ก่อนเทศน์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เป็นธรรมเนียมประเพณีในเรื่องของการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบัน ก็คือจะได้เห็นความรักใคร่สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คราวนี้ประเทศไทยของเรา จะว่าไปแล้วก็ว่างศึกว่างสงครามมานานมาก ทำให้คนส่วนหนึ่งไม่เห็นถึงความสำคัญของความสามัคคีของคนในชาติ แล้วก็ยังมีเจ้าพวกสิ้นสติ ไปหลงเชื่อพวกที่เป็นข้าทาสของชาวต่างชาติ ที่มายุยงให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันขึ้นมาอีก..!
ถ้าหากว่าดูรอบบ้านของเรา สงครามเวียดนามเพิ่งจะสิ้นสุดลงประมาณปี ๒๕๑๖ ประเทศลาวก็โดนคอมมิวนิสต์กลืนไปเรียบร้อยประมาณปี ๒๕๑๘ มาถึงปี ๒๕๒๐ เขมรแดงยึดประเทศกัมพูชา เราจะเห็นว่าประเทศของเขาที่รักใคร่แน่นแฟ้นกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเพิ่งจะผจญศึกสงครามกันมา คนรุ่นเก่า ๆ ที่ออกรบเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน บาดเจ็บล้มตายไปก็มาก ที่ยังเหลืออยู่ก็ยังทัน ๆ กันอยู่ เป็น ปู่ ย่า ตา ทวด ของคนรุ่นปัจจุบันนี้เอง แม้แต่ข้างบ้านเราอีกฝั่งหนึ่งอย่างของพม่า ก็รบกันไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะที่รบกันระหว่างรัฐบาลพม่ากับชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมอญ เป็นกะเหรี่ยง เป็นไทใหญ่ เป็นกะฉิ่น
ดังนั้น..ในเรื่องของความสามัคคีของชนในชาติจึงจำเป็นมาก ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะโดนชาติอื่นที่เข้มแข็งกว่ากลืนประเทศชาติไป เรามีสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเห็นว่าคำว่า ศาสนา นั้นอยู่ตรงกลาง เพราะว่าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ของเราเคารพนับถือกัน องค์พระมหากษัตริย์จึงให้การสนับสนุนเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภ์ เมื่อพระองค์ท่านมาสนับสนุนพระพุทธศาสนา จึงทำให้ทุกคนเห็นว่าพระองค์ท่านก็เป็นพวกเดียวกันอย่างแท้จริง จึงถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จนเกิดความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา กลายเป็นชาติขึ้นมา
ดังนั้น..คำว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะเห็นว่าศาสนานั้นเป็นข้อกลางที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีศาสนาเป็นตัวเชื่อมในระหว่างกลาง สถาบันชาติและพระมหากษัตริย์ก็ไม่อาจที่จะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 20 สิงหาคม 2024.
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
รอสักครู่ให้เขาย่ำกลองระฆังพร้อมกับทั้งประเทศแล้ว อาตมาถึงจะเริ่มเทศน์ ยังดีกว่าสมัยที่อยู่วัดเทพศิรินทราวาส นั่นเขาเล่นตีกันตอนเที่ยงคืน สวดมนต์ก็สวดตอนเที่ยงคืน อาตมภาพปฏิเสธมาสุดชีวิตเพราะว่าทางจังหวัดจะให้วัดท่าขนุนเป็นวัดหลวง จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ใหญ่โตมโหฬารมาก มีวัดอยู่ทั้งหมด ๕๗๘ วัด กับอีก ๙๐ กว่าสำนักสงฆ์ แต่มีวัดหลวงอยู่แค่ ๓ วัด ก็คือ วัดเหนือ วัดใต้ และวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร
เนื่องเพราะว่าการยกขึ้นเป็นวัดหลวงนั้นจะต้องมีข้อจำกัดหลายประการด้วยกัน
อันดับแรกเลย ต้องมีพระจำพรรษาอย่างน้อย ๒๕ รูปติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๕ ปี
อันดับที่สอง เป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมของ บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการ
อันดับที่สาม ตั้งมาอย่างน้อย ๕๐ ปีขึ้นไป
อันดับที่สี่ ถ้ามีความเกี่ยวเนื่องบางประการกับทางสถาบันพระมหากษัตริย์จะเป็นเรื่องที่ดีมาก
อย่าลืมว่าวัดของเราได้รับพระราชทานพระพุทธรูปและธรรมาสน์ฝีมือช่างหลวงจากในหลวงรัชกาลที่ ๗
ในเมืองเขาเห็นว่าวัดท่าขนุนควรอย่างยิ่งที่จะเป็นวัดหลวงวัดที่ ๔ แต่อาตมาหนีมาเป็นสิบปีแล้ว เพราะกลัวว่าต้องสวดมนต์ตอนเที่ยงคืน..! หลวงพ่อ ดร.ท่านเจ้าคุณปัญญา (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) ตั้งแต่เป็นพระศรีวิสุทธิโสภณ เป็นพระราชวิสุทธิเมธี ตอนนี้เป็นพระเทพปริยัติโสภณ สนับสนุนเท่าไรสนับสนุนไม่ขึ้น เพราะว่าหลวงพ่อเล็กไม่เอา..!
วัดอื่นเขาอยากเป็นกันมาก เพราะว่าเจ้าอาวาสพระอารามหลวงต้องเป็นเจ้าคุณ ยิ่งหนักเข้าไปอีก..! แค่เป็นพระครู ตูก็แย่แล้ว..! ถ้าเป็นเจ้าคุณ คนคงมาขอความช่วยเหลือยันต่างประเทศโน่นเลย แต่ตอนนี้ต่างประเทศก็เริ่มมาแล้ว เดี๋ยวน่าจะเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ต้องไปช่วยเขาหล่อพระที่ประเทศลาว เขาใจถึงมาก ทำเลียนแบบวัดท่าขนุนทุกอย่างเลย มีหลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงิน โอ้..เศรษฐีลาวนี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพียงแต่เขาขอต้นตำรับอย่างวัดท่าขนุนไปเป็นประธานช่วยหล่อให้เขาหน่อย..! -
ขออาตมาไปนั่งรอบนธรรมาสน์ก่อน พอเขาตีระฆังเสร็จแล้วจะเทศน์ให้ฟัง หลวงพ่อพระพรหมบัณฑิต, ศ.,ดร. ท่านทำกัณฑ์เทศน์มาให้ แต่อาตมาก็ "นอกคอก" ไปเรื่อย คราวที่แล้วเทศน์เรื่องปธานสุจริตคาถาให้กับทาง ป.ป.ช. รศ.ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ท่านบอกว่า "หลวงพ่อออกนอกกัณฑ์เทศน์ก็ได้ แต่อย่าไปไกลมากนัก" เอาตามนี้เป็นหลักว่าอย่างนั้น ก็คือถ้าบางอย่างยาวเกิน อาตมาก็มักจะตัดเหลือสั้น ๆ
ตอนนี้เงินบาทไทย ๑ บาท แลกเงินกีบลาวผ่าน Super Rich ได้ ๑,๑๑๐ กีบ คิดดูว่าหลวงพ่อสามองค์ข้างหลังนี้ มูลค่า ๓๐๐ - ๔๐๐ ร้อยล้านบาท ถ้าคูณด้วยพันกว่าเข้าไป จะเป็นเงินลาวเท่าไร ? แต่ยอมรับว่าเศรษฐีลาวเขารวยจริง เจ้าภาพเขาเดินทางมาวัดท่าขนุนหลายครั้งแล้ว ถวายอาตมาไว้ครั้งละล้าน..! ล้านบาทไทยนะ ไม่ใช่ล้านกีบ..!
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก ด้วยความที่อาตมาดูแลคนแก่บ่อย เห็นคนแก่นั่งรถเข็นก็เลยไปช่วยเข็นให้ เขาให้ค่าเข็นมา ๙๙๙,๙๙๙ บาท..! โห..รู้อย่างนี้อยู่หลาย ๆ วันหน่อยนะ จะเข็นให้ทุกวันเลย..! อาตมาเองดูแลคนแก่มาบ่อย ดูแลพ่อ ดูแลแม่ ดูแลหลวงปู่มา ถึงเวลาเห็นคนแก่อยู่บนรถเข็นก็สงสาร จะไปทางไหนบอก..ช่วยเข็นให้ ใครจะไปรู้ว่าเขาให้ค่าเข็นมาเยอะขนาดนั้น เขาขอหมายเลขบัญชี นึกว่าขอไปทำอะไร ขอไปโอนเงินค่าเข็นรถให้..! -
(เริ่มตีกลองระฆัง) เรื่องของกลองระฆังจัดเป็นอนุสติ พอได้ยินแล้วรู้ว่าดังมาจากวัด เรานึกถึงวัดจะนึกถึงอะไรบ้าง..? ถ้ามีพระศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นพุทธานุสติ มีหลวงปู่หลวงพ่อที่เราเคารพนับถือก็เป็นสังฆานุสติ เรื่องของพุทธานุสติและสังฆานุสติ เป็นกรรมฐานที่ใหญ่มาก ไม่ได้ปฏิบัติง่าย ๆ นะ นั่งภาวนากันข้ามวันข้ามคืนไม่รู้ว่ากำลังใจจะเกาะบ้างหรือเปล่า..?! แต่นี่เราได้ยินแค่เสียงกลองระฆัง ก็ได้กรรมฐานใหญ่ไปสองอย่างแล้ว
แล้วถ้าไปนึกว่าหลวงปู่สายสอนเราไว้อย่างไร ? ก็ได้ธัมมานุสติ ก็คือพระธรรมคำสอนมาด้วย จำกัณฑ์เทศน์ของหลวงปู่สาย (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) ได้ไหม ? ที่ท่านเทศน์เรื่องของปาก เป็นกัณฑ์เทศน์กัณฑ์เดียวที่มีคนบันทึกเทปไว้ เรื่องของปากท่านบอกเอาไว้ว่า "จะชั่ว จะดี อยู่ที่ปาก มธุภาณี..เป็นคนปากหวาน ปุปผภาณี..เป็นคนปากหอม คูถภาณี..เป็นคนปากเหม็น ก็คือพูดอะไรไม่เข้าหูชาวบ้าน" ใครมีอัดเอาไว้ น่าจะเอามาแปลงไฟล์ เผื่อได้ใช้งานบ้าง
(สามารถฟังหรือดาวน์โหลดไฟล์เสียงพระธรรมเทศนาเรื่องปาก ได้จากเว็บวัดท่าขนุน www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6824)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๕๖๗ ณ วัดท่าขนุน
ก่อนเทศน์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)