บาปไหม มอดที่ขึ้นข้าวสาร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ab, 21 สิงหาคม 2007.

  1. ab

    ab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2004
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +185
    เกิดไม่สบายใจขึ้นมา
    อยากทราบว่ามอดที่มันขึ้นข้าวสาร แล้วเราเอามาซาวน้ำเพื่อจะเอามาหุง แล้วมันก็จมน้ำตายหรือไม่ตายไม่ทราบนะคะ แต่เราก็พยายามเทน้ำทิ้งที่ต้นไม้(เผื่อให้มันเกาะดิน) ไม่ให้เหลือตัวมอดติดมาเวลาเอามาหุงนะ
    ถ้ามันตาย
    อย่างนี้จะเป็นโทษปานาติบาตรึป่าวคะ?
     
  2. tok_j1999

    tok_j1999 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +8
    คิดว่าทุกสิ่งต้องเป็นไปตามกรรมครับผม
    มอดต้องกิน และคนเราก็ต้องกินเช่นกัน
    แต่กรรมของมอดที่มากินข้าวที่เราจะกิน
    และเป็นกรรมของเราที่ต้องกินข้าวที่ถูกมอดกิน

    สัจธรรมครับ ไม่มีอะไรที่เป็นบาปในการกระทำหรือกรรมที่ให้ชีวิตอยู่รอด

    เช่น เสือต้องกินกวางหรือสัตว์อื่นๆ ที่เป็นเหยื่อ หากไม่กินก็ต้องอดตาย
    และอาจตายด้วยพวกพ้องของตัวเองที่ต้องการอาหาร หากร่างกายผอมไม่มีเรียวแรงก็ต้องยอมเป็นอาหารของเสือตัวที่แข็งแรงกว่า

    คนเราก็เช่นกันหากต้องทานข้าวแล้วจำเป็นต้องทานข้าวที่มีมอดก็ถือเป็นกรรมครับ ไม่เป็นบาปหรอกนะ

    ส่วนบาปนั้นมาจากการกระทำที่จิตไร้ซึ่ง เมตตา กรุณา มืดมน ชั่วร้าย แค้น
     
  3. ลมรำเพย

    ลมรำเพย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +503
    คนธรรมดาก็ทำอย่างธรรมดา
    ยุงกัดก็ตบ (กัดตรูทำไม)
    มดกัดก็บี้ (กัดตรูทำไม)
    ยิงนกตกปลาล่าสัตว์มาทำอาหาร
    เพราะสัตว์เกิดมาเป็นอาหารตรูนี่(สัตว์มันบอกว่ากินฉันเถิดกินฉันที)
    ใช้เหตุผลของตัวเองในการกระทำ(หิวนี่ จนนี่ อยากนี่ เด็กมันยั่วนี่ แหมใครๆเขาก็ทำ)

    คนไม่ธรรมดาเขาทำกันอย่างไม่ธรรมดา
    ยกตัวอย่าง
    ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระเจ้าวิฑูฑภะยกกองทัพไปฆ่าชาวศากยะ
    (พระญาติของพระพุทธเจ้า)
    เจ้าศากยะและนักรบชาวศากยะจัดกองทัพตั้งท่าทำท่าจะต่อสู้อย่างดี
    แต่ไม่ได้ฆ่าใครเลยยิงธนูก็ยิงไม่ให้โดนคน ด้วยความคิดว่า

    พวกเราเป็นญาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาเอกของโลก
    พระองค์ตรัสสอนเรื่องการไม่เบียดเบียน
    พวกเราเป็นผู้ฝึกหัดอบรมแล้ว
    พวกเราจะไม่ฆ่าสัตว์ แม้จะตายอยู่
    ก็ไม่ปลงชีวิตของเหล่าสัตว์อื่น

    ผลก็คือตายเกือบหมด รอดไปบ้างเล็กน้อย
    คนไม่ธรรมดาใช้ธรรมะเป็นหลักในการกระทำ
    ชีวิตก็สละได้เพื่อธรรม

    ชีวิต ยัง สละได้
    ข้าวสาร จิ๊บๆ

    ธรรมดาหรือไม่ธรรมดา
    คุณเลือกเอง
     
  4. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    ท่านผู้เจริญในธรรม

    การที่คุณ ab ทำนั้นมีจิตไม่ได้คิดร้าย
    เพียงแต่ว่าต้องการให้มอดออกไปจากข้าว
    ในเวลาที่ใส่น้ำลงไปนั้นมอดเหล่านั้นยังไม่ตาย
    คงรีบที่จะเทน้ำที่มอดลอยอยู่นั้นออกบนดิน
    ทำให้มอดได้ลงเกาะในดิน รอดแห่งความตาย

    ไม่ได้คิดอยากช้าทำลายก็ไม่มีบาป
    เพียงแต่เราก็ทำกรรมไว้กับมอด
    บางครั้งกรรมนั้นอาจกลับมาหาเรา
    อย่างเช่น ไปล่องแพ เกิดแพแตก
    ก็ต้องลอยตุ๊บ ป่อง ตุ๊บ ป่อง อยู่เช่นนั้น
    แต่ก็ไม่ตาย นั่นคือ ผลแห่งบุพกรรมที่ช่วยมอด

    มิควรกล่าวต่อไปให้มาก สาธุ
     
  5. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เรื่องของกรรม ละเอียดมากมายกว่าที่เราคิดไว้ (สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม)

    มีเรื่องเล่า จำไม่ได้ว่าที่ไหน มีท่านหนึ่งเกิดมาต้องกำพร้าพ่อแม่ เพราะชาติหนึ่ง เกิดเป็นเด็ก เคยเล่นอุดรูหนูทำให้กั้นทางเดินระหว่างแม่หนูกับลูกหนู ไปพรากแม่ลูกเค้า (ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีจิตคิดอาฆาต เพียงสนุก)

    สติคือ ตัวประคอง กลั่นกรองให้ดี ระมัดระวังให้มาก หมายถึง ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ฆ่ามอด ก็ต้อง เก็บข้าวให้ดี ไม่ให้มอดมาขึ้น ไม่อยากตบยุง ยุงไม่มากัด ก็ต้องกางมุ้ง
     
  6. ab

    ab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2004
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +185
    ขอบคุณทุกๆท่านนะคะ
     
  7. Karz

    Karz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +96
    อย่างนี้ไม่ถือเป็นโทษปานาติบาตครับ


    ว่าโดยการล่วงปานาติบาตก่อนครับ มีองค์ประกอบห้าอย่างคือ

    ๑. สัตว์นั้นยังมีชีวิต
    ๒. เรารู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
    ๓. มีจิตคิดจะฆ่า
    ๔. กระทำความเพียรเพื่อให้สัตว์นั้นตาย
    ๕. สัตว์นั้นตายเพราะความเพียรนั้น

    ครบองค์ประกอบห้าอย่างนี้ถือว่าเป็นการล่วงปานาติบาตครับ

    จากที่โพสมา คุณ ab ไม่มีจิตคิดจะฆ่า และจิตยังประกอบไปด้วยเมตตาและกรุณาคือสงสารและยังนำน้ำไปเทในบริเวณที่มันจะสามารถรอดชีวิตได้ นอกจากนั้นยังมีความเพียรที่จะนำมอดออกและใจกรุณายังห่วงกังวลอีก แบบนี้ยิ่งมีคุณธรรมเพิ่มขึ้นอีกครับ

    แต่ความกังวลทำให้เกิดทุกข์ครับ

    รู้อย่างนี้แล้วว่าไม่ครบองค์ประกอบปานาติบาตก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะครับ อย่างที่คุณ whitenaga แนะนำ อาจต้องหาที่เก็บข้าวสารใหม่แล้วละครับ ^^'
     

แชร์หน้านี้

Loading...