ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

  1. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,300
    ขอให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งตามที่ปรารถนานะครับ สาธุ สาธุ

    อนุโมทนาบุญในธรรมทานกับคุณ moom ด้วยนะครับ
    เล่นชมผมอย่างนี้ ผมเขินครับ
    ที่จริงชมท่านวิดยาดีกว่า ท่านมีกิจใหญ่ที่ต้องทำมากกว่าของผมเยอะ
    เพราะการบำเพ็ญของท่านวิดยาพิเศษกว่าของผมในทุกด้านครับ
    ของผมธรรมดา เป็นก๋วยเตี่ยวก็มีเส้นแล้วก็ลูกชิ้นสัก 2-3 ลูก
    แต่ของท่านวิดยาพิเศษแบบเต็มอัตรา
    คือท่านอธิษฐานขอเก็บสรรพสัตว์ให้ได้เยอะสุด มากสุด ขอให้เก็บให้หมดประมาณนี้
    ระยะเวลาในการบำเพ็ญก็เลยมากกว่าผมเยอะครับ ผมยังสู้ไม่ได้เลยครับ
    เป็นวิริยธิกะแบบพิเศษ ถ้าเทียบยศก็ประมาณนายพลเลยครับ ไอ้ของผมมันแค่พลทหาร 555+
    ฟังสนุกๆครับ คิดว่าผมโม้เรื่อยเปื่อย เอาแบบขำๆไม่จริงจัง ครับ
     
  2. Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ

    การกล่าวคำของครูบาอาจารย์ เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งค่ะ พี่ขออนุโมทนาจากใจจริง พี่เองก็ได้จากคำสอนของครูบาอาจารย์ เพียงแต่ท่านไม่มีกายเนื้อแค่นั้น

    คำสอนใดดี มีประโยชน์แก่ชนทั้งหลาย ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง ตามประสาพี่ ๆ น้อง ๆ อย่างที่น้องน้ำตาลโพสต์นั่นแหละค่ะ

    ท่านบอกว่า บุญจากการที่เราให้ธรรมทานจะทำให้การสร้างบารมีเต็มเร็ว เดิมที พี่เหลืออีก ๒๑๖ ชาติ อิอิ..ตอนนี้ก็เหลืออีกไม่เท่าไร

    รู้สึกแปลกใจขึ้นไปถามพระท่านว่า ก่อนหน้านี้มีท่านหนึ่งเคยบอกว่า เหลืออีก ๒๐๐ กว่าชาติ แต่ทำไมล่าสุดท่านจึงบอกว่าเหลืออีกไม่กี่สิบชาติ เป็นเพราะเหตุใด

    พระท่านตรัสว่า...

    "ด้วยลูกมีจิตที่คิดปรารถนาจะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจที่บริสุทธิ์ ๑ ด้วยกำลังจิตที่เต็มใจในงานสาธารณะประโยชน์ ๑ ด้วยการให้ธรรมทานในสิ่งที่ตนรู้เห็น ไม่เกินภูมิตัวเอง๑ และการบำรุงพระศาสนาโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยาก แม้มีอุปสรรคไม่ท้อถอย ๑ ...

    สิ่งเหล่านี้เป็นการที่ย่นระยะเวลาการเกิดได้ จึงทำให้ดอกบัวอธิษฐานบานเกือบเต็มที่ ผลคือ บารมีเต็มเร็ว

    เนื่องจากในยุคสมัยกึ่งพุทธกาลนั้น ผู้ที่มาเกิดมาจากหลายภพภูมิ กำลังจิตของมนุษย์ย่อมต่างกัน ย่อมมีความทุกข์เดือดร้อนมากกว่ายุคอื่น

    การเห็นทุกข์จะเห็นได้ง่าย เนื่องจากต้องอดทน ถูกบีบคั้นทั้งทุกข์จากการหาเลี้ยงชีพ ทุกข์จากขันธ์ ๕ ทุกข์จรที่เกิดจากวิบากกรรม


    การที่อดทนทำความดี โดยไม่ท้อถอย เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ตั้งไว้ด้วยจิตอันปรารถนาดีแก่ผู้อื่นเป็นนิจ ทุกอย่างจึงดำเนินด้วยการบำเพ็ญบารมีทั้ง ๑๐ ทัศน์โดยปริยาย ทำให้บารมีเต็มได้เร็วขึ้น..

    ส่วนความดีอื่น ๆ เช่นการทำทาน รักษาศีล และการเจริญภาวนานั้น เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรต้องเพียรชำระจิตตนให้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ถือว่าไม่นำมาคิดรวมแต่อย่างใด

    การตั้งจิตใจของตนให้แจ่มใสอยู่เสมอนั้น เป็นการทรงฌาณในกสิน การรู้เห็นอะไรย่อมเป็นไปไม่ข้องขัด ประกอบกับการอธิษฐานว่า ..

    สิ่งใดที่ควรรู้ ขอให้รู้โดยมิต้องตั้งจิต แม้แต่ประการใด..

    เหตุนี้ จึงมีทิพยจักขุญาณที่แจ่มใสอยู่เสมอ ...

    พ่อขออนุโมทนาบุญด้วยนะ..."


    ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์อีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
  3. เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ต้องขออภัยน้องตาลด้วยค่ะ (ที่ใช้คำว่าศิษย์เอก) ขอเปลี่ยนเป็นศิษย์น้องแทนจ้าาาาาา อย่างที่น้องตาล บอกไว้ถูกแล้วค่ะ

    จันทรกาล
     
  4. sun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +6,619
    ขอร่วมบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพล สังฆทาน และโรงทาน ที่บ้านสบายใจ
    ได้โอนเงินแล้ววันที่ 22 พฤษภาคม 2555 เวลา 16.45 น. จำนวน 500 บาท
    ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
     
  5. prapart54 สุรสีห์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +3,096
    ขอต่อบุญดวงแก้ว ชุดที่ 1 13,000 ครับ
    และขออนุโมทนาบุญ สำหรับความรู้ที่ทุกๆท่าน
    ได้ให้เป็นธรรมทานครับ
     
  6. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,300
    อนุโมทนาบุญในธรรมทานกับ พี่น้ำใสด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
    พี่น้ำใสเป็นตัวอย่างในการทำดี แล้วได้่รับผลดีครับ
    ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆ มาแบ่งปันให้รับรู้อยู่เสมอครับ
     
  7. Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    วันนี้อิ่มมากเลย อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจ

    ได้ธรรมทาน...ได้มีส่วนร่วมกับการอนุโมทนาบุญในทุกๆ กอง...กับทุกๆ ท่าน วันนี้ขอเป็นนางฟ้าขี้เหนียว มีความสุขจริงๆ อิอิ

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญทั้งหมด ทั้งมวลกับทุกๆ ท่านด้วยคนนะคะ

    " การทำความดีเป็นหน้าที่ของมนุษย์...การช่วยเหลือมนุษย์ที่ทำความดี เป็นหน้าที่ของเทวดา "
    ....คำกล่าวของ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต)กระทู้นี้มีแต่คนดี ทั้งนั้น ท่านเทวดาทำงานหนักละคราวนี้ อิอิ

    ขอน้อมอุทิศถวายบุญที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้กับ เทวดา, นางฟ้าทุกๆ องค์ ที่คอยดูแล ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัลยานมิตรทุกๆท่านค่ะ-Happy Smile_
     
  8. half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
    วันนี้รู้สึกคึกคักกันดีจัง ฟังท่านพุทธภุมิเปรียบเทียบกันแล้ว ผมจะเป็นอะไรล่ะเนี่ย :'(
     
  9. เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    ขอร่วมบุญด้วยค่ะ โอนปัจจัย 1500 บาท เข้า ธ. ไทยพาณิชย์ วันที่22/5/2556เวลา13.38 น.ค่ะ
    โดยแบ่งเป็น 1000 บาท ร่วมกองผ้าป่า 500 บาทร่วมบุญอุณาโลม
    โอนธ.กสิกรไทย 500 บาท เวลา 16.40 น. วันที่22/5/2556 เวลา 16.40 น.ร่วมบุญสังฆทาน
    ขอน้อมถวายบุญแด่ดวงแก้วจักรพรรดิ์และดวงแก้วจุลจักรพรรดิ ผู้ดูแลและธาตุกายสิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับข้าพเจ้าและครอบครัว รวมทั้งญาติทั้งหลายที่เกี่ยงเนื่องมาแต่อดีต และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ขอผลบุญที่กระทำดีแล้วส่งผลทันด่วนทันใช้ด้วยเทอญเจ้าค่ะ
     
  10. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,300
    อย่าไปคิดอย่างนั้น คุณ half wave ครับ
    แหมผมก็โพสไปตามที่คิดนะครับ
    แต่การบำเพ็ญเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าสำเร็จง่ายกว่า
    การเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านะครับ บารมีเต็ม ก็สำเร็จได้เลยนะครับ ไม่มีคิวครับ
    ส่วนการสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า บารมีเต็มแล้ว ยังต้องรอถึงคิวนะครับ

    บารมีเต็มแล้วก็ต้องไปนั่งยิ้มรอคิวอยู่ที่ดุสิตอีก ยิ้มจนเหงื่อแห้งกันไปเลย555+

    พระท่านสอนว่า อย่าไปสนใจจริยาของคนอื่นครับ
    เอาแค่การทำดีของตัวเองดีกว่าครับ

    หลวงปู่ดู่ท่านสอนว่า ทาน ศีล ภาวนาของเรา
    ทำแล้ว ละโลภ โกรธ หลง ได้ก็ใช้ได้แล้วครับ
     
  11. half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
    5555 ผมก็แซวเล่นไปงันเองน่ะครับคุณ ธรรมวิวัตน์ เห็นกระทู้คึกครื้นดี หลังจากเงียบไปช่วงนึง :boo:

    ขอให้สำเร็จในสิ่งที่ปราถนาโดยเร็วนะครับ (แต่ไม่รู้อีกกี่อสงไข อิอิ)
     
  12. half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
    ถาม : ทำไมพระโพธิสัตว์จึงใช้คำว่าสัตว์ ?
    ตอบ : พระโพธิสัตว์ทุกรูปก็คือผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า โพธิ-สัตตะ คือ สัตว์ผู้รู้ บางคนรับไม่ได้กับคำว่า สัตว์ เขาก็เลยเขียนตามแบบภาษาบาลีใช้ ต.เต่า ๒ ตัวซ้อนกัน แต่ถ้าอ่านในหนังสือเกี่ยวกับธรรมะเก่า ๆ จะเห็นเขาเรียกว่า มหาสัตว์ คือสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่ อย่างนั้นจะชัด

    ถาม : อย่างเป็นแค่บริวาร จะเป็นโพธิสัตว์หรือเปล่า ?
    ตอบ : อย่างอาตมาก็เหมือนกัน จะเรียกว่าบำเพ็ญพุทธภูมิ ก็เป็นพุทธภูมิแบบตกกระไดพลอยโจน ก็คือตามหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมาเรื่อย ๆ ตามไปตามมาอีท่าไหนก็ไม่รู้ ตั้ง ๑๐ กว่าอสงไขยกัป ปกติบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้า ๔ อสงไขยกับแสนมหากัปก็เป็นได้ระดับหนึ่งแล้วใช่ไหม ? ๘ อสงไขยกับแสนมหากัปก็เป็นอีกระดับหนึ่ง ตามหลวงพ่อมาเสีย ๑๐ กว่าอสงไขยกัปเข้าไปแล้ว เขาเรียกว่าตกกระไดพลอยโจน ไม่มีอะไรหรอก

    ถาม : ถ้าประสงค์จะลาพุทธภูมิก็ได้ใช่ไหมคะ ?
    ตอบ : ประสงค์จะลาก็เชิญเลยจ้ะ ไม่มีใครเขาห้ามเราหรอก คือการลาพุทธภูมิ ถ้าเกิดว่าลากันอย่างเป็นรูปธรรมจริง ๆ เขาให้ใช้ดอกบัวขาว ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม และธูป ๕ ดอก เอาไปบูชาพระหน้าหิ้งพระหรือพระประธานที่ไหนก็ได้
    จุดธูปเทียนบูชาท่าน แล้วก็ถวายดอกบัวขาวทั้ง ๕ ดอก ตั้งใจว่า ที่ข้า พระพุทธเจ้าปรารถนาพระโพธิญาณมาในอดีตชาติใดภพใดก็ตาม บัดนี้ข้าพเจ้าขอละซึ่งความปรารถนาอันนั้น และขอปฏิบัติตามธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ อันนี้เขาเรียกว่าลากันอย่างเป็นรูปธรรมเลย หรือถ้าท่านใดได้มโนมยิทธิหรือได้อภิญญา ก็ขึ้นไปลาพระพุทธเจ้าบนพระนิพพานโดยตรงเลย ถ้าลาแล้วยังไม่มั่นใจ ก็มาทำพิธีแบบข้างล่างนี่อีกทีหนึ่ง บัวขาว ๕ เทียนขาว ๕ และธูป ๕ ธูปไม่ต้องขาวนะ ธูปธรรมดาก็ได้


    พระโพธิสัตว์เป็นผู้มุ่งขนถ่ายสัตว์โลกข้ามวัฏสงสาร สิ่งที่ท่านทำเป็นการทำเพื่อคนอื่น ในเมื่อทำเพื่อคนอื่นโดยเฉพาะคนจำนวนมาก ก็เลยต้องศึกษาอะไรให้รู้มากที่สุด เพื่อที่จะได้สอนได้ทุกคน ในเมื่อเป็นดังนั้น ความรู้แต่ละขั้นกว่าจะได้ต้องย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก คนอื่นทำ ๑ - ๓ ครั้งอาจจะผ่านเลย ท่านต้องว่าเป็นร้อยเป็นพัน เป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง ฟัง ๆ ดูแล้วแปลก ๆ

    พระโพธิสัตว์มักจะมีปัญญาฉลาดมาก แต่ตอนทำอะไรสักชิ้นหนึ่ง เหมือนกับทดลองแล้วทดลองอีก ทำวิจัยแล้ววิจัยอีก จนกระทั่งมั่นใจจริง ๆ ว่าไม่มีแง่มุมไหนลอดผ่านไปได้แล้ว ท่านถึงยอมวางมือ ก็เลยกลายเป็นช้ากว่าคนอื่น

    เราเดินขึ้นบันไดมา บางทีไม่ได้นับหรอกว่าบันไดมีกี่ขั้น แต่พระโพธิสัตว์ท่านต้องรู้ว่าบันไดนั้นทำด้วยอะไร กว้างยาวเท่าไร ใช้วิธีไหนสร้างขึ้นมา ประกอบด้วยวัสดุอะไรบ้าง เพื่อที่ท่านจะได้ทำบันไดให้คนอื่นเขาเดิน ยากกว่ากันขนาดนั้น

    การปรารถนาพระโพธิญาณไม่ใช่ของแปลก เพราะว่าพุทธประเพณีอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะต้องแสดงก็คือการ เปิดโลก ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเบื้องบน ตั้งแต่พระนิพพาน เบื้องล่างยันอเวจี เห็นตลอดถึงกันหมด ทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นได้เห็นว่า นี่คือผู้ที่เลิศที่สุด ไม่มีใครยิ่งไปกว่า แล้วก็เลยเกิดความปรารถนาลึก ๆ ในใจว่า ถ้าเราเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี

    ตรงจุดนี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปรารถนาพระโพธิญาณของสรรพสัตว์ทุกรูป ทุกนาม มดแดงแมงน้อยอะไรก็มีสิทธิ์ทั้งนั้น คราวนี้ก็บำเพ็ญบารมีไปเถอะ ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป นี่แค่หลักสูตรตอนสอบ ส่วนตอนเรียนนั่นต่างหาก ไม่ได้นับ บาลีเขาบอกว่า จิตติตัง สัตตะ สังเขยยัง นวะสัง เขยยะ วาจะกัง คิดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้านี่ ๗ อสงไขย พูดว่าเราจะทำเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้านี่อีก ๙ อสงไขย แล้วตั้งตาตั้งตาทำเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าอีก ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป รวมแล้ว ๒๐ กับเศษ ๑ ไม่เห็นต้นไม่เห็นปลายเลย ถ้ากำลังใจไม่แน่วแน่จริง ๆ ก็ถอยกันหมด

    เก็บตก บ้านวิริยบารมี
    เมษายน 2556
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม (ลพ.เล็ก)
     
  13. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    สาะธุค่ะพี่น้ำใส ที่นำธรรมทานมาบอกกล่าวกันเสมอ ๆ
    ไม่รู้จะขอบพระคุณอย่างไร เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปดูชีวิตในอดีต
    ที่ยังมัวเมากับอกุศลกรรมทั้งหลาย เอาตัวไปแช่ในนรกตั้งนาน...
    ตอนนี้มานั่งนึก ๆ ยังเสียวสันหลังไม่หายเลยค่ะ อิอิ


    เรื่องการย่นระยะเวลาการเกิดนี่ก็ต้องขอขอบพระคุณพี่มาก ๆ อีกเช่นกันค่ะ
    จริง ๆ ตอนแรกหนูเองก็ไม่ทราบว่าจะต้องเกิดอีกกี่ชาติ
    ทราบแต่เพียงว่าเหลือเศษ ๆ ประมาณแสนกัปป์
    แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเหลืออีกไม่กี่สิบชาติเช่นกัน
    แถมต้นโพธิ์แก้วอธิษฐานของหนูก็เติบโตสูงใหญ่
    แผ่กิ่งก้านสาขากว้างไกลและส่องประกายระยิบระยับอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนค่ะ
    (ถ้าพี่สำเร็จก่อนก็นิมนต์กลับมาโปรดชาวเมืองหน่อยนะเจ้าคะ อิอิ)


    อวิชชาคือความไม่รู้ เป็นสิ่งที่ร้อยรัดเราให้ติดในวัฎฏสงสาร...
    ความไม่รู้นี้ หนูเข้าใจมั่ว ๆ ว่า มันคือความไม่รู้ในความรู้ที่แท้จริง
    ความรู้ที่แท้จริงเป็นเข็มทิศและเครื่องทุ่นแรงที่ทำให้เราก้าวเข้าสู่พระนิพพาน


    หนูแค่แอบคิดว่า หนูโชคดีจังค่ะที่รู้จักพี่ อิอิ
     
  14. ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    ขาลก็ คิดเหมือนคุณน้ำตาลเลย ดีใจที่ได้เจอพี่น้ำใส จากนั้นก็เจอคนอื่นๆ ได้ทำทานอันปราณีต หาทำได้ยาก เล่าธรรมทานให้ฟังบ้าง แนะนำอีกหลายอย่าง @^_^@ ขอบคุณมากๆเลย
     
  15. เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    ขอคิดเหมือนกันด้วยคนค่ะ ดีใจสุดๆค่ะที่ได้รู้จักคุณพี่น้ำใสและพี่น้องทุกท่านแห่งนครเมืองดวงแก้วนี้ ได้อ่านธรรมทาน ได้ทำบุญที่แสนปราณีต สวยงาม ปลื้มใจมากๆค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านค่ะ ถึงจะไม่เคยพบหน้าค่าตาแต่ก็รู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่น(f)(f)
     
  16. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,300
    ส่วนผม ก็ขอบคุณพี่น้ำใสมากครับ ผมได้รับความรู้ต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์ ได้ทำทานอันปราณีต สวยงาม
    และที่ดีใจมากที่สุดก็คือ ได้รู้จักนางแก้วของผม ก็เพราะพี่น้ำใส เป็นคนช่วยเหลือครับ
    เป็นสิ่งที่ทำให้มั่นใจในการทำดีในพระพุทธศาสนา เพราะอย่างน้อยก็มีนางแก้วที่เข้าใจเราครับ

    ขอบคุณมากครับ พี่น้ำใส จากใจจริงเลย
     
  17. มีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +5,750
    ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพล+สังฆทาน และโรงทาน ที่บ้านสบายใจ
    จำนวน 108 บาทครับ โมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
     
  18. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    วันนี้มาลุ้นการประมูลดวงแก้วกันต่อนะคะ :cool:
    ขอให้ได้ขอให้โดนกันทั่วหน้านะคะ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่าน
     
  19. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ตอนแปลงร่างเป็นยักษ์ กับเรียนวิชชาแปลงเพศ

    ไปอ่านเจอมาเห็นว่าน่าสนใจมากค่ะ
    และเป็นเรื่องที่คล้ายคลึงกับที่เคยประสบพบเจอมา
    แถมมีการพูดถึงเรื่องม้าแก้วซะด้วย....


    ------------------------------------------

    เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับญาณทัสสนะ ที่หลวงปู่สามารถหยั่งรู้ ได้อย่างเหลือเชื่อว่า
    ลูกศิษย์ของท่านไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร


    อย่างเรื่องของ คุณยายทองสุข สำแดงปั้น ซึ่งท่านเป็นแม่ชี ที่ทำวิชชาปราบมารกับหลวงปู่
    อีกทั้งยังเป็นมือเผยแผ่วิชชาธรรมกาย มือหนึ่งของหลวงปู่ อีกด้วย


    เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องเกิดขึ้น หลังจากที่ คุณยายทองสุขเข้าถึงธรรมแล้ว
    และเริ่มเรียนวิชชา ธรรมกาย กับหลวงปู่ใหม่ ๆ ซึ่งคุณยายทองสุข พูดว่า
    “ช่วงนั้น มันช่างอยากรู้อยากเห็น ไปเสียทั้งนั้น”


    ด้วยความอยากรู้อยากลอง ของคุณยายทองสุข นี้เอง ท่านจึงมักแอบหลวงปู่ ไปเที่ยวของท่าน
    ก็ไม่ได้ใช้ กายมนุษย์หยาบไปหรอก แต่ท่านไปด้วย สมาธิญาณของท่าน
    และปกปิดไม่ให้หลวงปู่รู้ เพราะกลัวหลวงปู่ดุ…หาว่าไม่ตั้งใจแก้ทุกข์ภัยมนุษย์ ในขณะที่อยู่เวร ในโรงงานทำวิชชา


    แต่ที่ไหนได้ แม้คุณยายทองสุขจะแอบไปอย่างแนบเนียนมากขนาดไหน
    หลวงปู่ก็จับได้ทุกที เพราะหลวงปู่สามารถรู้ ได้ด้วยญาณทัสสนะของท่าน


    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นหลวงปู่ท่านกำลังคิด จะสร้างโรงเรียนพระปริยัติ
    ซึ่งต้องใช้เงิน จำนวนมหาศาล ทำให้คุณยายทองสุขเป็นกังวล แทนหลวงปู่ว่า จะไปหาเงินมาจากไหน



    แต่หลวงปู่ท่านก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกไอ้สุข โคตรทองยังมีทอง เอ็งยังไม่เคยเห็น”
    พอหลวงปู่ พูดประโยคนี้ ออกมาเท่านั้นเอง คุณยายทองสุข อยากรู้อยากเห็นอย่างแรงว่า โคตรทองอยู่ไหน หน้าตาเป็นยังไง


    จากนั้นท่านก็ไม่รอช้า แอบไปตามหาโคตรทอง ในสมาธิญาณของท่านอยู่หลายครั้งแต่หาเท่าไรก็หาไม่พบ
    จนสุดท้าย ท่านหมดปัญญา จึงแอบไปถาม ม้าแก้ว
    ถึงได้รู้ว่า โคตรทองอยู่ในถ้ำ ทางทิศตะวันออก
     
  20. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ตอนแปลงร่างเป็นยักษ์ กับเรียนวิชชาแปลงเพศ (๒)


    จากนั้นคุณยายทองสุข ก็ให้ม้าแก้วช่วยไปหา ถ้ำของยักษ์ แต่หาเท่าไร ก็หาไม่เจอสักที แต่สิ่งที่เจอ ก็คือ พระภูมิเจ้าที่ขี่เสือ คุณยายทองสุขท่านก็เลย ถามพระภูมิว่า “ถ้ำที่มีโคตรทองอยู่ตรงไหน” ซึ่งพอพระภูมิเจ้าที่ชี้ทางให้ คุณยายทองสุขก็ไม่รอช้า รีบขี่ม้าแก้วเหาะไปตามทางนั้น
    และทันใดนั้นเอง ท่านก็ได้มาเจอ ปากถ้ำยักษ์จนได้ จากนั้นท่านก็รอ ให้ยักษ์หน้าโฉด 2 ตน เดินออกไป ที่อื่นก่อน และพอยักษ์ออกไปแล้ว ท่านก็ฉวยโอกาส เข้าไปผลักประตู เพื่อจะบุกเข้าไปในถ้ำทันที


    แต่อนิจจา โชคไม่เข้าข้าง เนื่องจากประตูล็อค แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเจ้าลิงจ๋อ โผล่มาจากไหนก็ไม่ทราบ คุณยายทองสุข ก็เลยถามเจ้าลิงจ๋อตัวนั้นว่า “กุญแจอยู่ที่ไหน ช่วยหยิบให้หน่อยเถอะพ่อลิง” และพอเจ้าลิงเอากุญแจมาให้ ท่านก็เลยไข บุกเข้าไปในถ้ำนั้นได้ โดยเดินเข้าไปถึงถ้ำ ในชั้นที่ 3

    ทันใดนั้นเอง ท่านก็ไปเจอ ที่เก็บโคตรทองจริงๆ ซึ่งโคตรทองก้อนนี้ ใหญ่โคตร ๆ เลย ใหญ่ขนาดเท่า สุ่มไก่ และรอบๆ โคตรทองนั้น ก็รายล้อมไปด้วย ทองก้อน ขนาดเท่าบาตรบ้าง ขนาดเท่าขันบ้าง ขนาดเท่ากำปั้นบ้าง เรียงรายกันอย่างมากมาย โดยแข่งกันเปล่งประกาย วาววับจับตา จนสร้างความ ตื่นตาตื่นใจ ให้กับคุณยายทองสุข แบบสุด ๆ



    และเป็นที่น่าสังเกต อยู่อย่างหนึ่งคือ แต่ละก้อน จะมีชื่อติดอยู่ทั้งหมด แต่เนื่องจากคุณยายทองสุข ท่านอ่านหนังสือไม่ออก ท่านจึงไม่รู้ว่าเขาเขียนว่าอะไร แต่ท่านก็ไม่สนใจ หยิบทองขึ้นมาพิจารณา พร้อมกับปิ๊ง ไอเดียขึ้นมา แบบฉุกละหุกว่า “ทองนี้ อยู่ที่นี่เฉยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ ควรจะเอาไปขาย เพื่อเอามาช่วย หลวงพ่อวัดปากน้ำ สร้างโรงเรียน”


    และเมื่อคิดดังนั้น คุณยายทองสุขก็ไม่รอช้า ตะโกนถามมาทันทีว่า “ทองของใคร” ซึ่งท่านก็ตะโกน ถามถึง 3 ครั้ง เมื่อไม่มีเสียงตอบ ท่านจึงทำการอุกอาจ หยิบทองก้อนที่พอเหมาะ ขนาดเท่าขันล้างหน้า ที่ท่านคิดว่า หากขายแล้ว จะพอเอามาสร้างโรงเรียน


    จากนั้นก็ออกมาจากถ้ำ เพื่อขี่ม้าแก้วเหาะกลับไป แต่เรื่องมันไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง อย่างนั้นหรอก
    เพราะจู่ๆ ก็มีเสียงยักษ์ ตะโกนโวยวายไล่หลังมาว่า “ขโมย ๆ หยุดก่อน”


    จากนั้น ก็เกิดการถกเถียงกันยกใหญ่ โดยคุณยายทองสุข ท่านก็ตอบปฏิเสธไปว่า
    “ฉันไม่ได้ขโมยนะ เพราะฉันตะโกนถามแล้ว ไม่เห็นมีใครเป็นเจ้าของ ก็เลยจะเอาไปขาย
    เพื่อเอาเงิน มาสร้างโรงเรียน กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ”

    ซึ่งยักษ์ก็ตอบว่า “ก้อนนี้ มันไม่ใช่ก้อน ที่จะเอาไปทำบุญ กับหลวงพ่อ เค้ามีชื่อติดไว้ ไม่เห็นรึ”
    คุณยายทองสุข ท่านจึงบอกว่า “ก็ฉันอ่านไม่ออกนี่” ยักษ์ได้ยินดังนั้น จึงตอบกลับว่า
    “ฉันต้องรักษาทอง พวกนี้ไว้ เพื่อรอเจ้าของ เพราะทองเหล่านี้ เป็นทอง ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้ใจบุญ เขาทำบุญสั่งสมเอาไว้ ทีละเล็กละน้อย"

    ขณะที่กำลังเถียงกันนั่นเอง จู่ๆ ก็มียักษ์ตัวใหญ่ หน้าโฉดรุ่นเดอะ ที่เป็นหัวหน้ายักษ์ วิ่งไล่ตามมา แล้วก็ตะโกนลั่นว่า
    “เอาให้ตายเลยๆ” จากนั้นก็วิ่ง เอาตะบองไล่ฟาด ก็มีเสียงดังลั่น ที่ทรงพลานุภาพ แบบสุดๆ จากไหนก็ไม่ทราบ ตะโกนขึ้นมาว่า
    “หยุด!” และด้วยเสียงนี้ ทำให้ยักษ์หยุดฟาดทันที


    จากนั้น คุณยายทองสุข ก็รีบขี่ม้าแก้ว กลับเข้าร่าง ที่อยู่ในท่าสมาธิอย่างบัดดล
    ทันใดนั่นเอง อยู่ๆ หลวงปู่ท่านก็ดุขึ้น ขณะที่นั่ง ทำวิชชาว่า “ไอสุข เอ็งไปไหนมา?”
    "เอ็งชักจะเหลวไหล มากไปแล้วนะ ไปลักทองเค้ามา เอ็งคิดว่าพ่อไม่รู้รึ เจ้าของเค้ามาฟ้อง
    นี่ถ้าพ่อไม่ช่วยไว้ ป่านนี้เอ็ง หัวบี้แบนไปแล้ว ซุกซนไม่เข้าเรื่อง"


    และจากการที่ คุณยายทองสุข โดนหลวงปู่ดุ เสียยกใหญ่
    บวกกับรู้สึกเจ็บใจ ที่ยักษ์มาฟ้อง หนำซ้ำยังพลาดท่า โดนยักษ์ไล่ฟาด มาเสียสะบัก สะบอม ถึงเพียงนี้
    ท่านจึงคิดว่า จะแอบหลวงปู่ กลับไปจัดการกับยักษ์ใหม่
     

แชร์หน้านี้