ผมถูกแม่บังเกิดเกล้า "สาปแช่ง" จะทำอย่างไรดีครับ?
ผมกับแม่มักมีปากเสียงกันอยู่ประจำครับ
ผมเครียดมาก ปกติผมป่วยทางจิตประสาทอยู่แล้วด้วย
แค่โรคทางจิตประสาทผมก็ทรมานพอดูแล้ว นี่ถูกแม่บังเกิดเกล้าสาปแช่งอีก
รู้สึกตกใจ สะเทือนใจ กลัว มากครับ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ผมถูกแม่บังเกิดเกล้า "สาปแช่ง"
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย manymoons123, 16 มิถุนายน 2012.
หน้า 1 ของ 3
-
-
ก้มหน้าทำแต่ความดีครับ คิดดี พูดดี ทำดีครับ เรามีกรรมก็ก้มหน้าทน อย่าสร้างกรรมชั่วเพิ่มขึ้นเลยนะครับ อะไรที่เลี่ยงได้ก็ให้เลี่ยง ค่อยทำไปนะครับ บุญรักษานะครับ
-
คำสาปแช่งทั้งหมดก็อยู่ที่ตัวแม่คุณแล่ะครับ:cool: -
พระอาจารย์ได้กล่าวว่า "บุคคลที่กล่าววาจาหยาบคายที่สุดในสมัยพุทธกาล คือ ท่านพราหมณ์ภารทวาชโคตร ท่านด่าบริภาษแม้กระทั่งพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าถามพราหมณ์ภารทวาชโคตรว่า "ท่านจัดของเคี้ยวของบริโภค หรือของดื่มต้อนรับแก่มิตรอำมาตย์ หรือญาติผู้เป็นแขกที่มาเยือนท่านบ้างหรือไม่?"
อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ทูลตอบว่า "ข้าพระองค์จัดของเคี้ยวของบริโภคหรือของดื่มต้อนรับแก่มิตรอำมาตย์ญาติผู้เป็นแขกเหล่านั้นในบางคราว"
พระพุทธเจ้าถามว่า "ถ้ามิตรและอำมาตย์ญาติ ผู้เป็นแขกเหล่านั้นไม่รับของเคี้ยวของบริโภคแล้วของเหล่านั้นจะเป็นของใคร?"
อักโกสกภารทวาชพราหมณ์ตอบว่า "ถ้ามิตรและอำมาตย์ญาติผู้เป็นแขกเหล่านั้นไม่รับของเคี้ยวของบริโภค ของเหล่านั้นก็เป็นของข้าพระองค์อย่างเดิม"
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ข้อนี้ก็อย่างเดียวกัน ท่านด่าว่าเราผู้ไม่ด่า ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธ เราไม่รับการด่าของท่าน เรื่องการด่านั้น ก็เป็นของท่านแต่ผู้เดียว "
ที่มา พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๒ - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน -
อดทนครับ อย่าไปตอบโต้ท่านนะครับ แม้ทางความคิดก็ดี ฟังเรื่องดูแล้วนี่แหละครับที่ว่ากรรมและวิบากเป็นเรื่องซับซ้อน เป็นอจิณไตย
เป็นกำลังใจให้ครับ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย บารมีท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตตลอดจนครูบาสายอริยวงศ์ทุกๆพระองค์ จงช่วยปกป้องคุณและคุณแม่ให้พ้นไปเสีีีียวงเวียนกรรมนี้โดยเร็ววัน สาธุ -
อย่าคิดมากนะค่่ะ คุณแม่โมโหก็พูดไปอย่างนั้นเอง หายโกรธก็ไม่มีอะไร พยามอย่านึกถึงเลยค่ะมันผ่านมาแล้ว ตั้งใจทำความดีให้มาก อยู่กับปัจจุบันเป็นที่สุด แม่ทุกคนรักลูก อาจเผลอสติไป อย่าคิดมากนะ
-
ยิ้มสู้ นึกถึงวันที่เราเกิด เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ วันที่ท่านได้โอบประคอง วันที่ยุงไม่ได้ไต่ ไรไม่ได้ตอม เหตุเกิดเพราะตัวเราก็แก้ที่ตัวเรา
-
ผมก็โดนพ่อว่าบ่อยเหมือนกัน เห็นหน้าปุ๊บไม่เคยพูดอะไรดีๆด้วยเลย ว่าตลอด เป็นปีๆแล้ว เหน็บแนมตลอด มันอัดอั้นตันใจ ไม่เคยให้พร ให้กำลังใจอะไรสักอย่าง เกลียดไม่อยากมองหน้า พอฟังธรรมะก็พอทุเลาบ้าง ผมไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย เขาทำร้ายผมด้วยคำพูดตลอด ไม่เป็นผมไม่รู้หรอก ผมไม่อยากให้เขาอยู่อ่ะ
-
เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสสร้างบุญกุศลบารมีได้ครับ เพราะ
1พลังสายสัมพันธ์แม่ลูกแรงมาก ปกติลูกผู้สนใจธรรมะจะรู้ว่าคุณความดีของมารดานั้นแรงมากจึงมีความกตัญญูกตเวทีรู้คุณและหวังตอบแทนคุณอยู่แล้ว และ
2ถ้าปกติเราไม่ทำความชั่วเป็นอาจิณกรรมอยู่แล้ว คำมารดานั้นก็ดุด่าไปตามความไม่รู้ขาดสติและเคยชินจึงขาดเจตนาและมีผลน้อยในแรกเริ่มที่อาจจะแก้เป็นอโหสิกรรมได้ง่าย อาจจะถูกแรงอกุศลกรรมของลูกเข้ามาเจือผลักดันวจีกรรมของมารดาร่วมด้วยบ้าง ก็ให้พยายามฝึกตนให้แรงอกุศลเก่าของเราเบาบางลงด้วยเพิ่มกรรมฝ่ายกุศลเช่น ทาน ศีล โดยเฉพาะภาวนา ให้เป็นอาจิณกรรมสลายอกุศลกรรมเก่าชนะตนเองไปด้วยพากเพียรในสัมมาปฏิบัติด้วยสติปัญญาความเลื่อมใสในคุณพระศรีรัตนตรัยอันมีคุณหาประมาณไม่ได้ครับ
ธรรมดามารดามักจะบ่นด่าสาปแช่งต่อลูก ด้วยเพราะปกติมีทุกข์เกิดขึ้นต่อท่านเข้ามาบีบคั้นผลักดันไม่ว่าทางกาย วาจา หรือใจก็ดี (ที่เราลูกหรือบุคคลในโลกปกติที่ตั้งอยู่ในความประมาทไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยขาดสติ) ให้ลูกกำหนดตั้งทิฐิด้วยความเห็นอันเป็นกุศลสัมมาทิฐิมีกตัญญูกตเวทิตาประกอบด้วยเมตตาและกรุณา แก่บุพการี(คือมารดารวมถึงบิดาด้วยผู้กระทำคุณกุศลดังกล่าวนั้นก่อนต่อเรา มีค่าหาประมาณไม่ได้)เป็นนิจศีลอาจิณกรรมขึ้นมารับ
เมื่อมารดาท่านกระทำมิจฉาอธิษฐานด้วยอกุศลกรรมบีบคั้นลวงตาบดบังสติปัญญาสาปแช่งด่าเรานั้น ให้เรากระทำการตั้งสัมมาสัจจาธิษฐานมีที่ตั้งคือคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกนับถืออย่างสูงสุด อธิษฐานขอพรให้ท่านเกิดความเจริญรุ่งเรืองกลับไปยังท่านแล้วค่อยให้มีผลนำความสุขเจริญรุ่งเรืองกลับมาหาเราอีกก็ไม่สาย และจะแรงกว่าทบเท่าทวีด้วยการคูณด้วยกุศลธรรมอันประกอบด้วยสติปัญญานานัปประการเป็นเครื่องประกอบด้วยเกิดกำลังแห่งสรรพบุญกุศล อินทรีย์ธรรม อุปมาดุจดั่งที่นั่งอาสนะตั้งอยู่ พาหนะ เรือนที่อาศัย รัศมีกำลังฤทธิ์ สิทธิ อำนาจ เฉียบขาด พลธรรม สรรพเทพ สรรพโพธิธรรมรักษา ฯลฯ นานาประการครับ
ท่านสาปแช่งด่ามาเท่าไรให้เรากล่าวกลับด้วยความเคารพนอบน้อมทั้งประกอบกายวาจาใจตามสมควรแก่ธรรมและสถานการณ์ด้วยหลักทางสายกลาง เช่นกราบไหว้บูชาเคารพ แล้วตั้งสัมมาสัจจาธิษฐานกล่าวเปลี่ยนคำด่าสาบแช่งนั้นด้วยหลักสัจจธรรม แห่งกุศลกรรมที่แท้จริงไม่มุสาจากไตรทวารทั้ง3ของเราผู้เป็นลูก (ถ้าไม่มีใครหาว่าอาการที่เราเคารพกราบไหว้บูชต่างฯลฯ เป็นคนบ้าเสียสติประสาทไปก่อน)กลับไปให้งดงามประกอบด้วยสติ งดงามสงบสันติอาจหาญร่าเริงกว่าให้ยิ่งกว่าไปเท่านั้น แล้วคำของเรานั้นจะสามารถเปลี่ยนแรงกรรมจากทวารทั้ง3ของมารดา ให้เป็นประดุจอุปมาดั่งพรอันสุดวิเศษจากพระอรหันต์ผู้ทรงคุณประเสริฐในสามโลกตามสมควรแก่กาละเทศะแก่เราผู้เป็นลูกทั้งนี้อาจจะกลับไปเจริญภาวนาเพิ่มในที่สมควรเช่นห้องพระหรือวัดที่นั่งกรรมฐานที่เหมาะสมงดงามตามทางสายกลางตามกำลังใจคือบารมีของเราครับ
เช่นถ้าท่านสาบแช่งในอกุศลธรรมข้อใดเราก็ขอพรจากคุณพระศรีรัตนตรับให้ท่านเจริญในกุศลธรรมหมวดต่างๆอาจจะเป็นหมวดตรงข้ามก็ได้ครับ
ถ้าท่านอคติรังเกียจในข้อใด ถ้าเราไม่ได้เป็นหรือไม่มีเจตนา หรือมีเจตนาที่จะกลับตัวแก้ตัวให้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย ก็เหมาะโอกาสที่จะกระทำสัมมาสัจจาธิษฐานให้เป็นแรงพรทบทวีคูณจากความเข้าใจผิดของท่านแก้กลับได้เร็วและแรงมาก หากกระทำได้ด้วยปราศจากอกุศลเจตนา ประกอบด้วยกุศลเจตนาที่บริสุทธิ์มากเท่าใด ผลกลับจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เราและช่วยเหลือแม่เราให้ดีขึ้นมากเท่านั้นครับ
เช่นแม่บ่นด่าสาปแช่งกระทำมิจฉาธิษฐานโดยเจตนาหรือไม่ก็ดีให้เราไปสู่ที่ชั่วเช่นยากจน ตกงาน สู่อบายภูมิ ตกนรก
ด้วยความอคติไม่รู้ คิดว่า เราไม่รัก ไม่เคารพ ไม่สามารถประพฤติตามที่แม่ต้องการได้
ทั้งที่เราไม่เจตนา หรือมีสัมมาปัญญากุศลอ้างอิงตามหลักพระพุทธศาสนา ว่าที่จริงแล้วเราเคารพรักเทิดทูน ปรารถนาให้แม่มีความสุขสบาย
ก็ให้เราตั้งสัมมาสัจจะวาจากลับไปเลยเช่นว่า
ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นทีพึ่งเป็นพยานว่าข้าพระพุทธเจ้าหาได้เป็นหรือมีเจตนาเป็นตามที่แม่ด่าว่าหรือเข้าใจผิดจนจะนำเอาเป็นเหตุกรรมสาบแช่งมาให้(ลูก)เสื่อมถอยตกต่ำนานาฯลฯ กลับมีความรักเจตนาบุญกุศลในทางตรงข้าม(ตามความเป็นจริงนะครับ ถ้ายังไม่มีก็ฝึกฝนอบรมให้มีมากขึ้นไว้ครับ)
ขอให้ตัวคุณแม่นั้นมีความสุขความเจริญในทางตรงข้ามกลับที่ท่านสาบแช่งเรานับทบทวีมากที่สุดทีบุญกุศลสัมมาปฏิบัติจักส่งผลได้ (และให้ผลนั้นส่งถึงข้าพระพุทธเจ้ายิ่งๆขึ้นไปโดยดีงามด้วยเทอญ)
(เช่นที่แม่ว่า เราตั้งใจให้แม่ลำบากไม่เชื่อฟังแม่ แล้วขอให้เราตกนรก หากไม่ใช่เช่นนั้นตรงกันข้ามเรากลับมีเจตนารักเคารพเชื่อฟังแม่โดยจริงใจ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานว่า เราสามารถอดทนต่อคำแช่งให้เราตกนรก กรรมทางกายใจที่ล่วงเกินเราไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่เรากลับยังคงมีความรักเมตตาปรารถนาดี ตั้งใจอุดหนุนทำนุบำรุงเลี้ยงดูแม่ต่อไปไม่โกรธ และด้วยความสัจจริงนี้จงเป็นผลให้แม่และเราคือผู้ลูกที่ถูกกล่าวหาสามารถหลุดพ้นจาคำสาบแช่งอกุศลกรรมสัมพันธ์ดังกล่าว เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี พากันมีความสุขความเจริญรุ่งเรืองในกายวาจาใจทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นไปเทอญ )
นี้เป็นต้นแบบตัวอย่างคร่าวๆนะครับ ดัดแปลงคำสัมมาสัจจาธิษฐานให้ถูกต้องละเอียดงดงาม เหมาะสมสั้นยาวตามสถานการณ์กรรมโดยดีงามนะครับ
ลองหาคำตอบเกี่ยวกับเมื่อมารดาด่าควรทำอย่างไร ฯลฯ ที่ มุ่งเต็มใจลงไว้ในหลายกระทู้จากกูเกิ้ลประกอบกับคำท่านอื่นดูจะเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นครับ
ผิดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ -
-
ควรระวังอย่างมากครับ เพราะเป็นการตั้งเจตนาไว้ผิด (อาจนำไปสู่กรรมหนักได้ครับ) ควรสลายความคิดสะสมขึ้งโกรธพ่อนี้ อย่าให้เกิดเป็นอาจิณกรรมครับ
อยากให้พยายามฝึกฝนตนเอง ตั้งกตัญญูกตเวทิตาเมตตากรุณาให้มาก
ทำความเข้าใจมีสัมมาทิฐิเห็นชอบพระคุณบิดามารดาได้จนถึงรู้ว่าเราเป็นหนี้ท่านระดับชีวิตเลือดเนิ้อได้แล้ว จนอกุศลกรรมอกุศลวิบากสลายไปได้ ด้วยการเพ่งโทษชนะใจตนเอง (อัตตานัง โจทยัตตานัง )
ความทุกข์เหล่่านั้นอาจหายไปได้ ด้วยจัดอยู่ในกลุ่มปาฏิหาริย์จากการเอาชนะกิเลสครับ ต้องลองค่อยๆศึกษาดูนะครับ
ผิดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ -
คุณแมนนี่มูน123
สังคมครอบครัว...ถ้าพื้นฐานบางอย่างไม่ดี เช่น เศรษฐกิจ...หรือ ความเมตตาฯลฯจะมีปัญหาครอบครัวอย่างมาก
การแก้ไขก็ยากเย็นยิ่งนัก....
...การคุมสติไม่ให้โต้ตอบกับแม่ อาจทำได้แป๊บเดียว...เดี๋ยวเราก็มีโทสะตอบต่อท่าน...ยากเย็นจริงๆ....ยิ่งไม่เคยภาวนาเจริญสติอยู่เป็นประจำ...ยิ่งยากมากเข้าไปอีก.....
...มีบางวิธีแก้ไข
1.หลีกหนีออกจากบ้านไป ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ต้องส่งเงินส่งทองมาดูแลท่านด้วย
ขืนอยู่ชายคาเดียวกัน คุณจะยิ่งทำบาปเพิ่มไปเรื่อยๆ
2.ตั้งสติ สำรวจแม่ของคุณว่า ทำไมท่านจึงเป็นเช่นนี้...ตั้งสติสำรวจตนเอง ว่าทำไม จึงถูกแม่แช่ง....
เมื่อรู้ว่าแม่ผิด เราต้องอภัย แต่ถ้ารู้ว่าตนผิด เราต้องแก้ไข...ด้วยการไม่ทำผิดอีก(คือแม้ทำถูกแต่แม่ไม่ชอบ ก็คือ ทำผิดใจแม่)แล้วภาวนาคำว่า "แม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"ทุกลมหายใจเข้าออก โดยทำการทำงานก็ทำไป นอนก็นอนไป แต่จิตให้ภาวนาคำดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา
หากคุณทำได้อย่างนี้ ไม่น่าเกินเดือน แม่คุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
เพราะอานุภาพการภาวนาถึงมารดานั้น...สามารถแทรกเข้าไปได้ถึงนิโรจน์สมาบัติได้เลยเจียว..เชื่อผม... -
ยิ้มเข้าไว้ รอให้เหตุการณ์ผ่านไปซักพัก แล้วค่อยเข้าไปกราบเท้าขอโทษ คุณแม่คุณคงให้อภัย ...ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่เท่ากับ พ่อ-แม่ที่รักลูก...
...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์... -
ผมเข้าใจความรู้สึกคุณเมื่อก่อนผมก็เคยโดนแบบนี้ แต่ถ้าคุณต้องมีความกล้าในการทำความดีกับพ่อแม่ อย่างเช่น กราบเท้าท่านขอขมาท่านในสิ่งที่ไม่ดี ที่ทำลงไป ว่าเราได้สำนึกแล้ว และจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น (ถ้ายังไม่ค่อยกล้าลองหาวันดีๆที่เป็นศิริมงคลก็ได้ เช่น วันพระ หรือ วันเกิดเรา วันเกิดท่าน) แต่ ขอร้องอย่างนะครับสิ่งที่ทำนี้ต้องมาจากความตั้งใจของเราจริงๆ ตอนแรกๆอาจมีเขินนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นคุณจะสามารถทำได้ตลอด มันจะเป็นอัตโนมัติ แต่สิ่งที่คุณจะได้รับต่อจากนี้สิ......ผมเชื่อว่าชีวิตของคุณจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นมากมาย โดยที่คุณจะรู้สึกได้เอง ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างค่อยเป็น ค่อยไป แต่ก็อยู่ที่ความสม่ำเสมอในการเป็นลูกที่ดี ของพ่อ แม่ ด้วยหรือไม่ด้วยนะครับ ผมคงแนะนำได้เท่านี้(เอาประสบการณ์จริงของตัวเองมาแนะนำครับ)ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะครับ ขอคุณจำไว้ว่ายังไง พ่อ แม่ ก็เป็นพระอรหันต์ในบ้านของลูกทุกคนครับ รักท่าน และดูแลท่านให้ดีที่สุดนะครับ++++++
-
เมื่อก่อนโดนทุกวัน เมื่อแม่โมโหเมื่อไหร่เขาจะพูดว่าไอ้ลูกกาลีบ้านกาลีเมือง
และอื่นๆมากมาย
บางทีเขาก็บอกว่าอย่างมึงไปไม่รอดหรอก แช่งสารพัด แต่พออารมณ์ดีก็ให้ศีลให้พร -
"ข้อนี้ก็อย่างเดียวกัน ท่านด่าว่าเราผู้ไม่ด่า ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธ เราไม่รับการด่าของท่าน เรื่องการด่านั้น ก็เป็นของท่านแต่ผู้เดียว "
อันนี้ผมจะจำไว้นะครับ -
ผมเคยไปปรึกษาพระเรื่องแม่ พระรูปนั้นท่านรู้จักแม่ผม
ท่านหัวเราะแล้วบอกว่า เมื่อไหร่จะสิ้นกรรมนี้ซะที ใช่ใหมยิ้มๆแล้วพูดว่า
เลี้ยงดูแม่ไปเถอะ มันไม่มีหรอกลูกที่เลี้ยงดูพ่อแม่แล้วตกอับน่ะ
คำนี้ช่วยผมได้เยอะมาก -
ตัวพี่ ตอนวัยรุ่น ก็เคยโดนเยอะกว่าน้องค่ะ ^ ^
แม่ไม่ตั้งใจ เผลอไปด้วยความหงุดหงิด ของอารมณ์ ...
มันเป็นธรรมดา เพราะ เพศหญิง พอถึงวัยๆหนึ่ง จะมีความหงุดหงิด ขี้บ่นมากนะคะ เป็นเรื่องของฮอร์โมน
คำด่า(หรือแช่ง) ของบุพการี ไม่ค่อยมีผล เพราะเขาเผลอพลาดทำไปด้วยอารมณ์ของ ฮอร์โมน หรือความรำคาญ
จิตเขาไม่ได้มุ่งอาฆาตรมาดร้ายแบบจริงๆจังๆ
น้องอย่าไปเก็บรายละเอียดเก่าๆ เลยนะคะ ให้ผ่านแล้ว ผ่านเลย
ให้ ถือว่า แม่เรา บ่น แม่ด่า คือ แม่ห่วง แม่รัก นะคะ
ว่าง ๆ ถ้าน้องไม่สบายใจ หาเพลงบรรเลงเบาๆ ฟัง ผ่อน ลมหายใจ ยาวๆ
( เวลาคนไม่สบายใจ เขาให้สูด และปล่อยลมหายใจ ยาวๆ ค่ะ -
สังเกตเวลาคนทุกข์ และโมโห ลมหายใจเขาจะสั้นๆไวๆ *ต้องแก้ โดย ผ่อนลมหายใจ ยาวๆ )
หรือ หา ธรรมะ ที่ถูกจริต ฟัง ก็เป็นกุศล ค่ะ ฟังแล้ว โมทนาบุญให้ แม่บ่อยๆ อธิษฐานขอให้แม่ของเรา มีความสุข มากๆ
''หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยเทศน์สอน ...เวลาเราโกรธ เกลียด ไม่พอใจใคร ให้เรานึกถึงความดีของเขาเก่าๆ
เพื่อสิ่งนั้นจะกลับมาระงับความไม่พอใจของเราได้''
น้อง นึกถึง ภาพ ตอนแม่อุ้มท้องเรามา 9 เดือน เเสนยากเข็ญ..
แม่ต้องเบ่ง ต้องคลอด เสียเลือด หยอดน้ำนม ป้อนข้าว เรามา พระคุณท่านเหลือล้น
แม่เขาคงได้ เบ่งคลอดเราชาตินี้ ชาติเดียว ให้เราได้อาศัยเกิดมา สร้างบำเพ็ญบารมี
แม่อาจจะอยู่กับเรา อีกไม่นาน จากนี้ไป เวลาที่เหลืออยู่ เรามา คิด ทำ สิ่งที่จรรโลง ดีกว่า ค่ะ ...
สู้สู้ นะคะ เดี๋ยวก็ผ่านพ้นค่ะ เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ :cool:
<STYLE>table {background:none;} td {background:none;}</STYLE><STYLE>body{background-image:url("http://www.showded.com/users/moo_noi/images/Beautiful%20Flower/06.jpg");}</STYLE> -
เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตก็อย่างนี้แหล่ะ มันมีเรื่องทุกข์กันทุกชีวิต ไม่ทุกข์กับสิ่งหนึ่งก็ทุกข์กับอีกสิ่งหนึ่ง ความทุกข์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เกิดจากที่ใจเราไปยึดติด ถ้าใจเรายึดติดมากก็ทุกข์มาก ยึดติดน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่ยึดติดเลยก็ไม่ทุกข์ กับคำพูดที่ไม่ดี เมื่อเราจำเป็นต้องฟัง ฟังแล้วเราก็ปล่อยวางมันลงไว้ตรงนั้นแหล่ะ ปล่อยวางให้มันดับลงตรงที่มันเกิดขึ้นนั่นแหล่ะ ไม่ต้องเอามันมาไว้ที่หัวใจแล้วแบกมันไปไหนต่อไหนด้วย ปล่อยวางเมื่อไหร่ก็สบายเมื่อนั้น
-
ความสมบูรณ์ในหน้าที่ไม่เท่ากัน ระหว่างพ่อแม่ลูกของแต่ละครอบครัว
หน้า 1 ของ 3