด้วยกุศลมูลนี้ ได้เคยบำเพ็ญโพธิญาณ ด้วยกุศลมูลนี้ ได้เคยบรรลุปัญญาอันเลิศ ด้วยบุญ กุศลทั้งหมดนี้ จงประมวลรวมกันเป็นหนึ่ง คำนวณอายุธาตุ อายุบารมีไม่ถ้วน แผ่ไปถึงพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเฉกเช่นที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาโปรดข้าพเจ้า อันโทษทัณฑ์ใดใด ล้วนได้สำนึก และได้ให้อภัยแล้ว สิ่งดีงามทั้งหลาย ล้วนได้สมตามใจปรารถนาข้าพเจ้าขออาราธนาพระพุทธบารมี ให้ข้าพเจ้าได้ถึงซึ่งปัญญาอันเลิศ ปรารถนาปวงพระพุทธเจ้าทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โปรดประทานมหาเมตตา มหาบารมีอันสูงสุดแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายเทอญ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมเป็นสรณะอันจักรวาลทั้ง 10 ทิศ บรรดามี บรมครูของสรรพสัตว์ทั้ง 3 กาล ข้าพเจ้าขอน้อมกาย วาจา ใจ อันวิสุทธิ์ ถวายอภิวาทไปทั่วจนหมดสิ้น อันจริยาวัตรพระสมันตภัทรอันยิ่งใหญ่ ปรากฎเด่นทั่วปวงพุทธะ กายหนึ่งปรากฎ (อนันต) ธุรีกาย ทุกธุรีกาย อภิวาท (อนันต) ธุรีพุทธะในหนึ่งธุลียังปรากฏ ปวงพุทธะมากมาย ปวงพุทธโพธิสัตว์ล้วนมาร่วมชุมนุมกัน ทุกอณูอากาศอันกว้างใหญ่ ล้วนปรากฏปวงพุทธะ ผู้ศรัทธาเชื่อมั่นอันแท้จริง จึงสัมผัสได้เต็มหัวใจ ผู้คนต่างแซ่ซ้อง สรรเสริญ กังวานไกล วาจาอันไพเราะ วิจิตร ครอบคลุมไปทั่ว ถึงปวงพุทธาในอนาคตกาล ทั้งหมดทั้งสิ้น ได้ซึ่งอานิสงส์มากมาย มิอาจประมาณได้ด้วยพวงมาลัย ดอกไม้ อันดีเลิศ เสียงดนตรี น้ำมันหอม และฉัตรทิพย์ สรรพสิ่งล้วนวิจิตร มีครบถ้วน ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบูชา ปวงพุทธะ ด้วยอาภรณ์อันเลิศ ด้วยเครื่องหอมอันเลิศนี้ ด้วยโคมประทีป ด้วยธูปหอม จุดต่อเนื่องไม่มีหมดสิ้น ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าสูงส่งมารวมกัน </center><center> </center><center></center><center>ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบูชาปวงพุทธะ</center><center> </center><center></center>ข้าพเจ้าขออ้างถึงโพธิจิตอันยิ่งใหญ่ (ของข้าพเจ้า) ความศรัทธาเชื่อมั่นในปวงพุทธโพธิสัตว์ทั้ง 3 กาล (ของข้าพเจ้า)

    ความศรัทธาในจริยาวัตรพระสมันตภัทรอัน ยิ่งใหญ่ (ของข้าพเจ้า) เพื่อพอมีถวายบูชาปวงพุทธะให้กว้างขวาง อันอกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้ว จากความโลภ โกรธ หลง อันไม่มีที่สิ้นสุด บังเกิดเป็น กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บัดนี้ ข้าพเจ้าได้สำนึก ขอขมากรรม งดโทษสิ้นสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้ง 10 ทิศ ที่ได้ศึกษา หรือไม่ได้ศึกษาทวิยาน และปวงพุทธโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายข้าพเจ้าขอโมทนาในบุญกุศลของท่านทั้งหลาย พระผู้ให้แสงสว่างแก่สรรพสัตว์ทั้ง 10 ทิศ พระผู้สำเร็จธรรมองค์ต้นๆ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมอาราธนาทั้งหมดทั้งสิ้น โปรดได้เคลื่อนธรรมจักรอันวิเศษสุดยอดปวงพุทธะที่ปรารถนาโปรดสรรพสัตว์เข้า สู่แดนนิพพาน ข้าพเจ้าล้วนศรัทธา ขออาราธนาพระองค์ท่าน ปรารถนาให้พระองค์ได้มาโปรดสัตว์นานๆ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอันการสรรเสริญ ถวายบูชา พระพุทธองค์ เพื่ออาราธนาพระองค์ลงมาโปรด เคลื่อนธรรมจักรการโมทนาบุญ ขอขมากรรมนั้น เพื่อเป็นกุศลมูล อุทิศแด่สรรพสัตว์ ให้ได้ถึงพทุธธรรมด้วยกันด้วยบุญกุศลอันเลิศ ที่ประกอบแล้วนี้ ขออุทิศให้ผู้ที่อยู่ในโลกของธรรมอันแท้จริง เป็นผู้เข้าถึงสภาวะธรรม และพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติทั้งหลายให้ได้สำเร็จฌาน เป็นอริยบุคคล ด้วยบุญกุศลอันมหาศาลของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าขออุทิศไปทั่วให้หมดสิ้น ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ของสรรพสัตว์ ที่เห็นผิด กล่าวโทษให้ร้ายพุทธธรรม เป็นต้นด้วยอกุศลกรรมดังกล่าวทั้งหมดนี้ ให้มลายสูญสิ้นไม่มีเหลือ ระลึกเสมอให้สรรพสัตว์ บังเกิดปัญญาญาณได้ข้ามพ้นวัฏฏะมากมาย ไม่มีถอยหลังกลับ จนกระทั่งหมดสิ้นทุกตัวตนในโลกนี้ อันความทุกข์ทั้งหลายก็พลันจบสิ้นทุกตัวสรรพสัตว์ อันมหาปณิธานของพระโพธิสัตว์ทั้ง 4 นี้ ช่างยิ่งใหญ่นัก ข้าพเจ้าขอถวายบุญกุศล แด่มหาปณิธานนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2008
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    บทสวด
    เพื่อความอยู่เป็นสุขและเพื่อเจริญสติ
    ไม่มีเวรกับใครๆ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต
    สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ( 3 ครั้ง )

    ( ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
    ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง )

    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ,
    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ,

    ( ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ,
    ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ,
    ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ )

    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ( แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ )

    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ,

    ( แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ )



    สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน
    ด้วยกาย วาจา ใจ

    จะโดยตั้งใจก็ดีหรือโดยไม่ตั้งใจก็ดี
    ต่อ
    เจ้ากรรมนายเวร เทพ เทพยดาอารักษ์
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โอปปาติกะ สัมภเวสี
    พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง บุตรหลาน
    คนรัก ภรรยา(สามี) ตลอดจน
    สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
    ที่เคยเกี่ยวข้องด้วยในอดีตและปัจจุบัน
    ในทุกภพภูมิ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมด้วย
    ขออโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ขออโหสิกรรม

    และหาก
    ข้าพเจ้าได้เคย
    ผูกเวรจองกรรม อาฆาต พยาบาท มุ่งร้าย
    ต่อผู้ใดหรือสรรพสัตว์ใดทั้งในอดีตและปัจจุบัน
    ในทุกภพภูมิ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม

    ข้าพเจ้าขอสมาทานอยู่ในกุศลกรรมบถสิบ
    (ตลอดชีวิต)

    1) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการฆ่าสัตว์
    2) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการลักทรัพย์
    3) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม
    4) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดเท็จ
    5) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดส่อเสียด
    6) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดคำหยาบ
    7) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ
    8) เป็นผู้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
    9) เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท
    10) เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ

    ด้วยศีลและวัตรปฏิบัติอันบริสุทธิ์นี้
    ขอเทพ เทพยดาอารักษ์ สิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย

    จงโปรดคุ้มครองข้าพเจ้า ( ผู้สวด)
    ให้อยู่ดีมีสุขสวัสดีทุกประการ
    มีใจมั่นคงในพุทธศาสนาที่จะ
    ก้าวตามรอยบาทพุทธองค์จนพบนิพพานในชาตินี้
    โดยไม่เนิ่นช้า ด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้า
    ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น
    แก่เจ้ากรรมนายเวร เทพ เทพยดาอารักษ์
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
    โอปปาติกะ สัมภเวสี พ่อแม่ครูบาอาจารย์
    ญาติพี่น้อง บุตรหลาน คนรัก ภรรยา(สามี)
    ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในทุกภพภูมิ
    ขอจงได้
    อนุโมทนาส่วนกุศลผลบุญนี้โดยทั่วกันเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ กราบสามครั้ง
    นั่งสมาธิ
    แผ่เมตตาเจโตวิมุติอันไม่มีประมาณไปในทุกทิศทุกทาง
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    ด้วยเดชแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    ด้วยเดชแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย
    ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตต์เจ้าทั้งหลาย
    ด้วยเดชแห่งพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย



    ขอจงมาปกปักรักษาปวงข้าพุทธเจ้า สิ่งดีงามอันใดที่ใจปรารถนา จงสมหวัง เติบโต งอกงาม ไพบูลย์ รุ่งเรืองเจริญ ทุกทิวาราตรีกาล


    กิจกรรม ต่างๆ ที่ปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทีมงาน สมาชิก และผู้เยี่ยมชม ได้บรรจงทำกันในเว็บแห่งนี้ มีการเผยแพร่พระธรรมเป็นอาทิ ขอให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายผู้ใคร่ต่อการศึกษาและปฏิบัติพึงเลือกเฟ้นเอา ประโยชน์เถิด


    บุญกุศลใดๆ อันเกิดขึ้นแล้ว ขออานุภาพแห่งบุญนั้นจงปกแผ่ไปถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายในนานาโลกธาตุ ทั้งสิ้นทั่วทศทิศ ขอให้สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น พึงยังตนเข้าถึงซึ่งความเกษมเถิด


    ขอ ให้ปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีความเจริญรุ่งเรืองในกิจกรรมการงาน มีอำนาจ ตบะ ชัยชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์ ลาภ กำลัง และความสุข ไม่ว่าจะเกิดในชาติใด ภพใด อยู่ ณ สถานที่ใหน ๆ ขออย่าให้ประสบกับ คำว่า ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่สบาย


    อนึ่งปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลายพึงเป็น ผู้ปราศจากโรคาพาธและอุปัทวะอันตรายทั้งผอง ประสบแต่ความเย็นใจในกาลทุกเมื่อเทียว ขอให้พึงส้องเสพแต่กัลยาณมิตร มีความยินดีเลื่อมใสในการปฏิบัติตามโอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ยังตนให้ห่างไกลจากอกุศลกรรมทั้งปวง ในทุก ๆ ภพด้วย ธรรมจักษุพึงปรากฏแก่ปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลายโดยพลัน



    ขอให้มีบุญวาสนาในทางธรรม สามารถพบพานกับคุรุผู้ประเสริฐชี้นำทางวิญญาณแก่ปวงข้าพุทธเจ้า ในกาลใดแลที่พระทศพลญาณได้อุบัติขึ้นในอนาคตกาล อันมีพระศรีอาริยะเมตไตรยเป็นอาทิอุบัติขึ้นแล้วในโลก ขอให้ปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลาย พึงมีโอกาสเป็นผู้อุปฐากรับใช้พระตถาคตองค์นั้น



    ผลอันอุดมเลิศใดซึ่งบัณฑิตปรารถนาไม่ ว่าจะเป็น อรหัตผล ปัจเจกผล โพธิญาณผล ขอให้ปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลายพึงบรรลุซึ่งผลนั้น ขอให้ฝนจงตกต้องตามฤดูกาล นำเมทนีดลไปสู่ความฉ่ำชื่น อนึ่งปวงข้าพุทธเจ้าทั้งหลายพึงเป็นผู้ประกาศธรรมของโลกนาถทุก ๆ ภพ



    ขอพระพุทธศาสนาอันแสดงสันติวรบทแก่นิกรสัตว์ จงดำรงสถิตแลเสถียรอยู่ในโลกตลอดชั่วกาลนานเนิ่นช้า อกาลิโก เทอญ สาธุ
    [​IMG]http://board.agalico.com/showthread.php?t=6986
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    โอม มานี เป เม โฮง

    ขออาราธนาบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
    พระอรหันตสาวกทั้งหลาย จงประสิทธิ์ประสาทผล
    ดลบัญดาล รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน
    ให้คำอวยพรของข้าพเจ้าต่อไปนี้เทอญ...

    ๑) ขอให้ความปราถนาใดๆ อันเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน

    -จงได้รับการอุปถัมภ์สนับสนุนให้ตลอดรอดฝั่งถึงแดนพุทธภูมิ

    -อุปสรรคขัดขวางอันใด จงแปรเปลี่ยนไปเป็นพลัง และปัญญาบารมียิ่งๆ ขึ้นไป

    ๒) ขอให้ความปรารถนาใดๆ อันเป็นไปเพื่อการยังชีพอย่างพอเพียงในปัจจุบันของท่าน

    -จงครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกด้าน เพียงพอแก่การยังชีพเยี่ยงฆราวาสผู้ทรงธรรม

    -จงหนุนนำคล้อยนำไปในทางแห่งสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว ปิดอบายภูมิทั้งสี่โดยพลัน

    ๓) ขอให้ความปรารถนาใดๆ อันเป็นไปเพื่อการสนองกามคุณอันมากกว่าพื้นฐานปุถุชน

    -จงกลายสภาพเป็นสภาวะธรรม เป็นกำลังแสดงถึงไตรลักษณ์ อันหนุนนำสู่การบรรลุธรรมแต่ทางเดียว

    -จงกลายสภาพเป็นปัจจัยเครื่องหนุนนำ เพื่อการบำเพ็ญเพียรสั่งสมบุญบารมี แต่ส่วนเดียว

    พร้อมอีกทั้งตัวท่านและญาติมิตรจงประสบแต่สิ่งดีงามไม่ขาดระยะตลอดปี 2551 เทอญ

    ขอกำลังแห่งพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์
    กำลังแห่งธาตุทั้งสี่อันเป็นรากฐานแห่งฤทธิ์
    ประสิทธิประสาทร่วมกำลังให้เป็นจริงดังนี้เทอญ

    นะ โม พุทธ ธา ยะ
    นะ มะ พะ ธะ
    นะ มะ อะ อุ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    รักษาจิตให้แจ่มใสด้วยการภาวนา

    </B></B>[​IMG]

    เวลาที่เราอยู่ในสมาธินั้น ทั้งร่างกายและจิตใจของเราสามารถที่จะอยู่ในสภาวะสงบและผ่อนคลายเต็มที่ แต่สภาวะแบบนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง จากสภาวะจิตที่อยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นขณะที่เราเคลิ้ม ๆ เพราะนั่นเป็นเหมือนเรานั่งอยู่ในถ้ำมืดมากกว่า การนั่งสมาธิซึ่งทำให้เรามีสติสมบูรณ์นั้น เราไม่เพียงแต่ได้พักผ่อนและมีความสุขเท่านั้น หากยังทำให้จิตของเราว่องไวและเบิกบาน ตื่นอยู่เสมอ การภาวนาไม่ใช่การหนีโลก หากแต่เป็นการเผชิญกับความเป็นจริงของโลกด้วยจิตที่แจ่มใสเยือกเย็นต่างหาก ผู้บำเพ็ญสมาธิ เจริญสติทั้งหลายควรจะตื่นอยู่เสมอ เพราะถ้าหากไม่ตื่นอยู่เสมอ จิตก็จะตกอยู่ในภาวะฟุ้งซ่านและขี้หลงขี้ลืมไป เหมือนคนขับรถ ซึ่งถ้าไม่ตื่นอยู่เสมอก็ประสบอุบัติเหตุถึงชีวิตได้ง่าย ๆ เธอควรจะตื่นเหมือนคนที่กำลังเดินอยู่บนไม้คานในที่สูง หากก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวก็หมายถึงความตาย เธอควรจะเป็นเหมือนอัศวินในยุคศักดินาผู้เดินมือเปล่าฝ่าเข้าไปในดงดาบ เธอควรจะเป็นเหมือนราชสีห์ที่ก้าวไปข้างหน้าช้า ๆ ทีละก้าว ๆ อย่างสุภาพ แต่มั่นคงองอาจ เธอต้องอยู่กับความไม่ประมาทชนิดนี้เท่านั้น เธอจึงจะมีโอกาสเข้าถึงภาวะของการเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อันสมบูรณ์
    สำหรับผู้หัดใหม่ ควรใช้วิธีสังเกตตามรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ โดยไม่ต้องให้คุณค่า ดังที่ครูได้กล่าวมาแล้ว ไม่ว่าเราจะมีความรู้สึกเมตตากรุณาหรือพยาบาทโกรธเคือง เราต้องรับรู้ความรู้สึกนั้น ๆ อย่างเสมอภาคกัน เพราะความรู้สึกนั้น ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของเราด้วยกัน ส้มที่ครูกินก็คือตัวครูเอง กะหล่ำปลีที่ครูกำลังปลูกก็คือตัวครูด้วย ครูปลูกด้วยจิตและใจทั้งหมดของครู ครูล้างกาน้ำชาใบนี้ด้วยความเอาใจใส่ดุจว่าครูกำลังอาบน้ำให้ยุวพุทธะ ทุก ๆ สิ่งที่ควรได้รับการปฏิบัติจากเราด้วยความระมัดระวังเท่า ๆ กัน ไม่มากไม่น้อยกว่ากัน ในสภาวะที่สติสมบูรณ์ ความเมตตา ความโกรธเกลียด ต้นกะหล่ำปลีและกาน้ำชา ล้วนเป็นธรรมะเหมือนกันหมด ล้วนเป็นพุทธะเหมือนกันหมด
    วิธีการสังเกตและตามรู้เท่าทันเฉย ๆ อาจจะยาก ถ้าหากเรากำลังถูกครอบงำด้วยความโศกเศร้า ความวิตกกังวล ความเกลียด และความลุ่มหลง ฯลฯ ในกรณีนี้ให้หันกลับมาใช้วิธีการภาวนา โดยใช้วัตถุเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง และที่ดีที่สุดก็คือ ใช้อารมณ์ของจิตที่เป็นจริงในขณะนั้นแหละเป็นวัตถุของการภาวนา การภาวนานี้จะรักษาเยียวยาจิตของเราให้แจ่มใส ความโศกเศร้า ความวิตกกังวล ความเกลียดชังหรือความหลง จะหนีหายไปเองตามธรรมชาติ เมื่อถูกเพ่งด้วยสมาธิและการภาวนาของเรา การหนีหายไปนี้จะนำจิตไปสู่ความแจ่มใสอิสระ โดยธรรมชาติของมันเองเช่นกัน ความโศกเศร้า ฯลฯ ซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกขเวทนานั้น กลับถูกใช้ให้เป็นเครื่องมือปลดปล่อยตนให้พ้นทุกข์ทรมานได้ เราเรียกวิธีนี้ว่าหนามยอกเอาหนามบ่ง เราควรปฏิบัติต่อความโศก ความกังวล ความเครียด ความหลง อย่างสุภาพอ่อนน้อม ด้วยความเคารพ อย่าไปต่อต้านเขา แต่ให้อยู่กับเขาอย่างสันติ เจาะลงไปให้เห็นธรรมชาติของเขา โดยการภาวนาเรื่องความเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน ผู้ปฏิบัติธรรมที่สุขุมจะรู้จักเลือก "วัตถุ" สำหรับภาวนาที่เหมาะสมกับสถานการณ์
    "วัตถุ" สำหรับภาวนา เช่น ความเป็นเหตุเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน ความเมตตาตัวตน ความว่าง ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ของการภาวนา ซึ่งมีอำนาจที่จะเยียวยารักษาจิตให้แจ่มใสได้ทั้งสิ้น
    แต่อย่างไรก็ตาม การภาวนาโดยอาศัย "วัตถุ" เหล่านี้ จะได้ผลสำเร็จหรือไม่อยู่กับว่าเรามีพลังทางสมาธิมากน้อยเพียงใด และเราจะได้ "พลังทางสมาธิ" นี้มาจากการเจริญสติในชีวิตประจำวันด้วยการเฝ้าสังเกตและรู้เท่าทันสิ่งต่าง ๆ ทั้งหลายที่กำลังดำเนินไป "วัตถุ" สำหรับการภาวนาต้องมีรากที่แท้จริงหยั่งลึกอยู่ในตัวเอง ต้องไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการคิดคำนึงหรือการตั้งคำถามทางปรัชญา วัตถุนั้นควรเป็นเหมือนอาหารที่จะต้องหุงต้มเป็นเวลานานบนเตาในที่ร้อนแรง เราเอาอาหารใส่หม้อ ตั้งเตาแล้วจุดไฟ หม้อก็คือตัวเรา เชื้อเพลิงนั้นได้มาจากการเจริญสติต่อเนื่องกันอย่างสม่ำเสมอ ถ้าความร้อนแรงไม่พอ อาหารก็จะไม่มีสุก แต่ถ้าสุกเมื่อไรอาหารนั้นก็จะแสดงคุณภาพ ช่วยนำเราออกจากกองทุกข์ได้.


    <SMALL>ข้อมูลจาก : ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ The Meracle of Being Awake (หน้า 63)
    สำนักพิมพ์โกมลคีมทอง
    </SMALL>
     
  9. สมถการณ์

    สมถการณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2007
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +105
    อนุโมธนา สำหรับทุกบทสวดค่ะ
     
  10. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,238
    จะปริ๊น ออกมาสวด ขอร่วมอนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ
     
  11. napapatch_datch

    napapatch_datch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +57
    อนุโมทนา สาธุ กับทุกๆ ข้อความอธิษฐาน ดีๆ ขออนุญาตนำไปใช้บ้างนะคะ
     
  12. THE_TOP

    THE_TOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    706
    ค่าพลัง:
    +381
    [​IMG]
     
  13. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    ขออนุญาตคัดลอกเพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทานนะคะ

    ขออนุโมทนาด้วยค่า
     
  14. minteed

    minteed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +198
    ขออนุโมทนาบุญ กับท่านที่นำบทสวดมาเผยแผ่ในครั้งนี้ด้วย เป็นประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
    ขออนุญาตคัดลอกเพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้สนใจนะคะ
     
  15. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ขอต่อด้วย บทที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 24 เรื่องพุทธาปทาน นะครับ ว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    บทแผ่เมตตา ที่พระพุทธเจ้าทรงเคยใช้
    ปรากฏใน พระสุตตันตปิฎกเล่ม ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑<o></o>
    <o></o>
    ...........พระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ เป็นพระสัพพัญญูผู้ประเสริฐ
    ได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ ด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะว่า………..
    <o></o>
    กุศลกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นกิริยาที่เราพึงทำด้วยกาย วาจา และใจ
    กุศลกรรมนั้นเราทำแล้วไปในไตรทศ สัตว์เหล่าใดมีสัญญา และสัตว์เหล่าใดไม่มีสัญญามีอยู่
    ขอสัตว์ทั้งหมดนั้นจงเป็นผู้มีส่วนแห่งผลบุญ ที่เราทำแล้ว
    สัตว์เหล่าใดทราบบุญที่เราทำแล้ว เราให้ผลบุญแก่สัตว์เหล่านั้น
    บรรดาสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดไม่รู้ ขอทวยเทพจงไปบอกแก่สัตว์เหล่านั้น
    ปวงสัตว์ในโลกผู้อาศัยอาหารเป็นอยู่ทุกจำพวก ขอจงได้อาหารอันพึงใจ ด้วยใจของเรา
    <o>:p> </o>:p>
    บาลีว่า ยังกิญจิ กุสะลัง กัมมัง กุศลกรรม อย่างใดหนึ่ง
    กัตตัพพัง กิริยัง มะมะ เป็นกิจซึ่ง ควรฝักใฝ่
    กาเยนะ วาจามะนะสา ด้วยกาย วาจาใจ
    ติทะเส สุคะตัง กะตัง
    เราทำแล้ว เพื่อไปสวรรค์
    เย สัตตา สัญญิโน อัตถิ สัตว์ใด มีสัญญา
    เย จะ สัตตา อะสัญญิโน หรือหาไม่ เป็นอสัญญ์
    กะตัง ปุญญะผะลัง มัยหัง ผลบุญ ข้าทำนั้น
    สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต ทุก ๆ สัตว์ จงมีส่วน
    เย ตัง กะตัง สุวิทิตัง สัตว์ใดรู้ ก็เป็นอัน
    ทินนัง ปุญญะผะลัง มะยา ว่าข้าให้ แล้วตามควร
    เย จะ ตัตถะ นะ ชานันติ สัตว์ใด มิรู้ถ้วน
    เทวา คันตวา นิเวทะยุง ขอเทพเจ้า จงเล่าขาน
    สัพเพ โลกัมหิ เย สัตตา ปวงสัตว์ ในโลกีย์
    ชีวันตาหาระเหตุกา มีชีวิต ด้วยอาหาร
    มะนุญญัง โภชะนัง สัพเพ จงได้ โภชน์สำราญ
    ละภันตุ มะมะ เจตะสา ตามเจตนา ของข้าเทอญ ฯ<o></o>

    หมายเหตุ...
    คำว่า ในไตรทศ บางแห่งแปลว่าในพระบารมี 30 ประการ (ไตร แปลว่า 3 ทศ แปลว่า 10 คือ 3 คูณ 10 เท่ากับ 30 )<o></o>
    กุศลใด ในไตรทศ ทำหมดแล้ว<o></o>
    อย่าคลาดแคล้ว แก่บรรดา สัตว์ทั้งหลาย<o></o>
    ขออุทิศ ด้วยวาจา ใจและกาย<o></o>
    ท่านทั้งหลาย ได้กุศล ทุกตน เทอญ ฯ<o></o>
    ลุงมหาโก แปลเป็นกลอน<o></o>
    คาถากรวดน้ำของพระเจ้าจักรพรรดิ ติโลกวิชัย บรมโพธิสัตว์

    ยังกิญจิ กุสะลัง กัมมัง กัตตัพพัง กิริยัง มะมะ
    กาเยนะ วาจามะนะสา ติทะเส สุคะตัง กะตัง
    เย สัตตา สัญญิโน อัตถิ เย จะ สัตตา อะสัญญิโน
    กะตัง ปุญญะผะลัง มัยหัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต
    เย ตัง กะตัง สุวิทิตัง ทินนัง ปุญญะผะลัง มะยา
    เย จะ ตัตถะ นะ ชานันติ เทวา คันตะวา นิเวทะยุง
    สัพเพ โลกัมหิ เย สัตตา ชีวันตาหาระเหตุกา
    มะนุญญัง โภชะนัง สัพเพ ละภันตุ มะมะ เจตะสาฯ
    คำแปลคาถากรวดน้ำ
    กรรมอันควรทำที่เป็นบุญกุศล ที่พึงทำด้วยกาย วาจา และใจ ใด ๆ ก็ตาม ที่เป็นกรรมไปดี
    คือสมควรไปเกิดในสุคติ ณ ชั้นไตรทศ คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว
    บรรดาสัตว์ทั้งหลายเหล่าใด ทั้งที่เป็นพวกมีสัญญา (กล่าวคือ มนุษย์ เทวดา และพรหม ก็ดี) ทั้งพวกที่ไม่มีสัญญา
    กล่าวคือพวกอสัญญีสัตว์ทั้งหลายก็ดี ขอสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น จงเป็นผู้มีส่วนในผลบุญ กล่าวคือ
    จงร่วมเสวยผลบุญที่ข้าพเจ้าทำไว้ด้วยกันทุกท่านเถิด ขอสัตว์ทั้งหลายที่ได้ทราบดี
    ถึงผลบุญที่ข้าพเจ้าทำไว้ จงมีส่วนในผลบุญนั้นที่ข้าพเจ้าแผ่ไปให้ด้วยเถิด
    อนึ่ง สัตว์ทั้งหลายนั้นบรรดาที่ไม่ทราบ ขอให้เทวดาทั้งหลายโปรดไปบอกให้ทราบด้วย
    สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเหล่าใดที่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกโดยอาศัยอาหาร
    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นจงได้โภชนาหารอันพึงใจ ตามเจตนาปณิธานของข้าพเจ้า ด้วยเทอญ.<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2010
  17. nuttyty

    nuttyty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +579
    อนุโมทนาครับ อนุโมทนาครับ อนุโมทนาครับ สาธุ สาธุ สาธุ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...