ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

  1. Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677


    This transfer has been processed.
    Transfer Service Bank Reference No.
    66068801
    Date
    12 Mar 2014
    Time
    16:05:10 Bangkok, Thailand (GMT +7:00)
    Transfer From: Account
    BBL 214-4-064587 BBL 214-4-xxx587 Account Name
    พุทธารา โรจนฤทธิกร
    พุทธารา โรจนฤทธิกร Date to Deduct Funds
    12 Mar 2014
    Transfer To: Account
    KBANK 6352131030 KBANK 6352131030 Account Name
    MS. MATTAKA KHANGKHAN / มัตถกา แข็งขัน
    MS. MATTAKA KHANGKHAN Send SMS
    086 022 5558
    Date to Receive Funds
    12 Mar 2014
    Amount
    3,000.00 Fee
    25.00


    Make another Transfer
    Return to My Accounts


    _________________________________________

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมบุญถวายพระบรม ฯ +กรรไกรตัดเล็บ จำนวนทั้งสิ้น ๑๐๐ ชุด เป็นจำนวนปัจจัย ๘๕๐๐ บาท ยอดจำนวนเกินทั้งสิ้น ๒,๐๗๐.๑๑ บาท ปิดยอดเพิ่ม ๙๒๙.๘๙ บาท

    รวมโอนทั้งสิ้น ๓,๐๐๐ บาท

    โดยปัจจัยนี้ขอมอบให้คุณมัตถกา ซึ่งเป็นเจ้าภาพตั๋วเครื่องบินไปงานบุญที่ประเทศเมียนม่าครั้งนี้ให้แก่พระอาจารย์อภิวิชญ์ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai


    __________________________________________________

    ร่วมอนุโมทนาบุญถวายภัตตาหารเช้า
    ถวายพระบรมสารีริกธาตุ อุณาโลม และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า [
    /CENTER]





    สำหรับดวงแก้วมณี ท่าน widya และท่านศศิมานรินทร์เป็นเจ้าภาพถวายค่ะ


    ส่วนพระบรมสารีริกธาตุ และอุณาโลม คุณ Vatechayana เป็นเจ้าภาพค่ะ

    ภัตตาหารเจ้าภาพจากร้านบ้านสวน -ถนนศรีนครินทร์ ๔ อย่าง ร้านเพชรสุคนธ์ ๓ อย่าง ส่วนเป็ดย่าง หมูกรอบ และผลไม้ เจ้าบ้าน และครอบครัวเป็นผู้ถวายค่ะ นอกจากนี้ได้ถวายปัจจัยค่าพาหนะ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๒,๑๐๐ บาทค่ะ

    เนื่องจากพระภิกษุ(จากวัดในจังหวัดนครราชสีมา) ท่านได้กลับจากแสวงบุญในประเทศอินเดีย ในวันรุ่งขึ้นต้องเดินทางไปดูพระที่โรงหล่อ ไม่มีที่พัก

    จึงได้มาพักที่บ้านเป็นเวลา ๑ คืน ท่านเห็นดวงแก้วในห้องพระ จำนวนมาก บอกว่า ไม่เคยเห็นดวงแก้วขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อนเลย เคยเห็นแต่ดวงเล็ก ๆ จึงได้กราบเรียนถามว่า

    "ท่านเชื่อเรื่องของดวงแก้วมณีหรือไม่ ท่านบอกว่า ในพระไตรปิฎกได้พูดถึงดวงแก้วมณีโชติว่า มีอยู่จริง หากใครได้ครอบครองนับเป็นบุญวาสนา"


    เนื่องจากมีดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ฝากไว้ จำนวน ๕ ดวง จึงได้กราบเรียนถามท่าน widya ว่าจะเป็นเจ้าภาพถวายดวงแก้วในการบรรจุในองค์พระหรือไม่ ท่าน widya ตอบมาโดยไม่ลังเลว่า

    "เราถวายในนามท่านศศินรินทร์ ๑ ดวง ดวงแก้วพอมั๊ย"

    จึงได้เรียนท่านว่า "เพียงดวงเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ บรรจุในพระเกศ พระประธาน หน้าตัก ๕๙ นิ้ว"


    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับท่าน widya มาณ.ที่นี้อีกครั้งค่ะ

    และขอนำภาพมาฝากทุก ๆ ท่านให้อนุโมทนาบุญกันค่ะ

    ผลบุญนี้บังเกิดแก่ท่าน widya ท่านศศิมานรินทร์ และข้าพเจ้าเพียงใด ขอจงบังเกิดแก่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด สาธุ


    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

    Numsai
     
  2. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ประสบการณ์ระลึกชาติ สมัยเด็ก

    ย้อนกลับไปเมื่อประมาณชั้นประถมปลาย ตาลจำไม่ได้แล้วค่ะว่าประถมอะไร
    ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กตัวน้อย ๆ เล่นซนทั่วไป ไม่กระดิกหูเรื่องธรรมะเท่าไหร่ค่ะ
    คุณครูประจำชั้นจู่ ๆ ก็ถามขึ้นมาเรื่อง"ความทรงจำแรกในสมัยเด็กที่รู้ความคือความทรงจำเกี่ยวกับอะไร"


    ทุกคนก็นั่งนึก ตาลก็นึก และก็จำได้ว่าตนเองเคยไปร่วมงานแต่งงานของคุณพ่อกับคุณแม่
    นึกไปก็งงไป แต่ตอนนั้นตาลไม่ได้เป็นเด็ก
    หากแต่เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าคนทั่ว ๆ ไปจะไม่สามารถมองเห็นได้


    ยิ่งนึกก็ยิ่งงง คุณครูเรียกถามเพื่อนหลายคน
    แต่โชคดีที่ไม่เรียกถามตาล ไม่งั้นเพื่อนคงหัวเราะเยาะแน่ ๆ


    ความทรงจำครั้งแรกมันไม่ปะติดปะต่อ เรื่องราวก็ปุปะ
    เป็นแค่ความระลึกได้เท่านั้น ต่อมาบางครั้งก็เป็นภาพวูบขึ้นมาแล้วก็เลือนหายไป
    แต่ทุกครั้งตาลจะเห็นตัวเองเป็นหญิงสาวผมยาวใส่ชุดไทยไม่เห็นหน้าตา
    การระลึกครั้งแรกเป็นการไปร่วมงานแต่งงานของคุณพ่อกับคุณแม่
    ส่วนครั้งต่อมา ตาลเห็นตนเองเป็นหญิงสาวคนเดิมมาร่วมงานขึ้นบ้านใหม่
    ซึ่งเป็นเรือนหอของคุณพ่อคุณแม่และเป็นบ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน


    ครั้งต่อมาตาลเห็นตนเองยืนอยู่ชั้นสองของบ้าน
    มองดูคุณแม่ซึ่งกำลังตั้งท้อง ในครั้งนี้มีบุคคลหนึ่งมาด้วย
    บุคคลนั้นได้ถามตาลเหมือนย้ำว่า "ตกลงใจแล้วใช่ไหม? คิดดีแล้วหรือ?"
    ตาลได้พยักหน้าเบา ๆ จากนั้นภาพทั้งหมดก็เลือนหายไป
     
  3. เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905



    ขอกราบอนุโมทนาบุญ กับท่านwidya พี่น้ำใส และพี่นัย ด้วยทุกประการ สาธุ สาธุ สาธุ


    จันทรกาลcatt26​
     
  4. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,331
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,276
    อนุโมทนาบุญกับท่านวิทยา พี่น้ำใส พี่นัย และทุกท่านด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุในบุญทุกประการที่ได้เกิดขึ้นด้วยครับ
     
  5. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ขอกราบอนุโมทนาบุญกุศลกับท่านวิทยา และท่านศศิมานรินทร์ทุกประการนะเจ้าคะ
    ที่ได้ทำบุญบรรจุดวงแก้วพระปัจเจกในพระเกศของพระประธานหน้าตัก ๕๙ นิ้ว
    รวมถึงขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใส พี่นัย
    และเจ้าภาพถวายภัตตาหาร ถวายอุณาโลมและพระบรมสารีริกธาตุ ค่าเดินทางทุก ๆ ประการค่ะ :cool:



    **********************************************



    ถึงแม้ในวัยเด็กตาลจะระลึกชาติได้ แต่เป็นการระลึกได้นิด ๆ หน่อย ๆ ค่ะ
    การระลึกชาติในครั้งนั้นมันคล้ายกับความทรงจำที่ผุดขึ้นมา
    ตัวเราจะเป็นตัวเราจริง ๆ ไม่เห็นหน้าตาของตัวเอง ลักษณะเหมือนกับเราอยู่ในร่างกายปัจจุบัน
    เหมือนเราเผชิญกับเหตุการณ์นั้นจริง ๆ ด้วยตนเอง


    ซึ่งต่างจากการระลึกชาติโดยใช้มโนมยิทธิ
    ขอบารมีของพระพุทธเจ้า หรือเทวดาเพื่อสงเคราะห์ในการดูเหตุการณ์ต่าง ๆ
    ลักษณะของการย้อนดูอดีตแบบนั้นจะเหมือนกับการดูละคร
    คือมองเห็นตนเองเป็นอีกบุคคลหนึ่ง แต่ทราบในจิตว่านั่นคือตนเองในอดีต


    หลายครั้งในวัยเด็กที่งงเพราะไม่ทราบว่าสิ่งที่ตนรู้นั้นคืออะไร
    ทำไมในสมองจึงมีความทรงจำของตนเองที่เป็นบุคคลอื่นอยู่
    ไม่ใช่แค่ความทรงจำเกี่ยวกับหญิงสาวที่เหาะได้เท่านั้น
    บางครั้งก็มีความทรงจำว่าตนเองเคยเป็นงูใหญ่ตัวเมียเลื้อยว่ายน้ำอยู่กลางมหาสมุทรใหญ่
    บางครั้งก็เคยจำได้ว่าตัวเองหายใจใต้น้ำได้ และเคยนั่งเล่นใต้น้ำเพื่อทดสอบว่าตนเองหายใจใต้น้ำได้จริง ๆ
    ตาลงง แต่ไม่คิดสงสัย อาจจะเพราะเป็นเด็ก มีเรื่องให้สนใจมากมายก่ายกอง
    สมาธิก็สั้น จึงไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และไม่คิดว่ามันสำคัญเท่าไหร่
     
  6. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ประสบการณ์ระลึกชาติ วัยผู้ใหญ่


    ช่วงเวลาสามสี่ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ตาลได้ออกค้นหาตัวเอง
    (กล่าวเหมือนจอมยุทธในหนังจีนแต่จริง ๆ เป็นจอมยัดในหนังไทยอิสาน อิอิ)
    และเคยลองวิธีการระลึกชาติที่บังเอิญไปอ่านเจอแบบที่ "เขาว่า"
    (เขาว่านี่คือมันไม่มีทฤษฎีแบบในพระกรรมฐาน ๔๐ เป็นวิธีนอกลู่นอกทางอย่างหนึ่งซึ่งอ่านเจอแถว ๆ นี้)
    เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้กำลังสมาธิอะไร แค่นั่งนึกย้อนไปว่าเมื่อวานนี้เราทำอะไร อย่างไร
    เมื่อวานซืนลองย้อนคิดไปว่าเราทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ จำได้ไหม...
    ย้อนไปเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือน เป็นปี เป็นหลายปี
    ตาลชอบมากเรื่องฟุ้งซ่านไร้สาระแบบนี้หมาะกะจริต ก็เลยนั่งคิด...



    เมื่อวานนี้จำได้เพราะเพิ่งเกิด เรื่องนั้นเรื่องโน้นเด่นชัดในความทรงจำ
    เมื่อวานก็จำได้ เมื่อวานซืนก็ได้ แต่ยิ่งถอยหลังก็พบว่าตนเองจำได้แต่เหตุการณ์สำคัญ ๆ
    สัปดาห์ที่แล้วก็จำได้ เดือนก็จำได้นิดหน่อย ย้อนไปสมัยเริ่มทำงาน
    ย้อนไปอีกสมัยรับปริญญา ย้อนไปอีกวันสอบจบมหาวิทยาลัย
    ย้อนไปอีกเป็นน้องใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี
    ย้อนไปอีกเป็นวันสอบเข้ามหาลัย วันสอบจบชั้นม. ๖
    ย้อนไปสมัยชั้น ม. ๓ ย้อนไปสมัยรักครั้งแรก ย้อนไปอีก ย้อนไปเรื่อย ๆ


    จนมาสะดุดกับความทรงจำหนึ่งในสมัยชั้นประถมปลาย
    ภาพนั้นจู่ ๆ ก็วูบขึ้นมา ตาลเป็นตัวเองอีกแล้ว
    ครั้งนี้เบื้องหน้าเห็นรั้วโรงเรียนกำแพงปูนเก่า ๆ ที่ไม่ได้ฉาบ
    มีช่องโหว่อยู่กำปั้นหนึ่ง ตัวเองมองลอดรั้วออกไปเห็นถนนโค้ง ๆ จากนั้นก็วูบไป
    นั่งคิดประหลาดใจ เหตุการณ์นั้นไม่ได้สำคัญอะไร ทำไมเราถึงจำได้นะ



    ช่างมันไปต่อ ... คราวนี้กระโดดข้ามขั้นไปตอนที่ยังอยู่ในท้องแม่
    ก่อนจะมาเกิดนี้เราเป็นใคร คราวนี้เห็นชัดเลยค่ะ เห็นว่าตัวเองเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยมาก
    สวมชุดไทย นุ่งผ้าถุงสีทองอร่าม สไบสีชมพู มีแสงสว่างเรื่อ ๆ ออกจากกาย
    สวมชฎาสีทอง ผิวพรรณนวลผ่องสดใส กำลังเหาะถอยหลังออกจากบ้านไป
    เหาะถอยหลังไปยืนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ในวัด (บ้านปัจจุบันอยู่ติดกับวัดและมีต้นโพธิ์ใหญ่เก่าแก่หลายร้อยปียืนต้นอยู่)


    สักพักเธอก็เหาะถอยหลัง (เหมือนดูหนังกรอย้อนหลังน่ะค่ะ)
    ขึ้นไป ขึ้นไป เห็นสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก
    จึงเข้าใจว่าก่อนมาเกิดเป็นตาลในปัจจุบัน
    ตาลเคยเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
    และได้ยินคนอื่นเรียกตนเองว่า "สุธรรมา"
    พอระลึกถึงตรงนี้ ก็จำได้ว่าความทรงจำในวัยเด็กของเรานั้นมีความทรงจำเกี่ยวกับหญิงสาวที่เหาะได้อยู่
    จึงคิดว่าตนเองไม่ได้อุปทาน รู้สึกตื่นเต้น เหมือนเจอจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ


    ชักสนุกเลยย้อนดูต่อ คราวนี้อยากรู้ว่าก่อนเกิดเป็นนางฟ้า เราเป็นใคร
    เทพธิดาสุธรรมาวดี (ภายหลังได้ถามชื่อจากพี่น้ำใส พี่น้ำใสตอบว่าชื่อสุธรรมาวดีค่ะ ตาลฟังขาดไป)
    จึงเหาะลงมายังโลกมนุษย์ เหาะเข้าไปในป่าทึบแห่งหนึ่ง
    แล้วภาพก็หายไป ซักพักก็ปรากฏภาพขึ้นมาใหม่
    ครั้งนี้เห็นตนเองกำลังนั่งสมาธิใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ตนเองนั้นอยู่ในเพศบรรชิต
    เป็นพระธุดงค์ ไม่หนุ่มไม่แก่ สวมจีวรเก่า ๆ


    ได้มองดูตนเองเป็นพระธุดงค์ด้วยความประหลาดใจแบบสุด ๆ
    และก็คิดว่าเออ...สงสัยเราจะเริ่มบ้าแล้ว ประกอบกับเริ่มรู้สึกเหนื่อยเหมือนวิ่งเร็ว ๆ มานาน จึงหยุดไปในที่สุด
     
  7. Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของน้องน้ำตาลด้วยค่ะ หลังจากน้องตาลเขียนตอนแรกแล้ว ก็ line มาปรึกษาว่า ควรเขียนต่อหรือไม่ ดิฉันตอบไปว่า "ควรเขียนต่อ เริ่มต้นแล้ว ควรต่อให้จบ"

    การที่นำประสบการณ์ในการปฏิบัติมาให้กัลยาณมิตรทุกท่านได้รับทราบ ดิฉันคิดว่า เป็นการให้ธรรมทาน มากกว่าเป็นการที่จะอวดภูมิของตัวเอง

    น้องน้ำตาลเสียสละที่จะนำเรื่องราวประสบการณ์ของตนมาแชร์นั้น เป็นเสียสละที่อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากการมีศรัทธา ศีล ปัญญา และจาคะไม่เสมอกัน

    ดิฉันจึงบอกกับน้องว่า "เขียนให้จบนะคะ เพราะประสบการณ์ของเราอาจจะไปตรงกับประสบการณ์ของเพื่อนสมาชิก หรือท่านผู้ติดตามกระทู้นี้ก็ได้"

    ตัวดิฉันเองกว่าจะมาถึงวันนี้ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ขนาดใหญ่เหมือนกัน รู้สึกประหลาดใจที่ผู้ที่มาเขียนวิพากษ์วิจารณ์นั้น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยพบตัวจริงกันด้วยซ้ำ เพียงแต่จรดคีบอร์ดเขียนวิจารณ์ไปโดยไม่ทราบว่า เบื้องปลายในปรโลกว่าจะต้องพบอะไร


    ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ

    Numsai
     
  8. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,331
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,276
    อนุโมทนาในธรรมทานของ น้ำตาล ด้วยนะครับ

    ขอให้มีความสุขมากๆ และสวยวัน สวยคืนนะจ๊ะ น้ำตาล
     
  9. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    กราบขอบพระคุณพี่น้ำใสมาก ๆ เจ้าค่ะ
    ส่วนตัวตาลเองไม่เคยคิดว่าตนเองนั้นดีเลย
    ทุกวันนี้ก็ "พยายาม" ทำตัวให้เป็นคนดีอยู่ค่ะ
    เพราะทำเลวนั้นทำมาเยอะแล้ว ทำดีนั้นทำยากจริง ๆ


    ตาลอยากเล่าประสบการณ์ของตนเองเป็นธรรมทานบ้าง
    ไม่ใช่เพราะอวดเก่ง คิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเป็นคนดี แต่เป็นเพราะ...
    พบว่า...คนที่รู้จริง ๆ ไม่ค่อยยอมออกมาเล่า ออกมาถ่ายทอดสิ่งที่รู้จริงนั้นให้คนอื่นฟัง
    แม้แต่ตาลเอง ตอนที่งม ๆ อยู่ก้นเหว ก็ไม่ค่อยมีคนมาบอกมาสอน
    ทำให้เราเห็นค่าตรงจุดนี้...หากเรามีโอกาสก็อยากถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ฟัง
    อยากให้เขารู้ เขามีกำลังใจ เขาจะได้มีความพยายามและทำไปให้ถึงค่ะ
    ถ้าเขาทำถึงไปได้ไกลกว่าเรา ก็ยิ่งดี เราจะได้มีกัลยาณมิตรดี ๆ เพิ่ม


    ขอขอบคุณและอนุโมทนาสาธุกับพี่น้ำใสทุกประการค่ะ
     
  10. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ประสบการณ์การระลึกชาติโดยการใช้มโนมยิทธิ


    ขอเล่าตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายนะคะ เนื่องจากมีคิวรอจ่ออยู่ และตาลก็ไม่ว่างไปจนถึงวันอาทิตย์
    ต้องขออภัยอย่างสูงที่ต้องรีบจบ รีบเขียนค่ะ



    ***********************************************


    ตอนที่ตาลฝึกระลึกชาติเองโดยการย้อนนึกนั้น
    ตอนนั้นตาลได้มโนมยิทธิแล้ว แต่ยังใช้ญาณ ๘ ไม่คล่อง
    และเนื่องจากกลัวตนเองจะอุปทานจึงไม่ได้เช็คเรื่องนี้ค่ะ


    การฝึกญาณ ๘ ที่บ้านสายลมสำหรับตาลถือว่ายากมาก
    ครูฝึกพาไปเร็ว ตอบไม่ทัน หรือไม่ก็ภาพไม่ปรากฏเลย
    ต่อมาตาลได้พบกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ตั้งวงฝึกมโนมยิทธิด้วยกัน
    โดยมีรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์คอยแนะนำให้
    และรุ่นพี่ท่านนี้เองที่พาตาลไปฝึกมโนมยิทธิที่ศูนย์พุทธศรัทธา จ.สระบุรี
    ตาลได้พบกับท่านอาจารย์ชนะที่ได้เมตตาสอนญาณ ๘ ให้
    ท่านใจดีมากค่ะ วันนั้น มีผู้ที่ได้มโนมยิทธิแล้วประมาณ ๗-๘ คนนั่งฝึกล้อมวงอาจารย์ชนะอยู่


    วันนั้นรู้สึกว่าฝึกได้ดีจนน่าประหลาดใจ อาจจะเพราะคนน้อยและอาจารย์ค่อย ๆ พาไป
    เมื่อถึงเรื่องการฝึกอดีตังสญาณ อาจารย์ชนะได้กล่าวว่า

    "ขอให้ทุกคนขอบารมีพระพุทธเจ้า ให้พระองค์ท่านพาย้อนกลับไปในอดีต
    ขอให้ทุกคนกราบเรียนถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
    ณ ศุนย์พุทธศรัทธานี้ ใต้โบสถ์มีสิ่งใดอยู่"


    จู่ ๆ ก็ปรากฏภาพขึ้นมา ภาพนั้นเกิดขึ้นในสมัยของเจ้าชายรามราช
    คืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด ตาลเห็นเจ้าชายรามราช และพรรคพวกที่เป็นทหารด้วยกันราว ๆ ๒๐ คน
    กำลังซุ่มเงียบอยู่ในพงหญ้ารกทึบ มีชายร่างกำยำล่ำสันไว้หนวดคนหนึ่งถือดาบโบกเป็นสัญญาณ
    แล้วตาลก็ต้องประหลาดใจอีกรอบ เมื่อวาระจิตนั้นทราบว่า ตนเองเป็นชายคนที่ถือดาบและโบกมือเป็นสัญญาณนั่นเอง


    เมื่อได้สัญญาณ ทุกคนก็กรูกันออกมาจากที่ซ่อน
    ตาลเห็นเจ้าชายรามราช ทรงออกมาด้วย พรรคพวกที่มาด้วยกันต่างกำลังหาบหีบใบใหญ่หลายใบ
    ภายในหีบเพียบแปล้ไปด้วยทองคำ ตาลเห็นตัวเองสั่งการให้พลทหารทั้งหลายเร่งกันขุดหลุมใหญ่
    เพื่อใช้ฝังทองคำจำนวนมาก จากนั้นภาพนั้นก็หายไป


    เพื่อน ๆ หลายคนตอบถูก ท่านอาจารย์ชนะได้เฉลยว่ามีทองคำฝังอยู่ใต้โบสถ์นี้
    และท่านยังบอกอีกว่า หลวงพ่อฤาษีนั้นในอดีตท่านได้ฝังทองคำจำนวนมากเอาไว้
    เพื่อไม่ให้ศัตรูมาเอาไป ท่านหวังเพียงเพื่อในภายภาคหน้าจะได้ใช้ทองคำนี้ เพื่อทนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง


    หลังจากนั้นท่านอาจารย์ชนะได้พาย้อนอดีตไปในสมัยต่าง ๆ อีกหลายสมัย
    อาทิเช่นสมัยรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๕ ท่านก็ได้ถามว่าเห็นไหมว่าพวกเธอเคยเกิดเป็นใคร
    ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ตาลเห็นตัวเองเกิดเป็นหญิงสาวสูงศักดิ์คนหนึ่ง แต่ทว่าเธอแก่ชรา
    ดวงตาฝ้าฟางนั้นมองออกไปในความมืด เฝ้ารอคอยใครบางคนในวาระสุดท้ายของชีวิต

    ในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ ตาลเห็นตัวเองนั่งอยู่บนเสลี่ยง มีชายสี่คนหาม
    ในมือของตาลโบกพัดจีนรัว ๆ สวมโจงกระเบน ใส่เสื้อลูกไม้จีบพอง มีผ้าพาดบ่า
    ไว้ผมทรงกระทุ่ม ลักษณะเหมือนเป็นราชนิกูลชั้นสูง ท่าทางหยิ่งยโส

     
  11. ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,331
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,276
    เดาว่าใต้โบสถ์ต้องมีทองคำ หรือ พระทองคำฝังไว้นะ เทวดาชอบฝากทองไว้ใต้โบสถ์
    เพราะจะได้หมดหน้าที่ แล้วกลับไปเสวยสุขต่อจ้า
     
  12. ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    แหวน รึเปล่า ทาย ด้วยคน อิอิ
     
  13. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ครั้งแรกที่ได้อดีตังสญาณนั้น ตาลขอตอบได้เลยนะคะว่าดีใจมาก
    เพื่อน ๆ ที่ร่วมฝึกด้วยกันนั้นก็ดีใจ หลังจากฝึกเสร็จก็คุยกันเซ็งแซ่
    คนโน้นคนนี้เล่าให้ฟังเต็มไปหมดว่าเคยเกิดเป็นใคร เป็นคนสูงส่งแค่ไหน
    น้ำเสียงของทุกคนต่างปลื้มปิติกันทั้งนั้นค่ะ
    ตาลก็ดีใจที่ทราบว่าตนเองเคยเป็นข้าราชบริพารของหลวงพ่อฯ มาก่อน
    และก็เข้าใจว่าทำไมเราถึงชอบคำสอนของท่าน ทำไมท่านถึงสอนเราได้
    นั่นก็เป็นเพราะว่าเคยร่วมบุญร่วมกรรม เกิดร่วมชาติกันมาก่อน คนที่เคยเกิดร่วมกันย่อมสอนกันรู้เรื่อง
    ประกอบกับในสมัยก่อน เราถวายงานท่านด้วยความเคารพรักและซื่อสัตย์
    ท่านพูดอะไรเราก็น้อมรับนำมาใส่ใจ มาถึงสมัยนี้มันก็ไม่แปลกที่ฟังคำสอนของท่านรู้เรื่องกว่าของท่านอื่น
    เพราะเราไม่เคยลังเลสงสัยในคุณความดีของท่านที่ทำเพื่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์จริง ๆ



    ตาลได้เข้ากลุ่มและฝึกมโนมยิทธิกับเพื่อน ๆ และรุ่นพี่ท่านนั้นมาพักนึง
    ไม่นานก็เริ่มรู้สึกแปลกแยก เพราะรุ่นพี่ท่านนั้นเริ่มพูดแต่เรื่องของสมัยอดีต
    ที่ตนเองเคยเป็นกษัตริย์พระองค์หนึ่งแทบจะตลอดเวลา
    เริ่มพูดว่าน้องผู้หญิงคนนั้นเคยเกิดเป็นเมียพี่ คนโน้นก็เมีย คนนี้ก็เมีย
    ตาลเองก็เกิดเป็นเมียเขา เกิดเป็นสนมคนที่ ๑๑ ของเขามาก่อน
    ยิ่งคนสวยที่สุดในกลุ่ม เขาก็บอกว่าเคยเกิดเป็นมเหสีและเป็นนางแก้วอันดับหนึ่งของเขา


    ขอตอบตามความจริงว่า รุ่นพี่ท่านนี้เป็นผู้ที่มีทิพจักขุญาณแจ่มใสมากท่านหนึ่ง
    ความสามารถในการระลึกชาติของเขานั้น มีหลาย ๆ ท่านได้รับรองว่าเป็นความจริง
    แต่ถึงแม้ทุกอย่างจะจริงและตาลเคยเป็นสนมของเขามาก่อน
    แต่มันก็แปลก เพราะการระลึกชาติของเขานั้นไม่ได้ปล่อยวางสิ่งที่รู้ที่เห็นลง
    ความรู้ทางธรรมตาลก็ยังด้อยอยู่มาก แต่ก็ไม่คิดจะยึดในอดีตที่ผ่านมาแล้วนำมาเป็นสาระ
    อาจจะรู้สึกดีใจที่รู้เห็นอดีต แต่ก็ดีใจเพียงไม่กี่ครั้ง เห็นแล้วก็เห็น เสร็จก็วางลงตรงนั้น
    จึงประหลาดใจในการกระทำของเขามาก ภายหลังจากนั้นตาลจึงแยกตัวออกมา



    พระครูวิลาศกาญจนธรรมท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า
    ปัจจุบันนี้คนที่ได้มโนมยิทธิและใช้ผิดนั้นมีเกินกว่า ๙๐%
    ตาลนำมาพิจารณาภายหลังก็รู้สึกเห็นด้วยกับท่าน
    หลาย ๆ คนที่ได้มโนมยิทธิแล้วนำไปดูอดีตแล้วก็ยึด
    ไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์ว่าคนโน้นคนนี้เคยเกิดเป็นพ่อแม่พี่น้องลูกเมียกันมาก่อน
    เสร็จแล้วก็กอดคอจมน้ำตายด้วยกันทั้งหมด



    ตาลไม่ได้คิดว่าจะนำเรื่องราวของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับตนเองเพื่อให้ตนเองดูดีขึ้นนะคะ
    แต่เอาไว้เตือนสติตนเองว่าเราจะไม่เป็นอย่างเขา เราจะไม่ทำอย่างเขา เพราะตัวอย่างมีให้เห็นตำตา
    เสร็จแล้วก็ขอบคุณเขา และแผ่เมตตาให้เขามาก ๆ
    (ต้องกราบขออภัยที่ต้องเอ่ยถึงคนอื่นในทางที่...ด้วยค่ะ)


    หลวงพ่อฯ ท่านอุตส่าห์หยิบยื่นอาวุธที่ใช้ประหัตประหารกิเลสให้สิ้นไปกับลูก ๆ หลาน ๆ ที่ติดตามกันมา
    แต่หลายท่านกลับใช้เป็นอาวุธเข้าทิ่มแทงตนเอง
    ของดีที่พ่อให้ไว้ เอามาใช้ให้เป็น มันก็เหมือนมีด ถ้าหากเราเป็นผู้ใช้นำมาแทงตัวเองเราก็ตายเปล่า
    เกิดมาเป็นคนชาติเดียวก็ทุกข์พออยู่แล้ว ยังไปเอาชาติอื่นมาทุกข์อีก ทุกข์ซ้ำไปใหญ่ค่ะ




    ประสบการณ์การระลึกชาติของตาลที่นำมาเล่าให้ฟังนี้
    หวังว่าพี่ ๆ น้อง ๆ จะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
    ตาลเล่าให้ฟังก็ไม่ได้หวังอะไร หวังแค่ว่าหลาย ๆ ท่านจะได้เข้าใจในญาณตัวนี้มากขึ้นค่ะ
    เข้าใจแล้วก็ขอให้ใช้ไปในทางที่เป็นประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิดโทษแก่ตัวเองและผู้อื่น
    และถ้าเป็นไปได้ก็ใช้ในการพิจารณาวิปัสสนาญาณให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ



    ตัวตาลเองก็ยังเป็นผู้ที่ต้องเรียนรู้ บางครั้งการได้แลกเปลี่ยนความรู้ก็ดีใจแล้วค่ะ
    หากพลั้งพลาดในสิ่งใดก็กราบขออภัยและน้อมรับความผิดนั้นด้วยนะคะ
    ไม่ขอแก้ตัวใด ๆ เพราะรู้ว่าตนเองนั้นยังเลวอยู่มาก
    บางทีอาจจะเผลออวดเลวที่มันมีเยอะมากในกมลสันดานออกมาก็ต้องขออภัยจริง ๆ ค่ะ


    วันไหนที่พี่น้ำใสเผลอแล้วเจอกันอีกนะคะ อิอิ
     
  14. diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    สาธุ ขออนุโมทนาในธรรมทานของคุณน้ำตาลค่ะ ติดตามด้วยใจระทึก
    ว่าแต่...จบเร็ว (จัง) อีกแล้นนนน
     
  15. Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376


    ขอบพระคุณที่ติดตามค่ะคุณ diya
    ตาลยังมีอีกเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการเขียนมาก
    นั่นคือเรื่องการบำเพ็ญนางแก้วของตนเอง
    เหตุใดจึงปรารถนานางแก้ว และเหตุใดจึงปรารถนาพุทธภูมิซ้อนนางแก้ว
    เหตุใดจึงช่วงหลังจึงเกิดเป็นชายมากกว่าหญิง
    ทั้ง ๆ ที่เข้าสู่เขตปรมัตถบารมีปลายแล้ว
    ทุกอย่างมีเหตุมีปัจจัยทั้งนั้น ...


    การบำเพ็ญบารมีใช่แต่จะมีเรื่องที่เข้าใจหัวอกในกันและกันของนางแก้วและพระโพธิสัตว์นะคะ
    ช่วงทะเลาะกันก็หนักหนาเอาการ กว่าจะผ่านพ้นมาได้ก็แทบรากเลือด
    เรื่องนี้ท่านสิทธิสัตตะได้อนุญาตไว้เป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ต้องขอ
    ท่านบอกว่า "ถ้าหากเธอจะลงเป็นธรรมทาน พี่ก็ไม่ว่าอะไร"



    รอติดตามแล้วกันค่ะ ขอเคลียร์เรื่องวุ่น ๆ ก่อนแล้วเจอกันค่ะ ^^
     
  16. Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ลักษณะของคู่แท้คู่บารมี (Soul Mate)..

    ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของน้องน้ำตาลอีกครั้งค่ะ ช่วงนี้ไฟแรง อิอิ

    เรื่องของการบำเพ็ญบารมีระหว่างพระโพธิสัตว์ และนางแก้วนั้น แต่ละท่านก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จ เนื่องจากทุกอย่างนั้นเกิดจากกรรมที่ต่างสร้างกันมาแต่อดีต ชาติใดเกิดมารักใคร่ปรองดองกันดี เกิดจากกุศลกรรมส่งผล


    ชาติใดที่ไม่เข้าใจกัน มีปัญหาเกิดขึ้นมาต่าง ๆ กันก็เกิดจากอกุศลกรรมที่ต่างร่วมสร้างกันมา หลายท่านคิดว่าเป็นบททดสอบว่า จะร่วมเดินทางต่อไปอีกหรือไม่

    ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ และผู้ปรารถนานางแก้วนั้น อาจจะเคยอธิษฐานครองคู่กันหลายท่าน ระหว่างที่สร้างบารมีในแต่ละคู่นั้น จะมีบททดสอบมากมาย อันเกิดจากกรรมที่กระทำร่วมกันในอดีต มีเหตุให้หลายคน ต้องอธิษฐานลาขาดกันไป ไม่ขอติดตามสร้างบารมีร่วมกันอีก ยกเว้นกรณีที่ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ลาพุทธภูมิ เพื่อเข้าพระนิพพาน หรือเพื่อปรารถนาอย่างอื่น


    การคัดกรองคู่บารมีจะเป็นไปอย่างเข้มข้น มีบททดสอบแล้วทดสอบอีก จนกระทั่งเหลือเพียง ๑ คนเดียวที่ปรากฏไม่เกิน ๓๐ ชาติสุดท้าย จะเป็นคนสุดท้ายที่จะครองคู่กันจนกว่าพระโพธิสัตว์จะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ

    ทีนี้มาดูลักษณะของคู่แท้คู่บารมี มีดังนี้

    ๑) มองตาก็รู้ใจ พบกันครั้งแรกจะรู้สึกแบบรักแรกพบ ไม่ต้องเอ่ยคำอีกฝ่ายหนึ่งก็จะเข้าใจทุกอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ

    ๒) โอนอ่อนผ่อนตามกันทุกเรื่อง

    ๓) เมตตาต่อกันดุจบิดามารดาเมตตาต่อบุตรของตน

    ๔) ปราศจากคำว่า หึงหวง ริษยา หรืออาฆาตต่อกัน

    ๕) พร้อมจะเป็นผู้เสียสละความสุขให้แก่กันได้เสมอ และทุกเวลา

    ๖) พร้อมจะเป็นผู้ให้ และผู้รับ ซึ่งกันและกัน

    ๗) ทุกครั้งที่ฝ่ายหนึ่งมีทุกข์ กระแสใจจะเชื่อมความรู้สึกถึงอีกฝ่ายทันที คล้ายใจที่เชื่อมถึงใจ กรณีที่อีกฝ่ายเป็นนักปฏิบัติธรรมขั้นสูงจะช่วยบรรเทาความทุกข์ให้ได้ทันที

    ๘) สามารถให้อภัยให้แก่กันได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ในกรณีที่อีกฝ่ายทำผิดพลาดไป

    ๙) รักษาทรัพย์ หรือผลประโยชน์ของกันและกัน

    ๑๐) อยู่กันจนแก่เฒ่า ไม่นอกใจกัน



    นี้คือลักษณะของคู่บารมีโดยแท้ หลายท่านคิดว่า จะไปหาที่ไหนคู่แบบนี้ แม้แต่กะรัตกับุคุณชายพิสุทธิ์ที่เรียกว่า รักกันมาก ยังมีอุปสรรค ไม่เข้าใจกันหลายครั้ง อิอิ

    ดิฉันขอเรียนว่า มีจริงในโลก ถึงแม้ไม่ได้เข้าข่ายหมดทุกข้อ เพียงแค่ ๓ ข้อก็ถือว่า มากพอที่เรียกว่า เป็นคู่แท้คู่บารมี

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  17. Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..๑๕ มีค.นี้ ๑๒.๕๙ น.-ประมูลดวงแก้วพุทธพรหมมุนี น้ำหนักกว่า ๑๐ กก.ค่ะ


    ดวงแก้วพุทธพรหมมุนี อธิษฐานโดยพระอรรถสัจจฤาษี ก่อนในสมัยพุทธกาลสมเด็จพระโสภิตะพุทธเจ้า

    ดวงแก้วนี้มีกายสิทธิ์ ๓๒,๙๕๙,๐๐๐ องค์ พระบวรปทมไชยนาทโพธิสัตว์ เป็นผู้ดูแลดวงแก้ว ปัจจุบันอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต (ชั้น ๔)

    เริ่มต้นประมูลที่ ๑๖,๙๙๙ บาท


    กติกาในการประมูล

    ๑. ประมูลวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ภายใน ๑๒.๕๙ น. ตามมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง

    ๒. รายการประมูลจะมอบแด่ท่านที่ประมูลราคาสูงสุดภายในเวลาที่กำหนด (ตามเวลาเว็บพลังจิต.org)

    ๓. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุด และเวลาเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยผู้ที่ทำการโพสต์ก่อนเป็นอันดับแรก

    ๔. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai ค่ะ


    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่าย ๓๐ % ร่วมบุญสร้างสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ขนาดหน้า ๔ ศอก สร้างด้วยหินทรายขาว

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  18. mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขอร่วมประมูลดวงแก้วพุทธพรหมมุนี 17300บาทครับ
     
  19. Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    เดิมทีตั้งใจจะลงประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์ก่อนจะประมูลดวงแก้วชุดพุทธพรหมมุนี ปรากฏว่า ช่วงบ่ายจะมีแขกคนสำคัญมาบ้าน ก็เลยต้องระงับการลงประวัติไปก่อน ขออนุญาตนำดวงแก้วประมูลก่อนค่ะ


    สำหรับประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์จะทะยอยลง จากนั้นจะเป็นประวัติดวงแก้วชุดพุทธพรหมมุนี ซึ่งจะมีประวัติดวงแก้วอภิบูรณ์อมรฤทธิ์ ของคุณ Prapart54 รวมอยู่ด้วยค่ะ

    ดวงแก้วชุดพุทธพรหมมุนีจะปรากฏก่อนสมัยพระพุทธโสภิตะพุทธเจ้า ซึ่งได้เคยนำพระเขี้ยวแก้วของพระองค์ประมูลก่อนหน้านี้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
  20. am12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +7,701
    ขอร่วมประมูลดวงแก้วพุทธพรหมมุนี 18000บาทครับ
     

แชร์หน้านี้