ปัญหาการเข้าใจในการ)กิบัติธรรม

ในห้อง 'ฝากคำถามถึงหลวงพ่อเล็ก' ตั้งกระทู้โดย marine24, 9 ธันวาคม 2010.

  1. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    มีญาติคนหนึ่งของผม เขาได้ปฏิบัติธรรมกับพระท่านหนึ่ง ท่านสอนให้ดูแต่จิต ไม่เน้นการการทำบุญอย่างอื่น เขาบอกว่าวิธีดูจิต คือ วิธีปฏิบัติทางตรงมุ่งสู่พระนิพพาน การปฏิบัติแบบอื่นๆ เป็นทางอ้อม และบอกว่าการปฏิบัติเข้านิโรธสมาบัติ เป็นการทรมานร่างกายตนเอง การปฏิบัติแบบอื่นๆ ผิด เพราะในพระไตรปิฏก ไม่มีกล่าวเอาไว้
    ขอทราบว่าจะอธิบายอย่างไร เขาถึงจะเข้าใจถึงหลักการและวิธีการสูงสุดของพระพุทธศาสนา ผมคิดว่าเขากำลังเข้าใจผิด แต่เขาค่อนข้างจะมี มานะ
     
  2. สูร

    สูร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +31
    หลวงพ่อฤษีท่านเคยบอกว่า
    คนปฏิบัติรู้ไม่เท่ากัน ถ้าใครปฏิบัติไม่ครบ
    กรรมฐานทุกๆกอง เลือกแต่กรรมฐานที่ถูกใจ และตนเองปฏิบัติได้ผลดี
    เค้าก็จะสอนคนอื่นโน้มคนอื่นมาในกรรมฐานของตน เพราะตนปฏิบัติได้ดี
    ก็เป็นได้ และก็มีความหวังดี สอนกรรมฐานให้คนอื่นได้ดี แต่ไม่รู้ว่ามีวิธีฝึกแบบอื่นอยู่
    อันนี้เราเรียกว่าอย่างไรดีเน้อ
     
  3. biww

    biww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +202
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ !
    ๑. การปฏิบัติแบบดูจิต คือ จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ๑ ใน ๔ ของสติปัฏฐานสูตร , พระพุทธโฆษาจารย์ ผู้รจนาพระคัมภีร์วิสุทธิมรรค ท่านรวบรวมเอาพระกรรมฐาน ๔๐ ในสมัยพุทธกาล และบางครั้งพระพุทธเจ้าก็ประยุกต์สอนตามพระพุทธวินิจฉัย เช่น กรณีพระจูฬปันถก ที่พระพุทธองค์ทรงประทานผ้าขาวให้นั่งลูบแล้วภาวนา "ระโชหรณัง ระชังหรติ" จนท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ถึงพร้อมปฏิสัมภิทาญาณ ได้รับพุทธสรรเสริญ ว่าเป็นเอตทัคคะ ชำนาญในการใช้มโนมยิทธิ เรียกว่าพระกรรมฐานพิเศษ (เฉพาะบุคคล )
    ๒.การปฏิบัติไม่น่าจะมีทางตรงหรือทางอ้อม พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วย นานาธิมุตติกญาณ และอินทรียปโรปริยัตตญาณ พระญาณหยั่งรู้ในอัธยาศัยและอินทรีย์ของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ว่าสัตว์ใดใดมีอัธยาศัยอ่อน-แก่ บรรลุธรรมช้าหรือเร็ว คนไหนสามารถบรรลุธรรมได้ เช่น พระโมคคัลลานะปฏิบัติ ๗ วันบรรลุเป็นพระอรหันต์ , พระสารีบุตรปฏิบัติ ๑๕ วันบรรลุเป็นพระอรหันต์ , พระสีวลี โกนหัวบวชปุ๊บเป็นพระโสดาบัน บวชเสร็จเป็นพระอรหันต์
    ๓."ที่บอกว่าการปฏิบัติเข้านิโรธสมาบัติ เป็นการทรมานร่างกายตนเอง การปฏิบัติแบบอื่นๆ ผิด" ท่านน่าจะหมายถึง การเข้านิโรธกรรมของพระสายล้านนา ครูบาเจ้าศรีวิชัยใช่ไหมครับ ? อันนี้แล้วแต่อินทรีย์ของแต่ละบุคคล อย่างหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ท่านนั่งกรรมฐานสามฤดู คือ นั่งกลางแดด กลางฝน กลางลมหนาว , พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านเดินจงกรม ๓ วัน เป็นการทรมานจิตท่าน , พระอาจารย์จวน กุลเชฐโฐ ท่านนั่งสมาธิที่ปากเหว, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกการาม ท่านฉันวันละ ๓๒ คำ ล้วนเป็นวัตรปฏิปทาของพระอริยะเจ้าที่น่ากราบไหว้ เขาเรียกว่าการปฏิบัติแบบอุกฤษฏ์ ใช้สำหรับท่านที่มีอินทรีย์แก่กล้า ในพระไตรปิฏกก็มีนะครับ เช่น พระโคธิกะ , พระพุทธอนุชาอานนท์ ครับ
    ๔. การปฏิบัติแบบจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การตั้งสติกำหนดจิตรู้ดูจิต นี่เป็นของดีมาก ๆ ได้ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านสอนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพารามไว้นิครับ สาธุ.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...