ปัญหาการยึดวัดพุทธไชโย แจ้งผู้นับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำทราบ+เตรียมเปิดเผยการปาราชิก

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย inzee, 5 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. 238degree

    238degree สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    <IFRAME height=390 src="http://www.youtube.com/embed/OG5oO3mk9VI" frameBorder=0 width=480 allowfullscreen></IFRAME>

    ป้าในคลิปเคยไปร้องเรียนกับเจ้คณะจังหวัดแล้ว....ดูในคลิป แล้วที่บอกให้พระหลบไปพักนึงแล้วกลับมาไม่ได้ โดนเหมือนหลวงพ่อบุญส่งเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011
  2. 238degree

    238degree สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    มติชนรายวัน วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓
    เมืองไทยในอนาคต : อนาธิปไตยในวงการสงฆ์
    [SIZE=-1]พระไพศาล วิสาโล[/SIZE]
    [SIZE=-1] [/SIZE]

    ข่าวอื้อฉาวของพระผู้ใหญ่ที่ปรากฏต่อเนื่องมาเป็นลำดับ โดยที่ยังไม่ต้องพูดถึงอาจารวิบัติของพระอีกมากมายที่ยังไม่ปรากฏเป็นข่าวนั้น หาใช่เรื่องเรื่องเล็กน้อยไม่ และไม่ควรมองว่านี้เป็นปัญหาเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น แท้ที่จริงนี้คืออาการที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอและความไร้ประสิทธิภาพของผู้ปกครองคณะสงฆ์อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ความอ่อนแอและความไร้ประสิทธิภาพที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงการที่คณะสงฆ์ไม่ยอมหรือไม่สามารถใช้อำนาจที่มีเพื่อจัดการกับผู้กระทำการดังกล่าวเท่านั้น หากยังรวมไปถึงการไร้ความสามารถในการบริหารและจัดการคณะสงฆ์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ผลก็คือพระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยเพิ่มพูนทับทวี ขณะเดียวกันเหล่าโสณทุจริตก็พากันมาอาศัยผ้าเหลืองหาประโยชน์ส่วนตัวกันมากขึ้น

    [SIZE=+2]โครงสร้างที่เป็นปัญหา[/SIZE]
    [SIZE=+2]มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้ปกครองสงฆ์ไม่สามารถหยุดยั้งการขยายตัวของพระทุศีลได้ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งก็คือโครงสร้างที่รวมศูนย์ยิ่งกว่าระบบราชการไทย ซึ่งทำให้ขาดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา แต่ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหานั้นต้องเริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา ถ้าถามว่าผู้ปกครองคณะสงฆ์ใส่ใจกับปัญหานี้มากแค่ไหน คำตอบคือน้อยมาก ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มีคำอธิบายหลายอย่าง เช่นวัยวุฒิของกรรมการมหาเถรสมาคมซึ่งอยู่ในขั้นชราภาพแล้วเป็นส่วนใหญ่ ภารกิจประจำวันที่หมดไปกับงานธุรการและพิธีกรรม(เช่นเปิดป้าย ฝังลูกนิมิต) อีกทั้งภูมิหลังที่ทำให้เห็นปัญหาอื่นสำคัญกว่า (หลายท่านกังวลว่าเพียงแค่การรักษาระบบการศึกษาพระปริยัติธรรมเอาไว้ให้ได้เท่าเดิมก็เป็นงานที่หนักหนาอย่างยิ่งแล้ว) แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าปัจจัยส่วนบุคคลก็คือโครงสร้างคณะสงฆ์ที่ทำให้ผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับเหินห่างจากสภาพความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้น[/SIZE]

    การที่คณะสงฆ์พึ่งความอุปถัมภ์จากรัฐมากเกินไป ทำให้เหินห่างจากสังคม สำหรับวัดในระดับหมู่บ้าน การร่วมมือและสนองตอบนโยบายของรัฐตั้งแต่ระดับอำเภอขึ้นไป หมายถึงการที่วัดจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐในกิจการต่าง ๆ ของวัดเพื่อเป็นโอกาสในการเสนอขอเลื่อนสมณศักดิ์ ความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ได้รับการตอกย้ำด้วยระบบรวมศูนย์ที่ทุกอย่างกำหนดจากส่วนกลาง โดยมีสมณศักดิ์และตำแหน่งบริหารเป็นรางวัล ดังนั้นพระสงฆ์ตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาสขึ้นไปจึงมักจะใส่ใจกับนโยบายจากผู้ปกครองระดับบนยิ่งกว่าจะคำนึงถึงความเป็นไปในหมู่บ้าน การสร้างโบสถ์และการจัดกิจกรรมใหญ่โตในวันสำคัญทางศาสนา(และของราชการ)รวมทั้งกลายเป็นเรื่องสำคัญกว่าการแก้ปัญหาเด็กติดยาบ้าหรือหมกมุ่นอบายมุข หรือการจัดการกับพระเณรที่ย่อหย่อนในพระวินัย ทั้งนี้เพราะสมณศักดิ์และการยอมรับจากเบื้องบนอยู่ที่งานสองอย่างแรกมากกว่า การสนองงานตามระบบราชการ(ทั้งของรัฐและคณะสงฆ์) ทำให้ท่านหลุดลอยหรือไม่รับรู้สภาพปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในทุกระดับของสังคม ซึ่งรวมถึงความวิปลาสคลาดเคลื่อนของพระจำนวนมากมาย

    [SIZE=+2]เส้นสายทุกหัวระแหง[/SIZE]
    [SIZE=+2]ลำพังความไร้ประสิทธิภาพก็นับว่าเป็นปัญหาหนักแล้ว ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือระบบรวมศูนย์ในที่สุดยังบั่นทอนความบริสุทธิ์ยุติธรรมของผู้ปกครองสงฆ์เองด้วย เพราะในเมื่ออำนาจในการให้คุณให้โทษมารวมอยู่ที่ส่วนกลาง อีกทั้งไม่มีกระบวนการที่ช่วยให้การตัดสินวินิจฉัยของมหาเถรสมาคมเป็นไปอย่างโปร่งใสชนิดที่บุคคลภายนอกสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นจึงส่งเสริมให้มีการวิ่งเต้นกับผู้มีอำนาจคือกรรมการมหาเถรสมาคมไม่ว่าโดยอาศัยเครือข่ายความสัมพันธ์ส่วนตัว (เช่น อยู่วัดเดียวกัน มีอุปัชฌาย์เดียวกัน หรือเป็นคนจังหวัดเดียวกัน) หรือโดยแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือระบบเส้นสาย ซึ่งนับวันจะลงรากลึกและกลายเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานคณะสงฆ์ยิ่งกว่าระบบคุณธรรมหรือพระธรรมวินัย ระบบดังกล่าวทำให้พระสงฆ์ในท้องถิ่นที่มีสายสัมพันธ์กับผู้ปกครองในส่วนกลาง (ไม่ว่าเจ้าคณะภาคหรือกรรมการมหาเถรสมาคม)สามารถประพฤติผิดพระธรรมวินัยได้อย่างสะดวก หรือหนักกว่านั้นคือมีพฤติกรรมปริ่ม ๆกฎหมาย เช่น ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล มีอันธพาลอยู่ในอาณัติ โดยที่พระเหล่านั้นมักจะมีสมณศักดิ์และตำแหน่งทางการปกครองด้วย เช่น เจ้าคณะตำบล หรือเจ้าคณะอำเภอ หาไม่ก็เป็นเลขานุการให้พระสังฆาธิการ ด้วยเหตุที่สามารถต่อสายสัมพันธ์เชื่อมกับผู้ปกครองสงฆ์ส่วนกลางได้นั้นเอง จึงกล้าที่จะเพิกเฉยหรือดื้อแพ่งต่อผู้ปกครองระดับท้องถิ่น(เช่นเจ้าคณะจังหวัด)หรือแม้แต่ปฏิเสธกฎระเบียบของคณะสงฆ์ ดังกรณีเจ้าสำนักวัดพระธรรมกายเป็นตัวอย่างชัดเจน[/SIZE]

    ระบบเส้นสาย (ซึ่งหล่อเลี้ยงด้วยเงิน)ทำให้ระบบและกลไกต่าง ๆ ในคณะสงฆ์พิกลพิการ ไม่เว้นแม้แต่กลไกในการลงโทษพระที่ประพฤติมิชอบ ดังปรากฏเสมอว่าเมื่อมีการโจทก์ฟ้องพระดังกล่าวว่าต้องอาบัติร้ายแรงถึงขั้นปาราชิก กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากทางผู้ปกครองสงฆ์ที่จะเอาผิดกับพระเหล่านั้น แม้จะมีพยานและหลักฐานถึงขั้นที่สามารถปรับอาบัติปาราชิกได้ แต่เรื่องก็ถูกตีกลับด้วยเหตุผลว่าไม่มีภาพถ่ายการเสพเมถุน (ทำนองเดียวกับที่รัฐบาลมักอ้างว่าไม่สามารถเอาผิดกับนักการเมืองที่ทุจริตได้เพราะ “ไม่มีใบเสร็จ”) บางกรณีถูกกระแสสังคมกดดันจนคณะสงฆ์ต้องตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยอธิกรณ์ (ที่เรียกว่า “ศาลสงฆ์”) แต่ก็มักปรากฏว่าการพิจารณาเป็นไปอย่างล่าช้าและน่าเคลือบแคลง ( ดังกรณีนิกร ยันตระ ธัมมชโย) ยิ่งถ้าเป็นกรณีที่ไม่ใช่พระดัง หรืออยู่ในสายตาของสื่อมวลชนด้วยแล้ว จำเลยก็สามารถพ้นผิดได้ในที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้พิจารณาอธิกรณ์ไม่มีความแม่นยำในกระบวนการนิคคหกรรม แต่สาเหตุที่สำคัญกว่านั้นก็คือสายสัมพันธ์ระหว่างจำเลยกับผู้พิจารณาอธิกรณ์ ซึ่งมักมีการอุปถัมภ์บำรุงกันมานาน (หรืออาจมีการร่วม “ก๊วน”เดียวกันด้วยซ้ำ) ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่น่าแปลกใจที่อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองและอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าช้างจะยืนยันตลอดเวลาว่าไม่ได้ต้องปาราชิก คนที่เจนจัดในเรื่องเหล่านี้ย่อมรู้ดีว่าหากเอาเรื่องเข้าศาลสงฆ์ (โดยเฉพาะศาลชั้นต้นซึ่งล้วนเป็นคนใกล้ชิดกัน) โอกาสที่จะพ้นจากข้อหานี้มีอยู่มากตราบใดที่ผู้โจทก์ฟ้องไม่สามารถหา “ภาพถ่าย” หรือสีกามายืนยันได้

    ควรกล่าวในที่นี้ด้วยว่าระบบเส้นสายดังกล่าวไม่เพียงจะทำให้พระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยลอยนวลได้เท่านั้น หากยังช่วยให้พระเหล่านั้นสามารถขึ้นมาเป็นพระสังฆาธิการได้ ทั้งนี้ด้วยการวิ่งเต้นและซื้อ"ตำแหน่ง โดยเงินที่ใช้ในการซื้อตำแหน่งก็ได้จากการประกอบมิจฉาอาชีวะ(สำหรับบรรพชิต) เช่น การขายวัตถุมงคลหรือปัจจัยไทยทานที่มีคนถวาย การปล่อยเงินกู้ หรือการค้าขายอย่างฆราวาส หนักกว่านั้นก็คือการเป็นนายหน้ารับไถ่รถที่ถูกขโมย พระดังกล่าวจำนวนไม่น้อยเป็นนักเลงหัวไม้มาก่อนที่จะบวช เมื่อบวชแล้วก็ทำตัวไม่ต่างจากเดิมมากนัก เพราะผู้ปกครองตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาสขึ้นไปไม่ใส่ใจดูแลควบคุม ครั้นบวชนานขึ้น อำนาจเงินที่ได้จากการประกอบมิจฉาอาชีวะ (รวมทั้งการยักยอกเงินบริจาคหรือเงินอุปถัมภ์บำรุงวัดซึ่งมักมีระบบบัญชีที่ไม่โปร่งใส) ก็เป็นปัจจัยให้สามารถไต่เต้าในองค์กรสงฆ์ได้โดยอาศัยเส้นสายที่มีกับพระสังฆาธิการในท้องถิ่นซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับส่วนกลางได้ การมีตำแหน่งสังฆาธิการ ช่วยให้พระทุศีลดังกล่าวมีเกราะคุ้มกันที่แน่นหนากว่าเดิม ช่วยให้ปลอดภัยขึ้นทั้งจากคณะสงฆ์และบ้านเมือง ขณะเดียวกันตำแหน่งดังกล่าวก็เป็น “ต้นทุน” ให้แสวงหาลาภสักการะได้มากขึ้น ทั้งขยายสายสัมพันธ์ได้กว้างและสูงขึ้นพร้อมกันนั้นก็ทำให้ตนเองก็มี"บารมี"ที่จะสร้างเส้นสายของตนเองในท้องถิ่น หรือกับพระในเขตปกครองของตน

    สู่สภาวะอนาธิปไตย
    ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในการเอาผิดกับเหล่าอลัชชีนับวันจะตอกย้ำให้พระทุศีลอื่น ๆ ตระหนักว่าการมีเส้นสายกับผู้ปกครองสงฆ์ในทุกระดับเป็นหลักประกันที่จะช่วยให้ตนลอยนวลอยู่ได้ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าพระทุศีลทั้งหลายจะพยายามขวนขวายต่อเส้นสายกับพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่กันอย่างเป็นล่ำเป็นสันกันมากขึ้น ขณะที่ต่างคนต่างหา “ร่ม” หรือ “ผู้คุ้มครอง” ในระดับบน อลัชชีที่อยู่ระดับบนก็เห็นเป็นโอกาสที่จะลงมาเรียกเก็บ “ค่าคุ้มครอง”จากระดับล่าง หาไม่ก็ทำตัวเป็นนายหน้าเพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมต่อให้พระระดับล่างมีสายสัมพันธ์กับระดับบน แน่นอนว่าการกระทำดังกล่าวต้องมีค่ากำนัลติดมาด้วย ผลที่ตามมาก็คือคณะสงฆ์ในอนาคตจะเต็มไปด้วยระบบเส้นสายมากกว่าเดิม ทั้งเส้นสายที่เชื่อมกับส่วนกลางและที่ขยายไปในท้องถิ่น แต่ละเส้นสายถักทอเป็นเครือข่ายและกลายเป็นอาณาจักรที่เปิดช่องให้พระในสังกัดมีอิสระ สามารถล่วงละเมิดพระธรรมวินัยได้อย่างเสรียิ่งกว่าเดิม

    ระบบเส้นสายเครือข่ายดังกล่าวในด้านหนึ่งทำให้การบังคับบัญชาจากส่วนกลางไร้ความหมายยิ่งขึ้นทุกที เพราะถึงแม้มหาเถรสมาคมจะมีคำสั่งให้พระห้ามบอกใบ้ให้หวย ทำวัตถุมงคล พระท้องถิ่นก็ยังคงประกอบไสยพาณิชย์ต่อไปได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ตราบใดที่มีเจ้าคณะภาคหรือกรรมการมหาเถรสมาคมเป็น “ร่ม” ให้ ในอีกด้านหนึ่งมันทำให้ผู้ปกครองสงฆ์มีแนวโน้มไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่มากขึ้น กลายเป็นผู้ที่เห็นแก่พวกพ้องหรือผลประโยชน์ยิ่งกว่าความถูกต้องชอบธรรม ทั้งความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารและการไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ เป็นตัวการบั่นทอนความชอบธรรมของมหาเถรสมาคมอย่างร้ายแรง จึงมีแนวโน้มว่านอกจากพระทุศีลแล้ว ยังจะมีพระอีกกลุ่มหนึ่งที่ปฏิเสธมหาเถรสมาคมมากขึ้น ได้แก่พระที่ใส่ใจในพระธรรมวินัย

    [SIZE=+2]เป็นไปได้ว่าในอนาคต หากโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ยังไม่เปลี่ยน อีกทั้งมหาเถรสมาคมยังอ่อนแอ ไร้ประสิทธิภาพและไม่เป็นที่ตั้งแห่งความบริสุทธิ์ยุติธรรมเช่นเดิมหรือหนักกว่าเดิม พระสงฆ์ที่เสื่อมศรัทธาในมหาเถรสมาคมอาจมีจำนวนหนึ่งที่แยกตัวออกเป็นอิสระจากมหาเถรสมาคมอย่างชัดเจนหรือเต็มรูป (มิใช่ทำอย่างอำพรางหรือครึ่ง ๆ กลาง ๆอย่างที่หลายรูปกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน) และจะมิใช่มีแค่กลุ่มเดียว หากมีหลายกลุ่ม ถึงตอนนั้นแม้มหาเถรสมาคมจะขออำนาจรัฐมาจัดการ แต่ก็จะไม่ได้รับความสนับสนุนจากประชาชนซึ่งก็เสื่อมศรัทธามหาเถรสมาคมและคณะสงฆ์ส่วนใหญ่เช่นกัน ระหว่างคณะสงฆ์ซึ่งเต็มไปด้วยพระทุศีลและระบบเส้นสายทุกหัวระแหง และทุกระดับ (จนแม้กระทั่งในวัด ก็หนีไม่พ้นเส้นสายอีกประเภทหนึ่งซึ่งกำลังจะมากขึ้น นั่นคือญาติพี่น้องของเจ้าอาวาสซึ่งมาอาศัยวัดอยู่) กับสำนักที่มีวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส ประชาชนมีแนวโน้มที่จะเลือกฝ่ายหลัง โดยไม่สนใจว่ารัฐจะอยู่ฝ่ายไหน [/SIZE]

    [SIZE=+2]เป็นไปได้ด้วยซ้ำว่า สำนักที่แยกตัวมานี้จะมีวัตรปฏิบัติที่ผิดจากคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ จนเรียกได้ว่าเป็น “นิกาย” ใหม่อีกนิกายหนึ่ง(นอกเหนือจากมหานิกายและธรรมยุต) โดยยังเป็นเถรวาทอยู่ หรืออาจแยกออกจากเถรวาท (ดังสันติอโศก)ก็ได้ ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงลัทธิพิธีต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่แล้วในคณะสงฆ์ปัจจุบัน และจะเพิ่มขึ้นอีกมากมายในอนาคต ลัทธิพิธีเหล่านี้แม้จะขึ้นอยู่กับมหาเถรสมาคม แต่ก็มีความเชื่อและการปฏิบัติบางอย่างต่างไปจากที่มหาเถรสมาคมเป็นตัวแทนอยู่ กระนั้นก็ไม่อยู่ในความสนใจของผู้ปกครองสงฆ์ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่กล่าวมา [/SIZE]
    [SIZE=+2]ทั้งหมดนี้มีแต่จะทำให้ความไร้เอกภาพและไร้ระเบียบเพิ่มพูนขึ้นในสังฆมณฑล มิไยจะต้องเอ่ยถึงนอกสังฆมณฑล ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจของผู้ปกครองสงฆ์อยู่แล้ว[/SIZE]
    http://www.visalo.org/article/matichon254311.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011
  3. นิรันตรัง

    นิรันตรัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    ปกติไม่ค่อยยุ่งกับใคร แต่งานนี้จัดเต็ม
    นายจัน

    วันนี้, 10:36 AM


    ชอบ ขอยืมใช้หน่อยนะครับ

    คำถามเกี่่ยวกับข้อกฏหมาย ​


    คำถามที่ ๑๐

    พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งในการปกครอง ตำแหน่งใดบ้างเป็นเจ้าพนักงาน ?

    ตอบ กฏมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑ ) ได้กำหนดตำแหน่งต่างๆ ของพระภิกษุผู้ดำรงตกแหน่งในการปกครองสงฆ์ไว้ในข้อ ๔ ว่า
    พระสังฆาธการ หมายถึง พระภิกษุึผู้ดำรงตำแหน่งในการปกครองสงฆ์ ได้แก่

    ๑.เจ้าคณะใหญ่

    ๒.เจ้าคณะภาค

    ๓.รองเจ้าคณะภาค

    ๔.เจ้าคณะจังหวัด

    ๕.รองเจ้าคณะจังหวัด

    ๖.เจ้าคณะอำเภอ

    ๗.รองเจ้าคณะอำเภอ

    ๘.เจ้าคณะตำบล

    ๙.รองเจ้าคณะตำบล

    ๑๐.เจ้าอาวาส

    ๑๑.รองเจ้าอาวาส

    ๑๒.ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

    ดังนั้น พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จึงมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานในประมวลกฏหมายอาญา โดยอาศัย ม. ๔๕ พรบ. คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕


    คำถามข้อที่ ๑๑.


    เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิดหรือไม่อย่างไร?



    ตอบ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของเจ้าพนักงานนี้ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฏหมายอาญา บัญญัติไว้ว่า
    ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู่้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ หนึ่งปี ถึง สิบปี หรือปรับตั้งแต่ สองพันบาท ถึง สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


    องค์ประกอบของความผิด ตามมาตรา ๑๕๗

    ๑.ผู้กระทำความผิดต้องเป็นเจ้าพนักงาน
    ๒.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ
    ๓.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ
    ๔.ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือ
    ๕.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
    ๖.เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
    ๗.ได้กระทำโดยเจตนา



    คำว่า "เจ้าพนักงาน" หมายถึง บุุคคลผู้ทำงานให้รัฐ ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาลไทยให้ปฏิบัติราชการไทยโดยได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน ประเภทเงินเดือน เช่น ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ กำนัน เป็นต้น

    คำว่า "โดยมิชอบ" หมายถึง ไม่ชอบ ไม่ถูก ไม่ควร

    คำว่า "ละเว้น" หมายถึง ยกเว้น งดเว้น

    คำว่า "โดยทุจริต" หมายความว่า เพื่อแสงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมาย สำหรับตนเองหรือผู้อื่น

    ดังนั้น บุคคลที่มีฐานะเป็นเจ้าพนักงานดังกล่าข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นโดยอาศัยกฏหมายฉบับใดก็ตาม ย่อมต้องถือว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งสิ้น

    ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น พระภิกษุผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์ หากได้กระทำการตามมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฏหมายอาญาดังกล่าวแล้วนั้น ย่อมมีความผิดฐาน เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นกัน


    คำถามที่ ๑๒.

    ลักษณะของความผิดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงานมีอย่างไรบ้าง

    คำตอบ ลักษณะของความผิดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงาน มีมากมายหลายลักษณะ แต่หากกล่าวโดยสรุปแล้ว พอประมวลได้ดังนี้เช่น

    ๑.ความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
    ๒.ความผิดฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน
    ๓.ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
    ๔.ความผิดฐานข่มขืนใจเจ้าพนักงาน
    ๕.ความผิดฐานเรียกสินบนให้เจ้าพนักงาน
    ๖.ความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน
    ๗.ความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน
    ๘.เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์
    ๙.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
    ๑๐.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานรับสินบน
    ๑๑.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต
    ๑๒.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    ๑๓.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    ๑๔.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปลอมแปลงเอกสาร
    ๑๕.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์
    ๑๖.ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้เอกสารปลอม เป็นต้น


    การแต่งตั้งอ้างความเท็จตั้งแต่แต่งตั้งรักษาการณ์โดยเจ้าคณะตำบลแล้ว
    คืออ้างว่าเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเท็จ วัดที่จะแต่งตั้งผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้จะต้อง มีพระจำพรรษาอยู่ตั้งแต่ ๑๕ รูปขึ้นไป ถ้าเจ้าคณะจังหวัดตั้งไว้ ก็แสดงว่าตั้งโดยมิชอบ

    การแต่งตั้งเจ้าอาวาสก็ไม่ถูกต้องตามกฏระเบีียบ ตามประเพณีอันดีงาม ตามมติของมหาเถระสมาคมที่กำหนดไว้เพื่อความเป็นไปโดยเรียบร้อย จึงชื่อว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ถูก ไม่ควร เข้าข่ายความผิด ทั้ง ตำบล ทั้งจังหวัด ส่วน อำเภอนั้น ก็มีส่วนในการนี้ด้วย ก็เข้าข่ายความผิดนี้ด้วยเช่นกัน


    ถ้าเรื่องถึงศาล ก็ยาวแน่ แต่ก่อนเรื่องจะจบ ก็ต้องโดนพักการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ เจ้าคณะ ทั้งเจ้าอาวาส ตำบล อำเภอ จังหวัด ไปก่อน ถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริงก็ เอวัง
    คิดว่าพวกเราคงพร้อมสู้จนถึงที่สุดกันนะครับ




    วิืธีอื่นก็ยังมีอีกหลายวิธีนะครับ เอามันทุกๆวิธีนั่นแหละ เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรสืบไป


    พึงชนะความเท็จ ด้วยความจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011
  4. นิรันตรัง

    นิรันตรัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92

    ข้อแนะนำในฐานะผู้ที่ไม่ชอบยุ่งยาก(ถ้าไม่จำเป็น)



    ให้เจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งมาโดยไม่โปร่งใส ลาออกเสีย



    ให้เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ มอบเรื่องนี้ให้ เจ้าคณะจังหวัดแก้ไขปัญหานี้โดยตรง



    ให้เจ้าคณะจังหวัดประสานกับ คณะญาติโยมที่อุปถัมภ์วัด และ ทำการแต่งตั้ง พระสงฆ์รูป

    ใดรูปหนึ่งใน ๘ รูป ที่ มีความเหมาะสมในการดำเนินงานสงฆ์ และ งานศูนย์สงเคราะห์ฯ

    ภายในวัดพุทธไชโย ให้เป็นไปได้ด้วยดี เป็นเจ้าอาวาสแทน แล้วให้ท่านบริหารและดำเนิน

    กิจการภายในวัดให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยสืบไป


    สุขใดเสมอด้วยความสงบไม่มี

    แต่ถ้ามีความจำเป็น ก็จะต่อสู้จนกว่าความเร่าร้อนอันเกิดจากความไม่เป็นธรรม จะหมดสิ้น

    ไปจากขอบเขตของพระพุทธศาสนาโน่นแหละ
     
  5. Saizen

    Saizen สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมอยากให้เป็นแบบนี้จริงๆ เรื่องจะได้จบลงด้วยดี แต่ตามข้อมูลที่ได้ทราบมาคิดว่ายากเพราะฝั่งนั้นได้ให้คำตอบกับคณะศิษย์หลวงพ่อฤาษีที่ไปขอความเป็นธรรมตั้งแต่แรกด้วยถ้อยคำรุนแรง และเหยียดหยาม เช่น

    พูดกับโยมที่ไปขอความเมตตาตอนแต่งตั้งรักษาการณ์ว่า - ใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว แต่งตั้งไปแล้ว พระผู้ใหญ่จะเสียเรื่อง

    พูดกับพระเก่า 8 รูปที่จะเข้าไปดำเนินงานศูนย์สงเคราะห์ฯ (มีบัตรเจ้าหน้าที่ศูนย์สงเคราะห์ประจำตัวนะครับ) ว่า - อยากเป็นเจ้าอาวาสกันจนตัวสั่นเลยรึ

    เมื่อญาติโยมขอพบเจ้าคณะจังหวัดในวันครบ 50 วัน - พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ให้โยมไปรอด้านในตึก แต่พอถึงเวลา ท่านขึ้นรถกลับทันที ไม่ชี้แจงใดๆ

    และเหตุการณ์ที่เจ้าอาวาสองค์ใหม่เซ็นรับพระเก่า เข้าสังกัดวัดพุทธไชโย - เมื่อนำใบสุทธิไปให้เจ้าคณะอำเภอเซ็น เจ้าคณะอำเภอไม่ยอมเซ็นรับ และยึดใบสุทธิไว้ จนญาติโยมต้องไปเอามาคืนให้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011
  6. คณะปลาวาฬ

    คณะปลาวาฬ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +5
    โมทนาบุญกับคุณนิรันตรังและคุณsaizen

    ข้อมูลที่คุณนิรันตรังว่ามามีประโยชน์มากขอให้คณะผู้ก่อตั้งช่วยกันศึกษาและ

    ปรึกษากันให้ดีเพราะหลายคนช่วยกันคิดดีที่สุดเพราะเราไม่ได้แค่ทำเพื่อตอบ

    แทนพระคุณหลวงพ่อแต่เราตอบแทนพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เลยทีเดียวเราจะได้ช่วยกันปกป้องพระศาสนาไม่ต้องให้เลือบลิ้นไลพระศาสนาที่

    เวลานี้มีมากเหลือเกินจนเป็นขบวนการแม้แต่ตำแหน่งก็วิ่งเต้นกันจนผ้าเหลือง

    ปลิวว่อนน่าอดสูยิ่งนัก

    เรียนเชิญท่านที่มีความรู้ร่วมเข้ามาให้คำแนะนำกับคณะผู้ก่อตั้งก็ดีนะร่วมแรง

    ร่วมใจกัน

    ตั้งแต่ที่อ่านข้อมูลมาดูเหมือนจะให้เจ้าคณะจังหวัดจัดการคงยากเพราะดูเหมือน

    เห็นพล้องกันกับเจ้าคณะอำเภอแบบวางแผนกันไว้ก่อนและการกระทำของเจ้า

    คณะจังหวัดก็ทำแบบนี้มาหลายวัดแล้วแต่วัดที่ถูกกระทำไม่มีลูกศิษย์เป็นตัวตั้งตัว

    ตีก็เลยได้ใจไม่รู้บวชเรียนจนได้ตำแหน่งนี้มายังไง งงจริงๆ

    ขอให้จบด้วยดีนะขอให้คณะผู้ก่อตั้งทุกท่านจงประสพผลสำเร็จทุกประการ

    ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ พรหมานุภาพ เทวานุภาพ

    และพลังอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของครูบาอาจารย์จงปกป้องคุ้มภัยให้กับทุกท่าน

    และประสพผลสำเร็จโดยเร็ววันฉับพลันเทอญ

    ฟ้ามีตาคนชั่วไม่ลอยนวลแน่
     
  7. นิรันตรัง

    นิรันตรัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    บันทึกหลักการและเหตุผล
    ประกอบกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
    ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ


    หมวด ๒

    การแต่งตั้งพระสังฆาธิการ

    ข้อ ๖ พระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งตามข้อ ๔ ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังต่อไปนี้

    (๑) มีพรรณาสมควรแก่ตำแหน่ง

    (๒) มีความรู้สมควรแก่ตำแหน่ง

    (๓) มีความประพฤติเรียบร้อยตามพระธรรมวินัย

    (๔) เป็นผู้ฉลาดสามารถในการปกครองคณะสงฆ์

    (๕) ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพไร้ความสามารถ หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคเรื้อน หรือเป็นวัณโรคในระยะอันตรายจนเป็นที่น่ารังเกียจ

    (๖) ไม่เคยต้องคำวินิจฉัยลงโทษในอธิกรณ์ที่พึงรังเกียจมาก่อน

    (๗) ไม่เคยถูกถอดถอนหรือถูกปลดจากตำแหน่งใด เพราะความผิดมาก่อน

    ส่วนที่ ๖

    เจ้าอาวาส

    ข้อ ๒๖ พระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ต้องมีคุณสมบัติโดยเฉพาะอีกส่วนหนึ่ง ดังนี้

    (๑) มีพรรษาพ้น ๕ และ

    (๒) เป็นผู้ทรงเกียรติคุณเป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิตและคฤหัสถ์ในถิ่นนั้น

    ข้อ ๒๗ ในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสนอกจากพระอารามหลวงในตำบลใด ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล เจ้าสังกัด ถ้าไม่มีรองเจ้าคณะอำเภอ ไม่มีรองเจ้าคณะตำบล ให้เจ้าคณะอำเภอเลือกเจ้าอาวาสในตำบลนั้น รวมกันทั้งหมดไม่น้อยกว่า ๓ รูป ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกพระภิกษุผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๖ และข้อ ๒๖ แล้ว ให้เจ้าคณะอำเภอรายงานเสนอเจ้าคณะจังหวัดเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง

    ถ้าพระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอยู่ด้วย ให้เจ้าคระอำเภอรายงานเสนอเจ้าคณะจังหวัด เพื่อเจ้าคณะภาคพิจารณาแต่งตั้ง

    ข้อ ๒๘ ในการแต่งตั้งรองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส นอกจากพระอารามหลวง ให้เจ้าอาวาสวัดนั้นพิจารณาคัดเลือกพระภิกษุผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๖ และข้อ ๒๖ และระบุหน้าที่ที่ตนจะมอบหมายให้ปฏิบัติ แล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ เพื่อเจ้าคณะจังหวัดพิจารณาแต่งตั้ง

    วัดพุทธไชโยมีความพิเศษ ต่างจากวัทั่วไปดังนี้
    ๑.มีเจ้าภาพร่วมก่อตั้งและร่วมอุปถัมภ์วัดชัดเจน คือ คณะศิษย์พระราชพรหมยานมหาเถระนำโดยองค์หลวงพ่อเอง
    ๒.มีวัตถุประสงค์ใการก่อตั้ง เพิ่มจากวัดทั่วไปคือ เป็นศูนย์สงเคราะห์ฯ และ
    ๓.มีศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ในวัด มีการดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง มาเว้นไปช่วงเจ้าอาวาสองค์เก่าป่วย

    ฉะนั้นการคัดเลือกพระภิภษุที่จะมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ตาม ข้อ ๖ พระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งตามข้อ ๔ ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังต่อไปนี้(๒) มีความรู้สมควรแก่ตำแหน่ง นอกจากผู้ที่ร่วมพิจารณคัดเลือกไม่ทำตามกฏการแต่งตั้งคือ ข้อ ๒๗ ในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสนอกจากพระอารามหลวงในตำบลใด ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล เจ้าสังกัด ถ้าไม่มีรองเจ้าคณะอำเภอ ไม่มีรองเจ้าคณะตำบล ให้เจ้าคณะอำเภอเลือกเจ้าอาวาสในตำบลนั้น รวมกันทั้งหมดไม่น้อยกว่า ๓ รูป ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกพระภิกษุผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๖ และข้อ ๒๖ แล้ว ให้เจ้าคณะอำเภอรายงานเสนอเจ้าคณะจังหวัดเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง และยังไม่เอื้อเฟื้อต่อข้อห่วงใยของผู้อุปถัมภ์วัดเรื่องความไม่พร้อมของคุณสมบัติภิกษุรูปนี้ เข้าข่ายปฏิหน้ที่โดยมิชอบ ฟ้องศาลได้
    หลังจากฝืนแต่งตั้งโดยไม่ฟังเสียงทายก ทายิกาที่แสดงความห่วงใยโดยธรรมไปแล้ว
    ทางผู้อุปถัมภ์วัดด้วยข้อห่วงใยดังกล่าว ก็ได้อนุโลมตามนั้นแต่ขอให้รับคณะพระภิกษุที่เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์เข้ามช่วยงาน ๘ รูป เจ้าอาวาสใหม่ก็เห็นด้วย และได้เซ็นรับเข้าสังกัดวัดแล้ว ๑ รูป ต่อมาเจ้าคณะอำเภอ ได้ขัดขวาง อันนี้ก็มีความผิดฐานปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นำขึ้นฟ้องศาลได้แน่นอน และยิ่งถ้าพิสูจน์ได้ว่าท่านมีผลประโยชน์ขัดกันด้วย ยิ่งมีโทษหนัก อันนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก เพราะท่านก็สังกัดวัด บุษยะบรรพต องค์ที่ท่านคัดเลือให้เจ้าคณะจังหวัดแต่งตั้งก็สังกัดวัดเดียวกัน คุณสมบัติไม่พร้อมที่จะบริหารวััดพุทธไชโยซึ่งมีความพิเศษดังที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ยังขืนทำลงไป อันนี้ต้องไปพิสูจน์ในศาล
    ส่วนเจ้าอาวาสองค์ใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งก็กล่าวความเท็จว่าตัีวเองได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทั้งๆในช่วงเวลาที่อ้างถึงตัวเองคุณสมบัติยังไม่ถึงที่จะได้รับการแต่งตั้งได้ คือ อายุพรรษาตอนนั้นยังไม่ถึง ๕ พรรษา และ ความผิดฐานอ้างข้อความที่เป็นเท็จ ใช้เอกสารที่เป็นเท็จ ออกคำสั่งกลับคำ เรื่องพระเจ้าหน้าที่ศูนย์ ๘รูปอีก โดยอ้างว่าเป็นมติสงฆ์ พวกท่านจะพยามแก้ผิดให้เป็นถูกด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ ต้องนิมนต์ท่านทั้งหมดไปพิสูจน์ความเป็นจริงในศาล

    ฝ่ายกฏหมายของเราคงรวบรวมหลักฐานการกระทำความผิดในหน้าที่ของท่าน ตั้งแต่เจัาคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาส ได้ไม่ยากนะครับ เพราะเรามีทั้งภาพทั้งเสียง ทั้งเอกสารหลักฐานพร้อมอยู่แล้วทุกขั้นตอน ยังไงก็คงต้องสู้กันจนถึง ฎีกานั่นแหละครับ ยังไงเสีย ความเท็จย่อมแพ้ความจริงวันยังค่ำ
    ช่วยกันนะครับ ทุกๆวิธีที่มีอยู่ก็ทำควบคู่กันไปทุกวิถีทางนั่นแหละครับ สู้ไปจนกว่าความเร่าร้อนจากความไม่ชอบธรรมจะหมดไปจากวงการคณะสงฆ์ไทยได้ก็ยิ่งดี ผมขอร่วมด้วยช่วยกันด้วยความเต็มใจครับ และจะหาผู้รู้มาช่วยอีกนะครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2011
  8. inzee

    inzee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. นิรันตรัง

    นิรันตรัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92

    เรียนเชิญท่านที่มีความรู้ร่วมเข้ามาให้คำแนะนำกับคณะผู้ก่อตั้งก็ดีนะร่วมแรง

    ร่วมใจกัน


    สาธุ ขอบารมีทุกๆท่านช่วยเหลือ

    อย่างเร่งด่วนนะครับ ศึกครั้งนี้หนักหนาสาหัสมาก ถ้าบารมีไม่พอรับไม่ไหวจริงๆ
     
  10. luckyinlux

    luckyinlux สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอร่วมโมทนาบุญกับคุณคอนสวรรค์ทุกอย่างค่ะ ดีใจที่คุณได้พบท่าน "สุพรหมฤาษี"
     
  11. Deetom

    Deetom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +825
    ขอร่วมเป็นหนึ่งกำลังใจ ให้ทุกปัญหาที่ขัดข้อง ดำเนินสู่หนทางอันถูกต้อง ขอให้ลูกหลานหลวงพ่อมีชัยชนะ สาธุ
     
  12. คณะปลาวาฬ

    คณะปลาวาฬ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +5
    ท่านใดไปบ้านสายลมสามารถรับแผ่น VCD รวมเหตุการณ์ ได้ที่ร้านป่าละอูนะครับ
    ส่วนลงชื่อได้ทั้งที่ตึกกรรมฐานและที่ร้านป่าละอู 2 จุดครับ
     
  13. นิรันตรัง

    นิรันตรัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92

    ตั้งแต่ที่อ่านข้อมูลมาดูเหมือนจะให้เจ้าคณะจังหวัดจัดการคงยากเพราะดูเหมือน

    เห็นพล้องกันกับเจ้าคณะอำเภอแบบวางแผนกันไว้ก่อนและการกระทำของเจ้า

    คณะจังหวัดก็ทำแบบนี้มาหลายวัดแล้วแต่วัดที่ถูกกระทำไม่มีลูกศิษย์เป็นตัวตั้ง

    ตัวตีก็เลยได้ใจ


    เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ วางแผนกันไว้ก่อนแล้ว เขามั่นใจว่าเขาทำถูกระเบียบทุกอย่าง แต่เขาลืมไปว่า งานนี้มันแตกต่าง เพราะเมื่อทำไปโดยอ้างระเบีียบนั้นปรากฏว่ามีการทักท้วงโดยชอบธรรมเกิดขึ้น แต่ท่านกลับไม่เอื้อเฟื้อในคำทักท้วงนั้น และ ภายหลังก็ปรากฏว่าข้อห่วงใยของผู้ทักท้วงนั้นเป็นจริง คือ องค์ที่ท่านแต่งตั้งนั้นคุณสมบัติไม่เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งจริงๆ ท่านไม่รู้ว่าถ้าขึ้นศาล ข้อนี้ท่านจะถูกตัดสินว่าผิด ด้วยเหตุที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อคำทักท้วงของผู้ที่ใช้สิทธิ์โดยชอบธรรมนั่นเอง มาตรา ๑๕๗ ใช้กับท่านได้แน่นอน คดีลักษณะนี้เคยมีมาแล้วให้หาอ่านจากคำตัดสินของศาลฏีกาที่ผ่านๆมานะครับ ยิ่งถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าท่านวางแผนโดยละเลยความชอบธรรมไว้ก่อนแล้วด้วย หนักครับงานนี้

    สำหรับทีมกฏหมาย ให้หาหลักฐานพิสูจน์ให้ได้ว่า การกระทำของท่านนั้น สร้างความเสียหายให้กับ ใครบ้าง กับอะไรบ้าง อย่างไร พิสูจน์ฺให้ศาลเห็นว่า เรามีสิทธิืที่จะทักท้วงด้วยความห่วงใยและโดยชอบธรรมอย่างไร เช่น มีหลักฐานว่าเราเป็นผู้ร่วมตั้งวัด เราเป็นผู้อุปถัมภ์วัดอยู่ เราเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ที่ตั้งอยู่ในวัดเป็นต้น

    เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ยังไงขอให้ทีมกฏหมายศึกษาดูนะ ผมไม่ใช่นักกฏหมาย เพียงแต่ผมเคยมีประสบการณ์มาบ้างเท่านั้นเอง ประกอบกับใช้มโนมยิทธิช่วยบ้าง อย่างเรื่องกฏแห่งกรรม คือ นับแต่นี้ไป กรรมที่เป็นบาปอกุศลจะเข้ามาสนองผู้ที่รู้สึกตัวว่าตัวเองใหญ่ ตัวเองมีตำแหน่ง ตัวเองมีอำนาจจะทำยังไงก็ได้ โดยไม่สนใจเรื่องความถูกต้องชอบธรรม ไม่สนใจปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ สุขทางโลกีย์วิสััยอย่างหนัก เบีียดเบียนผู้ทรงศีลทรงธรรม เพราะกรรมย่อมให้ผลเมื่อถึงเวลาเสมอ

    ผลแห่งกรรมอันนี้ จะทำให้ทุกๆรูปทุกๆนามที่ร่วมกันกระทำกรรม เสื่อมจากญาติ เสื่อมจากลาภยศสรรเสริญ จะถูกโจทย์ในทางไม่ดีอย่างหนัก จะเกิดโรคร้ายในตัวขึ้น จะได้รับทุกขโทมนัสอย่างแสนสาหัส และ ตาย ก่อนคดึความนี้จะจบลง ส่วนหลังจากตายแล้ว ก็แล้วแต่เถอะ คำเตือนสำหรับพวกเราทุกคน ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ท่านทั้งหลายให้ตั้งอยู่ในอุเบกขาธรรม ห้ามความรู้สึกสะใจ อย่าให้ปรากฏขึ้นในใจเราได้นะครับ จะได้ไม่เป็นเชื้อให้เกิดวิบากกรรม ต่อเราต่อไปในภายภาคหน้า ทั้้งหมดนี้จึงเป็นที่มาให้ผมโพสท์คำแนะนำนี้ไว้

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นิรันตรัง
    ข้อแนะนำในฐานะผู้ที่ไม่ชอบยุ่งยาก(ถ้าไม่จำเป็น)


    ให้เจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งมาโดยไม่โปร่งใส ลาออกเสีย


    ให้เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ มอบเรื่องนี้ให้ เจ้าคณะจังหวัดแก้ไขปัญหานี้

    โดยตรง ให้เจ้าคณะจังหวัดประสานกับ คณะญาติโยมที่อุปถัมภ์วัด และ ทำการ

    แต่งตั้ง พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งใน ๘ รูป ที่ มีความเหมาะสมในการดำเนินงาน

    สงฆ์ และ งานศูนย์สงเคราะห์ฯ ภายในวัดพุทธไชโย ให้เป็นไปได้ด้วยดี เป็น

    เจ้าอาวาสแทน แล้วให้ท่านบริหารและดำเนินกิจการภายในวัดให้เป็นไปด้วย

    ความสงบเรียบร้อยสืบไป

    สุขใดเสมอด้วยความสงบไม่มี

    แต่ถ้ามีความจำเป็น ก็จะต่อสู้จนกว่าความเร่าร้อนอันเกิดจากความไม่เป็นธรรม

    จะหมดสิ้นไปจากขอบเขตของพระพุทธศาสนาโน่นแหละ



    "ฟ้ามีตาคนชั่วไม่ลอยนวลแน่"


    แถมหน่อยครับ "คนคำณวน ไม่เท่าฟ้าลิขิต"

    รวมหัวกันคำณวน ด้วยดวงจิตที่เต็มไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง

    เป็นกรรมดำและกรรมดำนี้กำลังให้ผลดังที่บอกมา และให้ผลเร็วและแรงเกิน

    กว่าที่พวกท่านจะคำณวนได้





    เดินหน้ารวมพลังสร้างความดี ต่อสู้กับความชั่วต่อไปนะพวกเรา จนกว่าคน

    ชั่วไม่สามารถนำความชั่วมาใช้กับ ชาติ ศาสนา และ สถาบันพระมหากษัตริย์

    อันเป็นที่รัีกยิ่งของเราได้อีกต่อไป ตลอดกาลนาน พบกันที่สายลมนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2011
  14. คณะปลาวาฬ

    คณะปลาวาฬ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +5
    โมทนาบุญนะครับคุณนิรันตรัง

    มาสายลมวันไหนครับจะได้เจอกันไหมครับจะได้ปรึกษางานครับ

    pmหาผมได้นะครับ

    เพราะบางอย่างต้องการปรึกษาเป็นส่วนตัวครับ

    ผมpmหาคุณไม่ได้ครับ

    ขอบคุณครับที่ได้ผู้ปรึกษาเพิ่มครับ
     
  15. คณะปิดทอง

    คณะปิดทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +363
    ขอขอบคุณคุณฟาร่าห์ที่นำบทเพลงนี้มาลงเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกๆคน

    ขอเป็นกำลังใจให้คุณฟาร่าห์ และขอบารมีหลวงพ่อเมตตาคุ้มครองคุณฟาร่าห์ให้หายจาก

    อาการป่วยไวๆครับ

    <iframe width="425" height="349" src="http://www.youtube.com/embed/0-8jf-iF1_A" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  16. ฟาร่าห์

    ฟาร่าห์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอขอบคุณน้ำใจจาก คณะปิดทองเช่นกันค่ะ
    สิ่งใดที่สามารถทำเพื่อตอบแทนในพระคุณของหลวงพ่ออันหาที่สุดมิได้ ดิฉันยินดีทำถวายเป็นชาติสุดท้ายค่ะ

    ป่วยเพียงกายใช่ใจ....ไม่ท้อ
    ยาเพียงพอหมอดี...... มีหาย
    หากป่วยจิตพิษแรง.... ถึงตาย
    ยาดีบ่ได้คลาย......... หายเช่น ดั่งเห็นธรรม...~
     
  17. awatan

    awatan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +13
    "เพลงพระราชนิพนธ์ยิ้มสู้"สาธุ ป่วยเพียงกาย ใช่ใจยิ้มสู้<iframe src="http://www.youtube.com/embed/khy_wMWetgc" allowfullscreen="" frameborder="0" height="349" width="425"></iframe>
     
  18. คณะปลาวาฬ

    คณะปลาวาฬ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอให้คุณฟาร่าห์หายจากโรคภัยไข้เจ็บโดยฉับพลัน

    แล้วเราจะไปปักธงชัยชนะด้วยกันเพราะเชิญธงมาแล้ว

    ต้องปักธงมหาฤกษ์ มหาพิชัยสงความ ธงแห่งชัยชนะ ธงแห่งความสวัสดิโชค

    เราจะต้องเดินเคียงคู่กันไปสู่เป้าหมายแห่งชัยชนะ

    เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนยงและถูกต้องตลอดกาล

    เราจะปราบเหล่าอลัชชีให้สิ้นทั้งแผ่นดินพระศาสนาจะได้ขาวสะอาด

    สมบัติพ่อของลูกๆหลานๆโดยมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

    ทุกๆกัปเป็นประธาน

    ขอเหล่าเราคณะลูกหลานร่วมแรงอธิษฐานร่วมส่งพลัง

    จิตให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ไพศาลเพื่อกอบกู้ซึ่ง

    สมบัติพ่อของเรากลับคืนมา

    ด้วยดวงจิตที่อธิษฐานสร้างสมบารมีมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะปรารถนา

    ซึ่งพุทธภูมิหรือสาวกภูมิ ขอให้ลูกๆหลานๆของพ่อทุกท่านที่ทำงานและร่วม

    กันอธิษฐานจิตจงบังเกิดซึ่งนิมิตที่ดีงามและประสพซึ่งความสำเร็จโดยฉับพลัน

    เทอญ เส้นทางแห่งความหลุดพ้นต้องช่วยกันสร้างบารมีถวายความกตัญญูต่อ

    พ่อซึ่งพ่อได้สร้างมาและให้มาทุกๆชาติ

    ก่อนจะนิพพานขอทำความดีถวายคุณพ่อที่เป็น

    1 ในดวงใจของลูกหลาน
     
  19. นิรันตรัง

    นิรันตรัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    กฎมหาเถรสมาคม
    ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
    ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ


    การแต่งตั้งพระสังฆาธิการ

    ข้อ ๖ พระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งตามข้อ ๔ ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังต่อไปนี้

    (๑) มีพรรษาสมควรแก่ตำแหน่ง

    (๒) มีความรู้สมควรแก่ตำแหน่ง

    (๓) มีความประพฤติเรียบร้อยตามพระธรรมวินัย

    (๔) เป็นผู้ฉลาดสามารถในการปกครองคณะสงฆ์

    (๕) ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพไร้ความสามารถ หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่

    สมประกอบ หรือเป็นโรคเรื้อนหรือเป็นวัณโรคในระยะอันตรายจนเป็นที่น่ารังเกียจ

    (๖) ไม่เคยต้องคำวินิจฉัยลงโทษในอธิกรณ์ที่พึงรังเกียจมาก่อน

    (๗) ไม่เคยถูกถอดถอนหรือถูกปลดจากตำแหน่งใด เพราะความผิดมา

    ก่อน

    ส่วนที่ ๖

    เจ้าอาวาส

    ข้อ ๒๖ พระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ต้องมีคุณสมบัติโดยเฉพาะอีกส่วนหนึ่ง ดังนี้

    (๑) มีพรรษาพ้น ๕ และ

    (๒) เป็นผู้ทรงเกียรติคุณเป็นที่เคารพนับถือของบรรพชิตและคฤหัสถ์ใน

    ถิ่นนั้น


    ข้อ ๒๗ ในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสนอกจากพระอารามหลวงในตำบลใด ให้เป็นหน้าที่ของเจ้า

    คณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล เจ้าสังกัด ถ้าไม่มีรอง

    เจ้าคณะอำเภอ ไม่มีรองเจ้าคณะตำบล ให้เจ้าคณะอำเภอเลือกเจ้าอาวาสในตำบลนั้น รวม

    กันทั้งหมดไม่น้อยกว่า ๓ รูป ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกพระภิกษุผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๖

    และข้อ ๒๖ แล้ว ให้เจ้าคณะอำเภอรายงานเสนอเจ้าคณะจังหวัดเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง

    ถ้าพระภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอยู่ด้วย ให้เจ้าคระอำเภอรายงานเสนอเจ้าคณะจังหวัด เพื่อเจ้าคณะภาคพิจารณาแต่งตั้ง

    ข้อ ๒๘ ในการแต่งตั้งรองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส นอกจากพระอารามหลวง ให้เจ้าอาวาสวัดนั้นพิจารณาคัดเลือกพระภิกษุผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๖ และข้อ ๒๖ และระบุหน้าที่ที่ตนจะมอบหมายให้ปฏิบัติ แล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ เพื่อเจ้าคณะจังหวัดพิจารณาแต่งตั้ง


    การดำเนินการแต่งตั้งในครั้งนี้ เป็นการพยายามทำให้ถูกตามกฏระเบียบนี้ เพื่อความชอบ

    ธรรม พวกท่านจึงมั่นใจว่า ข้าทำถูกแล้ว ไม่มีใครมาทำอะไรได้ แต่เนื่องจากว่า วัดพุทธ

    ไชโยมีข้อแตกต่าง มีการทักท้วงโดยธรรมเกิดขึ้น จากทายก ทายิกาผู้ร่วมก่อตั้งวัด และ ผู้

    อุปถัมภ์วัด การแต่งตั้งนี้จึงไม่ชอบเพราะไม่เอื้อเฟื้อฯ จึงโยงไปมีความผิดตามกฏ มส.นี้

    หมวด ๔

    จริยาพระสังฆาธิการ

    ส่วนที่ ๑

    จริยา​

    ข้อ ๔๔ พระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฏหมาย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช สังวรและปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยโดยเคร่งคัด

    ข้อ ๔๕ พระสังฆาธิการต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ถ้าไม่เห็นพ้องด้วยคำสั่งนั้นให้เสนอความเห็นทัดทานเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำาั่ง และเมื่อได้ทัดทานดังกล่าวมาแล้วนั้น แต่ผู้สั่งมิได้ถอนหรือแก้คำสั่งนั้น ถ้าคำสั่งนั้นไม่ผิดพระวินัยต้องปฏิบัติตาม แล้วรายงานจนถึงผู้สั่ง

    ในกรณีที่มีการทัดทานคำสั่งกล่าวในวรรคแรก ให้ผู้สั่งรายงานเรื่องทั้งหมดไปยังผู้บังคับบัญชาเหนือตน เพื่อพิจารณาสั่งการ

    ในการปฏิบัติหน้าที่ ห้ามมิให้ทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตพิเศษเป็นครั้งคราว

    ข้อ ๔๖ พระสังฆาธิการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง มิให้เกิดความเสียหายแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา และห้ามมิให้ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร

    ข้อ ๔๗ พระสังฆาธิการต้องปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ และห้ามมิให้ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่สมควร

    ข้อ ๔๘ พระสังฆาธิการต้องสุภาพเรียบร้อยต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตนและผู้อยู่ในปกครอง

    ข้อ ๔๙ พระสังฆาธิการต้องรักษาส่งเสริมสามัคคีในหมู่คณะ และช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางที่ชอบ

    ข้อ ๕๐ พระสังฆาธิการต้องอำนวยความสะดวกในหน้าที่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา



    ข้อ ๕๑ พระสังฆาธิการต้องรักษาข้อความอันเกี่ยวกับการคณะสงฆ์ที่ยังไม่ควรเปิดเผย


    เอามาลงให้ดูให้ชัดๆอีกครั้ง ว่าจะงุบงิบกันแต่งตั้งตามตัวหนังสือในบทบัญญัติไม่ได้ ต้อง

    โยงไม่ถึงจริยาของตัวเองตามตำแหน่งด้วย เวลาเขาสอบความผิด เขาสอบรวมกันทั้ง สอง

    ด้านที่ยกมาให้ดูนี้


    และัอีกอย่างผมสงสัยว่าการไม่เอื้อเฟื้อ ต่อศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นธุระกันดาร ซึ่งตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ฯ(มีป้ายแสดงไว้อย่างชัดเจน) ไม่เอื้อเฟื้อในการที่จะให้งานของศูนย์ฯ ดำเนินต่อไปได้ด้วยดี ด้วยการขัดขวางพระที่มีบัตรเจ้าหน้าที่ ๘ รูป ไม่ให้เข้ามาเพื่อดำเนินการกิจการของศูนย์ รวมถึง การดูหมิ่นในบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่ศูนย์ด้วย เป็นความผิดข้อหาหนัก อย่าทิ้งหลักฐานช่วงขัดขวางนี้นะครับ เก็บให้ครบ จำเป็นจริงๆที่เราจะต้องกล่าวโทษท่านในข้อหานี้ด้วย
     
  20. คณะปลาวาฬ

    คณะปลาวาฬ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบคุณ คุณนิรันตรังครับที่ให้ข้อมูลมา

    แต่ถ้าท่านเหล่านั้นรู้กันถึงชั้นผู้ใหญ่เราจะปกป้องยังไงครับ

    เขาบอก(ใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัวครับ)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...