ขอเชิญสั่งจองบูชา พระขรรค์แก้ว + จักรแก้ว ร่วมบุญสร้างกุฏิหลวงตาม้า-วิหารจักรพรรดิ ณ วัดพุทธพรหมปัญโญ และสมทบทุนกองทุนพุทธพรหมปัญโญ
ปิดกระทู้!!!ขอเชิญสั่งจองบูชา พระขรรค์แก้ว + จักรแก้ว (หมดแล้วครับ)
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย the_club, 5 พฤศจิกายน 2007.
หน้า 1 ของ 6
-
-
ได้เห็นแล้ว สุดยอดครับ
-
สาธุ...แต่ผมยังหาปัจจัยเองไม่ได้ เพราะ ผมยังเรียนอยู่ อยากได้เหมือนกันครับ ขออนุโมทนาแก่ผู้ที่ได้ไปบูชานะครับ สวยมากครับ
-
จอง 2 ชุดครับ
อยากทราบว่า 1.รับของได้เมื่อไหร่
2.ที่อยู่จะให้แจ้งยังไง -
-
อานิสงส์แห่งการสร้างกุฏิ
กุฏินั้นเป็นที่อาศัยพำนักของพระภิกษุสงฆ์ของสามเณร การสร้างกุฏิจึงนับว่าเป็นการส่งเสริมบำรุงพระพุทธศาสนานับได้ว่าเป็นงานอันยิ่งใหญ่
การจัดถวายที่อยู่ให้แก่พระสงฆ์ที่จะปฏิบัติสมรธรรมอย่างสะดวกสืบอายุพระพุทธศาสนาต่อไป ก็เท่ากับเป็นการเสริมสร้างบำรุงพระพุทธศาสนาโดยแท้ และเป็นการนำทรัพย์มาทำให้เกิดประโยชน์ในทางที่ดีอีกด้วย
ดั่งตัวอย่างอดีตนิทานเรื่องหนึ่งมีความว่า
มีช่างสานคนหนึ่งเป็นคนยากจน เมื่อเข้าป่าไปตัดไม้กับบุตรชายได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ใต้ต้นไม้ จึงพาลูกเข้าไปกราบไหว้ได้บังเกิดความเลื่อมใส แล้วก็ชวนลูกไปเที่ยวหาตัดไม้มาสร้างเป็นกุฏิมีประตูหน้าต่างเอาไม้อ้อมากั้นเป็นฝาเอาหญ้าคามามุงเป็นหลังคา แล้วนิมนต์พระบรมศาสดาให้ประทับจำพรรษาอยู่ที่นั้นแล้วก็นำเอาข้าวปลาอาหารมาถวายอีกทั้งดอกไม้หอมสีสันต่างๆด้วย
ครั้นเมื่อพ่อลูกคู่นี้สิ้นอายุขัยแล้วก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สถิตอยู่ในวิมานที่งดงามด้วยแก้วเจ็ดประการ แวดล้อมด้วยนางฟ้านางเทพอัปสรที่เป็นบริวารเสวยสุขอย่างเกษมสำราญสืบชั่วกาลนาน
***คัดลอกจาก หนังสือ "อานิสงส์แห่งการให้ทาน" โดย แก้ว สุพรรโณ***
<!-- / message --><!-- sig --> -
อานิสงส์การสร้างวิหาร
การสร้างกุฏิวิหารถวายเป็นสังฆทานนั้น พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญว่า เป็นทานอันเลิศ เป็นทานที่มีผลมากมีอานิสงส์มากเช่นกัน ตามข้อความที่ปรากฏในพระวินัยปิฎกมหาขันธกะ จุลวรรคว่า
พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์ ได้ทูลถามสมเด็จพระบรมศาสดาว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สาธุชนทั้งหลายมีใจศรัทธาปสันนาการ เลื่อมใสมาก่อสร้างกุฏิ วิหารถวายเป็นสังฆทานนั้น จะมีผลผลานิสงส์เป็นประการใด”
พระศาสดาทรงตรัสว่า
“ดูกรมหาบพิตร ผู้ใดมีจิตศรัทธาเลื่อมใสพระรัตนตรัยแล้วก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลา คูหาน้อยใหญ่ ถวายเป็นทาน จะประกอบด้วยผลอานิสงส์มาก เป็นอเนกประการนับได้ถึง ๔๐ กัป”
พระองค์ทรงนำอดีตนิทานมาเทศนาต่อไปว่า
ในอดีตกาลล่วงมาแล้ว พระพุทธเจ้ายังมิได้อุบัติบังเกิดในโลก ในระหว่างนั้นพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลาย ก็ได้บังเกิดตรัสรู้ในโลกนี้ และอาศัยในป่าหิมพานต์ อยู่มาวันหนึ่งมีความปรารถนาเพื่อจะมาใกล้หมู่บ้านอันเป็นแว่นแคว้นกาสิกราช ได้อาศัยอยู่ในราวป่าแห่งหนึ่งแถบใกล้บ้านนั้นมีนายช้างคนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านนั้น ก็ไปป่ากับลูกชายของตน เพื่อจะตัดไม้มาขายกินเลี้ยงชีพตามปกติ ก็แลเห็นพระปัจเจกโพธิเจ้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พ่อลูกสองคนก็เข้าไปใกล้น้อมกายถวายนมัสการแล้ว ทูลถามว่า
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าจะไปไหน จึงมาอยู่ในสถานที่นี้”
พระปัจเจกโพธิจึงตอบว่า
“ดูกรอาวุโส บัดนี้จวนจะเข้าพรรษาแล้ว อาตมาเที่ยวแสวงหากุฏิวิหารที่จะจำพรรษา”
นายช่างก็อาราธนาให้อยู่จำพรรษาในที่นี้ พระปัจเจกโพธิทรงรับด้วยการดุษณีภาพ สองคนพ่อลูกดีใจ จึงขออาราธนาพระผู้เป็นเจ้าเข้าไปในเรือน ถวายบิณฑบาตทานแก่พระปัจเจกโพธิ สองคนพ่อลูกเที่ยวตัดไม้แก่นมาสร้างกุฏิวิหารที่ริมสระโบกขรณีใหญ่ ได้ทำที่จงกรมเสร็จแล้ว ได้อาราธนาว่า
“พระผู้เป็นเจ้าจงอยู่ให้สุขเถิดพระเจ้าข้า”
<O
ครั้นพระปัจเจกโพธิได้รับนิมนต์แล้ว สองคนพ่อลูกตั้งปณิธานความปรารถนาว่า
“ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากทุกข์ยากไร้เข็ญใจ และขอให้ข้าพเจ้าทั้งสองนี้ได้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพผู้ประเสริฐองค์หนึ่งเถิด”
พระปัจเจกโพธิก็รับอนุโมทนาซึ่งบุญ นายช่างสองคนพ่อลูกอยู่สิ้นอายุขัยแล้วก็ทำกาลกิริยาตายไปบังเกิดในสวรรค์ขั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองเป็นที่รองรับ และเทพอัปสรแวดล้อมเป็นบริวาร เสวยทิพย์สมบัติอยู่ในสวรรค์สิ้นกาลนาน จุติจากสวรรค์นั้นแล้ว ก็ไปบังเกิดเป็นราชบุตรของพระเจ้าสุโรธิบรมกษัตริย์ในเมืองมิถิลามหานคร ทรงพระนามว่า มหาปนาทกุมาร เมื่อเจริญวัยขึ้นได้เสวยราชสมบัติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ด้วยอานิสงส์ที่ได้สร้างกุฏิวิหารถวายเป็นทานแก่พระปัจเจกโพธิ
ครั้นตายจากชาติเป็นพระยามหาปนาทแล้ว ก็เวียนว่ายตายเกิดในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ แล้วก็มาเกิดเป็นเศรษฐีมีทรัพย์ ๘๐ โกฎิอยู่ในภัททิยนคร ชื่อว่า ภัททชิกได้ปราสาท ๓ หลัง อยู่ใน ๓ ฤดู ครั้นเจริญวัยได้บวชในศาสนา สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในศาสนาของตถาคต ส่วนเทพบุตรองค์พ่อนั้น ยังเสวยทิพยสมบัติอยู่ในสวรรค์ช้านานจนถึงศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ลงมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในมนุษย์โลก ได้จุติลงมาปฏิสนธิในครรภ์พระอัครมเหสีสมเด็จพระเจ้ากรุงเกตุมวดี ทรงพระนามว่า สังขกุมาร ครั้นเจริญวัยแล้วก็ขึ้นครองราชสมบัติ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าสังขจักรบรมกษัตริย์ มีทวีปน้อยใหญ่เป็นบริวาร พระองค์จึงได้สละราชสมบัติบ้านเมืองออกไปบรรพชา ในสำนักพระศรีอริยเมตไตรย์กับทั้งบริวาร ๑ โกฎิ บรรลุอรหันต์ได้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา นามว่า อโสกเถระ ก็ด้วยอานิสงส์ได้สร้างกุฏิให้เป็นทานนั้นแล อันเป็นบุญให้ถึงความสุข ๓ ประการ คือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ<O</O
<!-- / message --><!-- sig --> -
คุณจิม เอาแนวคิดมาจากพระศรีสยามเทวาธิราชหรือครับ ผมเข้าใจผิดคิดว่ามาจากพระศรีอริยเมตไตรย์ที่หลวงพ่อฤาษีฯ สร้างไว้ที่วัดท่าซุง
-
ครับ ผมเองก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมพระศรีสยามฯ ของหลวงตาถึงได้คล้ายกับพระศรีอาริยเมตตรัยที่วัดท่าซุง
จำได้ว่าเคยถามหลวงตาแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าท่านตอบว่ายังไงเหมือนกัน แหะๆ -
จอง 1 ชุดครับ
-
บอกขนาดของทั้ง 2 อย่างให้ทราบได้ไหมครับ
จะได้พอจินตนาการออก ว่าจะเอามาทำอะไรได้บ้าง
ห้อยคอ..หรือต้องเก็บไว้ที่บ้าน ?? -
จักรแก้วมีขนาดประมาณ เหรียญ 2 บาท ครับ
สำหรับการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านครับ ว่าจะนำไปทำอะไร บางท่านห้อยขึ้นคอ บางท่านเก็บไว้บูชาที่บ้าน -
ขอแจ้งรายชื่อผู้ที่ได้ทำการจองไว้นะครับ
อายุมั่น 1 โอนเงินแล้ว
mali 2 โอนเงินแล้ว
id998866 1 โอนเงินแล้ว
sudpob 1 โอนเงินแล้ว
run_yu 1 โอนเงินแล้ว
ศิริวีร์ 1 โอนเงินแล้ว
pornchai2500 1 โอนเงินแล้ว
อาวุโสพรรคมาร 1 โอนเงินแล้ว
ชิษณุพงศ์ 1 โอนเงินแล้ว
ตปสีโล 1
ratsung 1
MAX 1
ตรีนิสิงเห 1
kangwan 2
นายเอก 6
sivakorn 10
teerins 1
ครึ่งชีวิต 1
jsp 1
pannatorn 1
อภิทรัพย์ 1
s3057780 2
เด็กน้อย 1
chanasak 1
Just_aware 1
kpn 2
chanasorn 1
ธวัชชัย 1
black_crystal 1
รัช 3
พหล 1
mum 1
ลีลาวดี 1
MEW 1
nooky 1
natthi 1
amornkul 2
jirang 2
atha 1
jdaijaidee 1
JD. 1
everlong 1
udon 1
punnarphut 1
lomkao 1
pipatq 1
theeras 1
RedLotus 1
wiraphat1 1
hexidecimal 1
tanainan 2
Jay 1
wara43 1
ksuchet 2
mail2wiss 1
เอก ขอนแก่น 2
ปลัดไม้ 2
ariyachot 1
Sitti 4
น้องเจ 1
niran 2
yoyoman 1
mahannop 1
pinij_k 4
fusion 1
jeeda 2
KIRATI 1
khonpak 1
teerachaihomtuanlom 1
jetskynet 2
โพธิศรัทธา 1
temaki 1
เฮียปอ ตำมะลัง 1
mongkol108 3
visarut 1
โคทะ 2
สมรชัย คุณรักษ์ 1
woottipon 1
kittipong 1 -
เมื่อวันศุกร์ (9 พ.ย. 2550) ได้มีโอกาสไปกราบหลวงตาและร่วมสวดมนต์ที่ธุดงคสถาน จ.สุพรรณบุรี ในการนี้พี่ที่เป็นคนติดต่อช่างทำพระขรรค์และจักร ได้นำแผ่นเงินมาให้หลวงตาจารและอธิษฐาน เพื่อนำไปเป็นชนวนครับ เดี๋ยวไว้ได้รูปแล้วจะนำมาลงให้ชมกันนะครับ
สำหรับแผ่นเงินนั้นหลวงตาท่านได้จารและอธิษฐานเสร็จแล้ว แต่ผมได้กราบขอความเมตตาหลวงตาฝากท่านนำไปอธิษฐานที่ถ้ำด้วยครับ
และจากที่ได้พูดคุยกับพี่ๆทีมงาน ทำให้ทราบว่า ทางด้านช่างที่ทำได้แจ้งว่าให้รีบทำเพราะเนื่องจากว่า เงิน กำลังจะขึ้นราคา ดังนั้นจึงได้ปรึกษากันว่าจะเอายังไง และได้ข้อสรุปมาว่า พระขรรค์และจักรนี้ จะทำเพียง 250 ชุดเท่านั้น เพื่อที่จะได้แจ้งจำนวนที่แน่นอนกับช่าง เพราะเกรงว่าราคาจะเงินจะขึ้นทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีกครับ และตอนนี้มียอดจองมาแล้ว 126 ชุด
<!-- / message --><!-- sig --> -
<HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เอารูปหลวงตาขณะจารแผ่นเงินมาให้ชมกันครับ
วันศุกร์ที่ 9 พ.ย. 2550 ผมได้เดินทางไปกราบหลวงตาและร่วมสวดมนต์ ณ ธุดงคสถาน จากนั้นได้นำแผ่นเงินจำนวน 5 แผ่น ถวายหลวงตา เพื่อให้ท่านจารและอธิษฐานจิตให้ หลังจากสวดมนต์เสร็จ ประมาณ 21.30 น. หลวงตาได้เดินทางมาที่กรุงเทพ ถึงกรุงเทพประมาณ 23.00 น. เมื่อหลวงตามาถึง ท่านได้เมตตา นำแผ่นเงินมาจารให้ ทั้งๆที่เป็นเวลาดึกแล้ว ความเมตตาของหลวงตาที่ท่านมีต่อเหล่าศิษย์ทั้งหลาย ประมาณมิได้จริงๆ ครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
<!-- / attachments --><!-- sig --> -
อยากได้ พระขรร กับจักร แบบที่เป็นหินใสธรรมชาติ
เคยเห็นมา สวยมากๆ เลย แต่ หายากครับ -
ถ้าจะเอาเป็นหินต้องไปให้ช่างเขาแกะเองนะครับ แม่ชีปิ๊กท่านก็คิดที่จะทำเป็นจักรที่แกะจากหิน แต่หลวงตาไม่อนุญาตครับ
-
ขอแจ้งยอดจองในขณะนี้นะครับ
ยอดจองทั้งหมด 132 ชุดแล้วครับ เหลืออีก 118 ชุดเท่านั้นครับ
ขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้มาร่วมบุญกันในครั้งนี้ด้วยครับ
หน้า 1 ของ 6