เว็บพลังจิต ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร 54

<table id="post4503123" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503123" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> ใครที่คิดว่าจะเดินไม่ไหว ก็มีตัวช่วยเป็นไม้ค้ำยัน
ใจจริงก็อยากได้กะเขามั่ง แต่ว่ามันหมดซะก่อนเลยอดไป
ณ ก็ได้ไปช่วยลากรถบุษบกบ้างเล็กน้อย
แล้วก็จากท้ายขบวนเดินแซงขึ้นหน้าขบวน
จากนั้นก็เดินนำหน้าขบวนรถขึ้นไป
จิตจับอยู่ที่ไตรสรคม พุทธังสรณังคัจฉามิ
ธรรมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ
เดินมาได้พักใหญ่ก็ได้ยินคนคุยกันเขาบอกว่า
เพิ่งจะผ่านมาแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น...โอโห้ อีก14 กิโลฯ
ก็เดินกันต่อไป จากนั้นระยะห่างระหว่างคนเดินก็มากขึ้นเรื่อยๆ
ทางโค้งรูปตัว S ก็มีมาเป็นระยะๆ
มีที่พักให้น้ำและอาหารเป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทาง
ณ ไม่ได้เข้าแวะที่จุดไหนเลย
อาศัยน้ำขวดเล็กๆ ที่มีคนนำมาทำบุญจิบไปตลอดทาง
เส้นทางยังอีกยาวไกลจริงๆ ยังสบายๆ กำลังขายังดี
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4503128" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503128" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> ก็มีหยุดยืนพักหายใจยาวๆ สองสามฟืด แล้วก็เดินต่อ
ไม่มีการนั่งค่ะ กลัวใจตัวเอง นั่งแล้วจะลุกไม่ขึ้น
เดินไปๆ ทางโค้งตัว S มีให้เห็นเป็นระยะ
เวลาก็ผ่านมานานมองนาฬิกาก็ไม่เห็น ขี้เกียจควักไฟฉายด้วย
เลยไม่ดูมันหรอก ถึงเมื่อไหร่ค่อยดูเวลากัน
มีแต่แสงจันทร์กะแสงดาวเป็นเพื่อน
บ่อยครั้งที่ด้านหน้าก็ไม่เห็นคน ด้านหลังก็ไม่เห็นใคร
แต่ไม่กลัวนะ แบบว่าชอบบรรยากาศสงบดี ดาวสวย
ก็เดินต่อไป...ขายังไหวค่ะ
จากตอนแรกอารมณ์จิตสบายๆ ท่องไตรสรณะคมมาเรื่อยๆ
ต่อมารู้สึกว่าไตรสรณะคมชักจะยาวไป
เสียงครูบาว่า พุท เข้า โธ ออก คราวนี้ก็พุท-โธ ล่ะสั้นดี
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4503130" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503130" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> จากที่ใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวมา 3 ตัว ผ้าพันคออีก 1
ก็เอาผ้าพันคอมาคาดเอวแทน
เดินต่อมาได้ครึ่งทางเสื้อทั้ง 3 ก็ถูกเอามาพันพุงเอาไว้
มันได้เหงื่อเจ้าค่ะ แตกพลักๆ ไม่รู้จะแบกมาทำไมให้มันหนัก
เป้ที่อยู่ข้างหลังก็เกือบ 2 กิโล แง้วๆๆๆ
ทางโค้งตัว S ก็ถี่ขึ้นเรื่อยๆ
มีทั้ง S ดิ่งขึ้น เดี๋ยวก็ S ดิ่งลง
เดี๋ยว S แบบพับหักศอก นับกันไม่หวาดไม่ไหว
แต่ก็นะ ตั้งใจเอาไว้แล้ว ยังไง ก็สู้โ ว ้ ย...
รถตู้วิ่งลงมาขนคนที่หมดแรงขึ้นไปหลายเที่ยว
ปลอบใจตัวเองเป็นระยะๆ ไหวสิ ไหวน่า ต้องไหว
แม้ขามันจะล้ามากขึ้น ก็ยังกระตุ้นเตือนตัวเองเป็นระยะ ไหวอยู่เว้ย
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4503134" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503134" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> อากาศบนเขาอุณหภูมิลดต่ำลง
รู้สึกถึงผิวที่แขนเย็นเฉียบ
ลมหายใจเข้าก็เย็นเข้าไปในลำคอ
ลมหายใจออกพวยพุ่งออกมาเป็นควัน
แต่เหงื่อก็แตกสิกๆ ไหลอยู่กลางหลัง
ยิ่งใกล้ๆ จะถึงวัดพระพุทธบาทสี่รอย ทางยิ่งชั้น
โค้งตัว S ยิ่งกระชั้นถี่ยิบเชียว
ขาแทบจะก้าวไม่ออก มันหนักอึ้ง เดินเหมือนลอยๆ
ก้าวเหมือนไม่ได้ก้าว แต่ก็นะ ใจมันยังสู้อยู่
ระยะการหยุดก็ถี่มากขึ้น ก้าวยางแต่ละก้าวก็ low speed สุดๆ
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4503171" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503171" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> 03.45 น. มาถึงปากทางวัดพระพุทธบาทสี่รอยจนได้ เย้ๆๆๆๆ
โอ้...ในที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิตไอ้ ณ ทำสำเร็จจนได้ วู้ๆๆ สุดยอด
7 ชั่วโมง กับ 17 กิโลเมตร
มีหลายคนที่ขึ้นมาถึงก่อนแต่ก็ไม่มากนัก แล้วก็ยังทะยอยๆ กันขึ้นมาเป็นระยะ
บนนี้อากาสค่อนข้างหนาว ขนาดออกอาการแขนขาเริ่มสั่นพับๆๆ
เห็นประโยชน์เสื้อที่แบกขึ้นมาก็คราวนี้แหละ




</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4503197" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503197" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> พอขึ้นมาถึงก็ได้มาม่าร้อนๆ ที่ผู้ใจบุญนำมาให้มาลองท้อง
ได้ยินเสียงว่ามีเงาเมฆเป็นรูปพระอุโบสถ
พอมองไปเหนือพระอุโบสถเห็นเป็นเงาเฆมรูปพระอุโบสถจริงๆด้วย
แต่ถ่ายรูปไม่ติด เพราะยังมืดอยู่มาก แสงไม่พอ
เขาบอกกันว่าปรากฏการณ์แบบนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งหาชมได้ยาก
และเป็นสิ่งที่พิเศษมาก ให้อธิษฐานจิตกันให้ดี
ว้าว...ได้พบเจอสิ่งดีๆ โชคดีจริงๆ เลย


</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4503203" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4503203" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: inline-table; height: 280px; position: relative; visibility: visible; width: 336px;"><ins id="aswift_0_anchor" style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: block; height: 280px; position: relative; visibility: visible; width: 336px;"></ins></ins>
จากนั้นก็ขึ้นไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทสี่รอยด้านบนค่ะ
ก่อนจะมานั่งรอผู้ร่วมขบวนคนอื่นๆ
รอนานแล้วก็ยังไม่ค่อยจะมีกันขึ้นมาสักกี่คน
เริ่มง่วงแล้วด้วย จน 6 โมงกว่า เสียงกลองสะบัดชัยดังมาให้ได้ยิน
นั่นคือรถบุษบกเดินทางขึ้นมาถึงแล้ว




</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post4505532" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ณ.
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2006
ข้อความ: 3,330
พลังการให้คะแนน: 937


</td> <td class="alt1" id="td_post_4505532" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> จากนั้นก็มีการสวดมนต์ทำพิธีกันต่อเลย หลายคนอยู่ร่วมพิธีด้วย
แต่ ณ น่ะเหรอ โดดขึ้นรถตู้มาพักสายตาค่ะ พักได้หน่อย
แล้วก็ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า ทำได้แค่นี้แหละหรูสุดแล้ว
แล้วก็ออกเดินไปสำรวจบริเวณวัดพระบาทสี่รอยอีกหน่อย
หลายคนก็เข้าโรงทานกันจนอิ่มหน่ำสำราญ จนได้เวลาพอควรจึงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ
ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ 5 ทุ่มกว่า เป็นอันปิดทริปนี้กันนะคะ
บุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลที่เราได้ร่วมทำกันมา ขอให้ทุกท่านร่วมอนุโมทนาและได้รับกุศล
เช่นเดียวกับพวกเราทุกประการค่ะ














</td></tr></tbody></table>

 

ตอกย้ำกับสภาพบางส่วนของเส้นทาง ที่ฟ้องในภาพยังนับว่าน้อย เพราะของจริง บางโค้ง คือ หักศอกเกิน ๔๕ องศา และไม่ใช่มีเพียงโค้งเดียว


และสภาพของสมาชิกที่หมดสภาพ

​

 

แจ้งสรุปความคืบหน้าของทริปธรรมสัญจร (๔) /ธรรมเฉพาะกิจ (๓)

... เรียนสมาชิกทุกท่านทราบ ขออนุญาตแจ้งความคืบหน้าทริปธรรมสัญจร (๔) นมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ) -ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองจันทบูร จ.จันทบุรี วันที่ ๒๕-๒๖ มี.ค. ๕๔ รวม ๒ วัน ๑ คืน ให้ทุกท่านทราบโดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้

๑. การเดินทาง
รถบัสปรับอากาศ VIP จำนวน ๑ คัน
จุดขึ้นรถที่ ๑ ปั๊มน้ำมัน ปตท. สนามเป้า ๒๔ คน
จุดขึ้นรถที่ ๒ ป้ายรถโดยสารประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาราม ๒ จำนวน ๙ คน
รวมสมาชิกร่วมเดินทาง ๓๓ คน
(อ้างอิงรายชื่อหน้า ๑๐ คคห. ๑๙๑ คลิก)

๒. ผังที่นั่ง
เมื่อสมาชิกเดินทางถึงจุดนัดพบ ขอให้แจ้งชื่อ และแถวที่นั่งให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อรับป้ายชื่อ-เสื้อทีม ก่อนที่จะนั่งประจำที่และรับข้าวกล่อง-ขนม-น้ำดื่มบนรถ

๓. วัน, เวลา/สถานที่ขึ้นรถ
​

วันศุกร์ ที่ ๒๕ มี.ค.๕๔
เวลา ๑๙.๓๐ น. จุดนัดพบ ปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า
๒๐.๐๐ น. ล้อหมุน

๔. การแต่งกาย
- วันศุกร์ เสื้อทีม กางเกงตามอัธยาศัย
- วันเสาร์ ตามอัธยาศัย
- รองเท้า ขอให้เป็นรองเท้าแตะแบบรัดส้น หรือกระชับเท้าเหมาะสำหรับสวมเดินขึ้นเขา

๕. อาหารและน้ำดื่ม
- บริการข้าวกล่อง-ขนม-น้ำดื่ม ๑ มื้อ
- ตามอัธยาศัย

๖. กิจกรรมบุญในทริปนี้
- ร่วมถวายผ้าป่า-วิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ วัดกระทิง
- ร่วมถวายวิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ วัดเขาสุกิม
- ร่วมถวายวิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ วัดไผ่ล้อม
- ร่วมถวายวิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงม์ วัดพลับ
- ร่วมถวายวิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ วัดทองทั่ว
- ร่วมถวายวิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ วัดมังกรบุปผาราม (เล่งฮัวยี่) "หางมังกร"

๗. ยอดเงินรวมบุญ ณ วันที่ ๒๑ มี.ค.๕๔ จำนวน ๑,๕๖๐ บาท
(อ้างอิงจากหน้า ๑๐ คคห.ที่ ๑๙๑)

๘. ทั่วไป

- การปฎิบัติ
​

ทริปนี้หัวใจหลักคือ นมัสการสักการะ "พระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)" ซึ่งต้องเดินเท้าเป็นระยะทาง ๑.๓ กิโลเมตร

- สภาพเส้นทาง
เส้นทางเป็นทางเดินป่าสบาย ๆ ไม่ชันมาก ตลอดเส้นทางจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้แวะสักการะเป็นระยะ ๆ ขอแนะนำให้สมาชิกทุกท่าน เดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อร่วมกันถวายผ้าป่าท่านพ่อเขียน สวดมนต์ทำวัตรเช้า และนมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวงก่อน ช่วงลงเขาจึงค่อยแวะกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดเส้นทาง

- สภาพอากาศ
ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
กลางวัน อากาศร้อน เตรียมแว่นกันแดด ร่ม หมวก
กลางคืน ขึ้นเขาในช่วงเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. สภาพอากาศจะหนาวเย็น และมีน้ำค้าง ขอให้ทุกท่านจัดเตรียมอุปกรณ์กันหนาว อาทิ เสื้อกันหนาว หมวกไหมพรม รวมถึงท่านที่มีโรคประจำตัว อย่าลืม นำยาของท่านไปด้วย

- เพิ่มเติม
เส้นทางจะเป็นเส้นทางเดินป่า ให้เดินในเส้นทางที่จัดไว้ให้ ห้าม เดินออกนอกเส้นทางโดยเด็ดขาด และขอให้สมาชิกทุกท่านจัดเตรียมไฟฉายส่วนตัว ส่วนอาหารและน้ำดื่ม มีขายตลอดเส้นทางและตลอดคืน


ขอให้สมาชิกทุกท่านรักษากายและใจ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แล้วพบกันวันศุกร์นี้ค่ะ



อนึ่ง! สำหรับธรรมเฉพาะกิจ (๓) ร่วมสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)-สักการะพระพุทธบาทเบื้องซ้าย-พระพุทธบาทเบื้องขวา-พระพุทธฉาย จ. สระบุรี วันที่ ๖ เม.ย. วันจักรี (One day trip) ที่มีสอบถามเข้ามามากว่า จัดรถไปหรือเปล่า ขอตอบว่าจัดไปค่ะ โดยมีกำหนดการ ดังนี้

วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)


​

กำหนดการเดินทาง รถตู้ปรับอากาศ VIP (๑๐ ที่นั่ง)

วันพุธที่ ๖ เม.ย. ๕๔ (วันจักรี)
๐๖.๐๐ น. จุดนัดพบปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า
๐๖.๑๕ น. ล้อหมุน
๐๙.๐๐ น. เดินทางถึงวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)
- กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด
- ร่วมงานสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย
- รับประทานและเลือกชื้อชมของที่ระลึก (ตามอัธยาศัย)

๑๓.๐๐ น. เดินทางไปวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
- นมัสการสักการะพระพุทธบาทเบื้องซ้าย
- สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด

๑๔.๐๐ น. เดินทางไปวัดพระพุทธฉาย
- นมัสการสักการะรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา
- สักการะรอยพระพุทธฉาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด

๑๖.๐๐ น. เดินทางกลับ
๑๘.๐๐ น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่านละ ๓๕๐ บาท

ท่่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทางกรุณาโอนเงินค่าพาหนะเดินทางตามจำนวนที่กำหนดข้างต้นเข้าบัญชี ตามข้างล่างนี้ และมาโพสต์แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และจำนวนเงินที่โอนให้ทราบด้วยค่ะ

ชื่อบัญชี : ณญาดา ศราภัยวานิช
ธนาคาร : กรุงไทย ประเภทออมทรัพย์
เลขที่บัญชี : ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔ (121-0-10545-4)
โทรศัพท์ : ๐๘๑-๗๓๕๙๒๖๑ (081-7359261)


ทริปธรรมเฉพาะกิจ (๓) ปิดรับจองที่นั่งรถและโอนเงินในวันศุกร์ที่ ๑ เม.ย. ๕๔ เวลา ๒๐.๐๐ น. หรือจนกว่าที่นั่งจะเต็ม

ท่านที่โอนเงินแล้วต่อมาประสงค์จะยกเลิกการเดินทาง ขอให้แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย ๕ วัน ก่อนวันที่เดินทาง หากไม่แจ้งภายในกำหนดดังกล่าว ผู้จัดขอสงวนสิทธิที่จะไม่คืนเงินค่าเดินทางให้หากปรากฏว่าการยกเลิกล่าช้าของท่านทำให้ตัดสิทธิของบุคคลอื่นและก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้จัด

ใน การโอนเงินคืนจะมีค่าธรรมเนียมการโอน ๒๕ บาท ซึ่งจะหักจากยอดเงินค่าเดินทางของท่าน หากมีเงินเหลือหลังจากชำระค่าบริการเช่ารถแล้ว ผู้จัดขออนุญาตนำเงินคงเหลือทั้งหมดเข้าร่วมบุญต่าง ๆ ของกองทุนบึงลับแลต่อไป

หมายเหตุ
กิจกรรมบุญนี้ ขอความร่วมมือแต่งกายด้วยผ้าไทยเข้าวัด อาทิ เสื้อหรือกางเกง หรือผ้านุ่งที่ตัดเย็บมาจากผ้าพื้นเมือง เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าซิ่น ผ้าจก ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ฯลฯ งดงามอย่างไทย ด้วยคุณค่าของความเป็นไทยค่ะ
- อ่านประวัติวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ได้ที่ คลิก

 

ยังไม่ได้ปิดจ้ะคนงาม ขอเชิญเล่าได้ตามสบาย เพียงแต่เข้ามาแจ้งผังที่นั่งให้กับกิจกรรมบุญปิดท้ายเดือนมีนาคม ขอเชิญแม่เล่าได้ตามสบาย เสื่อกับหมอนเอามาปูรอพร้อมแล้ว

กัลยาณธรรมท่านใด อยากจะอ่านบันทึกและรับชมรูปภาพในกิจกรรมบุญไหน ขอเรียนเชิญให้เข้าไปดูสารบัญปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร ได้ที่หน้า ๑ คคห.ที่ ๑ คลิก และเมื่อเข้าไปแล้ว ต้องการชมกิจกรรมบุญไหน ก็ขอเรียนเชิญเลือกได้ตามอัธยาศัย เพราะบอกตรง ๆ ว่าปีนี้ยังมีอีกหลายกิจกรรมบุญค่ะ

​

 

แผนที่การเดินทางไปวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

เอาแผนที่มาฝาก สำหรับกัลยาณธรรมทุกท่านที่บับรถไปด้วยตัวเอง

​

​

 

ขอเชิญชวนสมาชิกแต่งกายนุ่งผ้าไทยร่วมงาน

สำหรับกัลยาธรรมท่านใด ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปร่วมงานสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ในวันที่ ๖ เม.ย. ขอเรียนเชิญร่วมกันแต่งกายด้วยผ้าไทยเข้าวัด เพื่อเป็นการร่วมสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย ให้สมกับเจตนารมณ์ของงาน

ผ้าไทยที่สวมใส่ ถ้าจะให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคและประวัติความเป็นมาต้องเป็นการแต่งกายแบบมอญโบราณ เนื่องจากสถานที่ของวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์สืบเนื่องมายาวนานตั้งแต่สมัยยุคทวารวดี (ยุคนั้นมอญมีอำนาจ) โดยมีหลักฐานคือ อักษรมอญโบราณ (ปัลลวะ) จารึกอยู่ที่หน้าถ้ำนารายณ์ ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงนำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นต้นกำเนิดอักษรไทยจนถึงทุกวันนี้

ตลอดวันงาน เพียงแค่ท่านก้าวผ่านประตูวัดเข้าไป .......สถานที่ในวัด ผู้คนตลอดจนร้านค้าที่มาร่วมออกงานต่าง ๆ จะถูกจัดเสมือนย้อนยุคไปสู่อดีต....กัลยาณธรรมท่านใดที่ยังไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว-ทำบุญในวันจักรี ขอเรียนเชิญได้ที่ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) และขอเชิญชมความงดงามของวัดได้ที่คลิปด้านล่างค่ะ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=V9xh2MdoAoY"]YouTube - ขอเชิญชวนเที่ยวงานที่วัดเขาวง[/ame]
​