ประวัติ พระอรหันต์ผู้ไร้ชื่อเสียง หลวงปู่ทุย ฉันทกาโม

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ลูกพ่อลิงดำ, 29 พฤศจิกายน 2009.

  1. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]
    ประวัติ พระอรหันต์ผู้ไร้ชื่อเสียง หลวงปู่ทุย ฉันทกาโม วัดป่าสักภัทดีภูริทัต จังหวัดเพชรบูรณ์<o></o>

    "พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบผู้ไม่ยอมนอนถึง 7 เดือน นั่งสมาธิ 15 วัน 15 คืน โดยไม่ฉันน้ำแม้แต่กาเดี่ยว จนบรรลุธรรมเป็นพระขีณาสพผู้หมดซึ่งอาสวะกิเลศทั้งปวง สมกับเป็นศิษย์พระตถาคตอย่างแท้จริง"
    <o></o>
    เรื่อง โดย ภักดี ภูริ<o></o>
    เรียบเรียง โดย แสงส่องใจ<o></o>
    คำนำ<o></o>
    ผู้เขียนได้มีโอกาศรู้จักองค์หลวงปู่หลังจากหลวงปู่สิ้นไป 8-9 ปีโดยในครั้งนั้นพระอาจารย์ที่ผู้เขียนรู้จักได้ชวนผู้เขียนไปเที่ยวและธุดงค์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อไปรู้จักข้อวัตรปฏิปทาในการบิณตบาตรการถวายฉันภัตตาหารให้แก่พระภิกษุสงฆ์และความลำบากเพื่อฝึกให้ข้าพเจ้าเป็นคนดีในสังคมและรู้ข้อวัตรการปฏิบัติในสายกรรมฐานท่านได้เล่าปฏิปทาเกี่ยวกับองค์หลวงปู่ทุย ฉันทกาโม ว่า"เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ"และท่านได้เล่าข้อวัตรขององค์ท่านทำให้ผู้เขียนเลือมใสในองค์ท่านจึงสนทนากับพระอาจารย์และตัดสินใจที่จะไปพักที่วัดป่าสักภัทดีภูริทัตและอาจจะแวะไปกราบหลวงปู่คำสุขที่ หนองไผ่ เพราะอยู่ไม่ไกลกันนัก หลังจากออกเดินทาง ได้ไปพักวัดพระมหานิกายและอีกคืนได้ไปพัก วัดป่าสักภัทดีภูริทัตไม่มีใครรู้จักข้อวัตรขององค์หลวงปู่มากนักเนื่องจากเป็นพระมาอยู่ใหม่และองค์หลวงปู่ก็สิ้นไปนานแล้วเจ้าอาวาสก็เปลี่ยนมาหลายองค์ พระอาจารย์สัมฤทธิ์ที่หลวงปู่ท่านนำมาอยู่ด้วย ก็ลาสิกขาไปนานแล้วจึงไม่มีใครทราบรายละเอียดขององค์หลวงปู่เลย"ทราบว่าวัดนึ้คุณภักดี ภูริเป็นคนสร้างเพื่อถวายแก่พระศาสนาและได้นิมนต์องค์หลวงปู่มาจำพรรษาหลังจากนั้นผู้เขียนพระอาจารย์ได้กราบพระพุทธรูปในศาลาและกราบรูปหล่อองค์หลวงปู่พร้อมทั้งรูปภาพขององค์หลวงปู่ ดูจากรูปท่านเป็นพระที่มีเมตตามากเสียดายผู้เขียนไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้"หลังจากนั้นได้อ่านประวัติขององค์หลวงปู่ที่ทางไว้เก็บไว้ ( โดยคุณภัทดีเป็นคนเขียนไว้ และเคยลงในโลกลี้ลับ โลกทิพย์ โดยใช่นามปากกว่า "ภัทดีภูริ"นักเขียนโลกทิพย์ที่เขียนในสายหลวงปู่เทพโลกอุดรและเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดองค์หลวงปู่เป็นคนเผยแพร่ประวัติหลวงปู่คนแรก)ยิ่งเพิ่มความเลื่อมใสมากขึ้นโดยเฉพาะการปฏิบัติของท่านเป็นการปฏิบัติแบบอุกาฤกล่าวคือ"ไม่กลัวเป็นกลัวตาย ยอมถวายชีวิตแด่พระพุทธเจ้าเพื่อมรรคผลนิพพานเพียงถ่ายเดี่ยวเป็นการปฏิบัติแบบเอาชีวิตเข้าแลกอดนอนอด
    อาหารเพื่อประหารกิเลศให้อยู่หมัดโดยองค์หลวงปู่ไม่ยอมนอน 7 วัน 7 คืน พัก 1 คืน เป็นเช่นนึ้ตลอด 7 ปี เต็มมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ท่านเร่งความเพียรจนไม่นอนถึง 7 เดือน และนั่งภาวนา 15 วัน 15 คืน จนสำเร็จธรรม" ยากนักที่จะหาพระปฏิบัติได้อย่างงี้ และได้รับคำชมเชยจากหลวงปู่ศรี มหาวีโร ว่า "ให้มันได้อย่างงี้สิการปฏิบัติธรรมผมบวชพระมานับร้อยนับพันรูปมีน้อยองค์ที่จะปฏิบัติได้อย่างงี้ ก็มีแต่ท่านเท่านั้นแหละ ที่ปฏิบัติได้อย่างงี้ นี่ซิ ! จึงจะเรียกว่าเป็นศิษย์ตถาคตอย่างแท้จริง" นับว่าองค์ท่านเป็นพระแท้พระดีเลยทีเดี่ยว ยากนักที่หลวงปู่ศรี มหาวีโร จะชม องค์หลวงปู่ศรีท่านคงรู้ว่า หลวงปู่ทุยท่านไม่ใช่พระธรรมดาสามัญ เป็นพระที่ควรกราบไหว้ เพราะเป็นพระสุฐิปันโน ท่านจึงเผยภูมิธรรมขององค์หลวงปู่ทุยให้รู้ หลังจากอ่านจบทำให้ผู้เขียนรู้สึกโสมนัสดีใจเป็นอย่างมากหลังจากนั้นได้กลับจากวัดป่าสักภัทดีภูริทัตเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ 1 ปี ภายหลัง ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักคุณภักดี ด้วยสาเหตุหนึ่ง ทำให้ทราบข้อวัตรหลวงปู่มาเพิ่มเติมและได้ขอประวัติหลวงปู่แต่คุณภักดี กล่าวว่า หมดแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีเมตตาและน่าเคารพมาก ผู้เขียนได้ใคร่ครวญพิจารณาอยู่นานจึงคิดจะเผยแพร่เกียรติคุณขององค์หลวงปู่เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักปฏิบัติภาวนาทั้งหลายรวมไปถึงข้อวัตรการปฏิบัติแบบสัขเลขปฏิปทา "การปฏิบัติแบบหลุดพ้น" การเขียนในครั้งนึ้ผู้เขียนจะนำรายละเอียดที่ได้รับข้อมูลมาจากหลายๆที่และที่สำคัญคือ หนังสือโลกลี้ลับ ที่คุณภักดีภูริเคยเขียนบทความเอาไว้ ร่วมไปถึงข้อมูลบางอย่างที่คุณภักดีภูริเคยกล่าวไว้ จึงขออนุโมทนาใน ณ. ที่นึ้ ดังนั้นจึงจะนำประวัติและปฏิปทาหลวงปู่มาเผยแพร่เพื่อเป็นเกียรติคุณแด่องค์หลวงปู่และเผยแพร่การปฏิบัติแบบหลุดพ้น ต่อไป

    ด้วยเมตตาธรรม

    แสงส่องใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤศจิกายน 2009
  2. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]

    ชาติกำเนิด

    หลวงปู่ท่านเกิดเมื่อ วันแรม 1 ค่ำ ตรงกับวันอังคาร เดือนมกราคม พ.ศ. 2457 ณ.หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จังหวัดมหาสารคาม โดยมีคุณพ่อบัว โนนยโส และ คุณแม่หงอก โนนยโส เป็นผู้ให้กำเนิด มีฐานะปานกลาง ยึดอาชีพทำไร่ทำนา จวบจนอายุ 16 ปีได้บรรพชาต่อมาเมื่ออายุครบบวชได้ทำการอุปสมบทครั้งแรกที่วัดบ้านหนองพวง อำเภอประทาย จังหวัด นครราชสีมา ได้หนึ่งจำพรรษาก็ได้ลาสิกขิมามีครอบครัว จวบจนอายุได้ 62 ปี
     
  3. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]

    หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ ผู้สอนพระกรรมฐานและด้านการภาวนาให้แด่หลวงปู่ทุย ฉันทกาโม

    อุปสมบทครั้งที่ 2


    "หลวงปู่บวชเมื่ออายุมากแล้ว เสียเวลาไปตามกระแสกรรม ต้องรีบเร่งปฏิบัติเพราะเวลามีน้อย"



    ท่านเห็นควรแก่วาระจึงได้เข้าอุปสมบท อีก ครั้ง ณ วัดศรีจันทร์ อำเภอวังสะพุง จังหวัด เลย โดยมีพระครูโกวิทย์เป็นพระอุปัชฌาย์และได้รับฉายาว่า ฉทฺกาโม หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้วท่านได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมภาวนาอย่างไม่กลัวตาย โดยมีพระเดชพระคุณ หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ แห่งวัดถ้ำมโหฬาร(ปัจจุบันจำพรรษาที่วัดผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด) พระอริยะเจ้าลูกศิษย์หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นผู้อบรมในด้านการปฏิบัติภาวนาชนิดเอาชีวิตเข้าแลกอดนอนอดหารเพื่อประหารกิเลศให้อยู่หมัดชนิดไม่ยอมนอน 7 วัน 7 คืน พัก 1 คืน เป็นเช่นนึ้ตลอด 7 ปีเต็ม จนการปฏิบัติธรรมภาวนาของท่านก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุผลที่ท่านบอกผู้เขียน(ภักดีภูริ)ว่า "หลวงปู่บวชเมื่ออายุมากแล้ว เสียเวลาไปตามกระแสกรรม ต้องรีบเร่งปฏิบัติเพราะเวลามีน้อย" นั่นคือเหตุผลที่หลวงปู่ยอมตายถวายชีวิตกับการเร่งทำความเพียร จนมีอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งท่านเร่งทำความเพียรจนไม่นอนถึง 7 เดือน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤศจิกายน 2009
  4. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ติดตามอ่านตอนต่อไปพรุ่งนึ้น่ะขอรับ
     
  5. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]

    พบ...พระภิกษุสูงใหญ่ชื่อโพธิ์

    คืนหนึ่งในขณะที่กำลังดึกสงัดหลวงปู่ทุยได้นั่งสมาธิภาวนาอยู่นั่นเองก็ได้ปรากฏมีพระรูปหนึ่ง รูปร่างขาว สูงใหญ่มหึมา ได้มาปรากฏกายอันใหญ่โตมโหฬารต่อหน้าหลวงปู่ทุย พระรูปนั้นได้เดินเข้ามาหาหลวงปู่ทุย แล้วได้ทำการนั่งคุกเข่าลงติดกับพื้นเพื่อให้หลวงปู่ทุยปีนป่ายขึ้นไป หลวงปู่ทุยได้ปีนป่ายไต่หน้าขาพระรูปนั้นขึ้นไป จนไปหยุดอยู่ที่สายรัดประคดของพระรูปนั้น มือของหลวงปู่ทุยทั้งสองข้างก็ได้เกาะสายรัดประคดแน่นแล้วชโงกศรีษะออกมา ด้วยว่าความสูงใหญ่ของพระรูปนั้นทำให้หลวงปู่ทุยสามารถยื่นศรีษะออกมาได้เพียงส่วนเดี่ยว ส่วนอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายไม่สามารถโพล่พ้นออกมาได้หน้าอกแนบติดอยู่กับสายรัดประคดแล้วพระรูปนั้นก็ได้ลุกขึ้นโดยที่หลวงปู่ทุยยังเกาะติดอยู่ที่สายรัดประคดนั้นแล้วเดินจงกรม เดินไปเดินมา วนไปวนมา พระรูปนั้นได้เดินจงกรมให้หลวงปู่ทุยดูในขณะที่หลวงปู่ทุยก็ยังเกาะติดอยู่กับสายรัดประคด การเดินจงกรมของพระรูปนึ้ได้เดินวนไปวนมาอยู่เป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าเป็นจำวนวนกี่รอบ นานจนไม่สามารถนับได้ ต่อมาก็ได้มาปรากฏเสียงดังก้องกังวานออกมาจากลำคอของพระรูปนึ้ ส่งมาตามโสตประสาทการรับฟังเสียงของหลวงปู่ทุย ว่า "พอแล้วน่ะพอแล้วน่ะลูก" แล้วพระรูปนึ้ก็ได้เดินนำพาหลวงปู่ทุยมาส่งยังกุฏิ แล้วพระภิกษุผู้มีรูปกายสูงใหญ่รูปนั้นก้ได้มาหยุดแล้วนั่งคุกเข่าลงกับพื้นหน้ากุฏิที่หลวงปู่ทุยใช่เป็นสถานที่ภาวนา แล้วหลวงปู่ทุยก็ได้คลายมือที่จับสายรัดประคดออก แล้วค่อยๆไต่ลงมาตามหน้าตักของพระรูปนั้นจนถึงพื้นดิน แล้วหลวงปู่ทุยก็ได้เห็นความอัศจรรย์ โดยพบว่าเท้าของพระรูปนึ้มีขนาดใหญ่โต ยาวนูน เด่นชัดสวยงามได้สัดส่วนทั้งสองเท้าหลวงปู่ทุยจึงได้น้อมกราบแทบเท้าของพระรูปนั้นด้วยความตื้นตันใจ ศรัทธายิ่งนักที่ได้ผลเท้าของพระรูปนึ้ จึงได้เอ่ยวาจาไปว่า "หลวงปู่เอย ! หลวงปู่มีชื่อว่าจังได๋ ข่าน่อยอยากฮู้จักชื่อ" พระรูปนั้นก็ได้ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดังก้องกังวาลว่า "พ่อชื่อโพธิ์น่ะ" หลังจากพระรูปนึ้ได้ตอบหลวงปู่ทุยแล้ว ท่านก็ได้หายวับจากไป ทึ้งแต่ความสงสัยให้หลวงปู่ทุยได้ครุ่้นคิด หลวงปู่ทุยจึงได้มานั่งสมาธิพิจารณาดูจากรูปร่าง ลักษณะหน้าตา ผิวพรรณ ที่ท่านได้มาโปรดคนในนิมิตครั้งนึ้หลวงปู่ทุยก็มั่นใจอย่างเป้นมั่นเป็นเหมาะว่า "ภิกษุรูปนึ้ที่ได้มาแสดงบุพพนิมิตแสดงกายโปรดท่าน จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจาก..."

    * สอบถามลูกศิษย์ที่ท่านบอกว่า หลวงปู่ไม่ได้บอกเพียงแต่กล่าวว่าเป็นพระอรหันต์ในป่าเท่านั้น

    ขอแถมท้ายด้วย สมเด็จพระญาณสังวร กล่าวถึง เรื่องของหลวงปู่มั่น

    มีเรื่องเล่ากันนานปีมาแล้ว ว่าท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมาหาเถระ

    ท่านเคยเล่า ว่าคืนหนึ่งขณะท่านปฏิบัติอยู่ในป่า ใจร่ำร้องกราบพระพุทธบาทสมเด็จพระบรมศาสดา ขอประทานพระมหาเมตตาให้ท่านพระอาจารย์ท่านรู้วิธีปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความสมปรารถนาได้พ้นทุกข์ และสมเด็จพระบรมศาสดาก็ทรงพระเมตตาเสด็จลงให้ท่านพระอาจารย์ได้เฝ้าพระพุทธบาทรับประทานวิธีปฏิบัติธรรมไปสู่ความไกลกิเลสได้สิ้นเชิง

    ท่านพระอาจารย์ท่านเล่าว่าสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จลงให้ท่านได้เฝ้าพระพุทธบาท ได้เห็นพระพุทธองค์ดั่งได้เฝ้าพระองค์จริงขณะทรงดำรงพระชนมายุสังขารอยู่ฉะนั้น

    ไม่ทราบว่าท่านพระอาจารย์ท่านบอกหรือเปล่า ว่าท่านทีความปีติโสมนัสเพียงไรในบุญวาสนาของท่านที่ไม่น่าเป็นไปได้ในชีวิตผู้ใดแต่ได้เกิดแก่ชีวิตท่านพระอาจารย์ท่านแล้วจริงโปรดประทานพระมหากรุณาให้ท่านพระอาจารย์ท่านรู้วิธีเดินจงกรม วิธีปฏิบัติจิตใจ

    จนในที่สุดท่านพระอาจารย์ท่านก็ได้เป็นดั่งองค์แทนศิษยานุศิษย์ผู้สามารถปฏิบัติธรรมดำเนินถึงความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง ได้เป็นพระอาจารย์สายปฏิบัติธรรมองค์สำคัญที่สุดอยู่ในยุคนี้ เป็นที่รู้กันอยู่ในบรรดาผู้ใส่ใจในการปฏิบัติธรรมทุกถ้วนหน้า

    เรื่องนี้ ที่ท่านพระอาจารย์ท่านได้เล่าไว้ ไม่เพียงทำให้ท่านได้เป็นอาจารย์ผู้สอนธัมมะสำคัญแก่ศิษยานุศิษย์มากหลาย แต่ทำให้ได้ความเข้าใจที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลย

    ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ว่าเมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จอยู่ในเมืองพระนิพพานแน่ ยังทรงได้รู้ได้เห็นได้ยินได้ฟัง ที่ควรแก่การได้รับพระพุทธเมตตา เช่นท่านอาจารย์มั่นท่านนั่นเอง ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่นท่านควรที่สุดแน่นอนแล้วที่จะได้รับพระมหากรุณา ผู้ปฏิบัติธรรมหรือผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายย่อมเห็นด้วยกับความจริงนี้แน่นอน.

    : แสงส่องใจ วิสาขบูชา ๒๕๕๐
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มีนาคม 2010
  6. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    เดี่ยวมาเขียนต่อพรุ่งนึ้น่าะขอรับ
     
  7. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]

    (หลวงปู่ศรี มหาวีโร พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ทุย)

    เจ็ดเดือนไม่ได้หลับเป็นเพราะบุญหรือบาป

    การปฏิบัติภาวนาในทุกๆวันหลวงปู่จะต้องเดินขึ้นเขาสู่ถ้ำใหญ่หลังกลับมาจากการบิณฑบาตรและฉันจังหันเสร็จ หลวงปู่ก็จะไปนั่งภาวนาเดินจงกรมตั่งแต่ เช้าจดเย็น เป็นอย่างนึ้ทุกๆวันมิได้ขาดอยู่ภายในถ้ำ การปฏิบัติในลักษณะเช่นนึ้ของหลวงปู่ทุยเป็นการปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง เอาชีวิตเข้าแลกด้วยความองอาจกล้าหาญ พรรษานึ้เป็นพรรษาที่ 3 ของหลวงปู่ ในวันหนึ่งเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่หลวงปู่ทุยกำลังนั่งสมาธิภาวนาพิจารณาธรรมวิปัสสนาญาณอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวดุจดั่งมีผู้คนนำระเบิดนับสิบลูกมาทำการระเบิดภูเขาในขณะที่จิตหลวงปู่สงบอยู่นั้นเอง ความสั่นสะเมือนก็รุนแรงยิ่งขึ้นประหนึ่งดังถ้ำจะถล่มทลาย แผ่นดินสั่นสะเทือนไหวหวั่น อากาศสงบนิ่ง เสียงที่หลวงปู่ได้ยินนั้น ดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้องกึกก้องบนท้องฟ้านับสิบครั้งรวมกัน ฝนตกกับมีลมพายุกระหน่ำในท้องทะเลนับสิบๆลูกก็ไม่ปาน แล้วเหตุการณ์นั้นก็สงบลง หลวงปู่ก็ได้นั่งสมาธิจนจิตตกลงสู่เอกัคคตารมณ์ จนในเวลาประมาณ 05.00 น. หลวงปู่ก็ได้ถอนจิตออกจากสมาธิ แล้วเดินลงจากเขาด้วยความสงสัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนึ้ ท่านก็ได้มาถามพระภิกษุที่อยู่ปฏิบัติธรรม ณ กุฏิเชิงเขา "เมื่อคืนนึ้พวกท่านได้ยินเสียงอะไรบ้างไหม กระผมได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวดังกึกก้องไปหมด" พระภิกษุที่อยู่เชิงเขาต่างก็พากันบอกหลวงปู่ว่า "ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ก็เป็นปกติธรรมดา" แล้วหลวงปู่จึงเล่าเหตุการณ์ที่ได้ประสบจากการปฏิบัติภาวนาเมื่อคืนนึ้ให้หมู่คณะฟัง นับแต่นั้นมา หลวงปู่ทุย ฉัทกาโม ก็เกิดความปิติอิ่มเอิบตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก กิจวัตรที่เคยทำเช่นการบิณฑบาตร ก็ยังปฏิบัติตามปกติ แต่ทว่าในการ ฉันภัตตาหาร นับตั้งแต่ได้ประสบเหตุการณ์ในครั้งนึ้ หลวงปู่ทุยกลับมีความรู้สึกว่าข้าวก็ไม่อยากฉัน น้ำก็ไม่อยากฉัน การจำวัดก็ไม่อยากจำวัดตามปกติ แต่ทว่าจิตใจนั้นกลับมีความรู้สึกกระหายใคร่อยากจะปฏิบัติภาวนาแต่ฝ่ายเดี่ยว นับตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ทุยจึงได้แต่เดินจงกรม และนั่งสมาธิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 ธันวาคม 2009
  8. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    อ่านแล้วเชื่อบ้าง เฉยๆบ้าง ตามหลักกาลามสูตร เพราะเคยกราบนมัสการปฏิบัติธรรมกับท่านคลาดวัดถ้ำบางเตย จ.พังงา ศิษย์หลวงตามหาบัว ซึ่งโลกทิพย์หรือโลกลี้ลับเคยลงประวัติท่านอย่างอัศจรรย์ ท่านบอกอย่าเชื่อนักแถมขำๆด้วย ในประวัติหลวงปู่ เรื่องไม่นอน ๗ เดือน อดอาหารด้วย เรื่องนี้พระพุทธองค์ทรงไม่ให้ทำตรึงเกินไป คือไม่ดีต่อสุขภาพ อีกทั้งบวชอายุ ๖๒ ปีแล้วด้วย เกรงมีคนเอาอย่างแล้วร่างกายไปไม่ไหวเด้อ ทางสายกลางของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อยุ่ที่บุญ กรรม ที่สะสมมาแต่อดีต และความแข็งแรงสมบูรณ์ของบุคคล ขอบคุณจขกท.ที่นำมาเผยแพร่ครับ เชื่อว่าท่านบรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่งครับ เอวัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...