ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หน่วยความมั่นคงสหรัฐวิตก ผู้นำผิวสีอาจถูกลอบสังหาร

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (7 พ.ย.) อ้าง หน่วยงานด้านความมั่นคงสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นายบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและครอบครัว รวมถึงนายโจ ไบเดน ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต้องได้รับการคุ้มกันเป็นพิเศษ

    เนื่องจากเกรงว่าผู้มีแนวคิดเหยียดผิวและเชิดชูคนผิวขาว อาจก่อเหตุลอบสังหารว่าที่ผู้นำคนใหม่ เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับผู้นำทางความคิดชาวผิวดำคนอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ เช่น นายมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ผู้นำขบวนการเรียกร้องสิทธิชาวอเมริกันผิวดำ และนายมัลคอล์ม เอ็กซ์ ผู้สืบทอดเจตนารมณ์การขับเคลื่อนสังคมที่เท่าเทียมกัน ระหว่างชาวอเมริกันผิวขาวและชาวอเมริกันผิวสี
    <O:p</O:p</O:p
    รายงานระบุต่อว่า นายเฟร็ด เบอร์ตัน อดีตหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกา ระบุว่า อาวุธปืนที่มีใบอนุญาตครอบครองอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 200 ล้านกระบอก และสถิติผู้ถูกยิงเสียชีวิตในสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 30,000 คนต่อปี ขณะที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 4 คน เสียชีวิตเพราะถูกลอบสังหาร และอีก 2 คนรอดชีวิตมาได้ การเดินทางพบปะประชาชนในรัฐต่างๆ ของนายโอบามาและคณะทำงานพรรคเดโมแครตในเดือน ธ.ค.จึงสมควรได้รับการคุ้มกันอย่างเข้มงวดที่สุดเท่าที่จะทำได้
    <O:p</O:p</O:p
    รายงานระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จับกุมนายเดเนียล โควาร์ต วัย 20 ปี และนายพอล ชเลสเซิลมัน วัยรุ่นอเมริกันผิวขาววัย 18 ปี ที่มีแนวคิดสุดโต่งในการเชิดชูคนผิวขาว หรือ "ไวท์ ซูพรีมเมซิสต์" โดยเจ้าหน้าที่สอบปากคำระบุว่า ทั้งคู่รู้จักกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตและพูดคุยกันเรื่องการขยายอำนาจของคนผิวขาว ทั้งยังรับสารภาพว่าร่วมกันวางแผนสังหารและฆ่า ตัดคอชาวแอฟริกัน-อเมริกันนับร้อยคน รวมถึงนายโอบามา ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 4 พ.ย. โดยอัยการศาลรัฐเทนเนสซีได้ยื่นเรื่องสั่งฟ้องทั้งสองคนเมื่อวันที่ 5 พ.ย. และหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งสองจะต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปี

    ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th

    เฮอริเคนพาโลมาทวีกำลังแรงขณะเข้าใกล้เกาะเคย์แมน

    [​IMG]

    จอร์จทาวน์ 8 พ.ย.- พายุเฮอริเคนพาโลมาทวีกำลังแรงเป็นเฮอริเคนระดับอันตรายแล้ววานนี้ ขณะมุ่งหน้าสู่เกาะเคย์แมน ดินแดนของอังกฤษ และคิวบา ซึ่งได้รับความเสียหายจากเฮอริเคนถึง 2 ลูกในปีนี้

    รายงานระบุว่า ธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้ง โรงเรียน สถานที่ราชการบนเกาะเคย์แมน ศูนย์กลางทางการเงินขนาดใหญ่ ปิดทำการ ขณะที่ประชาชนต่างเตรียมพร้อมรับมือพายุที่กำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า เฮอริเคนพาโลมาทวีกำลังแรงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นเฮอริเคนระดับ 3 จาก 5 ระดับ โดยมีความเร็วลมสูงสุด 185 กม./ชม.

    ก่อนหน้านี้ เฮอริเคนพาโลมาก่อให้เกิดฝนตกหนักในฮอนดูรัส แต่ไม่เป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำมันของสหรัฐในแถบอ่าวเม็กซิโกแต่อย่างใด คาดว่าเฮอริเคนลูกนี้จะพัดเข้าคิวบาในค่ำวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น คิวบาได้สั่งอพยพเด็กนักเรียนโรงเรียนประจำราว 85,000 คน วานนี้ และอาจเริ่มอพยพประชาชนในพื้นที่ราบที่มีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ง่ายในเร็ว ๆ นี้. -สำนักข่าวไทย

    2008-11-08 08:13:05

    โรงเรียนในเฮติถล่มฝังนักเรียนตายทั้งเป็น 50 คน

    [​IMG]

    เกิดเหตุอาคารเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเฮติพังถล่มฝังนักเรียนหลายร้อยคนภายในอาคารทั้งเป็น ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก

    เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ เมื่ออาคารเรียน 3 ชั้นของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนเนินเขานอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ พังถล่มลงมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ระหว่างที่นักเรียนกว่า 500 คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมปลายกำลังเรียนหนังสือและทำกิจกรรมอยู่ภายในอาคาร หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และเจ้าหน้าที่หน่วยกาชาดเฮติ เร่งมืออย่างหนักในการรื้อค้นซากปรักหักพังของอาคาร เพื่อนำร่างครูและนักเรียนจำนวนมากออกจากที่เกิดเหตุก่อนนำส่งโรงพยาบาล หลายคนบาดเจ็บสาหัสมีเลือดออกทั่วร่าง

    ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 50 คน และอีกกว่า 85 คนได้รับบาดเจ็บ คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีครูและนักเรียนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกจำนวนมาก. -สำนักข่าวไทย

    2008-11-08 07:33:12

    ที่มา http://news.mcot.net
    </O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดพระพุทธบาทภูแฝด จังหวัดชัยภูมิ
    โดยคุณ เอกอิสโร วรุณศรี

    [​IMG]

    เห็นคุณบุญญสิกขา มี comment ที่น่าสนใจ เรื่อง พระนาคปรกที่ วัดภูแฝด ซึ่งเป็น Background อยู่ด้านหลังที่ผมยืนอยู่ จึงอยากจะนำมาภาพบรรยากาศ ภายในวัดมาให้ชม

    "ภูแฝด จังหวัดชัยภูมิ อีกสถานที่หนึ่งที่เตรียมไว้เพื่อรองรับภัยพิบัติ"

    วัดพระพุทธบาทภูแฝด

    ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาเสียว ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๒๓ กิโลเมตร เส้นทางเดียวกับวัดศิลาอาสน์ ภูพระ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๒๐๑ (ชัยภูมิ-แก้งคร้อ) เป็นเนินเขาเตี้ยๆมีรอยพระพุทธบาทในก้อนหินคล้ายพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี ทางเข้าวัดทั้งสองข้างทางมีต้นไม้เรียงรายตลอดแนว ดูแล้วร่มรื่นยิ่งนัก

    จังหวัดชัยภูมิ

    ตั้งอยู่บนสันขอบที่ราบสูงอีสาน ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับภาคกลางและภาคเหนือ เป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียวแสนงาม และสายน้ำตกชุ่มฉ่ำยามหน้าฝน เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน มีเทือกเขาที่สำคัญได้แก่ ภูพังเหย ภูแลนคา ภูพญาฝ่อ อันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำชี

    [​IMG]ด้านประวัติศาสตร์ ชัยภูมิมีอารยธรรมซ้อนทับกันหลายสมัย ตั้งแต่สมัยทวารวดี สมัยขอม จนถึงอิทธิพลลาวล้านช้าง มีการค้นพบโบราณสถานโบราณวัตถุมากมายในหลายพื้นที่ของจังหวัด ต่อมาปรากฏชื่อเป็นเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายหลังจึงร้างไป และมาปรากฏชื่ออีกครั้งในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ โดยมีชาวเวียงจันทน์เข้ามาสร้างบ้านแปงเมือง มีผู้นำชื่อ แล ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ

    [​IMG]ชัยภูมิอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 342 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 12,778 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 15 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอจัตุรัส อำเภอภูเขียว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอบ้านแท่น อำเภอแก้งคร้อ อำเภอคอนสาร อำเภอเทพสถิต อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเนินสง่า และกิ่งอำเภอซับใหญ่

    [​IMG]อาณาเขต

    ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดขอนแก่น
    ทิศใต้ ติดกับจังหวัดนครราชสีมา
    ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดนครราชสีมา
    ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี

    รถยนต์

    [​IMG]จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงสระบุรี แยกขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 201 ที่อำเภอสีคิ้ว ผ่านอำเภอด่านขุนทด อำเภอจัตุรัส เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทางประมาณ 342 กิโลเมตร

    [​IMG]อีกเส้นทางหนึ่ง คือ จากกรุงเทพฯ เดินทางไปตามถนนพหลโยธิน ผ่านสระบุรี ถึงแยกพุแค แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ถึงอำเภอชัยบาดาล จากนั้นเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 205 ผ่านอำเภอเทพสถิต อำเภอจตุรัส เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ

    รถโดยสารประจำทาง

    [​IMG]มีบริการเดินรถ กรุงเทพฯ-ชัยภูมิ ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 โทร. 0 2936 2852-66 สถานีขนส่งชัยภูมิ โทร. 0 4481 1493 บริษัท แอร์ชัยภูมิ โทร.0 4481 1556 นครชัยแอร์ โทร. 0 44 81 1739 ชัยภูมิจงเจริญ โทร. 0 4481 1780 ชัยภูมิทัวร์ โทร. 0 4481 6012 www.transport.co.th

    รถไฟ

    จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) มีรถด่วน รถเร็ว กรุงเทพฯ-หนองคาย บริการทุกวันโดยลงที่สถานีบัวใหญ่ จากนั้นสามารถต่อรถโดยสารประจำทางไปชัยภูมิอีก 51 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ แผนกบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 www.railway.co.th


    ระยะทางจากอำเภอเมืองไปอำเภอ และกิ่งอำเภอต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ
    • บ้านเขว้า ๑๓ กิโลเมตร
    • เนินสง่า ๓๐ กิโลเมตร​
    • หนองบัวระเหว ๓๓ กิโลเมตร​
    • คอนสวรรค์ ๓๘ กิโลเมตร​
    • จัตุรัส ๓๙ กิโลเมตร​
    • แก้งคร้อ ๔๕ กิโลเมตร​
    • หนองบัวแดง ๕๓ กิโลเมตร​
    • บำเหน็จณรงค์ ๕๘ กิโลเมตร ​
    • ภูเขียว ๗๗ กิโลเมตร​
    • บ้านแท่น ๘๑ กิโลเมตร​
    • ภักดีชุมพล ๘๕ กิโลเมตร​
    • เกษตรสมบูรณ์ ๙๐ กิโลเมตร ​
    • เทพสถิต ๑๐๕ กิโลเมตร​
    • คอนสาร ๑๒๕ กิโลเมตร​
    • กิ่งอำเภอซับใหญ่ ๕๐ กิโลเมตร​



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ทบทวนคำเตือนของคุณ 108 man

    [​IMG]

    สิ่งที่แน่นอนก็อาจไม่แน่นอน นี้คือความเป็น "ธรรม"

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->หลังจากเกิดซึนามี ผมก็ได้แต่เฝ้าดู TV แทบไม่ได้นอน เกือบ 1 อาทิตย์สิ่งที่ปรากฎในใจ ก็คือ ตัวเราเองได้สำนึกในความประมาท จึงต้องกลับมาหาจุดยืนของตนเอง จึงได้รู้ว่าคลื่น ไม่ได้พัดพาสิ่งต่าง ๆ ลงทะเลไปแต่ ได้พัดพาความ ประมาท และความชั่วร้ายจากใจ ของ ผมออกไปด้วยนี้คือสำนึก ที่เกิดขึ้น เพราะอะไร

    1. ผมรู้ก่อนจากอาจารย์ผม แต่ไม่สนใจ และในใจก็กลับคิดว่าไม่มีทางเกิดได้และยังคิดว่าอาจารย์ผม ยังไงอยู่ แต่จริง ๆ ท่านบอกไว้ล่วงหน้าเกือบ 7 ปี

    2. ตลอดกว่า 7 ปี ท่านให้ ฝึกอภิญญา ไม่ใช้เพื่อตนเอง แต่เพื่อให้มีสติและสามารถช่วยคนอื่น ๆ ได้ ในเวลามีเหตุ แต่ผมก็ทำไปเรื่อย ๆ เพราะคิดแต่ว่ายังมีเวลา

    3. เวลามีการแก้ไขในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อแก้เคล็ด ผมก็ไม่ได้ร่วมเพราะคิดว่าแก้ไขไม่ได้

    ที่นี้ผมก็เปลี่ยนไปแล้ว และอยากจะบอกในสิ่งที่รู้มาว่า


    1. เหตุต่าง ๆ ที่รุนแรงกว่า จะต้องเกิดแน่ ๆ ตามที่ได้รับรู้ก็คล้าย ๆ กับที่สมาชิกบอก

    2. แต่ เหตุที่เราได้รับการบอกกล่าว ว่าจะเกิดวันไหน ก็ไม่สามารถเกิดได้ตรงตามวันที่ได้รับข่าว เพราะเป็น กฏของสวรรค์ ไม่สามารถบอกให้ตรงวันได้ แต่ยกเว้นผู้ทีมีหน้าที่ให้บอกได้ ซึ่งตอนนี้ที่ทราบท่านก็ไม่ยอมบอกวัน แต่บอกว่าจะเกิดที่ไหน ช่วงเดือนไหน

    3 แต่ เวลาที่ได้รับการทำนายแล้วก็อาจเลื่อนได้ อย่าง ซึนามี ก็เลื่อนมาเกือบ 7 ปี และความรุนแรงก็น้อยลง จริง ๆ แล้ว มีเกาะต้องหายไปทั้งเกาะแต่ท่านมาช่วยไว้ ซึ่งถ้าถามว่าทำไมถึงเลื่อนได้ ก็เพราะว่า มีกลุ่มที่ทำหน้าที่ในการแก้ กระจายกันไปตามสายต่าง ๆ ที่สร้างพระ หรือ สร้างวัตถุต่าง ๆ ตามที่ต่าง ๆ หรือการปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งกลุ่มนี้ก็อาจจะเป็นพวกเรา ๆ ท่าน ๆ ในที่นี้ ที่ได้ทำกันอยู่แต่ไม่รู้ตัว

    4. อาจารย์ของผมอยู่ที่อีสาน ก่อนเกิดเหตุ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2547 ท่านขีดเส้นบนแผนที่ จากเหนือเกาะสุมาตราขึ้นไปทางเหนือตามแนวที่เกิดแผนดินไหว ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครเข้าใจความหมาย ซึ่งหลังจากเกิดซึนามิ แล้ว ท่านก็ขีดเส้นจากแถวเพชรบุรี ผ่านเมืองกาจญบุรี ไปทางเหนือ จนถึงลำปาง และจะเกิด ........ ไม่สามารถเขียนรายละเอียดได้เพราะทางรัฐบาลไม่เชื่อว่าจะเกิด เรื่องก็คล้าย ๆ กับที่มีสมาชิก ได้เขียนมาแล้ว

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมบอกได้เลยว่า สิ่งที่รู้ก่อนย่อมเปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ถ้าไม่รู้ก่อนย่อมไม่เปลี่ยนแปลง นี้คือกฏของสวรรค์ ซึ่งถามว่าเมื่อไม่เกิดตรงที่รู้แล้วให้รู้ก่อนทำไม นี้ก็คือความเสี่ยงและกรรมของแต่ละบุคคล ที่จะเลือกว่าจะทำการเลื่อนหรือผ่อนหนัก เป็นเบาหรือเปล่า แต่ ผมว่าเราเป็นคนไทยในดินแคนแห่งพระพุทธศาสนา จงภูมิใจได้ว่ามีผู้ทรงอภิญญา และ พระอรหันต์ ได้ช่วยเราไว้และได้ช่วยอยู่

    ก็เพราะเหตุว่า เหตุต่าง ๆ ได้ถูกเลื่อนและทำให้เบาขึ้น ผมไม่ได้ให้คุณ ๆ เชื่อ แต่หวังให้คุณทำ (จนได้อภิญญา) เพราะกลุ่มคนจำนวนมากได้ถูกกำหนดมาให้มาเกิดเพื่อทำหน้าที่นี้ แต่คุณอาจไม่รู้ตัวเอง แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเมื่อเกิดเหตุก็จะรู้ตัวเอง ผมและลูก ก็ได้ถูกกำหนดไว้ (ทำให้รู้ว่าประเทศไทย ยังอยู่อีกหลายสิบปี เพระลูกผมอายุ 1.9 ปี เอง)

    ลองไปคิดดูนะครับ อย่าอยู่ในความประมาท


    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  4. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    มาทีละสามสิบห้าคนเชียวหรือกระทู้นี้
    อิๆเราไปกินข้าวมาท่านเที่ยงแล้วหิวข้าว

    อย่าได้กลัวไปเลยไม่มีเหตุการณ์อย่างที่ท่านกลัวหรอกโอบาม่าไม่ได้แขวนไม้กางเขนมั้งหากแขวนไม้กางเขนนี่มือปืนเขาส่องเจอไม้กางเขนเขาก็เลิกแล้ว...หากมือปืนเห็นไม้กางเขนแล้วยังลงมืออีกนี่สิ....อีพ่อเอ้ย

    พูดมากไม่ได้อมพระเย็นอยู่ไปทำไร่ไถนาเถอะไปพวกเรา....หาเลี้ยงลูกเมียดีกว่า...ลูกก็ออกน่ารัก...อยู่เมืองไทยใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารขนาดเศรษฐียังอยากจะมาบวชเมืองไทยเลย...อยู่เมืองไทยก็ทางใครทางมันหากินกันไป...ผักบุ้งอยู่ไหนก็เก็บกินได้ไม่ใช่อเมริกาขอรับ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โรงเรียนในเฮติถล่มไม่คาดฝัน พบศพผู้เสียชีวิตแล้วครึ่งร้อย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 พฤศจิกายน 2551 02:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ชาวเฮติและหน่วยกู้ภัยเร่งรื้อซากปรักหักพังช่วยเหยื่อเคราะห์ร้าย

    เอเอฟพี/เอเจนซี – เกิดเหตุโรงเรียนแห่งหนึ่งนอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ พังถล่มลงมาอย่างไม่คาดฝันเมื่อวันศุกร์ (7) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

    ตำรวจ กล่าวว่า โรงเรียนคริสต์ลา โปรเมส ในย่านเปติอองวิลล์ ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 700 คน เกิดพังถล่มลงมา จนทำให้ครูและนักเรียนหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส

    ด้านผู้ปกครองคนหนึ่ง ซึ่งรีบเดินทางมาที่โรงเรียนหลังทราบข่าว กล่าวว่า อาคารเรียน 3 ชั้นได้พังถล่มลงมาทับนักเรียนขณะกำลังเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียนอย่างไม่คาดฝัน

    รายงานข่าว แจ้งว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้ที่เห็นเหตุการณ์หลายร้อยคนต่างเร่งให้ความช่วยเหลือเหยื่อเคราะห์ร้ายซึ่งติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจำนวนมาก ขณะที่นักเรียนที่ได้รับการช่วยชีวิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

    อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้โรงเรียนดังกล่าวพังถล่มลงมาแต่อย่างใด แต่คาดว่าอาจเกิดจากการที่โรงเรียนกำลังต่อเติมอาคารเรียนดังกล่าวอยู่

    ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และเจ้าหน้าที่กาชาดของเฮติ ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุแล้ว ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 ราย และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มสูงขึ้น

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000132406
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** สัจจะของใครของมัน ****

    ไม่มีใครช่วยตัวของเราได้...เท่าสัจจะที่เราทำได้เอง
    การกระทำ เป็นของตนเอง
    เหงื่อใคร เหงื่อมัน
    ของใคร ของมัน
    ท่านต้องทำเอง
    จึงรู้ได้เอง

    กำหนดสัจจะปฏิบัติ...ให้เป็นประจำ เหมือนพระสมัยก่อน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สุดสยอง ! นมเปื้อนสารพิษ ปิดกันให้แซดมานานแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 พฤศจิกายน 2551 15:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเจนซี่ – ฟังแล้วสยอง เมื่อคนวงในอุตสาหกรรมผลิตนมของจีนออกมาแฉว่า การผสมสารต้องห้ามในนม รวมทั้ง“ผงโปรตีน” จากเมลามีน เป็นความลับ ที่รู้กันมานานแล้ว โดยลักลอบทำกันอย่างโจ๋งครึ่มสารพัดวิธี จนบางครั้งยากสาวต้นตอ

    จากการเปิดเผยของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมหลายคนในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งบางคนไม่เผยนามระบุว่า มีการลักลอบผสมสารต้องห้ามหลายประเภทในน้ำนมดิบมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว และทำกันเป็นล่ำเป็นสันทุกวัน รวมทั้งการใช้สารที่เรียกกันว่า “ผงโปรตีน”

    การลักลอบผสมสารต้องห้ามเป็นวิธีการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด แต่สามารถตบตาการตรวจสอบของบริษัทผู้ผลิตสินค้านมได้ว่า น้ำนมดิบจากแม่โค ที่ไม่สมบูรณ์นั้นอุดมไปด้วยโปรตีน, ไขมัน และความสดใหม่ครบถ้วนตามมาตรฐาน

    โรงงานผู้ผลิตเมลามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการผลิตพลาสติกหลายรายระบุว่า พวกตนสังเกตเห็นมีผู้มาซื้อเศษเมลามีนจากโรงงานมากขึ้นกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าซื้อไปทำอะไรกัน?

    ชาวบ้านในหมู่บ้านจางจวง,มณฑลเหอเป่ยเล่าว่า เศษเมลามีน ที่ซื้อมาจากโรงงานใกล้เคียง มักวางเป็นกองพะเนินบนบาทวิถีนอกโรงเรียนของหมู่บ้าน ก่อนจะทำเป็นผงโปรตีน ธุรกิจทำผงมหาภัยซื้อง่ายขายคล่องจนชาวบ้านผลิตกันหามรุ่งหามค่ำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คนขายกำลังหยิบไข่ในตลาดแห่งหนึ่งที่ปักกิ่งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา - เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>คุณสมบัติทางเคมีของเมลามีนจะช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนในอาหาร โดยผงโปรตีนของแท้นั้นได้มาจากโปรตีนของชิ้นส่วนสัตว์บก, ถั่วเหลือง หรือจากแหล่งอื่น ๆ แต่ทางการก็ห้ามใส่ผงโปรตีนเหล่านี้ลงในน้ำนมดิบด้วยเช่นกัน

    ที่ซ้ำร้ายไปอีกก็คือบางครั้งผู้ผลิตสารเติมในอาหารยังแอบนำเมลามีนไปผสมกับสารเติมในอาหาร เช่น สารมัลโตเด็กซ์ทริน (maltodextrin) จากนั้น จัดการบรรจุห่อ ส่งขายให้แก่ผู้เลี้ยงโคนม โดยมิได้ระบุให้ทราบถึงส่วนประกอบของมัน

    หัวหน้าสมาคมเกษตรกรรายหนึ่ง ซึ่งเลี้ยงโคนมมาเป็นเวลานาน 20 ปีเล่าว่า เรื่องผสมผงโปรตีนนี้เกิดมานานหลายปีแล้ว โดยผู้ขายจะเที่ยวเร่ขายผงโปรตีนไปตามฟาร์มต่าง ๆ โดยบรรจุในถุงกระดาษสีน้ำตาล ไม่ประทับเครื่องหมาย ถุงหนึ่งหนัก 25 กิโลกรัม ราคา 300-400 หยวน หรือ 44-60 ดอลลาร์

    ส่วนผงโปรตีน“รุ่นใหม่” ซึ่งทำจากเมลามีน ปรากฏตัวขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วจากคำบอกเล่าของเกษตรกรและเจ้าหน้าที่รัฐ

    “ทุกคนเรียกกันแต่ว่าผงโปรตีน” เกษตรกรเล่า

    “ไม่มีที่ไหนพูดกันหรอกว่ามันเป็นเมลามีน”

    “ผู้คนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ และไม่คิดว่าจำเป็นต้องทราบรายละเอียดด้วย”

    หลิว อู๋เฉียง เกษตรเลี้ยงโคนมอีกคนบอกว่า เกษตรกรไม่รู้ว่ามันเป็นยาพิษ

    “เรากลัวอยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่าน้ำนมจะถูกตีกลับ และต้องเททิ้ง”

    บริษัทผู้ผลิตผงโปรตีนหลายสิบรายยังคงโฆษณาผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ แต่หลังจากเกิดข่าวครึกโครมนมปนเปื้อนเมลามีน หลายรายก็ได้ปิดเว็บไซต์ไป

    นอกจากนั้น เกษตรกรบางรายยังถือโอกาสเติมสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารฟอกสีและฆ่าเชื้อโรคลงในน้ำนมดิบอีกต่างหาก

    เท่านั้นไม่พอ ยังมีการผสมเมลามีนในวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์

    หยาง หย่ง เจ้าของโรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์ในมณฑลเหอหนันระบุว่า เป็นวิธีการที่ธรรมดามาก แต่ตรวจพบยาก ดังนั้น เขาจึงพยายามเลือกผู้ผลิตวัตถุดิบที่ไว้ใจได้ แต่ก็ไม่รับรองว่าสินค้าของเขาจะไม่มีเมลามีน

    เจียง เว่ยสั่ว คนกลางรับซื้อน้ำนมดิบในมณฑลส่านซี ไปขายให้แก่บริษัทผู้ผลิตสินค้านม ออกมาให้ข่าวต่อสาธารณชนเมื่อปีที่แล้วว่า ในปี 2548 และ2549 เขาได้ร้องเรียนต่อทางการเรื่องการเติมสารต้องห้าม รวมทั้งสารแอนตี้ไบโอติก แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงไปร้องเรียนที่สถานีโทรทัศน์CCTV ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ทำให้เกิดรายงานข่าวขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งเผยแพร่ภาพคนงาน ขณะเทสารต้องห้ามลงในถังนม

    เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจสอบด้านคุณภาพและเทคนิคของมณฑลส่านซียืนยันว่า เจียงร้องเรียนจริง แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนไม่สามารถหาหลักฐานการกระทำผิดได้

    หลังจากนมปนเปื้อนสารเมลามีนในจีนกลายเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลกเมื่อต้นเดือนกันยายน ความวิตกกังวลของผู้บริโภคได้ลุกลาม เมื่อมีการตรวจพบเมลามีนในไข่ไก่ ที่วางจำหน่ายในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่

    ทางการจีนเชื่อว่า อาหารสัตว์ที่ปนเปื้อนทำให้ในไข่ไก่มีสารเมลามีน โดยกระทรวงเกษตรระบุพบเมลามีนในอาหารสัตว์ร้อยละ2.4 ของอาหารสัตว์ ที่มีการสุ่มตรวจมาตั้งแต่กลางเดือนกันยายน

    อย่างไรก็ตาม เมลามีนในอาหารสัตว์ไม่ก่อให้เกิดสารเคมีเข้มข้นสูงในไข่ไก่ ได้เหมือนกับการเทเมลามีนลงไปในน้ำนมโดยตรง แต่ปริมาณเมลามีน ที่พบในไข่ไก่ก็ยังสูงกว่าระดับมาตรฐานความปลอดภัยของจีนและอีกหลายประเทศ ซึ่งกำหนดไว้ที่ 2.5 ส่วนต่อหนึ่งล้านส่วน

    การสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้ในบางพื้นที่ต้องสุ่มตรวจเนื้อสัตว์และกำลังพิจารณาขยายการตรวจสอบไปถึงปลา ที่เลี้ยงในฟาร์มอีกด้วย

    ด้านบริษัทเมิ่งหนิว ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้านม ที่พบการปนเปื้อนของเมลามีนยืนยันแข็งขันว่า บริษัทกำลังใช้วิธีการตรวจสอบน้ำนมดิบหลายวิธี เพื่อตรวจหาสารปนเปื้อนต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งยาฆ่าแมลง และยาที่ใช้ในการรักษาสัตว์

    สำหรับบริษัทเนสต์เล่ ซึ่งใช้น้ำนมดิบในจีนในการผลิตสินค้า ซึ่งวางจำหน่ายเกือบทั้งหมดบนแดนมังกรระบุว่า การลักลอบใส่สารต้องห้ามในนมเป็นปัญหา ที่ทราบกันดีในจีนและในประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ แต่เนสต์เล่จะซื้อนมโดยตรงจากผู้ผลิตที่ได้รับการแนะนำความรู้จากเนสต์เล่เท่านั้น

    นอกจากนั้น ทางบริษัทยังดำเนินการทดสอบน้ำนมดิบมากกว่า 70 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจความปลอดภัย

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำกับดูแลของฮ่องกงและไต้หวันยังคงพบสารเมลามีน แต่อยู่ในระดับที่ต่ำมากในผลิตภัณฑ์นมบางรายการของเนสต์เล่เมื่อเดือนกันยายน หลังจากเนสต์เล่เริ่มตรวจสอบหาเมลามีนได้ไม่นาน

    แม้ทางบริษัทระบุว่า ปริมาณที่พบไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ได้เรียกเก็บสินค้าที่ปนเปื้อนจากท้องตลาดทั้งหมด

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000131274
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    The 256 years old man

    [​IMG]
    นายลีชุนยุง

    เมื่อทุกคนเริ่มย่างเข้า ๔๐ จะเริ่มสนใจเรื่องชะลอความแก่ โดยเฉพาะถ้ายังรู้สึกดีๆกับชีวิต มีมุมมองดีๆกับชีวิต รวมทั้งอยากใช้ชีวิตทำอะไรดีๆเพิ่ม หลายคนเริ่มถามหาเทคนิควิธีหรือหยูกยาบำรุงร่างกาย และสนใจการมีอายุยืนแบบแข็งแรง ไม่ใช่สักแต่ยืดอายุเพื่ออมโรคไปเรื่อยๆ ราวกับคนคุกที่ถูกทรมานอย่างไร้กำหนดพ้นโทษ

    สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีวิบากจ้องเล่นงานโดยเฉพาะ นาฬิกาชีวิตอาจยืดหดได้นิดหน่อยหรือมากหน่อย นักวิทยาศาสตร์ยุคเราศึกษาและค้นคว้าพบว่าโดยธรรมชาติของร่างกายคนเราสามารถมีอายุยืนยาวได้ประมาณ ๑๒๐ ปี แต่ถ้าไม่รู้จักวิธีการดูแลร่างกายให้ถูกต้อง หรือโดนสภาพแวดล้อมพ่นพิษใส่มากๆเข้า ก็อาจเน่าเปื่อยลงเมื่อประมาณ ๗๐ ดังที่ทราบๆกันว่าเป็นอายุขัยเฉลี่ยของปัจจุบัน

    แต่ความจริงมีมาแล้ว คือนายลีชุนยุง ชาวจีนผู้เกิดในปี ค.ศ. ๑๖๗๗ และตายในปี ๑๙๓๓ สิริรวมอายุได้ ๒๕๖ ปี!

    เขาเป็นผู้ลบล้างความเชื่อหลายต่อหลายประการ นับแต่ความเชื่อว่าคนเราควรมีอายุได้สูงสุดไม่เกิน ๑๒๐ ตลอดไปจนกระทั่งความเชื่อว่าคนแก่ต้องหลังโก่ง ผิวหนังเหี่ยวย่นเสมอ เพราะจนตายนายลีก็ยังสุขภาพแข็งแรง หลังตรง หนังตึง สายตาไม่ฝ้าฟาง เส้นผมกับฟันยังเป็นของแท้ตามธรรมชาติ ไม่มีใครเห็นเขามีสภาพเกินชายวัย ๕๐ เลยด้วยซ้ำ!

    รัฐบาลจีนรับรู้ว่าลีชุงยุนมีตัวตนตอนเขาอายุ ๑๕๐ คือมีคนของทางการพบเห็นและให้คำรับรองได้ว่าเป็นผู้สูงอายุแล้ว แต่เขายังคงอยู่ต่อมาได้อีกกว่าศตวรรษ เพราะฉะนั้นอย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องมีอายุเกินธรรมดาไปมากๆ เมื่อประกอบกับหลักฐานแสดงความมีตัวตนในช่วงศตวรรษที่ ๑๗ ก็พอทำให้เชื่อมั่นว่ากรณีของนายลีไม่ใช่การปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาแน่ๆ

    นายลีเน้นการประพฤติปฏิบัติตนไว้หลายอย่าง นับแต่การรู้จักมีอิริยาบถที่ถนอมสภาพความเยาว์วัยไว้นานๆ เช่นกล่าวเชิงอุปมาอุปไมยให้นั่งนิ่งเหมือนเต่าหมอบ เดินเหินปราดเปรียวกระฉับกระเฉงเหมือนนกพิราบ นอนหลับสนิทเหมือนสุนัข แล้วก็มีหัวใจที่สงบเงียบในการดำรงชีวิต

    นอกจากนั้น นายลียังเป็นมังสวิรัติ แล้วก็เป็นคนรอบรู้ในเรื่องการใช้สมุนไพรอย่างหาตัวจับได้ยาก คือเชี่ยวชาญเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะ ประเภทที่ทำให้ธาตุไฟภายในยังทำงานเผาผลาญ ช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทตื่นตัวได้ตลอด เขากินอาหารสมุนไพรทุกวันจนตาย นักวิทยาศาสตร์เอามาวิเคราะห์ดูก็พบว่าเป็นอาหารจำพวกกรดอะมิโนในธรรมชาติซึ่งร่างกายผลิตได้เองอยู่แล้ว แถมยังเจอดาษดื่นในอาหารที่เราๆกินกันนี่แหละ ความแตกต่างคือสารช่วยยืดอายุเหล่านั้นถูกทำลายไปในขณะปรุงอาหารเสียหมด คนทั่วไปเลยชะลอนาฬิกาชีวิตไม่ค่อยอยู่

    ทั้งวิธีการดำรงชีวิตและการใช้ยาอายุวัฒนะ รวมกันทำให้ลีชุงยุนไม่รู้จักแก่ และเป็นการเลือกมีอายุยืนด้วยความจงใจ มิใช่ความบังเอิญ

    การมีตัวตนอยู่จริงของลีชุนยุงบอกเราว่าถ้าอยากอยู่นานจริงๆ อีกทั้งแข็งแรงปราศจากความร่วงโรยของสังขาร ก็ต้องมีวิธีดำรงชีวิตด้วยความแตกต่างจากการปล่อยปละเลยตามเลย ไม่ว่าจะเรื่องของการเดินเหิน ไม่ว่าจะเรื่องของหยูกยาอาหาร ล้วนแล้วแต่ประคองให้ร่างนี้อยู่ได้เกินสองร้อยปี หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต่ำกว่า ๑๒๐ ปี ไม่ใช่แค่ ๔๐ ก็เตรียมจอดเหมือนอย่างหนุ่มสาวหลายต่อหลายคนในยุคปัจจุบัน

    ลองจินตนาการดู หากเราเป็นคนใกล้ชิดของนายลีในช่วงที่เขาอายุสักร้อยเศษ เกิดมาก็เห็นนายลีมีอายุมากแล้ว แต่พอเราอายุมากขึ้นจนเกือบ ๖๐ รอมร่อ นายลีก็ไม่ตายสักที แถมดูดีกว่า แข็งแรงกว่า ทำอะไรได้มากกว่าเราเสียอีก เราคงไม่คิดอย่างไรอื่นนอกจากเห็นเขาเป็นมนุษย์อมตะ และเมื่อเราถึงเวลาปิดฉากชีวิตขณะอายุสัก ๗๐ ก็คงตายไปพร้อมกับความเชื่อว่าชีวิตอมตะมีจริง มนุษย์ที่ไม่รู้จักแก่ ไม่รู้จักตายมีจริง แถมแข็งแรงและธาตุยังดีขนาดมีเมียได้เรื่อยๆถึง ๒๔ คน

    ทว่าเราอยู่ในยุคที่ลีชุนยุงล่วงลับไปแล้ว ก็ต้องมาถึงจุดสรุป ถึงจุดที่เห็นตามจริงว่า

    ชีวิตนั้น ต่อให้ชะลอยืดยาวออกไปเพียงใด ในที่สุดก็ต้องพบกับสัจจธรรมเหมือนกันหมด คือต้องมอดม้วยมรณังกันถ้วนหน้า มนุษย์อายุยืนที่สุดในโลกเช่นนายลีชุนยุง เหมือนเกิดมาเพื่อยืนยันแทนธรรมชาติ ว่าสัจจะสูงสุดข้อแรกของการเป็นมนุษย์คือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฝนถล่มอยุธยา-อ่างทอง ต้นไม้โค่นทับกำแพงวัด

    [​IMG]

    ภูมิภาค 7 พ.ย.- เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เร่งกันน้ำเจ้าพระยาที่เริ่มเอ่อท่วมวัดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังฝนตกหนักอีก เช่นเดียวกับ จ.อ่างทอง ต้นมะม่วงใหญ่โค่นทับกำแพงวัดเสียหาย

    เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมา (7 พ.ย.) ฝนเทกระหน่ำอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอ่อท่วมหอไตรและหอระฆัง วัดธรรมาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเร่งนำกระสอบทรายมากั้นไว้ตลอดแนว และใช้เครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ระบายน้ำออกตลอดเวลา เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมวัดเพิ่มขึ้น ส่วนบ้านเรือนใกล้เคียงใช้เรือสัญจรออกหมู่บ้าน

    ส่วน จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องเลื่อยยนต์ต้นมะม่วงขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ข้างกำแพงทางเข้าวัดศรีขันธาราม อ.โพธิ์ทอง ซึ่งถูกพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักจนโค่นล้มทับกำแพง รวมทั้งสายไฟฟ้าสายโทรศัพท์ และเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ขณะที่นักเรียนที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปพักในศาลาวัด.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-07 17:36:19

    เขื่อนสิริกิติ์ลดปล่อยน้ำเหลือเพียงวันละ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร

    [​IMG]

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 8 พ.ย.-เขื่อนสิริกิติ์ ลดการปล่อยน้ำเหลือเพียงวันละ 6 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อลดระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

    จากปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัด ของภาคกลางยังคงวิกฤติ นายสุเทพ ศรีมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า เพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลสมทบลงแม่น้ำเจ้าพระยา เขื่อนสิริกิติ์จึงได้ลดการปล่อยน้ำออกจากเขื่อน จากเดิมวันละ 10-12 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียงวันละ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

    แต่ทั้งนี้ไม่สามารถหยุดปล่อยน้ำได้ เพราะจะกระทบกับเกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังตามลำน้ำน่าน และแนะนำให้เกษตรกรลากกระชังปลาออกห่างจากฝั่ง ไปในจุดปริมาณน้ำลึกเป็นการชั่วคราว ปัจจุบันระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์อยู่ที่ 157 เมตร หรือ 88% ของความจุ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 1,100 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นผลดีในการเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-08 11:01:58

    สุราษฎร์เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยโคลนถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก 149 จุด

    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 8 พ.ย. - จ.สุราษฎร์ธานี เตือนพื้นที่เสี่ยงภัย 149 จุด เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม

    นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 149 จุด เฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางทะเล เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า อุทยานแห่งชาติเขาสก ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากระยะนี้มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน พร้อมสั่งการทุกอำเภอจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด

    สำหรับเรือสปี๊ดโบ๊ทที่รับส่งนักท่องเที่ยวระหว่างเกาะ และเรือนำเที่ยว รวมถึงเรือประมงขนาดเล็ก ควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง คลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนเรือเฟอร์รี่ เรือโดยสารขนาดใหญ่ ระหว่างเกาะสมุย-เกาะพะงัน และเกาะเต่า ยังคงให้บริการตามปกติ แต่ให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

    2008-11-08 08:11:52

    ร้อยเอ็ดเตือนราษฎรรับมือน้ำชีอาจหนุนท่วมรอบสอง

    [​IMG]

    ร้อยเอ็ด 7 พ.ย.- นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ อ.จังหาร นำถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา จำนวน 8 ตำบล 12 หมู่บ้าน เดือดร้อน 639 ครอบครัว พื้นที่การเกษตรเสียหาย 10,000 ไร่ ถนน 55 สาย ประเมินเบื้องต้นรวมกว่า 6 ล้านบาท และคาดว่าน้ำจะท่วมไปอีกนานกว่า 2 เดือน

    พร้อมกันนี้ ยังย้ำเตือนประชาชนให้ระวังน้ำท่วมรอบสอง เนื่องจากมีฝนตกหนักมาหลายวันทั้งในจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเขื่อนที่อยู่ทางตอนเหนือทั้งที่ จ.ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อาจต้องเร่งระบายน้ำออกลงสู่ลุ่มน้ำชี เพื่อรักษาความสมดุลของเขื่อน โดยน้ำดังกล่าวจะมารวมตัวกันที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นด่านแรก และกำชับให้ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงอำเภอจัดเวรยามเฝ้าระวังน้ำตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-07 17:39:48

    หนุ่มอยุธยาถูกประทัดยักษ์ระเบิดใส่นิ้วมือขาด

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระนครศรีอยุธยา 7 พ.ย.- พ.ต.ท.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกุล รอง ผกก.ป.สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุช่วงบ่ายที่ผ่านมา (7 พ.ย.) มีผู้บาดเจ็บถูกประทัดยักษ์ขว้างใส่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา คือ นายแดง สุวรรณปักษา อายุ 21 ปี ใบหน้ามีบาดแผลหลายแห่ง นิ้วกลางและนิ้วนางข้อแรกข้างขวาถูกแรงระเบิดขาดหายไป

    เบื้องต้นนายแดงให้การว่า ขณะขี่จักรยานมาถึงหน้าเพนียดคล้องช้าง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา พบกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาโยนประทัดยักษ์ใส่จนบบาดเจ็บและหมดสติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากลักษณะบาดแผลคล้ายกับกำวัตถุระเบิดไว้ คาดว่านายแดง อาจดัดแปลงทำเอง ซึ่งจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-07 15:45:29

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    <TABLE borderColor=#000000 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=858 border=1><TBODY><TR><TD width="10%" bgColor=#cc99ff height=16>
    วัน/เดือน/ปี ​
    </TD><TD width="10%" bgColor=#cc99ff height=16>
    เวลา ​
    </TD><TD width="14%" bgColor=#cc99ff height=16>
    พิกัดโดยประมาณ ​
    </TD><TD width="9%" bgColor=#cc99ff height=16>
    </TD><TD width="8%" bgColor=#cc99ff height=16>
    ความลึก ​
    </TD><TD width="11%" bgColor=#cc99ff height=16>
    ระยะทาง(กม.) ​
    </TD><TD width="7%" bgColor=#cc99ff height=16>
    ขนาด ​
    </TD><TD width="30%" bgColor=#cc99ff height=16>
    จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" bgColor=#cc99ff height=16>
    </TD><TD width="10%" bgColor=#cc99ff height=16>
    (ไทย) ​
    </TD><TD width="14%" bgColor=#cc99ff height=16>
    ละติจูด ​
    </TD><TD width="9%" bgColor=#cc99ff height=16>
    ลองจิจูด ​
    </TD><TD width="8%" bgColor=#cc99ff height=16>
    </TD><TD width="11%" bgColor=#cc99ff height=16>
    </TD><TD width="7%" bgColor=#cc99ff height=16>
    ริกเตอร์​
    </TD><TD width="30%" bgColor=#cc99ff height=16>
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    </TD><TD width="10%" height=16>
    </TD><TD width="14%" height=16>
    </TD><TD width="9%" height=16>
    </TD><TD width="8%" height=16>
    </TD><TD width="11%" height=16>
    </TD><TD width="7%" height=16>
    </TD><TD width="30%" height=16>
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    8 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    14:56:366 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    17.5880 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    99.1490 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    137.60 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.90 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    อ.เถิน จ.ลำปาง ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    7 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    18:07:292 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    18.4190 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    99.0800 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    46.25 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.50 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    อ.แม่ทา จ.ลำพูน ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    7 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    13:43:189 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    19.0680 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    98.0036 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    103.05 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.90 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    7 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    10:55:325 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    17.4610 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    99.1960 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    153.34 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.70 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    อ.เถิน จ.ลำปาง ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    3 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    03:29:440 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    18.6490 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    98.9590 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    18.68 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.20 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    เขตติดต่อ อ.หางดง - อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    3 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    01:07:077 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    18.6480 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    98.9587 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    18.81 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.10 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    เขตติดต่อ อ.หางดง - อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    2 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    21:18:194 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    18.6284 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    98.9750 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    21.15 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    1.50 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    2 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    05:10:119 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    19.8584 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    99.2839 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    120.45 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    2.50 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    1 พ.ย. 51 ​
    </TD><TD width="10%" height=16>
    20:59:274 ​
    </TD><TD width="14%" height=16>
    19.7150 N ​
    </TD><TD width="9%" height=16>
    98.0830 E ​
    </TD><TD width="8%" height=16>
    - ​
    </TD><TD width="11%" height=16>
    134.48 ​
    </TD><TD width="7%" height=16>
    2.10 ​
    </TD><TD width="30%" height=16>
    กิ่ง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน​
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=16>
    </TD><TD width="10%" height=16>
    </TD><TD width="14%" height=16>
    </TD><TD width="9%" height=16>
    </TD><TD width="8%" height=16>
    </TD><TD width="11%" height=16>
    </TD><TD width="7%" height=16>
    </TD><TD width="30%" height=16>
    </TD></TR><TR><TD width="10%" height=17>
    </TD><TD width="10%" height=17>
    </TD><TD width="14%" height=17>
    </TD><TD width="9%" height=17>
    </TD><TD width="8%" height=17>
    </TD><TD width="11%" height=17>
    </TD><TD width="7%" height=17>
    </TD><TD width="30%" height=17>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    หมายเหตุ เอามาลงเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าแปลก เอิ๊กๆ
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** สัจจะ ****

    สัจจะ...คือ สัญญาใจตนเอง
    สัจจะปฏิบัติ.... คือ การปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นมากับใจตนเอง
    เป็นหนทางฝึกจิตใจตนเองให้เข้มแข็ง

    ....... เป็นเรื่องการกระทำ เพื่อหลุดพ้นจากนิสัยที่สร้างกรรม
    ....... เริ่มจาก กำหนดในสิ่งที่พอทำได้จริง ไม่ยากไม่ง่ายเกินไป เป็นการเดินสายกลาง
    เช่น
    .......ไม่โกรธ มีกำหนดวันละ ๑ ชั่วโมง ตั้งแต่ แปดโมงเช้า ถึง เก้าโมงเช้า เป็นเวลา ๑๐๐ วัน.......

    สิ่งที่ทำได้ไม่ตาย ไม่สูญสลาย เป็นตัวกระทำ เป็นบารมีที่มีผลตอบแทน
    จะติดตัวเราไปตลอดนานแสนนาน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ความดี ****

    ความดี...ไม่ได้ทำกันง่ายๆ
    ต้องชัดเจน ตั้งใจ แล้วทำจริง....คือ สัจจะ

    การขจัดกิเลสนิสัยตนเอง...เป็นหน้าที่ของทุกคน
    สัจจะ ของตัวท่าน....คือ ผู้นำให้ทำความดี

    ท่านต้องพึ่งตนเอง พึ่งการกระทำ
    คือ อยู่ใน หลักตนพึ่งตน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เฮอริเคนพาโลมา ทวีกำลังแรงเป็นระดับ 4

    [​IMG]

    จอร์จทาวน์ 8 พ.ย. - พายุเฮอริเคนพาโลมาทวีกำลังแรงเป็นระดับ 4 ในวันนี้ ขณะพัดกระหน่ำเกาะเคย์แมน ดินแดนของอังกฤษในแถบทะเลแคริบเบียน ก่อนมุ่งหน้าสู่คิวบา

    ศูนย์เตือนภัยเฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า เมื่อเช้าวันนี้ เฮอริเคนพาโลมามีความเร็วลมเพิ่มขึ้นเป็น 215 กม/ชม.และจัดเป็นเฮอริเคนที่มีความแรงเป็นระดับ 4 คาดว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งตอนกลางของคิวบาในคืนวันนี้หรือเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ทางการคิวบาได้อพยพเด็กนักเรียนโรงเรียนประจำอย่างน้อย 85,000 คนไปยังที่ปลอดภัยแล้ววานนี้ และจะเริ่มอพยพประชาชนในพื้นที่ที่อาจถูกน้ำท่วมได้ง่ายในเร็ว ๆนี้ . - สำนักข่าวไทย

    2008-11-08 19:21:35

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโรงเรียนถล่มในเฮติเพิ่มเป็น 58 คน

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 8 พ.ย.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิสัยของท่านผู้ที่จะได้บรรลุธรรม
    โดยคุณ คณานันท์ ทวีโภค

    [​IMG]

    พระท่านเมตตามาสอนว่า

    "วิสัย ของของท่านผู้บรรลุแบบ สุขวิปัสโกนั้น ท่านต้อง ได้ฌานสี่ในอานาปานสติกรรมฐาน

    วิสัยของ ท่านที่ได้วิชชาสาม ต้องได้ ฌานสี่ใน กสิณ กองใดกองหนึ่ง เป็นอย่างต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กสิณกองที่หนุนนำในการเกิดทิพยจักษุญาณ อาทิ อโลกกสิณหรือกสิณ แสงสว่างก็ดี เตโชกสิณกสิณไฟก็ดี หรือ อาโปกสิณกสิณน้ำก็ดี จึงเป็นปัจจัยให้ท่านได้ ทิพยจักษุญาณได้

    วิสัยของท่านที่ได้ วิชชาหก ฉฬภิญโญ นั้น ท่านแสดงอิทธิวิธีได้ จึงต้องได้กสิณครบทั้งสิบกอง รวมทั้งควรได้ กรรมฐาน 40 กองครบหมดด้วย

    วิสัยของท่านที่ได้ ปฏิสัมภิทาญาณ นั้น ท่านต้องได้คลุมไปจนถึงสมาบัติแปด หรืออรูปฌาน อรูปสมาบัติ กรรมฐานสี่สิบกองมีความคล่องตัว ไล่ฌาน ตามลำดับอนุโลมปฏิโลมมีความคล่องตัว ไล่ความละเอียดของอารมณ์สมาธิได้อย่างคล่องตัว เมื่อความคล่องตัวในปรจิตมีสูง เจโตปริยญาณก็ย่อมมีความคล่องตัวรวดเร็วไปด้วย เช่นกัน

    ส่วนพุทธภูมินั้น กลับต้อง ครอบคลุมในวิสัย จริต ภูมิจิต ภูมิธรรมให้ยิ่งขึ้นไปอีก กรรมฐานสี่สิบกอง ต้องคล่องตัว ทั่วไป ที่ท่านทำกัน จบแต่ละกองที่ญาณสี่ หากเป็นวิสัยพุทธภูมิ ต้องให้ได้ไล่ขึ้นไปอีก จนถึง สมาบัติแปดเพื่อครอบคลุมวิสัยของ สุขวิปัสโก และไล่ขึ้นไปจบในอารมณ์วิปัสนาญาณ จนถึงอารมณ์พระนิพพานในแต่ละกอง ทั้งสี่สิบกองต้องครบให้หมด

    อารมณ์ในการปฏิบัติ ในกรรมฐานกองนี้ อารมณ์จิตเป็นอย่างไร ต้องรู้ ต้องทราบ ต้องจดจำอารมณ์กรรมฐาน โดยเป็นการรู้รำลึกปรากฏขึ้นจากผลแห่งการปฏิบัติอันเป็นปัตจัตตัง เวลา สอนเวลาสงเคราะห์ในธรรมแก่ท่านผู้อื่นจึงจะ แจงได้อย่างแจ่มแจ้ง เกิดผลในการสงเคราะห์ให้เกิดความก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง

    แต่กระนั้นไม่ว่า วิสัยใดก็ตาม อารมณ์ในวิปัสนาญาณก็ย่อมไม่ต่างกันในข้อที่เมื่อถึงที่สุดแล้ว วิมุติญาณทัศนะ เห็นความสิ้นไปในกองกิเลศทั้งปวงก็ย่อมไม่ต่างกัน และถึงที่สุดแห่งความสิ้นทุกข์คือพระนิพพาน เช่นเดียวกัน

    ความรู้ ของโลกียบุคคล ก็มีในระดับ ความรู้ทั่วไปทางโลกเป็นพื้น วิชาความรู้เหล่านี้ เมื่อตายจากอันตภาพนี้ไป ก็มีความสลายไปเป็นสัญญาอนิจจา เกิดใหม่ก็เรียนรู้ใหม่ไปไม่มีที่สิ้นสุด

    วิชาความรู้ในระดับสูงขึ้นมา ก็เกิดขึ้น จากการเพาะบ่มศึกษา ฟังมาก อ่านมาก จินตนาการมาก ถามมากเพื่อความแตกฉาน บันทึกจดจำเอาไว้มาก เรียกว่า "พหูสูตร" ด้วยคุณธรรมที่มีหัวใจว่า "สุ จิ ปุ ลิ"

    สุตตะ การสดับฟัง
    จิตตะ การตั้งจิตพิจารณาจินตภาพ
    ปุจฉา การซักถามข้อสงสัยเพื่อให้เกิดคำตอบเพิ่มเสริมความรู้ความคิด
    ลิลิต การบันทึก จดจำ การทำความเข้าใจ

    ผู้นับว่าเป็น "พหูสูตร" นั้นจัดเป็นปราชญ์เป็น ผู้รอบรู้ในสรรพวิชาทั้งปวง ที่เป็นความรู้ละเอียดปราณีตสุขุมขึ้นอีก เกิดจาก ความรู้จากภายใน อันเกิดขึ้น จาก "ญานทัศนะ" หรือ"ตัวรู้" ด้วยกำลังของสมาธินั่นเอง

    ญาณเครื่องรู้ นั้น หากเป็นของท่านผู้ได้ โลกียะฌาน ก็มีเครื่องรู้ในระดับหนึ่ง มีถูกบ้าง ผิดบ้าง และยังอาจเจือไปด้วย กิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไปตามสภาวะจิต สภาวะกรรมพาไป

    ท่านที่ ได้ถึงความเป็นพระอริยะผลขั้นใดขั้นหนึ่ง ความรู้ จากญาณทัศนะของท่านมีความละเอียดปราณีต ลุ่มลึกกว่ามาก และที่สำคัญก็คือเป็น "วิสุทธิปัญญา"

    ปัญญาที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นก็ดี

    ปัญญาที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมก็ดี

    ต่างจากความรู้หรือ ปัญญาทางโลก ซึ่งหากเจือไปด้วย ความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็จะมีความเสื่อม ความเสียหายเป็นที่ตั้ง

    อันที่จริงเราสามารถใช้ปัญญาจากสมาธิ ใช้กำลังจากญาณทัศนะมาสร้างความรู้ได้ แต่ขอให้ตั้งกำลังใจ เพื่อส่วนรวมเป็นสำคัญ ตั้งกำลังใจว่า จะนำวิชาความรู้เหล่านั้น มาใช้ ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ก็ดี ช่วยให้บุคคลทั้งหลายบรรเทาเบาบาง จากความทุกข์ลงไม่มากก็น้อยก็ดี เพื่อทำให้ผู้อื่นได้เข้าถึงซึ่งความดีก็ดี เมื่อนั้นความรู้ต่างๆที่ได้มาจากสมาธิก็จะเกิด คุณประโยชน์สูงสุด

    ส่วนความรู้หรือวิชชาที่สูงยิ่งขึ้นไปกว่านั้น อันได้แก่

    วิชชาสาม ได้ทิพยจักษุญาณ

    อภิญญาหก ได้ความเป็นทิพย์ของจิต และแสดง ฤทธิ์ด้วยอิทธิวิธีได้

    ปฏิสัมภิทาญาณ มีความรู้จากความเป็นทิพย์และบริสุทธิ์ของจิตจากกำลังของสมาบัติแปด วิมุติธรรม แสดงฤทธิ์ได้ รู้ภาษาทุกภาษา เนื่องจากข้ามไป รู้เนื่องด้วยจิต ทั้งคนและสัตว์ในทุกภพ ทุกมิติ

    ทรงความคล่องในการแสดงธรรม อธิบายธรรมที่ง่ายให้ละเอียดลึกซึ้ง พิศดาร อธิบายธรรมที่ยากพิศดาร ให้กลับง่ายดายกระจ่างใจ ตรงวาระจิตของผู้ฟังธรรม

    ทรงพระไตรปิฏก ทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ได้กระจ่างแม้ไม่เคยได้ศึกษามาก่อน ทรงปัญญายิ่ง ทั้งในปฏิภาน ไหวพริบ และที่ยิ่งเลิศในสรรพวิชาทั้งปวง ความรู้อื่นใดยิ่งไปกว่านั้นหาไม่ได้อีกแล้ว นั่นก็ คือ

    "สัพพรรญูญาณ" ขององค์สมเด้จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขึ้นชื่อว่าความไม่รู้ แม้เพียงแต่น้อยก็ไม่มีสำหรับพระองค์ ความรู้ในธรรมนั้น เป็นที่ปรากฏชัดเจน

    ความรู้ในทางโลกนั้น ขึ้นชื่อว่าวิชา ในทั้งในโลกนี้ก็ดี ทั่วอนันตจักรวาลก็ดี ทุกมิติ ทุกภพภูมิก็ดี ไม่พ้นจาก สัพพรรญูญานทัศนะวิสัย ของพระพุทธองค์ไปได้

    เมื่อวาระที่พระพุทธองค์ท่านจะทรงโปรดผู้ใดแล้ว ท่านเล็งญาณทัศนะ ไปถึงอดีตชาติ กรรม วาระแห่งกรรม สภาวะจิตในปัจจุบันว่ามีความพร้อมเพียงใด มีวิบากขัดขวางในข้อใด แก้ไขป้องกันได้อย่างไร และต่อไปในอนาคตว่า ท่านทรงเทศนา ธรรมด้วย ข้อธรรมบทนี้ บทนี้ ผู้ที่ท่านโปรดฟังธรรมด้วยอาการนี้ อารมณ์จิตเคลื่อนสู่ภูมิธรรมระดับนี้ เมื่อฟังธรรมแล้วจะบรรลุธรรมในอริยะผลระดับนี้

    ญานทัศนะแห่งพระพุทธองค์ประกอบไปด้วย มหาเมตตาอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ถึงซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุด ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมเราจึงต้อง "ถามพระ" "ขอบารมีพระ" กันเสมอๆ ทุกครั้ง ให้ความรู้ วิชชาที่ปรากฏแก่ใจของเราก็ดี ธรรมมะก็ดี เป็นธรรมะจากพระพุทธองค์

    ความรู้ด้วยกำลังของเรา ไม่อาจเทียบ บารมีแห่งพระพุทธองค์ได้ ทั้งความละเอียด ความลึกซึ้ง ดังนั้นขอให้เราจงเดินตามรอยหลวงพ่อท่าน ในการทรงกำลังใจ ขอบารมีพระพุทธองค์เอาไว้เป็นพุทธานุสติไว้ทุกครั้งเสมอ

    "ขอวิชชาอันพิสุทธิ์จงปรากฏแก่ทุกๆ ดวงจิตที่ตังมั่นในความดี ให้นำเอาสรรพวิชาจากสมาธิไปใช้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมได้อย่างเต็มศักยภาพ และขอให้วิชชาอันเป็นที่สุดแห่งทุกข์ อันได้แก่วิมุติญาณ จงปรากฏ ถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ"


    คณานันท์ ทวีโภค
    <!-- / message --><!-- sig -->______________________
    จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=44604&page=136
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ปิยนาถ

    ปิยนาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +298
    ข่าวเศรษฐกิจมา อัพเดทกันจ้า หัวข้อข่าว แบงก์กรุงศรีฯ ลุ้นจีอีอยู่หรือไป <HR class=b>สุกรี แมนชัยนิมิต
    Positioning Magazine ตุลาคม 2551

    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นอีก 1 ธนาคารที่ได้รับผลพวงโดยตรงจากวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐฯ เพราะมีจีอีแคปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น แบงก์ขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ถือหุ้นถึง 32.93%

    กลุ่มจีอีฯ ขาดสภาพคล่องและประกาศระดมทุนมูลค่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปลายเดือนกันยายน 2008 โดยมี “วอร์เรน บัฟเฟตต์” มหาเศรษฐีสหรัฐ เข้ามาต่อท่อออกซิเจน โดยเข้ามาซื้อหุ้นจีอีฯ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    คำถามจึงเกิดขึ้นกับอนาคตธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่มีจีอีฯ เป็นหุ้นส่วนสำคัญ

    ล่าสุด “วีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ” ประธานกรรมการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ออกมาแถลงว่ากลุ่มจีอีฯ ยังคงถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และไม่ได้ขายหุ้นให้กับกองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์

    นี่คือคำยืนยัน ณ เวลานั้น แต่สิ่งที่ประธานกรรมการของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไม่สามารถให้คำมั่นได้คือกลุ่มจีอีฯ จะขายหุ้นธนาคารในอนาคตหรือไม่

    แต่สำหรับหุ้นคนไทยคือกลุ่มครอบครัว “รัตนรักษ์” ซึ่งถือทั้งทางตรง และถือผ่านบริษัทในเครือสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ยังไม่มีการขายหุ้นออกมา แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมาก็ตาม โดยรวมกันถือหุ้นอยู่ประมาณ 25 % ไม่ขายแต่ก็ไม่พร้อมรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนรายย่อย

    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 26 กันยายน 2520 แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ในวันที่ 28 กันยายน 2536

    ปี 2549 กลุ่มจีอีฯ ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่จากกลุ่มรัตนรักษ์ และเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 58,159 ล้านบาท จัดเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 5 ในด้านเงินฝาก สินเชื่อและสินทรัพย์ โดย ณ สิ้นมิถุนายน 2551 ธนาคารมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 751,155 ล้านบาท มีจำนวนพนักงาน 9,424 คน มีสาขาของธนาคาร 572 สาขาทั่วประเทศ และสาขาต่างประเทศ 3 แห่ง คือ สาขาฮ่องกง สาขาเวียงจันทน์ และสาขาหมู่เกาะเคย์แมน โดยผลประกอบการในครึ่งปีแรก 2551 มีกำไรสุทธิ 3,032 ล้านบาท

    รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ณ วันที่ 18 กันยายน 2008

    1. จีอี แคปิตอล อินเตอร์ชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น 2,000 ล้านหุ้น 32.93%
    2. บริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 607 ล้านหุ้น 10%
    3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 473 ล้านหุ้น 7.79%
    4. บริษัท สตรองโฮลด์ แอสเซ็ทส์ จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    5. บริษัทุนมหาโชค จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    6. บริษัทจีแอล แอสเซทส์ จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    7. บริษัทบีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    8. บริษัทบีบีทีวี แอสเซตแมเนจเมนท์ จำกัด 163 ล้านหุ้น 2.69%
    9. บริษัทกรุงเทพ โทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 160 ล้านหุ้น 2.65%
    10. บริษัทมหากิจ โฮลดิ้ง จำกัด 158 ล้านหุ้น 2.61%
    11. บริษัทุนรุ่งเรืองจำกัด 157 ล้านหุ้น 2.60%
    12. สเตท สตรีท แบงก์แอนด์ทรัสต์ ลอนดอน 57 ล้านหุ้น 0.94%
    13. บริษัทรัตนรักษ์ จำกัด 33 ล้านหุ้น 0.55%
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ทดลองและพยายาม ****

    เช้าๆ ...ตื่นมาใหม่ๆ ยังสดชื่น
    พยายามทำดู ....วันแรกๆ อาจจะพลั้งเผลอดนิดหน่อย ไม่เป็นไร
    ต่อไป...สัจจะของเรา จะคอยเตือนตัวเองตลอดเวลา
    สติ...จะเกิดขึ้นเอง
    สมาธิ....จะเกิดคอยพิจารณาตนเอง
    พิจารณาสิ่งที่เข้ามา... พิจารณาก่อนตัดสินใจทำ
    อะไรดี อะไรไม่ดี ....สัจจะจะคอยเตือน
    ไม่ลองกับตนเอง ก็ไม่มีทางรู้ได้... ว่านิสัยเราสามารถเปลี่ยนไปได้ด้วยสัจจะ
    แล้ว ปัญญา....ก็จะเกิดขึ้นตามมา

    ในทางธรรม โลกก็จะบันทึกไว้ว่าท่านคือผู้ทำได้
    เป็นผู้มีสัจจะ เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า

    สัจจะของทุกคน คือ ความดี
    ที่จะสามารถช่วยพลิกผันสถานการณ์บ้านเมือง และสถานการณ์โลกได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** พระพุทธเจ้าทรงรู้ด้วย ปิดโลก เปิดธรรม ****

    ความเห็น ความเชื่อ....ไม่ใช่ ความจริง
    ความจริง...คือ สัจจธรรม คือ ธรรมเที่ยง มีอยู่ในธรรมชาติรอบตัวเรา

    ถ้าใจเราเอียงไปทางตำรา
    ที่เขียนจาก ความเห็น ความเชื่อ ... ก็พบ สัจจธรรมความจริงได้ยาก
    จึงต้องลอง ปิดตำรา...พิจารณาเหตุผลด้วยตนเอง

    ปิดโลก เปิดธรรม !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปทุมธานี เจ้าพระยาเริ่มเอ่อท่วม-บุรีรัมย์ปิดอีกถนนลำปลายมาศ

    [​IMG]

    ภูมิภาค 9 พ.ย.- แม่น้ำเจ้าพระยารับน้ำเหนือไหลหนุนเอ่อท่วมพื้นที่ริมฝั่งเขต อ.เมือง เจ้าหน้าที่ระดมสูบน้ำออกบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนบุรีรัมย์ฝนตกต่อเนื่อง ถนนสายลำปลายมาศ-ห้วยแถลง จมน้ำต้องปิดสัญจรอีกครั้ง

    ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี วันนี้ (9 พ.ย.) มีปริมาณเพิ่มขึ้นจนเอ่อท่วมพื้นที่ริมฝั่ง ต.กระแชง ต.บางกะดี ต.บ้านกลาง อ.เมือง ทำให้บ้านเรือนกว่า 500 ครอบครัว วัด และโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อนได้รับผลกระทบ บางจุดน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ส่วนวัดศาลเจ้าและวัดมะขาม แม้อยู่ริมฝั่งแม่น้ำและคลองเชียงราก แต่รอดพ้นน้ำท่วม รวมทั้งบ้านเรือนกว่า 2,000 หลัง เนื่องจากการก่อสร้างประตูปิดกั้นระบายน้ำของคลองเชียงรากสามารถป้องกันน้ำไว้ได้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่นำข้าวสารอาหารแห้งมาช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมกับเร่งระบายน้ำออกบริเวณประตูระบายน้ำเชียงราก ซึ่งประตูระบายน้ำดังกล่าวสามารถสูบน้ำออกได้ถึง 3,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

    ส่วน จ.บุรีรัมย์ ฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ประกอบกับน้ำเหนือจากลำนางรอง ลำปะเทีย และลำน้ำอีกหลายสาขาไหลมาสมทบลงสู่ลำมาศ ทำให้น้ำเอ่อท่วมบนถนนสาย 226 บริเวณสะพานข้ามระหว่าง ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กับ อ.ห้วยแถลง จ.นคราชสีมา สูงกว่า 50 ซม. ระยะทาง 1 กิโลเมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ แม้อำเภอจะนำกระสอบทรายมาปิดกั้นไว้ตลอดริมถนน แต่ไม่สามารถต้านกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เกรงว่าคอสะพานทรุดเป็นอันตราย จึงปิดถนนสายดังกล่าวชั่วคราวอีกครั้ง จากเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถูกน้ำท่วมสูงมานานร่วม 2 สัปดาห์ พร้อมกันนี้ยังประสานแขวงการทางแนะผู้สัญจรที่จะไป จ.นครราชสีมา ให้เลี่ยงไปใช้สายโชคชัย-เดชอุดม จนกว่าน้ำลดเป็นปกติ. - สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 18:09:05

    นครศรีธรรมราชเตือน 10 อำเภอระวังภัยน้ำท่วมหลังฝนตกไม่หยุด

    [​IMG]

    นครศรีธรรมราช 9 พ.ย.- ฝนยังตกหนักในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ทางจังหวัดต้องออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 10 อำเภอ เตรียมพร้อมรับมือเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดภาวะฝนตกหนักตลอด 2-3 วันที่ผ่านมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงวันนี้ (9 พ.ย.) ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองต่างๆ เริ่มสูงขึ้นหลายจุด นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้น เบื้องต้นทางจังหวัดฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านสื่อในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังสถานการณ์ และติดตามการประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

    นางเพ็ญศรี แก้วคุ้มภัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งว่า ทางจังหวัดได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นที่ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย 10 อำเภอ 15 ตำบล รวม 21 หมู่บ้าน ในบริเวณที่ราบลุ่ม ที่ราบเชิงเขา และบริเวณชายฝั่งทะเล โดยได้ประสานความร่วมมือไปยังอาสาสมัครในพื้นที่จำนวน 100 คน ที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัดเพื่อออกปฏิบัติงานเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ โดยพร้อมอพยพประชาชนทันทีที่สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ

    นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านพืชและเกษตร การเตรียมการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์ ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบจากอุทกภัยแหล่งเพาะเลี้ยงปลาและเรือประมง รวมการทั้งการรายงานความเสียหาย และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกประเภท โดยได้ระดมเครื่องจักรกล ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตจากภาคส่วนและองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งจากกองทัพภาคที่ 4 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย เรือท้องแบน 75 ลำ รถกู้ภัย 3 คัน รถเคลื่อนที่กู้ภัย 24 คัน รถบรรทุก 123 คัน รถยก 22 คัน รถแทรกเตอร์ 8 คัน รถตัก 9 คัน รถแบคโฮ 19 คันและเครื่องสูบน้ำ จำนวน 98 เครื่อง เพื่อเตรียมพร้อมออกปฏิบัติงานทันทีที่เกิดเหตุ สำหรับท้องฟ้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังมืดครึ้มและมีฝนตกหนักตลอดเวลา . - สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 16:37:30

    สุราษฎร์ฯ ห่วงคลื่นสูงเข้มความปลอดภัยเดินทางข้ามเกาะ
    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 9 พ.ย.- ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีไม่วางใจฝนยังตกต่อเนื่อง กำชับหน่วยงานดูแลเข้มงวดสัญจรทางทะเล เน้นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ขณะที่เกาะพะงันคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เดินทางเตรียมฉลองฟูลมูนปาร์ตี้-ลอยกระทง

    นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยการเดินเรือข้ามเกาะอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกตลอดเวลาและ ทะเลมีคลื่นสูง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางทะเลให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า อุทยานแห่งชาติเขาสก และให้เรือเฟอร์รี่ หรือเรือโดยสารให้ระมัดระวังการเดินเรือ ส่วนเรือสปีดโบ๊ทรับ-ส่งนักท่องเที่ยว เรือประมงขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

    สำหรับบรรยากาศของท่าเรือข้ามเกาะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางข้ามเกาะสมุย-พะงัน จำนวนมาก เพื่อเตรียมฉลองงานฟูลมูนปาร์ตี้ ทุกคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ที่หาดริ้น เกาะพะงัน และครั้งนี้ตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายน ของเทศกาลลอยกระทง ทำให้บนเกาะพะงันคึกคักขึ้นมาก ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเตรียมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 14:49:55

    แห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับหนาว ย้ำห้ามใช้เตาถ่านเข้าเต็นท์

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 9 พ.ย. - นายจงคล้าย วรพงศธร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้าชมความงามของธรรมชาติดอยอินทนนท์ในช่วงอากาศหนาวกันมากขึ้น ซึ่งวันนี้อุณหภูมิบนยอดดอยต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส

    สำหรับนักท่องเที่ยวที่กางเต้นท์พักแรมตามดงสน ไม่ควรนำเตาถ่านทุกชนิดเข้าไปในเต็นท์นอนเด็ดขาด เพื่อหวังช่วยคลายหนาว เพราะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต หากเผลอหลับไปอาจสูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกินปริมาณ และเคยมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วนบ้านพักของอุทยานฯ มียอดจองเต็มไปถึงต้นปีหน้า คาดว่าฤดูหนาวปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมากถึง 400,000 คน สร้างรายได้ให้อุทยานฯ 35 ล้านบาท. - สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 16:31:38

    อากาศหนาวเริ่มส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหนองบัวลำภู

    [​IMG]

    หนองบัวลำภู 9 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า เริ่มมีลมกระโชกแรงในตอนกลางวัน กลางคืนมีหมอกและน้ำค้าง

    จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายว่า อากาศจะเริ่มหนาวเย็นในอีก 1-2 วันนี้ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20-30 องศาเซลเซียส และจากการตรวจสอบหมู่บ้านที่อยู่บนเขาภูพาน เช่น บ้านห้วยทราย ตำบลหนองบัว บ้านภูพานคำ ตำบลโนนทัน อำเภอเมืองหนองบัวลำภู อากาศเริ่มหนาวเย็น มีลมกระโชกแรง ส่งผลให้ผู้สูงอายุและเด็กได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวเย็น ต้องพากันออกมาตากแดดเพื่อรับไออุ่นจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เริ่มมีนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์รับลมหนาวกันบ้างแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 10:59:44

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    วันนี้ไปทำบุญกฐิน ที่วัดของหลวงปู่ขาวมา ที่วัดป่าคูณคำวิปัสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ครับ ขากลับก็ไปแวะร่วม สร้างพระพุทธองค์ปฐมที่ อ.ภูพาน ได้เห็นรอยพระพุทธบาทขององค็สมเด็จพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงประทับไว้บนเขาภูพานซึ่งรอยพระบาทนั้น เป็นลำธารไหลผ่าน ก็มาบอกบุญกับสมาชิกครับ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา จิตใจผม เบา ผ่องใสมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...