อาดาวคับ ผมคิดเหมือนอาดาวเลยคับ
เวลาทำสังฆทาน ผมมักจะจัดชุดเอง เลือกแต่ของที่เรารู้สึกดี อยากใช้
เวลาตักบาตร ถ้าไม่รีบจนเกินไป(ตื่นสาย กลัวไม่ทันพระ)
ก็จะเดินซื้อกับข้าวตามร้านที่ทำขายทั่วๆไปใส่บาตรมากกว่าที่จะเอาชุดสำเร็จครับ รู้สึกว่าเป็นอาหาร เป็นของกินมากกว่าเยอะเลยครับ
ช่วงนี้เริ่มเห็นทุกข์อีกแล้วครับ พอเห็นทุกข์ที ก็สลดที เห็นธรรมที
พอสบาย หาเงินได้เยอะๆ ก็เหลิง ก็ลืมธรรม วิ่งหาอะไรไม่รู้ที คนเราไม่รู้จักเข็ดจักหลาบ สมน้ำหน้ามันคับ
แบบว่าเห็นยายแล้วสงสารยายคับ
ทั้งชีวิต ไม่มีอะไรดีสักอย่าง..
ตั้งแต่เริ่มต้น จนบั้นปลาย มีแต่เรื่องแย่ๆ
มีลูก ลูกก็ไม่ดูแล มีแต่หาเรื่องให้ตลอด (เลยต้องมาอยู่กับไอ้หลานบ้าๆบอๆนี่)
งานก็ทำหนักมาตลอดชีวิต
สุดท้ายบั้นปลายเข่างอไม่ได้มาเกือบสิบปี แขนขวาก็งอไม่ได้
ตาเคยเป็นต้อกระจกมองไม่เห็น ผ่าตัดไปก็หาย
ผ่านมา 5 ปี ตอนนี้ก็จะมองไม่เห็นอีกแล้ว เพราะเบาหวานขึ้นตาอีก
แถมโรคนู่น โรคนี่อาการนู่นนี่สารพัด
เอ้อ.. ไม่รู้จะเล่นอะไรหนักหนาขนาดนี้ น่วมทั้งกาย น่วมทั้งใจ
น่วมจริงๆครับ.. คนเป็นหลานเห็นแล้วปวดใจคับ..
ไม่รู้ทำไมผมถึงเจอเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อย
พ่อก็รอบนึง
ยายก็อีก..
คือไม่ได้รู้สึกลำบาก รำคาญหรือท้อนะฮะ ตอนนี้มีกำลังพอจะดูแลได้อยู่
เพียงแต่รู้สึกว่าทำไมหนอ ชีวิตคนถึงต้องลำบากขนาดนี้
เอ้อ.... กรรมหนอกรรม...
ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค
ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.
หน้า 125 ของ 178
-
ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของ อ.suwi และขออนุโมทนาบุญในการใส่บาตรของพี่ดาวทะเลทรายด้วยนะครับ ^^
-
บางทีชาตินี้ก็ไม่ได้เจอกันนะ
บางทีเขาเกิดปุบปั้บ มีปัญญามีดวงตาเห็นธรรมเข้า เขาขอตัดกรรมไม่จองเวรกะใครแล้ว เขาอโหสิหมด ข้าขอเข้าสู่กระแสธรรมแล้ว
แหม..พวกเราเวลาทำบุญทำทาน ไปเข้ากรรมฐานกัน บางทีเห็นโน่นเห็นนี่เห็นนั่น วุ้ยตูไม่เอาแล้ว ตัดๆมันซะให้หมด อโหสิมันซะให้หมด ไม่ผูกเวรกะใครแล้ว
เอ..แล้วยังงี้ กรรมก็เป็นหมันนะซิ เจ้าของเรื่องเขาไม่เอาเรื่องแล้วนี่ ไอ้คนทำผิดก็ลอยนวลซิ
เปล่าเลยท่านที่รักทั้งหลาย ระบบกรรมมันมีอยู่ มันทำงานด้วยความเที่ยงตรงเสมอ
เมื่อตัวจริงไม่มี ก็ต้องมีผู่ทำแทน แม้แต่นิสัยของตัวเอง ก็สามารถทำแทนได้เช่นกัน
ผู้ทำแทนก็เจ้ากรรมนายเวรกำมะลอนั่นแหละ
แล้วนิสัยของตัวเอง เป็นผู้ทวงถามกรรมได้อย่างไร
ก์็นิสัยเลวๆที่เพาะบ่มไว้ไง ชอบตีหัวหมาด้่าแม่เจ็ก วันหนึ่ง ก็โดนเข้าบ้าง
นิสัยชอบกินเหล้าหัวราน้ำ ทั้งๆที่รู้ว่าทำให้ตับแข็งก็ยังกิน
นิสัยชอบกินหวานๆมันๆ ใสน้ำตาลเยอะๆ กินข้าวคากิทีละกะมังหนึ่ง ใครห้ามก็ไม่ฟัง แล้วโรคเบาหวาน ไขมันอุดตัน เส้นเลือดตีบ โรคหัวใจ ก็ขอมาอยู่ด้วย
แก้ยังไง
ก็เริ่มต้นอุทิศบุญให้ตัวเองไง ให้ตัวเองตั้งอยู่บนสัมมาฐิทิ อย่าเห็นผิดเป็นชอบ ฯลฯ
แล้วก็อุทิศให้ไอ้เจ้ากรรมนายเวรกำมะลอไง ให้มันเป็นสุขเป็นสุขซะ อย่าก่อเวรกันเลย
แล้วก็สอนมันว่า ไอ้ที่มันทำเรานะ มันก็ตกอยู่ใต้กฏแห่งกรรมนะ ไม่ว่าใครจะทำดีทำบาปอะไรไว้ สุดท้าย ผู้กระทำก็ต้องเสวยผลบุญกะบาปที่ทำไว้เช่นกัน
แหม...เป็นไปตามตำราเปี้ยบเลย
สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา
กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณา
ยัง กัมมัง กะรัสสันติ, กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา,
ตัสสะ ทายาทา ภาวิสสันติ -
แล้วเราจะสร้างบุญที่มาก ดุจดังห้วงน้ำในมหาสมุทรนี้ได้อย่างไร
------------------่--------------
อาจารย์ค๊ะ อยากรู้คำตอบค่ะ ของหัวข้อข้างบนจังเลยค่ะ
-
แล้วเจ้ากรรมนายเวรตัวจริงเสียงจริงนะมีมั่งไม๋ ที่มาทวงถามความแค้นกัน
มีซิมีแน่ๆ ที่หมอสุวิพบเห็นก็
ไอ้พวกทำแท้งไง ไอ้หนูอีหนูมันกลับมานอนมั่งนั่งมั่งอยู่ในมดลูก ปีกมดลูกกันเป็นแถว ไอ้พวกที่หิว มันก็เกาะเอวดูดนมกินกันจุ๊บจั๋บๆ
พวกที่เป็นมะเร็ง เนื้องอก ซิสต์ชนิดต่างๆที่มดลูกปีกมดลูก รวมทั้งที่เต้านมด้วย ร้อยละ แปดสิบ-เก้าสิบที่เดียวที่เกิดจากเหตุนี้
ไอ้พวกที่ไปตัดต้นไม้ที่มีเทวดาอยู่นี่ก็ ถูกทวงถามกันจนหมดเนื้อหมดตัว
ฯลฯ โอ้ยจารนัยกันไม่หมด
แต่ไอ้พวกเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นตัวแทนกำมะลอนี่ มีมากกว่าเยอะเลย -
จุ้ย เอ้ยจุ้ย..
นีเป็นสภาพธรรม(กรรม)ที่แสดงให้เห็นชัดๆ
ท่องไว้นะ ท่องให้ขึ้นใจ มองให้เห็นด้วยจิตนะ
เมตาต่อตนเอง เมตตาต่อผู้อื่น ให้มากๆนะ
สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา
กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณา
ยัง กัมมัง กะรัสสันติ, กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา,
ตัสสะ ทายาทา ภาวิสสันติ -
พระพุทธองค์ได้สอนวิธีทำบุญไว้ให้เราแล้วหมดสิ้น ดังปรากฎใน"บุญกริยาสิบ"
ไปถามรายละเอียดจากอากู๋(เกิล)ดูนะ
จากบุญกริยาสิบนี่เขาย่อเหลือเพียงสามแบบนะ ก็ "ทาน ศีล ภาวนา" ไง
๑ การให้ทาน นี่มีหลายรูปแบบนะ การใส่บาตร ถวายสังฆทานการสร้างพระพุทธรูป สร้างโบถส์วิหาร นี่ก็เป็นทานนะ
๒ การรักษาศีล มีศีลห้า ศีลแปด ศีลสิบ ศีล๒๒๗ เลือกเอาตามใจนะ
๓ การภาวนา มีสองรูปแบบใหญ่นะ เป็นสมถะ และวิปัสนา
ท่านว่าการทำบุญนี่ควรทำให้ครบ ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา (ภาวนา-อำนาจ,ทาน-วาสนา, ศีล-บารมี)
ไม่ใช่ถือว่า การภาวนานี่เป็นบุญใหญ่ ก็เลยนั่งภาวนาแบบหัวตอ เอานิ่งในนิ่งเป็นสรณะ ไม่ใส่ใจอย่างอืนเลย(จะได้ศีลด้วย) โดยเฉพาะเรื่องทาน
นี่เป็นมิจฉาทิฐือย่างหนึ่ง อำนาจของสมาธิยังให้เกิดเป็นพรหม แต่ไม่มีบุญในเรื่องของทานบารมี นี่ก็มีแต่อำนาจสูงแต่ก็ไร้วาสนา
เรื่องของการรักษาศีล และการภาวนานี่ ไม่มีอะไรลึกลับ เขาสอนกันอยู่ทั่ว
ดังนั้นหมอสุวิจะเล่าเรื่องทานบารมี ในส่วนที่ซ่องเงื่อน -
บริวารน้อย คือหาคนช่วยงานที่ดีๆ ไม่ค่อยได้นี่เป็นขาดบารมีหรือเปล่าค๊ะอาจารย์
ส่วนตัวทำทานบ้าง ศิลไม่ค่อบครบข้อมุสาพูดว่า ด่าลูกประจำเลยค่ะ ยิ่งภาวนาหนู่ยิ่งไม่ได้ทำเลยค่ะ ง่วงทุกที มีข้ออ้างเรื่อย เลยค่ะอาจารย์
รอฟังอาจารย์ต่อเรื่องทานบารมี ในส่วนที่ซ่องเงื่อน ต่อค่ะ -
พระพุทธองค์ กล่าวถึงทานบารมีที่เป็นเลิศ ชนะการให้ทั้งปวงคือ "การให้ธรรมเป็นทาน"
ทานตัวที่สองที่พระองค์สรรเสริญ คือ อภัยทาน แม้การให้ชีวิตแก่สัตวทุกชนิดก็อยู่ในหัวข้อนี้
ทานตัวต่อไป คือการสร้างวิหารทาน ท่านกล่างในทำนองว่า วิหารที่สร้างเพื่อพระภิกษุหมู่ใหญ่ได้ใช้สอย นี่เปรียมดังสร้างให้พระพุทธองค์ใช้สอยเอง
การสร้างพระพุทธรูปนี่ก็เป็นวิหารทานอันเลิศ เป็นที่สักการะของภิกษุและชนหมูมาก
การอุปฐากภิกษุอาพาธ ก็เปรียบดังอุปถัมต์อุปฐากตรงต่อพระองค์เอง
ทั้งหมดนี่เป็นทานหลักๆที่หมอสุวิชอบเรียกร้องให้คนไข้อาการหนักๆทำ ก่อนมาพบหมอ
สรุป
๑ ให้ธรรมเป็นทาน
๒ ปล่อยชีวิตสัตว์ใหญ่
๓ สร้างพระพุทธรูปองค์ยิ่งใหญ่ยิ่งดี
๔ สร้างโบถส์วิหารที่ใหญ่ๆมีคนเข้ามาใช้เยอะๆ
๕ ทำสังฆทาน/เลี้ยงพระ หรือภิกษุอาภาธ ยิ่งมากยิ่งดี
ทำเองทั้งหมดไม่ไหว ก็ร่วมทำกับเขาสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ขอให้ทำด้วยหัวใจปิติเต็มร้อยก็พอ (ไม่ใช่สักแต่ทำให้เสร็จๆไป จะไม่ได้บุญ)
เอ...ที่เล่ามานี่ก็ไม่เห็นมันลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนตรงใหน ชาวบ้านเขาก็รู้กันหมดแล้วนี่หว่า
เอ..ทริกมันอยู่่ตรงใหนหว่า -
เอ..ทริกมันอยู่่ตรงใหนหว่า
ยกมือ ขอเดา เดา เดา ค่ะคุณอา
อยู่ตรงตอนตั้งจิต และการอธิษฐานบุญป่าวคะคุณอา
แต่ทำมั้ยยย เราอธิษฐานไม่เห็นใช้ได้ซักอย่างเลย
หรือต้องเน้น โดยพลัน ทันตา ณ บัดนาว อะไรงี้เหรอคะ -
สวัสดีคุณหมอสุวิครับ รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ
ก่อนที่ผมจะเริ่มป่วยผมปวดบริเวณเอวข้างซ้ายด้านหลังและกระดูกสันหลังส่วนเอว บางครั้งปวดมาถึงเอวด้านหน้า ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ จนประมาณหนึ่งอาทิตย์เริ่มปวดคล้ายเป็นโรคกระเพาะอาหาร เวลากินอิ่มจะรู้สึกอยากอาเจียน และรู้สึกว่าตรงท้องด้านซ้ายของสะดือจะเต้นตุบๆๆ ถ้านอนหงายจะเห็นท้องเต้นเป็นจังหวะเหมือนหัวใจ เต้นดังจนได้ยินเหมือนเสียงหัวใจเต้นแรง และรู้สึกว่าท้องด้านซ้ายจะบวมกว่าด้านขวา จะปัสสาวะบ่อยมาก และบางครั้งจะปวดบริเวณท้องน้อย ปวดท้องเวลาหิว ร่างกายอ่อนเพลีย ตอนตื่นเช้ามาท้องว่างๆจะได้ยินเสียงท้องดัง ตอนนี้เป็นมาประมาณสองอาทิตย์ละครับ
ช่วยอนุเคราะห์ด้วยครับ ผมเป็นอะไรและรักษาตัวอย่างไรบ้างครับ -
ปูเสื่อรอฟังครับ ทริก ทริก :cool:
-
ขอขอบพระคุณอย่างสูงนะคะ ที่คุณหมอสุวิ กรุณาสละเวลาอธิบายเรื่องการทำบุญ เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งของดิฉันเลยค่ะ
-
สวัสดีค่ะ อ.สุวิ
ได้ติดตามอ่านคำแนะนำในการรักษาโรคต่างๆ มาระยะหนึ่ง ดิฉันสนใจการรักษาโดยใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคควบคู่กับการฝึกปราณ
ขอคำปรึกษาอาจารญืเกี่ยวกับปัญหาประจำเดือนและก้อนลมในท้องค่ะ
ดิฉันมีก้อนลมที่ท้องน้อยข้างขวาขนาดประมาณเท่าฟองไข่เป็ด กลิ้งไปมาได้ และมีอาการปวดบั้นเอวเวลานอนหงาย เคยไปนวดเพื่อบรรเทาการปวดหลังและบั้นเอว เมื่อกดลงไปที่ก้อนดังกล่าว จะปวดหน่วงไปที่ทวารหนักมาก บางครั้งก็รู้สึกลมตีขึ้นถึงคอ แต่ไม่ผายลมหรือเรอออกมา นวดไปสักพัก ก้อนก็กลับมาอยู่ท้องน้อยข้างขวาเหมือนเดิม หลังการนวด หมอจะให้ทานยากษัยเส้นตราเด็กในพานทอง แต่ก้อนลมดังกล่าวก็ยังอยู่
มีโรคประจำตัว คือ แพ้อากาศ (ตอนเด็กเคยเป็นโรคหอบหืด) เป็นคนค่อนข้างอ้วน แต่ขี้หนาว ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ปากแห้ง คอแห้ง ขอบตาคล้ำ และมักมีสิวผดเล็กๆขึ้นที่หน้าผากและแก้มตลอด และสิวอักเสบเป็นหนองบริเวณขมับทั้งสองข้าง ใต้คาง และหลัง บางครั้งก็ขึ้นที่ต้นแขนและเต้านม หลังมีประจำเดือน อาการนี้ลดลงประมาณ 1-2 วัน ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
โดยปกติทานอาหารตอนเช้า จะไม่รู้สึกหิวไปถึงเย็น แต่ก็ทานเป็นมื้อๆ ตามปกติทั้งที่ไม่รู้สึกหิว ไม่มีอาการเรอหรือผายลมจากอาการท้องอืด
ช่วงมีประจำเดือนจะปวดหน่วงที่ท้องน้อยและก้อนลมนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ปวดบั้นเอวด้วย อาการก่อนมีประจำเดือนจะค่อนข้างทรมานประมาณ 2 อาทิตย์ ปวดท้องน้อยหย่วงๆ เจ็บหน้าอก
โดยระยะ 10 ปีหลัง (ปัจจุบันอายุ 37 ปีค่ะ) ประจำเดือนลดปริมาณลงมาแค่ 1-2 วัน โดยมีอาการปวดท้องมากจนประจำเดือนหมด และท้องบวม (อาการปวดท้องจนกระทั่งประจำเดือนหมด เป็นมาตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน) ตอนเด็กรับประทานยาจีนเกี่ยวกับเลือดลม และอาการปวดท้องก็ไม่ดีขึ้น เคยไปอัลตราซาวน์ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
ล่าสุดมีผู้ใหญ่แนะนำให้ยาไทย นำมาต้มรับประทาน ระยะเวลา 20 วัน ช่วงที่ทานรู้สึกยาช่วยขับของเสียในร่างกายออกมา และประจำเดือนก็มาเพิ่มขึ้น ทานอยู่ 2 ชุด อาการก็เหมือนเดิม สิวหนอง กับสิวผดยังเป็นปกติ อาการปวดท้องในเดือนต่อมาก็ยังคงเป็น
ขอคำแนะนำอาจารย์ด้วยค่ะ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
<o:p> </o:p> -
ลุ้นซะยังกะภาคจบ season หนังซีรีย์แน่ะ :D
ช่วงนี้ท่าจะขาดแต่..วิหารทาน.. เพราะพึ่งถวายหนังสือสวดมนต์ให้วัดป่ามณีกาญจน์ไป สมทบบุญปล่อยช้าง+สร้างพระยืนแทนองค์ที่ตาลีบันระเบิดทิ้ง กับหลวงปู่บุญญฤทธิ์ กะพระที่คุณบาสจะไปถวายที่เขาคิชกูฎ
...ใครอ่านเจอเชิญโมทนาเอาเองเลยจ้า... -
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ก่อนอื่นขออนุโมทนาในบุญที่คุณหมอได้กรุณาสอนเรื่องการอุทิศและอธิษฐานบุญค่ะ
เพิ่งทราบความหมายของบทกรวดน้ำที่คราวนี้เอง
แต่ก่อนพอพระเริ่ม ยะถา ก็แผ่ไปตามความเข้าใจเลยค่ะ
วันนี้มารายงานเรื่องการกินใบแปะตำปึงเพื่อลดน้ำตาลของพ่อ (เผื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่น)
กินวันละ 3-4-5 ใบ ขึ้นอยู่กับขนาดว่าใบเล็กหรือใหญ่ (กินสด)
ครบเจ็ดวันก็เจาะน้ำตาลดู ปรากฏว่าจาก 134 mg/DL เหลือ 117 mg/DL ลดลงไป 17 mg/DL
ถือว่าโอเคนะคะ เพราะพ่อก็ทานอาหาร+ขนมปกติ
ตอนนี้ก็จะเริ่มกินต่ออีกอาทิตย์ค่ะ ดูว่าจะลดลงได้อีกไหม
แต่พ่อบอกว่าอาโกว (น้องสาวพ่อ) ซึ่งเป็นเบาหวานเหมือนกัน
กินยาดองมะกรูด แล้วปัจจุบันน้ำตาลคงที่ อยู่ที่ 70 mg/DL (อาโกวเคยกินใบแปะตำปึงแล้วแต่ไม่ได้ผล)
แต่พ่อไม่รู้ว่ากินมานานหรือยัง หนูเป็นห่วง กลัวผลข้างเคียงค่ะ
ไปเจอสูตรยาดองมะกรูดของอภัยภูเบศร์มาค่ะ
๑. กำแพงเจ็ดชั้น ๒๐ กรัม๑๐. น้ำสะอาด ๓๖๐๐ มิลลิลิตร
๒. เถาวัลย์เปรียง ๒๐ กรัม
๓. โคคลาน ๒๐ กรัม
๔. คำฝอย ๔๕ กรัม
๕. เปราะหอม ๒๐ กรัม
๖. กระชาย ๒๐ กรัม
๗. แห้วหมู ๒๐ กรัม
๘. เกลือ ๑๐๐ กรัม
๙. มะกรูด ๓๓ ลูก
วิธีทำ
๑. นำ สมุนไพรในข้อ ๑- ๗ มาห่อด้วยผ้าขาวบาง ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำ ๓๖๐๐ มิลลิลิตร ต้มเคี่ยวให้น้ำเหลือ ๑๒๐๐ มิลลิลิตร๔. จากนั้นนำน้ำาต้มสมุนไพรที่ีกำลังเดือด เทลงไปในโหล ปิดฝา ให้สนิท ตั้งทิ้งไว้้กลางแจ้ง ๓ วัน
๒. เติมเกลือลงไป ๑๐๐ กรัม
๓. นำมะกรูดมาผ่าซีกครึ่งลูก แล้วนำมาเรียงในโหล
สรรพคุณ
บำรุงเลือด ฟอกเลือด ยาอายุวัฒนะ แก้ปวดเมื่อย ถ่ายกระษัยเส้น
คุณหมอว่าจะช่วยเรื่องลดน้ำตาลได้ด้วยไหมคะ แล้วกินนานๆ มีผลข้างเคียง ทำให้ธาตุไม่สมดุลหรือเปล่าคะ
ขอบคุณค่ะ
-
ทานบารมี เป็นสิ่งจำเป็น
สร้างสม ไป เถิด ไม่ต้องกลัว ว่า จะมากไป
เพราะด้วยว่า บรรดาสิ่งของ ทั้ง ของกิน ของใช้ ทั้งหลาย
ที่ เราได้ กินได้ใช้ สุขสบายอยู่นี้
ล้วน ได้มาด้วยอำนาจ ทานบารมี ที่เคยได้ สร้างไว้ทั้งสิ้น
กินข้าว วันละสามมื้อ
ใช้จ่ายไป ทุกวัน วันละเท่าไหร่
ประมาณ เอาเอง ว่าใช้บุญเก่าไป เท่าไหร่
แล้ว เติมบุญ ใหม่ ได้ เท่าไร กัน หนอ -
ผมขออนุโมทนาบุญกับคุณ leia17 ด้วยนะครับ ^^
ผมก็ทำบุญเกี่ยวกับวิหารทานไว้พอสมควร ทั้งร่วมสร้างปราสาททองคำ ที่วัดท่าซุง
สร้า้งกุฎิ สร้างห้องน้ำ ทำบุญกระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องปูพื้น ฯลฯ ขอเชิญมาร่วมอนุโมทนากันได้นะครับ -
อาจารย์หมอครับ รบกวนท่านเฉลย มหาธรณี 35 ว่าสรรพคุณยาและผลข้างเคียงเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
โอ้โห้ สุดยอดครับ ท่าน อ. มีทั้งยา มีทั้งธรรม ผสมกัน
ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม
ไม่ได้เข้ามาดูและอ่านเลย
สนใจแต่ดูดวง กรรมยังไม่เปิด
หน้า 125 ของ 178