คนไม่มีทุกข์ ไม่มีในโลก
ลองคิดดูก็ได้
สมมติถ้าเราเป็นสมาชิกครอบครัวของพระพุทธเจ้า
พระนางสิริมหามายา
ต้องตาย ตั้งแต่ยังมีลูกอ่อนอายุ 7 วัน....ทุกข์
เจ้าชายสิทธัตถะ
แม่เสียชีวิต ไม่เคยได้เห็นหน้าแม่เลย....ทุกข์
พระนางพิมพา พระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ
พระสวามีทิ้งเรากับลูกที่เพิ่งเกิด เข้าป่า ไปเป็นนักบวช...ทุกข์
เราพร่องความเป็นภรรยาตรงไหน
อับอายญาติ พี่น้อง เพื่อน...ทุกข์
เจ้าชายราหุล พระโอรสของเจ้าชายสิทธัตถะ
พ่อทิ้งลูกไปเมอื่อายุ 3-4 ขวบ เพื่อนๆล้อว่าไม่มีพ่อ...ทุกข์
พระเจ้าสุทโธทนะ พระบิดา
ลูกๆทั้งหลายไม่ดูแลรักษาราชสมบัติ เข้าป่า ทำไมๆๆ ....ทุกข์
พระพุทธเจ้า
ราชวงศ์สักยะ ถูกฆ่าหมด ญาติพี่น้องถูกฆ่าหมด
ผู้ฆ่าก็เป็นศิษย์ของท่าน
ถ้าเป็นเราคงทุกข์มาก
แต่ท่านเข้าใจว่าเป็นกรรม จึงปล่อยวางเสีย
ใครเกิดมาในโลก ในวัฏฏสงสาร
ต้องเป็นทุกข์แน่นอนทุกคน ทุกชีวิต
ปีมะโรง ขอจงมีความสุข :พระอาจารย์มิตซูโอะ
ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย เถรี, 29 ตุลาคม 2006.
-
คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลกนี้
สมัยพุทธกาล อุบาสก อตุละ ชักชวนบริวารทั้ง 500
ไปฟังเทศน์ที่สำนักพระศาสดา
ตอนเช้า ได้ไปหาพระเรวตเถระซึ่งเป็นพระอรหันต์
นิมนตร์อาราธนาเทศน์ ท่านเงียบ
อุบาสกนินทาท่านว่า องค์นี้ไม่พูดเลย
อุบาสกจึงชักชวนบริวารทั้งหมดเดินทางต่อไป
พบพระสารีบุตร ซึ่งเป็นพระอัครสาวก
เป็นผู้เลิศทางปัญญา เป็นผู้แตกฉานในการแสดงธรรม
พระสารีบุตรแสดงธรรมโดยพิศดาร
อธิบายหัวข้อธรรมอย่างละเอียด
อุบาสกอตุละ นินทาท่านว่า พระองค์นี้ พูดมากไป
อุบาสกจึงชักชวนพรรคพวกเดินต่อไปอีก
ตกบ่ายได้พบพระอานนท์
พระอานนท์แสดงธรรมโดยย่อให้เข้าใจง่ายๆ
เมื่อฟังเทศน์จบ อุบาสกอตุละ ก็ว่า
พระองค์นี้เป็นอะไร พูดน้อย
ตอนเย็นก็ไปถึงที่พักของพระพุทธองค์
อุบาสกอตุละได้เล่าให้พระพุทธองค์ฟังเรื่องตั้งแต่เช้า
พระพุทธองค์ จึงตรัสว่า
อตุละเอย คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
แม้แต่พระพุทธเจ้าก็คงจะถูกอตุละนินทาว่า เทศน์ไม่เก่ง
ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ทำงานมาก
มีความรับผิดชอบสูง
ก็ยิ่งถูกนินทามากเป็นธรรมดา
คนที่ไม่ถูกนินทา คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย
เราทุกคนไม่ต้องการให้ใครนินทาเรา
แต่ก็เป็นไปไม่ได้
พระบรมศาสดาของเรา เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุด
ทรงมีพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ
แต่ท่านก็ถูกนินทามากที่สุดก็ว่าได้
คนมีมิจฉาทิฏฐิ คนไม่ศรัทธาท่าน ก็นินทาท่าน
คนนินทาท่าน อาจมากกว่าคนสรรเสริญท่าน
แม้แต่ธรรมชาติ ลมฟ้าอากาศ
ก็ถูกมนุษย์นินทาประมาณ 90% หรืออาจถึง 99 % ทีเดียว
วันนี้ร้อน วันนี้หนาว
ฝนตก ฝนไม่ตก
ลมแรง ไม่มีลม
.......... ฯลฯ
ธรรมชาติก็ถูกมนุษย์นินทามากมายถึงปานนี้
ได้รับคำชม คำสรรเสริญ นิดเดียว
สิ่งที่ไม่มีวิญญาณก็ยังถูกนินทาถึงขนาดนี้
แล้วมนุษย์เองจะถูกนินทาขนาดไหน
น่าเห็นใจมนุษย์ -
พอดี - ทางสายกลาง
ให้เราลองปฏิบัติดังนี้
เดือนแรก
จะโกรธ กำลังโกรธ สอนใจตัวเองว่า "ดีๆๆ"
เขาไม่เรียบร้อย ไม่ขยัน พูดไม่เพราะ
เขานินทาเรา ฯลฯ ก็คิดว่า "ดีๆๆ"
สอนใจตัวเองว่า...อย่ายินร้าย
เดือนที่สอง
เมื่อประสบกับสิ่งที่ควรยินดี ดีใจ
ก็สอนใจตัวเองว่า "พอๆๆ" ...อย่ายินดี
เดือนที่สาม
จิตใจ ความรู้สึกของเราจะเข้าถึงทางสายกลาง พอดีๆๆ
ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง
พอดี - ใจเย็น ใจดี ใจเมตตา ใจมีสันติสุข
ใจเป็นปกติ ใจเป็นศีล
ไม่ยินดี ยินร้าย
มีแต่ "ดี" และ "พอ"
พอดีๆๆ.....
เป็นมัชฌิมาปฏิปทา
ขอให้มีความสุขในทุกสถานการณ์
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ