ปัญหา 108 (2) (พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก)

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 15 ธันวาคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 19

    พระอาจารย์คิดว่าหลักธรรมใดของพระพุทธเจ้า ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากที่สุด


    ตอบ

    ธรรมที่มีอุปการะมากในทุกเวลา ทุกสถานการณ์ คือ
    สติ ระลึกได้
    สัมปชัญญะ ความรู้สึกตัว


    ระลึกได้ถึงความเป็นมนุษย์ (ใจสูง) เป็นหญิงชาย เป็นพ่อแม่ลูก สถานะในสังคม ตลอดถึงกาย เวทนา จิต ธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ยึดมั่นถือมั่น ลดมานะทิฏฐิ ไม่เห็นแก่ตัว คือ กำลังของสติสัมปชัญญะ มีสุขภาพใจดี มีกำลังใจ เกิดประสิทธิภาพในการงานหน้าที่ของเรา
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    ถาม 20

    ลองปฏิบัติด้วยการนอนสมาธิ แต่มักจะเผลอหลับไป อยากให้พระอาจารย์บอกวิธีฝึกในการนอนสมาธิด้วย


    ตอบ

    การนอนสมาธิเป็นการปฏิบัติที่ละเอียด ผู้ที่ปฏิบัติก้าวหน้าไปไกลเท่านั้นที่จะทำได้ สำหรับพวกเราผู้ปฏิบัติธรรมควรอาศัยอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง แต่บางคนยังไม่พร้อมที่จะปฏิบัตินั่งสมาธิ หรือเดินจงกรม อาจารย์ก็ให้เริ่มต้นนอนสมาธิ เพราะหลับก็ไม่เป็นไร หลับแล้วก็สบาย อาจจะบรรเทาความฟุ้งซ่านได้บ้าง หลับก็หลับให้สบายเลย ถ้ายังไม่หลับก็เป็นการช่วยฝึกสมาธิเหมือนกัน
     
  3. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 21

    คนที่เรารักมากๆ แต่ก่อนเคยเป็นของเรา ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่เป็นของเราแล้ว อาจเป็นของคนอื่น ทำให้เราทุกข์ใจ ตัดใจไม่ได้ เรายังอยากได้เป็นของเราอยู่ ควรใช้ธรรมข้อใดพิจารณาดีคะ


    ตอบ

    ใจเย็นๆ ไว้ก่อน เรากับเขาคงจะไม่มีบุพเพสันนิวาส เขาคงไม่ใช่ของเราจริงๆ คู่บารมีที่แท้จริงควรวางใจได้ เชื่อถือได้ ไม่ระแวง ไม่มีใครสามารถรบกวนได้ นี้เป็นของแท้ ถ้าคนเก่ายังอยู่ คู่แท้ก็จะมาไม่ได้ อาจจะมีคนดีกว่าเข้ามา หรือไม่เข้ามาก็ไม่เป็นอะไร อย่างน้อยรักษาสุขภาพใจดีไว้ ถ้าเจริญเมตตาภาวนาแล้ว ก็สุขใจมากขึ้นๆ เพราะอยู่คนเดียว พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ไม่มีภรรยา (หรือไม่มีสามี) เป็นลาภอันประเสริฐ ถ้าคิดได้อย่างนี้ ก็จะดับทุกข์ได้ ไม่ต้องกังวลใจอะไรมาก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 22

    คนทำบุญร่วมกันเพื่อว่าในชาติหน้าจะได้เกิดมาอยู่ร่วมกันอีก หากคู่สามีภรรยาที่ไม่ค่อยรักกันทำบุญร่วมกัน กรณีเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรในชาติหน้า


    ตอบ

    ชาติหน้าก็จะมีความสุขมากขึ้นกว่าชาตินี้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 23

    พระอาจารย์สอนว่าพูดน้อย เรื่องน้อย แต่ในที่ทำงานมีผู้หญิงมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันทั้งวัน คนพูดน้อยก็จะถูกมองว่าแยกตัว ไม่เข้าสังคม ขอให้พระอาจารย์แนะนำว่าต้องคิดอย่างไร จึงไม่ยินดียินร้าย


    ตอบ

    เราควรจะสร้างความมั่นใจในตัวเอง ใช้ปัญญาพิจารณาในการกระทำของตัวเอง ให้มีเหตุผล เอาความพอดี เราไม่ต้องเห็นแก่การนินทาสรรเสริญ เพราะเป็นสิ่งไม่แน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลา

    การพูดน้อยของเรา ถึงจะไม่ถูกใจเขา แต่ถึงเราพยายามจะเข้าไปพูดคุยก็ใช่ว่าเขาจะถูกใจ พูดน้อย พูดมาก ไม่พูด ก็อาจถูกว่าได้เหมือนกันหมด

    ในสมัยพุทธกาล มีอุบาสกชื่ออาดูล ชักชวนเพื่อนหลายคนเพื่อไปฟังเทศน์ ก็เข้าไปหาพระเถระองค์หนึ่ง เพื่อนิมนต์ให้แสดงธรรม ท่านไม่พูดอะไร อาดูลไม่พอใจ จึงไปหาพระองค์อื่น ก็ไปเจอพระสารีบุตร ก็เล่าให้ท่านฟังว่าพระเถระองค์ก่อนไม่ยอมพูดอะไร พระสารีบุตรจึงแสดงธรรมโดยพิสดาร อาดูลก็ยังไม่พอใจบอกว่าพระสารีบุตรเทศน์ยาว

    พอไปพบพระอานนท์ นิมนต์พระอานนท์เทศน์ พระอานนท์ก็เทศน์สรุปย่อๆ ให้ฟัง อาดูลก็ยังไม่พอใจ เมื่อไปพบพระพุทธเจ้าก็เล่าให้พระองค์ท่านฟัง พระพุทธเจ้าตรัสว่า “อาดูลคนที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก“

    เราก็เหมือนกัน ทำอย่างไรก็ต้องถูกนินทาอย่างแน่นอน ต้องเข้าใจว่า มันเป็นธรรมชาติ มันเป็นของมันอย่างนั้น ก็ให้คิดว่าเรากำลังอยู่ในสวนนก พูดน้อยๆ ถูกนินทา ดีกว่า พูดมาก มีเรื่องให้ทะเลาะกัน
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 24

    จะทำอย่างไรเมื่อเราชอบคิดถึงอดีตอยู่บ่อยๆ และเมื่อคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นจะทำให้เกิดความรู้สึกผิด เกิดความเศร้าเสียใจ จะต้องแก้ไขอย่างไร


    ตอบ

    อดีตก็ผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าผิด ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ผิดพลาดในอดีตถือว่าเป็นบทเรียน ให้ตั้งสติ ระลึกถึงอันนั้น ตั้งใจว่าจะไม่ทำผิดซ้ำๆ ซากๆ

    อดีตผ่านไปแล้วไม่ควรนึกถึงโดยอุปาทานยึดมั่นถือมั่น เพราะจะเป็นความชั่วในปัจจุบัน คือเป็นมโนกรรม เช่น เคยฆ่ากบตัวหนึ่งแล้วเรานึกถึง เกิดสงสารเสียใจ กลัวตกนรก แล้วนึกถึงทุกวันๆ จะเป็นการสร้างมโนกรรมทุกวันๆ เป็นกรรมหนัก ให้เห็นโทษของมโนกรรมในจุดนี้ แล้วก็ให้อยู่กับปัจจุบัน พยายามปฏิบัติตนเอาใจใส่หน้าที่ในปัจจุบัน ด้วยใจหนักแน่น

    ให้พิจารณากฎแห่งกรรมทะลุปรุโปร่งแล้ว ก็จะเห็นว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เราก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ 50 – 50 ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ เราก็ผิด 50 เขาก็ผิด 50 เมื่อเข้าใจจุดนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะคิดเสียใจ น้อยใจ โกรธในอดีต

    จริงๆ แล้ว ปัจจุบันก็ดี อนาคตก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ก็สมบูรณ์ด้วยเหตุผลตามกฎแห่งกรรม
    เมื่อเริ่มจะคิด หรือกำลังคิดอยู่ ได้สติเมื่อไร หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ สักพักหนึ่ง จนกว่าสัญญาเก่านั้นจะหายไป เหตุการณ์ในอดีตก็ให้มันจบไป เราก็มีหน้าที่ ทำดี คิดดี พูดดี ทำถูก ในปัจจุบันเท่านั้น
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 25

    เมื่อกระทบสิ่งที่ไม่อยากฟัง เพราะเป็นปมด้อย เช่น เรื่องตกงาน จะมีวิธีคิดอย่างไรจึงจะไม่เกิดยินร้าย


    ตอบ

    อย่าคิดว่าเป็นปมด้อย เรารู้สึกเป็นปมด้อยเพราะเกิดอุปาทานยึดมั่นถือมั่น เกิดความรู้สึกเป็นตัวเป็นตน เห็นแก่ตัวนั่นแหละ เราพยายามมองให้เป็นธรรม

    คนที่เหมือนเราก็มีมากมาย ทุกวันนี้ ตกงานก็เป็น fashion ไปแล้ว คิดว่าเป็นปมด้อยและปกปิด มันทำให้ทุกข์มาก ไม่มีใครคิดว่าเรา อย่างที่เราคิด เขาไม่แคร์เท่าไรหรอก เปิดเผยแล้ว ก็ไม่มีอะไร..... สบายใจ

    เรื่องหย่ากัน สามีมีเมียน้อยต่างๆ ไม่ต้องคิดว่าเป็นปมด้อย เปิดเผยเลย สบายใจ เรื่องนี้ก็เป็นธรรมดาไปแล้ว คนมีชื่อเสียงก็เป็นกันทั้งนั้น

    แต่ให้เราคิดค้นดูว่า ปัจจุบัน ทุกวันนี้ ทำอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์ได้ เช่น อ่านหนังสือธรรม ปฏิบัติธรรม ทำงานอดิเรกที่เราชอบ หรือ อะไรก็ตาม แล้วแต่จริตนิสัย ความสามารถของตนเอง และอย่างน้อยก็มีความรู้สึกว่า วันหนึ่งๆ มีความสุขและพอใจ ถ้าตกงานก็ค่อยๆ หางานไปพร้อมๆ กัน

    ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้โชคร้ายเป็นโชคดีได้
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    ถาม 26

    การโกหกที่ก่อให้ผู้รับฟังมีความสุขใจ เป็นบาปเพียงใด ส่งผลอย่างไร


    ตอบ

    หัวใจของศีลอยู่ที่การไม่เบียดเบียน บางครั้งบางกรณีเพื่อไม่ให้เขาทุกข์ใจ ลักษณะที่พูดไปไม่เป็นความจริง แต่เจตนาอกุศลไม่มี เช่น เราไม่สบาย คิดว่าน่าจะไม่รุนแรงมาก แล้วแม่ห่วง ถามเรา เราก็ตอบว่าไม่เป็นอะไร เพื่อไม่ให้แม่ห่วงมากเกินไป อันนี้ถือว่าเป็นเจตนาดีและไม่ถือว่าโกหก

    อีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น สมมุติว่าเราเดินในป่า เห็นกวางเดินผ่านหน้าไป ครู่เดียวนายพรานก็ผ่านมา ถามว่า เห็นกวางไหม ถ้าเราถือศีลห้า ก็จะต้องพูดความจริง แต่ถ้าเราพูดความจริง นายพรานก็ทำบาป กวางก็เป็นทุกข์ เป็นการพูดความจริงที่เบียดเบียนผู้อื่น แต่เมื่อถือศีล หัวใจของศีลอยู่ที่การไม่เบียดเบียน ทำอย่างไรจะไม่เบียดเบียน ก็ต้องพูดทำนองว่า ไม่เห็น คือรักษาหัวใจของศีลไว้

    หรือเมื่อเรารับราชการ หรือ ทำงานบริษัท ความลับของทางราชการ หรือของบริษัท ก็มีอยู่ เมื่อมีผู้ถาม และเขาก็อยากรู้จากเราจริงๆ เราก็ต้องหลีกเลี่ยง ใช้อุบายต่างๆ

    หัวใจของศีล คือ ไม่เบียดเบียนเรา ไม่เบียดเบียนเขา
     
  9. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 27

    การเป็นโรคภัยไข้เจ็บ มีโรคประจำตัว ถือว่าเป็นกรรมแต่ปางก่อนหรือไม่ และชาตินี้จะมีวิธีพิชิตโรคได้อย่างไร


    ตอบ

    โรคนี้เกิดขึ้นได้จากวิบากกรรม กรรมเก่าก็มีอยู่ เกิดจากจิตอุปาทานก็มีอยู่ หรือจากเชื้อโรค ขาดสารอาหาร จากสารพิษ หรือมีอะไรเกินไปหรือขาดไป ไม่พอดี ทำให้เกิดโรคต่างๆ ก็มีอยู่

    แพทย์รายงานว่า โรคเจ็บไข้ป่วยของเรานั้น แต่ละโรคมีจิตเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อย ถ้ารวมแล้วก็ประมาณ 80 % หรือ 1 ใน 3 ส่วนของโรคเกิดจากจิตอุปาทานยึดมั่นถือมั่น เครียด โกรธ เศร้าเป็นต้น

    การปฏิบัติธรรมทุกประการมีผลดีต่อการรักษาโรค สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน เจริญอานาปานสติ พิจารณากายเป็นอสุภะ เจริญเมตตาภาวนา ล้วนแต่มีผลดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ 1 ใน 3 ส่วนของโรคจะหายได้ ถ้าเจริญกรรมฐานสมบูรณ์ พูดง่ายๆ ลืมโรค คิดดี คิดบวก กำลังใจดี แล้วสุขภาพจะดีขึ้น
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 28

    การกินปลา กินเนื้อสัตว์เป็นบาปหรือไม่


    ตอบ

    สัตว์ก็ดี พืชก็ดีมีชีวิตอยู่เหมือนกัน ถ้าเราคิดว่าจะไม่ทำลายชีวิตก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีใครอยู่ได้ในโลก บางคนก็ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนสัตว์ แต่คิดดูหมิ่นคนอื่น ตำหนิติเตียน โกรธมีโทสะ จะมีโทษมากกว่า เราต้องระวังใจไม่ให้ทำด้วยโทสะ

    ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระเทวทัตเสนอพระพุทธเจ้าว่า ไม่ควรให้พระภิกษุในพุทธศาสนากินเนื้อสัตว์ พระพุทธเจ้าไม่รับ ไม่จำเป็น การบริโภคอาหารที่ถูกต้องที่สุดนั้น ให้พิจารณาเป็นยา เป็นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    ถ้าคิดตั้งใจว่า ข้าพเจ้าจะไม่กินเนื้อหรือใช้ของที่ได้มาจากการฆ่าสัตว์ เพราะว่าเป็นการเบียดเบียน ไม่นานคงต้องเข้าโรงพยาบาลประสาท เพราะสิ่งของต่างๆ ที่ทำมาจากสัตว์โดยที่เราไม่ได้สังเกตก็มีมาก หนังสัตว์ น้ำมัน เครื่องดนตรี แปรงสีฟัน สิ่งที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันต่างๆ ถ้าตั้งใจคิด ก็คิดฟุ้งซ่าน ลังเลสงสัย ทำให้ไม่สบายใจได้มาก ไม่เป็นไปเพื่อความสงบและละกิเลส

    โอปนยิโก น้อมเข้ามาดูจิต ไม่ให้คิดอาฆาต พยาบาท ไม่เบียดเบียน ทำได้ทุกคนและเป็นไปเพื่อความสงบสุข และละกิเลสได้ดี
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 29

    ทำไมบางคนเกิดมาอายุ 70 -100 ปีถึงตาย แต่บางคนอายุเพียง 1 ปีก็ตายแล้ว


    ตอบ

    ถ้าเปรียบเทียบกับการเข้าวัดป่านี้ บางคนก็อยู่นาน บางคนก็เข้าอบรม 5 วัน 7 วัน บางคนมาเพียงวันเดียวก็กลับ คนเรานี้ก็เหมือนกัน โลกนี้ชาตินี้ เหมือนวัดป่า เรามาอาศัยร่างกายนี้ชั่วคราว บางคน 100 ปี 50 ปี 1 ปี แล้วก็ไป บางคนก็ยังไม่ได้มองโลก ยังไม่เกิด เพียงแค่อยู่ในท้องแม่ก็ตาย พระพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลผู้ที่ทำความเพียร แม้เพียงราตรีเดียวก็น่าชม ดีกว่าคนอายุ 100 ปีแต่ไม่เคยทำความเพียรเลย อายุไม่สำคัญ

    ชีวิตที่มีอยู่เมื่อทำหน้าที่เสร็จแล้ว ก็ไป
    อายุสั้นเนื่องจากฆ่าสัตว์ การรักษาศีลทำให้อายุยืน


    การตาย ตายดีก็มี ตายแล้วจะมีความสุขมากขึ้น..... สุคติ
    ตายไม่ดีก็มี ตายแล้วจะมีความทุกข์มากขึ้น..... ทุคติ

    บางคนเกิดมาในชาตินี้อยู่ไม่นานก็ตาย ตายตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ก็ดี อายุ 1 – 2 ปี 17 –18 ปีก็ดี ไม่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้วอยู่อย่างวุ่นๆ ทุกข์เดือดร้อน อยู่อย่างเด็กๆ มันสบาย แล้วไปต่อ ไปดี เด็กอายุได้ 1 ปีแล้วก็ไปดี แล้วตาย ไม่ต้องคิดว่า เด็กทำอะไร ทำบาปหนักจึงอายุสั้นหรือ โลกนี้อยู่ 1 ปีแล้วก็ไปดี เป็นสิ่งที่น่าอิจฉามากกว่าน่าสงสาร จริงๆ แล้วเขาจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ ก็ไม่ต้องคิด เขาอยู่โลกนี้ พอดีๆ และจะไป พอดีๆ ของเขา..... จบแค่นี้

    ตราบใดที่อยู่ในโลก เราทุกคนก็มีหน้าที่ ใครจะอยู่ในโลกก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 30

    ตามความเชื่อกฎแห่งกรรมที่ว่า ทำกรรมดีไปสู่ที่ดีและตายแล้วเกิดใหม่ แต่ในปัจจุบันนี้หาคนทำดียาก จึงน่าเชื่อว่าตายไปแล้วจะไปเกิดในนรกซึ่งนานมากกว่าจะเกิดเป็นมนุษย์อีก แต่ปัจจุบันประชากรโลกกลับมากขึ้น ถามว่าคนที่เพิ่มขึ้นมาจากไหน


    ตอบ

    คนที่ทำความชั่วนั้น ไม่ใช่จะไปเกิดในนรกหมด คนที่เรารู้สึกว่าคนนี้คนนั้นทำบาปมากตายแล้วน่าจะไปนรกหมดทุกคน คนเรามีทั้งดีไม่ดีปะปนกันไป ฐานะ สุขภาพร่างกาย ก็แตกต่างกันไป คนที่จิตใจดี คอยช่วยเหลือผู้อื่นก็มี คนที่คอยแต่จะเบียดเบียนผู้อื่นก็มี

    มนุษย์ในโลกนี้ 1 ใน 5 ส่วนอดอยาก กินไม่อิ่ม ในปัจจุบันมนุษย์ในโลกรบกัน ทำสงครามกันก็มีมาก ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่ออิ่มท้องก็มีมาก คนที่ติดคุกติดตะรางก็มีมาก คนที่สุขภาพกายไม่ดี คนที่สุขภาพใจไม่ดี คิดแต่โกรธ น้อยใจ เสียใจก็มีมาก ถ้ามองจากจิตใจของมนุษย์แล้วก็ไม่ต่างจากสภาพในนรก คนที่มีจิตใจคล้ายอยู่ในนรกก็มีมาก

    สัตว์เดรัจฉานและแมลงต่างๆ ทุกชนิดเกิดเป็นมนุษย์กันได้ทั้งนั้น
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 31

    คนที่ปฏิบัติได้เร็วและถูกทาง จักต้องสร้างสมมาแต่ชาติปางก่อนจริงหรือไม่


    ตอบ

    เราไม่ควรคิดว่า ชาติก่อนสร้างบารมีมาเท่าไร ดูปัจจุบันเดี๋ยวนี้ว่ากำลังคิด พูด ทำ ถูกต้องไหม ผิดหรือไม่

    เราเกิดมาในพุทธศาสนาพบครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทุกคนได้สร้างสมบารมีมากพอสมควรแล้ว แต่อย่าประมาท ตามที่กล่าวกันว่า พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน มารอยู่ที่นั่น ความดีความชั่วปะปนกันต้องใช้ปัญญามากๆ หน่อย

    ทาน เมตตา ศีล สมาธิ ทุกข้อวัตรปฏิบัติ ถ้าปราศจากปัญญาแล้ว ผิดทางได้ทั้งนั้น

    อย่าดูคนอื่นมากนัก อย่าเปรียบเทียบกันคนอื่นว่าเขาปฏิบัติได้ดี จะเกิดความน้อยใจ หลวงพ่อชาสอนว่า แม้แต่ผู้ปฏิบัติธรรมอยู่ในวัด จิตใจก็ยังคิดวิจารณ์คนอื่นอยู่ก็มีถึง 90% การปฏิบัตินี้ ให้ย้อนกลับมาดูตัวเอง 90 % ดูคนอื่นเพียง 10 % เพื่อเตือนสติตนเอง อบรมตนเอง

    ให้โอปนยิโกน้อมเข้ามาดูจิต ดูวาจา ดูกายของตน
    กำหนดสติปัญญาในปัจจุบัน ทุกขณะๆ ๆ เจียมตัวอ่อนน้อมถ่อมตน คิดถูก พูดถูก ทำถูกก็พอ ปฏิปทาของไส้เดือนคือปฏิปทาของเรา ทบทวนดูว่าขณะนี้คิดถูกพูดถูกทำถูกไหม ถ้าถูกก็ใช้ได้ ให้มีความพอใจในการปฏิบัติถูก ถ้าผิดก็รู้ว่าผิด ไม่ให้หลงทาง หาจังหวะกลับตัวให้ถูกต้องอยู่อย่างนั้น

    ปฏิบัติเรียบง่ายเพียงเท่านี้ ไส้เดือนๆ ๆ เราพอใจในปฏิปทาไส้เดือน มีสติอยู่กับขณะปัจจุบันเพียงเท่านี้ก็พอ
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    ถาม 32

    การที่เราคิดตำหนิหรือคิดร้ายต่อครูบาอาจารย์โดยไม่เจตนาจะเป็นบาปไหม


    ตอบ

    ปกติท่านสอนว่าต้องระวัง ยิ่งครูบาอาจารย์ที่เป็นอริยบุคคลแล้วยิ่งบาปมาก ถึงไม่มีเจตนาก็ตาม เราอาจจะรู้สึกว่าไม่มีเจตนาแต่จริงๆ แล้ว อกุศลจิตมันเป็นเจตนาอยู่แล้ว
     
  15. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 33

    เราควรแนะนำอย่างไร เมื่อเพื่อนชาวต่างประเทศสนใจปฏิบัติธรรม แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร


    ตอบ

    คำสอนของพระพุทธเจ้า 84,000 ธรรมขันธ์ รวมแล้วเป็นคำสอนเดียวคือ ไม่ประมาท คือ มีสติ เมื่อเราจะสอนคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็สอนว่า “BE MINDFUL” ให้มีสติ ในการคิด ในการพูด ในการกระทำทุกอย่าง ตั้งแต่ขับรถบนถนน เป็นต้น </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 34

    ความโกรธเปรียบเหมือนไฟไหม้ป่า การละความโกรธเปรียบเหมือนอะไร


    ตอบ

    ก็เหมือนกับบ้านเมืองเราอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ ต้นไม้ ร่มเย็น อากาศสดชื่น มีสัตว์น้อยใหญ่อาศัยอย่างมีความสุข เมื่อระงับโกรธได้จิตของเราก็จะมีเมตตากรุณา ทำให้เกิดความสงบ ร่มเย็น เกิดสันติสุข เป็นเด็ก
     
  17. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    ถาม 35

    เมื่อรู้ว่าใกล้เสียชีวิต ควรกำหนดลมหายใจทางจมูกหรือทางท้องหรือทางเท้าเพื่อจะให้จิตไปในทางที่ดี


    ตอบ

    ปกติคนเราคงจะอยู่ในอิริยาบถนอน สังเกตดูที่หายใจสบายๆ ที่จิตใจสบายๆ ที่สุด นั่นแหละ กำหนดที่นั่น ถ้าหายใจไม่สะดวก ก็กำหนดที่จิต พยายามรักษาจิตใจให้ดีที่สุด ทำใจให้หนักแน่น สงบ และอิสระ นึกถึงภาวะแห่งพุทธะ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หรือระลึกถึงช่วงที่เราปฏิบัติได้ดีที่สุด เรากำหนดอันนี้เป็นพุทธะ เอาที่นี่เป็นที่สงบ ที่ปลอดภัย หรือการกระทำอันใดที่นึกถึงแล้วภูมิใจ มีความสบายใจ มีความสุขใจ ก็นึกถึงอันนั้น แล้วให้มีความรู้สึกว่า จะไปที่ที่มีความสุข กำหนด สุขๆ ๆ ๆ หมดภาระ ดีใจที่จะตาย จะไปที่สุขๆ ๆ ๆ
     
  18. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    ถาม 36

    คนที่กำลังคิดฆ่าตัวตายแต่ยังไม่ทำ เพียงแต่คิดเป็นบาปไหม


    ตอบ

    เป็นมโนกรรม เหมือนคิดจะฆ่าสัตว์แต่ไม่ได้ฆ่าก็ไม่ผิดศีล 5 แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นบาปเหมือนกัน
     
  19. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 37

    การฝึกปฏิบัติจิตให้เป็นกุศล ไม่ยินดียินร้าย และตั้งอยู่บนความเมตตากรุณานั้น จะเป็นอุปสรรคในการปกครองคนไหม เพราะถ้าลูกน้องใต้บังคับบัญชา รู้ว่าเรามีใจเมตตากรุณา เมื่อเขาทำงานไม่ดี ไม่เรียบร้อย เจ้านายก็ไม่โกรธและพร้อมจะให้อภัยเสมอ เขาก็จะเกียจคร้าน ซึ่งบางคนต้องแสดงความโกรธ จึงจะได้ผล ให้อาจารย์ช่วยแนะนำการปกครองคนเช่นนี้ด้วย


    ตอบ

    ประเด็นที่ว่าไม่ยินดียินร้ายนี้ สิ่งที่จำเป็นมาก คือ ไม่มีอคติ ตามความรู้สึกของคนธรรมดา ที่มีลูกน้องมาก ลูกน้องบางคนก็ถูกใจ เป็นฉันทาคติ บางกลุ่มเราไม่ชอบและมักเกิดโทสะ เป็นโทสาคติ บางกลุ่มก็ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู เป็นโมหาคติ บางกลุ่มเราก็กลัวเขา เป็นภยาคติ

    สรุปว่าเราต้องทำใจเป็นกลางๆ ไม่ยินดียินร้าย มีจิตใจหนักแน่น ความรู้สึกเหล่านั้นเกิดขึ้นก็รู้เท่าทัน ไม่ตกอยู่ในอำนาจของอคติ 4 ตัวนี้ คุณธรรมของผู้นำคือ พรหมวิหาร 4 ตั้งอยู่ในความหวังดี ปกครองลูกน้อง เหมือนญาติพี่น้องของเรา เหมือนลูกของเรา การอบรมลูกน้องนั้นต้องรู้จักความพอดี หย่อนไปก็ไม่ดี บางครั้งก็ต้องดุ ต้องใช้ไม้บ้าง ถึงอย่างไรในใจเราก็ต้องมีความเมตตา ต้องพิจารณาว่าผู้รับพร้อมรับในรูปแบบใด บางคนพูดธรรมดาก็ได้ บางคนต้องดุ บางคนต้องขู่ก็มีบ้าง

    เมื่อเราเป็นผู้นำ มีหน้าที่ดูแลหมู่คณะ ต้องมีจิตใจดี มีเมตตากรุณา ปราศจากอคติ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ให้ร่วมกันพิจารณาแก้ปัญหา ให้พิจารณาปัญหาทุกอย่างโดยไม่มองเป็นบุคคล ให้มองเป็นธรรม สิ่งไม่ดีก็ให้ร่วมกันแก้ไข สิ่งดีก็ช่วยกันสนับสนุน ไม่ให้เกิดมานะ แบ่งพวก แต่ให้เกิดความสามัคคี ไม่ถือตัวถือตน

    ถ้าใจเราไม่ยินดียินร้าย ไม่มีอคติ 4 และมีเมตตากรุณาแล้วมองทุกคนด้วยความเสมอภาค ไม่ให้ความสำคัญว่า ใครจะเก่ง ไม่เก่ง เรียบร้อย ไม่เรียบร้อย ฯลฯ เสมือนพ่อแม่รักลูกอย่างไม่ลำเอียง ไม่มีอคติ

    ครอบครัวที่เข้าใจกัน สามัคคีกัน รักกัน สมมติมีลูก 10 คน บางคนอาจจะพิการ บางคนเรียนหนังสือไม่เก่ง มีความสามารถต่างกันไป สิ่งเหล่านี้ไม่ให้ความสำคัญ ไม่สำคัญตัวว่าเก่ง ไม่ดูหมิ่นคนพิการว่าไม่เก่ง ต้องช่วยกัน ให้กำลังใจกัน แบ่งปันกัน มีชีวิตอยู่อย่างไม่มีทิฏฐิมานะ

    แต่เราต้อง ใจสงบ ใจดี ใจเมตตานะ
    แล้วก็จะเกิดผลดี เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ถาม 38

    ควรใช้ธรรมข้อใดในการแก้ไขหรือต่อสู้กับปรัชญาของตะวันตกในเรื่องการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพื่อทำให้สังคมไทยอยู่รอด


    ตอบ

    ใช้อิทธิบาท 4 ธรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม ทุกอย่างจะสำเร็จได้ ถ้าอิทธิบาท 4 ครบสมบูรณ์

    ฉันทะ ความพอใจ เป็นเป้าหมายที่เหมาะสม
    วิริยะ ความพยายาม
    จิตตะ จิตไม่หวั่นไหว จิตมีกำลังแน่วแน่
    วิมังสา ทบทวน ติดตาม แก้ปัญหาด้วยปัญญา

    เมื่อพูดถึงการที่ประเทศชาติจะพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ เช่น ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น หลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้หลักเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ รักชาติ ชาตินิยม และมีสามัคคีธรรม

    นอกจากนี้ สำหรับประเทศชาติ ต้องแก้ไขการคอร์รัปชั่นในวงการข้าราชการ การเมืองต่างๆ ให้เกิดความยุติธรรมในสังคม

    ยกระดับชั้นล่าง คนจน ให้เป็นระดับชั้นกลาง ทั้งหมดนี้จะสำเร็จได้ด้วยอิทธิบาท 4 เปลี่ยนค่านิยมให้เกิดความพอใจในการประหยัด สันโดษ ให้เกิดสุขภาพใจที่ดี ให้เกิดเป็นสถาบันครอบครัวที่มั่นคง และรักษาศีล 5
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...