ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    อ้าวเหร๋อ แป่วๆ
     
  2. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    แป่วๆ แป่วๆ ต้วยคน:eek:
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,672
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ศาสนศาสตร์ ****

    พระพุทธเจ้า...มีมานับไม่ถ้วน
    แต่ ทรงสอนตัดลดนิสัยสันดานมนุษย์...ด้วยสัจจะ เหมือนกันทุกพระองค์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถ้ำมนุษย์โบราณแห่งธิเบต
    แปลโดยคุณ สายลมแสงแดด

    [​IMG]

    สายลมแสงแดดมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง หลายอย่างพิสูจน์ว่า เรื่องเล่าฝันในฝันเป็นจริง แปลจาก The Cave of the Ancients: ถ้ำมนุษย์โบราณ(1963) โดย T.Lobsang Rampa ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Third Eye เป็นเรื่องของกลุ่มลามะธิเบตกลุ่มเล็กๆที่ ปีนขึ้นไปเหนือขุนเขาอันลึกลับ แต่รู้จักกันดีในหมู่ลามะชั้นสูง และได้พบเรื่องราวประหลาด ย้อนหลังไปสู่อารยธรรมในอดีตอันไกลโพ้น

    ต่อไปนี้เป็นความตอนหนึ่งที่ตัดมาเล่าสู่กันฟังโดยย่อ:-

    ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาพวกเราทุกคนแทบสิ้นสติ ถ้ำนี้ดูไปแล้วเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่มากกว่า มันแผ่ออกไปรอบด้านราวกับว่าภูเขาลูกนี้กลวง มีแสงบางอย่างส่องตรงลงมาจากลูกโลกหลายลูกที่ห้อยลงมาจากเพดานถ้ำที่มืดสนิท เครื่องจักรหน้าตาประหลาดตั้งอยู่เรียงราย เครื่องจักรบางตัวดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยแก้วบางใส......

    มีวัตถุสีดำลักษณะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ฝังตัวอยู่บนผนังด้านหนึ่ง หัวหน้าลามะไปสัมผัสมันเข้า ปรากฏว่ามันดีดตัวออกมา เปิดตัวให้ทุกคนคลานเข้าไปได้ มืดสนิท เราคลานเข้าไป รู้สึกตัวว่ากำลังนั่งอยู่บนพื้น ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ผ่านไปพักหนึ่งเมื่อใจเราค่อยสงบลง เสียงคลิ๊กๆๆ ดังขึ้น คล้ายเสียงสัมผัสกันของเครื่องจักรบางอย่าง

    ......อย่างช้าๆ มีบางอย่างคล้ายสายหมอกสีเทาก่อตัวขึ้นมาในท่ามกลางความมืด ราวกับปีศาจกำลังจะปรากฏตัว แล้วมันค่อยแผ่ขยายไปรอบห้อง เผยให้เห็นภาพจางๆของเครื่องจักรประหลาดที่เรียงรายในรูปกลมล้อมรอบพื้นที่เรานั่งอยู่ แล้วแสงนั้นก็วูบบีบตัวแคบลงเป็นรูปทรงกลม ภายในวงกลมเรามองเห็นภาพ ตอนแรกมัวๆ หลังจากนั้นก็ชัดขึ้น ตอนนี้ไม่ใช่แค่ภาพแล้ว แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหวได้.......

    ถ้าสนใจจะมีภาค 2 เจ้าค่ะ

    เล่าต่อนะคะ

    แม้ลามะเหล่านี้สามารถเข้าสมาธิและมองเห็นภาพย้อนหลังไปยาวนานได้ แต่ท่านก็ป่ายปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาด้วยความยากลำบาก เพื่อจะสัมผัสเครื่องจักรเหล่านี้ด้วยมือตนเอง ท่านยังกล่าวว่า แท้ที่จริงเครื่องจักรแบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่ในธิเบตเท่านั้น แต่ยังมีในอียิปต์ และอเมริกาใต้ด้วย เราได้เห็นมาหมดแล้ว ลามะประกาศ และต่อไปนี้คือเรื่องราวที่อยู่ในถ้ำ

    นับแสนๆปีมาแล้ว มีอารยธรรมระดับสูงบนโลกใบนี้ มนุษย์สามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยเครื่องจักรบางอย่างที่หลุดจากการโน้มถ่วงของโลก มนุษย์สามารถสร้างเครื่องจักรที่ใส่ความคิดของตนลงไปในจิตใจของผู้อื่น... ในรูปของภาพ...และยังสามารถคิดอาวุธมหาประลัยที่ถล่มทวีปลงไปใต้สมุทร และดันพื้นใต้สมุทรมาเป็นแผ่นดิน เรื่องราวของน้ำท่วมโลกมีอยู่ในทุกศาสนาสืบต่อกันมาจนทุกวันนี้

    นาน นานเหลือเกิน ตั้งแต่โลกนี้ยังใหม่อยู่ เทือกเขาตั้งอยู่ในทะเลที่เราเห็นในปัจจุบัน และชายหาดที่สวยงามบัดนี้กลายเป็นยอดเขา อากาศอบอุ่น มีสัตว์แปลกๆวิ่งไปมา มันเป็นโลกของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ พาหนะประหลาดบินโฉบอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อยก่อนจะโผขึ้นสู่อากาศ ยอดโบสถ์พุ่งสูงเสียดก้อนเมฆ มนุษย์และสัตว์พูดคุยกันได้ทางโทรจิต นี่คือภาพด้านดี

    แต่อีกด้านหนึ่ง นักการเมืองกำลังทะเลาะวิวาท แบ่งออกเป็นสองฝ่าย แต่ละฝ่ายก็มุ่งจะรุกรานครอบครองอาณาจักรของคนอื่น โลกปกคลุมไปด้วยความหวาดระแวงและความสะพรึงกลัว นักบวชของแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าพวกตนต่างหากที่เป็นผู้ได้รับพรจากพระเจ้า จากนั้นก็สอนว่า มนุษย์ทั้งปวงล้วนเป็นพี่น้องกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ประกาศว่า นี่คือหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Duty) ของเราที่จะต้องสังหารศัตรูของเราให้หมดสิ้น

    อ่านแล้วไม่ต้องคิดมากนะคะ แปลให้อ่านสนุกๆ คัดมาบางตอนเอง ประดับความรู้เล็กๆน้อยๆ ถ้าสนใจต้องไปอ่านฉบับเต็มค่ะ หนังสือเล่มนี้มีกล่าวถึงศาสดาสำคัญแห่งโลกตะวันตก ไปศึกษาความรู้ในธิเบตและอินเดียด้วย ...ขอบอก!!

    ตอนที่ 3 ค่ะ

    เราเห็นภาพมหาสงครามซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือประชาชนพลโลก แต่พวกทหารส่วนใหญ่อยู่รอด เราเห็นภาพนักวิทยาศาสตร์ค้นคว้าในห้องแล็บเพื่อให้ได้อาวุธที่อันตรายยิ่งขึ้นไปอีก ในท่ามกลางมหาสงคราม เราเห็นนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งกำลังสร้าง แคปซูลแห่งกาลเวลา (Time Capsule) ซึ่งก็คือถ้ำแห่งบรรพกาล ที่เรากำลังเหยียบยืนอยู่นี่เอง

    ด้วยจุดประสงค์ที่จะรักษาวิทยาการอันลึกล้ำของพวกตน ให้คนยุคหลังนำไปใช้ได้ในอนาคต เราเห็นภาพคนเจาะผนังถ้ำ ฝังเครื่องจักรลงไป เราเห็นการประดิษฐ์เครื่องจักรที่สร้างคลื่นแสงจางๆ ที่สามารถอยู่ไปอีกได้นับล้านๆปี หรือแม้กระทั่งจนถึงวันสิ้นโลก ห้องโถงพิเศษนี้ยังถูกซ่อนไว้ใต้ทะเลทรายแห่งอียิปต์ ใต้ปิรามิดในอเมริกาใต้ และ ณ สถานที่หนึ่งในไซบีเรีย

    แต่ละแห่งจะมีสัญลักษณ์กำหนดเป็นเครื่องหมาย นั่นคือ ตัวสฟิงซ์ เราพบว่าเราสามารถเข้าใจภาษาที่ถ่ายทอดบนหน้าจออากาศ ด้วยโทรจิต เราเรียนรู้ว่าตัวสฟิงซ์ไม่ได้ถูกสร้างเป็นครั้งแรกในอียิปต์ และมีคำอธิบายเกี่ยวกับรูปร่างของมัน นานมาแล้วมนุษย์และสัตว์สังสรรค์กันและทำงานร่วมกัน และแมว คือสัตว์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเรื่องความมีพลังและความฉลาด

    ดังนั้นมนุษย์โบราณจึงปั้นรูปแมวตัวใหญ่เพื่อแสดงความมีอำนาจและความคงทน แต่ให้ส่วนอกและหัวเป็นมนุษย์เพศหญิง ส่วนหัวเป็นตัวแทนของความฉลาดและความมีเหตุผล ส่วนอกให้ความหมายว่ามนุษย์และสัตว์สามารถพึ่งพากันได้ในเชิงจิตวิญญาณ รูปปั้นแบบนี้สำหรับคนยุคนั้น ไม่ต่างอะไรกับรูปเคารพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม้กางเขน หรือดวงดาวแห่งเดวิด ที่เราเห็นในปัจจุบัน

    ตอนที่ 4 ค่ะ

    เรามองเห็นภาพเมืองใหญ่ล่องลอยไปในมหาสมุทร จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง บนฟ้ายังมียานใหญ่เท่ากันลอยไปโดยไร้เสียง ข้างล่างมีพาหนะเคลื่อนไปเหนือพื้นเพียงเล็กน้อย มีสะพานทอดข้ามระหว่างเมือง มีสายเคเบิลแขวนบอกเส้นทาง ทันใดนั้นมีแสงสว่างวาบ สะพานหนึ่งหักโค่น ตามมาด้วยแสงวาบอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งเห็นภาพเมืองแต่ละเมืองระเบิดกระจุยเป็นกลุ่มก๊าซ เหนือซากที่ดูไม่ออกแล้วว่าเป็นอะไร สูงขึ้นไปบนท้องฟ้าราวหนึ่งไมล์คือเมฆสีแดงรูปดอกเห็ด

    แล้วภาพข้างหน้าก็เลือนหายไป ภาพนักวิทยาศาสตร์กลุ่มที่สร้างไทม์แคปซูลปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกเขาตัดสินใจจัดการในขั้นตอนสุดท้าย เราเห็นความทรงจำที่ถูกบันทึก (stored memories) ถูกอัดลงไปในเครื่องจักร เราได้ยินคำสั่งลา มนุษย์แห่งอนาคต....หากว่ายังมีอยู่.....จงทราบว่าครั้งหนึ่ง มนุษย์ได้ประหัตประหารกันเอง

    ในถ้ำนี้คือที่เก็บฝังเครื่องบันทึกอดีตแห่งปัญญาและความเขลาของพวกเรา ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์แห่งชาวโลกในอนาคตที่จะได้มาพบ และทำความเข้าใจ.... เสียงในโทรจิตนั้นแผ่วจางลงจนกลืนหายไปพร้อมกับภาพที่ดับสนิท มืดอยู่พักหนึ่งก็มีแสงสว่างจางๆ ทอดมาจากผนังถ้ำอย่างที่เราเห็นเมื่อตอนเข้ามาครั้งแรก เราทอดสายตามองไปทั่วถ้ำอีกครั้ง นอกจากเครื่องจักรประหลาดอยู่เต็มแล้ว เรายังเห็นโมเด็ลจำลองเมืองและสะพานที่สร้างด้วยหินและโลหะบางอย่างที่เราไม่รู้จัก เครื่องจักรบางชิ้นถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุบางใสเหมือนแก้ว แต่ไม่ใช่แก้ว

    ทันใดมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในใจของเรา ก่อนไปจงเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งท่านจะพบเครื่องมือปิดผนึกทุกอย่างที่ท่านเห็นขณะนี้ หากท่านยังไม่เจริญพอที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้ จงออกไปและปิดผนึกทุกอย่างเสีย เพื่อรอคนอื่นที่จะได้เข้ามาในอนาคต

    ตอนที่ 5 ค่ะ

    หลังจากนั้น ลามะได้นั่งรวมกัน และพร้อมใจกันเข้าฌานย้อนอดีต "พวกเราต้องการเห็นภาพหลังจากถ้ำนี้ถูกปิดผนึกลงแล้ว ....อย่างช้าๆเรารู้สึกหลุดไปจากโลก ล่องลอยอยู่เหนือมหาสมุทรแห่งกาลเวลา พวกเราเห็นภาพนักวิทยาศาสตร์ปิดผนึกภูเขาทั้งลูก แล้วเดินจากไป เวลาผ่านไปหลายเดือนหลังจากนั้น เราเห็นภาพนักบวชผู้หนึ่งบนบันใดขั้นสูงสุดของยอดปิรามิดขนาดมหึมา เขากำลังเรียกร้อง เร่งเร้าให้ประชาชนเข้าสงคราม

    เวลาผ่านไปอีก.......เราเห็นผู้นำอีกฝ่ายหนึ่งตะโกนด้วยความคลั่งแค้น เวลาผ่านไปอีก.....เราเห็นไอสีขาวพลุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสีน้ำเงิน แล้วท้องฟ้าก็กลายเป็นสีแดง โลกทั้งใบสั่นกระตุก ความมืดปกคลุมไปทั่ว เมฆสีดำถูกแต้มเปรอะไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน เมืองแล้วเมืองเล่าลุกโชนด้วยไฟ ก่อนความว่างเปล่าจะเข้ามาแทนที่

    ตอนจบค่ะ

    ท้องมหาสมุทรตีฟองเหมือนบ้าคลั่ง เกลียวคลื่นสูงกว่าตึกระฟ้าโหมเข้ากลืนแผ่นดิน หมดสิ้นแล้วคืออารยธรรมของมนุษยชาติ โลกทั้งใบสั่นกระตุกและส่งเสียงดังยิ่งกว่าฟ้าผ่า แผ่นดินแยกออกเป็นหุบเหวมหึมา แล้วเคลื่อนกลับเข้าหากันอีกเหมือนปากอสูรที่กำลังกัดกินเหยื่อ

    ภูเขาสั่นโยกไปมาเหมือนกิ่งวิลโลว์ที่ไหวในท่ามกลางพายุ มันโคลงเคลงไปมาก่อนจะจมลงใต้มหาสมุทร แผ่นดินโผล่จากใต้ท้องน้ำแล้วฟอร์มตัวเป็นภูเขา พื้นผิวโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ฝูงชนจำนวนหนึ่งที่หลงเหลือ ส่งเสียงร้องเหมือนคนบ้าขณะวิ่งขึ้นไปหลบบนยอดเขาที่เพิ่งเกิดใหม่ อีกส่วนหนึ่งหนีลงเรือ บ้างก็ตายบ้างก็รอด พวกที่รอดก็ขึ้นฝั่งไปหลบซ่อนในที่ที่ตนคิดว่าปลอดภัย

    ในบัดนั้น เราเห็นโลกหยุดหมุน มันลอยนิ่งอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไปทางไหนทั้งสิ้น แล้วค่อยๆหมุนไปในทิศทางตรงข้าม

    ป่าทั้งป่าเปลี่ยนสภาพจากต้นไม้เป็นถ่านเถ้าในชั่วพริบตา ผิวโลกถูกทำลายคล้ายแผ่นขนมปังกรอบที่ไหม้กระดำกระด่าง ลึกลงไปในปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว ยังมีฝูงชนที่สติแตกเข้าไปหลบเร้นอาศัย จากท้องฟ้าที่มืดสนิทมีสารสีขาวรสหวานโปรยปรายลงมาให้เป็นอาหารแก่ผู้ที่เหลือรอด

    จากนั้นอีกหลายศตวรรษผ่านไป ผิวโลกยังเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้ง ทะเลกลายเป็นแผ่นดิน และแผ่นดินกลายเป็นทะเล เกิดทะเลสาบ ทะเลทราย ฝูงชนที่ร่อนเร่ต่างกล่าวขานกันจนกลายเป็นตำนาน เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ เรื่องอาณาจักรแอตแลนติส ลิมูเรีย และพวกเขายังเล่าขานกันถึงวันหนึ่ง เป็นวันที่พระอาทิตย์หยุดหมุน

    สายลมและแสงแดด 21/8/2006 15:00

    ที่มา http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=6114
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายอนาคตโลก
    โดย ที. ลอบซัง ลัมปา (T.Lobsang Rampa)

    <O:p</O:p[​IMG]
    T.Lobsang Rampa

    ในอนาคต อังกฤษกับอเมริกาจะรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อร่วมมือกันต่อต้านและป้องกันศัตรู อังกฤษจะหันเข้ามาอยู่ภายใต้แนวทางการดำเนินงานของอเมริกา

    <O:p</O:pอเมริกาและรัสเซียจะรวมกำลังกัน เพื่อต่อสู้กับจีนแดงให้พ่ายแพ้ (สงครามนิวเคลียร์) อินทรีย์กับหมีขาวจะร่วมมือกันเพื่อทำลายมังกร จนกว่ามังกรจะพ่ายแพ้ไป มิฉะนั้นโลกจะไม่มีความสงบสุขเลย

    <O:p</O:pในที่สุดผิวหน้าของเปลือกโลกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พื้นแผ่นดินจะทรุดจมหายลงไปในมหาสมุทร พื้นแผ่นดินใต้มหาสมุทรจะโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ นครนิวยอร์คอันรุ่งเรืองในที่สุดจะจมหายลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติส ลอสแองเจลิสและนครซานฟานซิสโก เมืองทั้งเมืองจะราบเรียบเป็นหน้ากลอง แล้วทรุดฮวบจมหายลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิค และจะมีพื้นดินใต้มหาสมุทรแปซิฟิคโผล่ขึ้นมาใหม่

    <O:p</O:pญี่ปุ่นกับเกาหลี และพื้นที่ของประเทศจีนแดง ที่ติดต่อกับฝั่งทะเลจะทรุดฮวบจมหายลงไปในท้องทะเล แต่จะมีพื้นที่ส่วนอื่นๆ โผล่ขึ้นมาจากท้องทะเลแทนที่

    <O:p</O:pภายหลังสงครามล้างโลกสงบลงแล้ว จากจักรวาลอื่นซึ่งอยู่ไกลลิบโน้นจะปรากฎจานบินเดินทางมายังโลกมนุษย์ คนโลกอื่น(มนุษย์ต่างดาว)จะแสดงตัวอย่างเปิดเผยเป็นมิตรไมตรี และสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยในโลกเราคนโลกอื่นจะแต่งงานอยู่กันกับคนในโลกของเรา แล้วชนชาติต่างๆ จะแต่งงานด้วยกันจนในที่สุดจะมีเพียงเชื้อชาติเดียวคือเชื้อชาติผิวสีน้ำตาล

    เพราะเหตุว่าคนผิวสีต่างๆ คือ ขาว ดำ เหลือง และน้ำตาลเมื่อแต่งงานรวมกันแล้ว ต่อไปจะปรากฎเป็นเพียงสีน้ำตาล และยุคนี้จะเป็นยุคทองเป็นยุคที่มนุษย์อยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ต่างก็มีความรู้ในเรื่องศาสนาและวิชาเร้นลับ

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2009
  6. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]

    ตรงกับเวลา 06.07 น. วันที่ 20 พ.ย. 2552 ของประเทศไทย

    ------------------------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 11.07 ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B6.jpg
      B6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.3 KB
      เปิดดู:
      1,064
    • B7.jpg
      B7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.1 KB
      เปิดดู:
      1,011
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ลุกเป็นไฟ ไทยจะฆ่ากันเอง?</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=left><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ...คำถามจึงต้องพุ่งเข้าใส่บรรดาคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหลาย ว่าจะปล่อยให้สถานการณ์เผชิญหน้าระหว่าง 2 ขั้วสีคาราคาซังไปอย่างนี้หรือคุ้มกันแล้วจริงๆ หรือกับความพยายามในการยื้ออำนาจการเมืองและผลประโยชน์ทางการเมืองเอาไว้ในมือ... ดังที่กำลังพยายามทำอยู่ในขณะนี้สมควรแล้วหรือ หากประเทศใด

    ไร้รักสามัคคี แน่นอนว่าจะเป็นความเจ็บปวดใจของคนในชาติอย่างที่ยากจะบรรยายดังนั้นการแตกต่างทางความคิด แล้วกลับกลายเป็นความแตกต่างของกลุ่มของสี จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นมี 2 ขั้วที่เผชิญหน้ากัน เป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอนเพราะไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือคนเสื้อเหลือง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้นต้นถั่ว รากถั่ว ล้วนเกิดจากรากเหง้าเดียวกัน ไยเผาผลาญกันร้อนรนนัก???ไม่รู้ว่าบรรดาผู้มีอำนาจ และผู้ที่พยายามยึดกุมอำนาจและผล

    ประโยชน์ทางการเมือง จนกระทั่งดิ้นรนทุกวิถีทาง และเป็นเหตุให้กลายเป็นเรื่องที่บานปลายอย่างน่าวิตกวันนี้จะได้รู้สึก หรือได้บทเรียนอะไรหรือไม่ จากสภาพของบ้านเมืองในเวลานี้ในอดีตประเทศไทยได้รับการขยายนามว่าเป็น “สยามเมืองยิ้ม” แต่มาในวันนี้รอยยิ้มจางหายไปจากสังคมไทย โดยเฉพาะระหว่างคน 2 กลุ่มสี ที่ยืนกันอยู่คนละฝั่งของความคิดและวันนี้รอยยิ้มของรัฐบาลไทย ของนายกรัฐมนตรีเมืองไทย ก็พลอยจางหายไปด้วย กับมิตรประเทศเพื่อนบ้าน

    ก่อนหน้านี้ไทยเป็นเหมือนพี่ใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เต็มไปด้วยความช่วยเหลือในฐานะมิตรประเทศ แต่ในวันนี้รัฐบาลไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นำเอาความแตกต่างทางความคิดและสถานการณ์การเมืองในประเทศ ออกไปพันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกลายเป็นว่ารัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาไม่มีรอยยิ้มให้แก่กัน กลายเป็นว่านายอภิสิทธิ์ และสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ทักทายกัน ไม่พูดจากัน ทั้งๆ ที่

    อยู่ในการประชุมความร่วมมือระดับภูมิภาคด้วยกันแถมนายอภิสิทธิ์ ยังนำคณะรัฐมนตรีไปเผชิญหน้ากับกัมพูชาด้วยการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ทางความร่วมมือและความช่วยเหลือระหว่างประเทศ แถมประกาศย้ำว่าจะไม่มีการทบทวนใดๆ ทั้งสิ้นแม้ว่าลึกๆ นาย อภิสิทธิ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่หน้าดำคร่ำเครียด และมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่าง

    เห็นได้ชัดทั้งก่อนการประชุม ครม. และระหว่างการประชุม ครม.อาการแบบนี้เป็นอาการแสลงจากการเมืองเป็นพิษขนาดมังกรการเมืองอย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา ยังถึงกับส่ายหน้า และถอนหายใจ พร้อมกับพูดย้ำชัดว่า สถานการณ์แบบนี้น่ากลัวไม่น่ากลัวได้อย่างไร ในเมื่อบาดแผลต่างๆ ที่กลุ่มอำนาจที่อาศัยมือนักการเมือง พรรคการเมือง และก๊วนการเมืองมีการดำเนินการมาก่อนหน้านั้น ยังคงเป็นรอยร้าวในการเมืองอยู่เห็นได้ชัดจากกรณี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย

    ในฐานะผู้เสียหายจากการถูกยุบพรรค เมื่อได้ข้อมูลใหม่ ว่า หลักฐานพยานที่นำไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทยนั้นมีเงื่อนงำไม่สุจริต จึงได้ตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมารื้อฟื้นคดียุบพรรคขึ้นใหม่ เพราะได้พยานหลักฐานใหม่ ที่แตกต่างจากหลักฐานในช่วงพิจารณาคดีพิพากษา และจะดำเนินการตามกฎหมายทั้งด้านอาญา พ.ร.บ.พรรคการเมืองที่ใส่ร้ายป้ายสีพรรคการเมืองอื่น ซึ่งให้ได้มาซึ่งอำนาจเมื่อตัวละคร 2 นายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีต ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง พรรค

    พัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย พยานที่เคยให้การต่อตุลาการรัฐธรรมนูญ คดียุบพรรคไทยรักไทย ข้อหาจ้างวานพรรคเล็กลงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2549 จนทำให้พรรคไทยรักไทยถูกยุบนั้นเมื่อวันนี้พยานปากเอกกลับลำ ว่าถูกว่าจ้างให้ขึ้นให้การเท็จย่อมสะเทือนกับนักการเมือง และพรรคการเมืองอย่างประชาธิปัตย์ที่มีภาพลักษณ์ว่ายึดมั่นประชาธิปไตยอย่างรุนแรง เพราะถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีสกปรกใส่ร้ายทางการเมือง

    งานนี้พุ่งเป้าไปที่ทั้งนายอภิสิทธ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งการให้ตรวจสอบจริยธรรม และจะฟ้องนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ฐานสร้างพยานเท็จด้วย ที่สำคัญจะร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกลายเป็นเดิมพันใหญ่ทางการเมืองอีกรอบหนึ่งเพราะนายสุเทพก็เตรียมที่จะฟ้องกลับด้วยเช่นกันนี่คือประจักษ์พยานของการแบ่งขั้วทางการเมืองและการตกอยู่ในเกมปั่นหัวให้นักการเมืองทำลายล้างกัน

    เอง นี่คืออันตรายของสังคมไทยในเวลานี้ยิ่งกลุ่มอำนาจได้มีการใช้พลังมวลชนอย่างกลุ่มพันธมิตร กลุ่มคนเสื้อเหลือง มายืนหยัดให้ต่อสู้แทน ในขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก็มุ่งมั่นทวงคืนประชาธิปไตยแบบไม่ยอมถอยการเผชิญหน้าบนความแตกต่างทางความคิดจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัววันนี้กลุ่มพันธมิตร ได้กลายเป็นลัทธิ มีผู้นำลัทธิ มีผู้นำทางความคิด ที่ทำให้เกิดพลังในการต่อสู้ และพร้อมที่จะเผชิญหน้าในขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก็มุ่งมั่นแบบไม่ยอมใส่เกียร์ถอยหลังด้วยเช่นกัน

    โอกาสของการปะทะมีความเป็นไปได้ ไม่ใช่ว่าไม่มี!!เพราะกลุ่มพันธมิตร ก็ประกาศแล้วว่า จะมีการรวมพลแสดงพลัง แม้ว่าในช่วงหลังจะเดินแนวเดียวกับเสื้อแดง คือไม่มีการชุมนุมยืดเยื้อ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็มีการชุมนุม มีการแสดงพลังแถมยังมีกรณีมือที่ 3 สร้างความปั่นป่วนขึ้นมาอีกแม้จะเป็นม็อบมีเส้น เป็นม็อบที่ไม่มีวันถูกบังคับด้วย พรบ.ความมั่นคงฯ แต่การประกาศรวมพลอีกก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นสิ่งที่ดีกับบรรยากาศในสังคมไทยเช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ก็

    ประกาศจะรวมพลรวมพลังด้วยเช่นกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. ออกมาบอกแล้วว่าที่วางไว้เบื้องต้น คือจะนัดชุมนุมใหญ่ยกแรกวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย.แล้วก็จะเว้นวันที่ 3 -4 -5 ธันวาคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นแปลว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ถอยเหมือนกันยิ่งคำประกาศที่ว่า “เขาไม่ควรได้รับการฉลองปีใหม่ การชุมนุมครั้งนี้ตั้งเป้าไว้ 1 ล้านคน เชื่อว่า จะปิดเกมได้แน่ แต่ถ้ายังปิดเกมไม่ได้ ก็จะนัดชุมนุม

    ใหม่อีกหลังวันที่ 5 ธ.ค. คือมันต้องไปกันสักข้าง ยังไงๆ ก็ต้องแตกหัก รัฐบาลจะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง และพ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึกก็เชิญ”อุณหภูมิของประเทศร้อนขึ้นมาในทันทีคำถามจึงต้องพุ่งเข้าใส่บรรดาคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหลาย ว่าจะปล่อยให้สถานการณ์เผชิญหน้าระหว่าง 2 ขั้วสีคาราคาซังไปอย่างนี้หรือคุ้มกันแล้วจริงๆ หรือกับความพยายามในการยื้ออำนาจการเมืองและผลประโยชน์ทางการเมืองเอาไว้ในมือ... ดังที่กำลังพยายาม

    ทำอยู่ในขณะนี้บรรดาผู้ชักใยให้หุ่นกระบอกการเมือง ชักใยให้แกนนำลัทธิ ปลุกเร้าผูกขาดความรักชาติ จนใกล้ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงตามมานั้นสมควรแล้วหรือ???ขณะเดียวกันก็คงต้องถามไปยังผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ทั้งหลาย ที่เคยถวายสัตย์ปฏิญาณตนเอาไว้ว่า จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เอาไว้ยิ่งชีพของตนเองนั้นวันนี้หายไปไหนหมด??วันนี้ทำไมไม่ทำอะไรที่จะยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย??ถึงเวลาที่จะต้องทำหน้าที่แก้ปัญหาและ

    คลี่คลายความขัดแย้งแตกต่างทางความคิดของสังคมไทยหรือยัง??ผู้มีอำนาจควรยื่นมือมาทำให้มีการคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งมวลในเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงก็ประกาศแล้วว่า หากผลการเลือกตั้งใหญ่ออกมาอย่างไร ก็จะยอมรับ แม้ผลออกมาว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวก็ยอมรับ และคนเสื้อแดงก็จะยุติการชุมนุมดังนั้นผู้มีอำนาจน่าจะฉวยจังหวะใช้ช่องนี้เป็นทางออกให้กับสังคมไทยยิ่งหากพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจในคะแนนนิยม ว่ามี

    สูงมากจากผลสำรวจของโพลล์จริงแล้ว ก็ต้องกล้าที่จะแก้ไขปัญหาของชาติยิ่งกลุ่มอำนาจที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ยิ่งไม่มีอะไรเสีย หากประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลวันนี้จึงถึงเวลาแล้ว ที่ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ผู้มีหน้าที่ทั้งหลาย จะต้องยื่นมือเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพื่อยุติความขัดแย้งในสังคมไทยเสียทีก่อนที่บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ




    ขอบคุณเนื้อหาข่าว
    : บางกอกทูเดย์


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ศาสตร์แห่งโหรปีขาล 2553 โดยโสรัจจะ นวลอยู่
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 08:19:00 น.

    ศาสตร์แห่งโหร โสรัจจะ นวลอยู่ ปีขาล 2553 รัฐประหารครั้งใหญ่ ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจ

    ศาสตร์แห่งโหร ปี 2553 จะเปิดตัวในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคม ใครอยากรู้อนาคตธุรกิจการเมือง ปีขาล 2553 ต้องรีบซื้ออ่านโดยพลัน ประชาชาติออนไลน์ ตัดตอน คำพยากรณ์ของ"โสรัจจะ นวลอยู่"มาเป็นออร์เดิร์ฟ อ่านแล้ว อาจเตรียมตัวตั้งรับวิกฤตได้ทันท่วงที ​

    ปี 2553 ดวงดาวยังคงเดินในสภาพไม่ปกติ เป็นปีเสือดุสุดหฤโหดมหาวิปโยคอย่างแท้จริง "พระเสาร์ยังสถิตอยู่ในราศีกันย์ตลอดทั้งปี และพระราหูสถิตราศีธนูทั้งปี เช่นกัน" "ดาวอังคาร ดาวสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีตุล ในวันที่ 4 กันยายน 2553 เล็งลัคนาเมือง"​

    "26 เมษายน 2553 ดาวพฤหัสบดี อันเป็นดาวฝ่ายคุณธรรม ฝ่ายศาสนาและเป็นดาวแห่งความดีเดินเข้าสู่ราศีมีน เป็นวินาศกับดวงเมือง สถิตร่วมกับดาวพุธและมฤตยู ปีนี้ดาวเสาร์เล็งกับมฤตยู ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ใหญ่ทั้งสองดวงพร้อมด้วยอังคารโยคหลัง อนึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2553 ดาวอังคารบาปเคราะห์ที่รุนแรงแบบทะลุทะลวงได้เข้าสู่ราศีกรกฎ ทำมุมฉากหรือมุมข้อพับกับราศีเมษ" ​

    "เกิดปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง

    เมื่อร่วมผนึกกำลังกันเข้าตรึงลัคนาราศีเมษกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน เสนาบดีมีเหตุอาเพศตางๆ เกิดการจลาจล รัฐประหาร ยึดอำนาจ คว่ำกระดาน บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง ​

    เป็นปีแห่งการทุกข์ทรมานของนักการเมืองที่ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ก่อไว้ ถูกประจานตีแผ่ความเลวร้าย ชั่วช้าสามานย์ ที่แอบแฝงซ่อนเร้นต่อผู้คนที่คอยตักตวงผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาเป็นเวลาช้านาน จะต้องถูกคิดบัญชีจากวัฏจักรของดวงดาว ซึ่งส่อถึงความล่มสลายของอาณาจักร เกรงกลัวหรือไม่ก้แล้วแต่ท่านทั้งหลาย เพราะจุดจบของประเทศจะเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักการเมืองชั่ว และบุคคลที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างไร้คุณธรรมอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าจะให้ผ่านจุดนั้นไปให้ได้และจะไปให้ถึงเวลาฟ้าใสของประเทศ ตามดวงดาวบ่งบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาให้ผ่านช่วงเคราะห์กรรมไปอีกสักระยะหนึ่ง​

    แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ก่อกรรมไม่ดี จะถูกลงโทษจากสรวงสวรรค์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลประเทศเพราะสยามประเทศนั้นไม่มีอะไรที่จะมาทำลายร้างให้สูญสิ้นไปได้ ซึ่งที่ทำนายมานี้ไม่มีอคติต่อใครๆ ทั้งสิ้น หรือสาปแช่งบุคคลใด แต่ไปเป็นไปตามดวงดาวลิขิตจริงๆ สิ่งที่จะลบร้างคำทำนายให้เบาลง ทุกๆ คนต้องสร้างแต่ความดีถือศีล 5 ทำจากใจจริงไม่ใช่เฉพาะภายนอก หรือชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น พรรคการเมืองทั้งเล็กและใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันถึงกาลอวสาน สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะแตกสลายไปเองตามอิทธิพลของดวงดาว และจะเกิดสิ่งใหม่หรือมิติใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเองยากแก่การคาดการณ์ได้ ​

    ดาวมฤตยูเจ้าแห่งการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ได้เดินเข้าทำมุมตรีโกณกับราศีมิถุน ประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย และจะทำมุมอยู่อย่างนั้นเกือบถึง 7 ปี ระหว่างนี้จะมีบาปเคราะห์มาเข้าร่วมมุม ทั้งมุมกากบาท ทั้งมุมสามเหลี่ยม บ่งถึงไทยเรายังมีรัฐบาลที่ดันทุรังและไม่ฉลาดไม่เห็นการณ์ไกล ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อคุณภาพของการพัฒนาประชาธิปไตย และนำมาซึ่งความขัดแย้งทางสังคม จลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยกเคียดแค้น ปิดร้านค้ายึดเป็นที่มั่นยิงต่อสู้กัน ​

    ทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมืองไปหลายวัน จะก่อความยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา ข้อสังเกตเหตุการณ์รับกันนองเลือดครั้งนี้เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประชาธิปไตย จึงรบกันนองเลือดระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯมา อาจต้องใช้กำลังทหารเข้าแก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ต้องรบราฆ่าฟันกัน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ตอนต้นปีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย ​

    ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ

    ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของพระเคราะห์ แห่งสุริยะระบบ จึงไม่มีอะไรไม่ว่าสิ่งอันมีชีวิตหรือสิ่งอันเป็นนามธรรม กับสิ่งอันอุบัติขึ้นจากการก่อตัวของเหตุการณ์หนึ่งๆ จะต้องถูกครอบงำด้วยพระเคราะห์ทั้งสิ้น เราคนไทยกำลังดิ้นรน เพื่อการคงอยู่ อนาคตนั้นก็ย่อมจะเป็นไปตามอำนาจของดวงดาวและกาลเวลา พยายามดื้อรั้นฝืนดวงดาว เอาแต่ใจตนเอง โดยถือประเทศชาติเป็นสนามทดลองความดื้อของตนเอง ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ผู้เห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมาแก้ไขสถานการณ์นี้ ​

    บ้านเมืองเมื่อไรจะสงบเสียที เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ความมืดมนเหล่านี้จะเบาลง ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานมาก มันเกี่ยวพันกับภูมิภาค เกี่ยวพันกับดวงชะตาของโลก เพียงแต่ขอตอบว่ายังไม่มีวันสงบ อีกหลายปีจึงจะเบาบางลง กรุงเทพฯ บางส่วนเริ่มถูกน้ำทะเลท่วมเข้ามาถึง อาจจะจมน้ำหายไปและจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี และอาจจะจมหายไปจากแผนที่โลกหรือแผนที่ประเทศไทย อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นภาครัฐต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ ควรหาทางป้องกันไว้ก่อน ​

    เดือนเมษายนเป็นที่สังเกตว่าดาวพระพฤหัสบดี แห่งไทยสยามกำลังโคจรร่วมกับพระพุธและดาวมฤตยูเป็นสัญญาณบ่งถึงการแทรกแซง ในราศีมีนเป็นวินาศกับลัคนาเมือง จะมีเหตุยุ่งยากเกิดขึ้น ผู้รักษาอำนาจการปกครองจะต้องระมัดระวัง อย่าได้หลวมตัว ตัดรอนอำนาจพิษสงของตนเองตามคำเรียกร้องต่างๆ ซึ่งวางกลลวง ในการแสวงหาลู่ทาง ให้ฝ่ายของพวกพ้องตนเองได้มีโอกาสเอาสถานการณ์บังหน้า ก่อเหตุวุ่นวายขึ้น ขอย้ำว่าในปีนี้เหตุการณ์ไม่สู่สงบ จำเป็นต้องมีความรักและสามัคคีต่อกันและกันและมีเสถียรภาพด้วย ​

    ปีแห่งการก่อการร้าย

    ส่วนปัญหาทางภาคใต้ อิทธิพลของดาวเสาร์และดาวอังคารทำให้ยังเป็นปีแห่งการก่อการร้าย และการก่อวินาศกรรมทั้งปี เหมือนปี 2552 ที่แล้วมาแต่ยังแก้ไม่ตก จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาล อาจเสียอำนาจทางภาคใต้ของประเทศประกาศแบ่งแยกเดินแดนแล้วทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างขาดลอยไป เนื่องจากดาวอังคารคงเดินแบบวิกล เพราะดวงผู้นำประเทศ ทำให้การก่อการร้ายปานกลางเป็นสงครามระหว่างภาค ขยายวงกว้าง ออกไปทางภาคใต้การฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงดำเนินต่อไป มิมีอะไรมาหยุดยั้งได้ ผู้ก่อการร้ายกระทำครั้งนี้เป็นกลุ่ม ศาสนาถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้อง ยังเอาโรงเรียน สถานที่ราชการ วัดวาอาราม ใช้อาวุธที่มีอานุภาพรุนแรงระเบิดพลีชีพ ประหนึ่งเป็นสงคราม จนทำให้องค์การสหประชาชาติยื่นมือเข้ามา ​

    ประเทศไทยจึงเป็นที่กล่าวขวัญในทางที่น่าสะพรึงกลัวไปทั่วโลก สื่อต่างประเทศมาทำข่าว ชาวต่างชาติไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยว ผู้คนบริสุทธิ์ ทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ นักปกครอง เด็กและสตรีต้องอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัยกว่าในดินแดนแห่งใหม่ ผู้ที่จะมาชำระสะสางความมืดมน ความเคลือบแคลงให้กระจ่างออกมา ทุกคนทุกวันนี้ก็รู้กันดีอยู่ว่าการกระทำอันอุกอาจครั้งนี้ ย่อมจะต้องใช้กำลังผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองบ้านเมือง ย่อมจะไม่หย่อนสมรรถภาพถึงขนาดไม่รู้เบาะแสอะไรเลย เพียงแต่ว่าความจริงบางอย่างเปิดเผยออกมา จะต้องมีจังหวะเวลาอันสมควรด้วย ย่อมกระทบกระเทือนต่ออะไรมากมาย ​

    รวมทั้งสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศกับบ้านใกล้เรือนเคียง เนื่องจากในกลุ่มชาติอาหรับผู้เป็นเจ้าของน้ำมันส่วนใหญ่ของโลก ยังมีปัญหาข้อพิพาทและรบราฆ่าฟันกันยังไม่จบสิ้น ยังคุกคามความสงบสุขของประชากรโลกต้องเดือดร้อนยิ่งขึ้นไปกว่าปีที่แล้วเพราะอาจขาดแคลนน้ำมัน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้รวมหัวกันขึ้นราคาน้ำมันโดยไม่หยุดยั้ง บางช่วงก็ใช้น้ำมันเป็นเครื่องต่อรองกับประเทศมหาอำนาจทางตะวันตก ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลง ทำให้ข้าวของแพง ผู้คนลำบากไปทั่ว ส่วนในบ้านเรานอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงจะขึ้นราคาไม่หยุดแล้ว แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคาอย่างหนักเช่นกัน สร้างความปั่นป่วนเดือดร้อน ​

    การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น

    อีกนัยหนึ่งปี 2553 นี้ เมื่อว่ากันในแง่โหราศาสตร์ฮินดูก็เห็นว่า การวู่วามใด ๆ รังแต่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น บ่งถึงว่าถ้าดื้อรั้นจะเอาแต่ฝ่ายตนท่าเดียวโดยมิได้ผ่อนปรนใดๆ บ้านเมืองก็คงฉิบหายและจะเป็นการปลุกให้ผู้ถืออาวุธทนไม่ไหวคิดเข้ามาแก้ไขสถานการณ์อันไม่สงบ มันจะไปกันใหญ่ นอกจากทุพภิกขภัยจะเล่นงานเอาอย่างอ่วมอรทัยแล้ว น้ำผึ้งหยดเดียวก็จักบันดาลให้เกิดอะไรต่ออะไรที่เลวร้ายอย่างใหญ่หลวงได้ ​

    ผู้มีอำนาจวาสนา อย่าได้นิ่งนอนใจ ระวังสุขภาพ ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนอย่างรุนแรง จักสำแดงโทษ ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหลักต่างๆ จะประมาทต่อสถานการณ์ใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น ระวังกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ อย่าวางใจในสิ่งที่ตนคิดว่าตัดรากถอนโคนแล้วคงไม่มีเขี้ยวเล็บ ประวัติศาสตร์ที่ยุ่งยากมาเป็นร้อยเป็นพันปี สอนไว้ได้ดีว่า ในโลกนี้หามีความเที่ยงแท้อะไรไม่ ​

    ความผันผวนยุ่งยาก เป็นการแสดงให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ยังคงดำเนินสานต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง และโดยทั่วไปสภาวะในประเทศเปรียบเสมือนน้ำเดือดพล่านบนหม้อที่มีเชื้อไฟข้างใต้โหมอย่างรุนแรง ประชาชนพลเมืองอาจจะประสบปัญหาที่ไม่เคยประสบมาก่อน คือ คนว่างงานจำนวนมาก มีการเดินขบวน วุ่นวาย ต่างๆ นานา และอาจถูกปราบปรามจนต้องสูญเสียชีวิตไปมิใช่น้อย มีสงครามเบ็ดเสร็จในแต่ละท้องที่ผู้คนจะตายหมู่กันมาก ​

    ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย

    เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้พร้อมกับเศรษฐกิจทั่วโลกก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน ประชาชนคนไทยเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ยิ่งกว่าปีก่อน เป็นปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย ธนาคารของรัฐไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลงอย่างสนิท ตลาดหุ้นถูกกระทบอย่างรุนแรง ร่วงหล่นต่ำสุด และปิดตัวเองลง มีคนฆ่าตัวตายเป็นเบือ พลเมืองประสบความยากจนข้นแค้นมากขึ้น แต่องค์ประกอบของรัฐได้ซ้ำเติมประชาชนด้วยการขึ้นค่าสาธารณูปโภคทุกรูปแบบ ​

    ปี 2553 นี้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรงทั้งปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้งทำให้ขาดแคลน ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนืออย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน สัตว์เลี้ยง และผู้คนเดือดร้อน บางจังหวัดและบางอำเภอดินแตกระแหงไม่สามารถปลูกพืชธัญญาหารได้เลย ทำให้ผู้คนอดอยากแต่ขาดความเหลียวแลเอาใจใส่ของภาครัฐ หลายครอบครัวถึงขั้นขุดรากไม้และดินกินเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตให้รอดไปก่อน ​

    เกิดพื้นดินถล่มและทรุดตัวไปทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งกรุงเทพมหานคร เราอาจจะต้องสูญเสียแผ่นดินทางภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนองลงมา และจมลงสู่ใต้ทะเลไปทีละน้อย ราวปลายปีแถบชายฝั่งทะเลอันดามันรวมทั้งเกาะภูเก็ต กระบี่ พังงา ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่ กวาดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบ้านเรือนลงทะเลจำนวนมาก และยังต้องระวังกับวาตภัย ทำให้เกิดความเสียหายแก่เรือกสวนไร่นามหาศาล ​

    เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้ง กรุงเทพฯจะจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลานาน เป็นที่น่าทุกขเวทนายิ่งนัก มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมาเกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี ผลเสียหายมาก เป็นมหาวาตภัยเรือประมงจมร่วม 100 ลำ ลูกเรือสูยหายไปเป็นพัน และปลายปีพายุถล่มรอบสองรุนแรงมาก คนตายเรือนพัน จังหวัดชุมพรเสียหายร่วม 100 เปอร์เซ็นต์ ​

    อาเพศสุดๆ จะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ"

    ประเทศไทย ปีขาล 2553 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศพิสดารสุดๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสยามประเทศจะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" และปริมณฑล คนไทยทั่วประเทศตกตะลึงและพูดกันไปต่างๆ นานา ในความอาถรรพณ์วิปริตผิดธรรมชาติประโคมข่าวไปทั่วโลก เป็นลางร้ายแก่คนกรุงเทพฯ และประชาชนชาวไทย ทั้งภยันตรายจากโรคติดต่อที่ร้ายแรงใหม่ๆ และคร่าชีวิตทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนชรา ไปเป็นจำนวนมาก และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายๆ ด้าน ทั้งวัฒนธรรม-ประเพณีดั้งเดิม และการปกครองการเมืองที่สุดคาดเดา ​

    เกิด "เขื่อนยักษ์แตก"

    ที่เคยเกิดรอยร้าวสะสมมานาน ได้พังทลายลง เกิดคลื่นน้ำขนาดมหึมา พุ่งตรงลงสู่เบื้องล่าง เข้าท่วมไร่นา ที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้างของผู้คน อย่างไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้สูญเสียชีวิตผู้คน สัตว์เลี้ยง และทำลายสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพืชผลการเกษตรเสียหายทั้งหมดหลายจังหวัดต่อเนื่องมาถึงกรุงเทพฯ น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นและมหาสมุทรสูงขึ้น เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ บางส่วนของโลกถูกน้ำท่วมใหญ่จมหมายลงไปในทะเล ​

    กรุงเทพฯ ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์และสัตว์หรือเป็นเชื้อไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์ติดต่อมาถึงคน ทำให้สูญเสียชีวิตมนุษย์มากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์ ภูเขาไฟในเกาะสุมาตราระเบิดอย่างรุนแรง มีการปะทุอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน พ่นแก๊สร้อนขี้เถ้าแผ่กระจายเป็นรัศมีกว้างไกล ทำให้ท้องฟ้ามืดมิดบดบังแสงแดดกลายเป็นกลางคืน ​

    เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในหลายแห่งทั่วโลก ประเทศไทยได้รับผลอย่างจัง จมเรือหลายลำ พุ่งตรงเข้าไปตามชายฝั่งที่อยู่ติดกับทะเลด้านอันดามัน กวาดเอาหมู่บ้านจำนวนมากหายตกทะเลไป ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่คาดไม่ถึง ไม่ทันตั้งรับ เสียชีวิตอย่างอนาถ​

    เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ กวาดและทำลายสิ่งก่อสร้างและชีวิตคนจำนวนมาก นับเป็นเหตุการณ์วิปโยคต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง คลื่นทะเลยักษ์เริ่มปะทะและโจมตีดินแดนชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเสียหายมากมายอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน ความผันผวนต่างๆ จะแผ่ซ่านไปทั่ว ทุกประเทศจะต้องประสบ ดังเช่นญี่ปุ่น เยอรมนี ตะวันออกไกล ส่วนประเทศในยุโรปนั้น จะเข้าสู่สภาวะมิคสัญญีจะประสบภาวะเดือดร้อนและเดือดพล่านโดยทั่วกัน นาวาของปวงประเทศทั้งหลายจะต้องเผชิญต่อมหันภัยของมรสุมอีกหลายลูก ​

    ประมุขของประเทศต่างๆ ใครจะมีฝีมือ จะเป็นรัฐบุรุษของโลกขนาดไหน ก็ต้องดูความสามารถกันในช่วงปีนี้แหละ ถึงคราวแล้วที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สงครามที่เราไม่เคยมีมาเลยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง อิทธิพลของดาวงดาวคือพระราหูทำมุมเสียกับลัคนาประเทศ ถ้าประเทศไทยยังเฉยเมยไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที เสมือนดูหมิ่นสยามประเทศมาโดยตลอด ดังนั้นปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมาก ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน ​

    ช่วงปลายปี 53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ

    ประเทศในอ่าวเปอร์เซียกับตะวันออกกลาง อยู่ในเกณฑ์ของความอดทนอย่างถึงที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย การเคลื่อนกำลังอาวุธอาจจำเป็นต้องกระทำสงครามยุทธนาวีหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดาวของประเทศมหาอำนาจ (สหรัฐ) กับตะวันออกกลาง และอ่าวเปอร์เซียเป็นแนวทางการเคร่งเครียด การขัดแย้ง การวิบัติ ที่ฉายเงารางๆ ให้เห็น ประเทศที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ปีนี้จะมีเหตุไม่ราบรื่นในการสัมพันธ์กับนานาชาติ และภายในประเทศของตนเริ่มมีสัญญาณแห่งการขัดข้อง ความไม่ราบรื่นดังเคย ​

    จะมีผลยืดเยื้อที่จะกระทบต่ออนาคตอย่างแน่นอน เงาของความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างประเทศกับความไม่ทัดเทียมกันทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เห็นเหตุให้ชาติที่กำลังรีบเร่งไปสู่อนาคตที่แจ่มจรัสเบื้องหน้า เริ่มเห็นทางตัน มนุษยชาติกำลังเผชิญต่อภาวะความสับสนกับความเดือดร้อนต่อชาติอันยากจนข้นแค้นของประชากรโลกส่วนใหญ่ ความมืดมนกำลังเตรียมปักหลักเป็นแกนนำ ​

    บัดนี้โลกจะต้องระวังการหวังพึ่งพิงพลังงานใหม่ๆ เข้ามารับใช้มนุษยชาติในด้านอุตสาหกรรม ในด้านธุรกิจซึ่งกำลังตะบึงไปข้างหน้าอันเต็มไปด้วยหมอกหนาแห่งความไม่แน่ใจ ดาวบาปเคราะห์ใหญ่ จะกระจายกันเข้าตรึง 4 ทวาร 4 มุม โดยมีดาวเสาร์เดินนำหน้า มันเป็นจุดคับขันที่สุดของโลก เป็นปีที่จะเกิดสงครามล้างผลาญโลกครั้งใหญ่ ทำลายล้างกันอย่างย่อยยับยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เป็นมาในประวัติศาสตร์ของชาติมนุษย์​

    ช่วงปลายปี 2553 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ และตะวันออกกลางเริ่มเปิดฉากแข็งกร้าวขึ้น อาวุธปรมาณู อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมีร้ายแรง อาวุธมหาประลัย นำมาใช้กัน ทำให้เกิดจุดวิกฤตการณ์ของดลกที่เขม็งเกลียวที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และเมื่อนั้น ปีขาลหฤโหดจะสำแดงฤทธิ์ ​

    อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาตคือ สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ และจีน ส่วนสหรัฐแน่นอนละ ฐานทัพนอกประเทศจะถูกทำลายสิ้นไม่มีเหลือ ส่วนประเทศไทยเราจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามยืดเยื้อไปถึงปี 2554 จนอาจจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ ​

    อ่านจบแล้ว อาจรู้สึกเครียด เราแนะนำให้ แฟนประชาชาติฯ ทำความดีให้มาก ส่งผ่านความดีไปสู่คนอื่นๆ และเรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น ​

    ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปัตตานี-อหิวาต์ระบาดหนักหลังน้ำท่วม มีผู้ป่วยเกือบ 200 คนแล้ว

    [​IMG]

    สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เผยหลังน้ำลดเกิดอหิวาตกโรคแพร่ระบาดหนักในหลายพื้นที่ และขยายเป็นวงกว้าง มีผู้ป่วยเกือบ 200 คนแล้ว

    หลังสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ลดลง พบว่ามีประชาชนจำนวนมากป่วยอุจจาระร่วงอย่างรุนแรงเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาล จากการตรวจสอบพบว่าชาวบ้านติดเชื้อโรคอหิวาตกโรค ขณะนี้พบการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างและมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจุดที่พบการแพร่ระบาดหนักเป็นชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ติดแม่น้ำปัตตานี และหมู่บ้านตามแนวชายฝั่งทะเล

    ซึ่งชุดตรวจสอบของสาธารณสุขปัตตานี ระบุว่าเป็นผลมาจากการรับน้ำท่วมจากพื้นที่ต่างๆ จำนวนมาก แล้วไหลลงสู่ทะเล ประกอบกับฝนตกหนักต่อเนื่องในขณะนี้ทำให้น้ำเค็มในทะเลเจือจาง ยิ่งทำให้เชื้อโรคขยายตัวและแพร่ระบาดได้ดียิ่งขึ้น และจากการตรวจสภาพน้ำในแม่น้ำปัตตานี รวมทั้งบริเวณแวดล้อม พบมีเชื้ออยู่ในปริมาณที่มาก

    ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุมาจากการทิ้งขยะ รวมทั้งการขับถ่ายอุจจาระของกลุ่มแรงงานประมงต่างด้าวที่อาศัยหลับนอนบนเรือที่จอดเทียบท่าตลอดแนวลำคลองกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้เชื้อแพร่อยู่ในแม่น้ำและจะไหลลงสู่ทะเล ซึ่งจากการสุ่มตรวจสัตว์น้ำที่ขายตามท้องตลาดกว่าร้อยละ 80 มีเชื้อโรค และพบว่าผู้ติดเชื้ออหิวาตกโรครายแรก เป็นแรงงานประมงต่างด้าว และแพร่เชื้อติดต่อเป็นวงกว้างไปตามชุมชนต่างๆ ขณะนี้รวมแล้วกว่า 200 คน

    นายแพทย์ ยอร์น จิระนคร นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปัตตานี กล่าวว่าขณะนี้พบผู้ป่วยท้องร่วงรุนแรง หรือโรคอหิวาตกโรคในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยเขตเมืองมีกว่า 100 คน โดยเฉพาะแรงงานประมงต่างด้าวที่ค่อนข้างมาก จากการแพร่ระบาดของแรงงานต่างด้าวเป็นรายแรก จากนั้นได้แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง และขยายไป 4-5 อำเภอแล้ว ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างตรวจสอบ ยังพบเชื้อโรคในสิ่งแวดล้อมอย่าง เช่น อาหารทะเลประเภทต่างๆ รวมถึงน้ำ

    ครอบครัวข่าว ช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

    ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=11879
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หนัง 2012 ทำเงินถล่มทลายติดอันดับ 1 ที่สหรัฐอเมริกา

    [​IMG]


    แฟนภาพยนตร์แห่กันไปชมอวสานของโลก ทำให้ 2012 ของ ROLAND EMMERICH ผู้กำกับเยอรมัน ติดอันดับ 1 ตารางภาพยนตร์ทำเงินทวีปอเมริกาเหนือ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำเงินไปถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,130 ล้านบาท ในการเปิดฉาย 3 วันแรก

    นอกจากนี้ 2012 ยังทำเงินจากการเปิดฉายทั่วโลกอีก 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,325 ล้านบาท รวมรายได้ทั้งหมดแล้วขณะนี้ 2012 ทำไป 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,455 ล้านบาท

    2012 นี้จัดจำหน่ายโดย SONY PICTURES ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาว 158 นาที ขณะที่นักวิจารณ์ให้แค่ดาวเดียวจากทั้งหมด 4 ดาว

    อันดับ 1 สัปดาห์ที่แล้ว A CHRISTMAS CAROL ของ JIM CARREY ร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 3 วัน 22.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 743.59 ล้านบาท รวมรายได้ 10 วัน 66.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,217.69 ล้านบาท A CHRISTMAS CAROL จัดจำหน่ายโดย WALT DISNEY

    และ PRECIOUS : BASED ON THE NOVEL 'PUSH' BY SAPPIRE ของค่าย LIONSGATE ที่นักวิจารณ์ให้ 4 ดาว จากทั้งหมด 4 ดาว เพิ่มโรงฉายเมื่อวันศุกร์ และทำรายได้ 6.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาร 203.13 ล้านบาท ขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ตารางภาพยนตร์ทำเงินสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ครอบครัวข่าว ช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

    ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=11665
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • poster_2012.jpg
      poster_2012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118 KB
      เปิดดู:
      1,807
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.4 KB
      เปิดดู:
      40
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      46
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.4 KB
      เปิดดู:
      46
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.8 KB
      เปิดดู:
      47
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      43
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      46
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.3 KB
      เปิดดู:
      45
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.5 KB
      เปิดดู:
      43
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      43
    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      42
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      41
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.3 KB
      เปิดดู:
      46
    • 16.jpg
      16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.4 KB
      เปิดดู:
      49
    • 17.jpg
      17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.4 KB
      เปิดดู:
      43
    • 18.jpg
      18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.4 KB
      เปิดดู:
      42
    • 19.jpg
      19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.4 KB
      เปิดดู:
      39
    • 20.jpg
      20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.4 KB
      เปิดดู:
      44
    • 21.jpg
      21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35 KB
      เปิดดู:
      43
    • 22.jpg
      22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.4 KB
      เปิดดู:
      42
    • 23.jpg
      23.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.9 KB
      เปิดดู:
      43
    • 24.jpg
      24.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • 25.jpg
      25.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.3 KB
      เปิดดู:
      44
    • 26.jpg
      26.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.2 KB
      เปิดดู:
      47
    • 27.jpg
      27.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.4 KB
      เปิดดู:
      47
    • 28.jpg
      28.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.3 KB
      เปิดดู:
      43
    • 29.jpg
      29.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.4 KB
      เปิดดู:
      42
    • 30.jpg
      30.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • 32.jpg
      32.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32 KB
      เปิดดู:
      48
  11. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 14.17 น.ของประเทศไทย

    -----------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ตรงกับเวลา 15.01 น.ของประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B8.jpg
      B8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.5 KB
      เปิดดู:
      1,487
    • B9.jpg
      B9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.2 KB
      เปิดดู:
      1,471
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เด็กดอยแม่ฮ่องสอนหลายพันคนรอคอยเครื่องกันหนาว

    [​IMG]

    แม่ฮ่องสอน 18 พ.ย. - นายทวนทอง ศรีสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) แม่ฮ่องสอน เขต 2 เปิดเผยว่า ฤดูหนาวปีนี้สำรวจพบนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารของ 3 อำเภอ คือ อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย และ อ.สบเมย ขาดแคลนเครื่องกันหนาว 6,199 คน 82 โรงเรียน จากทั้งหมด 186 โรงเรียน

    โดยเฉพาะ อ.สบเมย เดือดร้อนมากที่สุด 2,920 คน 30 โรงเรียน รองมาโรงเรียนใน อ.แม่ลาน้อย และ อ.แม่สะเรียง ซึ่งสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจส่งผลกระทบกับการเรียนการสอน ทำให้เด็กขาดโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากเจ็บป่วย ทาง สพท.แม่ฮ่องสอน เขต 2 จึงจัดโครงการ “พี่ช่วยน้องผู้ยากไร้” เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนชายแดนที่ประสบภัยหนาวให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมช่วยเหลือได้ที่ สพท.แม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 0-5368-1329, 0-5368-1355 ต่อ 16. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-18 16:14:45

    อ่างทองมีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวแล้ว 1 ราย

    [​IMG]

    ภูมิภาค 19 พ.ย. - วันนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นลงอีก โดยที่อ่างทองมีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวแล้ว 1 ราย

    ตำรวจรับแจ้งพบศพ นายสมชัย พยอมแย้ม อายุ 56 ปี ที่หน้าโรงเก็บเครื่องไฟฟ้า ของ สท.เทศบางป่าโมก จังหวัดอ่างทอง สอบสวนทราบว่าผู้ตายรับจ้างเฝ้าเครื่องไฟฟ้ามานานกว่า 9 เดือน และชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ ตำรวจคาดสาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากการดื่มเหล้า ประกอบกับอากาศหนาว ทำให้หนาวตาย หรือหัวใจวายเฉียบพลัน

    ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี พ่อค้าแม่ค้านำเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวมือสองมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา จึงได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะเสื้อกันหนาว หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ จากประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีราคาไม่แพง

    ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่าช่วงนี้สภาพอากาศจะหนาวเย็นลงอีกอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-19 10:04:12

    ลำปางหนาวมากพ่อเฒ่าวัย 85 ทนหนาวไม่ไหวเสียชีวิต

    [​IMG]

    ลำปาง 20 พ.ย.-เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ร.ต.อ.ณัฐพล ศรีคำสุข พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง พร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง รุดไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 35 ซอย 5 หมู่บ้านถาวรสุข ถ.ลำปาง - แม่ทะ ต.พระบาท เขตเทศบาลเมืองเขลางค์นคร อ.เมืองลำปาง หลังรับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุอยู่ภายในห้องนอน ทราบชื่อคือนายปลา สนแก้ว อายุ 85 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนในท่านอนปกติ สภาพใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว มีผ้าห่มไหมพรมคลุมตัวอยู่

    จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย คาดสาเหตุการเสียชีวิตมาจากผู้ตายมีโรคประจำตัว ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ร่างกายทนไม่ไหว ทำให้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 14:07:33

    อากาศหนาวแรงงานชาวพม่าเป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิต

    [​IMG]

    ภูมิภาค 20 พ.ย. - เจ้าหน้าที่เข้าชันสูตรศพ นางลาลาหยี่ วัย 40 ปี แรงงานต่างด้าวชาวพม่า หลังจมน้ำเสียชีวิตบริเวณลำน้ำแม่คาว พื้นที่บ้านศรีบัวเงิน ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่

    สอบสวนทราบว่า ช่วงเช้าผู้ตายออกไปเก็บผักบุ้งในลำน้ำแม่คาว เพื่อนำมาทำอาหาร คาดว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้ผู้ตายเป็นตะคริว ประกอบกับว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นำศพส่งชันสูตร ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแท้จริงอีกต่อไป

    ส่วนที่บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ออกหน่วยเคลื่อนที่บริการตรวจสุขภาพ และทดสอบสมรรถภาพร่างกายให้ชาวบ้านเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมแนะนำดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และทำร่างกายให้อบอุ่น ป้องกันการเจ็บป่วยช่วงอากาศหนาวเย็น.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 09:15:18

    สงขลาฝนตกหนักเริ่มมีน้ำท่วม-อุตุฯ ย้ำเรือเล็กงดทะเล

    [​IMG]

    สงขลา 20 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องมา 2 วัน ทำให้แหล่งน้ำลำคลองมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และเริ่มมีน้ำท่วมถนนบางสาย เช่น ถนนกาญจนวนิช ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ น้ำท่วมขังช่วงละประมาณ 200 เมตร

    ทั้งหน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เช่นเดียวกับ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง ประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังการสัญจร อย่างไรก็ตาม ธงสัญลักษณ์ของการเตือนภัยระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นคลองสายหลัก ขณะนี้ยังเป็นธงเขียว หมายถึงภาวะปกติ ส่วนพื้นที่รอบนอกทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำชับให้สำรวจสภาพน้ำและรายงานทุก 2 ชั่วโมง เพื่อประเมินสถานการณ์

    ขณะที่สภาพอากาศในวันนี้ (20 พ.ย.) ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม มีฝนตกลงต่อเนื่อง ซึ่งศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่วันนี้ - 22 พ.ย.นี้.- สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 10:46:12

    รัตภูมิฝนตกต่อเนื่องต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านโชคดีไม่มีคนตาย-เจ็บ

    [​IMG]

    สงขลา 20 พ.ย.-นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าทำการตรวจสอบเหตุต้นมะขามล้มทับบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านเขารักเกียรติ ม.12 ต.กำแพงเพชร เมื่อเช้ามืดวันนี้ แต่โชคดีที่คนในบ้านไม่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่าต้นมะขาม เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 ซม.ล้มขวางถนนภายในหมู่บ้าน ลงมาพาดสายไฟฟ้าและทับอยู่บนหลังคาบ้านเลขที่ 157 ของนายยูโส๊ป หมัดอาหลี ทำให้กระเบื้องหลังคาแตกเสียหาย คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอด 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมีลมกระโชกแรง ทำให้ดินอิ่มน้ำ จนต้นมะขามล้มลงดังกล่าว

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตัดต้นมะขามนำออกจากตัวบ้าน พร้อมให้ อบต.กำแพงเพชรเข้าสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.รัตภูมิ ซึ่งยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่บ้านห้วยโอน ม.9 ต.กำแพงเพชร ระดับน้ำสูง 20-50 ซม.โรงเรียนบ้านห้วยโอนต้องปิดการเรียนการสอน และพื้นที่ ต.เขาพระ มีน้ำท่วมเกือบเต็มที่ เจ้าหน้าที่เร่งออกให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 11:40:24

    อ่าวไทยคลื่นยังแรงกัดเซาะชายหาดสมิหลาพังเป็นแนวยาวกว่า 2 กม.

    [​IMG]

    สงขลา 19 พ.ย.-ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก แจ้งเตือนว่า ในระยะนี้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมพื้นที่ภาคใต้และทะเลอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง เรือประมงขนาดเล็ก ใน 5 จังหวัด ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่ระยะนี้ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ย.นี้ ขณะที่คลื่นในทะเลอ่าวไทยยังคงถาโถมเข้าถล่มชายหาดสมิหลา ในเขตเทศบาลนครสงขลา อย่างต่อเนื่องเป็นรอบที่สอง จนทำให้ชายหาดสมิหลา ซึ่งเป็นหาดทรายยาวกว่า 9 กิโลเมตร ถูกความแรงของคลื่นกัดเซาะแนวต้นสนและหาดทราย ได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 2 กิโลเมตร

    ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครสงขลาได้เร่งทำแนวกันคลื่น ด้วยล้อยางรถยนต์ กระสอบทรายกว่า 50,000 ลูก และเสาไม้อีกกว่า 300 ต้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะขยายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชายหาดสมิหลาเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้มากนัก นอกจากนี้ ความแรงของคลื่นยังทำให้ถนนเชื่อมระหว่างเทศบาลตำบลเกาะแต้ว อ.เมืองสงขลากับองค์การบริหารส่วนตำบลนาทับ อ.จะนะ ได้รับความเสียหายเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร .-สำนักข่าวไทย

    2009-11-19 10:46:25

    นักวิชาการติงยางรถยนต์ทำแนวกันคลื่นไม่ได้ผล

    [​IMG]

    สงขลา 19 พ.ย. - นักวิชาการติงเทศบาลนครสงขลานำยางล้อรถยนต์มาทำแนวกันคลื่นริมหาดสมิหลา ชี้ยิ่งสร้างปัญหาเพิ่ม กลายเป็นขยะใต้ทะเล

    ผศ.ดร.สมบูรณ์ พรพิเนตพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุทรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวถึงกรณีเทศบาลนครสงขลานำยางล้อรถยนต์มาผูกเรียงกันแล้วทับด้วยกระสอบทรายเป็นแนวยาวกว่า 2 กม. ริมหาดสมิหลา เพื่อเป็นแนวกันคลื่นชั่วคราว ว่า วิธีดังกล่าวนอกจากไม่สามารถต้านทานแรงคลื่นได้แล้ว แต่กลับส่งผลกระทบต่อชายหาดมากยิ่งขึ้น เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ ล้อยางเหล่านั้นจะถูกคลื่นซัดฝังอยู่ใต้ผืนทราย และส่วนหนึ่งก็ถูกดูดลงทะเล จนกลายเป็นขยะที่หมักหมม ไม่ย่อยสลาย สร้างปัญหามากยิ่งขึ้นอีก ซึ่งไม่เข้าใจว่าไปนำทฤษฎีอะไรมาใช้ ในการนำยางล้อรถยนต์มาทำแนวกันคลื่นอย่างที่หาดสมิหลา

    “ในขณะนี้ทุกฝ่ายต่างยิ่งสร้างปัญหา ทั้งหิน ทั้งยางล้อ หรือเขื่อนกันคลื่นต่าง ๆ ก็ไม่สามารถต้านทานแรงคลื่นได้ เพราะยิ่งสร้างเท่ากับยิ่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของชายหาด มีเพียงทรายเท่านั้นที่จะสามารถต้านทานแรงคลื่น แต่ขณะนี้ชายหาดกลับถูกคลื่นซัดทำลายจนเหลือน้อยลงไปทุกที เพราะฉะนั้น ควรจะหันกลับมามอง ณ จุดเริ่มต้นของปัญหา และย้อนกลับไปมองว่าเมื่อร้อย ๆ ปีก่อน ทำไมจึงไม่มีปัญหาคลื่นซัดชายฝั่ง แต่ขออย่าไปกล่าวโทษธรรมชาติว่าเป็นเพราะธรรมชาติเปลี่ยนแปลง จนทำให้คลื่นซัดเข้าชายฝั่งรุนแรงขึ้น เพราะสาเหตุจริง ๆ ล้วนมาจากน้ำมือมนุษย์” ผศ.ดร.สมบูรณ์ กล่าว. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-19 17:41:31

    นักเรียนปราจีนฯ เกิดอาการอุปทานหมู่ส่ง รพ.กว่า 10 คน

    [​IMG]

    ปราจีนบุรี 18 พ.ย. - เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ แพทย์โรงพยาบาลนาดี จ.ปราจีนบุรี รับตัวนักเรียนหญิง 12 ราย อายุ 14-16 ปี จากโรงเรียนร่มเกล้าวิทยาคาร หมู่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี เข้ารักษาอาการแน่นหน้าอก อาเจียน บางรายดิ้นส่งเสียงร้องเอะอะ ซึ่งแพทย์เร่งปฐมพยาบาลจนทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว พร้อมประสานให้แพทย์กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เดินทางมาตรวจอาการอีกครั้ง

    เบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ นักเรียนหญิงกว่า 30 คน ร่วมกันเล่นบางอย่างในเชิงความเชื่อพิธีกรรม และเกิดมีอาการขึ้นพร้อมกัน ทางอาจารย์จึงช่วยกันปฐมพยาบาลจนรู้สึกตัวและดีขึ้น ขณะที่นักเรียนอีก 12 ราย มีอาการมากกว่า ถูกนำส่งโรงพยาบาล

    ด้านนางมะลิวัลย์ โมรี ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า อาการของนักเรียนที่เกิดขึ้นเรียกว่าเป็นอาการอุปทานหมู่ มีพฤติกรรมเลียนแบบกัน อยู่ในบรรยากาศอารมณ์ตื่นกลัว กังวล หรือเป็นช่วงเวลาควบคุมตัวเองไม่ได้ การดูแลอาการในเบื้องต้นจะต้องแยกตัวออกมาจากกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดอาการพฤติกรรมเลียนแบบ อย่างไรก็ดี ขณะนี้นักเรียนทั้งหมดได้ทำการจิตบำบัดจนดีขึ้นและกลับบ้านได้แล้ว. - สำนักข่าวไทย

    2009-11-18 19:02:17

    โลมาหัวบาตรหนักกว่า 100 กก.ติดอวนตายตัวที่ 6 ในรอบปี

    [​IMG]

    พัทลุง18 พ.ย.- เมื่อเวลา 15.30 น. นายสันติ นิลวัฒน์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เข้าตรวจสอบซากปลาโลมาหัวบาตรที่ถูกตัดออกเป็น 2 ท่อน ถูกคลื่นซัดมาเกยฝั่งริมทะเลสาปสงขลา พื้นที่ หมู่ 12 ตำบลหารโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง

    หลังได้รับแจ้งจากนายวิเชียร ไชยเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.หารโพธิ์ เบื้องต้นพบเป็นโลมาหัวบาตรเพศเมียอายุประมาณ 25 ปี ความยาว 2.10 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กก. ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน สันนิษฐานว่าอาจติดอวนชาวประมงขณะออกหาปลา และชาวประมงพยายามปลดอวน แต่ไม่สามารถทำได้ จึงตัดสินใจใช้มีดตัดลำตัวโลมาหัวบาตรออกเป็น 2 ท่อน และโยนทิ้งทะเล

    ทั้งนี้โลมาหัวบาตรเป็นสัตว์สงวน มีแหล่งอาศัยอยู่ในทะเลสาปสงขลาครอบคลุมพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา จากการสำรวจล่าสุด พบเหลือไม่ถึง 50 ตัว และซากโลมาหัวบาตรที่พบในวันนี้ นับเป็นตัวที่ 6 ที่ตายในรอบปีนี้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-11-18 17:42:08

    พิษณุโลกห่วงยอดป่วยหวัด 2009 ระบาดเพิ่มช่วงฤดูหนาว

    [​IMG]

    พิษณุโลก 20 พ.ย.- นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อม นพ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นำเจ้าหน้าที่ออกรณรงค์ให้ความรู้ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กับเยาวชนในโรงเรียนจ่านกร้อง อ.เมือง ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบของจังหวัด ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พิษณุโลก เขต 1

    เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นอาจทำให้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ระบาดเพิ่มขึ้น โดยกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนเข้าเรียนและก่อนกลับบ้าน รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด และจากรายงานล่าสุดของสาธารณสุขจังหวัดตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน–9 พฤศจิกายน 2552 พบผู้ป่วยที่มีผลตรวจยืนยันติดเชื้อดังกล่าวแล้ว 497 ราย เสียชีวิต 7 ราย ขณะเดียวกันยังมีผู้ป่วยไข้หวัดตามฤดูกาลมารับรักษาตามโรงพยาบาลในจังหวัด.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 11:02:19

    ตำรวจบุรีรัมย์ตรวจคุมเข้มร้านทองหลังราคาทองพุ่งกระฉูด

    [​IMG]

    บุรีรัมย์ 20 พ.ย.- พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นำทีมตำรวจสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถจักรยานยนต์ ออกตรวจตราตามร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อเป็นการคุมเข้มป้องกันกลุ่มโจรผู้ร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุโจรกรรม ปล้นจี้ ฉกชิงวิ่งราว พร้อมจับตากลุ่มแก๊งตกทองที่จะออกอาละวาดหลอกลวงผู้ประกอบการ หลังทองคำรูปพรรณมีราคาพุ่งสูงถึงบาทละ 18,000 บาท

    นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือเจ้าของร้านทองให้ตรวจสอบ ปรับปรุงกล้องวงจรปิดและสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้ในร้านให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา เพราะหากเกิดเหตุถูกคนร้ายปล้นจี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-11-20 13:37:59

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    <table style="" width="98%" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="c1" width="4" height="4">
    </td> <td style="border-top: 1px solid gray;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
    </td></tr></tbody></table> </td> <td class="c2" width="4">
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray;" width="100%" align="center"> [SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
    "อากาศหนาวเย็น ภาคใต้มีฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง "
    [/SIZE]
    ฉบับที่ 17 (205/2009) ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray; padding: 10px;" width="100%" align="center"> บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงอย่างต่อเนื่องอีก 1-3 องศา
    มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่
    สุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวัง อันตรายจากคลื่นลมแรง ที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กโดยเฉพาะในอ่าวไทยตอนล่าง
    ควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2552

    ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
    ออกประกาศ เวลา 16.30 น.






    สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
    กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
    </td> </tr> <tr> <td class="c3" width="4" height="4">
    </td> <td style="border-bottom: 1px solid gray;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
    </td></tr></tbody></table> </td> <td class="c4" width="4">
    </td> </tr> </tbody></table>
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    2012 การรู้ข้อมูลนั้นสำคัญไฉน ?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เซี่ยมหล่อนั๊ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2631570", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ภาพยนต์ เรื่อง 2012 ได้ไปชมแล้ว ได้แง่คิดสองสามเรื่อง

    1. เมื่อเกิดวิกฤต คนที่มีสติดีที่สุด ย่อมเห็นหนทางในการรอดพ้นจากภัยได้ (แม้หนังจะสร้างเวอร์ไป แต่ก็ทำให้เกิดความน่าสนใจมาก ว่าวันหนึ่งหากเกิดจริงแล้วเราต้องกลับมาคิดว่าทำอย่างไรต่อดี)

    2. การมีข้อมูลอยู่ในมือ เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น เพราะตัวเอกจริงแล้ว ไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี่ แต่เมื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลจริง ทำให้ต้องรีบตัดสินใจอย่างฉับพลัน จึงรอดชีวิตได้ แต่เรื่องนี้คงไม่ใช่บทสรุปกับทุกคนไป ซึ่ง ต้องไปอยู่ ถูกที่ ถูกเวลาด้วย

    3. ได้เห็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ผู้นำ อีกหลายคนที่ตัวละคร ได้สะท้อนออกมาให้เห็นกับ นักวิทยาศาสตร์ที่ยังยึดมั่นในคุณธรรม ต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่วร้ายในจิตใจ

    4. ความเห็นส่วนตัว ของผู้นำ หรือผู้มีอำนาจในประเทศ ไม่ยอมบอกความจริง และไม่อยู่เพื่อร่วมทุกข์ เมื่อภัยมา ซึ่งมีอยู่จำนวนมากต่อมาก

    สุดท้ายแล้ว เราต่างต้องหาทาง พึ่งตนเองให้มากที่สุด ตั้งแต่ รักษาสุขภาพ และจิตใจให้มั่นคง เจริญสติตามแบบแผน ทางพระพุทธศาสนาให้มาก และเข้มข้นยิ่งขึ้น เพราะอื่นใด ในเรื่องก็มนุษย์เราต้องช่วยตัวเองอย่างแน่นอน อย่าหวังพึ่งคนอื่นเลย เพราะพระพุทธเจ้าให้คำสอนไว้แล้ว ว่า อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ กันให้มากเพราะคนยาก คนดี คนมี คนจน ไม่ได้ถูกเลือกโดยใคร แต่ถูกเลือกโดยธรรมะ ที่อยู่ในใจเราว่า มีขีดระดับใด เพราะในหนังสอนให้รู้ว่า แม้แต่คนมีตังค์เยอะสามารถซื้อที่นั่งได้ สุดท้ายก็ไม่ได้ไป<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อความจาก-กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-575

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JINREAN<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2635389", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เพิ่งไปดูหนัง 2012 มาวันนี้เอง น่ากลัวมากแต่ก็ต้องบอกว่าเหตุการณ์ที่จำลองมานั้นหนักกว่าที่คาดไว้มาก หากว่ามันเกิดขึ้นจริง คิดว่ายากที่จะรอด และถ้าหากผู้รู้ปิดข่าวอย่างในหนัง ไม่ยอมบอกให้กับประชาชนรู้ ก็ตายกันทั้งบางพอดี ลองไปดูกันก็แล้วกัน แต่อย่างไรก็อย่าลืมช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ

    ปล.ดูหนังแล้วอยากเหาะได้จริงๆ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org/threads/2012-วันสิ้นโลก-เรื่องจริงอิงจากนักดาราศาสตร์.194385/page-3

    แนะนำ รวมลิงค์กระทู้เก่าๆที่เป็นเนื้อหาข้อมูล เรื่องภัยพิบัติ ([​IMG] 1 2) kananun
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2012_1.jpg
      2012_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35 KB
      เปิดดู:
      1,440
    • New2012-23579.jpg
      New2012-23579.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.9 KB
      เปิดดู:
      1,444
    • 2012_5.jpg
      2012_5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.4 KB
      เปิดดู:
      1,474
    • 2012_poster-3.jpg
      2012_poster-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77 KB
      เปิดดู:
      142
    • 2012_4.jpg
      2012_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.4 KB
      เปิดดู:
      49
    • 2012_6.jpg
      2012_6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.8 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2009
  15. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    453
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6931 ข่าวสดรายวัน


    สาวอังกฤษช่วย9ลูกหมารอดพายุ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อ 19 พ.ย. เดลี่เมล์รายงานว่า ลอว์รา ฮิวจ์ สาวอังกฤษจากเมืองเบดฟอร์ด วัย 28 ปี ออกไปล่องเรือยอชต์กลางทะเลนอกชายฝั่งตุรกี แต่ถูกพายุซัดไปใกล้เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ กระทั่งเรือล่ม แต่ก็ยังพยายามช่วยชีวิตลูกสุนัข 9 ตัวเอาไว้ด้วย โดยจับสุนัขใส่ลังกระดาษแล้วทูนไว้เหนือหัว ก่อนจะว่ายน้ำเข้าฝั่งระยะทางไกลถึง 75 เมตร ท่ามกลางคลื่นสูงถึง 5 เมตร แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้ทั้งคนทั้งสุนัข

    เหตุเกิดในช่วงเที่ยงวันเมื่อเดือนก่อน ลอว์ราออกไปล่องเรือกับจอห์น โคชเรน และสุนัข 2 ตัว ชื่อแร็กก้า มัฟฟิน และไทเกอร์ ลิลี่ แต่ต่อมาแม่สุนัขแร็กก้า มัฟฟิน ตกลูก 9 ตัว กลางทะเล กระทั่งเรือเจอพายุซัด ลอว์รากล่าวว่า "ฉันคิดว่าถ้าไม่รีบสละเรือมันจะล่ม ไม่มีทางเลือก ฉันเป็นคนว่ายน้ำแข็ง แม้จะกินน้ำไปหลายอึกแต่ก็ยังว่ายต่อไป ห่วงแต่ว่าจะต้องดูแลลูกสุนัขให้ปลอดภัย"

    หมอทึ่งทวดวัย 107 ฟันขึ้น



    หนังสือพิมพ์เหอหนาน คอมเมอเชียล เดลี่ รายงานเมื่อ 20 พ.ย.ว่า นางเจียว เจิ้นหวา คุณทวดวัย 107 ปี ซึ่งอยู่อาศัยกับครอบครัวและบรรดาลูกหลานของตนกว่า 60 คน รวม 5 รุ่น ในเขตอี้เฉวียน มณฑลเหอหนาน เกิดฟันขึ้นรอบใหม่ ทำให้คุณทวดเที่ยวเดินเหินออกไปอวดฟัน 2 ซี่ใหม่สดซิงของตนให้กับบรรดาญาติๆ และเพื่อนบ้านดูด้วยความภาคภูมิใจ ด้านแพทย์ต่างรู้สึกทึ่ง โดยกล่าวว่า เป็นกรณีที่หายากอย่างยิ่ง

    ตาติดไฟ

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เกาหลีใต้นี่ถือเป็นเจ้าตำรับแฟชั่นอาโนเนะ "บิ๊กอาย" เคียงคู่ญี่ปุ่น

    ล่าสุด "ซูมี ปาร์ก" นักออกแบบเกาหลีก็ขอนำเสนอแฟชั่นใหม่ เรียกว่า "ขนตาแอลอีดี" เป็นขน ตาเทียมติดหลอดไฟแอลดีอีขนาดจิ๋ว

    เวลาใส่แล้วจะยิ่งทำให้ตาดูโตขึ้นทั้งดวง แถมเดินไปไหนก็ส่องสว่างดูโดดเด่น

    แต่ชาวบ้านเห็นแล้วจะหาว่าบ้ารึเปล่า..อันนั้นไม่ทราบจริงๆ นะ!

    2012 ปีโลกาวินาศ

    เก็บเรื่องมาเล่า

    ชนา ชลาศัย




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปีคริสต์ศักราช 2012 จะเกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นถึงขนาดโลกาวินาศ สาเหตุอันเนื่องจากแกนแม่เหล็กโลกพลิกขั้วจริงหรือ?

    เรื่องนี้ ทันตแพทย์สม สุจีรา ผู้เขียนหนังสือขายดี เขียนไว้ในคอลัมน์ "NEWS REMARK" นิตยสาร "ซีเคร็ต" ฉบับพ.ย.น่าสนใจ

    ลองอ่าน

    "ในทางวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถทำนายอย่างฟันธงได้ว่า เหตุการณ์ร้ายแรงจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2012 เพราะนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสนามแม่เหล็กโลกเกิดจากอะไร ไม่ทราบว่าจะสลับขั้วได้อย่างไร

    นอกจากนี้ บันทึกการสลับขั้วในอดีตก็ไม่มีรูปแบบเด่นชัดพอจะคาดการณ์ได้ ไม่มีจังหวะที่แน่นอน บางช่วงสนามแม่เหล็กอาจคงทิศอยู่นานถึงหลายสิบปี บางครั้งอาจคงทิศเพียงไม่กี่ร้อยปี

    ความผันแปรอย่างมากนี้ทำให้แทบระบุไม่ได้เลย ว่าโลกจะถึงกาลสลับขั้วแม่เหล็กอีกครั้งเมื่อใด หรืออาจจะเป็นอีกหนึ่งล้านปีข้างหน้า ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่มีใครหยั่งรู้ได้

    อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโลกจะเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กอีกอย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    อย่าว่าแต่การระบุปีที่เกิด แม้แต่จะทำให้ระบุว่าจะเกิดขึ้นในศตวรรษก็ยังยาก เนื่องจากจังหวะการเกิดปรากฏการณ์นี้ในอดีตผันแปรมาก

    ดังนั้น การตื่นตระหนกกับตัวเลข 2012 มากเกินไปจึงเป็นเรื่องไร้สาระ แม้ฝ่ายที่ยืนยันจะบอกว่าใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คำนวณก็ ตาม ถึงขนาดกำหนดวันได้ว่าวันโลกาวินาศคือวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2012

    แม้องค์การนาซ่าเองจะยอมรับว่า ในปีนั้นแกนแม่เหล็กของดวงอาทิตย์อาจจะกลับขั้ว แต่ก็ไม่น่าส่งผลอะไรต่อโลก

    ถ้าโลกต้องเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงจะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน เหมือนครั้งเกิดคลื่นสึนามิที่ภาคใต้ เพียงแค่พริบตา ผู้คนเกือบสามแสนคนในหลายๆ ประเทศก็เสียชีวิตไปในทันที..."

    เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรตื่นตระหนก ใช้ชีวิตอย่างมีสติอยู่ กับปัจจุบันเป็นดีที่สุด

    "นราธิวาส"รับมือพายุฝนลมแรง



    นราธิวาส - นายมณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส ออกประกาศเตือนชาวประมงงดนำเรือเล็กออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17-22 พ.ย.นี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่ได้แผ่มาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของอ่าวไทย และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้พื้นที่ภาคใต้รวมทั้งจังหวัดนราธิวาส มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนและออกเรือในระยะนี้ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ จึงขอเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายที่อาจเกิดจากคลื่นลมแรง โดยทางจังหวัดจะได้จับตาดูอย่างใกล้ชิด

    Daily News Online > หน้าบันเทิง > หนัง > '2012' ตั้งเป้า 200 ล้าน
    '2012' ตั้งเป้า 200 ล้าน
    แซงหน้า 'ไอ้แมงมุม'

    สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้เปิดตัวได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับภาพยนตร์ “2012 วันสิ้นโลก” ของผู้กำกับ โรแลนด์ เอ็มเมอริช เจ้าพ่อหนังทำลายล้าง ที่ทำสถิติใหม่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีภาพยนตร์ฉายในเมืองไทย โดยฉายเฉพาะกรุงเทพฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กวาดรายได้ไปถึง 94.8 ล้านบาท จากจำนวนโรงฉาย 332 โรง และเมื่อรวมรายได้ต่างจังหวัดอีก 23.1 ล้านบาท รายได้เลยพุ่งพรวดถึง 118 ล้านบาท

    “2012 วันสิ้นโลก” สร้างปรากฏการณ์การต่อคิวซื้อตั๋วที่ยาวเหยียด ภาพการนั่งชมภาพยนตร์เต็มทุกที่นั่ง ไม่เว้นแม้แต่แถวหน้าสุด และมีสถิติใหม่ที่น่าสนใจดังนี้ อาทิ รายได้วันพฤหัสบดีสูงสุด 20.1 ล้านบาท ลบสถิติ “ต้มยำกุ้ง” ที่เคยทำไว้ 19.5 ล้านบาท รายได้วันศุกร์สูงสุด 18.2 ล้านบาท แซงหน้า “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2” ที่เคยทำไว้ 15.8 ล้านบาท รายได้วันเสาร์สูงสุด 28.5 ล้านบาท แซงยอด 26.4 ล้านบาท ที่ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2” เคยทำไว้เช่นกัน และรายได้วันอาทิตย์สูงสุด 28 ล้านบาท ลบสถิติ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2” ที่เคยทำไว้ 25.7 ล้านบาท

    นอกจากนี้ยังทำรายได้เปิดตัวในกรุงเทพฯ 4 วันสูงสุด 94.8 ล้านบาท ลบสถิติ “ต้มยำกุ้ง” ที่ทำไว้ 94.6 ล้านบาท และ “แฮร์รี่พอตเตอร์ 3” ที่ทำไว้ 89.1 ล้านบาท แถมยังทำสถิติรายได้จากการขายสายหนังในต่างจังหวัดสูงสุดถึง 23.1 ล้านบาท ลบสถิติ “คนเหล็ก 4” ที่ทำรายได้ไว้ 22.2 ล้านบาท และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทเร็ว ภายในเวลา 5 วัน โดยแซงหน้า ต้มยำกุ้ง, สไปเดอร์แมน 3 และ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 2 ซึ่งคาดว่า “2012 วันสิ้นโลก” นั้นจะทวีความแรงขึ้นและไม่หยุดสถิติไว้เพียงเท่านี้ แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าอาจจะทำรายได้ทะลุ 200 ล้านบาทเพื่อลบสถิติที่ “สไปเดอร์แมน 3” ทำไว้ก็เป็นได้.

    [​IMG] น้ำป่าท่วมหาดใหญ่ระลอกสอง

    น้ำป่าไหลท่วมหมู่บ้านในหาดใหญ่ระลอกสอง หลังฝนตกอย่างหนักติดต่อกันนานถึง 2 วัน จนท.เร่งช่วยเหลือ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนที่ตกหนักติดต่อกันมา 2 วันส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาแก้วไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ 3 หมู่บ้านของ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบด้วยหมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 7 บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มนับร้อยหลังคาเรือนถูกน้ำท่วม เส้นทางที่เชื่อมต่อทั้ง 2 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 20 เซนติเมตร ส่งผลให้โรงเรียนบ้านฉลุง จำเป็นต้องปิดชั่วคราวเนื่องจากนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาโรงเรียนได้

    นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรทั้งสวนผลไม้ สวนยางและนาข้าวที่อยู่ในที่ลุ่มถูกน้ำท่วมสูงกว่า1 เมตร แต่ยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุงได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว

    ขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้ประสานไปยังพื้นที่ทั้ง15 อำเภอที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมหนักเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเช่น จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย และสะเดา เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง.

    [​IMG]

    สธ.สั่งทุกจังหวัดระวัง“อหิวาตกโรค”
    วันนี้ (19 พ.ย.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว เป็นช่วงที่มีเทศกาลฉลองกันจำนวนมาก มักจะมีปัญหาโรคอุจจาระร่วงเกิดขึ้นเป็นประจำ ที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวยังมักมีลานเบียร์ ซึ่งนิยมกินกับอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โรคที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ อหิวาตกโรค ซึ่งปีนี้เริ่มพบผู้ป่วยในวงแคบบางพื้นที่ของ จ.ปัตตานี ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม และต่อมาพบแพร่กระจายมาบางพื้นที่ของนราธิวาส และสงขลา ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นลูกเรือประมงต่างชาติ และสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากมีพฤติกรรมกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และไม่สะอาด นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ซึ่งมีส่วนทำให้เชื้อโรคมีมากขึ้น และเข้าใกล้ชุมชนมากขึ้น โดยเฉพาะชุมชนชายทะเล

    การพบผู้ป่วยดังกล่าวเป็นสัญญาณให้ต้องเร่งควบคุมป้องกัน ในระบบความสะอาดของสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศ จัดระบบเฝ้าระวังโรคอหิวาตกโรคเป็นกรณีพิเศษ ให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้พร้อม โดยเฉพาะการเตรียมการสื่อสารกับผู้ป่วยต่างด้าว เช่น พม่า กัมพูชา ลาว เพื่อให้การรักษา และควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ

    ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเขต 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดชายทะเล ได้สั่งการตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุม และป้องกันโรคที่ จ.ปัตตานี มอบให้ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการ เป็นผู้บัญชาการศูนย์ ลงควบคุมโรคในพื้นที่ให้สงบโดยเร็วที่สุด.

    ยอดตายหวัดใหญ่ในจีนน่าสงสัย

    ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของจีนสงสัยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ น่าจะมากกว่าที่ทางการเปิดเผย

    นายจง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์คนสำคัญของจีน ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เซาเทิร์น เมโทรโพลิส เดลีย์ เมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนอาจมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มมากกว่าที่รายงาน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นบางคนยอมรับว่ามีกรณีต้องสงสัยหลายราย นายจงกล่าวว่า เขาสงสัยยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ของทางการในปัจจุบัน เขาไม่เชื่อว่าทั่วประเทศจะมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ทั้งหมดเพียง 53 รายเท่านั้น ทางการอาจปกปิดตัวเลขที่แท้จริงเอาไว้

    นายจง กล่าวว่า ในบางพื้นที่ไม่มีการตรวจสอบผู้ที่เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบ และทางแพทย์ก็รักษาผู้ป่วยเหล่านี้เหมือนรักษาผู้ที่ป่วยด้วยโรคปอดบวมธรรมดาโดยไม่สอบถามอะไร นายจงได้รับความเชื่อถืออย่างมากจากประชาชนในจีน เนื่องจากเขาทุ่มเททำงานต่อสู้กับโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน หรือซาร์ส ในช่วงปี 2546 ด้วยความจริงใจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    จีน ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในโลก มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากไข้หวัดใหญ่ 2009 อีก 28 ราย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ทั่วประเทศอยู่ที่ 53 ราย ส่วนกระทรวงสาธารณสุขของจีน ยังไม่ได้ตอบโต้ถ้อยแถลงของนายจง

    ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ กล่าวว่า มาตรการพิเศษในการป้องกันไข้หวัด ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกักตัวผู้ต้องสงสัยเช่นที่จีนดำเนินการ ซึ่งผู้โดยสารทั้งหมดต้องถูกกักหากพบผู้โดยสารมีอาการเพียงคนเดียว ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ แม้ว่าจะมีการประกาศความสำเร็จในตอนแรก แต่ขณะนี้ปักกิ่งยอมรับแล้วว่า การระบาดของ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มากกว่าตัวเลขที่ เจ้าหน้าที่เปิดเผย.

    จนท.เร่งอพยพผู้คนจากน้ำท่วมทางเหนือของอังกฤษ
    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเร่งดำเนินการอพพยพผู้คน 200 คน โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะ จากเมืองคัมเบรียทางเหนือของอังกฤษ หลังจากเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ เช่น ทางเหนือของอังกฤษ ตะวันตกเฉียงเหนือของเวลส์ และภาคตะวันตกของสกอตแลนด์

    เจ้าหน้าที่ต้องตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากถนนสายหลักถูกตัดขาด เพราะกระแสน้ำเอ่อล้น และยังต้องปิดโรงเรียน 21 แห่ง แม้ระดับน้ำทรงตัวอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำที่เมืองคอคเกอร์เมาท์ และเคสวิค สำนักงานสิ่งแวดล้อมของอังกฤษ ได้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 6 ซึ่งหมายถึง ระดับน้ำที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สิน ในเมืองคัมเบรีย.
    [​IMG]

    หวั่นสะพานข้าม"วิภาวดี"ถล่ม
    รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า เมื่อปี 2551 ทล.มีโครงการตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคงของสะพานลอยคนเดินข้ามถนนวิภาวดีรังสิต ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ เริ่มต้นตั้งแต่สามเหลี่ยมดินแดงถึงบริเวณอนุสรณ์สถาน จำนวน 30 แห่ง พบว่า สะพานลอยมีสภาพชำรุดมากทุกตัว และอยู่ในขั้นต้องซ่อมบำรุงอย่างเร่งด่วนถึง 18 แห่ง เนื่องจากสะพานลอยเหล่านี้มีอายุการใช้งานมานานไม่ต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งก่อสร้างพร้อม ๆ กับการตัดถนนวิภาวดีรังสิต อีกทั้งสะพานลอยเป็นโครงสร้างเหล็ก เมื่อใช้งานไปนาน ๆ โดนแดดโดนฝนทำให้เกิดสนิม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภายนอกสะพานที่เห็นว่าเป็นสนิมเท่านั้น จากการตรวจสอบโครงสร้างโดยละเอียดยังพบว่า ภายในพื้นสะพาน คานสะพาน ส่วนรองรับคานสะพาน และส่วนอื่น ๆ ก็เกิดสนิมกัด กร่อนเกือบหมดแล้ว จนสะพานอยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรง ถือว่าเป็นสภาพที่ไม่ปลอดภัย อาจพังถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ขณะที่ภายนอกมีการทาสี จึงดูใหม่อยู่เสมอ แต่เนื่องจากสะพานลอยไม่ใช่จุดที่มีประชาชนใช้งานพร้อมกันคราวละมาก ๆ เหมือนบริเวณหน้าสนามกีฬา ที่จะมีคนแห่กันขึ้นใช้ช่วงการแข่งขันกีฬาเลิก อีกทั้งบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตไม่ค่อยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านมากนัก จึงมีแรงสั่นสะเทือนที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างสะพานน้อย สำหรับสะพานลอยที่ชำรุด ได้แก่ หน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี สนามกีฬากองทัพบก ซอยวิภาวดีรังสิต 16 (โชคชัยร่วมมิตร) ซอยวิภาวดีรังสิต 9 (เฉยพ่วง) โรงเรียนหอวัง บจก.ตรีเพชรอีซูซุ แฟลตตำรวจ วัดเสมียนนารี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เดลินิวส์ สโมสรตำรวจ หมู่บ้านมหานคร วัดหลักสี่ เคหะทุ่งสองห้อง ตลาดใหม่ดอนเมือง วัดดอนเมือง และโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง

    นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดี ทล. เปิดเผยว่า ทล.ได้ทำเรื่องของบประมาณในการซ่อมแซมใหญ่แล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณางบประมาณ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบในการซ่อมแซม แห่งละ 3-4 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ทล. มีงบประจำปีซ่อมแซมภายนอกและทาสีให้ดูใหม่ขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้บำรุงรักษาโครงสร้างภายใน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จำเป็นต้องรีบดำเนินการ อย่างไรก็ตามสะพานดังกล่าวยังสามารถใช้งานได้อีกหลายเดือน ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  16. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ข่าวเรื่องสะพานลอยคนข้าม ถนนวิภาวดี เป็นเรื่องจริงครับ มีโอกาสพังถล่มได้ทุกเวลา เพราะมันทำด้วยเหล็ก ก่อนหน้านั้น ผมก็เคยใช้แถว ซอยวิภาวดี 3 ครับ ช่วงเดินขึ้นบันได ปรากฏว่า เดินแล้ว แผ่นเหล็กทรุดเลย เนื่องจากถูกสนิมกัดกร่อน ผุพัง ครับ บางส่วนมีน้ำขัง จากฝนตก ก็เกิดสนิมครับ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยุคทองของพระมะฮุดี
    (จากบันทึกในศาสนาอิสลาม)

    [​IMG]

    การมาของมะฮฺดีจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อมวลมนุษย์และโลก ?

    เราจะมาหาคำตอบสำหรับคำถามนั้นในภาพยนตร์ของเรา เราจะมาดูกันว่าจะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นในโลกบ้าง หลังจากการมาปรากฏกายของมะฮฺดี และมาสำรวจดูลักษณะของช่วงเวลาที่ถูกเรียกว่า “ยุคทอง” กัน ยุคทองคือช่วงเวลาที่มะฮฺดีทำให้หลักคำสอนอันมีคุณค่าจากอัล-กุรอานแพร่หลายออกไป และประชาชาติได้มาพบกับการศรัทธาที่แท้จริง การพัฒนาทั้งสองด้านนี้จะทำให้เกิดผลทางกายอย่างมากมายขึ้นในยุคทอง ความปลอดภัย ความมั่นใจ และความยุติธรรมจะถูกสถาปนาขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ มวลมนุษย์จะทิ้งความเสียหายทางเศรษฐกิจเอาไว้ข้างหลัง จะไม่มีใครขัดสนและยากจนอีกต่อไป และผู้ที่ขอจะได้รับมากกว่าที่เขาขอ จะมีความอุดมสมบูรณ์อย่างชนิดที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน และสินค้าจะถูกแจกจ่ายไปให้แก่ผู้ที่ขอทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องคำนวณนับเลย​

    ลักษณะที่เด่นอีกอย่างของเวลานี้คือ สงครามและความขัดแย้งจะจบสิ้นลง บรรยากาศแห่งความสงบสุขและมิตรภาพจะพัฒนาขึ้น ระหว่างชุมชนที่เป็นศัตรูกัน ในช่วงเวลานี้มนุษย์จะได้รับประโยชน์จากคุณค่าของเทคโนโลยีทั้งหมด และการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้เพื่อความสะดวกง่ายดาย เพื่อความสนุกสนานและการพักผ่อนของมนุษย์ จะมีการเปิดศักราชใหม่ในวงการแพทย์ การเกษตร การสื่อสาร เทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมและการขนส่ง นับเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่สำหรับมุสลิมทุกคน ที่ได้รับรู้ข่าวอันน่ายินดีแห่งช่วงเวลาเป็นสุขนี้ ยุคที่เจริญรุ่งเรืองจะผ่านมาด้วยการมาของมะฮฺดี และหลักธรรมคำสอนอันประเสริฐที่จะเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าหลักคำสอนนั้น คือ หลักคำสอนจากอัล-กุรอาน​


    มารู้จักมะฮฺดีย์

    รายงานจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอะฮฺลุบัยต์ (อ.) จำนวนมากมายกล่าวถึงคุณลักษณะของอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เอาไว้ แต่ ณ ที่นี้จะขอกล่าวบางส่วนเท่านั้น เช่น กล่าวว่า ​

    อิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เป็นผู้มีใบหน้าสวยงาม หน้าผากกว้าง คิ้วโค้งเป็นรูปเดือนเสี้ยว ดวงตาดำสนิทส่องประกาย จมูกโด่งเป็นสันยาว ฟันเรียงสวยและขาวเป็นประกายมุข หัวไหล่ด้านขวามีไฝสีดำ ระหว่างหัวไหล่ทั้งสองมีสัญลักษณ์คล้ายสัญลักษณ์ของนบูวัต อิมามมีร่างกายสูงใหญ่สมส่วน​

    คุณลักษณะบางประการของอิมาม (อ.) ทราบได้จากคำอธิบายของอิมามท่านอื่น เช่น กล่าวว่า อิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เป็นผู้ดำรงการเคารพภักดีเสมอ มีความยำเกรงและใช้ชีวิตเรียบง่าย มีความอดทนสูง มีความยุติธรรม และประพฤติดี อิมามจะมาพร้อมกับความรู้และวิชาการที่สร้างความตะลึงงันแก่ชาวโลก เป็นผู้ยืนหยัด เป็นผู้นำโลก เป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก เป็นผู้ปลดปล่อยโลกจากอธรรมความชั่ว ผู้ถูกสัญญาให้เป็นผู้ปรับปรุงแก้ไขโลกมนุษย์ ​

    อิมามเป็นทายาทของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และเป็นบุตรของฟาฏิมะฮฺ (อ.) เป็นทายาทคนที่เก้าของท่านซัยยิดุชชุฮะดา (อ.) ท่านจะปรากฏกายข้างบัยตุลลอฮฺ มือข้างหนึ่งจะถือธงของท่านศาสดา ท่านยืนหยัดเพื่อฟื้นฟูศาสนาของพระเจ้า และเพื่อนำบัญญัติของพระเจ้าขึ้นปกครองโลก ท่านจะสถาปนาโลกให้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความยุติธรรม ดั่งที่โลกเคยเปี่ยมไปด้วยความอยุติธรรม​

    สภาพชีวิตของท่านอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) แบ่งออกเป็น 3 ช่วงดังนี้

    1. ช่วงที่ลำบากที่สุด หมายถึงช่วงที่อิมาม (อ.) ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ นับตั้งแต่วันที่ท่านประสูติจนกระทั่งถึงวันที่อิมามฮะซัน อัซการีย์ (อ.) ชะฮีด​

    2. ช่วงของการเร้นกาย เริ่มตั้งแต่วันที่อิมามฮะซันอัซการีย์ (อ.) ชะฮีด จนกระทั่งถึงวันที่พระเจ้าทรงกำหนดให้ปรากฏกายอีกครั้ง​

    3. ช่วงของการปรากฏกาย หลังจากการเร้นกายที่ยาวนาน ท่านจะปรากฏกายอีกครั้งหนึ่งตามพระประสงค์ของพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก และจะสถาปนาความยุติธรรมขึ้นปกครองโลก พร้อมกับทำให้โลกเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดี และความสวยงาม ไม่มีบุคคลสามารถทราบได้ว่า อิมาม (อ.) จะปรากฏกายเมื่อใด ดังที่อิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) กล่าวว่า บุคคลใดกำหนดวันปรากฏกายให้กับฉัน เขาได้พูดโกหก​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    มาย้ำอีกทีนะคะ เพราะวันที่ใกล้เข้ามาแล้ว
    งานนี้ไม่ใช่ของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัตินะคะ
    บอกไว้ก่อนค่ะ กันการผิดพลาด
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องแม่พระแห่งคาราบัล ประเทศสเปน

    [​IMG]

    ในวันที่ 18 เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1961 อัครเทวฑูตไมเคิลได้ปรากฏมาพบเด็กหญิง 4 คน คือคอนชิต้า อายุ 12 ปี จาซินต้า อายุ 12 ปี มารี อายุ 11 ปี และมารี - โลลี อายุ 12 ปี เด็กทั้งสี่มิได้เป็นญาติกัน อัครเทวฑูตได้ปรากฏมาพบเด็กทั้งสี่ 8 ครั้ง ใน 12 วันโดยไม่ได้ เอ่ยปากพูดอะไร แล้วในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1961 ก็ได้แจ้งแก่เด็กทั้งสี่ว่า ในวันรุ่งขึ้นแม่พระจะปรากฏมาหาพวกเขา คาราบันดัลเป็นตำบลเล็ก ๆ มีประชาชนประมาณ 300 คน ในจังหวัดซานตานเดร์ ประเทศสเปน บนเทือกเขากันดาเบรียน ในหมู่บ้านนี้จะ มีต้นสนขึ้นเรียงราย 9 ต้นเป็นจุดที่แม่พระมาปรากฎพบเด็กหญิง 4 คนนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1961 - 1965 แม่พระได้ปรากฎมาประมาณสองพันครั้ง พวกเด็กได้บรรยายถึงแม่พระว่า

    " เป็นหญิงงามอายุราว ๆ 18 ปี แม่พระสวมเสื้อชุดขาว มีผ้าคลุมสีน้ำเงิน และถือสายจำพวกเหรียญห้อยคอ แต่ใช้แถบผ้าแทนสร้อยสีน้ำตาล ในมือขวา แม่พระสวมมงกุฎประดับด้วยดาว 12 ดวง แม่พระมีผมสีน้ำตาลเข้มและแสกผมตรงกลางศีรษะ ใบหน้ารูปไข่ มีจมูกเรียวงาม ไม่มีหญิงใดสวยเท่าแม่พระ " พวกเด็ก ๆ บรรยายเสริมเช่นนั้น

    การมาปรากฏของแม่พระทุก ๆ ครั้งจะเป็นไปโดยเด็กทุกคนจะได้ยินเสียงเรียกภายในใจ ซึ่งพวกเขาจะรู้สึกปีติยินดี แล้วแม่พระจะเรียก เป็นครั้งที่ 3 แล้วต่างคนต่างออกจากบ้านของตัวเองวิ่งมาพบแม่พระที่จุดเดียวกันตามที่แม่พระจะบอกว่าไปที่ไหน แล้วทุกคนจะคุกเข่าลง และรู้สึกแน่นิ่งเข้าสู่ภวังค์ ใครจะเอาไฟส่องหน้าหรือเอาเข็มหมุดจิ้มก็จะไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

    ในวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1961 แม่พระได้มอบสาสน์ฉบับแรกแก่โลก แม่พระบอกเด็ก ๆ ให้แจ้งแก่โลกในวันที่ 16 เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1961 มีใจความว่า

    " มนุษย์จะต้องทำกิจใช้โทษบาปและทำพลีกรรมให้มาก ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดพวกมนุษย์จะต้องประกอบกรรมดี มิฉะนั้น การลงทัณฑ์จะคอยอยู่ข้างหน้าแน่นอน ถ้วยแห่งพระพิโรธเต็มแล้ว หากเรายังไม่เปลี่ยนก็จะต้องถูกลงโทษ "

    ในวันที่ 1 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1965 แม่พระได้บอกคอนชิต้าว่าเทวดาไมเคิลจะปรากฎมาพบเธอในวันที่ 18 เดือนมิถุนายน เพื่อแจ้ง สาสน์สุดท้ายของแม่พระแก่โลกทั้งมวล เพราะเหตุว่าสาสน์ฉบับแกรของแม่พระไม่ได้รับความสนใจ แล้วอัครเทวฑูตไมเคิลก็มาพบ คอนชิต้าจริง และได้มอบสาสน์ฉบับสุดท้ายของ แม่พระคาราบันดัล ให้เธอเพื่อประกาศให้โลกรู้ มีใจความดังนี้

    " ก่อนหน้านี้ ถ้วยกำลังเต็มแต่เดี๋ยวนี้มันกำลังล้นออกมาแล้ว มีพระสงฆ์มากมายที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งหายนะ พวกเขานำวิญญาณ มากมายไปด้วย ... เราจะต้องหลีกเลี่ยงพระพิโรธของพระเจ้าที่มาสู่เราด้วยความพยายามอย่างสุดกำลังของเรา "

    จากสาสน์สุดท้ายของพระแม่คาราบันดัล ได้เตือนว่าเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการกำลังมาถึงคือ

    (1) สัญญาณเตือน เหตุการณ์แรกจะเป็นการเตือนที่มาจากพระเจ้ามาสู่มนุษย์ทุกคนบนโลก แม่พระบอกว่าการเตือนนี้จะมีไปถึงมนุษย์ ทุกคนบนโลก ก่อนจะเกิดอัศจรรย์เพื่อโลกจะได้ปรับปรุงตัวเอง สัญญาณเตือนนี้จะมาโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า และจะมองเห็นได้ทั่วโลก อาจเกิดบนท้องฟ้า เช่น ดาว 2 ดวงเกิดชนกันจะก่อให้เกิดเสียงกัมปนาทก้องไปทั่วโลก เกิดแสงจ้าสว่างไสว แต่มันจะไม่ตกลงมา และจะไม่ทำอันตรายผู้ใด แต่ทุกคนจะเห็นมันและสำนึกถึงบาปบุญคุณโทษ ไม่มีผู้ใดจะไปยับยั้งสัญญาณเตือนนี้ได้

    ขณะที่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างจะหยุดชะงักชั่ว 2 - 3 วินาที แม้กระทั่งเครื่องบิน ที่กำลังบินบนท้องฟ้า การเตือนนี้เป็นเหมือนการลงโทษ มันเป็นสิ่งน่ากลัวทั้งสำหรับคนดีและสำหรับคนชั่ว มันเป็นการดึงคนดีให้ขยับเข้าไกล้พระ และเตือนคนชั่วให้รู้ว่าเวลาเหลือน้อยแล้ว การเตือนนี้เป็นเหมือนการชำระล้างชนิดหนึ่งเพื่อเตรียมรับอัศจรรย์ เมื่อการเตือนผ่านไปแล้วเราก็จะเข้าไกล้สิ้นยุคซาตาน มนุษย์แต่ละคนจะมีประสบการณ์ภายในใจด้วยแสงสว่างของพระเจ้า และก็จะรู้ว่าตัวเองมีบุญมีบาปมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าผู้ที่เชื่อในพระเจ้าหรือผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าก็จะรู้ซึ้งถึงการเตือนอันนี้

    เราจะเห็นสัญญาณเตือนด้วยตัวเราเอง และจะรู้สึกภายในตัวเราเอง เพราะมันจะกระจ่างแจ้งเลยทีเดียวว่ามาจากพระผู้เป็นเจ้า การเตือนนี้เป็นอะไรที่จะเห็น ในอากาศก่อนอื่นหมดทุก ๆ แห่งทั่วโลกและในทันทีทันใดก็ส่งต่อเข้าไปภายในจิตวิญญาณของเรา การเตือนนี้จะคงอยู่ไม่นานนัก แต่มันดูเหมือนจะเป็นอยู่นานทีเดียว ทั้งนี้เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกภายในใจเรา มันจะเป็นสิ่งดีสำหรับจิตวิญญาณของเรา เพื่อว่าเราจะได้เห็นมโนธรรมของเราด้วยตัวของเราเอง

    เพระฉะนั้นทุกคนจะต้องเตรียมตัวสำหรับวันนั้น แต่จะต้องไม่คอยมันด้วยความกลัว พระเจ้าไม่ต้องการส่งอะไรที่เป็นเหตุแห่งความกลัว แต่พระองค์จะส่งอะไรมาเพราะความรักและ ความยุติธรรม พระองค์กระทำสิ่งนี้ก็เพื่อความดีของลูก ๆ ทุกคนของพระองค์ เพื่อว่าลูก ๆ เหล่านี้จะได้เสวยสุขตลอดกาลนิรันดร มิใช่พินาศไปชั่วนิรันดร

    (2) มหัศจรรย์ แม่พระได้สัญญาว่ามหัศจรรย์จะเกิดที่สวนสน มันจะเกิดในวันพฤหัสบดี เวลา 2 ทุ่มครึ่ง ระหว่างวันที่ 8 - 16 ระหว่าง เดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม อัศจรรย์นี้จะเกิดขึ้น 1 ปี หลังจากสัญญาณเตือน

    (3) เครื่องหมายถาวร เครื่องหมายถาวรนั้นจะคงอยู่ตลอดไปอันเป็นผลอัศจรรย์นั้น มันจะเป็นเครื่องหมายที่มีกำเนิดเหนือธรรมชาติและ เป็นอะไรที่ไม่มีใครเห็นมาก่อนในโลก เครื่องหมายอัศจรรย์นี้ เราจะสามารถถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอได้ มันจะคงอยู่ที่ต้นสนเหล่านั้น แต่ไม่มีใครสามารถจับต้องมันได้ มันจะเป็นเหมือนกลุ่มควันรูปร่างคล้ายเล่า ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายที่จะคงอยู่ตลอดไปบนต้นสน

    (4) การลงทัณฑ์ ถ้ามนุษย์ไม่เปลี่ยนหลังการเตือนและอัศจรรย์เกิดขึ้นแล้ว การลงทัณฑ์ของพระเจ้าจะมาแน่ มันจะแย่ยิ่งกว่ามีไฟสุมหัวเราอีก ไฟข้างใต้ ไฟรอบตัวเรา ต่อให้หนีไฟไปที่ทะเลก็หนีไม่พ้นที่จะกล่าวทั้งหมด ผมพยายามเสนอให้เห็นภาพรวมของ " โปรแกรมของพระเจ้า " ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้ในมุมมอง ของชาวคาทอลิก

    ที่มา http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33386
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    " คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่เกาะไม่อยู่ "

    [​IMG]
    ภาพ พระอาจารย์รัตน์ แห่งสมาธิหมุน

    คืนหนึ่งภายหลังจากการฝึกสมาธิหมุนจบสิ้นลง หลวงพ่อมักจะเปิดโอกาสให้ถามคำถามต่าง ๆ ที่ผู้มาฝึกเกิดสงสัยขึ้น หากไม่มีคำถามหลวงพ่อก็มักจะเล่าประสบการณ์ของท่านให้ฟังกัน คืนนั้นท่านพูดถึงการขึ้นไปเผยแพร่ธรรมะบนดอยของท่าน รวมไปถึงการประกอบพิธีสมโภชพระธาตุที่สร้างขึ้นบนดอย ซึ่งขณะที่กำลังบรรจุพระธาตุเข้าองค์เจดีย์นั้น ฟ้าที่ขมุกขมัวก็เปิดเป็นแสงสว่างจ้าส่องลงมาเป็นลำ สร้างความแปลกใจแก่คนที่อยู่ในพิธี หลวงพ่อบอกว่า ท่านถึงกับขนลุก ซึ่งผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ยังอดแปลกใจไม่ได้

    จากนั้นท่านเล่าว่า ขณะที่ท่านจะแผ่เมตตานั้น ท่านไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะว่าวิญญาณบนดอยไม่ยอมรับการแผ่เมตตานั้น เนื่องจากถึง เวลาที่พวกเขาจะได้ลงมาเกิดแล้ว ท่านได้อธิบายต่ออย่างละเอียดว่า แต่เดิมชาวเขาไม่ได้อยู่บนดอย แต่อยู่ในที่ลุ่มเป็นเจ้าแผ่นดินเดิม พระของพวกเขาจะกินเจคล้าย ๆ กับพระจีน แต่เมื่อพุทธศาสนาลังกาวงศ์เข้ามาสู่ประเทศไทยสมัยสุโขทัย พระของลัทธิลังกาวงศ์นั้น ฉันเนื้อได้ และมีลักษณะเหมือนพระในปัจจุบัน พวกเจ้าถิ่นเดิมก็ถูกทำลายล้าง จนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนดอยนับตั้งแต่นั้นจนเหลือชาวเขา ในปัจจุบัน ซึ่งบัดนี้วิญญาณที่ถูกทำลายล้างไปนั้น ได้เวลาที่จะกลับลงมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ยอมรับการแผ่เมตตาที่ได้แผ่ไปให้

    " มันเป็นกรรมของพวกเขา เคยทำอย่างไรกับพวกเขาก็จะต้องโดนกลับคืนบ้าง อีกหน่อยพระทั้งหลายจะต้องถูกยึดเงินจนหมด และก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพพระเช่นนี้ได้ เมื่อเรื่องพระหมดไปหลังจากนั้นอีกประมาณปีครึ่งก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 "

    ผมถึงกับตะลึงที่ท่านพูดถึงเรื่องนี้ออกมาโดยไม่มีใครถามท่านเลย และเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินกับหูที่ท่านได้พูดถึงเรื่องอนาคต ท่านบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากเล่านัก เพราะจะทำให้คนตื่นกลัวกัน แต่ที่ท่านเล่าให้ฟังก็เพื่อไม่ให้พวกเราประมาท และเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในวิสัยของท่านที่จะรู้ได้

    " โยมก็จำเอาไว้เล่น ๆ ก็แล้วกัน ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นก็จะนึกได้ว่า อ๋อ หลวงพ่อเคยพูดไว้ "

    ท่านกล่าวอย่างติดตลก ในคืนถัดมาเมื่อผมได้มีโอกาสซักถามกับท่านโดยตรง ท่านได้เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน มีการระบุถึงบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ผมคงจะขอข้ามส่วนนี้ไป เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเกินไป และโดยส่วนตัวแล้ว ผมสนใจในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นมากกว่า

    " ถ้าเกิดสงครามโลกแล้วเราจะทำอย่างไรดีครับ ? " มีคนถามขึ้น

    " ไม่ต้องกลัวหรอกโยม " ท่านตอบ

    แต่แทนที่คำตอบของท่านจะทำให้หายกลัว สำหรับผมแล้วกลับตะลึงหนักเข้าไปอีก เพราะท่านได้พูดต่อว่า

    " ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้อยู่ทันดูสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า "

    หลายคนอาจดีใจว่า สงครามโลกอาจจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิดซึ่งตัวเองก็คงตายไปเสียก่อนอะไรทำนองนั้น แต่ในความคิดของผม คนเราอาจมีสิทธิ์ตายจากภัยพิบัติอย่างอื่นได้ก่อนเกิดสงคราม ซึ่งหลังจากนั้นหลวงพ่อได้เล่าต่อไปว่า การใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลืองจะทำให้ ธาตุต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโลกแปรปรวนในแกนกลางของโลกซึ่งเอียงอยู่ประมาณ 23 องศาครึ่ง จะมีมโนธาตุมากขึ้น คือมันจะกลวง และเบาขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันจะพลิกตัวลงอย่างกระทันหัน (หลวงพ่อทำมือให้ดู)

    "ทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงแก่มนุษย์ทั้งหลาย คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่ไม่อยู่"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    คนที่จะรอดได้ก็คือคนที่สามารถตัด " จิตใจ " ออกจากร่างกายที่เจ็บปวดได้เท่านั้น (ท่านยกตัวอย่างคนที่ถูกผ่าตัดแล้วไม่เจ็บ) และท่านยังบอกว่าการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดเร็วยิ่งขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านบอกว่าแกนโลกจะพลิกนั้นเป็นอย่างเดียว ' Pole Shift ' หรือเปล่า ?

    หลวงพ่อท่านกล่าวต่ออีกว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะมากขึ้น อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ (จากกรุงเทพ ฯ ถึงนครสวรรค์จะจมน้ำหมด และศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่ที่ลำพูน)

    สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้น ท่านบอกว่าอาวุธนิวเคลียร์จะไม่น่ากลัวเท่า " อาวุธแสง " ซึ่งขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สหรัฐที่ได้รับรางวัล โนเบลในปี ค.ศ. 1995 ได้ค้นพบอนุภาคที่เป็นต้นกำเนิดของอาวุธแสงแล้ว เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่ามันสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้เท่านั้นเอง ซึ่งอนุภาคตัวนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นตัวที่ทำให้แรงชนิดที่ 6 (พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าแรงมี 7 ชนิด) ซึงสามารถทะลุทะลวงผ่านทุกสิ่งไปได้ ตัวอนุภาคนี้เองที่เป็นตัวเดียวกับที่หลวงพ่อเรียกว่า "เส้นแสง" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของจักรวาล

    ท่านยังให้ข้อสังเกตว่า 1 ปีก่อนเกิดสงครามโลก คนสามารถขึ้นไปสร้างบ้านเรือนอยู่บนอวกาศและสามารถทำกลางคืนให้เป็นกลางวันได้ คู่สงครามที่จะเกิดในครั้งนี้คือเอเชีย (จีน ?) กับยุโรป การทำลายล้างนั้นจะใช้อาวุธแสงยิงมาจากอวกาศ ไล่ยิงกันเป็นแนวไปสิ้นสุดที่พีรามิด บรรยากาศหลังจากที่หลวงพ่อพูดจบ มันเงียบอย่างบอกไม่ถูก จนหลวงพ่อต้องถามขึ้นว่า

    " ใครอยากช่วยไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ (ภัยธรรมชาติ) เกิดขึ้นบ้าง? ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็ต้องเลิกใช้นำมันกันให้หมดจะทำได้ไหมล่ะ ? "

    ไม่มีใครตอบท่านเลย ... สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือสัญญาณเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น ซึ่งพอสรุปได้ว่าก่อนเกิดสงครามโลก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งจะมีเหตุการณ์ เหล่านี้เป็นสัญญาณคือ ... ในไทยพระจะถูกยึดเงิน ในระดับโลกจะมีการสร้างบ้านเรือนบนอวกาศ แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งมีทางเป็นไปได้ โดยตรรกะว่าเมิ่อเกิดภัยธรรมชาติจะเกิดความแร้นแค้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งต่าง ๆ อันจะเป็น ชนวนให้เกิดสงครามขึ้นมาได้ แต่ที่สำคัญก็คือระยะเวลาเหลืออีกเท่าไร เดือนสิงหาคใมใช่หรือไม่ ? หลวงพ่อท่านบอกว่าระบุไม่ได้ ขนาดนั้น ผมจึงต้องถามท่านใหม่ว่า

    " อีกประมาณ 4 - 5 ปีข้างหน้านี้ใช่ไหมครับ " ท่านตอบว่า " ประมาณนั้น "

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังการฝึกในช่วงเช้ามืดจบลง หลวงพ่อท่านได้บอกเคล็ดลับของการฝึกสมาธิหมุนให้แก่ผู้อบรมที่ยังเหลืออยู่ จากนั้นท่านก็ให้พรและกล่าวลากับทุกคน ผมจากวัดของหลวงพ่อมาหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ริม 2 ข้างทางนั่นสงบเงียบเหลือเกิน แต่ในจิตใจของผมล่ะ ...

    ผมเองไม่รู้สึกตื่นกลัวมากนัก ถ้าหากเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริง อาจเป็นเพราะผมเองก็มีภาพเหล่านั้นอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะร้าย แรง และรวดเร็วอย่างที่หลวงพ่อท่านบอก โดยส่วนตัวของผมบัดนี้ได้พบคำตอบแล้วว่า ทำไมความรู้สึกก่อนมาที่วัดนี้ของผมจึงเป็น ต้องไปมากกว่าควรไป

    สิ่งที่ผมได้รับรู้นั้นมันทำให้คลายความยินดีในเรื่องความสำเร็จทางการงานที่เพิ่งได้รับมาหมาด ๆ ลงอย่างหมดสิ้น สิ่งที่ผมนึกออกตอนนั้น ก็คือ

    " ต่อไปนี้เราจะประมาทไม่ได้แล้ว "

    (แหล่งที่มา จากหนังสือ มังกรจักรวาล1 ตอนสมาธิหมุน นอสตราดามุส และมนษย์ต่างดาวว่าด้วยญาณทัศนะกับหายนะของโลกก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)

    ที่มา http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33386
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...