ปรุง???
ปกิณณกะธรรม
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย กระร่อน, 22 กรกฎาคม 2020.
หน้า 197 ของ 368
-
-
-
หลวงปู่หล้า ท่านจะเน้น เทศน์ เชิงบรรยาย
อุปมาท่าน เฉียบคม ปัญญามาก
หลวงปู่มหาบัว ก็เหมือนกัน แต่ก็มีทั้ง วิธีทำ และผลงาน
หลวงปู่พุธ จะมีวิธีทำ ทางเข้า
หลายแขนง ส่วนมากท่านเทศน์วิธีทำ
คนที่ไม่เคยเห็นแบบคุณ มาแนะนำคุณจะชักใบ ให้เรือเสีย
พระที่ดี มีอีกเยอะ ควรจะน้อมไปฟัง -
-
พึงทราบว่า ขณะที่ การรู้กลางอกปรากฏ
ขณะนั้น เปน การภาวนาที่เรียกว่า
สมถะและวิปัสสนา เคียงคู่กันไป
เลย การทำฌาณ มาหลายชาติแล้ว
เลย การตามเหนการสลัดคืนแล้ว
เมื่อวิปัสสนาควบสมถะมาเรื่อยๆ
สักพัก จิตจะหมดกำลัง มันจะ
รวมเข้าเปน ฌาณ เกิดฟ้าแล๊บ
แล้วก้ ถอยออกมา ภาวนาต่อ
แต่ จิตจะตั้งมั่นขึ้น นิวรณ์ยัง
ไม่ทำงาน อุปกิเลส อุปาธิไม่มี
นักภาวนา ที่ไม่รู้ ก้จะคิดไปว่า
ต้องทำอะไรสักอย่าง ก้จะตก
จากการภาวนา
จริงๆ ให้นิ่ง แล้วดูนิ่งอย่างนั้น
การไหว แส่สายใดๆ ไม่มี จะเหมือน
ไม่ได้ภาวนาอะไรเลย
จริง ตรงนี้ จะเปนเรื่อง จิตกระทบ
อนิจสัญญา
อนัตสัญญา ตัวใดตัวหนึ่ง
ให้ระลึกเหน สัญญาชนิดดังกล่าวเกิดดับ
แล้วจะเหนว่า ไม่ใข่กลางอก
มันเหมือนจะลงไปอีก
ไม่มียิบๆ ยับๆ แล้ว แต่จะเหน
เปนความนิ่ง ความว่างจากอุปาธิ
อยู่กลางๆ
ก็ พินาให้จดจำสภาวะได้ก่อน
แล้วค่อยตรึก สิ่งที่จะเปนทุกขสัญญา
ตรงสองบรทัดสุดท้าย ตรงนี้ควร
ถามกับขาจร เพราะ พุกกะพุงจะไม่รู้
ที่พูดนี้ สังเกตจากพระป่า ท่านเทศนา
ทวงถาม ต้นขั้วเช็ค -
-
-
-
ที่นี้ พึงทราบด้วยว่า
พอจดจำ เลยกลางอกตกป๋อม
ลงไปอีก ชำนาญแล้ว
จิตจะสว่าง
คำว่า สส่างนี้ ไม่ได้เปนเรื่อง
ฟ้าแลบ แสงขาว
มันจะเปน อาการหลับไม่ลง
มันจะขยันภาวนามากขึ้น ไม่มี
เรื่องยิบๆ แยบๆ ที่มีอาการ
เหน็ดเหนื่อย ต้องพักการ
ภาวนาฟ้าแลป จริงๆ มันจะ
เกิดน้อย อาการ จมโลก
เอาโลกมากลบทางธรรม
จะ ยังมี อำนาจมากกว่า
จนกว่า จะเลื่อมใส เลยกลาง
อกลงไปอีก
ซึ่งต้องไป พินา เอาเอง เพราะ
ตรงนี้ หากภาวนาได้ต่อเนื่อง
ทั้งวัน พอถึงจุดๆ นึง จิตจะอิ่ม
ตัว ควรน้อมไปในญานทัสนะ
ตามธรรมผิสมัย ตามปราถนา
เหาะ ได้ เหาะ
แต่บอกก่อนนะว่า ร้อยละร้อย
เปน ความฝุ้งธรรม
เหมือน พระอนุรุธะ เที่ยวส่อง
โลกธาตุ ส่องเลยจักรวาลตน
ไปตั้งพัน ก้ รำคาญใจทำไม
ไม่บรรลุ
ความพยายามอยู่ที่ไหน
ความล้มเหลวอยู่ที่นั่น
เอนตัวลงนอน .....
ก้นะ อย่าลืม ถามขาจร
เพราะ พุกกะพุง ไม่รู้เรื่อง สรุปจบ
ตัดขั้วเช็ค สั่งจ่าย ทำได้อย่าง
มาก อภิญญา5 ง๊อกๆ แง๊กๆ
ใช้เมื่อไหร่ ก้ ผิดทุกที
( พระที่ตั้งชื่อให้ ท่านสั่งกำกับ
ไว้ตั้งแต่ก่อนเกิด )
ปล ลิง : สำหรับคนที่ แยกแยะ
จิตส่งออกไม่ได้
ก้ขออิงคำพระ ลพ ป ให้พินา
จิตผู้รู้ กับ ธาตุรู้ คนละอย่างกัน
ตราบใดยังมี จิตผู้รู้ นั่น ส่งออก
ไปปีมะโว้แล้ว อะไรที่เกิดจาก
จิตผู้รู้ เชื่อไม่ได้ทั้งหมด แม้นนิดเดียว
ก้เสมือนน้ำลาย ต้องรีบถุยทิ้ง
แต่เมือไหร่ จิตทวนกระแส
ไปที่ ธาตุรู้ จะอีกเรื่องหนึ่ง
อันเปนเรื่อง ที่ ควรถาม ขาจร
( ไม่ได้บอกว่า เขาบรรลุ ไม่บรรลุ
นะ เพียงแต่ โอนลอยไป เพราะ
อะไรพวกนี้ พุกกะพุงไม่มี
หน้าที่ ชี้ภาวนาแทนกันมะล่าย )
ปล 2 : สภาวะจิตทวนเข้าธาตุรู้
ลพ ป จะกล่าว่า เปนเรื่องของจิต
เปนอนัตตา
แต่พระป่ากล่าวว่า สามารบริหาร
จัดการได้ เช่น บอกว่า เอาว่าง
ชนว่าง บึ้ม!!
โดยส่วนตัว เหนว่า เปนอนัตตา
ด้วยอำนาจปัจจัย การที่ไปพูด
ว่า ว่างชนว่าง ก้เปนสังขารมัน
แสดงตัวไป ไม่เกี่ยวกับธรรม
เช่น ลป ม เหน โอยยยยยยย...
ปล 3 : พวกลอกวินาทีบรรลุ
พึงทราบว่า มี การเว้นบางเรื่อง
ลอกไปยังไง ก้ หลอกกันไม่ได้
หลอกฮับ -
-
ปล กัลปวสาล :
ที่ เอะอะ โอนลอย ขาจร เพราะเปน ผู้ฉลาดในการหยุด
อรหันต์หากไม่ฉลาดในการหยุด
ต่อให้สิ่งนั้นจริง แต่เปนสิ่งอืงขันธ์5
ทำการปรากฏ
ปรกติ พุกกะพุง จะถุยทิ้ง เพราะยังไงก้พร่อง
แทงตลอดด้วยสมาธิ ยังไงก้พร่อง
มันจะเปนประโยชนก้เท่าที่แทงตลอดได้
งง ให้รู้ว่า งง มีประโยชน์กว่า
ส่วนพวกหยุดไม่เปน สันติ เหอะ มะ อึง
เฮียยยยยยยย!!! -
ทุกข์เพราะอยากรู้
ซักพักกะทุกข์เพราะรู้แต่มันทำไม่ได้ -
แต่ชอบแบบนี้นะคะ อ่านง่ายเข้าใจง่ายดี -
-
"ดูปัจจุบันไปเลย..."
หรือแบบ โซดาลอกพระมาพูด
"จะสงสัยทำไม อะไรจริง ก้ต้องเกิดมรรคผลสิ
หาก ไม่เกิด จะไปสาระวนกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วทำไม"
หรือ
"เลิกเสียที ธรรมจ๊ะจ๋า เทียบๆ เคียงๆ เว้นขาด
เสพคบพวกจิตไม่ตั้งมั่น อย่าโมทนาอะไรสุ่มสี่
สุ่มห้า" -
ตื่นมา งม ห หรือ การ้อง
ฮี้ ฮี้ ฮี้
อั๊ป แอ๊ !!! -
แกรู้อาการสมุทเฉทหรอ ถึงว่าเขาลอกมา คนที่ทำให้เกิดได้ สภาวะก็ตามหนังสือ ...ในหนังสือเขียนลัดสั้นไปด้วยซ้ำ ลองให้เจ้าตัวเขาเล่าดิ ลากยาวออกมาได้เป็นหน้าๆ เพราะมันซึ้งใจเขามาก
สมุทเฉทเวลาเกิดขึ้น มันวาบเข้ามาที่จิตจริงๆ เลย ทะลุจิตอวิชชาเข้ามา ให้จิตเห็นอัตตาเป็นอนัตตา แล้วอารมณ์พลิกฉับพลันแบบน้ำร้อนน้ำเย็น นอกนั้นธรรมอุทานเกิด คือเสพผล เหมือนคนอาบน้ำเย็น ราดน้ำลงไปแล้ว อุทานออกมาว่าเย็น เป็นเอฟเฟ็กอัตโนมัติที่เกิดตามมาเอง
การที่เขาเว้นบางเรื่อง พูดไม่ได้แบบที่ใจแกคาดหวัง ให้นึกถึงสมาธิ บางคนสมาธิอ่อน จำบางอย่างไม่ได้ แต่ถ้าสมาธิและสติกล้า จะจำได้หมด -
สุดท้ายก็หนีไม่พ้นกลางอกตนเอง..
เฮ้อ!!! นักภาวนา เมื่อไหร่จะปล่อยเป็นซักที
เทียวมาเกิดอย่างนี้ ไม่เบื่อกันหรือไง.. -
พระศาสดาตรัสอุปมาว่า.. "ลูกไก่กระเทาะออกจากเปลือกไข่"
นั่นแหละ อันเดียวกัน ต่าง แค่ สำนวนโวหาร..
ส่วนโสดา จานลาย ถ้าเค้าเข้าถึงจริง ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเค้า แต่ร้อยละร้อย ก่อนมรรคผลเกิด จิตจะรวมพรึ๊บ หูดับ ตาดับ อายตนะนอกไม่รับรู้อะไร..
นี่อะไร โสดา จานลาย ไม่รู้จักอายตนะดับ..
หน้า 197 ของ 368