ปิดรับบริจาค บอกบุญ !! ร่วมสร้าง เทวดา และพญาครุฑ ประดับองค์พระเจดีย์ ดอยแก้วชัยมงคล ประจำเดือน มีนาคม 2559

ขออนุญาต ปิดบุญครับ
ความคืบหน้าในการก่อสร้างพระเจดีย์ดอยแก้วชัยมงคล

ตอนนี้กำลังสร้างซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าพระธาตุ 2 ทาง ครับ แต่สำหรับการก่อสร้างนั้นยังขาดปัจจัยในการก่อสร้างอยู่เป็นจำนวนมาก




ซึ่ง ณ ขณะนี้สำนักสงฆ์พระธาตุดอยแก้วชัยมงคล ได้จัดสร้างรูปปั้น เทวดา สิงห์ และ พญาครุฑ มาประดับพระธาตุ จึงประกาศข่าวสาร งานบุญร่วมสร้าง รูปปั้น เทวดา และพญาครุฑ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีมาก ที่เราร่วมสร้าง เพื่อจะประดิษฐานองค์พระธาตุ ให้สธุชนได้กราบไหว้ ถือเป็นมหากุศล อีกอย่างหนึ่งที่ร่วมทำได้ยากครับ ...


รูปปั้นเทวดา 8 องค์
รูปปั้นพญาครุฑ 8 องค์

หากได้รับร่วมบุญเกิน จำนวนที่ตั้งไว้ขอกราบอนุญาต ถวายเพื่อสร้างพระเจดีย์ ดอยแก้วชัยมงคลต่อไปครับ

******************************************

ความเชื่อเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณสมบัติของ..พญาครุฑ

ครุฑคือสัตว์หิมพานต์อย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่สัตว์สามัญธรรมดา เพราะพญาครุฑเป็นสัตว์กึ่งเทพ เรียกว่า "เทพเดรัชฉาน" ซึ่งมีอำนาจเทียบเท่าพระผู้เป็นเจ้า ครุฑเป็นพาหนะของพระนารายณ์อย่างหนึ่ง ในเมืองไทยเรานับถือว่าพระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทพ เป็นองค์นารายณ์อวตารจึงมีการใช้ธงรูปครุฑ และมีครุฑเป็นสัญลักษณ์ประจำแผ่นดิน สามารถพบเห็นรูปครุฑได้จากเอกสารต่าง ๆ ของทางราชการและนับว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารศักดิ์สิทธิ์ หากราชการผู้ที่ทำหน้าที่ผู้ใดมีความสุจริตจงรักภักดีต่อแผ่นดิน องค์พระมหากษัตริย์ และหน้าที่ของตน องค์พญาครุฑก็จะส่งพลังปกป้องให้มีความสุข ความเจริญในหน้าที่ *สัญลักษณ์ครุฑ สัญลักษณ์แห่งแผ่นดิน*


อำนาจพญาครุฑ

1.เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
2.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
3.เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
4.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
5.เป็นเมตตามหานิยม
6.นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
7.ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
8.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด




***พุทธบริษัททั้ง ๔ ที่มีเจตจำนง ร่วมสร้างองค์พระเจดีย์ เพื่อสืบทอดพระศาสนาให้ครบ ๕๐๐๐ปี
สามารถร่วมบุญหรือร่วมส่งอุปกรณ์การก่อสร้างมาได้ที่***

- 047-025-0978 ธ.กรุงเทพ. เอกกมล ปิมแก้ว ออมทรัพย์
- 207-230771-5 ธ.ไทยพาณิชย์ เอกกมล. ปิมแก้ว ออมทรัพย์
รบกวนแจ้งผ่าน SMS ทุกครั้งที่โอน 0998954663 (โยมอุปัฏฐาก)
-006-3-32012-9 ธ.กสิกรไทย
ชื่อ โพธิเศรษฐ์ คำปา ส่ง SMS แจ้งโอน. 0998965351 (โยมอุปัฏฐาก)
หรือ
สามารถโอนเข้าบัญชี 054-630-43126-7 ธ.ออมสิน สาขาวังเหนือ
ชื่อบัญชี ศักดิ์ชัย ใจดี (พระศักดิ์ชัย ธมฺมจาโร)

******************************

ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ทุกดวงจิต ที่ช่วยกันสานต่อและสืบทอดพระพุทธศาสนา สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ


https://www.facebook.com/เจดีย์พระธาตุดอยแก้วชัยมงคล-วังเหนือ-ลำปาง-1453002364912999/

ความเป็นมาของพระธาตุ

ใน เขตพื้นที่ ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เป็นพื้นที่เมืองโบราณ ซึ่งนักโบราณคดีได้กำหนดอายุไว้ว่าประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-20 ประมาณ พ.ศ. 1800-2100 ซึ่งเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบในบริเวณนี้ ก็เป็นชนิดเดียวกับเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลง จ.เชียงราย


จึงเป็นการยืนยันถึงการตั้งถิ่นฐานที่มีผู้คนอาศัยมาก่อนในบริเวณนี้อย่างน้อยก็ 700 ปี มาแล้ว
นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์โบราณที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนยอดเขาสูง ในเขตพื้นที่ของบ้านแม่เฮียว และบ้านใหม่พัฒนาบนยอดเขาแห่งนี้




ประชาชน ทั่วไปที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับพระธาตุได้เรียกขานชือยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ นี้ว่า "ม่อนพระธาตุ" คำว่า "พระธาตุ" ในความหมายของคนเหนือนั้น หมายถึง "องค์พระเจดีย์" นั่นเอง


บนม่อนพระธาตุแห่งนี้จึงเป็นศาสนสถาน โบราณที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ผู้คนที่อาศัยบริเวณนี้ต่างก็มีความเลื่อมใสศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของ พระเจดีย์องค์นี้ เพราะเหตุว่าเวลาในช่วงพลบค่ำของทุกวัน จะบังเกิดแสงสว่างขึ้นบนท้องฟ้า ตรงส่วนของพื้นที่ม่อนพระธาตุ ทำให้ชาวบ้านได้ประจักษ์ จึงเรียกขานกันว่า "พระธาตุดวงแก้ว" และทำให้ชาวบ้านเกิดความสนใจที่จะบูรณะซ่อมแซม


การ บูรณะครั้งแรกจึงเกิดขึ้นจากหลักฐานที่พบบริเวณองค์พระธาตุ ได้มีร่องรอยปูนปั้น บันทึกไว้ว่า พ.ศ. 2475 หากนับถึงปัจจุบันก็ประมาณ 89 ปีมาแล้ว รูปแบบที่ได้รับการบูรณะล่าสุดนั้นเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา จนถึง ปัจจุบัน วันหนึ่งได้มีภิกษุรูปหนึ่ง ได้จาริกแสวงบุญเดินธุดงค์เพื่อหาสถานที่ปลีกวิเวก และปฏิบัติธรรม จึงพบเข้ากับองค์พระธาตุดวงแก้วที่ซ่อนตัวอยู่ในดงไม้บนยอดดอย


**************************************************



พระภิกษุรูปนี้ท่านชื่อว่า " พระศักดิ์ชัย ธมฺมจาโร "
ณ บ้านใหม่พัฒนา หมู่ที่ 2
ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัด ลำปาง 52000




ด้วยพลัง ศรัทธาที่เกิดขึ้นในดวงจิตของท่านต่อองค์พระธาตุ จึงส่งผลให้พระศักดิ์ชัย ปักหลักสร้างสำนักสงฆ์เล็กๆ ณ บริเวณนี้ และร่วมมือกับชาวบ้านในการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุ

บริเวณสำนักสงฆ์ ที่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ด้วยความร่วมมือของชาวบ้าน


เล่าให้ฟังเรื่องสภาพทั่วๆ ไปของสำนักสงฆ์ เพื่อจะให้เห็นว่าสำนักสงฆ์นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับวัดป่า คือมิได้มีเจตนาจะเน้นการสร้างถาวรวัตถุ
แต่การบูรณะพระเจดีย์ก็เป็น อีกเรื่องหนึ่ง คืออิฐหินที่เปื่อยป่นไปตามวันเวลา ปราศจากหน่วยงานใดๆ ที่มีหน้าที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ


ชาวบ้านที่เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของพระเจดีย์ก็ต้องร่วมมือกันเอง
โดยมีอาจารย์ด้านวิจิตรศิลป์จากสถาบันราชภัฏที่ลำปางเป็นนายช่าง

ชาวบ้านมีรายได้เล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าแรง
กับได้ร่วมทำบุญในชีวิตนึงของเขาได้ร่วมบูรณะพระธาตุ เป็นความภูมิใจของคนพุทธชนบท เพราะพระธาตุนี้ปู่ย่าตายายท่านได้สร้างไว้

ความสามัคคีที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยเหตุ เมื่อมีเหตุให้เกิดมาประชุมพร้อมกัน ก็เห็นว่าเป็นโครงการที่น่าสนับสนุน


พระอาจารย์ท่านให้พรไว้ที่เอกสารบอกบุญอย่างนี้นะคะ
การ บูรณะก่อสร้างองค์พระเจดีย์ นับตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการร่วมแรงศรัทธา ของเหล่าพุทธศาสนิกชน ที่จะร่วมกันอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
ขอ กุศลผลบุญของผู้ศรัทธาที่มีจิตร่วมอนุโมทนากับงานบุญในครั้งนี้ จงแผ่ไพศาลออกไปจนถึงสุดขอบจักรวาล เป็นแรงหนุนมิให้ตกต่ำถึงภูมิอเวจี ความสุขอันจะเกิดขึ้นในบั้นปลาย ขอส่งผลให้ได้ถึงพระนิพพาน อันเป็นยอดปรารถนาของชาวพุทธบริษัททั้งหลาย


จิตอันเป็นกุศลครั้ง นี้ ขอให้คำชูถึงบิดา มารดา บุพการี เหล่าญาติวงศา ตลอดจนพระภูมิเจ้าที่ เทวดาอารักษ์ที่ปกปักรักษาม่อนพระธาตุ รวมถึงเจ้ากรรม และนายเวร สรรพสัตว์ผู้ร่วมโลก

จงได้รับอานิสงฆ์ที่ทุกหมู่ทุกท่านมาร่วมบูรณะปฏิสังขรในครั้งนี้ด้วยเทอญ สาธุ...


*************************************************************************************

***อานิสงส์การสร้างหรือบูรณะพระธาตุ***

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมไปกราบพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งในสายหลวงปู่ชา
ปรารภถึงคำถามนี้
หลวงพ่อท่านตอบแบบนักภาวนา(ซึ่งไม่ได้อิงตำรา) ไว้ประมาณว่า
อานิสงค์แห่งบุญที่ได้จากการสร้างพระพุทธรูปและเจดีย์ นั้น
มากมายเหลือคณานับ
ชนเป็นอันมาก และบรรดาเทวดาทั้งหลาย
ย่อมได้มากราบ ไหว้ เคารพบูชา น้อมใจนึกถึงคุณแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
คนแล้วคนเล่า ท่านแล้วท่านเล่า องค์แล้วองค์เล่า
จึงยากที่จะคณานับผลแห่งบุญกุศลได้ เรียกว่าบุญที่ได้ผลต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
และผลแห่งการทำให้คนได้กราบไหว้เคารพบูชาพระพุทธเจ้านี้เอง
จะทำให้ผู้สร้างพระพุทธรูปหรือเจดีย์ เป็นผู้มีคนกราบไหว้ให้ความเคารพบูชาเป็นอันมาก
*** สร้างเจดีย์ (บูรณะเจดีย์) จะเป็นกุศลจริยาอันประเสริฐ ก่อเกิดประโยชน์สุขแก่ชีวิตคนอย่างมหาศาล เพราะเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ให้คนทั่วไปได้สักการบูชาอานิสงส์ผลบุญนี้ ย่อมประสบความสุขความเจริญบริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ และลาภยศ สรรเสริญ ทั้งภพนี้และภพหน้า***


อานิสงส์พระเจดีย์คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

อานิสงส์ในการสร้างพระเจดีย์นั้นเป็นอเนกประการ กล่าวคือ เป็นปูชนียสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ทันทีที่พระพุทธศาสนิกชนได้พบเห็นปรากฏในสายตา แม้จากที่ไกลก็เท่ากับเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เพียงแต่เห็นก็เป็นการเห็นที่เลิศ (ทัศนานุตริยะ) เช่นเดียวกับการเห็นพระสมณะ ถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุด (สมณาณัญจ ทัสนัง เอตัมมัง คะละมุตตะมัง) และเมื่อได้นมัสการก็ถือได้ว่าเป็นการบูชา หรือการบูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ซึ่งแม้จะเป็นอามิสบูชา ก็ถือว่าเป็นการบูชาที่เลิศ (ปูชานุตตะริยะ) และเป็นมงคลอันสูงสุดเพราะถือว่าเป็นการบูชาพระบรมศาสดา ผู้ประกอบด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ์คุณ และพระมหากรุณาคุณ ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุด เพราะบูชาบุคคลที่ควรบูชา (ปูชาจะปูชะนียานัง เอตัมมัง คะละมุต ตะมัง) เป็นที่ที่เทวดาและพรหมทั้งหลายจะมามนัสการเมื่อท่านเหล่านั้นเหาะผ่านมา และเป็นที่พึ่งของเทวดา และพรหมทั้งหลายจากเทวโลกและพรหมโลก จะได้นมัสการอธิษฐานขอบารมี ขอพลัง ก่อนที่จะไปเกิดในภพใหม่เพื่อสร้างบารมีต่อ เป็นที่พึ่งของมนุษย์ทั้งหลายที่จะมานมัสการและเวียนเทียนปทักษิณให้เป็นสิริมงคลแก่ชืวิต ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทวดา เป็นพรหม ที่มาไหว้พระมหาเจดีย์ หรือพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธามานมัสการ และเวียนเทียนรอบพระมหาเจดีย์เมื่อใดก็ตาม บุญย่อมเกิดแก่เจ้าของบุญที่มีส่วนร่วมในการบริจาคทรัพย์และแรงงานที่สร้างพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้
อานิสงส์ในการสร้างพระเจดีย์ครั้งนี้ จะได้อานิสงส์ในด้านวิหารทาน ซึ่งเป็นอานิสงส์สูงสุดในวัตถุทาน ซึ่งจะมีอานิสงส์มากกว่าการถวายสังฆทานถึง ๑๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองถึง ๑๐,๐๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าพระปัจจเจกพุทธเจ้า ๑,๐๐๐,๐๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทานแด่พระโสดาบันปฏิมรรคถึง ๑๐,๐๐๐,๐๐๐, ๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ล้านเท่าหรือ((๑๐)๒๓เท่า); ซึ่งลำพังการถวายทานแด่พระโสดาบันปฎิมรรค ก็มีอานิสงส์มากมายจนนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ท่านพลาดโอกาสทำบุญใหญ่นี้ จึงขอเชิญชวนท่านพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านได้ทำบุญตามกำลังศรัทธา; ด้วยพุทธานุภาพของพระบรมธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแลพระอรหันตธาตุของพระอรหันต์ และพระบรมสารีริกธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า และอัฎฐิธาตุของพระเกจิอาจารย์ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ผู้ทรงศีล ทรงคุณธรรม ที่บรรจุในพระเจดีย์นั้นย่อมยังความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในแว่นแคว้นที่พระเจดีย์นั้นตั้งอยู่ ***ที่มา http://larndham.org/index.php…
http://torthammarak.wordpress.com/[/SIZE][/FONT]

 

กราบอนุโมทนาสาธุบุญครับ

กราบแนุโมทนาสาธุบุญ ทุกท่านที่ร่วมบุญมา โดยมีแจ้งการโอนเงินมา ดังนี้

 

ซุ้มปั้นสวยมากๆๆ คับ ฝีมือสุดยอด