ปิดกองบุญ!!สมทบทุนสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้า อธิษฐานถวาย ณ เจดีย์ชเวดากอง

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย หริภุญชัย, 29 พฤศจิกายน 2012.

  1. หริภุญชัย

    หริภุญชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +3,517
    ปิดกองบุญ!!! พม่า11111111.jpg
    ปิดกองบุญ!!! บุญสร้างมหาทานบารมี
    สมทบทุนสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ อธิฐานถวาย ณ พุทธมหาเจดีย์ชเวดากอง
    และถวายผ้าป่าเพื่อบำรุงพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ วัดปาระมี
    และ ชำระหนี้สงฆ์ หนี้กรรม วัดพระเจดีย์สุพรรณกัลยา สถูปเจดีย์ที่เชื่อว่าบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระสุพรรณกัลยา

    ณ ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖


    ประทานชมรม1.jpg ประทานชมรม.jpg
    6ec77b639198b0553e59172a0283560c.jpg gasa.jpg Yangon 45.jpg
    ภาพพระเกศาธาตุ

    .......เนื่องด้วยเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ พระอาจารย์ อภิวิชญ์ อภิชโย ชมรมญาณวิโมกข์(ชมรมทรงประทานในสมเด็จพระญารสังวรฯ) ได้มีโอกาสเดินทางไปสักการะมหาพุทธมหาสถานประเทศพม่า ได้ถวายพระเจดีย์แก้วและมหาสังฆทาน ๙ วัด ในประเทศพม่า มาถึงครั้งนี้ปีพุทธศักราช ๒๕๕๖พระอาจารย์อภิวิชญ์ได้รับนิมนต์จากคณะญาติธรรมให้ได้ไปโปรดและวางดวงแก้วจักรพรรดิ์ปรับภพภูมิแต่งเมือง ณ ประเทศพม่า (ซึ่งพระเดชพระคุณท่านพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หลวงตาม้า ได้อธิฐานจิตมอบให้) และท่านจึงมีเจตนาที่ประสงค์จะสร้าง บริขารจำลองถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามประวัติที่ปรากฎในตำนานพระเจดีย์ชเวดากอง อันได้แก่ ธารพระกรทองคำ (ไม้เท้า)ของพระกกุสันธพระพุทธเจ้า / ธรรมกรก(เครื่องกรองน้ำ)ของพระโกนาคมพระพุทธเจ้า/ ผ้าจีวร(ในประวัติว่าผ้าอาบน้ำฝน) ของพระพุทธกัสสปะพระพุทธเจ้า และข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง ถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เมื่ออธิฐานถวายเสร็จจะไดอัญเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชาต่อไป และจะได้นำผ้าป่าไปทอดถวาย เพื่อทะนุบำรุงวัดพระเกศาธาตุที่ยังคงปรากฎให้เห็นในปัจจุบัน อันเปรียบกับเสมือนว่าได้อุปฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีอานิสงส์มาก และยังเป็นการชำระหนี้สงฆ์ อีกทางหนึ่งด้วย เพื่อให้เป็นมหาทานมหากุศลที่เกิดจากบารมีของพุทธศาสนิกชนที่มาจากทิศทั้ง ๔ จึงขอบอกบุญมายังทุกท่านให้ได้ร่วมบุญมหากุศลสร้างมหาทานบารมีในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน

    310541_190357691044448_100002106550538_410865_1973298049_n.jpg 377889_190357434377807_100002106550538_410861_266564837_n.jpg 381212_190362957710588_100002106550538_410924_1652917184_n.jpg 377963_190362664377284_100002106550538_410918_774015646_n.jpg
    พิธีถวายข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง และอธิฐานถวายมหาสังฆทาน บูชาพระมหาเจดีย์ชเวดากองก่อนนำไปถวายพระสงฆ์เป็นมหาสังฆทาน ปี ๕๔ ที่ผ่านมา


    จุดประสงค์การสร้างบารมีในครั้งนี้
    ๑.เพื่อสมทบทุนสร้างบริขารจำลองถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ มหาเจดีย์ชเวดากองและอัญเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทยเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชาต่อไป
    ๒.เพื่อถวายผ้าป่าบำรุงพระเกศาธาตุวัดปารมี
    ๓.เพื่อถวายผ้าป่าชำระหนี้สงฆ์ หนี้กรรม วัดพระเจดีย์พระสุพรรณกัลยา
    ๔.เพื่อเป็นสายบุญสายศรัทธากับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปได้ร่วมบุญและอนุโมทนาบุญ
    ๕.เพื่อให้ได้ร่วมบุญกับกองบุญต่างแดนตามแต่อัธยาศัย


    หมายเหตุ ปัจจัยที่ร่วมบุญมาแล้วถือว่าได้มอบถวายพระอาจารย์อภิวิชญ์ อภิชโย ให้จัดสรรบุญตามแต่เห็นสมควรเพื่อป้องกันกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นโดยมิได้เจตนา ดังนั้นให้ท่านผู้ร่วมบุญอธิฐานร่วมบุญทุกอย่างเพื่อให้ได้อานิสงส์ทั้งหมดโดยพร้อมกัน

    ติดต่อร่วมทำบุญได้ที่ ชมรมญาณวิโมกข์(ชมรมทรงประทานในสมเด็จพระญาณสังวรฯ) แม่สารบ้านตอง ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน โทร.๐๘๗-๑๘๕-๑๙๖๔


    ปิดกองบุญวันจันทร์ ที่ ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖
    ท่านผู้มีบุญทุกท่านหากร่วมบุญแล้ว กรุณาแจ้งชื่อจริง สกุลจริง เพื่อที่เวลากล่าวคำถวายพระอาจารย์ท่านจะได้อ่านนามของท่านให้เหล่าเทพยดาได้รับทราบว่ามีใครร่วมถวายในครั้งนี้บ้างครับ

    377180_190358004377750_100002106550538_410870_47823006_n.jpg 391230_190357257711158_100002106550538_410859_2037369975_n.jpg 318534_190367737710110_100002106550538_411001_2048802537_n.jpg
    พิธีถวายมหาสังฆทาน ปี พุทธศักราช ๒๕๕๔
    b7hp1.jpg pav7S.jpg qEBY.jpg
    สถูปบรรจุอัฐิสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  2. หริภุญชัย

    หริภุญชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +3,517
    ตำนานพระเกศาธาตุและธาตุบริขาร
    ในปีที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นมีพ่อค้าชาวพม่าสองพี่น้อง คนพี่ชื่อตปุสสะ และคนน้องชื่อ ภัลลิกะ(ปฐมอุบาสก) กำลังเดินทางกลับจากอินเดียพบพระพุทธเจ้าใกล้ๆกับต้นโพธิ์ ที่ตรัสรู้บังเกิดความเลื่อมใส จึงนำขนมพิเศษซึ่งเตรียมเป็นเสบียงกรังของตนไปถวายพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าฉันเสร็จแล้ว จึงเอาพระหัตถ์ลูบพระเศียร พระเกศาติดพระหัตถ์ออกมา ๘ เส้น จึงมอบให้ตปุสสะและภัลลิกะ เมื่อทั้งสองพี่น้องกลับสู่พม่าจึงได้นำพระเกศาธาตุ ไปถวายพระเจ้าแผ่นดินแห่งเมืองโอกกะละ (คือย่างกุ้งในปัจจุบัน) โดยกราบทูลว่า " ข้าฯแต่พระเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่ พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งว่าให้ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระองค์ ร่วมกับพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ก่อนโน้น ในสถานที่แห่งเดียวกันด้วยพระเจ้าข้า ณ เจดีย์ ที่ภูเขาสิงฆุตตระ" แต่พระเจ้าโอกกลาปะ ก็ส่งทหารออกค้นหากลางป่าดงพงไพรนานเป็นปีก็ไม่พบ จึงร้อนถึงท้าวสักกะ (หรือที่เราเรียกว่า "ท้าวสหัสนัยน์ไตรตรึงษา") ต้องเสด็จลงมาเลือกช่วยเลือกสถานที่ให้ ในการนี้ท้าวสักกะได้ตรัสสั่งเทวดา ๔ องค์ คือ สุเล อมะยิสะ ยอฮานีและทักษิน ให้ช่วยเหลือด้วย ดังนั้นด้วยอำนาจแห่งเทวฤทธิ์ของเทวดาเหล่านั้น จึงนำเอาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าในอดีตอีก ๓ พระองค์ คือ พระกกุสันธพุทธะ พระโกนาคมพุทธะ และพระกัสสปพุทธะ พร้อมทั้งไม้เท้า(ของพระกกุสันธะพุทธะ) กระบอกกรองน้ำ(ของพระโกนาคมพุทธะ)และผ้าอาบน้ำ(ของพระกัสสปพุทธะ) มาสมทบบรรจุเข้าในพระเจดีย์ที่จะสร้างใหม่นี้ด้วย ในอนาคตกาล พระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้ คือพระศรีอริยเมตไตรย" ในอนาคตเบื้องหน้า จะทรงประทาน " สร้อยพระศกและพระมหามงกุฏ" เป็นพระบรมธาตุประดิษฐาน ณ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ในตำนานของเดีย์ชเวดากองนั้น มีเรื่องราวมากมายหลากหลายที่ได้เล่ากันต่อ ๆ มา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอภินิหาร หรือแม้กระทั่งการสร้างเจดีย์แห่งนี้ขึ้นมาของ พระนางชินสอบู ซึ่งถ้าหากใครสนใจใคร่รู้แล้วจะพบว่า ทุกเรื่องราวที่เล่ามานั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว หากจะย้อนกลับไปเมื่อสมัย พระเจ้าโอกกลาปะ ผู้เป็น กษัตริย์แห่งดินแดนสุวรรณภูมิ ผู้ครองเมืองตะลายง์ซึ่งอยู่ใกล้ กับเชิงเขา กุตตระ ว่ากันว่าในขณะนั้น เจ้าชายสิทธัตถะกุมาร ยังคงเป็นเพียงเจ้าชายที่ยังไม่ได้ออกบวช และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เนินเขาเชียงกุตตระ เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่ประดิษฐานของเครื่องบริขารของอดีตพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์ อันได้แก่ ธารพระกร พระธมกรก และจีวร ซึ่งในความเชื่อของชาวพุทธเรานั้น ได้เชื่อกันว่า ในทุก ๆ ๕๐๐๐ ปี ก็จะมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งอุบัติขึ้นมาองค์หนึ่ง ซึ่งในเวลานั้น อดีตพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์ก็เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานล่วงไปแล้วเกือบ ๕๐๐๐ ปี ในความเชื่อของทุกคนนั้นไม่ช้า เนินเขาเชียงกุตตระ แห่งนี้ก็จะต้องสูญสิ้นความศักดิ์สิทธิ์ไป เว้นแต่พระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นมาใหม่นั้นจะได้เสด็จมาปรากฏกายยังที่นี่อีกครั้ง และพระราชทานสิ่งของแทนพระองค์ไว้ให้ทุกคนได้ทำการบูชาสืบต่อไปอีก ๕๐๐๐ ปี
    ในครั้งนั้นพระเจ้าโอกกลาปะจึงได้ เสด็จขึ้นไปบำเพ็ญเพียรที่บนยอดเขา โดยทรงเจริญสมาธิภาวนาด้วยหวังจะได้พระธาตุมาบูชาโดยเร็ววัน ก่อนที่ความศักดิ์สิทธิ์จะเสื่อมสลายลง ซึ่งในขณะนั้นเช่นกันที่เป็นช่วงซึ่ง เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ออกบำเพ็ญเพียรจนใกล้จะบรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เช่นกัน และพระองค์ได้ล่วงรู้ถึงภาวนาของพระเจ้าโอกกลาปะ จึงได้แสดงอภินิหารมาปรากฏกายต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าโอกกลาปะ และตรัสว่า พระประสงค์ของพระองค์นั้นจะสัมฤทธิ์ผลแน่นอน กาลเวลาล่วงไป เมื่อองค์พระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นเวลา ๔๙ วันนั้น ได้มี นายวานิชชาวพม่าสองคน พี่น้องเดินทางมาค้าขายจากอุกลชนบท คนหนึ่งชื่อ "ตาปุสสะ" อีกคนหนึ่งชื่อ "ภัทลิกะ" มาพบเข้าจึงเกิดความเลื่อมใส นำข้าวสัตตูไปถวายให้พระองค์เสวย องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเสยพระเศียรได้เส้นพระเกศา ๘ เส้น พระราชทานให้กับสองพ่อค้าพี่น้องไป ระหว่างทางที่ได้เดินทางกลับพม่านั้น พระราชาแห่งนครอเจตตะ ได้ปล้นชิงเอาพระเกศาธาตุไปจากนายวานิชพี่น้องสองเส้น และขณะที่กำลังล่องเรือข้ามอ่าวเบงกอลมาก็มีพญานาคราชตนหนึ่งผุดจากทะเลขึ้นมาชิงเอาพระเกศาธาตุของพระพุทธองค์ไปอีกสองเส้น เมื่อกลับมาถึงยังฝั่งพระนครที่เมืองพม่านั้น พระเจ้าโอกกกลาปะ ทรงจัดพิธีต้อนรับ และเฉลิมฉลองพระเกศธาตุ อย่างยิ่งใหญ่ และได้มีการคัดเลือกสถานที่ซึ่งจะนำพระเกศธาตุที่เหลืออยู่นั้นไปประดิษฐานเอาไว้ ในตำนานนั้นกล่าวว่า เมื่อพระเจ้าโอกกลาปะ ทรงเปิดกล่องที่บรรจุพระเกศาธาตุออกมาทอดพระเนตรนัน กลับพบว่า เส้นพระเกศาขององค์พระพุทธเจ้าได้แสดงอภินิหารเสด็จคืนกลับมาอยู่ในกล่องดังกล่าวนั้นทั้ง ๘ เส้น เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ขณะที่ทรงทอดพระเนตรเส้นพระเกศธาตุ ด้วยความปลาบปลื้มปิติอยู่นั้น พระเกศธาตุทั้ง ๘ เส้นก็ได้เปล่งรัศมีอันสุกใส ยังความสว่างไสวไปทั่วทั้งแผ่นดิน ในช่วงเวลานั้น คนตาบอดก็พลันได้มองเห็น คนที่พิการเป็นใบก็สามารถพูดได้ คนที่ง่อยเปลี้ยเสียขา ก็กลับกลายสามารถลุกขึ้นเดินได้ ในยามนั้น โลกาตุพลันสะเทือนไปทั่วหล้าพสธากัมปนาทอัสนีบาตฟาดเปรี้ยง เสียงเสนั่นพระพิรุณโปรยปรายลงมาพลัน และสายฝนที่หลั่งลงมานั้นกลับกลายเป็นอัญมณีที่ร่วงหล่นกระจายดารดาษ พระเจ้าโอกกลาปะ เห็นเป็นที่อัศจรรย์อย่างนั้น จึงทรงโปรดเกล้าให้อัญเชิญพระเกศธาตุทั้งหมดนี้ขึ้นไปประดิษฐานเอาไว้บนเนินเขาเชียงอุตตระและสร้างพระเจดีย์ครอบเอาไว้ เพื่อที่ให้เป็นที่สักการะของชาวพม่าสืบชั่วลูกหลานเหลนโหลน วันเวลาล่วงมานับจากวันที่เกิดขึ้นในตำนานที่กล่าวกันมาแล้วนั้น จนกระทั่งถึงในสมัยที่อาณาจักรพุกาม เป็นใหญ่ในประเทศนั้น เจดีย์ดังกล่าวแห่งนี้ ก็ได้รับการดูแลบูรณะสืบต่อกันมาไม่เคยขาดซึ่ง พระเจ้าอโนรธามังช่อ ก็เคยเสด็จประพาสเจดีย์ดังกล่าวนี้เมื่อสมัยที่พระองค์ทรงยังทัพลงมาเพื่อขยายอาณาเขตทางใต้ ใน พ.ศ. ๑๙๒๕ พระเจ้าบยินยาอู หรือที่เรียกกันว่า พระยาอู่ แห่งเมืองพรโค ได้บูรณะเจดีย์ขึ้นมาใหม่ และในสมัยของพระเจ้าเบีนยาเกียน(พระเจ้าราชาธิราช) นั้นก็ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกองค์สถูปขึ้นไปจนสูงถึง ๙๐ เมตร แต่ในสมัยที่พระนางชินสอบู ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์นั้น พระนางได้อภิเษกกัยพระเจ้าอังวะ และเป็นผู้ฝักใฝ่ธรรมะ ศึกษาพระคัมภีร์จนเชี่ยวชาญโดยมีสองสามเณรคอยช่วยเหลือคือ "ธรรมเจดีย์" และ"ธรรมปาล" ตามตำนานนั้นเล่าว่าเณรทั้งสองรูปนี้มีความเก่งกล้าสามารถในเรื่องเวทมนต์ ไสยศาสตร์ ถึงขนาดที่ว่าได้สามารถนำพาเอาพระนางชินสอบูเสด็จหนีออกมาจาก กรุงอังวะสู่เมืองหงสาวดี และได้มีการเสี่ยงทายหารัชทายาท จนกระทั่งได้ธรรมเจดีย์เป็นผู้ที่สืบต่อราชสมบัติ พระนางชินสอบู พระองค์นี้ ทรงเป็นนางพญาตะละท้าว ที่ชาวมอญ ทั่วไปต่างก็ให้ความนับถือเป็นอันมาก เพราะในยุคของพระนางนี่เองที่ได้ทำการบูรณะ เจดีย์ชเวดากอง ขึ้นมาจนกลายเป็นเจดีย์ทองที่สุกปลั่งอลังการอย่างในปัจจุบันนี้ โดยโปรดให้มีการนำเอาทองคำน้ำหนักเท่าพระองค์คือ ๔๐ กิโลกรัม ปิดทับลงไปบนองค์พระเจดีย์ที่ทรงมีความศรัทธาเลื่อมใส ซึ่งในสมัยวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพของพระนางนันกล่าวกันว่าพระนางชินสอบูทรงเสด็จไปประทับอยู่ที่หมู่บ้านตะเกิง ทอดพระเนตรยอดเจดีย์ทองของชเวดากองจนถึงวาระสุดท้ายพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์ในเวลาต่อมาโดยได้รับขนานนามว่า "พระเจ้ารามาธิบดีชินพะยูเยน" หรือ "ศรีบวรมหาธรรมราชาธิราช" ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งแผ่นดินมอญที่มีพระปรีชาสามารถยิ่งนัก เนื่องจากทรงทำนุบำรุงประเทศจนรุ่งเรือง และทรงสร้างสัมพันธไมตรกับประเทศเพื่อนบ้านจนแผ่นดินมอญอยู่ในความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา แต่ทว่าเมื่อถึงคราวมี่ "บินยายัน" โอรสของพระองค์ ขึ้นครองราชย์สืบต่อนั้น เหตุการณ์กลับเปลี่ยนไป เมื่อได้นำความขัดแย้งกับเมืองตองอูจนเข้าสู่สงคราม และทำให้พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ยกทัพเสด็จมาย่ำยีจนกระทั่ง มอญหมดสิ้นอำนาจในที่สุด ย้อนกล่าวไปถึงเรื่องราวเมื่อสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์นั้น พระองค์ทรงสร้างระฆังใบหนึ่งซึ่งหนักราว ๓๐ ตัน เพื่อนำไปประดิษฐานเอาไว้ที่เจดีย์ชเวดากองหากแต่ในเวลาต่อมา ได้ถูกทหารรับจ้างชาวโปรตุเกสแย่งชิงเอาไปเพื่อที่จะนำระฆังใบใหญ่นี้ไปหลอมเป็นปืน แต่ทว่าขณะที่นำระฆังล่องเรือข้ามแม่น้ำบากานนั้น เรือเกิดล่ม ระฆังจมลงสู่ก้อนแม่น้ำจนทำให้ไม่มีใครกู้ได้ หลังจากนั้นอีกสองร้อยกว่าปีต่อมา เจ้าราชบุตรสิงคุ ทรงโปรดเกล้าให้สร้างระฆังสัมฤทิธิ์หนัก ๒๓ ตัน ชื่อว่า "ระฆังมหาคันธ" นำไปประดิษฐานเอาไว้ที่องค์พระเจดีย์สืบมาจนกระทั่งสมัยที่อังกฤษได้ขยายอิทธิพลเข้ามาในถิ่นนี้และพยายามที่จะขนย้ายระฆังไปเก็บเอาไว้ที่เมืองกัลกัตตา หากแต่ว่าเกิดอุบัติเหตุเรือล่มจมลงกลางแม่น้ำ ทำให้ระฆังดังกล่าวนั้นจมลงไปและไม่มีใครกู้ได้เช่นกัน ในระหว่างนั้น ทหารอังกฤษพยายามที่จะกู้ระฆังใบนี้ขึ้นมาตลอดเวลา แต่ทว่าไม่สามรถที่จะทำได้ ดังนั้นจึงทำให้ชาวพม่าที่เชื่อกันว่า สาเหตุที่ทำให้เรือล่มและระฆังจมลงไปยังก้นแม่น้ำนันเนื่องเพราะว่า อาถรรพณ์จากการที่มีคนพยายามลบหลู่องค์พระเจดีย์ ด้วยความศรัทธาที่แก่กล้านี้ พวกเขาจึงได้เสนอว่าจะทำการกู้ระฆังขึ้นมา พวกเขาจึงได้เสนอว่าจะทำการกู้ระฆังขึ้นมา หากแต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องนำระฆังกลับไปประดิษฐานเอาไว้ ณ ที่เดิมอังกฤษตกลง เพราะคิดว่าชาวพม่าคงไม่มีที่จะกู้ระฆังได้แน่ แต่กลับผิดคาด เมื่อปรากฏว่าชาวพม่าสามารถกู้ระฆังขึ้นมาโดยใช้วิธีดำน้ำลงไปแล้วผูกแพไม้ไผ่จำนวนมากรองเอาไว้ใต้ระฆัง จนกระทั่งสามารถหนุนระฆังที่นหักอึ้งถึง ๒๓ ตัน อันนั้นให้ลอยขึ้นสู่พื้นน้ำได้ เรื่องราวที่เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจดีย์ชเวดากองนี้ มีอยู่มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นตำนานอภินิหารที่บรรพบุรุษของชาวพม่าเล่าสืบต่อกันมาในหมู่บุตรหลาน และได้มีการบันทึกเอาไว้ ทั้งในประวัติศาสตร์และในหนังสือตำนาน และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เจดีย์ที่มากด้วยอภินินหารอย่างชเวดากองนั้นได้รับความสนใจ และได้มีการสถาปนาเจดีย์แห่งนี้ขึ้นมา***


    อ้าอิงจาก...http://palungjit.org/threads/จากตำนาน-ของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง.93193/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  3. อัตตชิโน

    อัตตชิโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +571
    กองทุนคลังบุญคณะปิยบุตรร่วมอนุโมทนาสร้างถวายพุทธบริขารจำลอง ๕๐๐ บาท สาธุอนุโมทามิ
     
  4. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,095
    ร่วมทำบุญสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์
    อธิฐานถวาย ณ พุทธมหาเจดีย์ชเวดากอง และร่วมทำบุญทุกอย่าง
    จำนวน 100 บาท โอน ธ.กรุงไทย ในวันที่ 2 ธ.ค.55

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
     
  5. ยิ่งภพ

    ยิ่งภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +1,784
    ร่วมทำบุญสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์
    อธิฐานถวาย ณ พุทธมหาเจดีย์ชเวดากอง
    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
     
  6. เพชร2545

    เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    ร่วมบุญ 300 บาทโอนวันที่3/12/2555 เวลาประมาณ 20.30 นสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ อธิษฐานถวาย ณ เจดีย์ชเวดากองและร่วมบุญทุกอย่าง อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และเทพเทวาทุกชั้น แม่ย่านาง อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
     
  7. ningnong25

    ningnong25 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ขอร่วมบุญด้วยครับ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

    หมายเลขอ้างอิงรายการ 1598699
    โอนเงินจาก:
    บัญชีผู้โอน BBL xxx-x-xxxxxx
    ชื่อบัญชี ปกรณ์ สิทธิเขตรกรณ์
    วันที่หักบัญชี 06 ธ.ค. 2555
    โอนเงินไป:
    บัญชีผู้รับโอน KTB 5110688222
    วันที่เงินเข้าบัญชี 07 ธ.ค. 2555
    จำนวนเงิน 300.00
     
  8. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,095
    แก้ พ.ศ. เป็น ปี พ.ศ. 2556 ด้วยครับ
    จะได้ไม่สับสนครับ
     
  9. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    วันที่ 21 ธันวาคม 2555 เวลาประมาณ 9.47 น. ตัวผม นายเสรี วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว ได้โอนเงินจากระบบ SCB easy net ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 200 บาท เข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาลำพูน ชื่อบัญชี พระอภิวิชญ์ อภิชโย เลขที่ 511-0-68822-2 เพื่อร่วมทำบุญสร้างมหาทานบารมี สมทบทุนสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ อธิฐานถวาย ณ พุทธมหาเจดีย์ชเวดากอง และถวายผ้าป่าเพื่อบำรุงพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ วัดปาระมี และ ชำระหนี้สงฆ์ หนี้กรรม วัดพระเจดีย์สุพรรณกัลยา สถูปเจดีย์ที่เชื่อว่าบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระสุพรรณกัลยา ณ ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม พุทธศักราช 2556 ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ
    ...............................................................
    ขอแม่พระธรณีและพระยายมบาล จงเป็นพยานในการทำบุญนี้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำบุญในครั้งนี้เพื่อน้อมบูชาพระรัตนตรัยทั้ง 3 สรณะสูงสุดแห่งชีวิตของข้าพเจ้า พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมทุกพระธรรมขันธ์ พระอริยสงฆ์พระอริยเจ้าทุกๆ พระองค์ พร้อมด้วยพระโพธิสัตว์เจ้า พระมหาโพธิสัตว์เจ้า พระบรมโพธิสัตว์เจ้า พระอนิตยโพธิสัตว์ พระนิตยโพธิสัตว์เจ้าทุกๆ พระองค์ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ได้ทำแล้วแก่บิดามารดาทุกภพทุกชาติ อุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์ทุกภพทุกชาติ เจ้าบุญนายคุญทุกภพทุกชาติ ญาติสนิทมิตรสหายทุกภพทุกชาติ เทพพรหมเทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน หมื่นโลกธาตุแสนโกฏิ พระเพลิง พระพาย แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มนุษย์ทั้งหลายในอนันตจักรวาล ท่านทั้งหลายที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในภูมิอบายทั้ง 4 อันได้แก่ ภูมินรก ภูมิเปรต ภูมิอสูรกาย และภูมิสัตว์เดรัจฉาน ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยได้ช่วยแปลสภาพบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว ให้สัตว์ในอบายภูมิทั้ง 4 ให้ได้รับผลบุญในครั้งนี้ด้วย ขอเจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินไว้ ด้วยกาย วาจา ใจ ขอท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมาอนุโมทนาบุญ และอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    ขอส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้กระทำมานี้ แผ่ไปให้ไพศาล ท่านที่ได้ทุกข์ ขอให้ท่านพ้นทุกข์ ท่านที่มีความสุข ขอให้ท่านได้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป ขอท่านทั้งหลายเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิธาน ธนสารสมบัติ ขอให้ส่วนกุศลผลบุญในครั้งนี้เป็นพลวะปัจจัย อุปนิสัยตามส่งให้ข้าพเจ้า และสัพพะทุกดวงวิญญาณในสังสารวัฏนี้ ได้พบกับพระพุทธศาสนาทุกภพทุกชาติ ได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีสัมมาทิฏฏิ หมั่นทำบุญทำทาน เพื่อสละความโลภ หมั่นรักษาศีลและเจริญพรหมวิหาร 4 เพื่อระงับความโกรธ หมั่นเจริญภาวนา ทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเพื่อกำจัดกิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชา อนุสัยและอาสวะให้หมดสิ้นไป ได้สำเร็จซึ่งมรรค 4 ผล 4 ตลอดจนได้เข้าถึงแดนทิพย์พระนิพพานเอกันตบรมสุขกันทุกท่าน รวมทั้งขอข้าพเจ้าได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระวิริยาธิกะพุทธเจ้าองค์หนึ่งเมื่อบุญบารมีถึงพร้อมแล้ว ตลอดจนถึงกาลเวลาอันสมควรแล้วในอนาคตเบิ้องหน้าด้วยเทอญ สาธุๆๆ
    .......................................................
    น้อมอนุโมทนา สาธุกับทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างมหาทานบารมี สมทบทุนสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ อธิฐานถวาย ณ พุทธมหาเจดีย์ชเวดากอง และถวายผ้าป่าเพื่อบำรุงพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ วัดปาระมี และ ชำระหนี้สงฆ์ หนี้กรรม วัดพระเจดีย์สุพรรณกัลยา สถูปเจดีย์ที่เชื่อว่าบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระสุพรรณกัลยา ณ ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม พุทธศักราช 2556 ด้วยนะครับ
    ........................................................
    นิพพานนะ ปัจจะโย โหตุ
     
  10. คนอาสา

    คนอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,025
  11. Korndee

    Korndee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +178
    อานิสงส์ถวาย

    การถวายธมกรก (เครื่องกรองน้ำ) ย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ย่อมก้าวล่วงอันตรายทั้งปวง ๒.ย่อมได้อายุอันเป็นทิพย์ ๓.เป็นผู้อันโจรหรือข้าศึกไม่ข่มขี่ในกาลทุกเมื่อ ๔.อาวุธและยาพิษย่อมไม่เบียดเบียน ๕.ไม่ตายก่อนวัยอันควร

    การถวายคนโทน้ำ และผอบ ย่อมมีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.ได้รับการคุ้มครอง ๒.พร้อมพรั่งด้วยสุข ๓.มียศมาก ๔.มีคติ ๕.ไม่มีความวิบัติ ๖.เป็นผู้ละเอียดอ่อน ๗.เว้นจากความจัญไรทั้งปวง ๘.เป็นผู้ได้คุณอันไพบูลย์ ๙.ได้ความนับถือ ๑๐.พ้นจากความหวาดเสียว

    การถวายไม้เท้า(ธารพระกร)ย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.มีบุตรมาก ๒.ไม่มีความสะดุ้งกลัว ๓.ได้รับการอารักขา ๔.ไม่พลั้งพลาด ๕. จิตใจไม่มีความขลาดกลัว

    การถวายข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง และน้ำย่อมมีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.มีอายุยืน ๒.มีกำลัง ๓.เป็นนักปราชญ์ ๔.มีวรรณะ ๕.มียศ ๖.มีสุข ๗.เป็นผู้ได้ข้าว ๘.เป็นผู้ได้น้ำ ๙.เป็นคนกล้า ๑๐.มีญาณรู้ทั่ว

    การถวายบาตรพระย่อมมีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.ย่อมได้บริโภคโภชนาหารในภาชนะทองคำ ภาชนะแก้วมณี ภาชนะเงิน และภาชนะที่ทำด้วยทับทิมในกาลทั้งปวง ๒.เป็นผู้ไม่มีอันตราย ๓.ไม่มีจัญไร ๔.มหาชนยำเกรงทุกเมื่อ ๕.เป็นผู้ได้ข้าว น้ำ ผ้า และที่นอนเป็นปกติ ๖.โภคสมบัติไม่พินาศ ๗.เป็นผู้มีจิตมั่นคง ๘.เป็นผู้ใคร่ธรรมทุกเมื่อ ๙.เป็นผู้ไม่มีกิเลส ๑๐.ไม่มีอาสวะ
     
  12. Korndee

    Korndee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +178
    อานิสงส์การถวายจีวร
    นางวิสาขา มหาอุบาสิกา เมื่อเอ่ยชื่อนี้ บรรดาผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา คงน้อยคนนักที่ไม่รู้จัก เพราะเป็นผู้ที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาตั้งแต่แรกเริ่มของชีวิต ถึงกับมีคำกล่าวในบรรดาประชาชนที่ทำบุญในยุคนั้นว่า ถ้างานมงคลใด ไม่มีนางวิสาขาเป็นคนดูแลแล้วละก็ งานนั้นไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอน

    และนางเอง ก็เป็นผู้กราบทูลขออนุญาตเรื่องการบุญต่างๆ หลายอย่าง เช่น การถวายผ้าอาบน้ำฝนเป็นต้น เรื่องราวประวัติของนางวิสาขาที่เกี่ยวเนื่องในพระพุทธศาสนามีความเป็นมาที่ค่อนข้างยาวมาก ผู้ปรารถนาจะรู้เรื่องประวัติของนาง สามารถที่ค้นคว้าได้ทั่วไป

    นางมีเครื่องประดับอย่างหนึ่ง ซึ่งในยุคนั้นมีเพียงหญิง ๓ คนเท่านั้นที่สามารถครอบครองครึงประดับทีว่านี้ได้ ก็คือ เครื่องประดับชื่อ "มหาลดาปสาธน์" อันเครื่องประดับนี้ เมื่อนางวิสาขาได้สวมใส่แล้ว ก็ปรากฎว่าว่า

    ปพฺพตกูเฏ ฐตฺวา นจฺจนมยูโร วิย ขายติ "เหมือนนกยูง ยืนรำแพนบนยอดเขา"

    ปตฺตนาฬิสหสฺสสฺส สทฺโท เสียงก้านปีกนกยูงที่กระพือปีกนั้น ทิพฺพสงฺคีติ วิย ประดุจเสียงทิพยสังคีต (เสียงดนตรีบรรเลงที่เป็นทิพย์) ปญฺจงฺคิกตุรยโฆโส วิย และประดุจงเสียงกึกก้องของดนตรีที่ประกอบด้วยองค์ ๕ (อรรถกถาธรรมบท ภาค ๓ หน้า ๕๕)

    นี้คือความงามแห่งเครื่องประดับที่มีค่ามหาศาล ประเด็นอยู่ที่ว่า ที่นางได้ครอบครองเครื่องประดับนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร อย่างเราๆ ท่านๆ ก็คงจะเดาเอาว่า นั่นเป็นเพราะนางเป็นลูกสาวมหาเศรษฐีอยู่แล้ว เงินทองไม่มีขัดสน อยากได้อะไรก็ได้ ก็จริง ถึงอยางนั้น พระโบราณาจารย์ได้กล่าวเด็นนี้ไว้เช่นกัน ดังบาลีว่า

    ตสฺส จีวรสฺส นิสฺสนฺเทน อิมํ ปสาธนํ ลภิ ฯ นางได้เครื่องประดับนี้ เพราะอานิสงส์ของการถวายจีวร กล่าวคือ ในกาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ นางได้ถวายผ้าสำหรับทำจีวร ถวายด้าย ถวายเข็ม ถวายน้ำย้อมผ้า แก่ภิกษุสงฆ์ (สา กิร กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล วีสติยา ภิกฺขุสหสฺสานํ จีวรสาฏกํ ทตฺวา สุตฺตมฺปิ สูจิโยปิ รชนมฺปิ อตฺตโน สนฺตกเมว อทาสิ) นี้คือสิ่งที่นางได้ถวายไว้ก่อน ส่วนอานิสงส์จีวรนั้น มีหลักอ้างอิงได้ ตามพระบาลีว่า

    อิตฺถีนํ หิ จีวรทานํ มหาลตาปสาธเนน มตฺถกํ ปปฺโปติ ฯ การถวายจีวรของบรรดาสตรีทั้งหลาย ให้อานิสงส์ด้วยการได้รับเครื่องประดับชื่อมหาลดาปสาธน์

    ปุริสานํ อิทฺธมยปตฺตจีวเรน ฯ ส่วนการถวายจีวรของบรรดาบุรุษทั้งหลาย ให้อานิสงส์ด้วยการได้รับบาตรและจีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์ (อรรถกถาธรรมบท ภาค ๓ หน้า ๕๕)

    จากอานิสงส์ที่นางได้ถวายผ้าจีวรในครั้งนั้น ให้นางได้รับเครื่องประดับในเวลาต่อมา นี้แลคืออานิสงส์การถวายจีวร
     
  13. joywin

    joywin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +1,573
    ร่วมบุญ 500 บาทค่ะ

    โอนจากธนาคารไทยพาณิชย์
    รายการที่ 201212241554230001
    วัน-เวลาที่ทำรายการ 24/12/2555 - 15:54:32
    สถานะ สำเร็จ
    วัน-เวลาที่หักบัญชี 24/12/2555 - 15:54:32
    วันที่เงินเข้าบัญชี 24/12/2555
    วิธีการโอนเงิน โอนแบบทันที
    เลขที่บัญชีผู้โอนเงิน 4013849)))
    เลขที่บัญชีผู้รับเงิน 5110688222
    ธนาคารผู้รับโอน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
    จำนวนเงิน 500.00 บาท
    ค่าธรรมเนียม 25.00 บาท
    อิทังปุญญะผะลังผลบุญใดที่ข้าพเจ้า นางสาว วิรัลพัชร วิริต ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานและข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพและพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิดและขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิดผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติ ปัจจุบัน แม้หากข้าพเจ้าจะยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่า “ไม่” ทั้งหลายจงอย่าปรากฎแก่ข้าพเจ้าจนกว่าจะถึงพระนิพพานด้วยเทอญ
     
  14. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    ขอร่วมบุญทุกอย่างกับพระอภิวิชญ์ อภิชโย ตามที่ได้แจ้ง

    วันนี้เมื่อเวลาประมาณ ๑๑.๑๕ น. วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ได้โอนเงินเข้าบัญชีพระอภิวิชญ์ อภิชโย จำนวน ๓๐๐ บาท เพื่อร่วมบุญตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งในกะทู้ เพื่อเป็นการอุปัฐถากพระพุทธเจ้าและชำระหนี้สงฆ์ ขออนุโมทนาบุญทุกประการ
     
  15. atp_ch

    atp_ch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +59
    ร่วมบุญแล้วแจ้งชื่อได้ที่ไหนครับ
     
  16. violetmay

    violetmay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,919
    เมย์ พี่เค พี่ Apiwat โอนเงินทำบุญแล้ว 25 บาท

    อนุโมทนาสาธุการวันทามินะค่ะ


    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
     
  17. ชัชชลี

    ชัชชลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +1,411
    วันนี้26/12 เวลา 16:58:07 โอนเงินร่วมทำบุญ 1000 บาท
    และขออนุโมทนาบุญกับผู้ใจบุญทุกท่านด้วยค่ะ
     
  18. หริภุญชัย

    หริภุญชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +3,517
    รบกวนแจ้งชื่อจริงด้วยครับ
     
  19. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    นายสุทธิศักดิ์ เพ็ชรผึ้ง ครับ
     
  20. voage

    voage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +958
    ร่วมทำบุญสร้างบริขารถวายพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์
    อธิฐานถวาย ณ พุทธมหาเจดีย์ชเวดากอง และร่วมทำบุญทุกอย่าง
    จำนวน 100 บาท โอน ธ.กรุงไทย ในวันที่ 27 ธ.ค 55
     

แชร์หน้านี้

Loading...