ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** กระซิบ ****

มองเห็นธรรม
เข้าใจสัจจะธรรม
มีสัจจะเป็นผู้นำ
เข้ายุคศิวิไลซ์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แฉซาอุดีฯ เคลียร์น่านฟ้าเปิดทางยิวบุกโจมตีอิหร่าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 มิถุนายน 2553 17:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

กองกำลังพิเศษของซาอุดีอารเบีย​

เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์เผย ซาอุดีอาระเบียทำการทดสอบปิดระบบป้องกันทางอากาศ เพื่อให้เครื่องบินรบของอิสราเอลใช้น่านฟ้าในการระเบิดโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้

แหล่งข่าวด้านกลาโหมของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเผยว่า ซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้เครื่องบินของอิสราเอลบินผ่านไปได้ และได้ดำเนินการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องบินของซาอุดีเองจะไม่ถูกรบกวน หรือไม่มีใครถูกยิงร่วงลงมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

อิสราเอล ซึ่งยกอิหร่านให้เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ ปฏิเสธที่จะยกเลิกมาตรการทางการทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้เตหะรานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอิหร่านยืนกรานว่ามีจุดประสงค์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับพลเรือนเท่านั้น

เดอะไทมส์ยังระบุว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมองอิหร่านเป็นภัยคุกคามของภูมิภาค ได้ตกลงยินยอมให้อิสราเอลใช้น่านฟ้าทางตอนเหนือของประเทศเป็นเส้นทางการบินเพื่อย่นระยะทางในการบุกจู่โจมอิหร่านทางอากาศ

นอกจากนี้ แหล่งข่าวในซาอุดีอาระเบียยังเสริมว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปภายในราชอาณาจักรว่าจะยอมให้อิสราเอลใช้น่านฟ้าเป็นทางผ่าน โดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นใดๆ

ที่มา Around the World - Manager Online http

 

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แพทย์ แผน พุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค ตอน 2


มาแล้วครับ หมอเขียว ใจเพชร กล้าจน แพทย์แผนพุทธ 0 บาทรักษาทุกโรคตอนที่ 2 จากรายการ" ค้น ค้นคน " ว่าด้วยวิธีการ รักษาโรคด้วยตัวเอง ตอนนี้พิเศษนะครับ สำหรับท่านที่สนใจสูตรหน้าเด้ง ด้วยตัวยาธรรมชาติ 0 บาทจริงๆ ครับ อีกทั้งยังมี วิธีถอนพิษต่างๆ ที่เป็นบ่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บในร่างกายของเราด้วยวิธีการแพทย์แผนดั้งเดิมแบบ ต่างๆ น่าสนใจมากครับ ^ ^

<object width="480" height="385">


<embed src="http://www.youtube.com/v/WeJ-ElQEOKY&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

<object width="480" height="385">


<embed src="http://www.youtube.com/v/-Mj0ERhcNVw&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

<object width="480" height="385">


<embed src="http://www.youtube.com/v/Jpu5qT1D94s&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

<object width="480" height="385">


<embed src="http://www.youtube.com/v/js42RMTQ378&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></object>

My Inspiration For Life: แพทย์แผน พุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค ตอน 2
<a class="timestamp-link" href="http://myinspiration4life.blogspot.com/2010/06/0-2.html" rel="bookmark" title="permanent link"><abbr class="published" title="2010-06-15T08:26:00-07:00"></abbr>

 

ประเทศไทยมีภูเขาไฟ จริงๆ ครับ แต่เป็นภูเขาไฟที่ดับไปหลายล้านปีแล้ว ทางภาคอีสาน

ยักษ์หินที่หลับใหล จะตื่น <<< นี่เหละ ฮะ

จะเชื่อไม่เชื่อประการใด ก็หมั่นทำความดี กันไว้
เพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถช่วยเราได้ และติดตัวเราไป

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฤทธิ์พายุฤดูร้อนบ้านเรือนสวนยางชาวตรังเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 มิถุนายน 2553 20:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ตรัง - ชาวบ้านอำเภอรัษฎา และอำเภอห้วยยอด ได้รับความเดือดร้อนจากฝนตกกระหน่ำ และพายุฤดูร้อนพัดหมุน พัดพาหลังคาบ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลัง รวมทั้งสวนยางพาราของราษฎรเสียหายหลายพันต้น สร้างความเดือดร้อนให้ราษฎรอย่างหนัก

วันนี้ (15 มิ.ย.) หลังจากเกิดเหตุฝนกระหน่ำและพายุฤดูร้อนพัดหมุนในพื้นที่ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายสมพร สถิตย์ภูมิ นายอำเภอรัษฎา นายสัญญา ภิรมณ์พร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ และเจ้าหน้าที่ อบต.

ทั้งนี้ สภาพที่เห็นนั้นพบว่า ต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก เช่น ต้นตะโกยักษ์ ต้นสะเดาเทียม โดยเฉพาะต้นยางพาราอายุหลายปีที่อยู่ระหว่างการกรีดให้ผลผลิตต่อเจ้าของสวน ถูกลมพายุพัดหมุนโค่นล้มระเนระนาดแบบชนิดถอนรากถอนโคนอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน บางต้นล้มทับปิดทางถนน เจ้าหน้าที่ อบต.ต้องรีบดำเนินตัดเลื่อย เพื่อเปิดทางเดินรถ

บางต้นล้มทับสายไฟฟ้า ส่งผลไฟฟ้าดับ ทาง อบต.ก็เร่งประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาซ่อมแซมให้จนแล้วเสร็จ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีราษฎรได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1,5,8,9, และหมู่ที่ 12 โดยเฉพาะหมู่ที่ 1 บ้านคลองมวน และบ้านหนองปรือ ใกล้ที่ทำการ อบต.หนองปรือได้รับความเสียหายมากที่สุด

ทั้งนี้ ในส่วนของบ้านเรือนของราษฎรก็ถูกพายุพัดหมุนจนทำให้กระเบื้องมุงหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยถูกพัดปลิวแตกเสียหายได้รับความเสียหายรวมประมาณ 70 หลังคาเรือน ราษฎรเดือดร้อนประมาณกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เสียหายบางส่วน แต่ที่ถูกลมพายุพัดหมุนถอนหายไปทั้งหลังเหลือเพียงพื้นปูนซีเมนต์โล่งเตียนจำนวน 1 หลังคือ บ้านของนายศานนท์ จันทร์ปาน อายุ 55 ปี ซึ่งอยู่หลังตลาดคลองมวน หน้าโรงเรียนบ้านหนองปรือ

เมื่อสำรวจต้นไม้ขนาดใหญ่ทั้งหมดที่ถูกลมพายุพัดโค่นล้มชนิดถอนรากถอนโคน ประกอบด้วย ต้นตะโกยักษ์ 1 ต้น ต้นสะเดาเทียมประมาณ 1,000 ต้น ที่ชาวสวนนิยมปลูกไว้ เพื่อสำหรับการจำหน่ายเนื้อไม้ และปลูกไว้เพื่อให้ลูกหลานใช้สำหรับการสร้างบ้านที่อยู่อาศัย และต้นยางพาราที่อยู่ระหว่างการกรีดเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 2,000 ต้น ที่เสียหายมากที่สุดคือสวนของ นายจรินทร์ เต็งเฉี้ยง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/2 หมู่ที่ 1 โดยมีสวนยางพาราอายุกว่า 20 ปี ทั้งหมด 14 ไร่ ซึ่งยังกรีดเก็บเกี่ยวผลผลิตอยู่ทุกวันสร้างรายได้ให้วันละประมาณ 2,000 บาท แต่ทั้งนี้ถูกพายุพัดโค่นเสียหายไปประมาณ 8 ไร่ ซึ่งเกินครึ่งจึงต้องดำเนินการขอทุนสงเคราะห์ใหม่

ด้านนายสัญญา ภิรมณ์พร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านว่า เบื้องต้นทาง อบต.ตั้งงบประมาณจำนวน 50,000 บาท ได้ดำเนินการสั่งซื้อกระเบื้องมุงหลังคา มาแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยจำนวน 1,000 แผ่น สังกะสีจำนวนกว่า 200 แผ่น เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น เนื่องจากหลังเกิดฝนตกกระหน่ำ และพายุพัดหมุนทำให้หลังคาเรือนเสียหายชาวเดือดร้อนไม่มีที่นอน จึงต้องเร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน ส่วนความเสียหายอื่นๆ กำลังอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลเพื่อเร่งช่วยเหลือต่อไป

ด้านนายสมพร สถิตย์ภูมิ นายอำเภอรัษฎา กล่าวว่า มีจำนวน 3 หลังคาเรือนที่ถูกลูกเห็บพัดถล่มลงมาทำให้หลังคาเรือนเสียหายด้วย ด้านความช่วยเหลือจากทางอำเภอ ตนได้เร่งประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงเก็บข้อมูลเพื่อช่วยเหลือราษฎรแล้ว หากเป็นด้านพืชสวนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกษตรลงพื้นที่ทำการสำรวจแล้วเช่นกัน ซึ่งจะต้องช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป และได้รายงานให้ทางจังหวัดได้รับทราบแล้ว

อย่างไรก็ตามในการเกิดฝนตกกระหน่ำ และพายุฤดูร้อนพัดหมุนถล่มสวนยางพารา และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของราษฎรในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสมคิด เกื้อกูล หัวหน้าส่วนโยธา องค์การบริการส่วนตำบลหนองช้างแล่น อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ว่า ในพื้นที่หมู่ที่ 1 บางส่วน และหมู่ที่ 6 ตำบลหนองช้างแล่น ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับบ้านคลองมวน หมู่ที่ 1 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา มีบ้านเรือนถูกพายุพัดหมุนทำให้หลังคาบ้านเรือนของราษฎรได้รับความเสียหายประมาณ 30 หลังคาเรือน ราษฎรเดือดร้อนประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่เสียหายบางส่วน

ที่เสียหายทั้งหลังเนื่องจากถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับจำนวน 2 หลัง ซึ่งทาง อบต.ก็ได้เร่งดำเนินการสั่งซื้อกระเบื้องมุงหลังคาจำนวนกว่า 500 แผ่น และสังกะสีประมาณ 50 แผ่น มาเร่งแจกจ่ายให้ความช่วยเหลือไปแล้ว ด้านความเสียหายของสวนยางพาราประมาณ 400 ต้น ต้นสะเดาเทียมประมาณ 50 ต้น ส่วนความเสียหายอย่างละเอียดกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับประชาชนต่อไป และได้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอห้วยยอดเข้าดำเนินการสำรวจ เพื่อช่วยเหลือด้วย

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000082645

 

Storm Surge ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม !!​

​

​

​

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">รู้จักกับ Storm Surge </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top width="70%" colSpan=2>Written by มติชน </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top colSpan=2>Thursday, 21 August 2008 14:02 </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>การเกิด storm surge เกิดได้จากหลายๆตัวแปร แต่พอสรุปสั้นๆได้ดังนี้</TD></TR></TBODY></TABLE>

1. จะเกิดขึ้นพร้อมกับพายุโซนร้อนหรือพายุไต้ฝุ่นจะมีผลเฉพาะภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยหรือ(บางส่วนของภาคตะวันออกแต่น้อยมาก)
2. บริเวณที่เกิดจะต้องเป็นทะเลเปิด น้ำลึก และเป็นด้านรับลมเต็มๆเหมือนนาร์กิส
3. กว๊านพะเยา บึงบอระเพ็ด ไม่มีทางเกิดเพราะถ้ามีพายุเคลื่อนมาจริงเวียดนามรับไปเต็มๆแล้วที่เหลือในบ้านเราอย่างดีก็แค่ดีเปรสชันซึ่งนำพาแต่ฝนจำนวนมากเท่านั้นความเร็วลมระดับนี้ไม่มีศักยภาพให้น้ำยกตัวข้นได้
4. ไม่มีพายุหมุนที่เกิดขึ้นภายในแผ่นดิน ยกเว้นทอร์นาโดในอเมริกา แต่ไม่มีศักยภาพที่จะทำให้เกิด storm surge ได้

จริงๆเรื่องนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับนักดำน้ำเท่าไหร่ เพราะเมื่อเวลาที่เราดำน้ำ ก่อนออกเรือ กัปตันจะต้องติดตามรายงานการพยากรณ์อากาศอย่างไกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งการเกิดพายุจะสามารถเดาทางได้ล่วงหน้าเป็นวันๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงอะไรเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม Storm Surge นี้ก็ถือว่าเป็นภัยที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อเร็วๆนี้พายุนากีสเข้าพม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่มีใครเคยคาดคิดกันมาก่อน ดังนั้น ถ้าหากว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับเมืองไทยละ อะไรจะเกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เจ้าของคำทำนายเตือนภัยพิบัติจากสึนามิ ออกทำนายรอบใหม่ว่า อีกไม่นานน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ !!!

จากบทวิเคราะห์ล่าสุดของนายสมิทธชี้ว่า ปลายปีนี้อาจเกิดสภาวะน้ำท่วมขังในบริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑล จากอิทธิพลของการเกิดฝนตกหนัก น้ำเหนือไหลผ่าน และน้ำทะเลหนุน และจากอิทธิพลของการเกิดพายุเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่บริเวณจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย และบริเวณพื้นที่ของกรุงเทพฯและ ปริมณฑล

นอกจากนี้ยังมีลักษณะน้ำทะเลระดับสูงไหลทะลักในลักษณะ storm surge เข้ามาในปากแม่น้ำสำคัญของกรุงเทพฯและ จังหวัดใกล้เคียง เป็นเหตุให้พื้นที่ลุ่มส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯและปริมณฑลมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง และมีผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน

ฉะนั้นที่จะหนักในปีนี้ก็คือ storm surge หมายถึงการที่ระดับน้ำมากับพายุตรงและเคลื่อนตัวมาถึงก้นอ่าวไทย อาจจะทำให้ระดับน้ำตรงก้นพายุสูงขึ้น คล้ายกับการเกิดพายุไซโคลนนาร์กีสที่พัดถล่มประเทศพม่า

"ที่พวกเราตื่นเต้นและเป็นห่วงกันมาก เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา หรือที่อินเดียก็น้ำท่วม ด้วยสภาพที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งทำให้น้ำทะเลอุ่นขึ้น เมื่อน้ำทะเลอุ่นขึ้นก็จะมีไอระเหยไปรวมกับอากาศที่อยู่รอบข้าง ก็กลายเป็นลมและไหลมาเป็นพายุ ก็จะทำให้มีอันตราย

อย่างนาร์กีส ตอนเกิดใหม่ๆ ความเร็ว 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ตอนขึ้นฝั่งถล่มพม่ามีความเร็วถึง 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง นักอุตุนิยมวิทยาและนักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มสงสัยและกังวลกันว่า พายุไซโคลนที่มีมาในมหาสมุทรอินเดียไม่เคยรุนแรงแบบนี้มาก่อนเหมือนอย่างนาร์กีส นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์กันว่า ปีนี้การเกิดพายุในมหาสมุทรอินเดีย หรือมหาสมุทรแปซิฟิกก็ดี ประเทศที่ติดชายฝั่งจะได้รับผลกระทบไปด้วย

อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเล่าว่า ช่วงนี้หากดูสถิติพายุเขตร้อนที่เคลื่อนตัว เข้าสู่ประเทศไทย ก็พบว่าประเทศไทยจะเริ่มได้ผลกระทบตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม เดือนสิงหาคมจะมีพายุพัดผ่าน 19 ลูก กันยายน 45 ลูก ตุลาคม 49 ลูก และพฤศจิกายน 30 ลูก

"4 เดือนนี้ผมถึงบอกว่า ประเทศไทยเราจะมีผลกระทบจากพายุในปีนี้ โอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯอยู่ใน 4 เดือนนี้ ทุกคนก็แตกตื่น ก็ด่าผม แล้วก็มีคนแย้งว่าน้ำก็ท่วมทุกปี แต่ผมบอกว่า ถ้าท่วมอย่างที่เคยเป็นมา วันสองวันน้ำลด ก็ดี แต่นี่ถ้าคล้ายลักษณะพายุนาร์กีส มันจะท่วมเป็นอาทิตย์ ไม่ได้ท่วมแค่วันหรือ 2 วัน แล้วมันก็จะมี ผลกระทบกับเศรษฐกิจ การสัญจรคมนาคมอย่างมาก"

ล่าสุดที่ผมและทีมงานทำสถิติไว้พบว่า เดือนสิงหาคมราววันที่ 11-20 ก็จะเริ่มมีพายุเข้ามาทางตอนเหนือของประเทศไทย จะมีฝนตกในบริเวณภาคเหนือมาก และปริมาณฝนที่ตกจะไหลมาบรรจบในกรุงเทพฯ เป็นน้ำเหนือเข้ามา

ถึงปลายเดือนสิงหาคม พายุก็ยังอยู่ในภาคเหนือ บางลูกก็ไหลเข้ามาในภาคอีสาน แล้วน้ำก็จะไหลมารวมกันในภาคกลาง ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ยิ่งเดือนกันยายน พายุจะเข้าในภาคเหนือมากขึ้น บางลูกอาจจะพัดผ่านเข้ามาถึงกรุงเทพฯก็มี

ถัดมาปลายเดือนกันยายน ร่องมรสุมก็จะลงมาทางใต้ ซึ่งตอนนี้เองโอกาสที่ภาคกลางจะได้รับปริมาณน้ำฝนมีมากที่สุด ถ้าฝนตกนานและมีกำลังแรงลมเหมือนนาร์กีส หรือน้องๆ นาร์กีส ซึ่งเรายังไม่เคยประสบเลย ก็จะทำให้มีปริมาณน้ำมาก

ถึงเดือนตุลาคม พายุก็จะลงไปทางใต้ แต่ที่ผมห่วงคือเวลาพายุพัดเข้าอ่าวแล้วทวีกำลังแรงลมขึ้นมาถึงก้นอ่าว กรุงเทพฯจะได้รับผลกระทบมาก อีกสาเหตุหนึ่งก็คือในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคมจะมีน้ำทะเลหนุนโดยธรรมชาติ ถ้าพายุเคลื่อนตัวเข้ามาในกรุงเทพฯ ก็จะทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้ามาในกรุงเทพฯได้ เหมือนที่นาร์กีสพัดเข้าไปในปากแม่น้ำอิรวดี

นักวิชาการที่ร่วมงานด้วยบอกว่า ได้คำนวณว่าน้ำจะเข้ามาจากปากแม่น้ำถึงกรุงเทพฯลึกถึง 30 กิโลเมตร ซึ่งปัญหาของกรุงเทพฯคือการระบายออกจะช้า เมื่อผสมกับน้ำทะเลหนุนโดยธรรมชาติ ก็จะทำให้น้ำระบายออกคืนสู่ทะเลช้ายิ่งขึ้น ประกอบกับมีน้ำเหนือไหลเข้ามาสมทบ ฉะนั้นกรุงเทพฯก็จะมีน้ำท่วมขัง ถ้าโชคร้ายหน่อยก็อาจจะขัง 1-2 อาทิตย์

สาเหตุส่วนหนึ่งก็คือ กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่มีดินทรุดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะดินกรุงเทพฯเป็นดินเลนจะทรุดตัวอยู่แล้ว 5-8 เซนติเมตรต่อปี ที่รามคำแหงหรือที่เขตสวนหลวงทรุดไปแล้ว 1 เมตร หากเปิดประตูน้ำพระโขนงหรือสำโรง น้ำท่วมทันทีโดยที่ฝนไม่ตก เพราะบริเวณนั้นอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล

หรือแถวสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ดินทรุดตัวหมด หากมีพายุเข้ามาแรง โรงงานแถวนั้นมี 3 หมื่นกว่าโรงอาจจะต้องปิดลง คน 3 แสนคนต้องหยุดทำงาน ตกงาน หากน้ำท่วมเป็นเดือน

มีนักวิชาการบางท่านเป็นห่วงว่า เมื่อ น้ำเข้ามา 30 กิโลเมตรจากปากอ่าว น้ำเค็มก็จะเข้ามาในคลองประปา คนกรุงเทพฯและคนปริมณฑล 8-10 ล้านคน อาจไม่มีน้ำจืดดื่ม จะเป็นน้ำประปาเค็มหมด ปัญหาคือเราจะเอาน้ำที่ไหนกิน ที่พม่า คนตายเยอะ เพราะคนไม่มีน้ำดื่ม ต้องไปดื่มน้ำสกปรก ก็เป็นโรคตาย ผมก็บอกกับทาง กทม.ว่าให้เตรียมเรื่องน้ำดื่ม ไว้ด้วย

แน่นอนว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกรุงเทพฯ น้ำก็จะท่วม 1-2 เมตร ฉะนั้นวิธีการป้องกันน้ำท่วมอย่างเดียวขณะนี้คือ ต้องสร้างเขื่อนสูงสัก 5 เมตร เป็นคอนกรีต ทำแบบประเทศเนเธอร์แลนด์ สร้างให้หนา ข้างบนรถสามารถวิ่งได้ สร้างตั้งแต่นนทบุรีไปถึงปากคลองประปา เพราะน้ำทะเลจะหนุนไปถึงคลองประปา สร้างวิ่งเลียบแม่น้ำเจ้าพระยามาตลอดไปถึงสมุทรปราการ อ้อมไปถึงบางปะกง

ส่วนอีกด้านหนึ่ง สร้างจากฝั่งธนบุรี อ้อมมาถึงพระประแดง ไปสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ก็อาจจะรักษากรุงเทพฯไม่ให้จมน้ำได้ แต่ก็ต้องเริ่มคิดเริ่มสร้างกันเดี๋ยวนี้

เชื่อมั้ยว่า ทุกครั้งที่ผมพูดหรือไปบรรยายที่ไหน คนส่วนใหญ่ก็มองว่า ผมสร้างความแตกตื่น ทำให้คนตกใจ นักธุรกิจก็ด่าผมว่าทำให้ธุรกิจเขาล้มละลาย ก็ต่อว่าอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้ประกอบการใหญ่ๆ

สมิทธเล่าว่า ทุกครั้งที่ผมไปพูดหรือบรรยายที่ไหน ผมจะบอกว่า ผมไม่ใช่หมอดู หรือนักวิเคราะห์วิจารณ์ แต่เอกสารหรือสถิติที่ผมนำมาอ้างอิงหรือบรรยาย มาจากวิทยาศาสตร์ล้วนๆ โอกาสถูกก็มีมากกว่าผิด

"แต่คุณฟังผมแล้ว คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ฟังแล้วก็วิเคราะห์เสียก่อน ผมจะเรียนว่า จริงๆ แล้วกรม อุตุนิยมวิทยาเรามีศักยภาพดีมาก เรามีเครื่องมือพร้อม หากมีพายุ ภาพจาก ดาวเทียมหรือเครื่องมือที่เรามีอยู่ สามารถบอกเตือนล่วงหน้าประชาชนได้ 3-5 วัน แต่เราจะรอให้ถึงวันนั้นหรือ"

ด้าน นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" เกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนที่อาจจะเกิด น้ำท่วมว่า ทางกรมอุตุนิยมวิทยาต้องเฝ้าติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เพราะเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ร่องความกดอากาศ ต่ำและร่องมรสุมพัดผ่านภาคเหนือของประเทศไทย

"ร่องมรสุมและร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่านภาคเหนือ ในช่วงเดือนสิงหาคม จะทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนัก น้ำจะไหลลงแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน แล้วไหลเข้าสู่เจ้าพระยา ช่วงนั้นต้องมีการบริหารจัดการที่ดี หลังจากนั้นร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมายังภาคกลางและภาคตะวันออก โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนตุลาคมที่ร่องความกดอากาศจะอยู่ที่ภาคกลางนั้น คงทำให้กรุงเทพมหานครและภาคตะวันออกมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น"

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาให้ความเห็น เพิ่มเติมว่า เดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม หากมีพายุจากทะเลจีนใต้เข้ามายังประเทศไทยก็จะทำให้มีโอกาสที่ปริมาณน้ำภาคกลางและกรุงเทพฯเพิ่มขึ้น

"ประเด็นต่อมาคือ แผ่นดินกรุงเทพฯยุบตัว สูงกว่าระดับน้ำทะเลเล็กน้อย บางส่วนก็ใกล้เคียงกับระดับน้ำทะเล เพราะในอดีตเราใช้น้ำบาดาลเยอะ แผ่นดินจึงต่ำ สำคัญที่ 2 ฝั่งเจ้าพระยาที่น้ำลงมา และประชากรเพิ่มมากขึ้น ถนนหนทางและการสร้างเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.อ่างทองจะทำให้น้ำไหล เร็วขึ้น

ถ้าน้ำจากทะเลหนุน กรุงเทพฯก็จะได้รับผลกระทบ การบริหารจัดการน้ำกับปริมาณน้ำฝนจากภาคกลางและภาคตะวันออกจะส่งผลกระทบกับกรุงเทพฯ อาจจะต้องมีการเตรียมการเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำ โดยเฉพาะลักษณะพื้นที่กรุงเทพฯ เรามีการก่อสร้าง ปัญหาระบายน้ำต้องเตรียมการ ให้ดี การจราจรจะมีผลกระทบ"

นอกจากนี้ นายศุภฤกษ์ยังกล่าวว่า ที่บางขุนเทียนมีปัญหาคลื่นซัด หากการระบายน้ำไม่ดีจะเกิดน้ำท่วมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยในขณะนั้นว่ามีฝนตกต่อเนื่องหรือไม่ มีพายุหรือไม่ น้ำเหนือไหลบ่าหรือไม่ และจะมีปริมาณมากในช่วงไหน มีน้ำทะเลหนุนด้วยหรือไม่ ซึ่งคงต้องมองอีกทีหนึ่ง

"ภาพรวมของประเทศไทยมีปริมาณฝนเพิ่ม ช่วงนี้ปรากฏการณ์ลานินญาค่อยๆ หายไป จึงทำให้เกิดฝนตก เราประมาท ไม่ได้เรื่องของฝน อยู่ที่ช่วงเวลานั้นว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้น้ำเพิ่มขึ้นมาก แค่ไหน ซึ่งกรุงเทพมหานครเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน ฝนตกค่อนข้างมาก ประกอบกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกค่อนข้างมากและรุนแรง ในส่วนของกรมอุตุนิยมวิทยาก็จะมีการแจ้งเตือนปริมาณ น้ำฝนในพื้นที่เขตประเทศไทย แจ้งว่ามีพายุเข้ามาหรือไม่

ดังนั้นเรื่องการบริหารจัดการ ก็ต้องให้หน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบร่วมกันประสานให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน กรุงเทพฯต้องเตรียมพร้อม แก้ปัญหาน้ำท่วมเพราะผู้อาศัยมาก หากจราจรติดขัดก็จะเสียหายต่อเศรษฐกิจ"

Last Updated ( Wednesday, 28 January 2009 13:16 )

ที่มา http://www.thaiscubadive.com/diving-article/5-general-topic/33-storm-surge

 

ที่อินโด แผ่นดินไหวถึ่จัง

 

*** การขุดรากถอนโคน ****

เมื่อไม่ยอมรับ ไม่ปรับตัวเอง
ในเรื่องศาสนา สิ่งที่ขวางขัดสัจจะธรรม โลกเขาจะไม่ปล่อยไว้
ไม่มีใครอยู้ค้ำฟ้า ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ล้มโค่นได้

​

​

- " หนุมาน ผู้นำสาร "​

 

บุญบารมีไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเอง

<table id="post3428836" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> วันนี้, 02:06 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โอมศรา<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3428905", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2009
ข้อความ: 88
Groans: 0
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 388
ได้รับอนุโมทนา 357 ครั้ง ใน 75 โพส
พลังการให้คะแนน: 28


</td> <td class="alt1" id="td_post_3428905" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->ร่วมทำบุญ ถวายโคมไฟฟ้า<!-- google_ad_section_end -->

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->

ขอ เชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาที่เป็นกุศล ร่วมกันทำบุญถวายโคมไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับทางวัด
ร่วมทำบุญอันละ ๔๕๐ บาท หรือตามจิตเจตนา

ถวาย ณ วัดหนองเรือ
ตำบลหนองหนาม อำเภอเมืองลำพูน

ร่วมทำบุญ โดยการโอนเงินผ่านบัญชี
พระณัฏฐนันท์ ปันสุพฤกษ์ (คุณวีโร)
รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองเรือ
เลขบัญชี ๕๑๑-๐-๓๘๕๔๖-๗
ธนาคารกรุงไทย สาขาลำพูน

สอบถาม เพิ่มเติมได้ที่ พระอาจารย์ณัฏฐนันท์ คุณวีโร ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑

ราย ละเอียดของโคมไฟ
เป็นโคมไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ -ติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้ง่ายๆไม่ต้องเดินสายไฟให้ยุ่ง
-ใช้ติดตั้งในสวนดอกไม้ ต้นไม้เล็กๆ พุ่มไม้ ซุ้มน้ำตก

รายละเอียดสินค้า
ภายในประกอบไปด้วยหลอด LED จำนวน 1 หลอด
มีพลาสติกใสทำหน้าที่กระจายแสง ใช้แผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ด้านบน 4 ด้าน
เก็บประจุพลังงานลงในแบตเตอรี่
ระยะเวลาใช้งานในแต่ละวัน 8-12 ชม.


​

<!-- google_ad_section_end -->
<fieldset class="fieldset"> <legend>รูป</legend>
</fieldset>
</td></tr></tbody></table>

 

เขตอันตรายจังหวัดเสี่ยงภัยเเละประเทศใกล้เคียง..คืนนี้หาที่นอนสูงๆสักคืนละกันนะคะ

<table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><th>
</th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </th> <th align="center">LAT
deg </th> <th align="center">LON
deg </th> <th align="center">DEPTH
km </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:57:11 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.650 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.903 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 4.4 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.0 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:50:46 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 14.171 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 92.842 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 42.4 </td><td valign="top"> ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.7 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:47:06 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.692 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.927 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 6.2 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:39:49 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.674 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.921 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 0.2 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:39:18 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.679 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.966 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 0.0 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:37:44 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.688 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.959 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 2.0 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 07:00:18 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.703 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.974 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 2.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 4.8 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 06:20:24 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -1.873 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 136.226 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> BIAK REGION, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 4.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 06:10:49 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -1.927 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 136.382 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> BIAK REGION, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 06:01:38 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 66.356 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -157.433 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 10.0 </td><td valign="top"> NORTHERN ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.8 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 05:43:14 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.661 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.974 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 0.0 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 05:34:14 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.616 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.744 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 4.4 </td><td valign="top"> BAJA CALIFORNIA, MEXICO</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 05:19:27 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.663 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.959 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.5 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.7 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 05:04:09 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.658 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.845 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 0.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:51:35 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.645 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.859 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 6.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:35:03 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 62.210 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -145.651 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 18.3 </td><td valign="top"> CENTRAL ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:27:05 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.644 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.855 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 9.8 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.7 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:24:47 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 61.417 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -151.007 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 57.8 </td><td valign="top"> SOUTHERN ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:23:26 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.608 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -173.616 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 25.0 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:14:02 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.523 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -173.741 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 25.3 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:12:05 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.701 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.966 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.1 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.9 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 04:01:55 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.436 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -173.614 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 19.9 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:58:11 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -2.368 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 136.480 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 19.9 </td><td valign="top"> NEAR THE NORTH COAST OF PAPUA, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:56:08 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.706 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -173.784 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 7.3 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:38:19 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -2.485 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 136.643 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> NEAR THE NORTH COAST OF PAPUA, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.0 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:33:59 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 58.327 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -139.040 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 10.0 </td><td valign="top"> OFF THE COAST OF SOUTHEASTERN ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 7.0 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:16:30 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -2.141 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 136.460 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 28.8 </td><td valign="top"> NEAR THE NORTH COAST OF PAPUA, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:14:51 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.714 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.976 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.5 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.4 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 03:06:05 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -2.450 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 136.497 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 25.1 </td><td valign="top"> NEAR THE NORTH COAST OF PAPUA, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 02:54:50 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.693 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.932 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.4 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 02:47:26 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -10.254 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 161.437 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 42.8 </td><td valign="top"> SOLOMON ISLANDS</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 02:42:03 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.667 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.928 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 11.6 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 4.3 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 02:03:20 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 62.598 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -148.839 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 41.2 </td><td valign="top"> CENTRAL ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 01:38:56 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 36.429 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -120.992 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 2.4 </td><td valign="top"> CENTRAL CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.5 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 01:33:17 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.676 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.943 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.7 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 01:30:50 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.697 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.962 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.3 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 2.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 01:10:36 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.677 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.947 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 3.8 </td><td valign="top"> SOUTHERN CALIFORNIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 00:53:01 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -1.402 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 119.376 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 43.8 </td><td valign="top"> SULAWESI, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.4 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/06/16 00:04:53 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -6.448 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 129.196 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap">231.6 </td><td valign="top"> BANDA SEA</td></tr></tbody></table>

ที่มา: Latest Earthquakes in the World - Past 7 days

MOUNTAIN

แผ่นดินไหว7ริกเตอร์ตะวันออกอิน โดฯ เตือนสึนามิ
Wednesday, 16 June 2010 13:23
ATNN (16 มิ.ย.) สำนักธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย
รายงานว่าเมื่อเวลา 10.16 น. ตามเวลาในบ้าน เกิดแผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์
ที่แคว้นอิเรียนจายา ทางตะวันออกของประเทศ
ความรุนแรงทำให้ทางการอินโดนีเซียต้องประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ
อย่างไรก็ดีสำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งว่าวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.4 ริกเตอร์

http://ufokaokala.com/index.php?topic=579.msg6109;topicseen#msg6109

 

สบายใจได้เเต่อย่าประมาทนะคะ

ดินไหวอินโดฯ7.3 ริกเตอร์คาดอาจเกิดสึนามิ 16 มิ.ย. 53 11.42 น.



ดินไหวอินโดฯ7.3 ริกเตอร์คาดอาจเกิดสึนามิ

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพบเกิดแผ่นดินไหว บริเวณหมู่เกาะอิเรียนจายา ประเทศอินโดนีเซีย (Irian Jaya)
วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.3 ริกเตอร์ ละติจูด : 2 01' 48'' ใต้ ลองจิจูด : 136 35' 24'' ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : 10 กิโลเมตร ซึ่งแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิได้ แต่ไม่สูงมาก
ซึ่งทางการได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เหตุดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
รวมทั้งชายฝั่งอันดามันด้วย จึงขอให้ประชาชนอย่าแตกตื่น และรับฟังข่าวสารจากทางกรมอุตุนิยมวิทยา


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวความคืบหน้า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์ ที่ปาปัว ประเทศอินโดนีเซีย
ในวันนี้ว่า ล่าสุด สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างน้อย
2 คน และได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในเมืองบิอัคแล้วในขณะนี้ นอกจากนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยา
ยังประกาศยกเลิกการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ หลังจากออกแถลงการณ์ เตือนภัยหลังเกิดแผ่นดินไหวได้ไม่นาน ราย
งานระบุว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวไม่นานนัก ก็ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อก ตามมา 2 ครั้ง ด้วยระดับความแรง 6.6 ริกเตอร์
และ 5.3 ริกเตอร์ ตามลำดับ จนเป็นเหตุให้อาคารหลายหลังในเมืองบิอัค ทรุดตัว

ทั้งนี้ แผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์ เกิดขึ้น เมื่อเวลา 10.16 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ โดยมีศูนย์กลางห่างจากฝั่งตะวัน
ออกเฉียงใต้ของเมืองบิอัค ในจังหวัดปาปัว ราว 123 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

รายงานตัวครับ ตามหน้าที่ และ ความเต็มใจ ฝั่งอ่าวไทยบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเมฆ และท้องฟ้ามืดครึ้มตลอด2-3วันที่ผ่านมา ฟ้าแล๊ปและไฟดับเป็นระยะ บางคืนไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน และฟ้าแล๊ปร้องตลอดเวลาชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง วอ อ๊อฟ เดอะ เวิล ตอนที่เอเลี่ยนกำลังลงมาที่ยานเพื่อขับเคลื่อนแหะๆๆ อันนี้ ความรู้สึกส่วนตัวครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ เหมือนอากาศจะปกติแต่สถาพอากาศแปรปรวนมากครับถึงฝนตกหนักแต่ความรู้สึกกดดันและอบอ้าวยังคงมีมากเหลือเกินเหมือนไม่ใช้ฝนแบบปกติที่ตกเป็นประจำสำหรับฤดูนี้ของทุกปี กระผม ragpon รายงานสดจาก เกาะสมุย(k)(k)

 

(f) ให้ ragpon

:VO เด๋วช่วนเพื่อนแถวๆริมเล กระบี่ ตรัง มาช่วย Falkman :love: ดีก่า

 

​

เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีคนพูดกันถึงเรื่อง"จิตมาร"กันอย่างมากมาย ผมจึงขออนุญาตนำคำอธิบายเรื่องของ จิตเทพ จิตมาร จากท่านผู้รู้ว่ามันอย่างไรกันแน่ มาให้ได้ทราบกันดังนี้นะครับ

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tossapornk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_280931", true); </SCRIPT> สมาชิก

จิตของคนเรา(ความจำ ความนึกคิด อารมณ์รู้สึก และอื่นๆอีกที่ไม่ใช่ธาตุทั้งสี่) จะแบ่งเป็นสองพวกใหญ่ๆคือ พวกอกุศลจิต(จิตไม่ดีทั้งหลาย) กับพวกกุศลจิต(จิตที่ดีทุกจิต) ถ้าคุณมีกุศลจิต 100% คุณก็จัดเทียบได้ว่าในตัวคุณเป็นเทพ 100% แต่ถ้าคุณมีอกุศลจิต 100% ก็แสดงว่าคุณเป็นมาร 100%

แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครที่เป็นเทพได้เต็ม 100% หรอกครับเพราะยังไม่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ขอให้มีกุศลจิตเกิน 80% ก็เยี่ยมแล้วครับ และหลายๆคนก็ไม่อยากจะเป็นมารเต็มตัวหรอกครับ อย่าลืมนะครับว่าเทพก็เปลี่ยนเป็นมารได้และมารก็เปลี่ยนเป็นเทพได้ จิตเทพไม่เกี่ยวกับเทพที่อยู่เบื้องบนนะครับเป็นการอุปมาอุปมัยครับ ขอให้ลองถือศีล 10 (กุศลกรรมบท 10)ดูนะครับก็จะเข้าใจเพิ่มขึ้น

17-07-2006, 04:58 AM

ที่มา http://palungjit.org

มารมี 5 ฝู ง

พระพุทธเจ้าตรัสว่า มารหรือต้นเหตุของปัญหาและอุปสรรคในการทำงานมีอยู่ 5 ประการด้วยกัน หรืออาจจะเรียกว่า มาร 5 ฝูง ก็ได้ แต่ละฝูงฤทธิ์เดชไม่ใช่ย่อย บางคนเจอเข้าไปฝูงเดียวก็เรียบร้อยเลย มารทั้ง 5 ฝูงได้แก่

1. กิเลสมาร คือ กิเลสซี่งทำให้เรามีความประพฤติและนิสัยไม่ดีต่างๆ
2. ขันธมาร คือ ร่างกายและจิดใจของเรา ซี่งบกพร่องแล้วเป็นมารผลาญตัวเอง
3. อภิสังขารมาร คือ ความประพฤติไม่ดีในอดึตของเรา เป็นมารตามมาล้างผลาญ
4. เทวบุตรมาร ได้แก่ ลูกหลานพญามารตลอดจนคนพาล คนชั่ว ที่มาขัดขวางการทำงาน หรือการทำความดีของเรา
5. มัจจุมาร คือ ความตายที่ตัดโอกาสทำความดีของเราต่อไป

เมื่อรู้จักมารทั้ง 5 ฝูงแล้ว เรามาดูกันว่ามารแต่ละฝูงมีธรรมชาติอย่างไร และมีวิธีในการล้างผลาญเราอย่างไร

มารฝูงที่ 1 กิเลสมารยักษ์สามหัว

ท่านเปรียบกิเลสมารเหมือนเชื้อโรคที่เกาะกินใจคน ทำให้ใจอ่อนแิอ ตกอยู่ในอำนาจของมัน แล้วมันก็บงการใจให้สั่งการต่อร่างกาย วาจา ทำให้พูดร้ายๆ แสดงท่าทางเลวๆ ออกมาจนผิดวิสัยที่คนปกติจะกระทำได้ เชื่อโรคที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วยเพียงร่างกาย แต่กิเลสมารเป็นเชื้อโรคที่ร้ายกว่า เพราะทำลายทั้งสุขภาพกายและใจของเรา แล้วบังคับให้เราไปรบกวนคนอื่นด้วย แบ่งได้ 3 ตระกูล ได้แก่

1. ตระกูลโลภะ กิเลสมารตระกูลนี้ เมื่อเกาะกินใจใครแล้วจะทำให้คนนั้นเป็นคนโลภ มีการ จิตหิว อยู่เป็นนิจ อยากจะกอบโกยทรัพย์สิ่งของต่างๆ ของผู้อื่นมาเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากให้สมบัติของตนกับใคร คนโลภจะแสดงความน่าเกลียดต่างๆ เช่น งก อยากได้ของคนอื่น เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เห็นแก่เล็กแก่น้อย ฯลฯ

2. ตระกูลโทสะ กิเลสจำพวกนี้เกิดขึ้นในใจใครแ้ล้ว จะทำให้จิตเร่าร้อน อยากล้างผลาญ ทำความพินาศให้แก่บุคคลอื่น เป็นคนเจ้าอารมณ์ โมโหง่าย ไม่ยั้งคิดทำให้เกิดความเสียหาย มีคำหลายคำที่ใช้อธิบายอาการของคนเหล่านี้ เช่น ขัดใจ ใจขุ่น คิดร้าย แค้นใจ จองเวร รังแก ฯลฯ

3. ตระกูลโมหะ ได้แก่กิเลสมาร จำพวกทำให้ใจหลงใหล มัวเมา โง่ งมงาย ความคิดอิจฉาริษยา ฯลฯ กิเลสตระกูลโมหะนี้มักเป็นต้นตอของกิเลสของ 2 ตระกูลแรก

(ติดตามอ่านเรื่องมาร 5 ฝูง โดยละเอียดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=jp189&board=1&id=3&order=numtopic&mobileE=Y

หมายเหตุ

โดยสรุปคำว่า "จิตมารเข้าแทรก" ที่จริงแล้วจึงหมายถึง คนที่ปล่อยให้อกุศลจิต คือ ความโลภ ความโกรธ และความหลง เข้ามาครอบงำจิตใจของตนเองอย่างรุนแรง จนแสดงออกมาทางกายและทางวาจา ด้วยการไปทำร้ายผู้อื่นให้ต้องเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ หรือใช้คำพูดของตนเองไป ด่าทอ เสียดสี ดูหมิ่น เหยียดหยาม ให้ผู้อื่นได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจ เหล่านี้เป็นต้นครับ

 

เฝ้าระวังกันเอาไว้ครับช่วงนี้ ทางใต้น่าเป็นห่วงครับ