ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    16 ต.ค.55

    ครื่นครื่น เลื่อนลั่น สนั่นฟ้า
    เทวา กำลัง เทน้ำ
    ได้ข่าว ฝนหมด เขาย้ำ
    แล้วน้ำ ที่เท จากไหน?

    สองครั้ง สองครา ที่มา
    แจ้งมา ว่าจะ ไม่มี
    ที่ตก ดอนเมือง เห็นนี่
    คุณพี่ จะว่า อย่างไร?


    มหาประชาบดี ๙๗<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    ตอนนี้ที่แถวถนนพระราม 6 ฝนตกกระหน่ำมาเกือบชั่วโมงแล้ว หลีกเลี่ยงสงสัยรถติดแน่นอน
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สภาพของร่างกายมนุษย์ในมิติที่ 4 และมิติที่ 5 !!!

    [​IMG]

    Chayutt สมาชิก (แปลและเรียบเรียง)
    <O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    ถาม
    ลำดับชั้นของมิติในจักรวาลคืออะไร มันมีอยู่กี่มิติ และในจำนวนนั้น มีมิติไหนบ้างที่มีผู้มายังดาวเคราะห์โลกแล้วในปัจจุบันนี้ ?

    ตอบ:<O></O>
    สำหรับคำถามของท่าน เราขอบอกว่าใน
    จักรวาลนี้มีมิติอยู่หลายมิติ ดังนั้นมันจึงถูกใช้เป็นพื้นฐานในการจัดระบบตาม ลำดับขั้นของการพัฒนาของสิ่งมีชีวิต ภายใต้กฎอันทรงประสิทธิผลของจักรวาล มิติต่างๆเหล่านี้ประกอบด้วย;
    <O></O>
    1. มิติที่ 1 ซึ่งเป็นมิติที่ต่ำที่สุด จะพบอยู่ใน
    ส่วนที่มืดมิดของจักรวาล และที่นั่นสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย จะเป็นพวกที่มีพัฒนาการที่ต่ำมาก นั่นคือเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ซึ่งท่านรู้จักมันในนามของ“หลุมดำ” หลุมดำเหล่านี้เป็นทางผ่านเข้าออกของพวกสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย (Negative Being) เพื่อไปก่อความเดือดร้อนให้แก่มิติอื่นๆในบางครั้งคราว<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    2. มิติที่ 2 ก็เป็นมิติมืดเช่นเดียวกัน ที่นั่นสิ่งมีชีวิตจะมีพัฒนาการสูงขึ้นมาอีกหน่อย<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    3. มิติที่ 3 เป็นมิติของสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนา
    การสูงขึ้นมาอีก ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่พบในมิตินี้ก็ได้แก่พวกท่านเอง มนุษย์บนดาวเคราะห์โลกทั้งหลาย<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    4. มิติที่ 4 เป็นมิติของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง พวกเขามีร่
    างกายเนื้อ แต่พวกเขาก็เป็น “ประชาชนของจักรวาล” (Cosmic People) พวกคุณจะรู้จักพวกเขาในรูปแบบของ UFO ผู้คนบนโลกนี้ส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นพวกเขาได้ เมื่อพวกเขาเดินทางลงมายังมิติที่ต่ำกว่า เพื่อมาช่วยยกระดับของสิ่งมีชีวิตในมิตินั้นๆให้สูงขึ้นจากระดับที่เป็นอยู่เดิม พวกเขามาช่วยเหลือด้วยความรัก และความเสียสละ<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    5. มิติที่ 5 จะเป็นพวกที่มีร่างกายกึ่งกายเนื้อ
    กึ่งกายละเอียด ร่างกายของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้บางส่วนจะเปล่งแสงสว่างออกมาได้ พวกเขาก็เป็นอีกพวกหนึ่งที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณ แก่สิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการที่ต่ำกว่าด้วย ดังเช่นที่ท่านเห็นที่นี่<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    6. มิติที่ 6 เป็นที่ที่อาศัยอยู่ของรูปธรรมชีวิต
    ที่เป็นจิตวิญญาณล้วนๆ ปราศจากร่างกายเนื้อ แต่มีกายทิพย์แทน ระดับความสั่นสะเทือนของกายทิพย์ของพวกเขาสูงจนกระทั่งแม้แต่อะตอมยังไม่สามารถจะอยู่ได้ ดังนั้นพลังงานแสงสว่างจึงต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนอะตอม<O></O>

    รูปธรรมชีวิตเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจ
    ากแรงโน้มถ่วง เพราะธรรมชาติของพวกเขาปราศจากวัตถุธาตุ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเนรมิตกายเนื้อขึ้นมาเองในรูปแบบใดก็ ได้ตามใจปรารถนา เพื่อลงมาให้ความช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยูในมิติที่ต่ำกว่า และเพื่อให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้น สามารถสัมผัสกับพวกเขาได้<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    7. มิติที่ 7 เป็นมิติที่รูปธรรมชีวิตแห่งแ
    สงสว่าง (Being of Light) อาศัยอยู่ พวกเขามีลักษณะ คล้ายลูกบอลที่เปล่งแสงสว่าง พวกเขาดูดซับความรู้และข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในจักรวาลข้างเคียง และพวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือกับสิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการต่ำกว่าด้วย เช่นกัน<O></O>
    <O style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"></O>
    เราจะขอไม่กล่าวถึงมิติอื่นๆที่เหลืออีก
    ในตอนนี้ เพราะแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับ วัตถุประสงค์ของการฝึกฝนทั้งหมด พวกเราจะสามารถสัมผัสรูปธรรมชีวิตได้แค่ใน 7 มิติแรกนี้เท่านั้น

    สรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของรูปธรรมชีวิตในมิติต่างๆ

    มิติที่ 4 (FOURTH DENSITY)

    ก่อนอื่นขอทบทวนอะไรสักเล็กน้อยก่อนนะ
    ครับว่า ร่างกายเนื้อของมนุษย์เรา คือแบบมาตรฐานของร่างกาย ของสิ่งมีชีวิตทั่วทั้งกาแล็กซี่นี้ เพราะว่ามันถูกออกแบบมาและถูกสร้างมาโดยกาแล็กซี่เอง เพื่อสะท้อนถึงความเป็นตัวของมันเอง ในมิติที่ 4 และ 5 ตัวคุณเอง ก็ยังคงมีร่างกายที่เหมือนกับร่างกายเนื้อของมนุษย์ในมิตินี้ด้วย แต่ว่าในมิติที่ 6 คุณจะไม่มีร่างกายแล้ว เพราะจะเหลือเป็นเพียงลูกทรงกลมของแสงสว่างเท่านั้น

    กลุ่มของรูปธรรมชีวิตอย่างท่าน “รา” (มนุษย์ต่าง
    ดาวที่คนอียิปในสมัยโบราณนับถือ) ก็ได้เริ่มต้นวิวัฒน์ไปจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ในมิติที่ 3 เหมือนกับเรานี่แหละ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นดาว วีนัส” ตั้งแต่เมื่อประมาณ 1.5 พันล้านปีที่แล้ว จากนั้น พวกเขาก็ค่อยๆเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 4 เช่นเดียวกับที่ดาวเคราะห์โลกของพวกเรา ที่กำลังเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 4 อยู่นี่แหละ จากนั้นพวกเขาก็มีความสามารถมากขึ้น เช่น การล่องหนหายตัว, การเคลื่อนย้ายวัตถุโดยใช้พลังจิตได้, ทำให้วัตถุลอยได้, ท่องไปในกาลเวลาได้, ปลดปล่อยพลังงานได้, เนรมิตสิ่งต่างๆได้, เยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาดในทันทีได้ และอื่นๆ

    (ในบางกรณี อารยธรรมที่อยู่ในมิติที่ 3 บางอารยธร
    รม ก็สามารถมีเทคโนโลยี และความสามารถดังกล่าวบางอย่างนั้นได้เช่นเดียวกัน อย่างที่พวกเราก็ประจักษ์ดีอยู่แล้ว) พวกเขามีร่างกายเนื้อที่เหมือนกันกับของพวกเรา แต่ว่าร่างกายเนื้อของพวกเขา จะมีความเป็นวัตถุธาตุน้อยกว่าของเรา และมีความเป็นกายทิพย์มากกว่าของเรา พวกเขาสามารถเนรมิตอาหารของพวกเขาเองได้ จากกระแสความคิดของพวกเขาเอง แต่บ่อยครั้งพวกเขาก็จะเก็บเอาไว้ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ที่ลืมบำรุงรักษาร่างกายของตนเองอย่างเหมาะสมเพียงพอ

    เมื่อพวกเขาวิวัฒน์ขึ้นมาได้แล้ว รูปธรรมชี
    วิตในมิติที่ 4 ก็มักจะคอยให้ความช่วยเหลือ ผู้คนที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่ยังอยู่ในมิติที่ 3 ทั้งหลาย เช่นดาวเคราะห์โลกของพวกเราเป็นต้น เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านวิวัฒนาการ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการแอบให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง โดยไม่ให้รู้ตัว บางชนเผ่าก็อาจจะได้รับการติดต่ออย่างเป็นรูปธรรมในระดับท้องถิ่น ถ้าพวกเขามีความก้าวหน้าเพียงพอ และกลายเป็นชนเผ่าที่คู่ควรแก่การไปเยี่ยมเยียนได้แล้ว


    รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 จะคอยดลใจให้คนที่มีความเหมาะสมกันได้เจอกัน, ทำให้เกิดการซินโครนิซิตี้ขึ้น (Synchronicities), ช่วยเหลือพวกเรา “สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของเรา”, และช่วยพวกเราทำในสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์ทุกชนิดขึ้น เช่น ช่วยทำสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอยู่เบื้องหลังฉากของ “กฎแห่งกรรม” เป็นต้น พวกเขายังจำเป็นต้องใช้ยานพาหนะที่เหมือนจานบิน เพื่อใช้เดินทางไปไหนต่อไหนอยู่ แต่ยานบินเหล่านี้ สามารถทำให้ผู้ที่อยู่ในมิติที่ 3 มองไม่เห็นก็ได้ อย่างง่ายดาย

    รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 นี้อาจจะค่อนข้างใสซื่อและบริสุทธิ์ โดยเฉพาะพวกที่อยู่ฝ่ายธรรมะ เพราะพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจ หรือ เตรียมตัวป้องกันสิ่งที่เป็นด้านลบของมนุษย์ได้เลย พวกเราอาจจะสามารถมองเห็นรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 นี้ได้ด้วยตาเปล่า ถ้าพวกเขาอยากให้เรามองเห็น แต่ถ้าเมื่อใดที่พวกเขาเพิ่มระดับความถี่ของพวกเขาเองให้สูงขึ้น เพื่อขึ้นไปสู่ที่ๆน่ารื่นรมย์กว่า พวกเราก็จะไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้ แต่ว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว หากดาวเคราะห์โลกของพวกเราเลื่อนระดับขึ้นมาถึงมิติที่ 4 ได้แล้ว ซึ่งในขณะนี้ มันก็กำลังอยู่ในระหว่างทางดำเนินไปของมันอยู่แล้ว....

    หากคุณอยากเห็นวิถีชีวิตของมนุษย์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ วิถีชีวิตของมิติที่ 4 ก็ให้คุณไปร่วมงาน “Burning Man” หรืองานชุมนุมในลักษณะเดียวกัน ที่มีแต่การร้องรำทำเพลง, สรวญเสเหฮากันข้างกองไฟ, ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีสติสัมปชัญญะ และเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ คุณก็จะพบอย่างรวดเร็วว่า มันมีทั้งฝ่ายธรรมะ และ ฝ่ายอธรรมอยู่มากพอๆกัน มีข้อความที่สื่อสารมาจากรูปธรรมชีวิตฝ่ายธรรมะที่อยู่ในมิติที่ 4 มากมายก่ายกอง ที่คุณสามารถหาอ่านได้ ซึ่งวิธีการที่จะรู้ได้ว่าอันไหนมาจากฝ่ายธรรมะ ก็ดูได้จาก มันจะต้องออกมาจากทัศนคติ ที่เปี่ยมไปด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข และการยอมรับผู้อื่นเสมอ


    มิติที่ 5 (FIFTH DENSITY)

    หลังจากนั้น เมื่อใดจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไป
    ด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของมิติที่ 4 ถูกรับรู้ได้ด้วย “ภูมิปัญญา” ของมิติที่ 5 แล้ว ซึ่งจิตวิญญาณส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลานานแสนนาน เพื่อที่จะค่อยๆวิวัฒน์ขึ้นไปสู่มิติที่ 5 นี้ แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน ที่ใช้เวลาไม่นานนัก เช่นกรณีของท่าน “รา” เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในสนามพลังงานของร่างกายมนุษย์ มิติที่ 5 จึงมีความเกี่ยวข้องกับ “สีฟ้า” แห่งจักระที่ 5

    ในมิติที่ 5 นี้ คุณจะได้ทำการทดลอง,ได้เรียนรู้เรื่อ
    งราวอันน่าพิศวงต่างๆ เกี่ยวกับกลไกการทำงานจริงๆของจักรวาล, ได้เรียนรู้ที่จะค้นพบและใช้งานพลังแห่งความตั้งใจหรือพลังเนรมิต (willpower) ของตนเอง, ได้เรียนรู้ที่จะค้นพบและใช้งานพลังแห่งการติดต่อสื่อสาร และ เสียงที่แท้จริง,ได้ดำรงมั่นอยู่ในกฎแห่งความซื่อสัตย์, และได้อยู่ในสภาวะที่มีการกระตุ้น และการพัฒนาด้านภูมิปัญญาอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่า บนดาวเคราะห์โลกใบนี้ เราก็สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่อย่างมีสติสัมปชัญญะ ดุจเดียวกับสภาวะของมิติที่ 5 ได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะปราศจากเทคโนโลยี และความสามารถอันน่าอัศจรรย์ทั้งหลายเหล่านั้นก็ตาม

    รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 5 นี้ อาจจะทำหน้าที่คอยดูแล
    และช่วยเหลือรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 อยู่ หรืออาจจะกำลังทำงานกับดาวเคราะห์บางดวงที่อยู่ในมิติที่ 3 อย่างของเราในตอนนี้ก็ได้ ตามความสามารถของพวกเขาแต่ละรูปธรรม (เช่น โดยการติดต่อสื่อสาร และให้ความช่วยเหลือ กับผู้ปฏิบัติธรรม และผู้ที่กำลังค้นหาสัจธรรมของชีวิตทั้งหลายอยู่ หรือโดยการให้ความช่วยเหลือในการกำหนดหลักเกณฑ์ ของภาษาพูดต่างๆ และช่วยเผยแพร่มันออกไป,

    นอกจากนี้ยังมีโดยการให้ความช่วยเหลือด้านวิชาคณิตศาสตร์ และอื่นๆ เป็นต้น) ควบคู่ไปกับ การเพิ่มพูนระดับภูมิปัญญาและความรู้แห่งจักรวาลของพวกเขาด้วย เหล่าผู้ที่กำลังเพิ่มพูนระดับภูมิปัญญาของตนเองเหล่านี้ ปกติแล้วจะดำเนินชีวิตอยู่บนวิถีของใครของมันเพียงลำพัง และดูเหมือนพวกเขาจะทรงภูมิปัญญา และ แยกกันอยู่มากกว่าเหล่ารูปธรรมชีวิตที่เปิดหัวใจแล้ว และมีความรักให้แก่ทุกคนทั้งหลายที่อยู่ในมิติที่ 4 เสียอีก

    การสำเร็จการศึกษา จะยังไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่คุณ
    ยังไม่ได้นำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาทั้งหมด มาใช้เพื่ออุทิศชีวิตของคุณเอง แด่การให้ความช่วยเหลือผู้อื่น รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 5 บางรูปธรรม ก็ได้ฝึกฝนตนเอง ให้สามารถท่องไปในจักรวาล โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องยนต์กลไกใดๆทั้งสิ้นได้แล้ว แต่ว่ามันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ พวกเขาส่วนใหญ่ สามารถที่จะสื่อสารทางโทรจิตไปถึงกลุ่มของผู้คนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 บางรูปธรรม ก็สามารถทำเช่นนี้ได้เช่นเดียวกัน แต่ว่าในมิติที่ 5 นี้ มันจะละเอียดประณีตมากกว่า

    ในมิติที่ 5 คุณจะยังมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับของมนุ
    ษย์บนโลกนี้อยู่ และตามที่มีกล่าวไว้ในหนังสือชุด “Law of One” คุณจะเนรมิต “น้ำซุปแห่งแสงสว่างของแสงสีทอง” (Liquid light broth of a golden hue) ขึ้นมารับประทานเอง ซึ่งมันจะเป็นการรับประทานที่สุขสรร และ เปี่ยมไปด้วยโภชนาการมากๆเมื่อรับประทานกันเป็นกลุ่ม ข้อความสื่อสารมาจากรูปธรรมในมิติที่ 5 ที่สะอาดบริสุทธ์ที่สุด เท่าที่ผมเคยพบมา ก็คือในหนังสือชุด “The Seth” โดยเฉพาะเรื่อง “The Seth Material” ซึ่งเป็นบทนำของหนังสือชุดนี้, “Seth Speaks” ซึ่งเป็นหนังสือหลักของชุดนี้,

    “The Nature of Personal Reality” ซึ่งเป็น
    หนังสือที่ขยายความประเด็นที่สำคัญต่างๆเกี่ยวกับ “การสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงของคุณเอง” แต่หนังสือเหล่านี้ จำเป็นต้องซื้อเอง ยังไม่มีขายออนไลน์ในตอนนี้ แต่ว่าคุณสามารถหาซื้อได้จาก เวปไซท์ Amazon.com หรือในที่อื่นๆ ในราคาที่ไม่แพงเลย หนังสือชื่อ “Seth Speaks” คือหัวใจสำคัญหลัก ที่ช่วยให้ผมสามารถเปิดใช้งานความสามารถในการสื่อสารทางโทรจิต และรับรู้ข้อมูลจากสัญชาตญาณของตัวเองได้ รองจากหนังสือชุด “the Law of One” เพราะว่ามันมีข้อมูลที่จำเป็น ที่ช่วยเติมเต็มศิลปะที่ขาดหายไปในหนังสือชุด “the Law of One” ให้สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้

    บทความโดย: นาย David Wilcock

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตร...และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-41

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • obr900.jpg
      obr900.jpg
      ขนาดไฟล์:
      149.9 KB
      เปิดดู:
      1,344
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  4. anusaya

    anusaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +212
    งงจัง กับคำทำนายที่ว่าประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจ ร่ำรวย จะเป็นศูนย์กลางโลก เพราะจริงๆแล้ว ประเทศไทยมีกรรมที่ทำไว้อันเป็นกรรมหนักซึ่งเป็นกรรมต่อส่วนรวมไว้มาก ทำไมจะได้ดีกว่าเขาอ่ะ ง๊ง งงอ่ะ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อคนที่ทำกรรมหนักต่อส่วนรวม ได้รับผลกรรมที่ได้กระทำเอาไว้แล้ว ก็จะเป็นวาระที่คนดีมีศีลธรรม จะได้มาปกครองประเทศชาติต่อไปครับ เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ประเทศต่างๆ ก็จะต้องมาพึ่งบุญบารมีของพระโพธิ์สัตว์ ที่ได้มาถือกำเนิดในประเทศไทย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ

    เป็นกรรมของสัตว์โลกน่ะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์ ปลายปี 47 (ทีแรกคิดว่าไม่มีอะไรเกิดแล้ว จิตเกือบจะเผลอ ปรามาสครูบาอาจารย์เข้าแล้วเชียว) แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อยๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและ อุบัติภัยสงคราม และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระจักรพรรดิ์ลงมา ภัยพิบัติจึงจะสงบ

    ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ เราเคยถามครูบาอาจารย์ว่าไม่มีใครเปลี่ยนได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้" ท่านว่า "ปู่ยี เว้า ก็ปานพระเจ้า เว้า นั่นแหละ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้" เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น

    สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯก็มิใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะฝ่ายรักษาภายในของ กทม. เขาเริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะเป็นแก่งทั้งหมด ครูบาอาจารย์ท่านว่า ท่านจะเอาแค่เพชรบุรีขึ้นมา

    เราเข้าใจว่าภัยพิบัติในภาคใต้เป็นสัญญาณของยุคจักรพรรดิ์ที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จริงมีสัญญาณอย่างอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องของเฉพาะบุคคล เช่นเรื่อง ธาตุแก้วเจ็ดประการ ที่เริ่มมาปรากฎเข้ามาสู่ระบบแล้ว และมีสิ่งของอื่นๆอีกหลายอย่าง ที่กระจัดกระจายกันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น

    ผู้ที่ไม่มีหน้าที่และเข้าไม่ถึงระบบธาตุเหล่านี้ก็จะไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าใครมีจิตที่เอ็กเรย์ธาตุได้ ก็จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร อย่างแก้วมังกร และแก้ววิเศษของเทวดา ก็อาจจะเป็นของไร้ค่าในโลกมนุษย์ เพราะความไม่รู้

    ครูบาอาจารย์เคยเล่าว่า แค่นาคโก่งหลังขึ้นมา มนุษย์ก็ตายเป็นเบือแล้ว ต่อไปบางที่ก็จะหายไปทั้งเกาะ นี่ยังไม่นับภัยพิบัติจากท้าวกกนาก แถวลพบุรี ที่ในไม่ช้า(ช่วงท้ายๆของภัยพิบัติ)จะลุกขึ้นมา(ภายใน)เพื่อไปรอรับพระจักรพรรดิ์ ขณะที่ทหารลิง 18 กองพลที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้อยู่ เขาก็ถอนกำลังไปอยู่ที่อื่นแล้วเมื่อตอนออกพรรษาที่ผ่านมา ครูบาอาจารย์ท่านว่ายักษ์กกนากตนนี้มีพิษมาก แค่พลิกตัวได้ พิษของยักษ์จะทำให้เกิดโรคระบาด้ายแรง มนุษย์จะตายไปครึ่งโลก แต่คนที่มีศีลธรรมก็ไม่เป็นไร

    เราค่อนข้างมั่นใจว่า ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และไทยกับลาวจะรวมกันเป็นหนึ่ง(ประเทศเดียวกัน) ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียร รักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงจะต้องไปตามวิถีกรรมของตนเอง

    ขออย่ามากังวลกับสิ่งที่เราเล่า หากท่านเดินตามทางบุญ ทางกุศล ที่ครูบาอาจารย์ของตนเองสอนได้แล้ว ก็คงจะเอาตัวรอดได้ ครับ และไม่มีใครเตือนใครได้ดีเท่ากับ การเตือนตนด้วยตนเอง ครับ

    ศาสนาอื่นนั้นไม่เหลือหรอครับ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายกันมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมดครับ เท่าที่ทราบต่อไปมหาอำนาจ อย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาไทย ศูนย์กลางโลกศูนย์กลางศาสนาอยู่ในเขตประเทศไทยนี่แหละ ซึ่งต่อไปที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนาในยุคจักรพรรดิ์ ทั้งโลกจะถูกปกครองโดยสามร่มโพธิ์ศรี อัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิ์จะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลก อย่างที่พวกยิวเขาคิดจะครองโลกกันนั้น ไปไม่ถึงดวงดาวหรอกครับเพราะวิทยาศาสตร์ถึงทางตันแล้ว

    เหตุที่เกิดในภาคใต้ซึ่งเป็นเขตพุทธศาสนายังรุนแรงขนาดนี้ ต่อไปเหตุที่เกิดในเขตศาสนาอื่นๆนั้น จะรุนแรงกว่านี้มากครับและความหายนะที่จะเกิดขึ้นนั้นก็จะมากด้วย

    ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณเดิมของการมาเกิดก็จะเข้าใจว่าอย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเดิมหรือต้นธาตุของจิตวิญญาณ ของพวกนี้เป็นพวกยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้นที่ครูบาอาจารย์ท่านว่าพวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้น ก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้เขาก็มาเกิดกันมากในยุคนี้ ส่วนใหญ่ในเขตไทยและใกล้เคียงจะเป็นเชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป็นเชื้อต่างๆเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมีมาในภพภูมิไหนมามาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับภพภูมิเหล่านั้นและเมื่อถึงเวลาก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูมิ

    และบางครั้งการทำงานจากภายใน ก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอก แต่คนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน ที่เห็นก็คือผลที่แสดงออกมาภายนอก และพยายามอธิบายกันด้วยเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการรู้นอกแต่ไม่รู้ใน คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายเหตุผลภายนอก แต่ไม่เข้าใจถึงเรื่องกฏแห่งกรรมซึ่งเป็นเหตุภายใน เป็นต้น นี่คือรู้ไม่แจ้งในเรื่องนั้นๆ ก็เลยเกิดความ "ประมาท" กันต่อไป ครับ

    ต่อไปจะมีพระจักรพรรดิ์เป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมมิกราชจะเป็นคล้ายพระสังฆราช และจะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง จะทำหน้าที่คล้ายนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์ศรีก็คือ สามโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา นั่นเอง เอาเป็นว่า มีผู้ที่เขาลงมาทำหน้าที่นี้กันครับ และก็มีเหล่าอัญญาสิทธิ์ อัญญาธรรม ที่ตามลงมาทำหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง บางคนก็รู้ตัวเองแล้ว บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ตัวเองครับ ถึงเวลาแล้วก็คงจะได้เห็นว่าของจริงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งบางท่านบางคน บางท่าน จะมีชื่อเสียงในหมู่ของเทพ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ ฤษี มุนี ดาบส ฯลฯ และพวกเขาเหล่านั้นก็รอยุคพระยาธรรมมิกราชนี่แหละ แต่พวกมนุษย์ไม่รู้จักเพราะท่านเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบๆและลี้ลับ เป็นต้น ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรยๆให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น "ดังบ่ดี ดีบ่ดัง" ครับ

    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนดและยุคพระยาธรรมฯ ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในกึ่งกลางพระพุทธศาสนา ในยุคของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อย่างในยุคพระเวสสันดร(ซึ่งเป็นช่วงประมาณกึ่งกลางศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง) หลังจากพระเวสสันดรได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดยุคพระยาธรรมฯหรือยุคพระจักรพรรดิ์ขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าลูกชายพระเวสสันดรจะเป็นพระจักรพรรดิ์ในสมัยนั้น

    และในยุคร่วมสมัยในปัจจุบันนี้ มีบุคคลผู้หนึ่ง ทำทานบารมีจนได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้วเช่นกัน ดังนั้นผมก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมฯ นั้นเข้ามาใกล้ถึงปลายจมูกแล้วครับ ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำกันได้เลยครับ หากเมื่อใดผู้ที่ได้พรพระอินทร์เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา(ซึ่งเป็นประเพณีส่วนหนึ่งของการปรารถนาพุทธภูมิ) ระบบที่ทำหน้าที่ภายในเขาก็จะทำงาน ตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้นจะเห็นคุณค่าของศีลธรรม ของศีลห้า ศีลแปด ของบุญบารมีที่แต่ละท่าน บำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ครับ

    ให้ลองนึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะเป็นแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวัน หายวับไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่เขาทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นได้แค่ระดับนาคใหญ่เขาโก่งหลัง หรือสะดุ้งเพียงเล็กน้อย ลองจินตนาการดูว่าหากพวกนาคบางพวกเขามีหน้าที่ทำฤทธิ์เพื่อล้างผู้ที่มีศีลธรรมไม่เพียงพอสำหรับการอยู่ในยุคพระยาธรรม บนโลกนี้ก็จะเหลือคนไม่มาก อย่างที่พระสูตรบอกไว้ครับ

    จากคุณ คนไกล(อัญญาสิทธิ์) เมื่อวันที่ 30/12/2547 8:42:27

    ที่มา http://www.konmeungbua.com/webboard/
     
  6. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    เห็นข่าวจีนซ้อมรบ วันที่ 16 ต.ค.2555 เพื่อการบุกยึดเข้าเกาะเตียวหยูเบ็ดเสร็จ ซึ่งแปลกมาก การเจรจาตามแบบฉบับมันจะเป็นตัวประสพผลมากกว่าหรือไม่ ?
    เพราะถ้าทำสงครามกัน ปัญหาก็มีสิทธิ์ลุกลามขึ้น, ซึ่งก่อนหน้าผมไม่เห็นแบบนี้
    แสดงว่าจีนต้องได้วิเคราะห์และได้ข้อมูลบางอย่างไม่ได้เกี่ยวข้อง "โดยตรง" กับญี่ปุ่น
    เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ชาติและพลังอำนาจ อะไรก็ย่อมเป็นไปได้ -- ก็เป็นธรรมดาของทุกชาติกัน
    ญี่ปุน จีน และ อเมริกา ต่างก็เคยเป็นมิตรประเทศและคู่กรณีพิพาทซึ่งกันและกัน
     
  7. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    บางครั้งการควบคุมจุดยุทธศาสตร์ จะมีความสำคัญต่อการทำสงครามในอนาคต เพราะจะได้เปรียบในการสกัดกองกำลังข้าศึก การส่งกำลังบำรุงให้ฝ่ายตนเอง แหล่งพลังงาน เสบียงอาหาร และ US เขาให้นายทหารของเขา ศึกษาตำราพิชัยสงครามของ สามก๊ก เมื่อก่อนบุกอิรัค
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    3 วันอันตราย !!!
    (21 ธ.ค.55,1 ม.ค.56,14 ก.พ.56)

    [​IMG]

    k_97 สมาชิก

    17 ต.ค. 55

    ภัยคงจะบีบตัวเข้ามา ไม่มีใครเดาถูกว่า ภัยคนหรือภัยธรรมชาติอะไรจะมาก่อน จากการที่ลูกสาวไปสัมนาที่ ม.เกษตร ที่พระอาจารย์รัตน์ได้กรุณามาให้ความรู้สองวัน จากการคุยกันก็ไม่สามารถระบุชัดเจนว่าเมื่อไร? เพียงแต่ให้ระวังเป็นช่วงๆ คือ 21 ธ.ค.55,1 ม.ค.56 และ14 ก.พ.56


    ส่วนใหญ่จะรอให้ภัยเกิดแล้วค่อยหนี(วัดดวง) การหนีพร้อมกัน คนกรุงเทพฯมีกี่ล้านคน? ถ้าหนีพร้อมกันอะไรจะเกิดขึ้น? ท่านต้องตรองให้ดี การขึ้นไปคอยก่อนจะปลอดภัยที่สุด แต่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพันธะ คนส่วนใหญ่ยังมีภาระผูกพันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ คนกินเงินเดือน ข้าราชการ นี่คือโซ่ที่ล่ามเอาไว้

    เคอิสรา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P7M2238.jpg
      P7M2238.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      384
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  9. ungo

    ungo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +15
    ข้อความต่อไปนี้ สุดแล้วแต่วิจารณญาณและความเชื่อของทุกท่าน
    ผมไม่ได้มีเจตนาจะอวดอุตริ หรืออวดคุณวิเศษอะไรทั้งสิ้น เพราะผมเองยังไม่สำเร็จญาณ 4 เลยด้วยซ้ำ

    1) เมื่อวันไหว้พระจันทร์ที่ผ่านมา แม่ และน้าผมได้ตั้งโต๊ะไหว้พระจันทร์ และสวดมนต์พระแม่โพธิสัตว์ตามประเพณี ตามปกติของทุกปี น้าผมเล่าให้ฟัง พระแม่โพธิสัตว์กวนอิม มาประทานพรให้ และบอกเป็นภาษาจีน (ซึ่งน้าผมแปลเป็นไทย ได้ความว่า)

    "เหล่าทวยเทพร่ำไห้ จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด เพราะสงสารมนุษย์ ที่จะต้องเผชิญกับภัยพิบัติ ไม่มีเทพองค์ไหนช่วยได้ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มนุษย์จะล้มตายเป็นอันมาก สุดแล้วแต่เวรกรรมที่ได้ทำมา ให้พวกเจ้าถือตั้งใจถือศีล 5 สวดพุทธคุณทุกวันห้ามขาด เมื่อถึงเวลานั้นเทพยดา จะคุ้มครองคนดี มีศึลธรรมเอง"

    น้าผมถามพระโพธิสัตว์ว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ท่านตอบว่า "ไม่ช้า ไม่เร็ว"

    2. เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าและสนทนากับท้าวมหาพรหมสหบดีพรหม ท่านก็เตือนในทำนองเดียวกันนี้ว่า

    "อีกไม่นาน มนุษย์จะล้มตายกันเยอะมาก ให้ถือศีล 5 ให้มั่น และสวดมนต์ทุกวันอย่าขาด สิ่งนี้จะช่วยให้รอดปลอดภัยได้ และเตือนผม และพ่อแม่ว่าไม่ให้เดินทางไปไหนไกลจากบ้านมาก"

    3. พี่กุมาร ที่ดูแลครอบครัวผม ก็เอ่ยเตือนบ่อย ๆ ว่า

    "ใต้แผ่นดินร้อนระอุ ใต้ทะเลร้อนระอุ ไม่รู้จะปะทุเมื่อไหร่ อีกหน่อยมีบ้าน ก็เหมือนไม่มี จะอยากได้ อยากมีเยอะแยะไปทำไม"

    ทั้งหมดนี้สุดแล้วแต่ จะเชื่อเถิดครับ
     
  10. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    แบบนี้ครับ(สำหรับผม):

    พี่แซม กับ ลุงหมีกินไผ่ขอบตาดำ เจรจากันอย่างเป็นความลับว่า ต้องการที่จะลองเชิงทดสอบ ดวงอาทิตย์ ว่าจะมีปฏิกริยาโต้ตอบอย่างไร ใน first stage album

    พอปฏิกริยาตอบสนองเป็นไปในเชิงพลังงานลบ และ การกระจายตัวได้กระจายปกคลุมไปทั่วบริเวณมากพอแล้ว พี่แซมแกก็จะถอนตัวออกมาเป็นการดูเชิง

    สถาณการณ์ออกจะดูดุดัน แต่จะไม่มีการทุบตีกันจนถึงแตกหัก แต่เมื่อพี่แซมเดินออกมาแล้ว ความเลวร้ายก็จะไม่เกิดขึ้น การตบตีทะเลากันก็จะหยุดกันไปโดยปริยาย เพราะว่า พลังงานฝ่ายบวก ถูกถอนจากหน่วยเหนือ คือ พระเจ้า สำเร็จเรียบร้อยแล้ว

    พระเอก ก็คือ พี่แซม
    คนที่โดนหลอกแต่ว่ายังไม่รู้ตัวว่าโดนหลอกคือ คุณลุงหมีแพนด้าขอบตาดำ
    และผู้ที่ เป็นคนดีมากๆ(ขณะนี้) แต่ว่าก็ต้องมานั่งเจ็บช้ำระกำใจ ก็คือ คุณดวงอาทิตย์

    ต่อไปพี่แซมอยากจะร้องเพลงอะไร ต้องการอะไร ก็จะได้รับอนุมัติจากกลุ่มผู้เป็นเจ้าของยานนกไฟฟีนิกส์ เป็นการสบายอารมณ์ โดยปราศจากภัยอันตราย

    เรื่องมันเชื่อมต่อตั้งแต่ระดับ ใต้โลก(และนอกโลก) มายัง ใต้ดิน และ บนพื้นโลก และ เผ่าพันธุ์มนุษย์โดยมีเหล่าผู้นำโลกาต่างๆเป็นผู้(ถูก)กำหนดให้เดินเส้นทางอย่างไม่เข้าใจมากนัก

    (มีข้อกำหนดว่า สิ่งใดที่มีผู้รู้แล้ว เส้นทางต้องเปลี่ยนออกไป -- คนเล่นเกมส์นี้ คือ คนเก่งระดับลูกหลานพระเจ้า เลยนะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  11. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=S3SwEW851KE]ธรณีกรรแสง - แบบมาตราฐาน - YouTube[/ame]


    ช่วยๆ สร้างบรรยากาศให้ :boo:
     
  12. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    ธรณีกรรแสง สร้างอารมณ์

    อย่าไปกลัวเลย หรือว่าหนี พ้น ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2012
  13. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949

    ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร
    ในหมู่ผู้ต้องการอำนาจและผลประโยชน์
    มีให้เห็นกันทุกวงการในเวลานี้ครับ
     
  14. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การต่อรองเจรจากับเพื่อนจากต่างดาว !!!

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nirvana<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6856344", true); </SCRIPT> สมาชิก

    น้า Mythi บอกว่า ขณะนี้ Elite (ผู้นำรัฐบาลมหาอำนาจชาวโลก) พยายามเจรจากับชาวดาวลูกไก่ (Pleiadeans) เพื่อขอร้องให้ CG ช่วยใช้เทคโนโลยีบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติที่กำลังมาถึงด้วย ซึ่ง Elite หวังว่าจะช่วยผู้คนไว้ได้และจะกลับมาเป็นผู้นำโลกต่อไป แต่ทาง CG ไม่เห็นด้วยและต้องการให้ Elite ทั้งหลายกลับมาเป็นสามัญชนคนเดินถนน

    ส่วนผู้ที่รอดพ้นจากภัยพิบัติและจะเป็นผู้นำชาวโลกรุ่นต่อไป จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก CG เสียก่อน (คงจับตัวไปสแกนออร่า...อิอิอิ) เพื่อความมั่นใจว่าจะดำเนินการอยู่ในร่องในรอยและมีความสามารถจริง (โดยไม่ต้องดีเบต)

    ในความเห็นของน้า Mythi คิดว่าโอกาสที่การเจรจาจะบรรลุผลคงน้อยมาก เพราะเวลาใกล้หมดแล้ว ภัยพิบัติจะเป็นปรากฏการณ์ที่คัดสรร (Filter) มนุษย์ที่ดีและเลวออกจากกันเหมือนอย่างเช่น การแยกเมล็ดข้าวออกจากรวง

    อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนถ่ายจากระดับ 0 ไปยังระดับ 1 จำเป็นจะต้องมีอาสาสมัครชาวโลกประมาณ 250 คน เป็นตัวเชื่อมต่อประสานงานระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยนที่จะลงมาช่วยชาวโลกหลังภัยพิบัติ

    สมาชิกท่านใดที่สนใจงานอาสาสมัครแบบนี้ซึ่งคงได้กระทบไหล่เอเลี่ยนตัวจริง มีโอกาสได้ไปขี่ยานอวกาศเล่นๆเป็นการปรับความเข้าใจในเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าแตกต่างกัน ก็ขอให้ท่านเจริญจิตภาวนาสั่งสมความสว่างของออร่าในตัวท่านไว้คอยท่า เดี๋ยวเชื่อว่าท่านคงได้รับเลือกในเวลาไม่ช้านานนัก..55555

    ปล. อ่านตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ ภัยพิบัติของจริงยังไม่ได้เริ่มแสดงผล
    ยังไม่มีใครมารับประกันความปลอดภัยของทุกท่าน ฉะนั้นช่วงนี้ก็รีบแปลง
    ทรัพย์สินเป็นบุญ....ด่วน


    ใช้สติปัญญาหาทางเอาตัวรอดแบบ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ไปด้วย นะครับ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ดาวหาง-elenin-nibiru-planet-x-elenin-events.281795/page-70
     
  16. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    5555555555555
    ปล. อ่านตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ ภัยพิบัติของจริงยังไม่ได้เริ่มแสดงผล
    ยังไม่มีใครมารับประกันความปลอดภัยของทุกท่าน ฉะนั้นช่วงนี้ก็รีบแปลง
    ทรัพย์สินเป็นบุญ....ด่วน

    ใช้สติปัญญาหาทางเอาตัวรอดแบบ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ไปด้วย นะครับ

    ที่มา ดาวหาง Elenin / Nibiru (planet X) - Elenin - Events<!-- google_ad_section_end -->
    ชอบตรงแปลงสินทรัพย์เป็น บุญ สินทรัพย์เอาลงที่ไหนดีละ รวยอีกแล้ว
     
  17. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ปฏิทินขอม vs มายา พิสูจน์อวสาน (1) ชิมลาง..โลกยังปกติ!

    ’ปฏิบัติการวันสิ้นโลก 2012 ท้าพิสูจน์ที่ปราสาทภูเพ็ก สกลนคร (Operation Doomsday 2012 at Prasat Phupek Sakon Nakhon)“ นี่คือชื่อปฏิบัติการพิสูจน์เรื่องวันสิ้นโลกที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย โดยกลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่า ทีมงาน “พยัคฆ์ภูเพ็ก” ซึ่งมีแกนนำประกอบด้วย...นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์, สรรค์สนธิ บุณโยทยาน นักพิภพวิทยา, ฤาษีเอก อมตะ - วรวิทย์ ตงศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณและศาสตร์ลึกลับ, บุปผา ดวงมาลย์ ผู้รู้จักปราสาทภูเพ็กทุกซอกทุกมุม........................................

    อ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ ปฏิทินขอม vs มายา พิสูจน์อวสาน (1) ชิมลาง..โลกยังปกติ! | เดลินิวส์
     
  18. แสงสีขาว

    แสงสีขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2012
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +436
    แปลงทรัพย์สินบางส่วนเป็นเมล็ดพันธุ์พืช อุปกรณ์ยังชีพ ทองคำ เหมาะสมกว่า การสร้างบุญใช้วิปัสสนากรรมฐานสร้างดีที่สุด ดีกว่าสวดมนต์ และทำบุญทำทานอีก ไม่ต้องใช้เงินด้วย
     
  19. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ข้อความบางส่วน :

    ทั้งนี้ จากการที่ ทีม “พยัคฆ์ภูเพ็ก” ได้เริ่มตรวจสอบพิสูจน์เป็นการชิมลางในยกอุ่นเครื่อง ก่อนจะเริ่มยกแรก การตรวจสอบเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2555 ซึ่งถ้าความเร็วของการหมุนรอบตัวเองของโลกต่างออกไป ไม่ว่าจะช้าลง หรือเร็วขึ้น เงาดวงอาทิตย์บนนาฬิกาแดดจะไม่สัมพันธ์กับสมการแห่งเวลาเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาข้อมือ แต่ผลการตรวจก็พบว่า นาฬิกาแดดและนาฬิกาข้อมือให้ข้อมูลตรงกับสมการเวลา แสดงว่า ไม่ผิดปกติ

    และจากการตรวจสอบพิสูจน์ในวันที่ 10 ก.ย. 2555 ผลการคำนวณก็พบว่า โลกยังคงหมุนที่อัตรา 15 องศาต่อ 1 ชั่วโมง เป็นปกติ โดยในวันที่ 10 ก.ย. 2555 เวลา 12.00 น. ทั้งนาฬิกาแดดและนาฬิกาข้อมือชี้ตำแหน่งเดียวกัน จึงยืนยันได้ว่า ณ วันดังกล่าวนี้ การหมุนรอบตัวเองของโลกยังคงไม่มีอะไรบิดเบี้ยว!!

    :cool:
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ลำดับเหตุการณ์การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

    <CENTER style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px/20px Arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; PADDING-TOP: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(249,249,249); outline: 0px; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">[​IMG]</CENTER>
    สาส์นข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา


    อนึ่งผมได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากคุณ สนธิ สารธรรม จ่าหน้าว่า "สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระที่ฟาติมา" ผมจะขอคัดข้อความส่วนที่กล่าวถึงการทำนายมาลงในที่นี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อความชิ้นแรก ที่ผมได้อ้างมาแล้วในตอนต้น

    "หลังจากที่สมเด็จพระสันตปาปายอห์น ปอล ได้ทรงอ่านทำนายข้อที่ 3 แล้วก็เช่นเดียวกันพระองค์ทรงโทมนัสมากจากข้อความในสาสน์นั้น และทรงอนุญาตให้เปิดเผยบางส่วนให้โลกได้รับทราบในปี ค.ศ.1983-1985 พระองค์ทรงทำดังนี้เพราะมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว"

    "เสียงจากพระแม่ได้ตรัสกับลูเซียว่า........ลูกที่รักของเราจงไปและบอกให้โลกได้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมนุษย์ไม่ฟังคำสั่งที่พระเป็นเจ้าทรงวางไว้ต่อหน้าพวกเขา ปีศาจจะปกครองโลกและมันกำลังทำให้คนทั้งหลายเกลียดชังกัน อาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นก็สามารถทำลายโลกได้ในเวลาเพียงนาทีเดียว ครึ่งหนึ่งของมนุษย์ชาติจะถูกทำลาย พระศาสนาจักรเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความชั่วร้าย จนว่าไม่มีมนุษย์สักคนเข้าใจดีกันได้และมนุษย์จะสูญเสียความเชื่อ.......

    แผ่นดินไหวจะทำลายแนวเส้นแบ่งของโลก (เส้นศูนย์สูตรของโลก) ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าจะตาย บุคคลเหล่านี้เป็นพวกที่ชีวิตของเขามีรากฐานอยู่บนวัตถุสิ่งของ คนหลายล้านคนจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนพวกที่มีชีวิตรอดก็ปรารถนาให้ตัวเองได้อยู่ในหมู่ผู้ตาย (อยากตาย) สภาพของโลกที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้นเป็นสภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่สิ่งนี้จะมาอย่างแน่นอน พระเป็นเจ้าจะทรงลงโทษผู้ที่ไม่ต้องการที่จะยอมรับพระองค์ พวกที่เชื่อและสัตย์ซื่อต่อพระองค์จะมีชีวิตรอดและจะมีความเชื่อเพิ่มมากขึ้น"

    ลูเซีย เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เธอได้กลายเป็นแม่ชี และเคยกล่าวเอาไว้ว่า

    ".........แม่พระทรงโทมนัสมาก เพราะไม่มีใครสนใจในสาสน์ปี ค.ศ.1917 ของพระแม่ จงเชื่อเถิดว่าการลงโทษกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ และมีวิญญาณมากมายจะประสบความพินาศ หลายชาติจะหายไปจากโฉมหน้าของโลก ในระหว่างนี้ถ้ามนุษย์กลับตัวกลับใจโลกก็จะปลอดภัย........ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเริ่มภาวนา ทำการใช้โทษบาปและส่งสาสน์นี้ให้แพร่หลายต่อไปยังครอบครัวญาติมิตร "

    "การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

    "ในคืนที่มีอากาศหนาวจัด เมื่อเวลา 10 นาทีก่อนเที่ยงคืน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้โลกสั่นสะเทือนเป็นเวลา 8 ชั่วโมง นี่คือสัญญาณที่ 3 ซึ่งแสดงว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครองโลก คนดีและผู้ที่ได้เผยแพร่สาสน์ของพระแม่จะไม่ต้องหวาดกลัวเลย จะต้องทำอะไรเล่าจงคุกเข่าและภาวนาวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า จงอย่าออกไปข้างนอกจงอย่ายอมให้ใครก็ตามเข้าไปในบ้านของท่าน คนดีเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดจากหายนะครั้งนี้ ส่วนคนชั่วจะตกอยู่ในน้ำมือของปีศาจ "

    แม่ชีลูเซียได้แนะ "ทางรอด" ให้แก่ผู้ที่เตรียมตัวพร้อมเอาไว้ดังนี้ว่า

    " ดิฉันขอให้เครื่องหมายเหล่านี้ คือคืนนั้นจะหนาวมาก ลมจะพัดแรงและในช่วงเวลาอันสั้นโลกจะเริ่มสั่นสะเทือน ที่บ้านของท่านจงปิดหน้าต่างทุกบานและอย่าพูดกับคนหนึ่งคนใดนอกจากคนในบ้าน อย่ามองออกไปภายนอก อย่าอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นพระพิโรธของพระเป็นเจ้า จงจุดเทียนเสกเพราะจะไม่มีแสงสว่าง ในรูปแบบอื่นส่องแสงได้เป็นเวลา 3 วัน คุกเข่าต่อไม้กางเขนแล้วภาวนา.....


    เมื่อโลกหยุดสั่นสะเทือนแล้ว ท่านจึงมองออกไปภายนอกได้ แต่อย่าได้แตะต้องหรือนำสิ่งใดก็ตามที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นพิษ มิฉะนั้นตัวท่านจะได้รับพิษนั้นด้วย ทุกคนที่ไม่เชื่อและไม่ฟังจะตาย ลมจะพัดเอาอากาศธาตุ (ก๊าซ) มาและแผ่กระจายไปทั่วโลก ในคืนที่ 3 แผ่นดินจะหยุดสั่นสะเทือน มันจะอยู่ในสภาพนิ่ง ดวงอาทิตย์จะปรากฎมา บรรดาทูตสวรรค์จะมาจากฟ้าและอวยพรแผ่นดินโลกอีกครั้งหนึ่ง "


    (คัดลอกมาจาก หนังสือ เทพอวตาร เขียนโดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • attachment.jpg
      attachment.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.4 KB
      เปิดดู:
      87

แชร์หน้านี้

Loading...