บุคคลนี้ เข้าข่ายพระโพธิสัตย์หรือไม่ครับ

บุคคลท่านนี้มีอุปนิสัย และ การใช้ชีวิตเช่นนี้ครับ

อายุุสามสิบกลางๆ เกิดในตะกูลมีเงิน แต่ทำตัวติดดิน ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นชีวิตจิตใจ ไม่เอาเปรียบใคร ถือศีล5 รักพระพุทธเจ้าที่สุด ตอนเด็กเรียนไม่เก่งและเรียนไม่จบ มีความสุขกับการให้มากกว่ารับ ปัจจุบันเปิดสถานธรรมห้องสมุดธรรมะและมีการสอนเจริญสติอาทิตย์ละหลายวันโดยเชิญอาจารย์ท่านอื่นมาสอน ไม่ชอบเอาหน้าทำอะไรอยู่แต่ข้างหลัง เอาแต่ใจตัวเองเป็นบางครั้ง บางทีโมโหง่าย กำลังมีโครงการเปิดสถานธรรมแห่งใหม่ขนาด 5 ไร่ในภาคตะวันออก เน้นสอนคนให้เจริญสติไม่เน้นสร้างวัตถุ ใช้เงินส่วนตัวในการสร้างสถานธรรม แจกธรรมทานมากมาย ขี้เกียจ ใครสั่งอะไรไม่ได้ถ้าไม่ชอบ มีโลกส่วนตัวสูง ขี้เล่น ยิ้มง่าย แต่ก่อนเจ้าชู้ตอนนี้เลิกแล้ว เคยบวชในป่าที่แม่ฮ่องสอนหนึ่งพรรษา ประกอบกิจการบางอย่างช่วยเหลือชาวพุทธทำบุญด้วยธรรมทานโดยไม่หวังผลกำไร

...... รวมรวมได้เท่านี้ครับ อยากถามว่าบุคคลท่านนี้คือพระโพธิสัตย์หรือไม่ครับ

 

พระโพธิสัตว์ เป็นสภาวะที่เมตตา กรุณา โดยไม่มีประมาณ ให้ตนเองและบุคคลอื่นโดยไม่มีเงื่อนไข
พระโพธิสัตว์ที่แท้จริง ที่เที่ยงต่อการเป็นพระมหาโพธิสัตว์นั้น ท่านไม่ได้ยึดว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านทำเพราะสิ่งที่ทำจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
โดยเนื้อแท้ก้อไม่มีพระโพธิสัตว์ เพราะมีสรรพสัตว์ที่กำลังพัฒนาอยู่ จึงมีพระโพธิสัตว์ และ พระพุทธเจ้า เมื่อไม่มีสรรพสัตว์ ก้อไม่มีพระโพธิสัตว์ และ พระพุทธเจ้า
ที่ตอบไป เป็นความรู้อย่างหนึ่ง อาจจะผิด หรือ ถูก แต่จะไม่ตัดสินให้ครับ เพราะการตัดสินใจจะทำให้จิตเลือกข้างว่าใช่ หรือ ไม่ใช่ ทำให้ภพ ชาติ ยึนยาวไปอีก เพราะจิตเขาจะเก็บเป็นความจำ

 

ลักษณะน้ำจิตน้ำใจของเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายที่เป้นโดยเนื้อแท้
มีความเป็นปกติเช่นนี้ คือ

๑.ย่อมอดเพื่อให้เขาอิ่ม

๒.ย่อมทุกข๋เพื่อให้เขาสุข

๓.ย่อมลำบากเพื่อให้เขาสบาย

๔.ย่อมตายเพื่อให้เขาอยู่

๕.ความทุกข์ทั้งหลายของปวงชนคือความทุกข์ของเรา

๖.ความสุขทั้งหลายของปวงสัตว์คือความสุขแห่งเรา

๗.สมบัติ,เงินทอง,ข้าวของเครื่องใช้,เลือด,เนื้อ,และชีวิต,
ไม่ใช้ของเรา,เป็นสมบัติของโลก

๘.อะไรที่เป็นประโยชน์สุขต่อส่วนร่วมแม้ต้องแรกด้วยชีวิตก็
ยอมเพื่อส่วนร่วม(ตามกาลที่เหมาะสม)

๙.พระโพธิสัตว์ย่อมเข้าไปหาหมู่บัฑิตทั้งปวงเพื่อศึกษาเรียนรู้โดยไม่เลือกวรรณะหรืชนชั้น

๑๐.พระโพธิสัตวทั้งหลายย่อมมีความเครารพในธรรมและมี จิตตั้งมั่นในพระรัตนะไตร

คุณธรรมของพระโพธิสัตว์มีมากกว่านี้อีกมากมายแต่กล่าวโดยย่อเพื่อความเข้าใจโดยลักษณะดังนี้

 

ผมว่าไม่น่าจะให้กำตอบได้อย่างชัดเจนครับ อันนี้ที่จริงก็สามารถถามเจ้าตัวเองก็ได้ครับ ปรกติปฏิปทาของพระโพธิสัตว์ท่านทำเพื่อให้กับผู้อื่นเป็นอันดับแรก ทำเพื่อประการเดียวคือ ความสุขของผู้อื่นแม้กระทั่งเสียชีวิตก็ยังยอม นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่เพิ่มพูนความรู้ด้วยวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ด้านการออกจากสังสารวัฏฏ์ครับ
ไม่สามารถบอกได้จริงครับ ต้องดูที่ปฏิปทาของท่าน

 

สาธุ อนุโมทนาด้วยนะครับ
อันนี้ ต้องถามตัวเจ้าของการกระทำที่กล่าวมาแล้วล่ะครับ
ว่าเขาปรารถนา รึป่าว ?????????

 

อีกไกลครับ พระโพธิสัตว์นอกจากมีมหากรุณาต่อมวลสัตว์ วิริยะก็ต้องมีมากจะมาขี้เกียจไม่ได้ เลือกที่รักมักที่ชังก็มิใช่วิสัยพระโพธิสัตว์
บุคคลนี้ยังจัดเป็นปุถุชน ข้อดียังไม่ได้มากกว่าข้อเสียหากมุ่งหวังตั้งปราถนาจะบำเพ็ญโพธิสัตว์บารมีก็ถือเป็นเรื่องดี หากจะยกตัวเปรียบพระโพธิสัตว์ก็ต้องบอกว่าหลง พยายามระงับโมหะจริตให้มากๆ จะได้ไม่เกิดผลเสียจะเป็นบาปซะมากกว่าบุญ
สาธุ

 

พระโพธิสัตย์สูงส่งกว่านั้นมาก
ถ้าทําแค่นี้เป็นพระโพธิสัตย์ได้โลกของเราคงมีพระโพธิสัตย์สัก1ล้านหรือ10ล้านคน

 

ผมจะบอกให้ ในโลกนี้มีเหล่าพุทธภูมิมากกว่านั้นด้วยซ้ำไป อย่าว่าแต่ ๑๐ ล้านเลย

 

มันอาจเกิดจากความรู้สึกผิดหรือสัญญากรรมเก่าก็ได้ครับนาทีที่ 5


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wDv37mCOjVA"]YouTube - สนทนาธรรมกับชาวต่างชาติ[/ame]

 

สาธุสำหรับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ตัวเรารู้ว่าทำ ตัวเรารู้ว่าผิด ตัวเรารู้ว่าถูก ตัวเรารู้ว่าใช่ ตัวเรารู้ว่าชอบ ไม่มีใครรู้นอกจากตัว

 

พุทธภูมิกับพระโพธิสัตย์นี่อันเดียวกันหรอ

 

ขอเรียนตามตรง

การที่จะตัดสินว่า เป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ ขึ้นกับการที่ได้ พบปะ สังสรรค์ เสวนาธรรม และการปฏิบัติต่อกันว่า ระดับความดีงามนั้น มีมากมายเพียงใด

จึงเป็นเรื่อง ปัจเจกบุคคล

หากคุณคิดว่า เขาคือ พระโพธิสัตว์ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา แล้ว สบายใจ ความคิดเช่นนี้ คือ กุศล และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

แต่คุณกลับเขียนมาถามในนี้ ในที่ซึ่ง พวกเราเพื่อนๆ ในเว็บ ไม่รู้จักพบปะส่วนตัวกับ เขาคนนั้นเลย

ฉะนั้น คุณจะได้คำตอบที่ถูกต้องได้เช่นไร ในเมื่อ ไม่มีคำว่า ถูกหรือผิด เพราะเป็น ความรู้สึกส่วนบุคคล อีกทั้ง พวกเราเพื่อนๆ ไม่เคยพบปะเขาด้วย นั่นเอง

 

ประสพเพียงแต่คิด จะโปรดสรรพสัตว์
ประสพก็เป็นได้ แล้ว เมื่อลงมือช่วยสรรสัตว์
อามิตตาพุทธ

 

ชาตินี้อาจจะยังไม่ใช่ ชาติหน้าไม่รู้ อาจเป็นช่วงสั่งสมความเพียร บารมี เราเพียงคนต่ำต้อยไม่อาจจะรับรู้ถึงท่านที่อยู่สูงกว่า ไม่อาจไปตัดสินท่านได้ บาปกรรมเปล่า ๆ แค่ท่านทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์โลก ฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา ผมขออนุโมทนาครับ สาธุ

 

พระโพธิสัตว์ คือท่านที่ปรารถนาในความรู้ยิ่ง คือพระโพธิญาณ
การปรารถนาพระโพธิญาณ
จึงเป็นการปรารถนาเพื่อละกิเลส......ไม่ใช่เพื่อสนองกิเลส​

 

เมื่อใด ที่บุคคล หรือ สัตว์ (ทุกภพ ภูมิ) ตั้งความปราถนาว่า จะสร้างบารมีเพื่อข้ามพ้น วัฏสงสาร สู่พระนิพพาน และจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ ตามเข้าสู่พระนิพพาน ด้วย
เมื่อนั้น บุคคล หรือ สัตว์ (ทุกภพ ภูมิ) ท่านนั้น ย่อมได้ชื่อว่า พระโพธิสัตว์
แต่ความปราถนา ของพระโพธิสัตว์ท่านนั้นอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็ได้ ขึ้นกับว่าจะสามารถสั่งสมบารมีทั้ง 30 ทัศจนเต็มบริบูรณ์ได้หรือไม่ รวมทั้งไม่ได้ลาออก ระหว่างกลางทาง
อนุโมทนา สาธุ

 

แล้วความสามารถใเรื่องของญาณทัศนะล่ะครับ พอมีบ้างป่าวครับ

 

ตอบได้เลยครับ ว่าไม่ใช่ เป็นได้แค่คนที่มีความอยากที่อยากให้ใครๆยกให้เป็นพระโพธิสัตย์ แถมยังอ่อนด้อยเรื่องธรรมะอีกเยอะ อาจจะนำคนอื่นไปผิดทางไม่ไปถึงแห่งทางพ้นทุกข์ที่แท้จริงได้

 

ใครเหรอ?..............

 

เห็นด้วยครับ