ในส่วนที่อื่นๆหลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย
ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่นๆได้
วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ใหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุง ที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว
****************************
โพสส์โดย วิกรมหลานพระคุณลุง
****************************
บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ลุงคนเชียงใหม่, 21 ตุลาคม 2011.
หน้า 2 ของ 132
-
-
ขอบคุณมากนะครับ ที่ได้ตัดสินใจนำมาเผยแพร่ และขออนุโมทนาในเจตนาอันประเสริฐของพระคุณลุงครับ
-
ต้องขอขอบพระคุณพระคุณลุงและคุณวิกรมเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ อ่านแล้วขนลุก ต้องตั้งสติ เตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้แล้ว ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
-
เมื่อเช้านี้คิดถึงพระคุณลุงและคำทำนายที่เคยอ่าน แล้วยังคิดถึงกระทู้ใหม่ที่รวบรวมมาโพสโดยพี่วิกรมหลานพระคุณลุง ค่ำนี้เปิดเครื่องมาเจอเลย:cool: :cool: :cool:
-
ที่เชียงใหม่ มีที่ไหนปลอดภัยบ้างค่ะ
-
ขอกราบงามๆๆนะเจ้า
ขอบพระคุณ คุณวิกรม หลานพระคุณลุงเชียงใหม่ ที่ตัดสินใจเอาข้อความมาบอกกัน
การเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ เป็นประโยชน์อย่างสูงเจ้า
ขออนุโมทนาบุญทั้งหลาย
มีคำถามนะเจ้า ..
ตัวข้าเจ้าอยู่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ประเทศนี้มันจะรอดปลอดภัยก็เจ้า.
หรือว่าต้องย้ายกลับไทย..ถึงจะรอด -
ตอนที่สามของบันทึกพระคุณลุง ครับ
*************************
3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
**************************
วันนี้วันที่ 15แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้
วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหารเพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่าสองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลย์และคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้ -
ตอนที่สามของบันทึกพระคุณลุง ครับ
*************************
3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
**************************
วันนี้วันที่ 15แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้
วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำจะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหารเพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่าสองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลย์และคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้ -
ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กาง อีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้องๆ หลานๆไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบายๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็กๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป๊ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อยๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก
ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ -
เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็กๆได้
ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญานให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้
ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกันเทพไม่เหลือ สภาพให้จำได้
ลุงกำหนดเจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่เอน็จอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจรเข้ ที่ภูเขาทอง
ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่ -
ลุงเห็นภาพซากเขื่อน ที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย
-
ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่นๆ มีการฆ่ากัน
ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด -
ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาวๆอายุประมาณ 4-50 ปี อีกองค์ อ้วนๆคล้ำๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ยๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ใหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่างลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ยๆละมีวัดบนภุเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์หรือ ลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญานทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ๆกายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญานทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้
-
หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ ได้
ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้ายๆกันถึง ความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคน ที่เกิดมาร่วมกัน
*********************************
ผู้โพสส์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลานๆก่อนออกบวช
วิกรม หลานพระคุณลุง
********************************** -
ก็อยู่ๆกันไป ใครตายก่อน ชนะ ??? -
เป็นเรื่องที่เศร้าใจมากๆหากเกิดจริง ตรงกับหลวงปู่สรวง บอกไว้เรื่องน้ำและลูกเห็บก้อนโตๆตกมาใส่ตายกันระเนระนาด
-
โมทนา...สาธุ...กับพี่วิกรมที่ตั้งใจพิมพ์มาให้เป็นวิทยาทานแก่พวกเราในที่แห่งนี้ แค่ได้เข้ามาอ่านก็นับว่าได้ว่ามีบุญที่ได้รับรู้และฝึกทั้งกายและใจของแต่ละคนให้ลดจนกระทั่งละกับทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่คุณลุงได้ส่งผ่านพี่วิกรมมานี้เป็นกุศลมาก หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้คนหันมาลด ละกิเลสลงได้และคิดถึงความตายและไม่ประมาทที่จะทำความดี ขอให้ให้ทุกๆคนสามารถฝ่าฟันวันที่จะมาถึงได้ด้วยเทอญ ขอกราบขอบพระคุณพี่วิกรมเป็นที่สุด คงจะใกล้เหตุการณ์นั้นเข้ามาทุกทีแล้ว พุทธัง ธรรมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายแห่งข้าพเจ้า
-
ขออนุโมทนา และขอบคุณมากค่ะ
(ถ้าพอจะรู้ว่า สิ่งที่บอกจะเกิดขึ้นช่วงเวลาไหนคงดีนะค่ะ) -
ขอบพระคุณสำหรับสาส์นสำหรับให้เตรียมตัวกันครับแต่เท่าที่อ่านแล้วการเตรียมการขนาดนั้นทำได้ลำบากมากเพราะต้องมีตู้คอนเทนเนอร์อย่างน้อย 2 ตู้และต้องมีรถเทรลเลอขนาดใหญ่...เท่าที่ทำได้คงเป็นเป้ขนาดใหญ่ที่สามารถแบกได้...และบอกได้คำเดียวว่าถึงตอนนั้นคนที่มีของกินต่างๆก็จะเป็นภัยมาก...สุดท้ายคงต้องอาศัยบุญและกรรมเป็นเครื่องส่องนำทาง...ความตายเป็นเรื่องเล็กน้อยเบายิ่งกว่าขนนก...แต่สิ่งที่หนักกว่านั้นคือก่อนตายไม่ได้เตรียมตัวเตรียมจิตให้พร้อม...นั้นถือว่าประมาทมาก
-
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ.... _/l\_
ขอบพระคุณมากค่ะที่นำมาให้อ่าน....
หน้า 2 ของ 132