ปฏิบัติมาก ระวังจะเป็นบ้า ต้องรู้จักทางสายกลาง มีสติระลึกรู้ตลอดเวลา

วันนั้นรู้แค่นั้นคิดแค่นั้นตามเหตุปัจจัยขณะนั้น
ดับไปแล้วผ่านไปแล้ว
คิดวันนี้ไม่ใข่คิดอันเดียวกับวันนั้น มันคน
ละเหตุปัจจัย

 

ไหนหงบลองบอกมาสิว่าเป็นใครในกระทู้นี้ เฮ้ยไอ้หงบ เอ้า ไม้ขีดเน่าด้วยก้อได้ ไหนลองบอกสิว่าเคยมีตัวตนในกระทู้นี้ไหม

 

ลุงพิจารณาดีๆนะคับ ปัจจัยไม่ต่างกัน ผมไม่รู้จริงๆ ทำไม แต่ลุงรู้ ต้องรู้แน่ๆ

 

ที่จริงในนี้มีพระอริยะเจ้าจริงๆ ด้วยแหละ ไม่ใช่อริยะไซเบอร์ หรือ โพธิสัตว์ตุ๊ดแฟนตาซี ผมสังเกตเห็น และเป็นเรื่องโชคดีที่บังเอิญคุณพี่นิวรณ์ไม่ใช่กลุ่มนั้น โครตเป็นบุญที่ได้เจอเลย ไม่เคยคิดว่าจะมีเวลามาสนทนากับผู้คนในนี้แน่ๆ ที่กล้าพูดแต่ไม่บอกว่าใครเพราะรู้ว่าจิตที่เขาสูงส่งแล้วไม่สาระวนกับโลกธรรมอันน่าหัสเราะและไร้สาระแน่นอน ชื่นชมเขามาก กราบเขาในใจ และขอให้เขาถึงฝั่งนิพพานเช่นกัน

 

ก็ยังคงเชียร์เขารู้ไหมทำไม ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา เห็นเขายกธรรมมาอัดกัน ต่างฝ่ายต่างยกพระไตรปิฎกมา หักล้างกัน ลักษณะเหมือนศาลกำลังพิพากษาอะไรบางอย่าง แต่เสียดายไม่มีผู้พิพากษา มีแต่ทนาย แน่นอน ย่อมมีทนายฝ่ายโจทย์และจำเลย ตอนแรกแยกไม่ออก ฟังไปเรื่อยๆ และเริ่มสนใจก็หาที่มา เลยเห็นไงว่า ใครคือโจทย์ใครคือจำเลย ผมไม่บอกว่าใครคืออะไร แต่ผมก็ช่วยเขานิดนึง ผมเลยเชียร์เขาเพราะบังเอิญผดันไปเห็นอะไรเข้า ว่าเขาเป็นใคร....555 เรื่องละเมอผมมีเยอะ แต่มันไม่ใช่เวลาเอามาพูด

 

อ่านกระทู้สงครามความรัก ริษยา ไฟแค้น แล้วก็มึน อย่างน้อยก็ทำให้เราได้มองเห็นว่าใครเป็นใคร พูดธรรมสูงส่ง แต่อีกด้านในใจช่างมีแต่เรื่องน่าละอายทั้งสิ้น พลังบางอย่างลอยมาติดริมฝีปาก...พูดออกมาได้ แต่ละตัวที่เห็น ไม่น่าจะพ้นนรกได้ เพราะหงบหรือเพราะชัยหรือเพราะบูรพา คงไม่ใช่ประเด็น ขอให้ทุกๆ ท่านเริ่มใหม่อีกที ยังคงไม่สาย โดยเฉพาะไอ้หงบ ตัวก่อเรื่อง เขาเรียกว่า butterfly effect

 

เอาหงบ ไปประหาร!!!

ฮ่าๆๆ

 

ฟังธรรมปริยัติระดับพระอภิธรรม ไปแบบคู่ขนานพร้อมๆ
กับธรรมะปฏิบัติ(พิจารณา
วิปัสสนากรรมฐาน)ผลที่ออกมา
จะเป็นแบบลุงแมวฮับพี่น้อง

 

ยกมาให้ผมฟังสักบทสิครับ แล้วผลที่ได้กับที่ลุงว่า มันคืออะไร ถ้าจะคิดว่าอภิธรรมคือข้อสรุป แล้วสรุปอะไร แบบลุงแมว นี่เอาเป็นตัวอย่างได้ใช่ไหม ลุงจัดมาสักดอกสิครับ

 

ลุงแมวไม่เชื่อว่าใครจะเป็นต้นแบบ
ให้กันได้
และวิธีการศึกษาธรรมะนั้น ไม่สามารถ
ใช้แพลทฟอร์มเดียวกันได้ตลอด
ทั้ง
ขบวนการตั้งแต่จนจบ
จนข้ามไปขึ้นฝั่งบรมธรรมได้
เพียงแต่อาจจะมีอาศัยคำชี้แนะ
บางส่วนบางตอน
จากหลายๆ ครูอาจารย์
ทีเคยอุปการะกันมาแต่
หรือ
ผู้ที่ได้ศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี
มาเป็นติวเตอร์ให้
แต่การเริ่มต้นนั้นต้องเริ่มที่หาความรู้ความ
เข้าใจจากธรรมะปริยัติ
จากพระอภิธรรมโดยการฟังให้รู้จัก
ที่มาของศาสนาพุทธโดยละเอียดก่อน
ที่จะโดดลงสนามปฏิบัติ
เพราะในความจริงศาสนาพุทธนั้น
เมื่อรู้ถูกตรงตามความจริง
ในสิ่งใด(รูปนาม)ก็น้อมเข้าสู่ใจ
โดยทันทีไม่ต้องมี
การตั้งท่า

 

ผมว่าคงมีเหตุผลที่ทำไมพระองค์ไม่นำอภิธรรมมาเป็นหลักในการสั่งสอนนะ แต่คนรุ่นหลังผมมองว่าคงสับสนจริงๆ ถ้าไม่แก้ไขอะไร ในพระสุตตันตปิฎก น่าจะมองเห็นนะ ไม่มีเหตุผลจะเอาอภิธรรมมากล่าว

 

ถ้าผมกล่าวอะไรผิดขอความกรุณาแก้ไขให้ผมด้วย เพราะผมเห็นแบบนั้นครับ พี่ธรรมชาติ พี่ไม่ใช่ตัวตนและพี่นิวรณ์ ผมขอความกรุณาด้วยครับ

 

ลุงแมวถ้าคิดว่าไม่มีใครเป็นต้นแบบได้ แล้วลุงแมวจะถามทำไมคับ ถ้าผมบอกว่าต้นแบบคืออะไรลุงแมวบอกผมสักคำได้ไหมคับ ให้ชื่นใจบ้าง

 

ต้นแบบในการเดินตามมรรคมีองค์ 8 เพื่อเข้าสู่
กระแสอริยบุคคล
แต่ละท่านคงเดินแตกต่างกัน
บางคนถูกพาให้เดินโดยยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร
ไม่กล้าที่จะพูดว่า
ยังไม่ได้รู้จักแผนที่
และจำแผนที่ได้ด้วยตนเองเลยนะ

เพราะพระธรรมอันลึกซึ้งนั้นเปรียบ
เอาเพียงแค่แผนที่คงไม่ได้
เนื่องจากพระอริยสัจจ์ที่องค์พระสัมมาฯ
ทรงประกาศนั้นมาจากการตรัสรู้
การจะรู้ตามแบบเผินๆ
คงหวังมรรคผลไม่ได้ จนกว่าจะเข้าใจ
ในคำพระองค์ตรัสสอนแท้ๆ
และโดยละเอียด ประมาณว่าช่างนา
ทำฬิกาจะต้องรู้จัก
จักรทุกตัวทุกชิ้นที่ประกอบขึ้นเป็น
นาฬิกาและบอกเวลาได้
คัย

 

ไม่เป็นไรคับ ถ้าไม่อยากตอบ ยังไงเราก็เดินตามรอยอะไรบางอย่างตามแล้วแต่เราจะพิจารณาเลือก ปัจจุบันมันก็มีรอยที่เดินมาแล้วมาก มีทั้งหายไปอย่างไร้เหตุผลและหายไปอย่างมีเหตุผล ก็ขอให้ลุงเห็นรอยนั้นแล้วเจริญรอยตามนะคับ แม้ว่าลุงจะไม่กล้าเอ่ยออกมา

 

ความรู้ที่เห็นผีเห็นเทวดาเห็นความเป็นไปต่างๆ เป็นความรู้ส่วนนอก

การยิ่งรู้เห็นมากเข้า จะทำให้เรามีพฤติกรรม อาการน้อมความอ่อนแอของจิตใจ

ไม่ส่งผลดี

แต่หากความรู้อริยสัจ 4 การรู้เห็นจะเริ่มน้อยลงไป ของการรู้สิ่งต่างๆ และมีตนเป็นใหญ่ของการกระทำำ เรียกว่า สัจจะ เรียกว่า มรรคมีองศ์ 8 การกระทำที่ถูกต้อง

ความรู้ระลึกชาตินู้น ย้อนไปมาชาตินู้นมาจากไหน

แต่ความรู้ระลึกชาติอริยสัจ 4 ก็ระลึกความเข้าไปพัวพันเป็นทุกข์ ขณะปัจุบัน

ความรู้ฌานเห็นผีเทวดา เป็นความรู้ส่วนนอก ใช้ได้จริงก็เพื่อความเป็นมาประวัติศาสตร์

แต่ความรู้อริยสัจ เป็นไปเพื่อสละๆ และจางคลาย มีวิราคะธรรมเป็นเครื่องหมาย

 

บ้าไปแล้วจริงๆ ด้วย น่าสงสารจริงๆ

 

อุเภพปิติไล่ฌานค้างในหัว
แค่คุ้มคลั่งแบบมีสติตามประสาคนๆ

 

ทางสายกลางจริงๆคือไรอ่ะ พอบอกทางแห่งมรรคมันง่ายๆ กลายเป็นโดนว่าเป็นพวกมโน

 

ของเฉพาะตัวถามคนอื่นทำมัย