ประวัติชาติไทยตั้งแต่ต้นกัป พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ(พิมพ์เป็นตัวอักษร)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เก่ากะลา, 27 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    มนขอมพิสสณุ ตายปี ๓๐๑
    จึงตั้ง (มั่น) หาน ลูก เปนขอมแทน หาญขอม หล่อพุทธปาง ๖ ท้าว(ราช)อุบาลี(เปนที่
    ๗)
    แล้วหล่อขุนอิน กับ นางกวักทองมา โลลายโห่มาดี ทับไทยทอง กับงามตาเรืองฟ้า
    โลกกน กับ ก้านตา

    a.2250549.jpg
    พระพุทธรูปสมัยสุวัณณภูมิแบบนั่ง ปางโปรด๖กษัตริย์
    มีท่านอุบาลีเป็นที่๗ จะเห็นรูปเล็กซ้ายสุดนั้น ในชื่อว่า มหาดเล็ก
    ณ ประภามณฑลด้านในจะเห็นรูปวงกลมดวงตะวัน
    วงนอกที่เป็นลายนั้น ต่ำสุดด้านซ้ายจะเห็น ด. คือเดือน จากนั้นลายกนกตัดไม่ออก
    จริงอยู่ลายบอกเดือน แต่ทำในสมัยตะวัน จึงเห็นว่าสมัยตะวัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0202.jpg
      scan0202.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.2 KB
      เปิดดู:
      1,190
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  2. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2250525.jpg
    ขุนดาวเด่นฟ้า ขุนหญิงเฆื่อมขัลลตู

    เดือนเด่นฟ้า คลองเมืองแทนตวัน
    เมื่อเมืองพุทธภูมิ เมียขึ้นกินเมืองแล้ว เราให้ดาวเด่นฟ้าคลองแทน (เท่า) เสมอ เฆื่อมฃัลลตู เมียสาวมีลูกแฝดชาย ชื่อ ลเด่นสวงเสือ (ร เด่น สรวง รเด่นเสือ)
    ลเด่นคู่เมือง(ล เด่น)คู่สอง ดาวเด่นฟ้าคู่เมียเฆื่อมฃัลลตู

    เฆื่อมผู้สู่สุวัณณภูมิ(สิ้นอำนาจ)เดือน ๑๒ พุทธกาล ๓๐๘ ปีฉลู
    เมื่อกลับสู่ชาวก พุทธกาล ๓๑๔ ส้างวัดเวฬุวันปี ๓๑๕

    เฆื่อมคลอดลูก ๒ คู่แล้ว ในปี ๓๒๒ เฆื่อมมี ญิง ชื่อ ล เด่นฆวูวงศ แม่ขอมา สุวัณณภูมิ มอบชาวกเมืองลูก คลองเมืองคนลเมือง
    พ่อดาวเด่นฟ้า คุมแม่มาเมืองทองให้นางบวชชี ดาวเด่นฟ้า กลับไปชาวก พุทธกาล ๓๒๓

    เฆื่อมสุนาฃัลลตู มีลูก ๕ คน อู่(อยู่)เมืองพุทธภูมิ เบื่อหน่าย ผัวดาวเด่นฟ้านำสู่ถึงสุวัณณภูมินี้
    เฆื่อม ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๓๒๒ หาธัมมสุนันโท บวชชี ชื่อ ฆรณีลตา อยู่(บ้าน)ฆนน(เมือง)พลิบพลี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0193.jpg
      scan0193.jpg
      ขนาดไฟล์:
      326.9 KB
      เปิดดู:
      977
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2017
  3. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    แบบโครงสร้างเรือ หลักฐานไทย ปรากฎที่ ชวา

    [​IMG]
    บน
    เรือเดินทะเล จะเห็นคนถือท้ายเรือใส่หมวกยอด"ไทย"และมีนมใหญ่
    เห็นว่าเป็นขุนหญิงเฆื่อมสุนาขัลลตูที่กลับลงไปครองชวา
    สำหรับเรือจะเห็นกลาบอ่อนท้องช้าง
    ล่างขวา
    รูปนี้ ดาบที่เงื้อจะฟันคอ คือ ดาบไทย และหญิงคนนั้นก็นั่งพับเพียบ ท้าวแขนแบบหญิงไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0075.jpg
      scan0075.jpg
      ขนาดไฟล์:
      331.7 KB
      เปิดดู:
      1,667
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2013
  4. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เดือนเด่นฟ้า หาแม่ เมื่อแม่ป่วยมาก เดือนหนึ่ง ตาย วันขึ้น ๒ค่ำ เดือนอ้าย ปีพุธกาล ๓๒๔ มีขวบเข้าร้อยปี
    เมื่อจัดงานผีแม่ที่(วัง)บ้านฆนน สวด เทสน มีให้ผี(แม่)ฟัง มีนางขับกล่อม ฟ้อน รำ กลอง เพลง ให้แม่ ดู ฟัง ปี๑
    (ตั้งให้)ไทยสรวงฟ้า คลองเมืองไทย (แทน) ปีพุทธกาล ๓๒๔ มเสง

    เดือนเด่นฟ้า เผาผีแม่งามตัว ที่(วังบ้าน) ฆนน ทองเมืองผู้สร้างเรือนยอดทอง เหมทอง นางบุญเรือน ทอผ้าทำจีวร สบงสุ แสงสายทอง ทำอาหาร
    เผาผีแม่ มีเพลง ฟ้อนรำ กลองยาวแห่นำ ธัมมสุนันทเทสนา
    ภิกขุเดินหน้า ชี พี่ น้อง เผาขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีพุทธกาล ๓๒๕
    เกบกดูก(บัญจุเข้าฐาน)เจดียวัดพลิบพลี

    เดือนเด่นฟ้า สุวัณณภูมิ เมืองทอง สอนไทสวงฟ้า พร้อมคนเมืองทองทั่วญิงชาย
    อันว่า คนเปนฅน ควนเอนดู เมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อผู้คนอดอยากอาหาร แลสัตตผู้เมียฅนอันตน เอาใช้งาน เจบ ป่วย ควนคัปคอง
    แม้เมียลูกตนอันมีมา ไม่ข่มขืนเมียลูกผัวฅนอื่น อย่าเบียนมนุสส สัตตอื่น
    ความชั่วอย่าใส่ตัว กุศล ควนส้าง

    อยู่บ้าน(ท่าน)อย่าดูดาย ปั้นงัวควายให้ลูกต้นเล่น

    อู่เราเข้าสู่ อู่เราเบ้านอน
    วันคืนขืนไม่ได้ให้เล่งหาดี ในวันนี้

    เดือนเด่นฟ้า สุวัณณภูมิ ผู้สอนธัมให้รู้ทั่วข้อธัมอันจะสบธัม อ่านเอง เมื่อตรงใจ จงตั้งตรงธัมเปนผู้มีธัม ๕ ข้อ คือ สีลห้า มี
    ไม่ฆ่าสัตต ไม่ลักฉ้แส่งของ ไม่ผิดลูกผิดเมียเขา ไม่เว้า มุสา ไม่ดื่ม (เหล้า กระแช่) สุราและเมรัย(๑)
    --------------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)แผ่นนี้ ไม่มี วัน เดือน ปี เข้าใจว่าคงสอนหลายวัน และเขียนย่อความที่สำคัญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  5. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ขุนไทยอธิราชเจ้าองค์แรกที่สละออกบวชเป็นภิกขุ พุทธกาล ๓๒๖

    เดือนเด่นฟ้า มีสัทธา เข้าหาอุปัชฌาย ธัมมสุนันโท เจ้าวัดศรีพุทธาราม
    อุปสมบทเปนภิกขุ ชื่อ จันทอัมพโร(ผู้มีเดือนในฟ้า)ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖
    อยุ่วัดศรีพุทธาราม เมืองไทยนั้น
    ไทยสวงฟ้า จัดงานฉลอง ๑๐ วัน
    กลองยาวแห่เข้าวัง สวดมนตเยน คือ เล่นเพลงขุนโล โห่มาดี ผู้สร้างเมืองทอง

    ไทยสรวงฟ้า เจ้ากรุงสุวัณณภูมิ
    เดือนเด่นฟ้าพ่อให้ขึ้นคลองเมื่อพุทธกาล ๓๒๖ เดิอน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เมื่อปีขาน (๓๓๓) เปนอธิราชเจ้า เมื่อปี ๓๓๔
    เมียชื่อ ทองขวัญใจ มีลูกน้อยญิงชื่อ ศรีเมืองทอง เมื่อปีมโรง(๓๓๕) เมียคลอดลูกชายชื่อ ศรีอาทิตยเจ้าเดือนเด่นเมืองทองไทย ให้ฉลองทั้งเมืองไทย พระสวดมนต มีเพลง เรื่อง ขุนโล เมืองทองรักหญิง

    (ให้เล่าเรื่องเล่นเพลงอย่างนี้...)

    โห่มาดี เมืองนองทอง นางอยู่เดียวคลองเมืองเหนือ ขุนโลข่าวนางเมือให้ขุนเสมียน สือถึงขุนไท (คนอง) น้องไม่ยอมให้พี่สาวตัว พี่ลอบ (มี) สือมาถึงขุนโลผู้ชู้รัก เสมียนถึงขุนโล ให้ขุนคนองเปนกองหน้าจูมเมืองนองทอง ขุนไทยคนองยอมแพ้ให้โห่มาดีไปหาขุนโลลายห้าม
    คนองขุนใหญ่(ผู้)ให้เผาเมืองผู้คนแล้ว ขุนโลนำโห่มาดีสู่เมืองส้างเมืองใหม่ ตั้งชื่อเมืองทองไทยลว้า ตั้งตัวสือไทยลว้า ตั้งปีโล ชวด ๑ (ในกาลปีอินเต็มได้ ๔๑๕๐ปี)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  6. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2252921.jpg

    พระพุทธรูปตอนปลายสมัยเดือนเด่นฟ้า (คูบัว)
    ประทับยืน จีวรทั้งกลีบและเรียบ สังเกตดูแบบราชบุรี
    ทำวงนิ้วกลาง(มัชฌิมา)
    ชุดที่พบนี้เป็นทองคำสำริด มีน้ำหนักบอกอยู่แล้ว ที่พบและได้มาก็องค์เล็กๆอย่างนี้
    ที่ใหญ่ๆเก็บไม่ทัน จึงถูกขายไปแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0222.jpg
      scan0222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      196 KB
      เปิดดู:
      1,341
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  7. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เดือนเด่นฟ้า เปนภิกขุ เริ่มป่วยเดือนอ้าย ข้างแรม
    ให้เรียกชุมนุม มีไทยสรวงฟ้า ทองขวัญใจ ออกขุนชนะชาวก ขุนปกเมืองทอง สิริวัฑโฒธัมมปาโมกข(สังฆราชมหาเถร) จันทอัมพโร ภิกขุ วัดศรีพุทธาราม

    เดือนเด่นฟ้าว่า พ้นเราแล้ว พร้อมกันคุ้มเมือง บ้าน วัด โรงเรียน โรงหมอ ขุนศึก ขุนเมือง ชาย ญิง เมื่อศึกษาพร้อม(กัน)ตั้ง(สู้ศึก)

    ไทยสรวงฟ้า ฟังพ่อเดือน (เล่า) ต่อ
    เมืองนี้มีต้นขุนอิน ชื่อ เมืองแมน
    ขุนโลลาย (ให้ชื่อ) เมืองทอง
    ขุนทับไทย(ทอง ให้ชื่อ)สุวัณณภูมิ ยังเปนเมืองของคนไทย (ถึงพวกเรา) เมืองนี้ คงนานทน เมื่อถึงโสณเล่าว่า เมืองตั้งพันกว่าปี (จึง)ล้าง ของไทยใฝ่เฝ้า จงคุ้มครองให้ดีแล

    เดือนเด่นฟ้า สอนลูกแก้ว สอนขุนสอง ให้เหนไทยสรวงฟ้า เหมือนลูกหลาน ผิดจงว่ากล่าว เหนควนเตือน(จงเตือน) อย่าทิ้ง ธัมมปาโมกขสั่งสอนธัมม

    ไทยสรวงฟ้า ฟังพ่อเว้า ในวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือนอ้าน พุทธกาล(เข้า) ๓๓๖ พ่ออายุ ๙๐ อุปสมบท ๑๐ พัสสา วัดศรีพุทธาราม ให้เขียนวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือนยี่ (ปี๓๓๖)

    ไทยสรวงฟ้า เมื่อเดือนเด่นฟ้า พ่อตาย รุ่งเช้าขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ เดือนย่ำฟ้า ปีพุทธสาสนากาล ๓๓๖
    ไทยสรวงฟ้า ว่า พ่อ(เปน)ภิกขุอธิราช ให้ตั้งเหมทองที่ห้องแหนเฝ้าด้วยภิกขุ ในวัดศรีพุทธาราม เมื่อตั้งสวดอภิธัมม ๑ ปีแล้ว ควนขึ้นชุมไฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  8. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2245682.jpg
    -ไทย สวง ฟ้า

    - เ ผา จัน ท

    - อัม พ โร

    - ภิ ก ขุ

    ไทยสวงฟ้า เผาจันทอัมพโรภิกขุ เดือนเด่นฟ้า ขึ้น ๑๕ค่ำ เดือน ๖ ปีพุทธกาล ๓๓๘

    แผ่น ๔๓๔ หน้า ๑ แผ่นนี้ ก็เขียนตัวขนาดนี้ บางทีก็ตะแคง เช่น ที่ไทยสวงฟ้า จะเห็น ไ ท เอา ย ไว้ล่าง สวง ก็ตะแคง
    ฟ้า เขียน ฟ อยู่บนลาก า และ ไม้โท อยู่บน

    จะเห็นได้ว่าไทยรู้จักแปลคำไทยเป็นคำชื่อมคธมาแล้ว
    ------------------------------------------------------------------------------------------
    น่าจะมีแผ่นเก็บกระดูก ทำเจดีย์บัญจุตามแบบไทย ก็ไม่พบ อาจไม่มี หรือ มีอาจหายไป
    ได้เดินดูบริเวณวัดศรีพุทธาราม ที่สร้างไว้แล้วเข้าอุปสมบท
    มุมวัดตวันออกเฉียงเหนือ มีฐานอิฐใหญ่อย่างที่ถ่ายรูปมา
    ซึ่งอยู่ในบริเวณบ้านนายช่วงนั้น แน่ใจว่าพระเจ้าไทยสรวงฟ้า
    คงจะสร้างพระเจดีย์บัญจุอัฎฐิสมณบริขารตรงนั้น อันเป็นหลักฐานได้อีกแห่งหนึ่ง
    a.2245687.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0232.jpg
      scan0232.jpg
      ขนาดไฟล์:
      333.1 KB
      เปิดดู:
      712
    • scan0151.jpg
      scan0151.jpg
      ขนาดไฟล์:
      580 KB
      เปิดดู:
      1,123
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  9. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2252923.jpg
    ขุนศรีอาทิตย์อธิราชเจ้า ขุนหญิงศรีจอมฟ้า ทั้งคู่มีส่วนสั้น คูบัว สัดส่วนของขอมเฉยซึ่งสั้น
    ขุนหมวกยอดทำเป็นจอม จะเห็นเป็นรูปดวงตะวันขึ้น
    มีรูปพระสงฆ์หรือพระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิอยู่ ประทับยืน ณ อู่ มือขวาแบ = เปิดเผยมือซ้ายคว่ำกุมอู่ คือ อู่หิน
    ขุนหญิง หมวกยอดวงขอบฟ้า หน้ามีรูปพระยืน มือทั้งสองกำ ยืนตรงยืนกำบังป้องกันปกครองเมืองแทน
    ทั้งคู่แต่งมีฉลององค์ มีขอบคอ และขอบแขนชัดเจน หญิงทำเสื้อจะเห็นปิดรัดส่วนหมด กับชุดนี้ เป็นเครื่องชุดทะเลใต้ชวา ซึ่งเข้ามาสมัยขุนหญิงเฆื่อม

    a.2252924.jpg
    ขุนต้นเทียนไทย ขุนใส่หมวกยอดเหมกุดั่น ตำแหน่งขุนรอง (อุปราช)มือขวาถือลูกและสายลูกดิ่ง มือซ้ายถือคันเหวี่ยง สายสะพายลูกหน้าไม้ ที่เอวใส่เกราะแผงเครื่องยศขุนศึก
    ขุนหญิงไม่ไผ่ งอบยอดขุนหญิง ส่วนช่วงบนแสดงตอนผ้าห่มหลุดเปลือย ไม่มีขอบคอขอบแขน มือขวาถือหอยสังข์ มือซ้ายถือดอกบัวตูมเครื่องยศขุนหญิงต่างเมือง เอวคาดไถ้ช่อนุ่งถุงลายลง คือ ไทยลว้าภาคกลาง จะเห็นส่วนล่างยาว


    ..........................สุวัณณภูมิ เมืองทอง..............................

    .............สมัยศรีอาทิตย์อธิราช ขุนต้นเทียนไทย พระนางไม้ไผ่.......


    ......ต้นบันทึกชื่อเมืองอู่หิน (พิมาย) และใช้ พ.ศ. ว่าปีไทย............

    ศรีอาทิตยอธิราชเจ้า เมืองสุวัณณภูมิ เมืองทองไทย ขึ้นนั่งเมืองปีมเมีย พุทธกาลอันนฤพาน ๓๗๓
    หม่อมนางจอมฟ้า เมียใหญ่ เมียกลาง นางหงสทอง เมียน้อย นางหอทอง มีนางน้องสาวชื่อ ดวงขวัญงาม อีกหนึ่ง

    ศรีอาทิตย ตัวอธิราช เมืองทองสุวัณณภูมิ ลุพุทธกาล ๓๗๕ เมียใหญ่มีลูกชายชื่อ ไทยฟ้าสาง นางหงสทองท้องในปี ๓๗๕ นางหอทอง มีหญิงชื่อ ดวงขวัญใจ
    หงสทอง มีลูกญิงพร้อม ชื่อ ศรีหงสทอง เมียสนม
    ดวงขวัญงาม มี ศรีขวัญฟ้า จานเมื่อ ๓๗๙

    ศรีอาทิตยอธิราช กรุงสุวัณณภูมิ เมื่อปีไทย ๓๙๕ ขุนภูมิธนันเขมน ทุ่มศึกใหญ่กูสู้ ฆ่าขุนตายแล้ว ขุนต้นเทียนไทย เอาศึกไปขแม เมื่อยึดได้ให้คลองอยู่ (ไป)ในปี๔๑๐
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0233.jpg
      scan0233.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.1 KB
      เปิดดู:
      953
    • scan0234.jpg
      scan0234.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.3 KB
      เปิดดู:
      1,313
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  10. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    จารึกอีสาน ที่อู่หิน พิมาย พนมรุ้ง

    จเลล หรือ เจลล ได้ที่พิมาย

    กรรมกรขุดนำมาบอกว่า พบใต้ถนนตะวันออก อยู่ข้างล่าง
    พวกนั้นว่าไม่ใช่หนังสือจึงทุบทิ้งไปมาก
    ที่มาถึง ๑๐๐แผ่นเศษ นำตัวอย่างมาทำแบบดูตัวลาย

    ทั้งสองแผ่นนี้ นำมาลงเฉพาะหน้า๑

    a.2256475.jpg


    -ศรีอาทิตยอธิราช
    เจ้า
    -ถึง เมือง อู่ หิน
    -เมื่อปีไทย๓๙๖ วัน
    -ขึ้น ๒ (ค่ำ) เดือน ๖

    (พิมาย แต่ก่อนชื่อเมืองอู่หิน ชื่อไทย)


    a.2256476.jpg
    -แม่ นาง จำเริญ
    -เมีย ใหญ่ เจลลฃุน
    -ถวายสังฆทานตลสงฆ
    -นิรชธัมโม แม่นาย
    -ฃุนอำนวยอุทิสส

    สังเกตจะเห็นลายท่านใส่เข้าไป "เจลล" แต่ที่เขียนว่า "แฉลล"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0235.jpg
      scan0235.jpg
      ขนาดไฟล์:
      392.4 KB
      เปิดดู:
      847
    • scan0355.jpg
      scan0355.jpg
      ขนาดไฟล์:
      377.8 KB
      เปิดดู:
      1,602
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2017
  11. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    a.2256479.jpg
    พระพุทธรูป๒องค์ กับ รูปสิงโตนั่ง
    อยู่พิพิธภัณฑ์วัดสุทธิจินดา เป็นของเดิมอยู่ที่นั่น ซึ่งมีชื่อเก่าว่า่ วัดท่อและวัดท่า
    ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(อ้วน) เก็บไว้ จึงเหลือให้พบ
    และมีรูปขุนชายขุนหญิงหรือขอม ซึ่งมีบันทึกบอกว่า เดิมจากพิมาย


    a.2256480.jpg
    ปางสมาธิประทับเรือนยอด เรือนยอดทำเฉพาะซุ้มหน้า


    ปางสมาธิประทับเรือนยอด
    ที่ด้านบน เอาน้ำลูบเห็นตัวลายสือ
    ที่ด้านข้างทั้งสอง ก็มีลายสือ

    a.2256481.jpg
    พระพุทธรูปมารวิชัย (ทำจากดินแร่)
    มีจารึกว่า ทองผกายเจ้าแม่เมืองฟ้า (เมืองฟ้า เป็นคำชาวโคราช)
    พุทธลักษณะใกล้สุโขทัย ว่าได้จากพิมาย
    ที่สำคัญคือ จารึกและคำเมียงพา

    a.2256482.jpg
    สิงโตหินทราย ในพิพิธภัณฑ์วัดสุทธิจินดา
    ที่ฐานมีลายสือว่า "สุวัณณภูมิ"


    a.2256483.jpg
    แผ่นหินทรายใหญ่ มีจารึก "พนมรุ้ง"
    วางไว้ใกล้กำแพงแลง ด้านเหนือปราสาทหินพนมรุ้ง อยู่ในที่ร่ม
    ลายที่เขียนนี้ ไม่ใช่วิธีเขียนปัจจุบัน
    มองเห็นเป็น พ.น.ม. อยู่ล่างรุ้งก็เห็น ร. เส้นขีด บรรทัด สระอุ อละ ง. คาบเส้น
    ทั้ง"รุ้ง"นี้ อีสานเขาออกว่า"ฮุ้ง" เมื่อเห็นเขียนจารึก "รุ้ง" จึงแน่ใจว่า ช่าง หรือขอมไทย ไปทำและจารึกไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0237.jpg
      scan0237.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.5 KB
      เปิดดู:
      713
    • scan0238.jpg
      scan0238.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.8 KB
      เปิดดู:
      696
    • scan0239.jpg
      scan0239.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.1 KB
      เปิดดู:
      986
    • scan0240.jpg
      scan0240.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.1 KB
      เปิดดู:
      792
    • scan0241.jpg
      scan0241.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.2 KB
      เปิดดู:
      965
    • a.2256479.jpg
      a.2256479.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.5 KB
      เปิดดู:
      83
    • a.2256480.jpg
      a.2256480.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.8 KB
      เปิดดู:
      90
    • a.2256481.jpg
      a.2256481.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.1 KB
      เปิดดู:
      103
    • a.2256482.jpg
      a.2256482.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.1 KB
      เปิดดู:
      99
    • a.2256483.jpg
      a.2256483.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.2 KB
      เปิดดู:
      95
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2017
  12. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ๑)ศรีอาทิตย อธิราชเจ้า เถิงเมือง อู่หิน เมื่อปีไทย ๓๙๖ วันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน๖
    ศรีอาทิตย ตั้งขุนต้นเทียนไทย เปนขุนคนศึกไทย ตั้ง ณ วันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปี วอก พุทธสาสนกาลล่วงปีไทยนี้ถึง ๔๐๙

    ต้นขุนศึกใหญ่ ยกศึกเรือ บก ถึงขแม เดือน ๔ ปี ๔๑๐ ลูกสาวขุนภูม ชื่อไม้ไผ่ ออกเรือ(มาจะ)สู้ ขุนศึกจับนางได้ตัว เมื่อต้นขุนจับตัวไม้ไผ่ ไม่ห่มผ้า เว้า (ว่า) ฆ่าพ่อ เมีย(พ่อ) ควนฆ่าลูก (ด้วย)
    ต้นขุนว่า มิฆ่าผู้หญิง เอาผ้าห่มให้

    ต้นเทียนไทย ไม้ไผ่ เข้าหาองค์อธิราช สุวัณณภูมิ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๙ ปี ๒๑๐
    องค์อธิราชให้ไม้ไผ่(แก่) ขุนเทียน
    ขุนเทียนไทย ขึ้นขุนต้นผัวนางไม้ไผ่ เมื่อเดือน ๑๐ ขึ้น ๖ ค่ำ ปี ๔๑๐
    เปนใหญ่ในเมืองพนมดินขแม
    ----------------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)แผ่นนี้เป็นจำนวนแผ่นหนึ่งในประมาณ ๘๐ แผ่น ซึ่งมีตัวอ่านง่ายและอ่านออก ได้จากพิมาย ซึ่งยืนยันชื่อเดิมว่า เมืองอู่หิน และภาษาที่พูด ตัวหนังสือที่ปรากฎล้านเป็นไทย คงมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นแขกสมัยอีสานวรมัน ซึ่งยกกองทัพเข้ายึดเมืองอู่หิน ประมาณกันว่า พ.ศ.๑๒๐๐ กว่าๆ เมืองอู่หินจึงถูกเปลี่ยนเป็นชื่อว่า พิมาย วิมาย ทั้งกเบื้องจารที่มีจำนวนอย่างน้อน ๔๐๐ แผ่น ได้มาไม่หมด และยังไม่ได้อ่านให้หมด มีแผ่นหนึ่ง ลงรักและทองผง มีลายเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า แม่นางจำเริญ เมียใหญ่ เจลลขุน ถวายสังฆทาน ซึ่งให้รู้อีกว่า เจลล คือ จเลล เจริญ คือไทยนี่เอง
    แผ่นกเบื้องเหล่านั้น มีเขียนเล่าเรื่องให้รู้อย่างนี้ ย่อๆ

    พระเจ้าศรีอาทิตยอธิราชเจ้า ในปี พ.ศ.๓๙๖ ทรงยกกองทัพยึดขแม เดินทัพไป
    ช้างทรงตื่นพาไปถึงเมืองอู่หิน พบ ขุนใญเจริญ ได้บอกว่า ขแมมีแต่ญิงครอง
    ไปรบเสียเชิงแล้วชวนให้อยู่ ได้ช่วยกันสร้างอู่หินต่อ สร้างวัดเจริญธรรม
    ขุนใญชวนให้สร้างคน นำเจ้าหญิงงามไม้ มาให้และขอลูก กับให้นำหญิงมาให้ทหารช่วยกันสร้างคนเพื่อเพิ่มพลเมือง
    เจ้าหญิงงามไม้ มีพระธิดาคนหนึ่ง ชื่อ ศรีเจริญ ได้ให้ทหารช่วยทำนา ปลูกข้าว ให้ขอมสอนหนังสือ และทำกเบื้องจารเรื่องเก่าตั้งแต่สมัยปู่สังกะสาย่าสังกะสี
    ได้พักอยู่ถึง ๓ ปีกว่า กลับ พ.ศ.๔๐๙ มาทะนุบำรุงทะแกล้วทหาร เตรียมเสบียงอาหารพร้อมแล้ว จึงทรงตั้งขุนต้นเทียนไทย ให้ยกกองทัพไป ขุนใญให้ขุนเจริญเด่นฟ้า ผู้เป็นลูกชายไปช่วย เสร็จศึกแล้วกลับไปจารึกเรื่องไว้ - ดู ไม่ตรงกัน

    แม่นางไม้ไผ่ ยกศึกทั้งเรือ บก ออกรับศึกไทย แล้วนางขึ้นบก
    พอกองทัพบกไปถึง ขุนต้นเทียนไทยขึ้นม้า นางออกด้วยขี่ม้าเช่นเดียวกัน
    พอถึงเผชิญหน้า ขุนต้นเทียนใช้น่าไม้มือ ธนูมือ ยิงม้า ซึ่งม้ากระโดดสลัดนางตกผ้าห่มหลุดปลิวไป พระนางจึงตกไปนอนเปลือยอก ขุนต้นเทียนกระโจนลงไปตะครุบตัวจับได้
    นี่ไม่ได้รบกันเลย เมื่อเป็นเช่นนั้น ขุนต้นเทียนไทยได้ตัวพระนางแล้ว จึงบอกว่า ให้ยอมแล้วไม่ทำอะไร แล้วนำพระนางมาถวายพระเจ้าอธิราช

    ประวัติศาสตร์ของขะแม (เขมร) ซึ่งคุณเสงี่ยม รัตนกาญจน ได้แปลและเรียบเรียงจากหนังสือ Angkor by Rt. Hon Malcolm MacDonald พิมพ์ ค.ศ.๑๙๕๘ (พ.ศ.๒๕๐๑)มีว่าดังนี้

    ผืนแผ่นดินที่เรียกกันว่าประเทศเขมรในปัจจุบันนี้ ตั้งแต่เดิมเรียกกันว่า แคว้นฟูนัน (Funan) ต่อมาเป็น อาณาจักร เจนละ (Chenla) และในที่สุด เป็นประเทศกัมพูชา

    ประวัติศาสตร์ของเขมร(ขะแม)
    เริ่มต้นก่อนสมัยฟูนันเล็กน้อย ตกในราวๆต้นคริสต์ศตวรรษ(พ.ศ.๕๐๐ เศษ)
    มีตำนานกล่าวไว้ว่า
    ในสมัยนั้น ผืนแผ่นดินแห่งนี้
    มีชนชาวท้องถิ่นที่ยังป่าเถื่อนอาศัยอยู่ ต่อมามีพ่อค้านักเผชิญโชคชาวอินเดียน
    แล่นเรือใบข้ามทะเลมายังฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชียนี้
    ได้นำเอาวัฒนธรรมของอินเดีย ซึ่งเจริญรุ่งเรืองกว่า เข้ามาเผยแพร่
    และสืบพันธุ์ผสมกับชนท้องถิ่นแถบนี้
    จนได้ตั้งตนเป็นเจ้าผู้ครอบครองแว่นแคว้นต่างๆ

    ดำเนินเรื่องว่า มีมาณพชาวอินเดียผู้หนึ่งมีนามกรว่า โกณฑัญญ(Kaundinya เขียนตามที่ท่านผู้รู้เขียนในภาษาไทย สังเกตว่า ท่านพยายามเขียนให้เป็นแขก แต่ตามปกติ ชาวยุโรปมักมีอักษร และสำเนียงภาษาไม่ตรงกับเสียงจริงๆของชาวอาเชีย จึงอาจจะเป็น คอนฑินญะ ขุนดินยะ ขุนเฑียนยะ หรือ ขุนเทียนยะ ก็ได้)

    คืนวันหนึ่ง นอนหลับ เกิดนิมิตฝันว่า ได้ไป ณ เทวาลัยสถานแห่งหนึ่ง
    เทพยดาที่สิงสถิตอยู่ที่นั้นได้ประทานธนูให้เป็นอาวุธประจำตัว
    แล้วบอกให้ลงเรือเดินทางไปทางทิศตวันออกนั้นเถิด จะได้ประสพโชคลาภอย่างมหาศาล

    เช้าวันรุ่งขึ้น โกณฑัญญ ยังจดจำเหตุการณ์ตามความฝันได้เป็นอย่างดี จึงไปยังเทวสถานที่ปรากฎในฝัน ก็ได้พบคันธนูและกระบอกลูกศรพร้อม อยู่ที่ลาน ณ เทวสถานนั้น
    เขามีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง
    จึงรวบรวมข้าวของลงเรือสำเภากางใบแล่นออกสู่ทะเลหลวง
    กระแสลมได้พัดพาเรือแล่นข้ามอ่าวเบงกอลผ่านช่องแคบมะละกา อ้อมเกาะหนึ่ง
    ซึ่งบัดนี้เรียกว่า สิงคโปร์ ตัดข้ามทะเลจีนตอนใต้
    ไปถึงยังฝั่งผืนแผ่นดินแห่งแหลมอินโดจีน

    เขาได้พบนางพญาโจรสลัดผู้เป็นใหญ่ปกครองท้องถิ่นละแวกนั้น มีนามว่า วิลโล่ลีฟ(Willolaef คงไม่ใช่ชื่อจริงอาจเขียนสำเนียงไม่ถูก จึงแปลชื่อเป็นความหมายในภาษาของตน วีลโล่ลีฟ หมายความถึง ใบไม้ที่มีลักษณะอ่อนไหว เช่นใบไผ่)
    กำลังขับพลโจรสลัดเข้าปล้นสดมภ์ โจมตีพ่อค้าสำเภาชาวต่างชาติอยู่

    โกณฑัญญะ ได้เข้าช่วยเหลือฝ่ายพ่อค้า เขาได้ใช้ลูกธนูอันเปนศรวิเศษประกาย ยิงเรือโจรสลัดทะลุถึงสองแคม
    นางพญาโจรสลัดตื่นตระหนกตกใจพ่ายแพ้
    และยอมรับนับถือพละกำลังอันกล้าแข็งของมาณพหนุ่มนั้น

    อันการดำเนินชีวิตประจำวันของชนชาวท้องถิ่นในยุคนั้น
    ก็มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ตามธรรมชาติ สรีระร่างอันงดงามของนางพญาโจรสลัดจึงเปลือยเปล่า เธอไม่นิยมปกปิดร่างกายด้วยใบไม้หรือจับปิ้ง
    โกณฑัญญะเห็นทีท่าส่อว่าเป็นคนป่าเถื่อนน่ารังเกียจ
    ก็แจกจ่ายผ้าผ่อนให้แก่เชลยของเขา และสอนให้รู้จักนุ่งห่มพันกาย

    ในที่สุด ทั้งสองก็บังเกิดความเสน่หารักใคร่ได้เศกสมรสเป็นคู่ครองกัน
    สืบสกุลวงศ์เป็นเจ้าผู้ครองแคว้นต่อๆกันมา จนปรากฎเป็นอาณาจักรหนึ่งในแหลมอินโดจีน ชื่อว่า ฟูนัน

    ที่ฝรั่งเขียนเล่าเรื่องไว้นั้น จะเห็นว่ามีข้อค้านกันในตัวเอง เช่น เรียกพวกนั้นว่าป่าเถื่อนไม่รู้กระทั่งนุ่งห่มผ้า แต่ก็เล่าว่า มีเรือใช้ออกทะเลได้ รู้จักควบคุมนักรบ ปล้น รู้จักสินค้า และชาวต่างประเทศชาติ ถ้าพวกนั้นเป็นคนป่าเถื่อนแล้วจะรู้จักกระทำได้หรือ จะเห็นว่าพวกนั้นมีความรู้เจริญถึงต่อเรือใช้ออกทะเลได้ รู้จักวิธีการรบและควบคุมกันเป็นหมู่กำลังรบ รู้จักทิศทางเรือเดินในทะเลหลวงฯลฯ
    ถ้าไม่มีความรู้ จะออกเรือเที่ยวปล้นสดมภ์ได้หรือ นั่นแหละที่คัดค้านกัน มองเห็นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  13. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ..................................สุวัณณภูมิ เมืองทอง................................
    ...........................สมัยขุนไทยฟ้าสาง สร้างไชยศึก......................

    ไทยฟ้าสาง เมื่อนั่งเมือง พุทธกาลล่วง ๔๑๕ เมียชื่อนางปรีดีธิดา เมียน้อยชื่อ นางดารินทิรา เมียหลังชื่อ นางแม่มณีช่อฟ้า หญิงเมืองเถือมทอง

    ไทยฟ้าสาง พุทธกาล ๔๑๖ ตัวนางปรีดีธิดา มีลูกชายชื่อ ไทยเริงฟ้า นางดารินทิรา คลอดญิงชื่อ นารินทิรา ปีมโรง ๔๑๗ นางมณีช่อฟ้า มีชายชื่อ ไทยช่อฟ้า ขึ้น ๔ ค่ำ วันอี่(เสาร์) ปี ๔๒๐

    ไทยฟ้าสาง สุวัณณภูมิ พุทธกาลลุเข้า ๔๒๖ ศึกชวก มลก ถึงแดนสุวัณณภูมิ
    ตั้งกองศึกสู้ที่ (เหนือ) ธัมมราช เดือน ๕ ปีพุทธกาล ๔๒๖
    เมื่อตั้งสู้สิ้น ๑ ปี ชวก มลก(แตก)หนี
    พุทธกาลปี ๔๒๘ ให้ซ่อมเมืองธัมมราช ตั้งที่ทำพูมโตนด(เป็นที่) ชนะชวก มลก ชื่อ ไทยชนะ(สร้างวัดเผาทหารตาย) มีเจดีย กุฏิ มีอุโบสถ (คงมี พระพุทธรูป วงล้อ ธัมมจักก) ให้ชื่อ (๑)วัดไชยศึก ปีพุทธกาล ๔๒๘

    ไทยช่อฟ้า น้องไทยเริงฟ้าผู้พี่ตนตาย พุทธกาล ๔๒๘ เมื่อพี่ (ไทยเริงฟ้าอาจได้รับบาดเจ็บในสงครามนั้นแล้ว) ตาย เราเป็นลูกชายใหญ่แทนพ่อ

    ไทยช่อฟ้า เมื่อครองเมือง พุทธกาล ๔๔๓ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ แทนพ่อเมือง สุวัณณภูมิไทยนี้

    ไทยช่อฟ้า สุวัณณภูมิ เมียใหญ่ชื่อ ยอดก่องแก้ว เมียน้อยชื่อ ศรีสะเมือง ปี๔๔๕ เดือน ๙ ขึ้น ๑ ค่ำ ยอดก่องแก้วออกโลก(ลูก)ผู้ชายชื่อ ไทยยอดฟ้า
    แล้วนางศรีสะเมือง มีญิง ปี ๔๕๒ เดือน ๖ ขึ้น ๕ ค่ำ ชื่อ ศรีทองงาม
    -------------------------------------------------------------------------------------
    (๑) ไทยชนะ กับ ไชยศึก ชื่อคล้ายกับไชยา อาจจะเรียกว่า ไชย ยาวไปหน่อยเลยเป็นไชยาศึก ไปก็ได้ ถ้าจริง ก็เป็นอนุสาวรีย์ชนะศึก หรือไชยศึกอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีนามว่า "ไชยา"
    ส่วนสิ่งก่อสร้างต่างๆก็สร้างเพิ่มเติมคราวหลังได้ต่อมา

    ณ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๐๙ มีผู้นำอิฐใหญ่และชิ้นส่วนหินปูนดำเขียวเป็นวงล้อธรรมจักร ลวดลายไม่ค่อยสวยงามนัก อันแสดงว่าฝีมือช่างไม่ชำนาญ มาจากวัดมหาธาตุไชยา เฉพาะอิฐ มีลายสือไทยลว้าเขียนไว้ว่า "ไชยศึกสุวัณณภูมิ" จึงแน่ใจว่า ไชยศึก คือ ไชยา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  14. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ไทยยอดฟ้า เมื่อเดิมอยู่เมืองเถือมทอง ไปถึง เขมน พูไท สิบสองพันตงกก ยุนาน ปิงโป
    ไทยยอดฟ้า มาถึงในพุทธกาลเข้า ๔๖๒ สุวัณณภูมิ
    มาหาพ่อไทยช่อฟ้า เห็นนาง ผิวใยฟ้า(สวยงาม) พาไปเป็นเมีย

    (ปีที่ ไทยยอดฟ้า ครองเมือง ยังไม่พบ)

    ไทยยอดฟ้า พาผิวใยฟ้า สู่เมืองเถือมทอง ป้าดารินทิรา ตามหาตัวมา พ่อเรียกไปหาแม่
    พาเข้าหาพ่อ (พ่อ)ว่า ลูกบ้า ชอบพอรักกันมันไม่แจ้งผู้ใหญ่ (ทำ)อย่างนี้มิชอบ ให้เรียกผิวใยฟ้ามาแต่งงาน ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๔๖๔

    ไทยเฟื่องฟ้า สุวัณณภูมิ เมื่อคลองเมือง ขึ้นพุทธกาล ๔๙๐
    นางเมียใหญ่ชื่อ แก้วดวงตา เมียน้อยชื่อ กอรวงฟ้า
    พุทธกาล ๔๙๑ นางแก้วดวงฟ้า ออกลูกชายเมื่อวัน ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อตวันแสงส่อง ให้ชื่อว่า ไทยร่วงฟ้า

    ไทยร่วงฟ้า คลองเมืองสุวัณณภูมิ พุทธกาล ๕๒๕ เดือนสี่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ
    เมียชื่อว่า ฉายล"ม เมียน้อยชื่อ นางทองผกาย
    ไทยร่วงฟ้า นางเมียใหญ่ ฉายลไม มีลูกชายชื่อ ร่วงจอมฟ้า เมื่อปีพุทธกาล ๕๒๖ เดือน ๗ ขึ้น ๕ ค่ำ

    ร่วงจอมฟ้า สุวัณณภูมิ ครองแทนพ่อขุนไทยร่วงฟ้า พุทธกาลนิพพานได้ ๕๕๒
    เมียใหญ่ชื่อ ทองขวัญมา ลูกสาวขุนเมืองอิน
    น้องเมียเป็นเมียกลาง ชื่อ ไม้ทองงาม เมียหลังชื่อ ผ่องผิวงาม ลูกสาวตามีพ่อขุนเมืองเถือมทอง
    มีสาวสนมแม่นางกำนัน ๔๕ คน[
    ในปีพุทธกาล ๕๕๓ เมียนางผ่องผิวงามท้อง ออกลูกชาย เมื่อวันขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อตวันร่วงขอบฟ้า เมื่อขึ้นชื่อ (จึงให้ชื่อว่า) ร่วงจ่างฟ้า
    นางไม้ทองงาม มีญิง ชื่อ พวงไม้ทอง
    ทองขวัญมา มีลูกญิง ชื่อ ขวัญเมืองทอง (เมียใหญ่มีทีหลัง)

    ร่วงจ่างฟ้า สุวัณณภูมิ เมื่อครองเมืองทอง(สุวัณณภูมิ) พุทธกาล ๕๘๑
    ในปีนั้นเย้มนางเริงรำพา ลูกสาวเมืองเถือมทอง
    เมื่อเดือน ๕ ขึ้น ๑๐ ค่ำ แต่งงานปีกุนนี้ (พ.ศ. ๕๘๒)
    เริงรำพา หาน้องสาว ชื่อ นางบัวงามตา เมาเป็นเมียน้อย เมื่อปีขาน พุทธกาล ๕๘๙

    ร่วงจ่างฟ้า กรุงสุวัณณภูมิ เริงรำพา คลอดลูกญิง ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปี ๕๘๒
    ให้ชื่อว่า เรืองสีทอง
    ท้องอีก มีญิง ชื่อ เรืองตัวทอง ในเมื่อปี ๕๘๕

    ร่วงจ่างฟ้า เปนคนออกคำสั่งให้ ขุนสีพรหมหาญฟ้า เปน ขุนเพชรพริบพรีธำรง ผ้วนางพร้อมถนอมสี ขุนเมืองผู้ขอมา(ยัง)สุวัณณภูมิ
    ร่วงจ่างฟ้า (ตั้ง)สีพรหมหาญฟ้า เป็น ขุนเพชรพริบพรีธำรง เมื่อพุทธกาล ๕๘๔ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
    ขุนเพชร ไปพร้อมคน ๒๐ ในวันขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๙ ปีพุทธกาล ๕๘๔

    ร่วงจ่างฟ้า สุวัณณภูมิ เมีย เริงรำพา มีลูกชาย วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีพุทธ(นิพพาน)กาล ๕๘๖
    ร่วงจ่างฟ้าให้ชื่อ ร่วงเลืองฟ้าเมืองไทย มีงานฉลอง ๗ วัน
    บัวงามตา มีญิง วันอา (อาทิตย) เดือน ๓ ขึ้น ๒ ค่ำ ปี ๕๙๐ ชื่อ รื่นบัวทอง

    ร่วงเลืองฟ้า ลูกขุนร่วงจ่างฟ้า พ่อเมือง เมื่อครองเมือง พุทธนิพพานกาล ๖๒๕
    มีเมีย ชื่อนางเสงี่ยมทองงาม เมียน้อยชื่อ นางพวงทอง เมียหลัง ชื่อ เรืองผกายทอง
    มีสนมนาง แม่นางสนม ๒๐ คน สาวสนมผู้อยู่คอยงาน มี ๓๕ คน
    เขียนพุทธกาล ๖๓๖ มเสง

    เมื่อรกา ๖๒๘ เมียแม่เสงี่ยมทองงาม มีลูกชายชื่อ ร่วงเลอฟ้าสุธัม
    เมื่อออกมามีงูเลื้อยรอบอู่ แม่เอาลูกบำบวง งูเอาคอวางข้างตีนแล้วไปไม่เหนมาอีก เมื่อวันอา (อาทิตย) ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๙ ปีรกา พุทธกาลนิพพาน ๖๒๘
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  15. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ร่วงเลืองฟ้า สุวัณณภูมิ มาลุป่าเจลนหาน
    เมื่อขุนเมืองเมื้อพกอ ยอมให้เมืองพร้อมกันส้างเมืองเจลน วัดเจลน
    เมื่อขุนเมื้อพกอ โอย (สาว) ชื่อ นางทองห้อมตัว นางท้องมีลูกชายชื่อ ร่วงห้อมฟ้า ในปี ๖๕๒

    ร่วงเลืองฟ้า มาอยู่สุวัณณภูมิ ดูหน่อต้นโพธิ อันปุณ เอาปลูกไว้
    นิมนตธัมมานันโท ภิกขุ ๕ องค สู่ เจลน เมื่อปลูกโพธิแล้ว สงฆกำหนด นิมิต สีมา ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปี ๖๕๓

    ร่วงเลอฟ้า(สุธัม) เมื่อคลองเมืองพ่อ ถอปีพุทธกาล ๖๗๓
    เมียชื่อ นิมมารดี
    เพิ่มสุวัณณมณี สาวเมืองอู่ทอง เมื่อเปนเมียกลาง ในปีมแม พุทธกาล ๖๗๔
    นางมาลุดี เปนเมียน้อย เมื่อปีมโรง เดือน ๙ วันขึ้น ๑๑ ค่ำ (พ.ศ.๖๘๓ เขียน)เมื่อปีฉลู วันอี่ขุนนางสาว (วันพฤหัสบดี) พุทธกาล ๖๙๒

    ร่วงเลอฟ้า เมื่อปีวอก ๖๗๕ เมียชื่อ นิมารดีท้องคลอดลูกชาย เดือน ๘ ชื่อ ร่วงเมืองฟ้า ในวันอุ่น ขึ้น ๑ ค่ำ
    เมื่อวัน ๘ ค่ำ เดือน ๑ ปีรกา พุทธกาล ๖๗๖ เพิ่มสุวัณณมณี คลอดคน ชื่อ มณีเอกเมือง
    มาลุดี เมื่อปีกุน พุทธกาล ๖๗๘ มีผู้หญิง วันอาง ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ชื่อ มณีเฟื่องฟ้า
    เขียนในปีพุทธกาล(ล่วงแล้ว)๖๙๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  16. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ร่วงเลอฟ้าสุธัม สุวัณณภูมิ ยิน ชาวก ยกศึกมาถึงธัมราช ให้หาขุนแผนหาญชน ขุนพลเชิงไทย เป็นขุนศึก
    ร่วงเลอฟ้าสุธัม ตั้งนิมมารดี เปนแม่อยู่หัวเมือง วันขึ้น ๕ ค่ำ เดือนอ้าย
    ให้น้อง ขุนเลืองรานณรง (เป็นขุน) คุ้มเมืองทอง ปีพุทธกาล ๖๗๕

    ร่วงเลอฟ้าสุธัม เมื่อ ชาวก คิดผิดแขง ขุนสุยาขัลลตู ยกกองศึกตี มลัย ถึง ตพานทอง ว่า มาตีสุวัณณภูมิ
    ร่วงเลอฟ้า เอาศึกสู้ที่พูเขา ๓๐๐ ยอด(๑) พุทธกาล ๖๗๕ ขึ้น ๓ค่ำ เดือนยี สู้กัน ๒ ปี สุยาลตูหนี ไทยชนะคนชาวก

    ร่วงเลอฟ้า สุวัณณภูมิ ยกศึกเข้าไปทวยคนชาวไม้ ตั้งชื่อ แหลมไทย ทลายชาวกทั่ว เอาขุนสุยามาขังไว้
    ลุถึงปีไทย ๖๗๗ ให้ขุนสุยา เป็นขุนให้นำคนชาวป่าในเกาะไนขัลลอ ไปถึงโปลา ไนไตลนี (เข้า) ๒ ปีมา (สุวัณณภูมิเมืองทอง ปี)๖๗๘

    ร่วงเลอฟ้า สุวัณณภูมิ เมื่อลุปี พุทธกาล ๖๗๘ มีชาวเมือง ตปาลา มาเพื่อนเมืองเว้าว่า ต้นขุนไวรุกณรง ผู้เป็นต้นเชื้อสืบมา ๓๐๐ ปีก่า(กว่า)
    หัวหน้า ชื่อ โซซ้อวา
    นายเรือ ชื่อ ฮาร้ามีนี ขุนเมืองตปาลา (ปัจจุบัน) ชื่อ นนลรอ (คงอ่านว่า นนละรอ
    หนังสือสมัยนั้นไม่ค่อยมีสระอะ ถ้ามีมักเขียนเป็นขีดๆ อ่าน ะ ก็ได้ อ่าน า ก็ได้)เขียนสือตอบ (ไป) ปี ๖๗๘
    ---------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)เขาสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อมานานแล้ว
    และมีบริเวณใหญ่ ทางทะเลมีเกาะ ทางบกเป็นที่ราบ
    จึงเป็นชัยภูมิเหมาะแก่สงครามทั้งทางบกและทางน้ำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  17. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ร่วงเลอฟ้า สุวัณณภูมิ รับโซซ้อวา มือต้น(๑)
    ตปาลา ให้หาขุนยินระย่อ(๒) เอาเรือ ๖ ลำ คน ๖๐ ไปตปาลา ถึง ไนขัลลอ โปล้า ปีพุทธกาล ๖๘๐
    เมื่อขุนยินระย่อ ไป ตปาลา เอาเมีย นางเรืองหน(ไปด้วย)
    ออกเรือเดือนยี่(ปี ๖๘๐)
    อู่ (อยู่) ตปาลา(๓) ๑ปี
    ไป ไนขัลลอ(๔) อู่(อยู่) ๑ ปี
    ไปตลอด โปล้า(๕) ๓ ปี รอดหน ไนไตลนี(๖) ๒ ปี
    กลับมา ปีพุทธกาล ๖๘๗

    ---------------------------------------------------------------------------------------
    (๑) มือต้น สมัยนี้เรียกเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม ภาษาจีนว่า ติ้งซิวส่าย ปัจจุบันชื่อ ติดค้วงไต้ส่าย แปลว่า เอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม โบราณว่า ติ้งซิวส่าย ติ้ง = คุม, ซิว = มือ, ส่าย = รับใช้ คงรวมความว่า มือรับใช้ควบคุมมา แต่มีคำว่า มือ ตรงกับคำชื่อ ไทยโบราณ

    (๒) ขุนยินระย่อ สมัยนั้น คงเป็นชื่อแม่ทัพเรือ เพราะดูชื่อแล้ว คงเป็นชื่อนักรบ

    (๓) มินดาเนา ฟิลลิปปินส์

    (๔)นิวกีนี

    (๕) โปล้า โปลา ออสเตรเลีย

    (๖)ไนไตลนี จีนเรียกว่า ไน่เซลั้ง คือ นิวซีแลนด์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  18. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ร่วงเลอฟ้า(สุธัม) สุวัณณภูมิ
    เมื่อกลับถึงเมืองไทย แล ไปถึงในเมืองชำเลียง พบขุนฟ้าเมือง นางหงสศรีเมือง อยู่ประจำ ครองอยู่)
    ร่วงเลอฟ้า เหนตัว แก้วกลินฟ้า ชอบ ขุนพ้ออวยมอบให้ อยู่ช่วยซ่อมวัดมหาธาตุ ๒ ปี มีลูก ชื่อ ร่วงแก้วฟ้า

    ร่วงเลอฟ้า(สุธัม) สุวัณณภูมิ อยู่เมืองแล้ว ไป อยู่ชำเลียง
    ขุนฟ้าเมืองพ่อ(ตา) ตายปี ๖๙๘ ร่วงแก้วฟ้า ยังเลก
    ร่วงเลอฟ้า อยู่ชำเลียง เมืองพ่อเมีย สุวัณณภูมิให้ร่วงเมืองฟ้า คลองแทน(คุมอยู่ เพื่อเรียบร้อย)

    ร่วงเลอฟ้า(สุธัม) พุทธกาล ๖๙๘ พา แก้วกลิ่นฟ้า มาเที่ยวเมืองทองสุวัณณภูมิ ข่าวพ้อนางต้องตาย เดือน ๘
    ร่วงเลอฟ้าสุธัม ตั้ง ร่วงเมืองฟ้า เป็น ขุนพ่อเมืองสุวัณณภูมิ ตั้งนิมมารดี เปนแม่อยู่หัวเมือง แต่วันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ พุทธกาล ๖๙๘

    ร่วงเมืองฟ้า สุวัณณภูมิ (คลองเมือง) เมื่อขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ พุทธกาล ๖๙๘
    เมียใหญ่ชื่อ นางมิ่งมาเมือง
    นางถนิมดวงแก้ว เปนเมียน้อย
    ร่วงเมืองฟ้า(สุวัณณภูมิ) เมื่อ มิ่งมาเมือง มีท้อง คลอดลูกชาย แม่ขานชื่อลูกว่า ร่วงทรงเมือง เหนดี พุทธกาล ๗๐๐(จึงเอาชื่อนั้น ตั้งชื่อลูกชายว่า ร่วงทรงเมือง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  19. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ขอมทองเพลง แล เมีย มาลาวดี เมีย ทองใบศรี สร้างวัดตรงหน้า เขางู
    ลงหลักวัด วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีพุทธกาล ๗๑๐
    ขอมทองเพลง หาหินเขางู เขาแดง ทำล้อธัมจัก (น่าจะมีกวางหมอบ)พุทธนิมิต(๑)คู่นั่ง(หัน)หน้า(ตวัน) ออก-ตก นิมิต มาแล้ว หันกลับไป
    -----------------------------------------------------------------------------------------
    (๑)พุทธนิมิตคู่ หรือ พระพุทธรูปคู่ ประทับนั่งหันพระพักตร์ทางตะวันออกองค์หนึ่ง ทางตะวันตกองค์หนึ่ง หรือประทับหันหลังให้กันนี้ เมื่อก่อน ได้เห็น เที่ยวถามความหมายไม่มีใครรู้ ทั้งไม่มีในจังหวัดอื่นที่เคยเที่ยวไปดูแล้ว
    แต่พระพุทธนิมิตคู่ ณ วัดเพลงมาลาธาตุนี้ เวลานี้ไม่ปรากฎ
    สืบถามไม่ได้ความว่าอยู่ที่ไหน เมื่อก่อนมหาสงครามครั้งที่ ๒
    เคยเห็นปรากฎอยู่กลางดงหญ้าปล้องที่วัดเพลงนี้ เมื่อมาพบ กเบื้องจารจึงรู้ความหมาย
    เวลานี้ ยังพอหาพระพุทธรูปนิมิตคู่ดูได้ ๓ แห่ง คือ ๓-๔ คู่
    อยู่ที่หน้าพระปรางค์วัดมหาธาตุ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเข้าใจว่า ขุนหาญบุญไทย สร้างไว้
    อีกคู่ ๑ อยู่ในพระอุโบสถ วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ ตำบลอ่างทอง จังหวัดราชบุรี
    อีกคู่ ๑ อยู่ในพระอุโบสถวัดโคกหม้อ อีกคู่ ๑ ที่วัดหลุมดิน ณ อุโบสถเก่า แต่เวลานี้ องค์หนึ่งถูกย้ายมาอยู่วัดบรมนิวาส
    ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ย้ายมา ว่าอีกองค์หนึ่งนำไป ณ วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี
    อีกคู่หนึ่ง เดิมประทับนั่งหันหลังให้กัน องค์ละข้าง บนโคกหน้าเขางู เวลานี้ อยู่ในพระอุโบสถวัดสัตตนาถปริวัตร เป็นพระประธานองค์หนึ่ง
    สถิตอยู่ ณ วิหารหน้าพระอุโบสถวัดนั้นองค์หนึ่ง
    ท่านเจ้าคุณพระพุทธวิริยากร(จิตฉันโน)นำมาประดิษฐาน

    และในพระอุโบสถวัดจินดาวัฒนาราม คือ วัดไทยเดิม อำเภอบางคณฑี จังหวัดสมุทรสงคราม ก็มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปคู่ประทับนั่งหันหลังหากัน
    เวลานี้ องค์หนึ่งถูกย้ายไปสถิตอยู่ ณ วัดกำแพงใต้ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีเท่าที่บันทึกไว้นี้เพื่อเป็นหลักฐานในกาลต่อไป เพราะได้ถูกโยกย้ายไปบ้าง ขนเอาไปขายบ้าง คงจะหมดหลักฐานที่พบเห็นได้ในไม่ช้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  20. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ร่วงเมืองฟ้า ประสูติ พ.ศ. ๖๗๕ ครอง ๖๙๘
    มีเมีย ๒ ชื่อ มิ่งมาเมือง ถนิมดวงแก้ว
    มิ่งมาเมือง มีลูกชายชื่อ ร่วงทรงเมือง
    มีขอมเมืองชื่อ ขอมทองเพล ได้น้องสาวมิ่งมาเมือง ชื่อมาลาวดี และมีอีกนางชื่อ ทองใบศรี

    ขอมทองเพลงเป็นทั้งช่างและเพลง จึงหัดเมียทั้งสอง เป็นตัวพระและตัวนาง
    และให้สอนลูกเพลงมาก ได้เที่ยวเล่นเพลงกระทั่งมีเงินทองมาก
    ได้สร้างวัดที่หน้าเขางู ไปทูลขอชื่อพระราชทานคู่ว่า วัดเพลงมาลาธาตุ

    เพราะเป็นช่างและเพลง จึงออกแบบพระพุทธรูปต่างๆ เช่น พระหันหน้าออก-ตก
    อันหมายความว่าเสด็จมาแล้วหันกลับไป
    กับสร้างพระพุทธรูปและครูเพลง
    จะเห็นพระรัสมีและเซิดใบสี กับท่าเดิน กับลีลาใกล้เคียงกัน ลงไว้ว่า พ.ศ.๗๑๐

    ครั้นร่วงทรงเมืองครอง พ.ศ. ๗๒๒ ได้สร้างวัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ สร้างอุโบสถวงล้อพุทธองค์คู่ออกตก
    นิมนต์เถรธัมมทัตโตกำหนดนิมิตสีมา พ.ศ. ๗๓๕
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...