ประวัติชาติไทยตั้งแต่ต้นกัป พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ(พิมพ์เป็นตัวอักษร)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เก่ากะลา, 27 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ณาณจรณ เมื่อมาอยู่ดินถิ่นมคธปาตลีปุต
    อิสสรพราหมณคนพาเข้าถึงอโสกมหาราช กรุงปาตลีปุตต ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ พุทธกาลเดือนเตม ๒๓๙ ส่งสือของโลกลว้า ถึงมือ พระเจ้าอโสก ถามถึงเมืองทอง
    โสณ อิสสร ว่าสุขสงมสมบูรดี
    สั่งต้น อตุลย อาตุลยา ให้หกคืน(กลับคืน)สุวัณณภูมิ
    คัปคองเพื่อน แลโสณ ฌานีย ภูริย อุตตร มูนีย และผู้คน
    คุ้มพระพุทธสาสนาแผ่ให้ทั่วในเมืองทอง ญิง ชาย คนในเมืองทอง คนคิดมีดี มีสีล ใจชอบธัมม เมื่อชอบ จักตั้งใจสืบพุทธสาสนา

    ญาณจรณ พร้อมภิกขุ ๑๐ ผู้มา
    ตัวมหาราชอโสกสอน
    ญาณจรณ พร้อมองค์อื่น ว่า ท่านมามคธปาตลีบุตต จงตั้งใจเรียนธัมมวินัย พุทธพจ สืบสาสนา
    ปุณณให้พุทธแลอรหันต ถึงเมืองทอง
    พุทธเอื้อไทย เคยคุ้นไทย ๒๖๕ ปีมาแล้ว
    ทับไทยทอง เคยมามคธ พบพิมพิสาร
    พบพุทธในเวฬุวนาราม พุทธเคยเอื้อไทย
    โมคคัลลี เคยเล่าเมืองทอง
    พุทธว้าโสณนำเอาพุทธสาสนามาตั้งมั่นอยู่ในเมืองสุวัณณภูมิหลายพันปีถึงหมดพุทธสาสนา

    ญาณจรณ อยู่อโสการาม อโสกฝากโมคคัลลีสอบวินัยปิฎก เรียนสอบสุตตันตปิฎกอภิธัมม ปี๑จำหมดแล้ว
    สอน ๒ปี อโสกเอาอาหารมาหาทุกวัน คนชาวมคธดีอันมาก มีคนมาถามข่าว
    คนอันมีองคอโสก เมียชื่อ สีลญาณวตี เมีย อันมาถือสีงนี้ คนที่ ๒๒๕ ไม่มีลูกชาย มีลูกญิงชื่อ เทวราสินี

    ญาณจรณ ตัวญาณเมื่อยู่ในอโสการามใหญ่โต มีอุโบสถ พระพุทธรูป ทั้งล้อธัมกวางหมอบ แลตัวสีหคู่อันหมายถึงอโสกดีคู่ดุ อันมีสีหคู่กวาง และโค
    อโสการาม กว้าง ๑๕๐ เส้น ยาว ๒๐๐ เส้น ภิกขุสองพันอยู่ประจำ อยู่ทางใต้ปาตลีปุตต ภิกขุชื่อ ติสุสเถร เป็นหัวหน้าตลอดราชคห
    แทนตัวโมคคัลลีอันเข้าอยู่ในสวนหลวงของพระเจ้าอโสก

    ญาณจรณ สู่ ตัมพปัณณิ(ลังกาสีหล) อโสกส่งมาดู มหินท อิฎฏิย อุตติย สัมพล ภัททสาล พร้อม อริฎฐ
    สังคายนาครั้งที่สี่ ที่ถูปาราม อนุราธบุรี
    ด้วยตั้งคงมั่นแห่งพุทธสาสนาในลังกา
    ตัวพร้อมคณะ ถึง ตัมพปัณณิ(๑)
    ปีพุทธกาลล่วงแล้ว ๒๔๐ เทวนัมปิยติสส เชิญพักในอุโบสถ ฟัง เช้า เยน กลางคืน
    ดูคณะแต่ง อัฎฐกถาวินัยปิฎก สุตตันตปิฎก อภิธัมมปิฎกอีก(รวม)ปีหนึ่งกลับ

    ญาณจรณ มาพาราณสี พร้อมคณะ ปี ๒๔๑ เดือนยี่ ขึ้น ๑ค่ำ
    พักวิหารมูลคันธนี้ อันอโสกส้างเปนที่ระลึก พุทธได้แสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตต
    ให้ปัญจวัคคีย คือ โกณธัญญ (โกณฑัญฺญ รู้)แจ้ง
    เมื่ออโสกส้างมูลคันธวิหาร ส้างหลักหินคู่ มีสือแจ้งอ่าน มีโคยืนคู่ สีหคู่นอน กวางคู่หมอบ สือว้า ตรงนี้พุทธแสดงธัม ต่อปัญจวัคคีย ชื่อ อิสิปตนมิคทายวน
    อโสกให้ ในอภัยทั่วตัวมิคในนี้

    ญาณจรณ มา คยาสีล ม่อต้นโพธิ อัสส รุกข ที่อันพุทธนั่งรู้ความจิง[/FONT]มีถูปวิหารใหญ่ โพธิ ๑๐ หรือ ๑๒ อ้อม ต้นแท้จิง
    โสณสั่งให้ตอนมาปลูกในเมืองทองสุวัณณภูมิ
    ให้ด้วงมาดูเหนหน่อใกล้ต้น ควนด้วงไปขอต่อโมคคัลลีติสส ก่อน
    เมื่อต้นเดือน ๓ พุทธกาล ๒๔๑
    หน่อต้นอ่อนต้นเป็นขึ้น ตนควนเอามาเอง
    ----------------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)ญาโณทยปกรณว่า สงคายนาครั้งที่ ๔ ชื่อ อนิยมิตฺตกาล คือไม่จำกัดกาลจบ อาจเป็นได้ คือสังคายนาครั้งนี้ ทำเพียงพระเถระนั่งสวด ถึงจบแล้วในระยะ ๙ เดือน อาจมีการสวดซ้อมกันต่อไปเท่าไรก็ได้จึงไม่กำหนดกาล เมื่อ พ.ศ.๒๔๑ ก็ยังกระทำกันอยู่ในทำนองเดียวกัน จึงสงเคราะห์เข้ากาลสังคายนาไม่จำกัด คือตลอดกาลก็เป็นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  2. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ธัมมกาโม(ทอง )อยู่อินท ในอโสการาม
    องคอโศกธัมมราชา เอาผ้า(ไตร)จีวร มาให้ว่า

    ตฺวํ อิมํ ติจีวรํ คณฺห อุปสมฺปทํ ลเภยฺยาสิ พุทฺธสาสเน
    (ท่านโปรดรับไตรจีวรนี้ พึงได้อุปสมบทในพระพุทธสาสนา)

    ธัมมกาโม อยู่ อินท องคปิยทัสสีธัมมราชา อุ้มอุปถัมภ ปวารณา แลให้เข้า ขอบวชต่อมหาติสสเถร เมื่อปี พุทธกาลล่วงแล้ว ๒๔๑

    ธัมมกาโม ทอง อยู่อโสการาม มหาติสสเถร ว่า อุปสัมปันนไทยในอินทไม่มี
    บัดนี้ให้อุปสัมปันน ให้ญาณจาณสวดญัตติ เมื่อปีพุทธกาลล่วงแล้ว ๒๔๑ เดือน ๘ ขึ้น ๒ค่ำ เวลาบ่าย ๕ อัน(โมง)
    ธัมมกาโม เมื่อเป็นภิกขุแล้ว อุปัชฌายมหาติสส ว่า

    ตฺวํ อาจริเยน สทฺธี สุวณฺณภูมิ คจฺฉ ปญฺจวสฺสกาเล อุปฺปชฺ ชิสฺสสิ เยน โสโณ กาโมติ นามํ อกาสิ เตน ตุวํ....เจ้าจงไปสู่สุวัณณภูมิกับอาจารย์ ในกาล๕ พรรษา เจ้าจักสึก โสณ ได้กระทำชื่อว่า กาม เพราะเหตุใด เจ้าจักสึก เพราะเหตุนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  3. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2242598.jpg
    ๑.ญาณจรโณ พร้อม ด้วย คณ (ญาณจรณ จารไว้ยุ่งๆ)
    ๒.เดินถอ ลุมพินี อโสก(ลุมพินีเห็นชัด อโสกก็เห็นเส้นชัด)
    ๓.อธิราช สั่งวีตโสก
    ๔.นำ มี สห ภิกขุ คน ๑๒๒
    ๕.ลุมพินี ที่ คน รู้ ว่า พุทธบังเกิด
    ๖.มหามายา เทวี พัก พึ่ง สวน รัง
    ๗.นางออกลูก ตรงนี้ ลุมพินี

    ญาณจรโณ พร้อมด้วยคณ
    เดินถอลุมพินี อโสกอธิราช สั่งวีตโสกเดินนำ มีสหภิกขุ คน ๑๒๒ ลุมพินี ที่คนรู้ว่า พุทธบังเกิด มหามายาเทวี พักพึ่งสวนรัง นางออกลูกตรงนี้ ลุมพินี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0164.jpg
      scan0164.jpg
      ขนาดไฟล์:
      302.9 KB
      เปิดดู:
      1,165
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  4. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    อโสกส้างหินหลักสิลา ต้นหนึ่งล้อธัมม โคคู่ สีห มีสืออโสก ชื่อ พราหมิน
    เขียนว่า ในที่นี้ อโสกอภิสิตต ๒๐ ปี พ.ศ.๒๓๘ มาถึง ลุมพินี ที่อันพุทธเกิด
    พาฝูงคนพ้นทุกข ญาณ มาปี ๒๔๒ เดือน ๖


    ลายสือพราหมิน กลม และ เหลี่ยม

    สิลาเลขา หินเขียน และ เสาหิน ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงให้สร้าง พ.ศ.๒๓๘
    แม้พระญาณจรณ(ทองดี) และคณะได้ไปเห็น มีจารึกตัวพราหมิน กลม และเหลี่ยม จึงนำมาเป็นตัวอย่าง
    และได้นำรูปเสาหินซึ่งมีตัวจารึกพิมพ์ มาด้วย

    a.2242633.jpg
    ๑.เทวาน ปิเยน ปิยทสิน ลาชิน วีสติวสาภิสิเตน
    ๒.อตน อาคาจ มหียิเตน หิท พุเธ ชาเต สกฺยมุนีติ
    ๓.สิลาวิคฑภีจา กาลาปิต ลีลาถํเภจ อุสปาปิเต
    ๔.หิทภควํชาเตติ ลุมินิคาเม อุพลิเกกเฏ
    ๕.อถ ภาคิเยจ

    ๑.พระราชาปิยทัสสี ทรงเป็นที่รักของเทพยดา อภิเศกแล้วยี่สิบปี
    ๒.ด้วยพระองค์ได้เสด็จมา ด้วยมหาพยุหยาตรา ณ ที่นี้ พระพุทธเกิดแล้ว ทรงพระนามว่าสักยมุนี
    ๓.ให้กระทำศิลาจารึก และให้ยกเสาสิลาด้วย
    ๔.ในเพราะที่นี้ พระผู้มีพระภาคเกิดแล้ว คือ ลุมมินิคาม ให้ยกเลิกเก็บภาษี
    ๕.ซึ่งได้เก็บอยู่ หนึ่งใน ๘ ของ ผลได้


    อโสกส้างหินหลักสิลา ต้นหนึ่งล้อธัมม โคคู่ สีห มีสืออโสก ชื่อ พราหมิน
    เขียนว่า ในที่นี้ อโสกอภิสิตต ๒๐ ปี พ.ศ.๒๓๘ มาถึง ลุมพินี ที่อันพุทธเกิด
    พาฝูงคนพ้นทุกข ญาณ มาปี ๒๔๒ เดือน ๖
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0046.jpg
      scan0046.jpg
      ขนาดไฟล์:
      557.3 KB
      เปิดดู:
      4,992
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  5. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ญาณจรณ อยู่ลุมพินี จึงปลูกต้นรัง ต้นเกิดพุทธ แล้วเข้าเมืองกบิลพัตถุ โปรดสากยเผ่าพุทธ ให้ฉันอาหารก้อน ก้อน เมื่อคุ้น คุ้น คุยคนแก่ เฒ่า คุย กิน ในอ้ายหนูเอย เมื่อฟังโตขุนอินสากัน เมื่อพันห้าร้อยปีปิตลุย อิน ตั้งชื่อ อินทรสากย ฤษี โคตม ต้นโคต

    ญาณจรณ มากุสินารา เมื่องพุทธนิพพาน เดือน ๓ ขึ้น ๑ค่ำ พุทธกาล ๒๔๓ อโสกผู้มาสร้างตรงมกุฏพันธเจดีย์ แลในสวนป่ารัง มีหลักหินมีสือว่า
    พุทธมานิพพาน ที่นี้ ตัวอโสก ผู้มาถึงเนินป่ารัง ส้างสถูปนิพพาน ส้างสีหแลโค คู่หิน บนยอดเสา ญาณจรณมาเหน


    a.2242650.jpg
    ซุ้มประตู ศาญจิสถูป จะเห็นรูปสิงโต ช้าง และชั้น๓ชั้น
    ลายสุดทั้งสอง มีลายเวียนกลมซ้าย
    ลายเวียนซ้ายขวาลายเวียนขวา เครื่องหมายแบบสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
    ซุ้มประตู๓ชั้นอย่างนี้มีที่เมืองไทยทางอีสาน มีลายเส้น จะเห็นทำแบบนอนหงายมาก แต่มักจะทำเป็นรูกลม เรียกว่าโขง
    ที่วัดโขงสุวัณณภูมิ เดิมคงมีซุ้มอย่างนี้ จึงมีชื่อติดมา

    a.2244271.jpg
    พระพุทธรูปดินเผาคูบัว ซุ้มบนนั้นคือ โขง ดูซุ้มจะเห็นลายปั้นเวียนซ้ายเวียนขวา
    สังเกตส่วนสั้นสมัยสุวัณณภูมิ
    ซ้าย อ-๖ ขวา ด-๑

    a.2242652.jpg
    พระพุทธรูปหิน สลักว่า กาตฺรา แต่รูปสิงโต๓ตัวที่ฐานนั้น ยืนยันสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช

    a.2242651.jpg
    ลายสือพราหมิน ได้จารึกเป็นตัวเหลี่ยม ซึ่งดูแล้ว จะเห็นไม่ตรงกับตัวแบบที่ทำกันไว้

    พุ ธ นิ มิ ต โ ค ตฺ ต ม คิ ริ อ ม รา อ โส ก เท วี ปฺ ร ญ ปฺ ต ฐ ปิ โ ต
    พระพุทธนิมิตโคตตม อันคิริอมรา พระเทวีของอโศกประกาศให้รู้ว่า ได้ประดิษฐานแล้ว

    ษ ตี ส ม ค เ ธ อ ภิ สิ เต อ นุ ม า ป า เ จ
    ได้สร้างไว้ หลังอภิเศก ในมคธ๓๖ปี

    ส ม ส ตฺ ต า ภ ชฺ ปุ นฺ ย นิ ธฺ อ า ตฺ ม า สฺ ม (สุขิตาสฺตุ)
    หมู่สัตว์ผู้เสมอกัน คบกัน สร้างขุมบุนย เป็นตัวตน (จึงเป็นสุขตลอดกันเถิด)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0044.jpg
      scan0044.jpg
      ขนาดไฟล์:
      241.1 KB
      เปิดดู:
      1,623
    • scan0045.jpg
      scan0045.jpg
      ขนาดไฟล์:
      517 KB
      เปิดดู:
      1,412
    • scan0161.jpg
      scan0161.jpg
      ขนาดไฟล์:
      577.4 KB
      เปิดดู:
      3,822
    • scan0178.jpg
      scan0178.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.6 KB
      เปิดดู:
      1,608
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  6. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ลายสือไทย และ เลขไทย ไปปรากฎ ณ ชมพูทวีป อินเดีย

    กเบื้องจาร หรือ ศิลาเลขา ชิ้นนี้ ได้ถ่ายทอดจากหนังสือ The way of the buddha ซึ่งพระมหาพิจิต ฐิตวณฺโณ ปธ.๙(พ.ศ.๒๕๑๙ เป็นพระศรีวิสุทธิกวี)วัดโสมนัสวิหาร นำมาจากอินเดีย

    a.2242670.jpg
    ข้างบนแขกอ่านได้ เพราะเป็นลายสือพราหมิน ว่า
    ๑)จตฺตาร = อิมานิ ภิกฺขเว อ(ริ)ยสจฺจานิ (๒) กตมานิ (จ)ตฺตาริ ทุกฺขนฺติ(ภิ)กฺขเว อริยสจฺจํ

    (๓)ทุกฺขสมุท(โ)ย อริยสจฺจํ ทุกฺขนิโรโธ อริยสจฺจํ (๔)ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิทา อริ(ย)สจจํ

    บรรทัดริมขอบบนนั้น แขกอ่านไม่ได้ เพราะครึ่งต้นเป็นลายสือขอมไทย ครึ่งท้ายเป็นลายสือไทย ซึ่งคณะพระญาณจรณ(ทองดี)ไปเขียนไว้แต่ปีพ.ศ.๒๔๒ แต่ในคำอธิบายกล่าวว่า คริสตศตวรรษที่ ๓ พ.ศ.๘๔๓ซึ่งยืนยันว่าแขกอ่านเลขไทยไม่ออกอีกด้วย

    ถ้าสังเกต จะเห็น เหมือนด้ามมีดพกที่ไปอยู่เมืองจีน และ ตก "นิพ" ส่วนตัวเลขไทยที่จารึก เส้นก็หนักชัดเจน เส้นเบาตอนหัว และ ๒ ท้ายนั้น มองเห็นลางๆเท่านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0159.jpg
      scan0159.jpg
      ขนาดไฟล์:
      391.7 KB
      เปิดดู:
      1,459
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  7. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เมื่อญาณจรโณ ดี สิส โสณ ถูกส่งไปอินทรปาตลีปุต มคธรัฐ
    อโสกมหาราช ฝากโมคคัลลีเรียนปีฎกไตร จบ พร้อมปุจฉา แปลความครบ ๓ ปี เที่ยวไปสู่สังเวชนีย อันอโสกส่งไปตลอดอินทรรัฎของอโสก อีกสองปี
    แล้วมาตัมพปัณณิอีกปีหนึ่ง มาเมืองสุวัณณภูมิ

    โลกลว้า สุวัณณภูมิ ต้อนรับ พระดี ญาณจรณ กับภิกขุอื่น ขึ้นวัน ๕ ค่ำ เดือน ๓ ปี ๒๔๔ โสณ ฌานีย ภูริย อุตตร มูนีย พร้อม ตวัน
    ขบวนช้าง ม้า คน แห่จากอู่เรือ เดินเข้าเมืองตอนค่ำ
    โลกลว้า สุวัณณภูมิ เมื่อญาณจรโณ ส่งสารอโสก ผู้เป็นยิ่งเมืองมคธมามีว่า
    เมืองควรมีภิกขุมาก ภิกขุควรเล่าเรียนธัมมวินัย พุทธสาสนา ควรฝึก(ประพฤติ)ทุกคน

    ตวันทับฟ้า ผู้พ่อตั้งให้ไปดูแลเมืองพลิบพรี
    ขุนศรีเมือง กับ สิริงามตัว แม่นาง ศรีทองอ่อน เมียเญ่า ผู้ต้อนรับ พาขึ้นเรือนอยู่ ทำงานเรือน อาหาร ผ้านุ่งห่ม
    เมื่อพุทธกาล ๒๔๓ อยู่พลิบพรี สาวนางสิริงามตัว ผู้มีความเสนหาเฝ้าเย้มเยนเช้า พ่อแม่มิห้ามสิรินทิรา เทพธิดา
    นางเมียหลวงว่าตัวไม่มีลูกยอมให้ แต่งงานเดือน ๕ ปี ๒๔๔

    ตวันทับฟ้า สิรินทิรา สิริงามตัว เมื่ออยู่เมืองพลิบพรี เข้าปีพุทธกาล ๒๔๕ พ่อโลกลว้าป่วยหนัก
    พ่อตาย วันขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีกุน พุทธกาลเข้า ๒๔๕ ชุมไฟวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีพุทธกาล ๒๔๖
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  8. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2242718.jpg
    ทั้งคู่ได้ที่ รางม่วง
    ๑.พระเจ้าตวันอธิราช สร้อยทำเป็นรูปตะวันทรงกลด ช่อรี บอกพระนามตะวัน
    มือขวา ถือคนโท มือซ้ายถือขัน หมายถึง เที่ยวหลั่งน้ำอมตธรรม
    ๒.พระนางสิริงามตัวเทวีสุวัณณภูมิ สร้อยทำรูปงามบอกพระนาม มือขวาถือดอกบัวเดียว หมายถึงใจเดียว ตั้งใจเป็นเมียพระโพธิสัตว์ มือซ้ายถือหอยยอด ทรงรัดเกล้าชาย
    เล่าว่า เมื่อตะวันตั้งเป็นอธิราชินี จึงถอดรัดเกล้าอธิราชสวมให้
    ตัวจึงไม่มี พระนางมีรัดเกล้าชาย(เรื่องปรากฎตอน พ.ศ. ๒๙๘-๒๙๙)

    สุวัณณภูมิ เมืองทอง

    สมัยพระเจ้าตะวันอธิราช พระนางสิริงามตัวเทวีสุวัณณภูมิ

    ต้นออกแผ่วัฒนธรรมไทย และพระพุทธศาสนาออกต่างแดน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0165.jpg
      scan0165.jpg
      ขนาดไฟล์:
      233.4 KB
      เปิดดู:
      1,434
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2017
  9. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    พระพุทธรูปหล่อรุ่นแรกสมัยสุวัณณภูมิ ช่างหรือขอม ออกแบบสร้างไว้ แบบราชบุรีสุวัณณภูมิ
    พ.ศ.๒๔๐-๒๖๐
    คู่นี้ ได้ที่ รางม่วง ราชบุรี ที่เป็นจีวรกลีบไม่พบ
    เมื่อสังเกตจะเห็นพระพักตร์ส่วนสัดเหมือนพระเจ้าโลกลว้าและพระนางก้านตาเทวี
    พระเจ้าตะวันอธิราช และพระนางสิริงามตัวเทวีสุวัณณภูมิ มนขอมพิสสณุ ได้ออกแบบไว้
    แบบเพชรบุรีได้พิมพ์ไว้ตอนเพชรบุรี และนี่เหมือนกัน จึงยืนยันว่า ช่างเดียวกัน
    ทั้งคู่จะเห็นส่วนต่างๆสองเท่าครึ่ง

    [​IMG]
    ๑.พระพุทธรูปทองคำสำริด ปางแสดงทางสายกลาง(มัชฌิมาปฏิปทา มัชฌิมาองคุลี)
    อุทิศให้พ่อ (พระเจ้าตะวัน อุทิศให้พ่อ คือพระเจ้าโลกลว้า)
    พระศกเม็ด (พระศก บน พระเศียร เป็นเม็ด)
    ปางแสดงทางสายกลาง(มัชฌิมาปฏิปทา มัชฌิมาองคุลี)
    ที่รอบพระศอแสดงทรงจีวรเรียบ ห่มคลุม แต่ตัวจีวรไม่ได้ทำ จึงปรากฏหน้าอก
    ที่ฐานทำรูปธรรมจักร กับกวางหมอบคู่ นิมิตหมายสุวัณณภูมิ
    มีรูปชายไทยยกมือทั้งสองแบ แสดงต้อนรับ คือ ขุน รับพระพุทธองค์หรือพุทธศาสนา
    มีต้นโตนดคู่ คือบอกชื่อ ดอนโตนด สุวัณณภูมิ เมืองทอง ไทย

    [​IMG]
    ๒.พระพุทธรูปทองคำสำริด ปางชี้ธรรม(นิ้วชี้)
    อุทิศให้แม่ (พระเจ้าตะวัน สร้างอุทิศให้แม่ คือ พระนางก้านตาเทวี)
    บนพระศกเส้น จะเห็นรอยรัดเกล้า ช่างรู้ว่าทำผิดจึงปาดออก ยังเห็นเค้ารอยอยู่
    รอบพระศอ มีรอยจีวรห่มคลุมอยู่
    ที่ฐาน กลางมีธรรมจักร กวางหมอบคู่ นิมิตหมายสุวัณณภูมิ
    ต้นโตนด หมายถึงดอนโตนด
    มีรูปหญิงไทยมีกระบังหน้า ยกมือทั้งสองแบ แสดงต้อนรับ
    คนซ้ายจะเห็นหน้าอกนูนชัด ทั้งสองทำท่าหญิงยืนยกชูของหนัก(หรือรับ) คือ ขุนหญิงต้อนรับพระพุทธองค์หรือพุทธศาสนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0021.jpg
      scan0021.jpg
      ขนาดไฟล์:
      178.6 KB
      เปิดดู:
      3,469
    • scan0022.jpg
      scan0022.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.1 KB
      เปิดดู:
      3,321
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2013
  10. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2242721.jpg

    ทั้งคู่สร้างด้วยทองคำประสม รูปพระนางประสมทองแดงมากหน่อย
    เข้าใจว่าเป็นชุดที่ ขอมทองเมือง ขุนทองเมืองช่างชาวพริบพลี
    สถาบกตามคำสั่งของพระเจ้าเดือนเด่นฟ้าอธิราชเจ้า พ.ศ.๒๗๕ ได้ระบุว่า
    ตั้งในพระอุโบสถวัดพริบพลี
    สถาบกตามคำสั่งของพระเจ้าเดือนเด่นฟ้าอธิราชเจ้า พ.ศ.๒๗๕
    ได้ระบุว่าตั้งในพระอุโบสถวัดพริบพลี
    ที่รู้ว่าเป็นพระเจ้าอธิราช เพราะที่หัวเข็มขัด ได้ทำรูปกลมมีรัสมีพุ่งออก บอกชื่อ ตะวัน
    ที่หมวกยอด จะเห็นรูปยอด เป็นรูปพระสงฆ์หรือพระโสณทรงเครื่องคลุม และทรงผ้าถุง มีลายหน้า
    ยกมือแบบป้องกันบ้านเมือง

    พระอธิราชินี ตลอดเครื่องทรง มีลายสวยงามตลอดบอกชื่อ "งาม"
    ณ งอบยอดตรงหน้าจะเห็นรูปพระ มือซ้ายถือไม้เท้า แสดงถึงกาลมีอายุมาก แม้ถุงทั้งสองข้างก็มีลายงามออก ตลอดทั้งตัวนั้นคือ สิริงามตัวเทวีสุวัณณภูมิอธิราชินี (ทั้งคู่และมีอื่นๆได้ที่ ...เพชรบุรี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0166.jpg
      scan0166.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.7 KB
      เปิดดู:
      1,168
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  11. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    -------------สุวัณณภูมิ เมืองทอง----------------

    สมัยพระเจ้าตะวันอธิราช พระนางสิริงามตัวเทวีสุวัณณภูมิ

    ต้นออกแผ่วัฒนธรรมไทย และ พระพุทธศาสนาออกต่างแดน

    (๑)แถลงเรื่องดินแดนของกรุงสุวัณณภูมิ เจริญถึงองคราษฎร เมาฬีย อิทรพลัน เจรลรัฎฐ เขมไอคล้อง ประจิณณ บ้านเง้(เว้)เมืองพู้ บุนงือ โห้ปัลลาว เมืองเชียงแม้ว ริฃื้ออ้ายผี ธิวนี สุเทิ้งวร โปลา ไนฃัลลอ ตปาลา ชาวก มลาย

    นโม ตสฺส ภควโต มหาการุณิก อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
    ข้าขอนอบไหว้พระพุทธเจ้า ทั้งธัมม พระอรหันตสงฆ ทรงมหากรุณาปวงสัตตบุคคล ข้าขอเอาพระองคไว้เปนเท้พึ่งอยู่ในจิตแจ้งอริยธัมม เป็นอันเข้าถึงโดยพระอริยสัจจ

    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ สวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฎฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหีติ
    (๒)สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฎฺฐ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อญฺชลิ กรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ

    ตวันอธิราช สุวัณณภูมิ กล่าวแก่ทวยลวไทย ถึงข้อธัมมควน กทำ คือ ชาวลวไทย ควนเอ็นดูสัตต เมตตา กรุณา คน ฝูงสัตต(เลือนมาก)ช่วยเหลือกัน รู้ผลกัม รู้อริยธัม ด้วยเจตนาในปาฬีพระพุทธพจน ในพระธัมม พระสงฆ เปนที่พึ่ง เปน ...ธัมไปเดินตามอริยมัคค ๘ ......(เลือนมาก อ่านไม่ได้ความ)[

    สวัสดี คนรักองคญิงก้านตาเทวี ราชชนนีแห่งไทย สุภาพ กตัญญูแท้ เสรอมากหลาย ท้านสู่สวงเสบสุขแล้ว แม้ว่า ยามเจ็บป่วย เราเข้าคัปคองกัน ภายอื่น พระอริยสันเสินมากชื่อลือแล้ว เจริญด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา (อุเบกขา) อริยธัมม ด้วยเรื่องราว อุปัช สุคติ พระนฤพาน แฉบสุขสบาย หลายเหล่าอัปษรปลยตนสุขสราญหลายสั้ย เลื่อยสบายไม่หยุดนิ่งแล้ว พระราชชายาศิรินทิราเทพธิดาศรัทธาหลาย สร้างแล้วเถิงฟ้าสบสราญ สเริงปรารภทิพย อาหารรศควนเทพเครื่องเสบถ้วนทุกคืนเวน(วัน) รนรื่นชื่นชอบยาวนานถึงอสงขัยกาลกัปป์ไม่สิ้นผลบุญเลย

    แสวงโพธิญาณธัมม ตวันอธิราชเจ้าแสวงเส็ดธัมม จบญาณ (ตรัส) รู้อริยสัจจธัมม สิ้นกิเลส ตัณหา สิ้นชาติ ขาดภพเทอญ
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------
    (๑) พบพระพุทธรูป มีลายจารึกแบบขอมกลุ่ม คือ เขียนปนๆกัน อ่านได้ความว่า นโม สมัยนี้เหมือนที่ท่านแปลไว้นี้ว่า นโม ตสฺส ภควโต มหาการุณิโก อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส และการเขียนตัวบาลีนี้เขียนอย่างปัจจุบัน ง่ายๆดี ฯ

    (๒) บทสังฆคุณ ที่จารึกไว้ เห็น "สุ" เลือนๆเท่านั้น และเขียนไว้ไม่หมด ได้ใช้ความจำต่อลงให้จบอย่างนี้ ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  12. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ตวันอธิราชเจ้า กับ เมีย สิริงามตัวเทวีน้อย ผู้สาวชาวลาว ชื่นชอบ
    เชื่อสัทธาสุจริตธัม เจริญในทางสัมพุทธภูมิ ผู้หมาย (เป็น) เมียโพธิสัตต สร้างบารมี๓๐ เจริญกุศล ทุกคืนวัน บ ได้เว้น แม้ว่างานใด มิลกุสล สัทธาพร้อมทางใจ คำพูด ร่างเลี้ยงดูเภิ้นพ่อแม่ต้องจัดเครื่องกิน ผ้าห่มนุ่งแล้วทุกประการเสมอมามิเว้นว่าง รู้เห็นคุณพ่อแม่ (เป็น) ภูมิธัมม

    ลุถึงปี ๒๔๖ กุน คลอดลูกอ่อนผู้ชาย ตูขึ้นชื่อให้ว่า เดือนเด่นฟ้า ให้ตัว ญาณจรโณ ดี สิสท่านโสณเถรอุตตรเถร มาสวดพุทธมนต เจริญมงคล รตน กรณียสูตต ปาฐพระสูตต มากมายเพื่อป้องกันเหืองร้าย ห้ามอันตราย เจริญชัยชนะศัตรูตลอดดินแดนโลกมิเสื่อมสิ้นตลอดโน้น

    สิริงามตัวเทวีราชชายาเอนดูแล้ว เมื่อ ๓๔๘ ฉลู คลอดชาย กูให้ชื่อว่า ดาวเด่นฟ้า ตวันให้กทำเช่นนั้น ปีขาน ๒๔๙ คลอดลูกญิง กูให้ชื่อว่า แสงสายทอง
    จานเรื่องนี้ไว้ในพุทธกาล ๒๙๘
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  13. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ตวันอธิราชธัมมราชาธิปตี ลูกโลกกนลวศรีอินทราธิปตินทร ผู้ตรงเทิดธัมมได้รับ วรพุทธสาสนาสีลธัมม จากโสณุตตร ได้เผยความรู้ให้ทั่วลว้าให้เรียนรู้ปาฬีธัม รู้ทั้งปริยาย บวชแล้วรู้ธัมมอริยสัจจ มัคผลโลกุตตรภูมิพ้นตัณหา

    ฃ้าขึ้นคลองแทนท่านผู้พ่อ เมื่อครั้งพุทธกาล ๒๔๕ ดินแดนนี้ เกิดแล้วก่อนโน้น กูตรึกแล้ว (เมืองทองมีมานานได้) ๑๔๘๘ ปี แล้วถึงสลู ๒๔๘ กูเขื้อน ๒๖ มเลือกลูกศึกใญ น้อย เรือ บก ชาญรบ สเบียงเหลือเมื้อเทิ้อทแกล้ว เช้า เยน ลุขึ้นเดือนอ้าย ปีขาน ๒๔๙ เบิกศึกใญไป ทวาลาวดี (๑) ได้แล้ว พระยาเมืองมุน แพ้ต้องตาย

    ฃ้ากลับสู่เมืองทอง เดือน ๕ บำรุงทแกล้วให้พูนเข้มแข็งเหี้ยมหาญศึกตลอดกาล เผื่อศึกภายโพ้น
    -------------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)ทวาลาวดี จะเป็น ลว้าลาวตี้ คงจะได้ ในครั้งนั้น น่าจะยังไม่ได้ตั้งชื่อว่า ทวาราวดี หรือทวารวดี ได้เขียนไว้อย่างนี้ จึงนึกเอาว่า ล กับ ท ใช้แทนกันได้ เช่น ละลาย ทะลาย ทำลาย สลาย ทำนอง ลำนอง จึงเข้าใจว่า ทวาลาวตี คือ ลว้าลาวตี ลโว้ลาวดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  14. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    คนพ่อ ชื่อ โลกกนลว คนแม่ชื่อ ก้านตาเทวี ฃ้าชื่อ ตวัน
    (แผ่นนี้มีรูปดวงตราตะวันส่องแสงแลงกระจายตลอดแผ่น นายชัยพร ธุวานนท ขอยืมไปทำหายเสียแล้ว)
    ผู้เป็นราชโอรสท่าน โดยปรนนิบัติด้วยธัมท้านแม้น บ เบียด บ อธัมม อำรุงธัมมานุธัมม ท่านช่วยไพล่สุขีด้วยสีลธัมมีกถา
    กล่าวสอนอย่างแท้ถูกจริงในข้อสีลอุโบสถสมาทาน แลถึง พระสรณคมน บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ ส้างจริยาธัมมไปในนิพพาน เมื่อพุทธปรินิพพาน กาล ๒๖๗ ตัวข้ายกกองศึกใหญ่ปราบถึงอ้ารกัน อินทรัฎฐ มื่อเทง ๒๗๓ แกล่อู่สู่เรือนสบสุขเทิ้อหลาย คราวเมื่อพุทธกาลได้ ๒๘๑ ตัวข้ายกศึกปราบถึงชาวเง้ ชาวภูไท ลัวโส่ง โห้ปัลลาว เลียกโกว๊ก โทมินฮวน ถึง ทูมาษิน นัพปี ๒๙๑ กูยกกลับสู่สุวัณณภูมิ เมื่อเดือนอ้าย แรม(ค่ำ) พอขึ้นเดือน ๑๒ ข้ายกจูมชาวบาก ตปาลา ไนขัลลอ โปล้า ข้ากลับถึงเมืองทอง เดือนสิบ เพง ปี ๒๙๗
    ตวัน พระเจ้า จานไว้(เทอญ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  15. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    (๑)ตวันอธิราช สุวัณณภูมิ เรียนลายสือไทย กับขอมเมืองทอง
    นางพูนเอนดู ผู้เปนย่า สอนตัวเมือง ตัวบ้าน ให้สิริงามตัว ปี ๒๔๕ อ่านเขียนควบตัวเมืองตัวบ้าน
    ตวันอธิราชเจ้า (สุวัณณภูมิ) เมียใหญ่ สิริงามตัวท้อง ออกขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนเมื่อเพญ เที่ยงคืนเดือนยี่ ปี๒๔๖ ตวันอธิราช ผู้พ่อ ขึ้นชื่อว่า เดือนเด่นฟ้าตามเดือนเพญ
    ---------------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)แผ่นนี้(จะพบต่อไปในข้างหน้า) คัดลงมาเพื่อรู้การศึกษาหนังสือของตวัน อาจเรียนการช่างจาก มนขอมพิสสณุ ขอมเฉย และขอมเมือง และเรียนการเมืองจากเจ้าพ่อเจ้าแม่ สังเกตดูตามที่สอนลูกมีความรู้มาก จะเจอเดือนเด่นฟ้าเขียนเล่าในแผ่นต่อไป

    เมื่อดูตามลายเขียนที่ยกกองศึกไปยังเมืองต่างๆ คงจะมีความรู้ภาษาเหล่านั้นๆ เพราะไปอยู่นานๆเข้าก็มีความรู้ไปได้เอง เฉพาะภาษาชมพูทวีปในสมัยนั้น คงนิยมภาษามคธกัน เข้าใจว่า ตะวัน คงเรียนจากพระโสณเถร เป็นต้น และ พราหมณ กระทั่งมีความรู้พูดได้ พระโสณเถร จึงสั่งให้ไปช่วยระงับการฆ่า หรือสงครามชิงแคว้นต่างๆ เมื่อไปถึงก็ปรากฎว่า เข้าใจเรื่องกันดี และไปได้สะดวกตลอด
    เพราะเมื่อไปถึง ก็ไม่ได้ชิงบ้านเมือง เป็นเพียงไปเยี่ยมและช่วยกันเมื่อมีศึกเท่านั้น จึงไม่มีขัดขวาง หรือทำสงครามกัน
    เมื่อเจ้าเมืองนั้นๆรู้เรื่อง และเข้าใจแล้วต่างออกมาต้อนรับ
    แม้เมืองที่ขุนเมืองตาย เมียก็ออกมายอมตัว ยกบ้านเมืองให้ด้วยดี
    กระนั้นก็ไม่ทรงรับ จึงเป็นที่ขึ้นชื่อลือทั่วไปว่า ไม่ได้ทำร้ายอะไร
    เพียงเยี่ยมเยียนด้วยไมตรีเท่านั้น ฉะนี้ จะไปถึงไหนๆก็ได้ อย่างในบัดนี้ ก็ไปๆกันได้ ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  16. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ตวันอธิราชเจ้า สุวัณณภูมิ เป็นผู้สืบขุนอินเขาเขีย
    ผู้ลูกขุนแผนเมืองสวงผู้ส้างเมืองแผนเมืองอินเดิมเมืองขุนผู้ส้าง
    อ้ายขุนเขาเขียว อีนางเมือง ชื่อ ขวัญทองมา ลูกชื่อ กวักทองมา ขุนอินเหนนางในถ้ำ ลอบเข้าห้อง(ถ้ำ)ขุนเขาเขียวรู้ จับขุนอินขัง กวักทองเข้าแก้ให้แล้ว มาเมืองแผน ขุนเขาเขียวตามลูก
    ขุนอินสู้ขุนเขาเขียว ยกเมืองอินให้กวักทองมา ดีใจกันแล้ว

    ตัวตวัน สุวัณณภูมิ คราวอยู่เมืองทอง ผู้ได้ ทองคำมา ลูกสาวขุนเมืองอู่ทอง ชื่อ มลิมาเปนเมีย มีลูกชื่อ ขุนไวรุกณรง ปี ๒๕๔ ชื่อ ขุนเจริญกล้าณรง ปีพุทธกาล ๒๕๖ เมีย ชาวก ขุลา จาบาก เมืองมลกา มีไม่สวย ไม่มีลูก ส่งคืนยังเมืองตน
    ตวันผู้จานเรื่องไว้ให้คนหลังรู้ พุทธกาล ๒๙๙
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  17. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2244244.jpg
    ๑.ขุนศรีเมือง หรือ พระร่วงโพธิสัตว์
    ด้านหลังมีลายสือไทยว่า สีเมือง
    จะเห็นใส่หมวกยอดมีผ้าหน้า มีแต่ภาคกลาง
    ๒.ขุนญิงศรีทองอ่อน หรือนางพระร่วง
    ส่วนสิริงามตัว ทำรูปเล็ก
    จะเห็นมีเต้านมทั้งคู่




    พระนางสิริงามตัวเทวี เป็นธิดาของขุนสีเมืองและขุนหญิงสีทองอ่อน ประสูติ พ.ศ.๒๒๔ ขอมทองเมือง(น้องพระนางสิริงามตัว)ประสูติ ๒๓๙
    ครั้น พ.ศ.๒๙๔ ขุนสีเมืองสิ้น ขอมทองเมืองจึงครองเมืองเป็นขุนทองเมืองพริบพลีได้แต่งงานกับสาวบุญเรือน ลูกแม่หอทอง ซึ่งมีอายุได้ ๒๖ และขุนสามีมีอายุได้ ๕๕ ปี
    ตั้งแต่ พ.ศ.๒๗๒ มานั้น ขณะที่ยังเป็นขอมเมืองอยู่ได้ตรากตรำสร้างวัด ๒วัด คือ วัดเพชรพลี และ วัดมหาธาตุสุวัณณภูมิ พร้อมกับสร้าง วังฆะนน อีกด้วย
    เข้าใจว่าคงเหน็ดเหนื่อยมาก คงจะมีลูกชายคนเดียวชื่อ ไทยเรืองเมือง ในราว พ.ศ.๓๐๐พอมีลูกแล้ว คงป่วยเป็นอำมะพรึก เพราะสงครามชวา พ.ศ. ๓๐๖ ไม่พบ พบแต่ดาวเด่นฟ้ามาควบคุมอยู๋ ป่วยนั้นคงพอทำอะไรได้บ้าง จึงยกขุนหญิงบุญเรือนเป็นผู้ว่าราชการแทน ให้ดาวเด่นฟ้าเป็นขอมเมือง
    ครั้นสงบสงครามแล้ว บ้านเมืองเรียบร้อย และขุนทองเมืองพริบพลีอาจสิ้น พ.ศ.๓๑๒ กับทั้งชาวชวาคงจะมาเจรจาขอพระนางเฆื่อมกลับไปครองชวา กับทั้งขุนไทยเรืองเมืองมีอายุได้รอบปีแล้ว พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า กับพระสากิยานีสิริหัสสา จึงทำพิธีโกนจุก จะได้ยกขึ้นครอง แต่ก็ยังเป็นเด็ก จึงสถาปนาแม่ขึ้นเป็นแม่อยู่หัวแต่ยังไม่ได้สถาปนาชื่อ

    ครั้น พ.ศ.๓๒๐ขุนไทยเรืองเมืองมีอายุได้ ๒๐ จึงทำพิธีครองเมือง ขุนคงขอร้องให้แม่ครองต่อไป ตัวเองขอเป็นขอมเมือง และได้แต่งงานกับแม่นางบัวบุญทองมีลูกชายชื่อ เพชรเรืองไทย และมีลูกหญิงชื่อ ศรีเพชรฟ้า

    พ.ศ.๓๒๕ พระนางสิริงามตัวสิ้น จัดงานศพได้มีชื่อ แม่บุญเรือน ทอสบงจีวร เสร็จแล้วจึงสถาปนาชื่อว่า พระนางสีสิริเสาวภารัตนนารี เทวี
    ครั้น พ.ศ.๓๔๕ มีอายุ ๗๗ จึงทำบุญเฉลิมชนมายุ ให้สร้างพระพุทธรูปต่างๆ ได้สลักชื่อ ณ โพล่ ว่า พระแม่บุญเรือน แต่จารึกในแผ่นเห็นว่าพระนางสีสิริเสาวภารัตนนารี เทวี ขุนไทยเรืองเมือง ก็ยังคงถือว่าเป็นขอมเมืองอยู่ จึงมีจารึกได้มีบัญชาให้ขอมเมือง อย่างในจารึกนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0170.jpg
      scan0170.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.6 KB
      เปิดดู:
      1,568
    • a.2244244.jpg
      a.2244244.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.6 KB
      เปิดดู:
      98
    • a.2244244.jpg
      a.2244244.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.6 KB
      เปิดดู:
      100
    • a.2244244.jpg
      a.2244244.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.6 KB
      เปิดดู:
      96
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  18. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402

    a.2246002.jpg
    ขุนดาวเด่นฟ้า(ลูกของพระเจ้าตะวันและพระนางสิริงามตัว , น้องเดือนเด่นฟ้า)
    ขุนหญิงเฆื่อมขัลลตู

    ขุนดาวเด่นฟ้า กับ ขุนหญิงเฆื่อมขัลลตู นี้ เท่าที่รูปปรากฎทรงเครื่องขุนแล้ว
    ก่อนนั้นดาวเด่นฟ้าได้มาอยู่เพชรบุรี ได้ช่วยสร้างวัดเพชรพลี
    เมื่อขุนสีเมืองตาย ได้ช่วยงานศพจนเสร็จ แล้วได้ตั้งขอมทองเมืองเป็นขุนเมืองพริบพลี พร้อมกับเจ้าแม่จัดอุปภิเศกกับนางบุญเรือน พ.ศ.๒๙๔ แม้มีลูกและป่วยเป็นอำมะพรึก จึงไม่ได้ช่วยในการสงครามชวา
    ขุนทองเมือง ตาย พ.ศ.๓๑๒ ได้ตั้งบุญเรือนเป็นแม่อยู่หัวเมืองเพชร ได้ไปปกครองชวา พ.ศ. ๓๒๕
    เมื่อเสร็จงานศพพระนางสิริงามตัวแล้ว พระนางบุญเรือน คงได้รับสถาปนาเป็น[ พระนางสีสิริเสาวภารัตนนารีเทวี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0193.jpg
      scan0193.jpg
      ขนาดไฟล์:
      326.9 KB
      เปิดดู:
      1,574
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  19. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    พระนางสิริงามตัว ขอมทองเมือง เป็นเมีย และน้องตวัน เป็นหลานน้าของ มนขอมพิสสณุ กับตามวงเครือต้องเป็นศิษย์วิทยาการอีกด้วย
    ฉะนี้เมื่อมีหลักวิชาการก็ย่อมสืบสายกัน
    กระนั้นยังอาจมีเอกลักษณ์ในทางวิจิตร์ของตัวเอง
    จึงกระทำให้เกิดเป็นสัดส่วนของพริบพลีขึ้น
    และพระนางทรงรับคำพระโสณแล้วได้มาชวนน้องชายสร้างวัดพริบพลี และ วังฆนน พ.ศ. ๒๗๒ - ๒๘๐ ครั้น พ.ศ. ๓๐๐ จึงลาออกบวชเป็นพระชีสากิยานีไทย ชื่อว่า สิริหัสสา สิ้น พ.ศ. ๓๒๕


    a.2247203.jpg
    พระชีสากิยานีไทย สิริหัสสา (พระนางสิริงามตัว)
    ครองแบบพระครองผ้าแหวก แต่ทรงรัดเกล้าและเครื่องประดับแบบขุนหญิง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0059.jpg
      scan0059.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.8 KB
      เปิดดู:
      1,172
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  20. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    หมู่นางข้าหลวงพระนางสิริงามตัว ซึ่งยังเป็นนางฟ้าอยู่ เท่าที่ทราบได้(ได้ ณ วัดค้างคาว)

    a.2247042.jpg a.2247043.jpg
    a.2247044.jpg a.2247045.jpg a.2247046.jpg a.2247047.jpg

    ๑.ท้าวเดือน นางสนองพระโอษฐ์
    ๒.ขอมดวงตะวัน ผู้สร้างวัดเพชรพลี
    ๓.ท้าวจันทร
    ๔.ท้าวเพชร
    ๕.ท้าวทอง
    ๖.ท้าวนาค
    ๗.ท้าวเงิน(ยังไม่มีรูป)
    ๘.ท้าวเพญ(ยังไม่มีรูป)


    ตามคำเล่าว่า เมื่อ ตะวันเสด็จเพชร (พระเจาตะวันอธิราชเสด็จเพชรบุรี) พระนาง(สิริงามตัวเทวี)จะให้ท้าวนางเหล่านี้แต่งตัวแบบท้าวเดือน ฟ้อนรำต้อนรับ ต่อมาได้เปลี่ยนแบบขุนหญิง แต่ความจริงไม่ได้เป็น ยังเป็นสาวอยู่ทุกคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0053.jpg
      scan0053.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.5 KB
      เปิดดู:
      1,089
    • scan0054.jpg
      scan0054.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.1 KB
      เปิดดู:
      1,063
    • scan0055.jpg
      scan0055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.2 KB
      เปิดดู:
      1,064
    • scan0056.jpg
      scan0056.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.9 KB
      เปิดดู:
      1,028
    • scan0057.jpg
      scan0057.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.8 KB
      เปิดดู:
      993
    • scan0058.jpg
      scan0058.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134 KB
      เปิดดู:
      1,049
    • a.2247042.jpg
      a.2247042.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.5 KB
      เปิดดู:
      97
    • a.2247043.jpg
      a.2247043.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.1 KB
      เปิดดู:
      127
    • a.2247044.jpg
      a.2247044.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.2 KB
      เปิดดู:
      120
    • a.2247045.jpg
      a.2247045.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.9 KB
      เปิดดู:
      126
    • a.2247046.jpg
      a.2247046.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.8 KB
      เปิดดู:
      120
    • a.2247047.jpg
      a.2247047.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134 KB
      เปิดดู:
      113
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...