กลับเอาเรื่องเหงือกปลาหมอมาคุยอีกครั้งคะ...
เนื่องจากว่า ได้ปรุงยาสูตรนี้กินแล้ว...3 วัน...
ต้องรอติดตามผลต่อไป ว่า กินไป 1 เดือน จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
แต่เท่าที่กินมา...จะเหมือนผิวหนังมันตึงๆๆ ทั้งตัว..คะ
..............................................................................................
สูตรนี้ล่ะ...แต่ไม่ต้องเคี่ยวไฟนะคะ...
แค่เติมน้ำผึ้งแล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันก็พอ...1 กก...ทำได้เยอะมาก..
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ deejaimark
พูดถึงเรื่องเหงือกปลาหมอ ก็พอดีนึกได้คะว่า
มีโยคีตาไฟท่านนึง ท่านปรุงยากินมานานแสนนาน
ทั้งๆๆ ที่ตอนนี้ ท่านอายุ 97 ปีแล้วมั๊งคะ(ยังมีชีวิตอยู่คะ)
แต่ สุขภาพ ยังแข็งแรง ความจำดีมาก
แถมยังดูหนุ่มเหมือนคนอายุ 60 ต้นๆๆ
โรคชรา ปวดแขน ปวดขา ปวดเมื่อยตามตัวแทบจะไม่มี
เดินเหิรสะดวก เดินทางต่างจังหวัดบ่อยด้วย
ท่านบอกว่า กินยาสูตรนี้มา 40 กว่าปีแล้วคะ
ส่วนผสมนะคะ
พริกไทยป่น 1 ส่วน
เหงือกปลาหมอ 2 ส่วน
น้ำผึ้ง
วิธีทำ
ผสมตามส่วนที่กล่าวมา ใส่น้ำผึ้งพอให้ปั้นเป็นก้อนได้.
..ยิ่งใส่น้ำผึ้งเยอะยิ่งดี
เก็บใส่ขวดโหลไว้ กินได้นาน ไม่มีหมดอายุ
วิธีรับประทาน
รับประทานเช้า - เย็น ครั้งละ 1 ก้อน...หรือ หยิบเข้าปากบ่อยๆๆ ก็ได้คะ
................................................................................
http://palungjit.org/threads/บันทึกบาปและกรรมของข้าพเจ้า.89898/page-69
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ฮ้า ห้า....
ตรงกะสรรพคุณ ข้อที่ ๑๗
เหงือกปลาหมอที่ใช้ ต้องเป็นเหงือกปลาหมอนานะ
ถ้าใช้เหงือกปลาหมอทะเล สรรพคุณลดไปอื้อเลย
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi
๑๗. ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน<O:p</O:p
รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี
รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย<O:p</O:p
รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย
รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์
รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น<O:p</O:p
รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย
รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี
รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก
รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค
ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.
หน้า 61 ของ 178
-
-
อยากสอบถามด้วยนะค่ะ
อยากสอบถามด้วยนะคะ -
สวัสดีค่ะ สนใจรบกวนอยากสอบถามหน่อยนะค่ะ
คือว่าทรายมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงื่อค่ะ เพราะเหงื่อของทรายจะออกมากเฉพาะบริเวณใบหน้า ขนาดนั่งในห้องแอร์ยังเหงื่อออกตลอดเวลาเลยค่ะ ยิ่งถ้าอากาศอบอ้าวเหมือนฝนจะตกไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เหงื่อจะออกทั้งตัวเลยค่ะ แต่เหงื่อที่ตัวยังหยุดบ้างถ้าเปิดพัดลมหรือแอร์ แต่ที่หน้าสิค่ะจะไหลตลอดเวลาค่ะ ทรายรำคาญมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่ามีวิธีแก้เปล่าค่ะ เพราะอายเพื่อนมากเลยค่ะ ขนาดฝนตกฟ้าร้องแต่เหงื่อที่ใบหน้าของทรายไม่ยอมหยุดไหลเลยค่ะเหงื่อจะเปียกตลอดเหมือนล้างหน้าใหม่ๆ เลยค่ะ แต่เนื้อตัวจะเย็นเฉียบตลอดเวลาเลยค่ะ แต่เหมือนข้างในตัวจะร้อน รบกวนด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ -
การแก้ไขทำง่ายๆ โดย
ให้กินอาหารที่ออกฤทธิ์เย็นเป็นประจำ เช่นฟัก แฟง ฯลฯ
หรือหายาปรับตรีธาตุ (ปิตะ วาตะ เสมหะ) กินสักพักก็หาย
ยาดังกล่าวมี
๑. ตรีผลา (มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก) ใช้ปรับตรีธาตุ
๒. ผลาธกิะ 9 + กระชายทองนพคุณ ของหมอสุวิ (ปรับตรีธาต + บำรุงและขยายเส้นเลือดฝอยในทุกอวัยวะ และลดไขมัน) -
สนใจเหงือกปลาหมอนาครับ กะว่าจะสั่งซื้อสัก 500 บาทก่อนครับ รายละเอียดการโอนเงินและการจัดส่งเดี๋ยวคุยทาง PM ทีหลังนะครับ ^^
ไม่ทราบว่าสูตรที่ผสมพริกไทยกับดีปลี กับที่ผสมพริกไทยกับน้ำผึ้ง นี่คุณสมบัติต่างกันอย่างไรครับ ใช้พริกไทยขาวหรือดำถึงจะดีครับ
ผมสนใจที่เอามาปลูกขยายพันธุ์ด้วยครับ ตอนแรกกะปลูกอนุรักษ์พันธุ์ไว้ก่อนครับ ถ้าเลี้ยงรอดจะได้ขยายพันธุ์ต่อ อ.สุวิพอมีต้นพันธุ์หลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่าครับ ^^ -
-
ยาทั้งหมดของหมอสุวิ สามารถส่งให้ทางไปรษณีย์ได้
ให้ติดต่อทาง PM หรือ e-mail ที่ suwinand@gmail.com -
ความจริงแล้ว ยาที่สุวิทำขึ้นใหม่มี 3 ตัว
๑. ปลาหมอทอง
๒. ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 4
๓. ยามณีนพเก้า
ยาเขาส่งมาถึงสุวิ ตั้งแต่วันศุกร์ ได้ทดสอบตัวยาอยู่พักใหญ่
ให้รู้สึกประหลาดๆกับยา สองตัวแรก ไหงเป็นเช่นนั้น
โดยเฉพาะยาปลาหมอทอง เป็นยาที่สุดแสนง่ายๆ
มีเพียงเหงือกปลาหมอนา ดีปลีและพริกไทย
ส่วนมณีนพเก้า ถือว่าผ่าน (เริ่มแจกจ่ายไปแล้ว)
ได้ตั้งจิตสอบถามครูบาอาจารย์เบื้องบน ท่านเลยส่งผู้มาเฉลย ได้ความว่า
ปัจจุบัน พืชผักต่างๆล้วนใช้สารเคมีกันทั้งสิ้น
ทั้งปุ๋ย และฮอโมนพืช และยาฆ่าแมลง
สารเหล่านี้ ล้วนทำให้สารที่เป็นยาในพืชผักต่างล้วนเปลี่ยนแปลงในส่วนรายละเอียด
ท่านยกตัวอย่าง ดีปลี ซึ่งตำราแต่โบราณ ถือเป็นตัวแทนของ ธาตุดิน ๑๐๐%
แต่ปัจจุบัน ดีปลีกลับเปลี่ยนไป เหลือสภาพเป็นธาตดิน ไม่ถึงครึ่ง มีธาตุไฟและลมเจือเข้ามามากกว่าครึ่ง
ดังนั้น ส่วนผสมเก่าที่บันทึกไว้เป็นร้อยๆปีจึงใช้ไม่ได้
ต้องจัดสมดุลย์ของยาใหม่ อาจต้องมีตัวยาตัวอื่นที่เป็นดินเข้ามาช่วย
แล้วก็แสดงการจับพลังของสมุนไพรตัวยา เทียบกับธาตุต่างๆ ในรูปของพลังงานตรีธาตุ(ปิตะ วาตะ เสมหะ) และมหาภูติรูปสี่(ดิน น้ำ ลม ไฟ)
และได้ทดลองดึงพลังตัวยาในปัจจุบันสมัย และตัวยาในอดีต มากกว่า ๑๐๐ ปี(ตัวยาเดียวกัน-ใช้ดีปลีเป็นตัวทดสอบ)
ปรากฏว่า ดีปลีในอดีต เป็นธาตุดินล้วนๆ
ส่วน ดีปลีในปัจจุบัน กลับเป็นธาตุไฟและลมนำ มีดินตามรั้งท้าย
และได้ทดสอบ ดีปลีในปัจจุบัน ที่เป็นดีปลีเทวดาเลี้ยง(ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า)
เออแฮะ สรรพคุณก็ยังได้ใกล้เคียงกับตัวยาในอดีต
สรุป ยาหมอสุวิ สองตัว ปลาหมอทอง และ ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 4 เลยแท้ง ท่านไม่ยอมให้ออกจ่ายแจก
สุวิเลยอ้อน ขอส่วนผสมใหม่ ต่อลองอ้อนอยู่สามวันสองคืน
ท่านทนไม่ไหว เลย ประทานยาให้ใหม่ตัวหนึ่ง ส่วนยาเก่าให้เก็บไว้ก่อน
และว่า เอ็งไม่ต้องกลัว ไอ้ยาปลาหมงปลาหมอ ของเอ็งนี่ อย่าว่าแต่โรคน้ำเหลืองเสียธรรมดาเลย
แม้โรคที่พวกเอ็งกลัวกันนักกลัวกันหนา มันก็แก้ได้ (มะเร็ง เอด เอสแอลอี ไทด์รอย ไธรัสซิเมีย)
ไว้ว่างๆข้าจะมาบอก วันนี้มีเรื่องสำคัญจะมาเล่าให้ฟัง
และได้เล่าถึงสุดยอดยาในอดีตตัวหนึ่ง นามว่า "มณีจินดา" (บางท่านเรียกจินดามณี) -
ถ้าสังเกตุ จะเห็นว่า ยาตัวที่ 3 ของสุวิชื่อ มณีนพเก้า
เป็นยาที่อยู่ในตะกูล มณี...
ยาตะกูลนี้จะเป็นยาอายุวัฒนะ ผู้กินแล้วจะแก่ช้า
ผู้ได้กินจะดูเป็นหนุ่มเป็นสาว ผิวหนังเต่งตึง ผมก็ดกดำ สายตาก็ดี แถมยังเตะปีบได้ไกลเป็นกิโล
โรคภัยที่มาเบียดเบียนก็น้อย
กินได้ทั้งชายและหญิง (ผู้กินควรอายุตั้งแต่ 36 ปีขึ้นไป)
****************************
ส่วน ยาที่ท่านผู้เฒ่าประทานให้ สุวิตั้งชื่อว่า "มณีฟ้าประทาน"
ยาตัวนี้มีสรรพคุณเทียบเท่าใกล้เคียงกับยา มณีจินดา
สามารถดึงอายุให้อ่อนเยาว์ลงได้ ๗ ปีต่อการกิน ๑ ชุด (ดูจากผมผิวพรรณหน้าตา ฯลฯ)
และแก้และป้องกันโรคต่างๆได้ดีเยี่ยม
ยา ๑ ชุด กิน ๗ วัน กินครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง เช้า เย็น และก่อนนอน
และยานี้กินได้เพียงปีละ ๑ ครั้ง เท่านั้น
ยา มณีฟ้าประทาน ด้อยกว่า มณีจินดา ที่
มณีจินดา สามารถรักษาโรค อันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรได้
หรือพูดได้ว่า เหนือกฏแห่งกรรม
ผู้ทีได้พบได้กิน ยามณีจิดา(ที่แท้จริง) จึงนับว่าเป็นผู้มีวาสนา
ยาจึงได้อีกชื่อว่า ยาวาสนาจินดามณี (ดูคล้ายๆจะเป็นยาสองตัว)
ส่วนยา มณีฟ้าประทาน สรรพคุณทุกประการเทียบเท่าได้กัยยามณีจินดา
เพียงแต่อยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมเท่านั้น
ดังนั้นผู้ที่จะได้กินยานี้ ไม่ต้องมีวาสนามากนัก ก็อาจได้กินโดยง่าย เพียงแต่พกบุญมาเยอะๆ ก็พอ -
ตามที่ท่านเล่ามา ยามณีจินดา ไม่ได้ทำให้ผู้ที่กำลังจะตายฟื้นคืนชีพ
แต่เป็นยาที่ทำให้ผู้กิน มีอายุอ่อนเยาว์ลง และโรคต่างที่เป็นอยู่ก็ลดน้อยจนไม่เหลือ
ถ้าท่านใดตามอ่านกระทู้นี้ของสุวิ ประมาณ สองเดือนก่อน
สุวิเล่าให้ฟังว่า
ท่านผู้เฒ่า ได้มาบอกยาตัวหนึ่งให้สุวิ และสุวิตั้งชื่อว่า ยาดอกบัว(ปทุมาคืนชีพ)
ยาตัวนี้จะทำให้ผู้ป่วย กำลังจะบ้ายบาย กลับฟื้นตัวได้
และวันนี้ท่านมาบอกยาที่มีสรรพคุณเทียบใกล้ยา มณีจินดา ให้
ยาสองตัวนี้เมื่อผู้ใกล้ตาย (ถูกวิบากกรรมตัดรอน-แต่ยังไม่หมดอายุไข) ได้กินยานี้ ก็นับเป็นวาสนา
ผู้ได้กินชุดนี้ นับว่า เป็นผู้ที่มี "วาสนาฟ้าประทาน" แน่นอน
หมายเหตุ
ยา มณีฟ้าประทาน ทำเสร็จแล้ว
แต่ยาดอกบัวยังไม่ได้ทำเลยจ้า (แหะๆ ตัวยามันแพงจ้า) -
สวัสดีค่ะคุณลุง รบกวนด้วยคนค่ะ คือน้องสาวมักจะมีอาการหาวไม่หยุด จะเป็นตอนง่วงจัดๆ กับตอนหลังจากดื่มสุราค่ะ หาวไม่หยุดเลย เกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขยังไงบ้างคะ
ขอความกรุณาด้วยค่ะ -
วาสนา+ฟ้าประทาน ต่อด้วยดินบันดาล และประสานบุคคลหรือเปล่าคะคุณหมอ
-
โดยเฉพาะสมอง
อาการหาวนอนจึงไม่ได้เป็นตัวโรค หรืออาการของโรค
แต่ตัวโรคอยู่ที่ ทำไมร่างกายจึงรู้สึกขาด อ๊อกซิเจน จนต้องหาวเพื่อเพิ่มปริมาณอากาศเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกาย
สรุปโรคนี้อาจเกิดจาก
กิโลมกังพิการ (พังผืด/กระบังลม พิการ) ทำให้การหายใจแบบอัตโนมัติ(ตอนไม่รู้ตัว)ลดน้อยลง
หากทิ้งไว้นาน อาจเกิดโรค ไม่หายใจเวลานอนหลับได้ หรือโรคไหลตาย
หรืออาจเกิดจาก ความพิการที่ลิ้นปิดหลอดลม เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตแบบอ่อนๆ
ทำให้ลิ้นนี้ตกลงมาปิดหลอดลม พวกนีทิ้งนานไปจะเกิดอาการนอนกรนตามมา
การที่ประสาทกึ่งอัตโนมัติและประสาทอัตโนมัติ ทำงานได้ไม่ดี เกิดจาก เลือดลมไปหล่อเลี้ยงระบบประสาทที่ก้านสมองได้ไม่พอ
เหตุที่ไปเลี้ยงไม่พอ จะเกิดจากปะระเมหะของไขมัน หรือมะธุระเมหะของน้ำตาล ไปขวางทางของเลือดลมที่ไปเลี้ยงก้านสมอง
จึงทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ ทำงานรวน(พิการ)
การรักษาทำได้ง่ายๆ
๑. หาทางส่งเลือดลมเข้าไปเลี้ยงก้านสมองเพิ่มขึ้น โดย
๑.๑ ใช้พลัง เข้าไปหมุนวนบริเวนก้านสมอง และนวดที่บ่า
๑.๒ ใช้ยาขยายทางเลือดลม เช่น ยาวัชรธาตุ ของหมอสุวิ
๒.หาทางลดและสลายปะระเมหะที่คั่งค้างในกาย โดย
๒.๑ ใช้พลัง โดยเฉพาะ เตโชและอาโป เข้าไปสลายและล้างปะระเมหะดังกล่าว
๒.๒ ใช้ยาตะกูลลดไขมัน และลดเบาหวาน เช่น ยาตระกูลผลาธิกะ+ยาตระกูลทองนพคุณ ของหมอสุวิ
ทำเพียงเท่านี้ โรคเหล่านี้ก็จะค่อยๆลดลงจนหายในที่สุด<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> -
ผลบุญจะเป็นตัวชักนำให้ได้กินยานี้
ยาจะได้ผลสุดยอดหรือไม่ก็ขึ้นกับเหตุแห่งปัฐถวี นี้(ดินบันดาล)
ส่วนที่จะประสานบุคคลได้หรือไม่ก็อยู่ที่บุญเช่นกัน
ของบางอย่าง รอคอยเจ้าของอยู่
อยู่ที่ผู้เป็นเจ้าของจะหยิบจับ หรือร้องขอ หรือไม่ -
เสี่ยงเอย เสี่ยงบุญญา คุณแม่และคุณลูกบ้านนี้จะมีวาสนามั๊ยน้อ
-
สรุปตามข้อความ
อดแน่นอน
-
เด็กน้อย วิ่งมาหาแม่
แม่จ้า หนูหิว แล้วทำตาปริบๆมองหน้าแม่
แน่นอนเธอได้ของกินแน่
ท่านนายพลนั่งเก้าอี้ไขว่ห้างกระดิกขาย่างสุขโข
เฮ้ย ไอ้แห้วเอ็งไปเอาน้ำร้อนให้ซักแก้วซิ
ไอ้แห้วรีบวิ่งไปหยิบฉวยให้ท่านนายพลทันที
ในวัด โยมเอ้ย ช่วยเอื้อมหยิบธูป ตรงหน้าโยมนะแหละให้อาตมาที มันหยิบไม่ถึงนะ
แน่นอน พระรูปนั้นย่อมได้สิ่งที่ประสงค์
ฯลฯ
ทั้งหมดนี้เป็นการร้องขอ และประกาศว่าเป็นเจ้าของ
หากท่านเหล่านั้นไม่เอยปาก จะได้ของที่ต้องประสงค์หรือ
ผิดกับการบุญ
หากภิกษุร้องขอ มันผิดนะ
ตาสีเข้าในเมือง ไม่เคยเห็นเครื่องบิน ร้องขอขึ้นเครื่องดูหน่อย ว่ามันเป็นยังไง ใครจะให้ดู
พิจารณาให้ดีเนาะ
เรื่องของความเจ็บป่วย หมอไม่อาจจุ้นจ้าน เสนอตัวได้
หมอก็เจ็บตัวเป้นเหมือนกัน -
ข้าน้อยมิบังอาจ ด้วยเป็นเพียงมนุษย์ตัวจ้อย ได้แต่ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ด้วยหวังว่าจะมีทรัพย์เพียงพอที่จะขอเจียดยาจากซินแส ก้มมองอีแปะในมือแล้วสะท้อนใจ จะพอเจียดยาจากซินแสได้เทียบหนึ่งหรือไม่ ได้แต่เลียบเคียงถามซินแส ยังอีกเท่าไรจึงจะได้ยาฟ้าประทานมารักษามารดา และตัวข้าน้อยนี้ ขอซินแสโปรดเมตตาบอกด้วยเถิด
-
มาตา.......เจ็บป่วย......ช่วยด้วย
หวังช่วย....เลยมา........ร้องขอ
รอจิต.......เมตตา........มารอ
แหบเสียง...ร้องขอ........รอมา
ฟ้าได้.......ยินเสียง.......นี้ใหม
หรือใคร.....บอกต่อ.......ฟ้าได้
โปรดอย่า...ช้าเฉย........ส่งใจ
ขอยา.......มาให้.........มาตา -
ทวยเทพ....เทวา......อารักษ์
ปกปัก.......รักษา.....แม่ด้วย
ส่งยา.......วิเศษ......อำนวย
ชูช่วย.......แรงเร่ง....ฟื้นฟู
กำลัง.......บุญญา.....บารมี
ขอจง.......เร่งรี่........ตัดไข้
พลังจง.....ส่งไป.......เร็วไว
ให้หาย.....เพี้ยงเพี้ยง..พริบตา
ขอบุญ.....ที่ท่าน........รักษา
ก่อเกิด.....เป็นบาร......มีหนุน
ให้ท่าน.....เจริญสรรพ..ผลบุญ
สำเร็จ......คุณที่.......วิเศษเอย
หน้า 61 ของ 178