ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6931 ข่าวสดรายวัน


    สาวอังกฤษช่วย9ลูกหมารอดพายุ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อ 19 พ.ย. เดลี่เมล์รายงานว่า ลอว์รา ฮิวจ์ สาวอังกฤษจากเมืองเบดฟอร์ด วัย 28 ปี ออกไปล่องเรือยอชต์กลางทะเลนอกชายฝั่งตุรกี แต่ถูกพายุซัดไปใกล้เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ กระทั่งเรือล่ม แต่ก็ยังพยายามช่วยชีวิตลูกสุนัข 9 ตัวเอาไว้ด้วย โดยจับสุนัขใส่ลังกระดาษแล้วทูนไว้เหนือหัว ก่อนจะว่ายน้ำเข้าฝั่งระยะทางไกลถึง 75 เมตร ท่ามกลางคลื่นสูงถึง 5 เมตร แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้ทั้งคนทั้งสุนัข

    เหตุเกิดในช่วงเที่ยงวันเมื่อเดือนก่อน ลอว์ราออกไปล่องเรือกับจอห์น โคชเรน และสุนัข 2 ตัว ชื่อแร็กก้า มัฟฟิน และไทเกอร์ ลิลี่ แต่ต่อมาแม่สุนัขแร็กก้า มัฟฟิน ตกลูก 9 ตัว กลางทะเล กระทั่งเรือเจอพายุซัด ลอว์รากล่าวว่า "ฉันคิดว่าถ้าไม่รีบสละเรือมันจะล่ม ไม่มีทางเลือก ฉันเป็นคนว่ายน้ำแข็ง แม้จะกินน้ำไปหลายอึกแต่ก็ยังว่ายต่อไป ห่วงแต่ว่าจะต้องดูแลลูกสุนัขให้ปลอดภัย"

    หมอทึ่งทวดวัย 107 ฟันขึ้น



    หนังสือพิมพ์เหอหนาน คอมเมอเชียล เดลี่ รายงานเมื่อ 20 พ.ย.ว่า นางเจียว เจิ้นหวา คุณทวดวัย 107 ปี ซึ่งอยู่อาศัยกับครอบครัวและบรรดาลูกหลานของตนกว่า 60 คน รวม 5 รุ่น ในเขตอี้เฉวียน มณฑลเหอหนาน เกิดฟันขึ้นรอบใหม่ ทำให้คุณทวดเที่ยวเดินเหินออกไปอวดฟัน 2 ซี่ใหม่สดซิงของตนให้กับบรรดาญาติๆ และเพื่อนบ้านดูด้วยความภาคภูมิใจ ด้านแพทย์ต่างรู้สึกทึ่ง โดยกล่าวว่า เป็นกรณีที่หายากอย่างยิ่ง

    ตาติดไฟ

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เกาหลีใต้นี่ถือเป็นเจ้าตำรับแฟชั่นอาโนเนะ "บิ๊กอาย" เคียงคู่ญี่ปุ่น

    ล่าสุด "ซูมี ปาร์ก" นักออกแบบเกาหลีก็ขอนำเสนอแฟชั่นใหม่ เรียกว่า "ขนตาแอลอีดี" เป็นขน ตาเทียมติดหลอดไฟแอลดีอีขนาดจิ๋ว

    เวลาใส่แล้วจะยิ่งทำให้ตาดูโตขึ้นทั้งดวง แถมเดินไปไหนก็ส่องสว่างดูโดดเด่น

    แต่ชาวบ้านเห็นแล้วจะหาว่าบ้ารึเปล่า..อันนั้นไม่ทราบจริงๆ นะ!

    2012 ปีโลกาวินาศ

    เก็บเรื่องมาเล่า

    ชนา ชลาศัย




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปีคริสต์ศักราช 2012 จะเกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นถึงขนาดโลกาวินาศ สาเหตุอันเนื่องจากแกนแม่เหล็กโลกพลิกขั้วจริงหรือ?

    เรื่องนี้ ทันตแพทย์สม สุจีรา ผู้เขียนหนังสือขายดี เขียนไว้ในคอลัมน์ "NEWS REMARK" นิตยสาร "ซีเคร็ต" ฉบับพ.ย.น่าสนใจ

    ลองอ่าน

    "ในทางวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถทำนายอย่างฟันธงได้ว่า เหตุการณ์ร้ายแรงจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2012 เพราะนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสนามแม่เหล็กโลกเกิดจากอะไร ไม่ทราบว่าจะสลับขั้วได้อย่างไร

    นอกจากนี้ บันทึกการสลับขั้วในอดีตก็ไม่มีรูปแบบเด่นชัดพอจะคาดการณ์ได้ ไม่มีจังหวะที่แน่นอน บางช่วงสนามแม่เหล็กอาจคงทิศอยู่นานถึงหลายสิบปี บางครั้งอาจคงทิศเพียงไม่กี่ร้อยปี

    ความผันแปรอย่างมากนี้ทำให้แทบระบุไม่ได้เลย ว่าโลกจะถึงกาลสลับขั้วแม่เหล็กอีกครั้งเมื่อใด หรืออาจจะเป็นอีกหนึ่งล้านปีข้างหน้า ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่มีใครหยั่งรู้ได้

    อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโลกจะเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กอีกอย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    อย่าว่าแต่การระบุปีที่เกิด แม้แต่จะทำให้ระบุว่าจะเกิดขึ้นในศตวรรษก็ยังยาก เนื่องจากจังหวะการเกิดปรากฏการณ์นี้ในอดีตผันแปรมาก

    ดังนั้น การตื่นตระหนกกับตัวเลข 2012 มากเกินไปจึงเป็นเรื่องไร้สาระ แม้ฝ่ายที่ยืนยันจะบอกว่าใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คำนวณก็ ตาม ถึงขนาดกำหนดวันได้ว่าวันโลกาวินาศคือวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2012

    แม้องค์การนาซ่าเองจะยอมรับว่า ในปีนั้นแกนแม่เหล็กของดวงอาทิตย์อาจจะกลับขั้ว แต่ก็ไม่น่าส่งผลอะไรต่อโลก

    ถ้าโลกต้องเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงจะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน เหมือนครั้งเกิดคลื่นสึนามิที่ภาคใต้ เพียงแค่พริบตา ผู้คนเกือบสามแสนคนในหลายๆ ประเทศก็เสียชีวิตไปในทันที..."

    เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรตื่นตระหนก ใช้ชีวิตอย่างมีสติอยู่ กับปัจจุบันเป็นดีที่สุด

    "นราธิวาส"รับมือพายุฝนลมแรง



    นราธิวาส - นายมณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส ออกประกาศเตือนชาวประมงงดนำเรือเล็กออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17-22 พ.ย.นี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่ได้แผ่มาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของอ่าวไทย และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้พื้นที่ภาคใต้รวมทั้งจังหวัดนราธิวาส มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนและออกเรือในระยะนี้ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ จึงขอเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายที่อาจเกิดจากคลื่นลมแรง โดยทางจังหวัดจะได้จับตาดูอย่างใกล้ชิด

    Daily News Online > หน้าบันเทิง > หนัง > '2012' ตั้งเป้า 200 ล้าน
    '2012' ตั้งเป้า 200 ล้าน
    แซงหน้า 'ไอ้แมงมุม'

    สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้เปิดตัวได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับภาพยนตร์ “2012 วันสิ้นโลก” ของผู้กำกับ โรแลนด์ เอ็มเมอริช เจ้าพ่อหนังทำลายล้าง ที่ทำสถิติใหม่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีภาพยนตร์ฉายในเมืองไทย โดยฉายเฉพาะกรุงเทพฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กวาดรายได้ไปถึง 94.8 ล้านบาท จากจำนวนโรงฉาย 332 โรง และเมื่อรวมรายได้ต่างจังหวัดอีก 23.1 ล้านบาท รายได้เลยพุ่งพรวดถึง 118 ล้านบาท

    “2012 วันสิ้นโลก” สร้างปรากฏการณ์การต่อคิวซื้อตั๋วที่ยาวเหยียด ภาพการนั่งชมภาพยนตร์เต็มทุกที่นั่ง ไม่เว้นแม้แต่แถวหน้าสุด และมีสถิติใหม่ที่น่าสนใจดังนี้ อาทิ รายได้วันพฤหัสบดีสูงสุด 20.1 ล้านบาท ลบสถิติ “ต้มยำกุ้ง” ที่เคยทำไว้ 19.5 ล้านบาท รายได้วันศุกร์สูงสุด 18.2 ล้านบาท แซงหน้า “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2” ที่เคยทำไว้ 15.8 ล้านบาท รายได้วันเสาร์สูงสุด 28.5 ล้านบาท แซงยอด 26.4 ล้านบาท ที่ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2” เคยทำไว้เช่นกัน และรายได้วันอาทิตย์สูงสุด 28 ล้านบาท ลบสถิติ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2” ที่เคยทำไว้ 25.7 ล้านบาท

    นอกจากนี้ยังทำรายได้เปิดตัวในกรุงเทพฯ 4 วันสูงสุด 94.8 ล้านบาท ลบสถิติ “ต้มยำกุ้ง” ที่ทำไว้ 94.6 ล้านบาท และ “แฮร์รี่พอตเตอร์ 3” ที่ทำไว้ 89.1 ล้านบาท แถมยังทำสถิติรายได้จากการขายสายหนังในต่างจังหวัดสูงสุดถึง 23.1 ล้านบาท ลบสถิติ “คนเหล็ก 4” ที่ทำรายได้ไว้ 22.2 ล้านบาท และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทเร็ว ภายในเวลา 5 วัน โดยแซงหน้า ต้มยำกุ้ง, สไปเดอร์แมน 3 และ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2 ซึ่งคาดว่า “2012 วันสิ้นโลก” นั้นจะทวีความแรงขึ้นและไม่หยุดสถิติไว้เพียงเท่านี้ แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าอาจจะทำรายได้ทะลุ 200 ล้านบาทเพื่อลบสถิติที่ “สไปเดอร์แมน 3” ทำไว้ก็เป็นได้.

    [​IMG] น้ำป่าท่วมหาดใหญ่ระลอกสอง

    น้ำป่าไหลท่วมหมู่บ้านในหาดใหญ่ระลอกสอง หลังฝนตกอย่างหนักติดต่อกันนานถึง 2 วัน จนท.เร่งช่วยเหลือ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนที่ตกหนักติดต่อกันมา 2 วันส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาแก้วไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ 3 หมู่บ้านของ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบด้วยหมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 7 บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มนับร้อยหลังคาเรือนถูกน้ำท่วม เส้นทางที่เชื่อมต่อทั้ง 2 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 20 เซนติเมตร ส่งผลให้โรงเรียนบ้านฉลุง จำเป็นต้องปิดชั่วคราวเนื่องจากนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาโรงเรียนได้

    นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรทั้งสวนผลไม้ สวนยางและนาข้าวที่อยู่ในที่ลุ่มถูกน้ำท่วมสูงกว่า1 เมตร แต่ยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุงได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว

    ขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้ประสานไปยังพื้นที่ทั้ง15 อำเภอที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมหนักเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเช่น จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย และสะเดา เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง.

    [​IMG]

    สธ.สั่งทุกจังหวัดระวัง“อหิวาตกโรค”
    วันนี้ (19 พ.ย.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว เป็นช่วงที่มีเทศกาลฉลองกันจำนวนมาก มักจะมีปัญหาโรคอุจจาระร่วงเกิดขึ้นเป็นประจำ ที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวยังมักมีลานเบียร์ ซึ่งนิยมกินกับอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โรคที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ อหิวาตกโรค ซึ่งปีนี้เริ่มพบผู้ป่วยในวงแคบบางพื้นที่ของ จ.ปัตตานี ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม และต่อมาพบแพร่กระจายมาบางพื้นที่ของนราธิวาส และสงขลา ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นลูกเรือประมงต่างชาติ และสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากมีพฤติกรรมกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และไม่สะอาด นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ซึ่งมีส่วนทำให้เชื้อโรคมีมากขึ้น และเข้าใกล้ชุมชนมากขึ้น โดยเฉพาะชุมชนชายทะเล

    การพบผู้ป่วยดังกล่าวเป็นสัญญาณให้ต้องเร่งควบคุมป้องกัน ในระบบความสะอาดของสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศ จัดระบบเฝ้าระวังโรคอหิวาตกโรคเป็นกรณีพิเศษ ให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้พร้อม โดยเฉพาะการเตรียมการสื่อสารกับผู้ป่วยต่างด้าว เช่น พม่า กัมพูชา ลาว เพื่อให้การรักษา และควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ

    ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเขต 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดชายทะเล ได้สั่งการตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุม และป้องกันโรคที่ จ.ปัตตานี มอบให้ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการ เป็นผู้บัญชาการศูนย์ ลงควบคุมโรคในพื้นที่ให้สงบโดยเร็วที่สุด.

    ยอดตายหวัดใหญ่ในจีนน่าสงสัย

    ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของจีนสงสัยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ น่าจะมากกว่าที่ทางการเปิดเผย

    นายจง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์คนสำคัญของจีน ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เซาเทิร์น เมโทรโพลิส เดลีย์ เมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนอาจมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มมากกว่าที่รายงาน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นบางคนยอมรับว่ามีกรณีต้องสงสัยหลายราย นายจงกล่าวว่า เขาสงสัยยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ของทางการในปัจจุบัน เขาไม่เชื่อว่าทั่วประเทศจะมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ทั้งหมดเพียง 53 รายเท่านั้น ทางการอาจปกปิดตัวเลขที่แท้จริงเอาไว้

    นายจง กล่าวว่า ในบางพื้นที่ไม่มีการตรวจสอบผู้ที่เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบ และทางแพทย์ก็รักษาผู้ป่วยเหล่านี้เหมือนรักษาผู้ที่ป่วยด้วยโรคปอดบวมธรรมดาโดยไม่สอบถามอะไร นายจงได้รับความเชื่อถืออย่างมากจากประชาชนในจีน เนื่องจากเขาทุ่มเททำงานต่อสู้กับโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน หรือซาร์ส ในช่วงปี 2546 ด้วยความจริงใจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    จีน ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในโลก มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากไข้หวัดใหญ่ 2009 อีก 28 ราย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ทั่วประเทศอยู่ที่ 53 ราย ส่วนกระทรวงสาธารณสุขของจีน ยังไม่ได้ตอบโต้ถ้อยแถลงของนายจง

    ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ กล่าวว่า มาตรการพิเศษในการป้องกันไข้หวัด ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกักตัวผู้ต้องสงสัยเช่นที่จีนดำเนินการ ซึ่งผู้โดยสารทั้งหมดต้องถูกกักหากพบผู้โดยสารมีอาการเพียงคนเดียว ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ แม้ว่าจะมีการประกาศความสำเร็จในตอนแรก แต่ขณะนี้ปักกิ่งยอมรับแล้วว่า การระบาดของ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มากกว่าตัวเลขที่ เจ้าหน้าที่เปิดเผย.

    จนท.เร่งอพยพผู้คนจากน้ำท่วมทางเหนือของอังกฤษ
    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเร่งดำเนินการอพพยพผู้คน 200 คน โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะ จากเมืองคัมเบรียทางเหนือของอังกฤษ หลังจากเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ เช่น ทางเหนือของอังกฤษ ตะวันตกเฉียงเหนือของเวลส์ และภาคตะวันตกของสกอตแลนด์

    เจ้าหน้าที่ต้องตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากถนนสายหลักถูกตัดขาด เพราะกระแสน้ำเอ่อล้น และยังต้องปิดโรงเรียน 21 แห่ง แม้ระดับน้ำทรงตัวอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำที่เมืองคอคเกอร์เมาท์ และเคสวิค สำนักงานสิ่งแวดล้อมของอังกฤษ ได้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 6 ซึ่งหมายถึง ระดับน้ำที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สิน ในเมืองคัมเบรีย.
    [​IMG]

    หวั่นสะพานข้าม"วิภาวดี"ถล่ม
    รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า เมื่อปี 2551 ทล.มีโครงการตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคงของสะพานลอยคนเดินข้ามถนนวิภาวดีรังสิต ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ เริ่มต้นตั้งแต่สามเหลี่ยมดินแดงถึงบริเวณอนุสรณ์สถาน จำนวน 30 แห่ง พบว่า สะพานลอยมีสภาพชำรุดมากทุกตัว และอยู่ในขั้นต้องซ่อมบำรุงอย่างเร่งด่วนถึง 18 แห่ง เนื่องจากสะพานลอยเหล่านี้มีอายุการใช้งานมานานไม่ต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งก่อสร้างพร้อม ๆ กับการตัดถนนวิภาวดีรังสิต อีกทั้งสะพานลอยเป็นโครงสร้างเหล็ก เมื่อใช้งานไปนาน ๆ โดนแดดโดนฝนทำให้เกิดสนิม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภายนอกสะพานที่เห็นว่าเป็นสนิมเท่านั้น จากการตรวจสอบโครงสร้างโดยละเอียดยังพบว่า ภายในพื้นสะพาน คานสะพาน ส่วนรองรับคานสะพาน และส่วนอื่น ๆ ก็เกิดสนิมกัด กร่อนเกือบหมดแล้ว จนสะพานอยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรง ถือว่าเป็นสภาพที่ไม่ปลอดภัย อาจพังถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ขณะที่ภายนอกมีการทาสี จึงดูใหม่อยู่เสมอ แต่เนื่องจากสะพานลอยไม่ใช่จุดที่มีประชาชนใช้งานพร้อมกันคราวละมาก ๆ เหมือนบริเวณหน้าสนามกีฬา ที่จะมีคนแห่กันขึ้นใช้ช่วงการแข่งขันกีฬาเลิก อีกทั้งบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตไม่ค่อยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านมากนัก จึงมีแรงสั่นสะเทือนที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างสะพานน้อย สำหรับสะพานลอยที่ชำรุด ได้แก่ หน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี สนามกีฬากองทัพบก ซอยวิภาวดีรังสิต 16 (โชคชัยร่วมมิตร) ซอยวิภาวดีรังสิต 9 (เฉยพ่วง) โรงเรียนหอวัง บจก.ตรีเพชรอีซูซุ แฟลตตำรวจ วัดเสมียนนารี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เดลินิวส์ สโมสรตำรวจ หมู่บ้านมหานคร วัดหลักสี่ เคหะทุ่งสองห้อง ตลาดใหม่ดอนเมือง วัดดอนเมือง และโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง

    นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดี ทล. เปิดเผยว่า ทล.ได้ทำเรื่องของบประมาณในการซ่อมแซมใหญ่แล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณางบประมาณ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบในการซ่อมแซม แห่งละ 3-4 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ทล. มีงบประจำปีซ่อมแซมภายนอกและทาสีให้ดูใหม่ขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้บำรุงรักษาโครงสร้างภายใน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จำเป็นต้องรีบดำเนินการ อย่างไรก็ตามสะพานดังกล่าวยังสามารถใช้งานได้อีกหลายเดือน ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ข่าวเรื่องสะพานลอยคนข้าม ถนนวิภาวดี เป็นเรื่องจริงครับ มีโอกาสพังถล่มได้ทุกเวลา เพราะมันทำด้วยเหล็ก ก่อนหน้านั้น ผมก็เคยใช้แถว ซอยวิภาวดี 3 ครับ ช่วงเดินขึ้นบันได ปรากฏว่า เดินแล้ว แผ่นเหล็กทรุดเลย เนื่องจากถูกสนิมกัดกร่อน ผุพัง ครับ บางส่วนมีน้ำขัง จากฝนตก ก็เกิดสนิมครับ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยุคทองของพระมะฮุดี
    (จากบันทึกในศาสนาอิสลาม)

    [​IMG]

    การมาของมะฮฺดีจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อมวลมนุษย์และโลก ?

    เราจะมาหาคำตอบสำหรับคำถามนั้นในภาพยนตร์ของเรา เราจะมาดูกันว่าจะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นในโลกบ้าง หลังจากการมาปรากฏกายของมะฮฺดี และมาสำรวจดูลักษณะของช่วงเวลาที่ถูกเรียกว่า “ยุคทอง” กัน ยุคทองคือช่วงเวลาที่มะฮฺดีทำให้หลักคำสอนอันมีคุณค่าจากอัล-กุรอานแพร่หลายออกไป และประชาชาติได้มาพบกับการศรัทธาที่แท้จริง การพัฒนาทั้งสองด้านนี้จะทำให้เกิดผลทางกายอย่างมากมายขึ้นในยุคทอง ความปลอดภัย ความมั่นใจ และความยุติธรรมจะถูกสถาปนาขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ มวลมนุษย์จะทิ้งความเสียหายทางเศรษฐกิจเอาไว้ข้างหลัง จะไม่มีใครขัดสนและยากจนอีกต่อไป และผู้ที่ขอจะได้รับมากกว่าที่เขาขอ จะมีความอุดมสมบูรณ์อย่างชนิดที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน และสินค้าจะถูกแจกจ่ายไปให้แก่ผู้ที่ขอทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องคำนวณนับเลย​

    ลักษณะที่เด่นอีกอย่างของเวลานี้คือ สงครามและความขัดแย้งจะจบสิ้นลง บรรยากาศแห่งความสงบสุขและมิตรภาพจะพัฒนาขึ้น ระหว่างชุมชนที่เป็นศัตรูกัน ในช่วงเวลานี้มนุษย์จะได้รับประโยชน์จากคุณค่าของเทคโนโลยีทั้งหมด และการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้เพื่อความสะดวกง่ายดาย เพื่อความสนุกสนานและการพักผ่อนของมนุษย์ จะมีการเปิดศักราชใหม่ในวงการแพทย์ การเกษตร การสื่อสาร เทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมและการขนส่ง นับเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่สำหรับมุสลิมทุกคน ที่ได้รับรู้ข่าวอันน่ายินดีแห่งช่วงเวลาเป็นสุขนี้ ยุคที่เจริญรุ่งเรืองจะผ่านมาด้วยการมาของมะฮฺดี และหลักธรรมคำสอนอันประเสริฐที่จะเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าหลักคำสอนนั้น คือ หลักคำสอนจากอัล-กุรอาน​


    มารู้จักมะฮฺดีย์

    รายงานจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอะฮฺลุบัยต์ (อ.) จำนวนมากมายกล่าวถึงคุณลักษณะของอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เอาไว้ แต่ ณ ที่นี้จะขอกล่าวบางส่วนเท่านั้น เช่น กล่าวว่า ​

    อิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เป็นผู้มีใบหน้าสวยงาม หน้าผากกว้าง คิ้วโค้งเป็นรูปเดือนเสี้ยว ดวงตาดำสนิทส่องประกาย จมูกโด่งเป็นสันยาว ฟันเรียงสวยและขาวเป็นประกายมุข หัวไหล่ด้านขวามีไฝสีดำ ระหว่างหัวไหล่ทั้งสองมีสัญลักษณ์คล้ายสัญลักษณ์ของนบูวัต อิมามมีร่างกายสูงใหญ่สมส่วน​

    คุณลักษณะบางประการของอิมาม (อ.) ทราบได้จากคำอธิบายของอิมามท่านอื่น เช่น กล่าวว่า อิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เป็นผู้ดำรงการเคารพภักดีเสมอ มีความยำเกรงและใช้ชีวิตเรียบง่าย มีความอดทนสูง มีความยุติธรรม และประพฤติดี อิมามจะมาพร้อมกับความรู้และวิชาการที่สร้างความตะลึงงันแก่ชาวโลก เป็นผู้ยืนหยัด เป็นผู้นำโลก เป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก เป็นผู้ปลดปล่อยโลกจากอธรรมความชั่ว ผู้ถูกสัญญาให้เป็นผู้ปรับปรุงแก้ไขโลกมนุษย์ ​

    อิมามเป็นทายาทของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และเป็นบุตรของฟาฏิมะฮฺ (อ.) เป็นทายาทคนที่เก้าของท่านซัยยิดุชชุฮะดา (อ.) ท่านจะปรากฏกายข้างบัยตุลลอฮฺ มือข้างหนึ่งจะถือธงของท่านศาสดา ท่านยืนหยัดเพื่อฟื้นฟูศาสนาของพระเจ้า และเพื่อนำบัญญัติของพระเจ้าขึ้นปกครองโลก ท่านจะสถาปนาโลกให้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความยุติธรรม ดั่งที่โลกเคยเปี่ยมไปด้วยความอยุติธรรม​

    สภาพชีวิตของท่านอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) แบ่งออกเป็น 3 ช่วงดังนี้

    1. ช่วงที่ลำบากที่สุด หมายถึงช่วงที่อิมาม (อ.) ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ นับตั้งแต่วันที่ท่านประสูติจนกระทั่งถึงวันที่อิมามฮะซัน อัซการีย์ (อ.) ชะฮีด​

    2. ช่วงของการเร้นกาย เริ่มตั้งแต่วันที่อิมามฮะซันอัซการีย์ (อ.) ชะฮีด จนกระทั่งถึงวันที่พระเจ้าทรงกำหนดให้ปรากฏกายอีกครั้ง​

    3. ช่วงของการปรากฏกาย หลังจากการเร้นกายที่ยาวนาน ท่านจะปรากฏกายอีกครั้งหนึ่งตามพระประสงค์ของพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก และจะสถาปนาความยุติธรรมขึ้นปกครองโลก พร้อมกับทำให้โลกเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดี และความสวยงาม ไม่มีบุคคลสามารถทราบได้ว่า อิมาม (อ.) จะปรากฏกายเมื่อใด ดังที่อิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) กล่าวว่า บุคคลใดกำหนดวันปรากฏกายให้กับฉัน เขาได้พูดโกหก​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  4. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    มาย้ำอีกทีนะคะ เพราะวันที่ใกล้เข้ามาแล้ว
    งานนี้ไม่ใช่ของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัตินะคะ
    บอกไว้ก่อนค่ะ กันการผิดพลาด
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องแม่พระแห่งคาราบัล ประเทศสเปน

    [​IMG]

    ในวันที่ 18 เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1961 อัครเทวฑูตไมเคิลได้ปรากฏมาพบเด็กหญิง 4 คน คือคอนชิต้า อายุ 12 ปี จาซินต้า อายุ 12 ปี มารี อายุ 11 ปี และมารี - โลลี อายุ 12 ปี เด็กทั้งสี่มิได้เป็นญาติกัน อัครเทวฑูตได้ปรากฏมาพบเด็กทั้งสี่ 8 ครั้ง ใน 12 วันโดยไม่ได้ เอ่ยปากพูดอะไร แล้วในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1961 ก็ได้แจ้งแก่เด็กทั้งสี่ว่า ในวันรุ่งขึ้นแม่พระจะปรากฏมาหาพวกเขา คาราบันดัลเป็นตำบลเล็ก ๆ มีประชาชนประมาณ 300 คน ในจังหวัดซานตานเดร์ ประเทศสเปน บนเทือกเขากันดาเบรียน ในหมู่บ้านนี้จะ มีต้นสนขึ้นเรียงราย 9 ต้นเป็นจุดที่แม่พระมาปรากฎพบเด็กหญิง 4 คนนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1961 - 1965 แม่พระได้ปรากฎมาประมาณสองพันครั้ง พวกเด็กได้บรรยายถึงแม่พระว่า

    " เป็นหญิงงามอายุราว ๆ 18 ปี แม่พระสวมเสื้อชุดขาว มีผ้าคลุมสีน้ำเงิน และถือสายจำพวกเหรียญห้อยคอ แต่ใช้แถบผ้าแทนสร้อยสีน้ำตาล ในมือขวา แม่พระสวมมงกุฎประดับด้วยดาว 12 ดวง แม่พระมีผมสีน้ำตาลเข้มและแสกผมตรงกลางศีรษะ ใบหน้ารูปไข่ มีจมูกเรียวงาม ไม่มีหญิงใดสวยเท่าแม่พระ " พวกเด็ก ๆ บรรยายเสริมเช่นนั้น

    การมาปรากฏของแม่พระทุก ๆ ครั้งจะเป็นไปโดยเด็กทุกคนจะได้ยินเสียงเรียกภายในใจ ซึ่งพวกเขาจะรู้สึกปีติยินดี แล้วแม่พระจะเรียก เป็นครั้งที่ 3 แล้วต่างคนต่างออกจากบ้านของตัวเองวิ่งมาพบแม่พระที่จุดเดียวกันตามที่แม่พระจะบอกว่าไปที่ไหน แล้วทุกคนจะคุกเข่าลง และรู้สึกแน่นิ่งเข้าสู่ภวังค์ ใครจะเอาไฟส่องหน้าหรือเอาเข็มหมุดจิ้มก็จะไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

    ในวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1961 แม่พระได้มอบสาสน์ฉบับแรกแก่โลก แม่พระบอกเด็ก ๆ ให้แจ้งแก่โลกในวันที่ 16 เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1961 มีใจความว่า

    " มนุษย์จะต้องทำกิจใช้โทษบาปและทำพลีกรรมให้มาก ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดพวกมนุษย์จะต้องประกอบกรรมดี มิฉะนั้น การลงทัณฑ์จะคอยอยู่ข้างหน้าแน่นอน ถ้วยแห่งพระพิโรธเต็มแล้ว หากเรายังไม่เปลี่ยนก็จะต้องถูกลงโทษ "

    ในวันที่ 1 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1965 แม่พระได้บอกคอนชิต้าว่าเทวดาไมเคิลจะปรากฎมาพบเธอในวันที่ 18 เดือนมิถุนายน เพื่อแจ้ง สาสน์สุดท้ายของแม่พระแก่โลกทั้งมวล เพราะเหตุว่าสาสน์ฉบับแกรของแม่พระไม่ได้รับความสนใจ แล้วอัครเทวฑูตไมเคิลก็มาพบ คอนชิต้าจริง และได้มอบสาสน์ฉบับสุดท้ายของ แม่พระคาราบันดัล ให้เธอเพื่อประกาศให้โลกรู้ มีใจความดังนี้

    " ก่อนหน้านี้ ถ้วยกำลังเต็มแต่เดี๋ยวนี้มันกำลังล้นออกมาแล้ว มีพระสงฆ์มากมายที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งหายนะ พวกเขานำวิญญาณ มากมายไปด้วย ... เราจะต้องหลีกเลี่ยงพระพิโรธของพระเจ้าที่มาสู่เราด้วยความพยายามอย่างสุดกำลังของเรา "

    จากสาสน์สุดท้ายของพระแม่คาราบันดัล ได้เตือนว่าเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการกำลังมาถึงคือ

    (1) สัญญาณเตือน เหตุการณ์แรกจะเป็นการเตือนที่มาจากพระเจ้ามาสู่มนุษย์ทุกคนบนโลก แม่พระบอกว่าการเตือนนี้จะมีไปถึงมนุษย์ ทุกคนบนโลก ก่อนจะเกิดอัศจรรย์เพื่อโลกจะได้ปรับปรุงตัวเอง สัญญาณเตือนนี้จะมาโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า และจะมองเห็นได้ทั่วโลก อาจเกิดบนท้องฟ้า เช่น ดาว 2 ดวงเกิดชนกันจะก่อให้เกิดเสียงกัมปนาทก้องไปทั่วโลก เกิดแสงจ้าสว่างไสว แต่มันจะไม่ตกลงมา และจะไม่ทำอันตรายผู้ใด แต่ทุกคนจะเห็นมันและสำนึกถึงบาปบุญคุณโทษ ไม่มีผู้ใดจะไปยับยั้งสัญญาณเตือนนี้ได้

    ขณะที่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างจะหยุดชะงักชั่ว 2 - 3 วินาที แม้กระทั่งเครื่องบิน ที่กำลังบินบนท้องฟ้า การเตือนนี้เป็นเหมือนการลงโทษ มันเป็นสิ่งน่ากลัวทั้งสำหรับคนดีและสำหรับคนชั่ว มันเป็นการดึงคนดีให้ขยับเข้าไกล้พระ และเตือนคนชั่วให้รู้ว่าเวลาเหลือน้อยแล้ว การเตือนนี้เป็นเหมือนการชำระล้างชนิดหนึ่งเพื่อเตรียมรับอัศจรรย์ เมื่อการเตือนผ่านไปแล้วเราก็จะเข้าไกล้สิ้นยุคซาตาน มนุษย์แต่ละคนจะมีประสบการณ์ภายในใจด้วยแสงสว่างของพระเจ้า และก็จะรู้ว่าตัวเองมีบุญมีบาปมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าผู้ที่เชื่อในพระเจ้าหรือผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าก็จะรู้ซึ้งถึงการเตือนอันนี้

    เราจะเห็นสัญญาณเตือนด้วยตัวเราเอง และจะรู้สึกภายในตัวเราเอง เพราะมันจะกระจ่างแจ้งเลยทีเดียวว่ามาจากพระผู้เป็นเจ้า การเตือนนี้เป็นอะไรที่จะเห็น ในอากาศก่อนอื่นหมดทุก ๆ แห่งทั่วโลกและในทันทีทันใดก็ส่งต่อเข้าไปภายในจิตวิญญาณของเรา การเตือนนี้จะคงอยู่ไม่นานนัก แต่มันดูเหมือนจะเป็นอยู่นานทีเดียว ทั้งนี้เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกภายในใจเรา มันจะเป็นสิ่งดีสำหรับจิตวิญญาณของเรา เพื่อว่าเราจะได้เห็นมโนธรรมของเราด้วยตัวของเราเอง

    เพระฉะนั้นทุกคนจะต้องเตรียมตัวสำหรับวันนั้น แต่จะต้องไม่คอยมันด้วยความกลัว พระเจ้าไม่ต้องการส่งอะไรที่เป็นเหตุแห่งความกลัว แต่พระองค์จะส่งอะไรมาเพราะความรักและ ความยุติธรรม พระองค์กระทำสิ่งนี้ก็เพื่อความดีของลูก ๆ ทุกคนของพระองค์ เพื่อว่าลูก ๆ เหล่านี้จะได้เสวยสุขตลอดกาลนิรันดร มิใช่พินาศไปชั่วนิรันดร

    (2) มหัศจรรย์ แม่พระได้สัญญาว่ามหัศจรรย์จะเกิดที่สวนสน มันจะเกิดในวันพฤหัสบดี เวลา 2 ทุ่มครึ่ง ระหว่างวันที่ 8 - 16 ระหว่าง เดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม อัศจรรย์นี้จะเกิดขึ้น 1 ปี หลังจากสัญญาณเตือน

    (3) เครื่องหมายถาวร เครื่องหมายถาวรนั้นจะคงอยู่ตลอดไปอันเป็นผลอัศจรรย์นั้น มันจะเป็นเครื่องหมายที่มีกำเนิดเหนือธรรมชาติและ เป็นอะไรที่ไม่มีใครเห็นมาก่อนในโลก เครื่องหมายอัศจรรย์นี้ เราจะสามารถถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอได้ มันจะคงอยู่ที่ต้นสนเหล่านั้น แต่ไม่มีใครสามารถจับต้องมันได้ มันจะเป็นเหมือนกลุ่มควันรูปร่างคล้ายเล่า ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายที่จะคงอยู่ตลอดไปบนต้นสน

    (4) การลงทัณฑ์ ถ้ามนุษย์ไม่เปลี่ยนหลังการเตือนและอัศจรรย์เกิดขึ้นแล้ว การลงทัณฑ์ของพระเจ้าจะมาแน่ มันจะแย่ยิ่งกว่ามีไฟสุมหัวเราอีก ไฟข้างใต้ ไฟรอบตัวเรา ต่อให้หนีไฟไปที่ทะเลก็หนีไม่พ้นที่จะกล่าวทั้งหมด ผมพยายามเสนอให้เห็นภาพรวมของ " โปรแกรมของพระเจ้า " ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้ในมุมมอง ของชาวคาทอลิก

    ที่มา http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33386
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    " คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่เกาะไม่อยู่ "

    [​IMG]
    ภาพ พระอาจารย์รัตน์ แห่งสมาธิหมุน

    คืนหนึ่งภายหลังจากการฝึกสมาธิหมุนจบสิ้นลง หลวงพ่อมักจะเปิดโอกาสให้ถามคำถามต่าง ๆ ที่ผู้มาฝึกเกิดสงสัยขึ้น หากไม่มีคำถามหลวงพ่อก็มักจะเล่าประสบการณ์ของท่านให้ฟังกัน คืนนั้นท่านพูดถึงการขึ้นไปเผยแพร่ธรรมะบนดอยของท่าน รวมไปถึงการประกอบพิธีสมโภชพระธาตุที่สร้างขึ้นบนดอย ซึ่งขณะที่กำลังบรรจุพระธาตุเข้าองค์เจดีย์นั้น ฟ้าที่ขมุกขมัวก็เปิดเป็นแสงสว่างจ้าส่องลงมาเป็นลำ สร้างความแปลกใจแก่คนที่อยู่ในพิธี หลวงพ่อบอกว่า ท่านถึงกับขนลุก ซึ่งผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ยังอดแปลกใจไม่ได้

    จากนั้นท่านเล่าว่า ขณะที่ท่านจะแผ่เมตตานั้น ท่านไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะว่าวิญญาณบนดอยไม่ยอมรับการแผ่เมตตานั้น เนื่องจากถึง เวลาที่พวกเขาจะได้ลงมาเกิดแล้ว ท่านได้อธิบายต่ออย่างละเอียดว่า แต่เดิมชาวเขาไม่ได้อยู่บนดอย แต่อยู่ในที่ลุ่มเป็นเจ้าแผ่นดินเดิม พระของพวกเขาจะกินเจคล้าย ๆ กับพระจีน แต่เมื่อพุทธศาสนาลังกาวงศ์เข้ามาสู่ประเทศไทยสมัยสุโขทัย พระของลัทธิลังกาวงศ์นั้น ฉันเนื้อได้ และมีลักษณะเหมือนพระในปัจจุบัน พวกเจ้าถิ่นเดิมก็ถูกทำลายล้าง จนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนดอยนับตั้งแต่นั้นจนเหลือชาวเขา ในปัจจุบัน ซึ่งบัดนี้วิญญาณที่ถูกทำลายล้างไปนั้น ได้เวลาที่จะกลับลงมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ยอมรับการแผ่เมตตาที่ได้แผ่ไปให้

    " มันเป็นกรรมของพวกเขา เคยทำอย่างไรกับพวกเขาก็จะต้องโดนกลับคืนบ้าง อีกหน่อยพระทั้งหลายจะต้องถูกยึดเงินจนหมด และก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพพระเช่นนี้ได้ เมื่อเรื่องพระหมดไปหลังจากนั้นอีกประมาณปีครึ่งก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 "

    ผมถึงกับตะลึงที่ท่านพูดถึงเรื่องนี้ออกมาโดยไม่มีใครถามท่านเลย และเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินกับหูที่ท่านได้พูดถึงเรื่องอนาคต ท่านบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากเล่านัก เพราะจะทำให้คนตื่นกลัวกัน แต่ที่ท่านเล่าให้ฟังก็เพื่อไม่ให้พวกเราประมาท และเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในวิสัยของท่านที่จะรู้ได้

    " โยมก็จำเอาไว้เล่น ๆ ก็แล้วกัน ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นก็จะนึกได้ว่า อ๋อ หลวงพ่อเคยพูดไว้ "

    ท่านกล่าวอย่างติดตลก ในคืนถัดมาเมื่อผมได้มีโอกาสซักถามกับท่านโดยตรง ท่านได้เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน มีการระบุถึงบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ผมคงจะขอข้ามส่วนนี้ไป เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเกินไป และโดยส่วนตัวแล้ว ผมสนใจในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นมากกว่า

    " ถ้าเกิดสงครามโลกแล้วเราจะทำอย่างไรดีครับ ? " มีคนถามขึ้น

    " ไม่ต้องกลัวหรอกโยม " ท่านตอบ

    แต่แทนที่คำตอบของท่านจะทำให้หายกลัว สำหรับผมแล้วกลับตะลึงหนักเข้าไปอีก เพราะท่านได้พูดต่อว่า

    " ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้อยู่ทันดูสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า "

    หลายคนอาจดีใจว่า สงครามโลกอาจจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิดซึ่งตัวเองก็คงตายไปเสียก่อนอะไรทำนองนั้น แต่ในความคิดของผม คนเราอาจมีสิทธิ์ตายจากภัยพิบัติอย่างอื่นได้ก่อนเกิดสงคราม ซึ่งหลังจากนั้นหลวงพ่อได้เล่าต่อไปว่า การใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลืองจะทำให้ ธาตุต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโลกแปรปรวนในแกนกลางของโลกซึ่งเอียงอยู่ประมาณ 23 องศาครึ่ง จะมีมโนธาตุมากขึ้น คือมันจะกลวง และเบาขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันจะพลิกตัวลงอย่างกระทันหัน (หลวงพ่อทำมือให้ดู)

    "ทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงแก่มนุษย์ทั้งหลาย คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่ไม่อยู่"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    คนที่จะรอดได้ก็คือคนที่สามารถตัด " จิตใจ " ออกจากร่างกายที่เจ็บปวดได้เท่านั้น (ท่านยกตัวอย่างคนที่ถูกผ่าตัดแล้วไม่เจ็บ) และท่านยังบอกว่าการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดเร็วยิ่งขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านบอกว่าแกนโลกจะพลิกนั้นเป็นอย่างเดียว ' Pole Shift ' หรือเปล่า ?

    หลวงพ่อท่านกล่าวต่ออีกว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะมากขึ้น อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ (จากกรุงเทพ ฯ ถึงนครสวรรค์จะจมน้ำหมด และศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่ที่ลำพูน)

    สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้น ท่านบอกว่าอาวุธนิวเคลียร์จะไม่น่ากลัวเท่า " อาวุธแสง " ซึ่งขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สหรัฐที่ได้รับรางวัล โนเบลในปี ค.ศ. 1995 ได้ค้นพบอนุภาคที่เป็นต้นกำเนิดของอาวุธแสงแล้ว เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่ามันสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้เท่านั้นเอง ซึ่งอนุภาคตัวนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นตัวที่ทำให้แรงชนิดที่ 6 (พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าแรงมี 7 ชนิด) ซึงสามารถทะลุทะลวงผ่านทุกสิ่งไปได้ ตัวอนุภาคนี้เองที่เป็นตัวเดียวกับที่หลวงพ่อเรียกว่า "เส้นแสง" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของจักรวาล

    ท่านยังให้ข้อสังเกตว่า 1 ปีก่อนเกิดสงครามโลก คนสามารถขึ้นไปสร้างบ้านเรือนอยู่บนอวกาศและสามารถทำกลางคืนให้เป็นกลางวันได้ คู่สงครามที่จะเกิดในครั้งนี้คือเอเชีย (จีน ?) กับยุโรป การทำลายล้างนั้นจะใช้อาวุธแสงยิงมาจากอวกาศ ไล่ยิงกันเป็นแนวไปสิ้นสุดที่พีรามิด บรรยากาศหลังจากที่หลวงพ่อพูดจบ มันเงียบอย่างบอกไม่ถูก จนหลวงพ่อต้องถามขึ้นว่า

    " ใครอยากช่วยไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ (ภัยธรรมชาติ) เกิดขึ้นบ้าง? ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็ต้องเลิกใช้นำมันกันให้หมดจะทำได้ไหมล่ะ ? "

    ไม่มีใครตอบท่านเลย ... สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือสัญญาณเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น ซึ่งพอสรุปได้ว่าก่อนเกิดสงครามโลก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งจะมีเหตุการณ์ เหล่านี้เป็นสัญญาณคือ ... ในไทยพระจะถูกยึดเงิน ในระดับโลกจะมีการสร้างบ้านเรือนบนอวกาศ แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งมีทางเป็นไปได้ โดยตรรกะว่าเมิ่อเกิดภัยธรรมชาติจะเกิดความแร้นแค้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งต่าง ๆ อันจะเป็น ชนวนให้เกิดสงครามขึ้นมาได้ แต่ที่สำคัญก็คือระยะเวลาเหลืออีกเท่าไร เดือนสิงหาคใมใช่หรือไม่ ? หลวงพ่อท่านบอกว่าระบุไม่ได้ ขนาดนั้น ผมจึงต้องถามท่านใหม่ว่า

    " อีกประมาณ 4 - 5 ปีข้างหน้านี้ใช่ไหมครับ " ท่านตอบว่า " ประมาณนั้น "

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังการฝึกในช่วงเช้ามืดจบลง หลวงพ่อท่านได้บอกเคล็ดลับของการฝึกสมาธิหมุนให้แก่ผู้อบรมที่ยังเหลืออยู่ จากนั้นท่านก็ให้พรและกล่าวลากับทุกคน ผมจากวัดของหลวงพ่อมาหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ริม 2 ข้างทางนั่นสงบเงียบเหลือเกิน แต่ในจิตใจของผมล่ะ ...

    ผมเองไม่รู้สึกตื่นกลัวมากนัก ถ้าหากเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริง อาจเป็นเพราะผมเองก็มีภาพเหล่านั้นอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะร้าย แรง และรวดเร็วอย่างที่หลวงพ่อท่านบอก โดยส่วนตัวของผมบัดนี้ได้พบคำตอบแล้วว่า ทำไมความรู้สึกก่อนมาที่วัดนี้ของผมจึงเป็น ต้องไปมากกว่าควรไป

    สิ่งที่ผมได้รับรู้นั้นมันทำให้คลายความยินดีในเรื่องความสำเร็จทางการงานที่เพิ่งได้รับมาหมาด ๆ ลงอย่างหมดสิ้น สิ่งที่ผมนึกออกตอนนั้น ก็คือ

    " ต่อไปนี้เราจะประมาทไม่ได้แล้ว "

    (แหล่งที่มา จากหนังสือ มังกรจักรวาล1 ตอนสมาธิหมุน นอสตราดามุส และมนษย์ต่างดาวว่าด้วยญาณทัศนะกับหายนะของโลกก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)

    ที่มา http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33386
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,659
    ค่าพลัง:
    +51,921
    *** ย้อนยุคไปมา วกไปวนมา ไปไม่ถึงแก่นสาร ****

    ท่านไม่สงสัยกันบ้างเลยหรือ...
    ว่า ศีลก็ทำกันแล้ว สมาธิก็ทำกันแล้ว ปัญญาก็ทำกันแล้ว อธิษฐานก็ทำกันแล้ว
    แต่ทำไมบ้านเมืองยังวุ่นวายเช่นนี้
    ท่านไม่สงสัยเลยกันบ้างเลยหรือ....
    ว่า พระพุทธเจ้า พระโคดม สอนสั่งอะไรกันแน่
    ทุกวันนี้เรายังไปไม่ถึงแก่นสารการกระทำกันเลย...

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    <table padding="0" border="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="text-align: center;" valign="top" width="50px">




    </td> <td width="6px">
    </td> <td valign="top" width="auto"> บทความ พระราชดำรัส ที่คุณอ่านแล้วจะมีกำลังใจ


    โดย brondHAIR! [​IMG] [​IMG] [​IMG] เป็นกระทงร้อน 1 ปีที่แล้ว [​IMG] คิดๆๆ

    <table> <tbody><tr> <td valign="top" width="50px"> [​IMG] </td> <td width="4px">
    </td> <td valign="top"> พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในสมุดจดบันทึกส่วนตัว </td> </tr> </tbody></table> คะแนน: 14 ชอบ, 1 ไม่ชอบ

    Tag: ชีวิต กำลังใจ พระเทพ พระราชดำรัส สมุดบันทึก

    ชนิด: บทความ - ประเภท: สังคมศาสนา
    19 บทวิจารณ์ | 5,453 คนอ่าน

    </td> <td width="4px">
    </td> <td align="right" valign="top" width="150px">


    </td> </tr> </tbody></table>
    <table padding="0" style="margin: 0pt;" border="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> คำสั่ง

    Share
    [​IMG] hi5 | [​IMG] Exteen | [​IMG] เด็กดี | [​IMG] BlogGang


    ภาพประกอบ
    [​IMG]

    บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
    ปี 2548 ที่ผ่านมา มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สมุดจดบันทึกส่วนตัวจำหน่ายให้กับประชาชนโดยทั่วไปจำนวน 48 แผ่น 96 หน้า โดยในสมุดจดบันทึกส่วนตัวนั้นได้แทรกพระราชดำรัสและภาพเส้นฝีพระหัตถ์ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 8 หน้า และกระแสพระราชดำรัสนั้นจะทรงเน้นในเรื่องข้อคิดในเรื่อง การศึกษา ปรัชญา ความคิดทางสังคมและการเมือง เอาไว้อย่างมีอัจฉริยภาพในความหมายที่ลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

    นอกจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานภาพเส้นฝีพระหัตถ์และทรงพระอักษรด้วยพระองค์เองเป็นหน้าปกของ สมุดจดบันทึกดังกล่าว โดยในส่วนของภาพเส้นฝีพระหัตถ์นั้น เป็นภาพดังนี้

    แม่ไก่ตัวหนึ่งกำลังฟักไข่อยู่ในเล้าไก่ และกำลังคิดว่าสักวันหนึ่งไข่ที่ตัวเองฟักอย่างทะนุถนอมนั้นจะออกมาเป็นลูก เจี๊ยบที่น่ารัก แต่ปรากฏว่าไข่ที่ตัวเองฟักออกมานั้นกลับกลายเป็นรูป แมว ที่ร้องออกเสียงมาว่า เหมียว! ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า แมวเป็นสัตว์ที่เป็นภัยต่อทั้งลูกเจี๊ยบและแม่ไก่ จึงเป็นภาพเส้นฝีพระหัตถ์ที่แสดงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เป็นอันตราย จนถึงขั้นอาจจะไปกินลูกเจี๊ยบตัวอื่นๆ และกินแม่ไก่ได้ในที่สุด

    ใต้ภาพดังกล่าวนี้เอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระอักษรด้วยพระองค์เอง มีใจความดังนี้

    หลายครั้ง เราต้องประสบสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เคล็ดลับของความสำเร็จคือต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
    ขอให้กล้าหาญและเชื่อมั่น และจะโชคดี

    สำหรับพระราชดำรัสและ ภาพลายเส้นฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชทานให้แทรกในสมุดบันทึกส่วนตัวนั้นล้วนแล้วแต่ให้ความคิดและให้ กำลังใจต่อผู้ที่ได้อ่านได้เป็นอย่างดียิ่ง ตัวอย่างเช่น

    เพื่อมนุษยชาติ...จงอย่าละความกล้า
    เมื่อเผชิญกับความทุกข์...ให้อดทนและสุขุม
    และจงมีความสุขที่ได้ยึดอุดมการณ์ที่มีค่า
    ไปเถิด... ถ้าเจ้าต้องการเดินตามรอยเท้าพ่อ

    ในด้านการเมืองและสังคมนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระราชทานแทรกในสมุดบันทึกนี้เช่นกัน ดังนี้

    สังคมและมนุษย์มีความสลับซับซ้อน การปฏิวัติสังคมและการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามทั้งหลายเพื่อส่วนรวมนั้น จึงมิใช่จะสำเร็จผลได้เพียงเพราะมีความปรารถนาอุดมคติหลักการ หรือทฤษฎีทางการเมืองเท่านั้น หากต้องใช้ปัญญาพินิจตนเอง พิจารณาสังคมอย่างละเอียดรอบด้าน

    สำหรับภาพฝีพระหัตถ์ที่อยู่เหนือพระราชดำรัสดังกล่าว พระองค์ได้ทรงเลือกเป็นภาพฝีพระหัตถ์ กระต่ายถือธงชาติไทย

    นอกจากนั้นแล้ว สมุดจดบันทึกส่วนตัวที่จัดทำโดยมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์นี้ ยังได้มีภาพดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่วาดเอาไว้อย่างสวยงามโดยสมาชิกหน่วยฝึกอาชีพ ของมูลนิธิสายใจไทยฯ เป็นประโยชน์และให้ความรู้ต่อผู้อ่านเป็นอย่างดี

    บทความ พระราชดำรัส ที่คุณอ่านแล้วจะมีกำลังใจ
    </td> </tr> </tbody></table>


    -----------------------------------------------------

    บางทีบางเรื่อง ที่ใหญ่โต แค่เราทำให้ตามวิธีที่ถูกต้องนิดเดียว โลกก็เปลี่ยน
    แต่บางครั้ง ถึงที่สุดก็ต้องยอมรับชะตากรรม (ฟังคุ้นหูดีจังเลย) แต่ไม่ได้ยอมแพ้อย่างที่คนบางคนเข้าใจ(ความเห็นส่วนตัวของผู้โพสข้อความ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  9. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 00.22 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 02.31 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 11.16 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 11.29 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B1.JPG
      B1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.4 KB
      เปิดดู:
      1,128
    • B2.JPG
      B2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64 KB
      เปิดดู:
      1,130
    • B3.JPG
      B3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      63.2 KB
      เปิดดู:
      1,118
    • B4.JPG
      B4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      1,112
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ชาวเขาเมืองสองแควประสบภัยหนาวรุนแรง วอนรัฐช่วยด่วน

    [​IMG]

    พิษณุโลก 21 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง หมู่ 10 บ้านร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูงและหุบเขาจำนวนกว่า 300 ครอบครัว กำลังประสบภัยหนาวรุนแรง หลังจากอุณหภูมิในพื้นที่ลดต่ำลงเหลือเพียง 7 – 10 องศาเซลเซียส ชาวบ้านโดยเฉพาะคนชราและเด็ก ๆ ต้องออกมานั่งก่อไฟผิง เพื่อคลายความหนาวเย็นและสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ขณะที่สัตว์เลี้ยงทั้งโค สุนัข และไก่ ต้องยืนผึ่งแดดเพื่อคลายหนาวเช่นกัน

    นายยุทธศาสตร์ แซ่ลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 เปิดเผยว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จึงต้องทนทุกข์ทรมานกับความหนาวเย็น เพราะขาดแคลนเครื่องกันหนาว ดังนั้นจึงอยากวอนภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ซึ่งสิ่งที่ต้องการมากที่สุด คือผ้าห่ม ถุงมือ ถุงเท้า และเสื้อกันหนาว.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-21 11:37:01

    นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยอินทนนท์

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 21 พ.ย.-นักท่องเที่ยวขึ้นไปกางเต็นท์นอนพักค้างแรมสัมผัสอากาสหนาวเย็นบนยอดดอยอินทนนท์กันแล้ว ขณะที่อุณหภูมิยอดดอยคืนนี้อยู่ที่ 6 องศาเซสเซียส

    บรรยากาศบริเวณลานสวนสนบ้านขุนกลาง บนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปกางเต็นท์นอนพักค้างแรม ส่วนใหญ่มากับครอบครัว และเป็นหมู่คณะ เพื่อมาพักผ่อนช่วงวันหยุดสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิบนยอดดอยคืนนี้อยู่ที่ 6 องศาเซสเซียส ทางอุทยานฯ ต้องมีบริการเช่าผ้านวม ผืนละ 50 บาท และเตาอังโล่เตาละ 50 บาท เพื่อคลายความหนาว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ กำชับห้ามนักท่องเที่ยวนำเตาถ่านเข้าไปไว้ในเต็นท์ เพื่อให้ความอบอุ่นอย่างเด็ดขาด หากเผลอหลับอาจสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

    นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักค้างแรมบนยอดดอยอินทนนท์บอกว่า ต้องการมาสัมผัสอากาศหนาว และชมทะเลหมอกช่วงเช้าตรู่ สำหรับการเดินทางขึ้นมาบนยอดดอยอินทนนท์ ขอให้นักท่องเที่ยวใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากช่วงกิโลเมตรที่ 46 ก่อนถึงยอดดอย 300 เมตรถนนทรุดตัวจากการกัดเซาะของน้ำฝน และไหล่ทางเป็นเหวลึกกว่า 100 เมตร เหลือเพียงช่องทางจราจรเพียงช่องเดียว.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-21 05:12:23

    เกิดเพลิงไหม้โกดังสินค้ากลางใจเมืองพิษณุโลก

    [​IMG]

    พิษณุโลก 21 พ.ย.-เกิดเพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้ากลางใจเมืองพิษณุโลก หวิดย่างสดลูกชายเจ้าของโกดังซึ่งติดอยู่ด้านใน

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อาคารขนาด 3 ชั้นครึ่ง บริเวณถนนพระองค์ขาว กลางใจเมืองเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เพื่อไม่ให้ลุกลามไปติดอาคารพาณิชย์ข้างเคียง และช่วยเหลือนายการัณยภาส ศรีวุฒิปัญญา ลูกชายเจ้าของโกดัง ซึ่งติดอยู่ในที่เกิดเหตุออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

    เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แน่ชัดอยู่ระหว่างตรวจสอบของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-21 01:16:40

    ฝนยังตกหนัก น้ำท่วมขยายวงกว้าง ขณะที่ผู้ว่าฯ เร่งสร้างแนวกันคลื่น

    [​IMG]

    สงขลา 21 พ.ย.- หลายพื้นที่ในจังหวัดสงขลายังคงประสบปัญหาน้ำท่วม ประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจร ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งขอรับบริจาคยางรถยนต์เพื่อนำมาสร้างแนวกันคลื่นซัดชายหาด

    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ว่า ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา เร่งนำเครื่องจักรกลขุดลอกคลองสายย่อยภายในชุมชน เขตเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง เพื่อช่วยการไหลระบายของในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ป้องกันไม่ให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่บริเวณถนนกาญจนวนิช ซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง อ.หาดใหญ่และ อ.เมือง จ.สงขลา มีน้ำท่วมถนนเป็นระยะ ตั้งแต่บริเวณห้าแยกเกาะยอ ไปจนถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ รถสามารถวิ่งได้เพียง 1 ช่องจราจร ประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจร

    ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไปจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้

    นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดรับบริจาคยางรถยนต์ที่ไม่ใช้แล้วจากประชาชนเพื่อนำมาทำเป็นแนวกันคลื่นชั่วคราว ริมหาดสมิหลา เพราะล่าสุดใช้ยางรถยนต์ทำแนวกันคลื่นไปแล้วกว่า 10,000 ล้อ ทั้งที่ใช้ฝังลงไปในทราย และวางเรียงซ้อนกันหลายชั้นริมหาด เบื้องต้นสามารถช่วยป้องกันแรงกระแทกจากคลื่นได้ระดับหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-21 12:21:30

    สงขลาฝนยังตกหนัก ตลิ่งริมคลองทรุด บ้านพัง 4 หลัง

    [​IMG]

    สงขลา 20 พ.ย. - เมื่อช่วงเย็นวันนี้ นางพิมพ์ธาดา จันทร์สุริยา ปลัดอาวุโส อ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านโคกเมา เขตเทศบาลตำบลท่าช้าง อ.บางกล่ำ หลังได้รับแจ้งว่า มีบ้านเรือนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่ริมคลองสายเมา ซึ่งเป็นคลองรับน้ำจากพื้นที่อื่น ๆ ก่อนไหลลงคลอง ร.1 เพื่อระบายออกสู่ทะเล พังถล่มลงมา 4 หลัง เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ดินบริเวณริมตลิ่งอ่อนตัว จึงเกิดการทรุดตัวอย่างรวดเร็ว

    ทั้งนี้ นางพิมพ์ธาดา เปิดเผยว่า บ้านเรือนทั้ง 4 หลัง ที่พังเสียหาย เป็นบ้านที่ปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่คลอง ซึ่งทางอำเภอได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมช่วยขนย้ายข้าวของไปอาศัยบ้านญาติชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ยังมีบ้านเรือนอีก 5 หลัง ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ที่ดินถูกต้อง แต่ปลูกสร้างอยู่ริมคลองฝั่งตรงข้าม และเสี่ยงที่จะมีการทรุดตัวเช่นกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 18:07:42

    นราฯ ฝนตกหนักน้ำเริ่มท่วมสุไหงปาดี-สั่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยง

    [​IMG]

    นราธิวาส 21 พ.ย.- ผู้ว่าฯ นราธิวาส สั่งทุกอำเภอเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำป่า-ดินถล่มจากฝนตกสะสม ล่าสุดเริ่มท่วมแล้วอำเภอสุไหงโก-ลก บางจุดสูงกว่า 2 เมตร ขณะที่แม่น้ำสุไหงโก-ลก น้ำขึ้นสูงเกือบถึงตลิ่ง

    ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องอีกรอบในพื้นที่ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด (21 พ.ย.) น้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ อ.สุไหงปาดี 3 จุด คือ เส้นทางระหว่างบ้านปอเนาะ ม.6 ถึง ม.7 ต.ตาเซ๊ะใต้ ระยะทางกว่า 3 กม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และน้ำยังไหลเข้าฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลบ้านละหาร ต.ปะลุรู สูงกว่า 2 เมตร รวมทั้งเส้นทางบริเวณหน้ามัสยิดกลาง เขตเทศบาลตำบลปะลุรู น้ำสูง 70 ซม. และเส้นทางบริเวณตลาดล่าง นอกจากนี้ พื้นที่ อ.ระแงะ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร เริ่มมีน้ำท่วมแล้วบางหมู่บ้าน หากฝนยังไม่หยุดตกจะทำให้แม่น้ำ 3 สายหลัก คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสุไหงโก-ลก และแม่น้ำสายบุรี อาจล้นตลิ่งในไม่ช้า

    ล่าสุดนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กำชับทั้ง 13 อำเภอ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะ 10 อำเภอที่มีพื้นที่ติดเชิงเขาระวังน้ำป่าและดินถล่ม คือ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.ศรีสาคร อ.รือเสาะ อ.จะแนะ อ.ระแงะ อ.เจาะไอร้อง อ.สุไหงปาดี อ.บาเจาะ และ อ.ยี่งอ

    ขณะเดียวกันนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำสุไหงโก-ลก สำนักงานชลประทานที่ 17 กรมชลประทาน ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ของปริมาณฝนและระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกอย่างใกล้ชิด หากปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร จะเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ขณะนี้ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพียง 1 เมตร.- สำนักข่าวไทย

    2009-11-21 11:30:59

    น้ำเริ่มท่วมตัวเมืองพัทลุงท่ามกลางฝนตกต่อเนื่อง

    [​IMG]

    พัทลุง 20 พ.ย. - นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ นำถุงยังชีพ 300 ชุด เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ม.3 ต.ลำปำ อ.เมือง ที่ประสบภัยน้ำท่วมถึง 11 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา โดยจะรับน้ำที่เอ่อล้นจาก ต.พญาขัน ต.ชัยบุรี และ ต.ปรางหมู่ อ.เมือง หากมีน้ำทะเลหนุนด้วยจะทำให้น้ำที่ท่วมขังระบายลงสู่ทะเลสาบได้ช้า

    ล่าสุดช่วงค่ำวันนี้ (20 พ.ย.) ยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ทำให้น้ำท่วมขังถนนสายราเมศวร์ เนื่องจากการระบายน้ำลงท่อไม่ทัน ประกอบกับน้ำในลำคลองขึ้นสูง ผู้ประกอบการร้านค้าในตัวเมืองเร่งนำกระสอบทรายวางกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้าน ส่วนรถยนต์ก็วิ่งไปมาด้วยความยากลำบาก หากฝนไม่หยุดตก คาดว่าน้ำจะท่วมเพิ่มขึ้น. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 19:11:46

    นครศรีฯ จับผู้ลักลอบดูดทรายแม่น้ำตาปี

    [​IMG]

    นครศรีธรรมราช 20 พ.ย. - เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (20 พ.ย.) นายศักดิ์ชาย นันทเกษตร ปลัดอำเภอช่วยราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 1 พร้อมนายฉลองศักดิ์ เชียรวิชัย นายอำเภอทุ่งใหญ่ นำกำลัง อส. เข้าตรวจสอบการลักลอบดูดทรายในบริเวณแม่น้ำตาปี ม.6 ต.บางวรูป อ.ทุ่งใหญ่ หลังมีผู้ร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และจับกุมนายเศกสันต์ สวัสดิกูล อายุ 44 ปี ขณะเดินเครื่องดูดทรายในคลองส่งตามท่อมากองไว้บนฝั่ง เพื่อรอใส่บรรทุกขนไปจำหน่าย

    โดยนายเศกสันต์ อ้างว่า ได้ยื่นขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติแล้วต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ยังไม่ได้หลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ดำเนินคดีข้อหาขุด ลอก แก้ไข หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า และประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต และตรวจยึดของกลางแพประกอบเครื่องดูดทราย 1 เครื่อง รถตัก 1 คัน ไว้เป็นหลักฐาน. -สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 18:17:49

    ยึดกองไม้สักกว่าพันท่อนกลางป่าเขื่อนสิริกิติ์

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 20 พ.ย. - รมว.ทรัพยากรฯ สั่ง ฮ.ลงจอดกลางป่าเหนือเขื่อนสิริกิติ์ พบไม้สักใหญ่ถูกตัดโค่นกว่า 1,000 ท่อน พร้อมตรวจยึดหาผู้ทำผิด และตรวจสอบไม้ ออป.ทั่วประเทศ

    นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปบ้านแม่เฉย ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ช่วงเที่ยงวันนี้ (20 พ.ย.) หลังเสร็จสิ้นภารกิจติดตามปัญหาที่ดินทำกินของชาวบ้านอำเภอท่าปลา ปรากฏว่าระหว่างบินอยู่ เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ สังเกตพบความผิดปกติของระดับน้ำและสภาพป่า จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องลงจอดกลางสวนป่าท่าปลา-น้ำลี หมู่ 9 บ้านท่าเรือ อ.ท่าปลา และประสานให้นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงษ์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 จ.ลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย เข้าควบคุมพื้นที่ทันที โดยพบว่ามีกองไม้ไม้สักทองยาวเกือบ 10 เมตร ถึง 31 จุด จำนวน 1,678 ท่อน

    นายสุวิทย์ กล่าวว่า ลักษณะของไม้น่าจะถูกตัดโค่นนำมากองเพื่อรอการขนย้าย ซึ่งเป็นพื้นที่สวนป่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ท่าปลา 386 ไร่ ปลูกต้นสักทอง 30,888 ต้น นอกจากยึดไม้ทั้งหมดไว้ตรวจสอบแล้ว จะต้องตรวจสอบพื้นที่ ออป.ทั่วประเทศด้วย และให้ผู้เกี่ยวข้องรายงานมาให้ทราบโดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 17:55:16

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 13.39 น.ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 14.04 น.ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 14.51 น.ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 15.45 น.ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • C1.JPG
      C1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      63.3 KB
      เปิดดู:
      1,034
    • C2.JPG
      C2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.9 KB
      เปิดดู:
      1,002
    • C3.JPG
      C3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.1 KB
      เปิดดู:
      1,005
    • C4.JPG
      C4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55.9 KB
      เปิดดู:
      1,000
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,659
    ค่าพลัง:
    +51,921
    *** คิดเลข 5000 ปี กับ ความสัมพันธ์ศาสนา ****
    <O:p</O:p

    เมื่อ....กาลีศักราช ที่ 2411 ... เป็น อัญชันศักราช ที่ 1
    พระพุทธเจ้าประสูติ...กาลีศักราช ที่ 2478....ตรงกับ อัญชันศักราช ที่ 68
    อีก 35 ปี....กาลีศักราช ที่ 2513...ตรงกับ อัญชันศักราช ที่ 103 ....พระพุทธเจ้าตรัสรู้<O:p</O:p
    อีก 45 ปี...กาลีศักราช ที่ 2558....ตรงกับ อัญชันศักราช ที่ 148 ....พระพุทธเจ้าปรินิพพาน...ถือเป็นพุทธศักราช ที่ 1<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    กาลีศักราช ครบ 5000 ปี
    เมื่อ กาลีศักราช ที่ 5001.... ตรงกับ พุทธศักราช ที่ 2444<O:p</O:p

    เมื่อนับต่อไปอีก 111 ปี<O:p</O:p
    จะตรงกับ กาลีศักราช ที่ 5112.... พุทธศักราช ที่ 2555... คริสต์ศักราช ที่ 2012....<O:p</O:p
    และ ตรงกับปฏิทินมายาโบราณสิ้นสุดพอดี<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จะอย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนรักษาสัจจะไว้กับตน<O:p</O:p
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    องค์การนาซามีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ

    [​IMG]

    วิกฤติโลกร้อน มนุษย์เตรียมอพยพ สู่ดาวอังคาร

    ช่วงระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา มนุษย์รับรู้เรื่องการปรวนแปรของธรรมชาติจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก แผ่นดินไหว เกิดพายุรุนแรงในภูมิภาคต่าง ๆ ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจนทำให้คนล้มตาย ล่าสุดคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ไทยภายใน 30 ปี น้ำจะท่วมภาคกลางของไทยเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย

    โอกาส ที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาวะโลกร้อน เดินทางมายังกรุงเทพมหานครเพราะปกติจะใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนสัตยาไสย จ.ลพบุรี เพื่อมาบรรยายพิเศษเรื่องการผลิตบัณฑิตคุณภาพบนพื้นฐานคุณธรรม ณ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สละเวลาให้สัมภาษณ์ประเด็นของโลกร้อนและทางรอดของมนุษย์เกี่ยวกับ เรื่องนี้

    ดร.อาจอง กล่าวว่า ตอนนี้ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปเยอะทุกอย่างมาจากภาวะโลกร้อน จะเห็นปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ในประเทศไทยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ผ่านมาเวียดนามมีหิมะตกเป็นครั้งแรก ล่าสุดมีหิมะตกในเคนยาประเทศเหล่านี้อยู่ใกล้เส้นศูนย์จึงไม่ต้องตกใจหากใน เดือนมกราคมหิมะจะตกในเมืองไทย เดือนมกราคม อากาศจะเย็นที่สุด หิมะน่าจะตกในภาคเหนือ

    ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้ขั้วโลก เหนือละลายเร็วกว่าที่เราคิด จะเห็นว่าขณะนี้มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาใหญ่เท่ากับเมืองนิวยอร์กไหลลงสู่ ทะเล แล้วก็ไปละลายในทะเลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น “เฉพาะแค่ช่วง ชีวิตผมเองระดับน้ำ ทะเลสูงขึ้น 16 เซนติเมตร ตอนนี้อายุผม 68 ปีแล้ว 16 เซนต์ถือว่าเยอะมากแค่ช่วงระยะสั้น ๆ ปกติจะใช้เวลาเป็น 4,000-5,000 ปีไม่ใช่แค่ 100 ปี ตอนนี้กำลังเร่งเพราะความร้อนมากขึ้นน้ำแข็งละลายมากขึ้น จะเร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ”

    เมื่อย้อนไปยังยุคน้ำแข็งตอนนั้นอากาศหนาว เกือบจะทั่วโลกมีหิมะตก น้ำเหล่านี้หมุนเวียนไปเป็นน้ำแข็ง มีน้ำสะสมอยู่บนภูเขา ตรงขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ ถ้าเราเปรียบเทียบ ตอนนั้นน้ำจากระดับน้ำทะเลระเหยขึ้นไปตกมากลายเป็นฝนและหิมะทำให้ระดับน้ำ ทะเลลดลง ตอนนั้นระดับน้ำทะเลอยู่ต่ำกว่าระดับปัจจุบัน 120 เมตร และถ้าน้ำแข็งละลายหมดระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 120 เมตรเพราะระดับน้ำทะเลไม่ได้หายไปไหนหมุนเวียนอยู่บนโลก

    เมื่อ เป็นอย่างนี้ก็หมายความว่าน้ำในทะเลสูงขึ้นจะค่อย ๆ กินฝั่งของเราไปเรื่อย ๆ อย่างเขตบางขุนเทียนที่กรุงเทพฯ เราสูญเสียแผ่นดินไปแล้ว 1 กิโลเมตร นักวิชาการทางทะเลบอกว่าปรากฏ การณ์เหล่านี้คือปัญหากัดเซาะชายฝั่ง แต่ในมุมมองของอดีตนักวิทยาศาสตร์จากนาซาไม่เป็นเช่นนั้น

    “ตอน นี้เสาไฟฟ้าอยู่ในทะเล หลายคนบอกว่าไม่ใช่น้ำทะเลสูงขึ้น แต่เป็นการเซาะฝั่ง ข้อบ่งชี้ว่าหากน้ำเซาะฝั่งเสาไฟฟ้าก็ล้มไปแล้วแสดงว่าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และเป็นอย่างนี้ทั่วโลก อเมริกาออกมาพูดว่าเมืองไมอามีอีกหน่อยก็จะไม่มีเหลือ ไม่ได้จมหมายความว่าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น”

    ภาวะโลกร้อนแผ่อานุภาพไป ทั่วโลก ดูเหมือน ว่าจะเป็นปัญหาที่ยากจะเยียวยา อาจตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุส ว่าโลกจะแตก แต่ทางวิทยาศาสตร์บอกว่าไม่ได้หมายความว่าแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ จะพังเพราะน้ำท่วม แผ่นดินไหว อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้มนุษย์อยู่อย่างลำบาก ประกอบกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน จำนวนผู้บริโภคมากขึ้นทำให้โลกยิ่งร้อน ซึ่งมีคนคิดถึงทางออกของปัญหานี้ไว้แล้ว

    ดร.อาจอง เล่าว่า องค์การนาซา มีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ โดยเลือกพื้นที่ดาวอังคารเพราะมีสภาพเหมือนกับโลก

    ขณะที่ดาวดวงอื่นเต็มไปด้วยอากาศพิษ ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไป ดาวพฤหัสฯมีสภาพเป็นกรด ดาวอังคารแม้อากาศหนาวและมีสภาพไร้น้ำหนัก แต่มนุษย์อยู่ได้ด้วยการไปสร้างเมืองกระจกทำให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนกับอยู่ บนโลกได้ เพราะสภาพไร้น้ำหนักทำให้กระดูกเราอ่อนไม่แข็ง กล้ามเนื้อจะหายไป ใน เบื้องต้นจะส่งคนออกไปสร้างอุตสาหกรรมในอวกาศ ใช้วัตถุดิบจากดวงจันทร์ของดาวอังคาร ซึ่งมีอยู่ 2 ดวง จะมีสารทุกอย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ยิปซัม แร่ธาตุต่าง ๆ และการ ขนย้ายแร่ธาตุเหล่านี้จะเป็นไปโดยง่ายบนสภาพไร้น้ำหนัก

    ขณะเดียวกัน เราเจอน้ำบนดวงจันทร์เยอะมาก จะสร้างฐานบนดวงจันทร์ เป็นจุดเติมพลังงาน เอาน้ำที่อยู่บนดวงจันทร์มาใช้พลังงานแสงอาทิตย์แยกออกซิเจน เป็นพลังงานไฮโดรเจน ใช้พลังงานนี้ไปขับเคลื่อนกับยานต่าง ๆ ทำให้การเดินทางบนอวกาศเป็นเรื่องธรรมดาโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน วางแผนว่ามนุษย์ครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องอพยพไปอยู่บนดาวอังคาร อาจไปไม่หมดเพราะโลกวิกฤติ มนุษย์อยู่ลำบากแล้ว การออกแบบสร้างเมืองจะแบ่งเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่สัก 2 แสนคน เป็นเมืองในอวกาศโดยสร้างระบบให้มีน้ำหนัก สามารถเดินไปมา ไม่ใช่ลอยไปมา ส่วนการเดินทางในอวกาศจะสร้างเรือใบรับรังสีพลาสม่าเพื่อให้พาหนะนี้เคลื่อน ไปในอวกาศได้

    การดำรงชีวิตในอวกาศไม่ต้องใช้น้ำมันจะใช้แสงแดดแทน เพราะมีเหลือเฟือ โดยจะสร้างแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่แค่ไหนก็ได้ รับรองไม่หล่นลงมาบนพื้นโลกเพราะในอากาศมีสภาพไร้น้ำหนัก สามารถรับแสงแดดได้ตลอดเวลาอีกทั้งไม่มีเมฆมาบดบัง

    ดร.อาจอง บอกว่าองค์การนาซาวางแผนไว้ปี ค.ศ. 2020 มนุษย์จะลงไปบนดาวอังคารเป็นครั้งแรกเพื่อจะเริ่มไปเยี่ยมไปศึกษาอยู่ที่ นั่นสักพักว่าจะอยู่กันได้สะดวกสบายแค่ไหน หลังจากนั้นจะเริ่มเอาคนไปอยู่สร้างตึกสร้างเมือง ตอนแรกจะมีเรือนกระจกแบบกลม ๆ เราเข้าไปอยู่ในนั้นปลูกผักปลูกข้าว ต้นไม้ บนดาวอังคารจะโตเร็วกว่าโลกของเรา ที่โตเร็วเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะเดียวกันเราไม่ต้องขนออกซิเจนไป ปลูกต้นไม้ก็คายออกซิเจนให้กับตัวเราได้

    เมื่อผู้คนอพยพมามาก ขึ้นอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ปกติบนดาวอังคารอุณหภูมิตอนนี้ติดลบ เมื่อมนุษย์อยู่มีเครื่องไม้เครื่องมือก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นแต่ตรง นั้นไม่ต้องห่วงเพราะอุณหภูมิต่ำอยู่แล้ว อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส มนุษย์เข้าไปอยู่ได้อีกเยอะ และยิ่งอยู่เยอะยิ่งดีทำให้อากาศร้อนขึ้น ที่สุดแล้วเด็กในวันนี้จะเดินทางไปทำงานอวกาศแทนที่จะเดินทางไปตะวันออกกลาง เกาหลี ญี่ปุ่น การเดินทางไปดาวอังคารจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการเดินทางขึ้น เครื่องบินไปต่างประเทศ

    ระยะทางจากโลกไปดาวอังคารไม่แน่นอนบางครั้งอยู่ใกล้กัน บางครั้งไกลออกไป ตอนที่ผมไปช่วยเขาส่งยานอวกาศลงบนดาวอังคารใช้เวลา 11 เดือน แต่ระยะเวลาที่ใกล้สุดระหว่างดาวอังคารกับโลกคือ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับจังหวะว่าโลกจะหมุนเข้าใกล้ดาวอังคารช่วงไหนของปี

    “เรา ต้องมองการณ์ไกลเริ่มคิดได้แล้วว่าประเทศอื่นส่งคนขึ้นไปบนอวกาศแล้ว ของเรายังไม่มีคนไทยขึ้นไปสักคนไม่ใช่ว่าเราต้องสร้างเอง แต่เราไปร่วมมือกับเขาให้ส่งคนของเราขึ้นไปบ้างเพื่อที่เราจะได้มี ประสบการณ์ได้เรียนรู้ จีนเริ่มส่งขึ้นไปแล้ว มีทั้งญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย อินเดีย ตะวันออกกลาง คนไทยเรายังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไป” ดร.อาจองกล่าวทิ้งท้าย ความหวังที่มนุษย์จะไปอยู่บนโลกใบใหม่ใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว

    ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์
    http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=Home_Sat<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Mission to Mars
    ไปแล้วระวังเจอเจ้าของบ้านตัวจริงด้วยนะ นาซ่า
    อยู่บนโลกก็ทำโลกวุ่นวาย
    ไปอยู่ดาวอื่นเขาจะให้อยู่หรอกน่ะ

    บ้านใครใครก็รัก
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    “ พุทธศักราชมาจากไหน ”
    โดย เวฬุวัน

    พุทธศักราช หรือเขียนย่อว่า “พ.ศ.” นั้น จะมีสักกี่คนที่รู้จักที่มาที่ไป และเข้าใจอย่างแจ่มชัด แท้จริงแล้วศักราชนั้นมีหลายชนิด เช่น กาลีศักราช อัญชัญศักราช เป็นต้น ส่วนพุทธศักราชชื่อก็บอกชัดแล้วว่ามีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เพราะหมายถึงศักราชที่ถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องกำหนด จะอย่างไรนั้นผู้เขียนจะได้้ชี้แจงให้เข้าใจตามลำดับสืบเนื่องกันไป ดังนี้​

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน จุดเริ่มของพุทธศักราช

    การกำหนดนับเวลาโดยใช้ศักราชมีมาก่อนสมัยพุทธกาล เช่น “กาลีศักราช” ได้มีการใช้ ก่อนสมัยพุทธกาลร่วมสองพันกว่าปี ต่อมา กษัตริย์แห่งกบิลพัสดุ์ คือ พระเจ้าสีหตนุราช (หรือ สีหนุ ซึ่งเป็นพระเจ้าปู่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) และพระเจ้าอัญชัน(อัญชนะ) พร้อมด้วยกาฬเทวิลผู้เป็นพระอนุชา (ภายหลังออกบวชเป็นฤาษีชื่อ กาฬเทวิลฤาษี หรือรู้จักกันในนามอสิตดาบสผู้ที่เข้ามาทำนายพุทธลักษณะเจ้าชายสิทธัตถะหลังประสูติได้ 5 วัน ) กษัตริย์ทั้งสามพระองค์สำเร็จจากสำนักตักศิลา มีความเชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์ (คัมภีร์มหาจักรพรรดิราช) ​

    จึงได้ทำการลบศักราชกาลียุคเสียเพราะชื่อไม่เป็นมงคล แล้วตั้งศักราชขึ้นใหม่ชื่อว่า “อัญชันศักราช” และได้มีการใช้เรื่อยมา ในห้วงเวลานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติเมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีอัญชันศักราชที่ 68 ภายหลังที่ได้ตรัสรู้ ทรงเผยแผ่สัจธรรมรวมเวลาได้ 45 พรรษา และได้เสด็จปรินิพพาน ณ กรุง กุสินารา เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เช่นเดียวกัน ในปีอัญชัญศักราชที่ 148 อัญชัญศักราชได้ถูกใช้เรื่อยมาจนถึงสมัยที่พระพุทธเจ้าเข้าสู่ปรินิพพาน​

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ทรงศึกษา “คัมภีร์มหาจักรพรรดิราช” จากพระเจ้าอัญชันจนเชี่ยวชาญ ในพุทธศาสนาจึงปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับโหราศาสตร์อยู่อย่างมากมาย เช่น ระบบสุริยจักวาล การโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงดาวและฤกษ์ อันปรากฏอยู่ในพระบาลี (พระไตรปิฎก) เช่น อัคคัญญสูตร อรัญญิกวัตร (ต่อมา สมัยหลังพุทธกาลสำนักตักศิลาได้นำไปทำเป็นหลักสูตรดาราศาสตร์ ชื่อว่า “โชติยศาสตร์”) ​

    แม้กระทั่งการใช้ตำแหน่งของดวงจันทร์เป็นตัวกำหนดให้เป็นวันธรรมสวนะ หรือวันอุโบสถ (การถือศีลอุโบสถนั้น ก็ต้องใช้วันที่จันทร์เพ็ญและจันทร์ดับเป็นตัวกำหนด รวมถึงการกำหนดภิกขุปาฏิโมกข์ และจนกระทั่งการใช้ฤกษ์เป็นตัวกำหนดนับระยะเวลาวันเข้าพรรษาและวันปวารณา อันถือว่าเป็นพุทธบัญญัติที่พระภิกษุต้องปฏิบัติ มีปรากฏอยู่ในพระบาลีวินัยปิฎก หมวดขันธกะ ว่าด้วยสังฆกรรม อุปสมบท และส่วนมหาวรรค อาทิ อุโบสถขันธกะ ว่าด้วยอุโบสถ วัสสูปนายิกขันธกะ ว่าด้วยวันเข้าพรรษา ปวารณาขันธกะ ว่าด้วยการปวารณา เป็นต้น) ​

    ในปีเดียวกันกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น พระเจ้าอชุตราช ซึ่งเป็นพระราชนัดดา (หลาน) ของพระเจ้าสิงหนวัติ (น้องชายของพระเจ้าพิมพิสารผู้ถวายวัดแห่งแรกให้กับพุทธศาสนา คือ วัดเวฬุวัน ซึ่งแปลว่า “วัดสวนไผ่” )ให้ขึ้นครองราชย์ในอาณาจักรโยนก สิงหนวัตินาคนคร (พื้นที่แถบทางภาคเหนือของไทย) ทรงเป็นพระญาติของพระเจ้าอชาตศัตรูกษัตริย์แคว้นมคธโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร โดยพระเจ้าสิงหนวัติผู้ตั้งอาณาจักรโยนก ปู่ของพระเจ้า อชุตราชเป็นน้องชายของพระเจ้าพิมพิสาร ครองราชย์เมื่อเดือนยี่ (ก่อนพุทธปรินิพพาน 4 เดือน) ​

    ทรงเป็นพุทธมามกะ เมื่อได้ทราบข่าวพุทธปรินิพพาน จึงเดินทางไปเมืองกุสินารา เพื่อถวายสักการะพุทธสรีระของพระบรมศาสดา ในกาลนั้นเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายในโคตมะโคตร จึงปรึกษากันเพื่อกำหนดให้ตั้งศักราชขึ้นใหม่ โดยหมายเอานิมิตแห่งการเสด็จปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเชื้อสายกษัตริย์แห่งวงศ์โคตมะ ราชวงศ์ทั้งหลายจึงมอบหมายให้พระเจ้าอชุตราชผู้เชี่ยวชาญคัมภีร์สุวรรณโคมคำส่วนโหราศาสตร์ และพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เชี่ยวชาญคัมภีร์สุวรรณโคมคำส่วนปราบไตรภพ วางฤกษ์ยามคำนวณตั้งศักราชขึ้น ณ เมืองกุสินารานั้น จึงได้ทำพิธีลบอัญชันศักราชเสีย และเริ่มใช้ศักราชใหม่เรียกว่า “พุทธศักราช” จึงได้ประกาศต่อเจ้าพระยามหากษัตริย์ทั้งหลายที่มาประชุมรับแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทราบ แลให้ทุกแคว้นทุกนครในชมพูทวีปใช้ “พุทธศักราช” เป็นเครื่องหมายนับเวลา การเริ่มต้นแห่ง “พุทธศักราชที่ 1” จึงมีขึ้นนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา​

    ฉะนั้น พุทธศักราช หรือ พ.ศ. จึงกำหนดเอาปีที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานเป็นการเริ่มต้น ชนชาติไทยจึงใช้พุทธศักราชแต่นั้นมา เพราะเป็นผู้สืบเชื้อสายเดียวกันกับพระพุทธเจ้าและนับถือพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยนั้น (ในประเทศไทยเริ่มนับพุทธศักราชเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว 1 ปี นับเป็น พ.ศ. 1 ส่วนในประเทศพม่านับปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ก่อนไทยหนึ่งปี และในประเทศศรีลังกาจะเปลี่ยนศักราชในวันวิสาขบูชา) และโหราศาสตร์สุวรรณโคมคำ ซึ่งเป็นโหราศาสตร์พุทธศาสนาที่ได้ตกทอดมาถึงปัจจุบัน ก็ใช้พุทธศักราชนี้เป็นเกณฑ์ตั้งต้นในการคำนวณหาศักราชเกณฑ์ (ปี) เพื่อเขียนดวงสัตตาภิธรรมกำเนิดในการพยากรณ์บุญกรรม​

    พุทธศักราชจึงเป็นเครื่องระลึกถึงบุคคลที่ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในโลกคือ “ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” แม้เวลาจะผ่านพ้นล่วงไปถึงสองพันห้าร้อยห้าสิบสองปีแล้ว หรือพุทธศักราชล่วงแล้ว 2552 ปี อันหมายถึง พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว 2552 ปี ดูเวลาช่างแสนเนิ่นนาน แต่เครื่องหวนระลึกถึงพระมหากรุณาคุณที่ทรงบำเพ็ญต่อสัตว์โลกอีกอย่างหนึ่งก็คือ “พุทธศักราช” ถือเป็นศักราชแห่งพุทธะ เพราะผู้คนในยุคนั้นต่างก็ได้บรรลุธรรมเป็นอันมากเพราะปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แต่พวกเราก็อย่าไปอิจฉาคนในยุคนั้นเลย เพราะเรายังโชคดีหนักหนาที่ได้พบกับหลักสัจธรรมอันบริสุทธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทานไว้ให้ ​

    สิ่งนี้แลคือตัวแทนพระองค์ หากปฏิบัติตามและเข้าถึงก็เหมือนกับได้พบกับพระองค์เหมือนยังทรงพระชนม์อยู่ ดังพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” เพราะฉะนั้น การจะมีชีวิตอยู่มากน้อยเพียงใดนั้นไม่สำคัญสำหรับผู้ที่ปฏิญาณตนว่าเป็นพุทธศาสนิกชน แต่สำคัญว่าเราท่านทั้งหลายได้สัมผัสกับพระธรรมที่พระองค์ฝากไว้ให้แล้วหรือยัง ถ้าหากยังละก็ ให้เราท่านรีบขวนขวายโดยเร็ว และถ้ายังรักและระลึกถึงพระองค์อยู่ ก็ให้ปฏิบัติตามธรรมที่พระองค์ตรัสสอนสิ ถึงจะสำเร็จประโยชน์อย่างแท้จริง​

    ที่มา http://www.komcome.com/know2.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  16. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    :cool:

    คุณเกษมข้อมูลแน่นจริงๆ รู้ทุกเรื่องเลย

    นับถือ นับถือ :cool::cool:
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข่าวเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์

    [​IMG]

    เซิร์นทดลองยิงอะตอมจำลองกำเนิดสุริยจักรวาลอีกครั้ง

    สวิตเซอร์แลนด์ 22 พ.ย.-ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรปทดลองยิงอะตอมจำลองสภาพการกำเนิดระบบสุริยจักรวาลอีกครั้ง หลังการทดลองล้มเหลวเมื่อปีที่แล้ว

    ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งสหภาพยุโรป หรือเซิร์น เริ่มการทดลองยิงอะตอมผ่านอุโมงค์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง หลังการทดลองลักษณะเดียวกันนี้เมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ประสบความล้มเหลว เพราะอุปกรณ์มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้ต้องใช้เงินซ่อมอีก 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ทั้งนี้ การยิงอะตอมดังกล่าวเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานการกำเนิดระบบสุริยะจักรวาล หรือ “บิ๊กแบง” โดยยิงอะตอมผ่านอุโมงค์ยาว 27 กิโลเมตร ทอดผ่านชายแดนสวิตเซอร์แลนด์กับฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองอาจยังไม่ทราบได้ทันที และต้องใช้เวลาประมวลผลนานหลายปี.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-22 01:44:39

    ยานแอตแลนติสเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติแล้ว

    [​IMG]

    วอชิงตัน 19 พ.ย.-องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) เปิดเผยว่า ยานขนส่งอวกาศแอตแลนติสประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติ หลังจากเดินทางออกจากศูนย์อวกาศเคนเนดี้ รัฐฟลอริดา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    ยานแอตแลนติสพร้อมนักบินอวกาศ 6 นาย จะปฏิบัติภารกิจในอวกาศเป็นเวลา 11 วัน โดยจะนำอุปกรณ์น้ำหนัก 9,071 กิโลกรัม ซึ่งประกอบด้วยเครื่องรักษาการทรงตัว ถังบรรจุแอมโมเนีย และอุปกรณ์อื่น ๆ ติดตั้งบนสถานีอวกาศ เพื่อขยายการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

    ภารกิจของยานแอตแลนติสครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 และครั้งสุดท้ายของยานกระสวยอวกาศของสหรัฐในปีนี้ นักบินอวกาศที่มากับยานแอตแลนติสจะปฏิบัติภารกิจในห้วงอวกาศ 3 ครั้งเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกสถานีอวกาศนานาชาติ และจะนำนักบินอวกาศนิโคล สกอตต์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมเดินทางกลับโลก

    นอกจากนี้จะทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยจะตรวจสอบการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในอวกาศจากหนอนทดลอง โดยหนอนเหล่านี้มาจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมในอังกฤษ ซึ่งต้องการศึกษาผลกระทบสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงที่มีต่อลักษณะทางกายภาพและการพัฒนากล้ามเนื้อของร่างกายมนุษย์.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-19 07:39:32

    นักบินอวกาศยานแอตแลนติสทยอยปฏิบัติภารกิจออกย่ำอวกาศ

    [​IMG]

    สหรัฐ 22 พ.ย.-นาซาส่งมนุษย์อวกาศออกปฏิบัติภารกิจย่ำอวกาศ ก่อนเสร็จสิ้นภารกิจเตรียมเดินทางกลับพื้นโลกในวันพุธ

    นักบินอวกาศที่เดินทางขึ้นไปนอกโลกกับกระสวยอวกาศแอตแลนติส ทยอยปฏิบัติภารกิจออกย่ำอวกาศ ขณะที่นักบินอวกาศแรนดอล์ฟ เบรสนิก อยู่ระหว่างรอฟังข่าวภริยาคลอดลูกสาวตามกำหนดการคลอดวันศุกร์ ซึ่งหากการคลอดบุตรต้องเลื่อนออกไปเป็นวันเสาร์ ทางนาซาจะยังไม่แจ้งข่าวถึงนักบินอวกาศเบรสนิก เพราะต้องการให้เขาทำหน้าที่ออกย่ำอวกาศครั้งแรกอย่างมีสมาธิ

    ทั้งนี้ นักบินอวกาศเบรสนิก มีกำหนดออกย่ำอวกาศคู่กับนักบินอวกาศไมเคิล ฟอร์แมน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุสัญญาณเตือนภัยขัดข้องดังขึ้น ทำให้การเตรียมพร้อมออกย่ำอวกาศต้องถูกระงับ ส่วนกำหนดการเสร็จสิ้นภารกิจของกระสวยอวกาศแอตแลนติสคือวันพุธ.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-22 02:35:09

    นาซาจะส่งกล้องโทรทรรศน์ขึ้นอวกาศส่องหาเทหวัตถุ

    [​IMG]

    ลอสแองเจลิส 18 พ.ย.- องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) เตรียมส่งกล้องโทรทรรศน์ขึ้นสู่อวกาศในเดือนหน้าเพื่อส่องหาเทหวัตถุเรืองแสงอินฟาเรดที่ยังไม่เคยมีผู้พบเห็นมาก่อน เป็นเทหวัตถุสว่างน้อย มีฝุ่นปกคลุมหนา หรืออยู่ไกล

    ยานสำรวจอินฟาเรดมุมกว้างหรือ WISE จะขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดเดลตา 2 เจ้าหน้าที่จะลำเลียงยานไปยังฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์กในรัฐแคลิฟอร์เนียวันศุกร์นี้เพื่อปล่อยในวันที่ 9 ธันวาคม เป็นโครงการมูลค่า 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,880 ล้านบาท) มีกำหนดอยู่ในอวกาศนาน 6 เดือนเพื่อส่องทั่วฟ้าหารังสีอินฟราเรดที่ตามนุษย์มองไม่เห็น เทหวัตถุจำนวนมากปล่อยรังสีอินฟราเรด ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่ไวเฉพาะแสงที่มองเห็น

    ตัวกล้องโทรทรรศน์อินฟราเรดอยู่ในถังบรรจุไฮโดรเจนแช่แข็งเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ระดับศูนย์องศาเซลเซียส ป้องกันอุปกรณ์ได้รับความร้อนจากรังสีอินฟราเรดของตัวกล้องเอง คาดว่า ยานนี้จะช่วยให้ค้นพบดาวเคราะห์น้อย ดวงดาว และกาแลคซีจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-18 14:59:23

    ญี่ปุ่นจะตั้งโรงไฟฟ้าในอวกาศ

    [​IMG]

    โตเกียว 8 พ.ย. – ญี่ปุ่นมีแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์นอกโลกภายในปี 2573 โดยใช้แสงเลเซอร์ หรือคลื่นไมโครเวฟ ส่งพลังงานมายังพื้นโลก

    ทางการญี่ปุ่นระดมเอกชนและนักวิจัยร่วมโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในอวกาศ ตามแผนแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดันตรีส์ หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมโครงการชี้ว่า แสงอาทิตย์เป็นพลังงานสะอาดที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือในอวกาศ และเชื่อว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาขาดแคลนพลังงานและโลกร้อน

    โครงการโรงไฟฟ้าอวกาศใช้แผงโซลาร์เซลล์ขนาดหลายตารางกิโลเมตรเป็นตัวรับแสงอาทิตย์ซึ่งจะมีความเข้มข้นมากกว่าแสงที่ส่องถึงพื้นโลกอย่างน้อย 5 เท่า และใช้แสงเลเซอร์หรือคลื่นไมโครเวฟถ่ายทอดพลังงานที่ผลิตได้ มายังจานรับคลื่นขนาดยักษ์ ซึ่งอาจติดตั้งไว้ในทะเล หรืออ่างเก็บน้ำ โดยองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น ยืนยันว่า เทคโนโลยีส่งพลังงานด้วยแสงเลเซอร์ หรือคลื่นไมโครเวฟ มีความปลอดภัย

    เบื้องต้นนักวิจัยตั้งเป้าที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าอวกาศขนาด 1 กิกะวัตต์ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าโรงไฟฟ้าปรมาณูขนาดกลาง แต่มีต้นทุนผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าต้นทุนปัจจุบันถึง 6 เท่า และในลำดับต่อไปมีแผนจะส่งดาวเทียมสู่วงโคจรระดับต่ำ เพื่อทดสอบการส่งพลังงานด้วยคลื่นไมโครเวฟ รวมทั้งทดสอบโรงไฟฟ้าขนาด 10 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าต้นแบบขนาด 250 เมกะวัตต์ ตามเป้าหมายผลิตกระแสไฟฟ้าราคาถูก. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-08 11:59:43

    ญี่ปุ่นประดิษฐ์แว่นแปลภาษา

    [​IMG]

    โตเกียว 13 พ.ย.- เอ็นอีซี บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ในญี่ปุ่น ประดิษฐ์อุปกรณ์ล่าสุดที่จะทำให้ความแตกต่างด้านภาษาไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เป็นแว่นที่สามารถแปลภาษาได้

    เทเล สเคาเทอร์ (Tele Scouter) ติดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขนาดจิ๋วไว้ที่กรอบแว่น และมีจอภาพสวมศีรษะ ช่วยให้ผู้ที่ใช้คนละภาษาสามารถสนทนากันเข้าใจ เพียงแค่กดบันทึกคำพูดของอีกฝ่าย เพื่อส่งไปให้เซิร์ฟเวอร์ทางไกลช่วยวิเคราะห์ เซิร์ฟเวอร์จะแปลกลับมาขึ้นหน้าจอภาพเป็นภาษาที่ผู้นั้นอ่านออก

    เอ็นอีซีเผยว่า เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาและใกล้จะสำเร็จในเร็ว ๆ นี้ อุปกรณ์นี้ช่วยขจัดอุปสรรคด้านภาษาให้คนต่างภาษาสนทนากันได้โดยไม่ต้องแปลกลับไปมา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ชุดละ 83,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.82 ล้านบาท) และอาจจะลดลงเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-13 16:31:45

    ที่มา http://news.mcot.net/technology/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,659
    ค่าพลัง:
    +51,921
    *** ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ****

    ธรรม...คือ ธรรมะ คือ สัจจะธรรม....คือ "หลักสัจจะธรรม"
    เห็น....คือ รู้ เห็น เข้าใจ
    เรา...คือ ตัวกระทำ

    ตัวกระทำ....คือ ผลการกระทำที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    ผู้ใดเห็นธรรม...คือ ผู้ใดที่รู้เห็น และเข้าใจใน "หลักสัจจะธรรม"
    ผู้นั้นเห็นเรา.... คือ เมื่อผู้ที่ใช้ชีวิตด้วย "สัจจะ" ขจัดกิเลสนิสัยด้วย "สัจจะ" อยู่เสมอ
    ต่อไป ผู้นั้นจะได้เห็น..."ตัวกระทำของพระพุทธเจ้า"
    ตัวกระทำของพระพุทธเจ้า...ที่ไม่สูญสลาย จะมาคอยเตือน คอยสอน "ผู้ที่เชื่อในสัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2009
  19. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258

    คงไม่ได้ย้ายหรอก เพราะดาวอังคารจะถูกชำระเป็นคิวต่อไป
    หลังจากชาระโลกเสร็จไปแล้ว
    ก็ปล่อยให้นาซ่าฝันต่อไป
    .....
     
  20. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]

    ตรงกับเวลา 00.27 น. วันที่ 22 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 02.30 น. วันที่ 22 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------

    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 03.34 น. วันที่ 22 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 04.18 น. วันที่ 22 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 09.01 น. วันที่ 22 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 14.48 น. วันที่ 22 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • D1.JPG
      D1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      63.1 KB
      เปิดดู:
      64
    • D2.JPG
      D2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.3 KB
      เปิดดู:
      1,332
    • D3.JPG
      D3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54 KB
      เปิดดู:
      1,315
    • D4.JPG
      D4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.3 KB
      เปิดดู:
      1,309
    • D5.JPG
      D5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      1,319
    • D6.JPG
      D6.JPG
      ขนาดไฟล์:
      66.9 KB
      เปิดดู:
      1,315
    • D7.JPG
      D7.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.9 KB
      เปิดดู:
      61
    • D8.JPG
      D8.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.8 KB
      เปิดดู:
      1,283
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...