ผลของการโต้ตอบธรรมที่รุนแรง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 1 ตุลาคม 2008.

  1. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนากะคุณผึ้งด้วยน้า

    เราเป็นคนไม่มีฌาณ เป็นสมบัติ ต้องอาศัยเกาะคนอื่น โมให้เขา แหะ แหะ
     
  2. ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    คิดถึงน้าจรนะ ไม่มาเสวนากันเลย คิดถึงนะ ตัวเอง อิอิ
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    กล่าวปิดของคุณขวัญนะ

    คุณขวัญสำรวจใจดู เวลาเห็นใครทำสมาธิตามรูปแบบ เกิดความไม่ชอบใจ
    ผุดขึ้นหรือไม่ หากมีนั้นแหละ รอยกรรมที่ขวางทาง

    หากเข้าใจ สภาวะสมาธิ ที่ผึ้งอธิบาย ลองทำแล้วสัมผัสสภาวะธรรมนั้น ตรง
    ความไม่ชอบใจการเห็นคนทำสมถะแล้วไม่ชอบใจ จะจางลง ทั้งๆที่ยังเห็น
    ในความผิดปรกติ แต่เรารู้ของเราแล้วว่า สัมมาสมาธิ นั้นมี ก็เพราะทำโดย
    มี สติ กำกับตลอดนั้นมี สมาธิที่ทำไปสัญญาดับ เวทนาดับ เหลือแต่จิต หาก
    ยังมี สติเจตสิก อยู่ จิตดวงเดียวก็ภาวนาต่อได้ โดยดูการเกิดดับของจิตตน

    ดังนั้น สมถะสมาธิ ก็เป็นเรื่องที่ปรามาสไม่ได้ แถมเราไม่มีทางรู้ ว่า สติ ของ
    เขาเหล่านั้น จะเกิดเองเมื่อใด

    ดังนั้น หากจิตใจยังติดข้องอะไรบางอย่าง ต้องทบทวน กุศลที่ยังไม่เกิดต้องทำ
    เพิ่ม กุศลที่เกิดแล้วต้องรักษา ฯ (ไปอ่านเพิ่มพระสูตรนี้นะ โอวาทปฏิโมขก์มั้ง )
     
  4. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ก็มันเลือกไม่ได้นินา ทำงานที่ต้องใช้คิด ก็ต้องคิดไปก่อน

    เขาเรียกว่า ชดใช้กรรมให้โลก

    เพราะเอาของโลกมาใช้ แต่อย่าให้คิดมาเป็นเจ้านายเรา จนลืมตัว ลืมรู้

    เขาเรียกว่า คิดแบบมีสติ มั้ง คิดแบบโลกๆ ใช้สำหรับงานของโลก
     
  5. บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้าว โพสมาตอนไหนหว่า

    เล่นเอาที่เรากล่าวปิด ผิดธรรมเลย

    จ๋อยสิเรา

    :)
     
  6. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ก็คงมีความหลังฝังใจกับสมถะสมาธิ นั่นแหละ

    เพราะคงเห็นคนที่หลงสมถะ หลงสมาธิ หลงฌาณ แล้วทำร้ายตัวเอง แบบไม่รู้ตัว

    กั้นมรรคผลของตนเอง นะแหละ เลยไม่ชอบ

    แต่ตอนนี้เริ่มเห็น หลงปัญญา ก็นำภัยมาหาตัวเหมือนกัน
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    นี่ แจ่ม

    กล่าวเป็นธรรมไปหมดนะ

    เห็นไหมว่า ไม่ได้อะไรมาสักอย่างเดียว แล้วก็ไม่ได้เสียอะไรไป

    แต่จิตใจมีความสุข จิตมีความสุขมันก็จะทำให้หลุดพ้น

    ที่เห็นว่า ไม่ได้อะไรมา ไม่เสียอะไรไป เพราะ จิตไม่ใช่เรา กายไม่ใช่เรา

    เห็นอย่างนี้มันก็มีความสุขจากการที่เราไม่ได้อะไร เพราะมันเรื่องของเขา

    แต่เราก็มีความสุข จากการไม่เอาอะไรเลย

    ( ของคุณขวัญนะ คนอื่นไม่เกี่ยว )
     
  8. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สหายจร หายไปไหนหว่า

    สงสัยเพราะเราไปบอกเรื่อง อิอิ

    ไม่รู้ว่าจะไปทำร้ายตัวเอง เพิ่มอีกขนาดไหนนะนี่

    ดูดิ เพราะปัญญา ไม่มีหูรูดมั้ง ปล่อยหมด
     
  9. ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    ว่าจาคมเลยคุณ3 แล้วเคยเสียแล้วได้ แต่ได้กลับเสียไหม
     
  10. ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถามหน่อยสิ ว่า

    วิถีของจิต ที่เคยทำอย่างไร ก็มักแตกออกไปในทางนั้น เช่น ขจร ชอบพูด อิอิ หรือ เกาตรงนั้นตรงนี้ แบบนี้เหมือนลิง ที่ว่าผมว่าลิงขันธ์ แล้วจะทำอย่างไรให้หาย
    บางคน มีวิถีจิตที่ พูดไปเรื่อยเปื่อย พออ่านปั๊บ จิตแตกออกไปในทางพูดเรื่อยเปื่อย ไป
    บางคน มีวิถีจิตที่ มีมานะ พออ่านปั๊บมานะ แตกออก ตัวเองดีกว่าคนอื่นเสมอ

    แบบนี้ ควรจะแก้หรือไม่ อย่างไร
     
  11. ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    สงสานกิเลสจังโดนฟันแล้วกิเลสคงเจ๊บแย่เลย ขันธ์ห้าเป็นทางผ่านแห่งปัญญา เช่นนั้นกิเลสก็ไม่มีมีแต่ปัญญา ถ้ายังคิดว่ากิเลสไม่เป็นประโยชน์ก็จะไปเข้าใจกิเลสได้อย่างไร
     
  12. ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทีนี้ เวลาที่มีนิวรณ์ ออกเป็นประจำ เช่น กามฉันทะ พยาบาท วิจิกิจฉา อุธัจจะ ถีนะมิทธะ

    นี่ แสดงว่า ใครชำนาญด้านไหน จิตมันก็แตกออกด้านนั้นเสมอ เช่นว่า ใครชอบของสวยงาม เห็นปั๊บ จิตไปชมทันที ชอบใจทันที นี่เรียกว่า มีอาหารให้ นิวรร์ตัวกามฉันทะ
    ใคร พยาบาท เจออะไรก็ไม่ถูกใจทันที ใครพูดอะไร เห็นอะไร ก็ไม่ถูกใจทันที ก็เรียกว่า มีอาหารให้นิวรณ์ ตัว พยาบาท
    ใคร มีจิตที่ เจออะไรสงสัยทันที ถามนั่นถามนี่ สงสัยเรื่อยเปื่อย แบบนี้ ก็เป็นอาหารให้ วิจิกิจฉา
    อุทธัจจะ ก็มีจิตที่คอยคิดไปเรื่อยๆ ก็เป็นอาหารให้ อุทธัจจะ
    ถีนะมิทธะ จะทำอะไรก็เบื่อ ขี้เกียจ แบบนี้ก็จะเป็นอาหารให้ ถีนะมิทธะ

    หลวงพ่อชา จึงกล่าวยาวๆ ว่า จงระวังความคิดของเธอเพราะมันจะกลายเป็นนิสัยของเธอ อะไรประมาณนี้ เพราะจิตมีความเป็นอัตโนมัติ

    ก็ ใครแตกออกอย่างไร ก็สำรวจตนเองด้วย
     
  13. ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    จร เธอจงระวัง ปากของเธอ เพราะมันจะกลายเป็น นิสัยของเธอ
    จร เธอจงระวัง นิสัยของเธอ เพราะมันจะกลายเป็น สันดานของเธอ
    จร เธอจงระวัง สันดานของเธอ เพราะมันจะกลายเป็น ชะตาชีวิตของเธอ

    เอาคร่าวๆ นะ
     
  14. jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    มัวแต่พูด มันจะเท่าทัน รูปนาม เหรอ ไม่ค่อยเห็นนักปฏิบัติ พร่ำ ๆ นะ ^-^
     
  15. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ตอบแบบมวยวัดนะจารย์

    อยู่ที่วิจารณญาณส่วนตน ว่าเห็นแล้วจะกอดไว้ หรือจะถอดถอนมัน

    คนที่ยังไม่พ้นน้ำโสโครก อย่างดิฉันนี่ ถ้าเห็นแล้วว่าไม่ควรเลี้ยงไว้

    ก็จะถอดถอนมันออก ทำไปเรื่อยๆ ถ้ารู้ตัวแล้วนะ ถ้าไม่รู้ตัว ก็คงไม่รู้เหมือนเดิม

    มันก็แตกหน่อ งอกงามไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่หลุดพ้นจากอวิชชานะ

    ทีนี้มีอีกแบบหนึ่ง คือคนที่พ้นจากอวิชชาครอบงำแล้ว จิตบริสุทธิ์ไม่มีอะไรมาจับติด

    ท่านเหล่านี้ ไม่มีอวิชชาจะงอกงามได้อีกแล้ว ดังตาลยอดด้วน

    ทีนี้มันมีอนุสัยบางอย่างยังไม่ถอน มันก็ค้าง ก็ไม่แตกหน่อ ก็ไม่เป็นภัย

    ท่านก็ทิ้งมันไว้อย่างนั้น ก็จะแสดงกิริยาจิตนั้นๆออกมาเป็นดังอนุสัยที่ยังไม่ถอน

    ดังนั้นปุถุชน ที่คิดว่าตัวเอง หันแล้วเนี่ย ก็จะไม่ระวังตัว ตกอยู่ในความประมาท

    เมื่อปล่อยให้อนุสัยมันทำงานอย่างสนุกสนาน ไม่ใช่แบบ กะดึ๊บ กะดึ๊บ

    มันก็เลยงอกงามอย่างรวดเร็ว และพันคอตัวเองตายในที่สุด

    ถ้าภาษาพระ ใช้คำละ ละสังโยชน์คือถอดถอนก็น่าจะใช่นะ ไม่รู้จะถูกป่าวไม่แน่ใจเหมือนกัน
     
  16. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ใช้ คิด ตอบ
    หรือใช้ รู้ ตอบ

    แล้วรู้จักยัง รู้ กะ คิด มันต่างกันยังไง
     
  17. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ท่านผู้ชมคะ จิตคุณจร กะลังสอนคุณจร อยู่มั้งคะ
     
  18. to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    TVJ พูดบ้างก็ได้นะ ไม่มีใครเค้าว่าหรอก
     
  19. k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ยังอุส่า มาเฉลยอีกแระ

    ว่าทำมาตั้งแต่ตนจนจบเนี่ย

    ใช้แต่ คิด

    ไม่เคย รู้ ซักกะติ๊ด ตะลิ๊ด ติ๊ดชึ่ง มันเลยแห้วกินตลอด
     
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เรื่องดาบเป็นสนิมหรือไม่เป็น คมหรือไม่คม ตัดกิเลสผมผู้ทักน้าจรไหม อันนั้นไม่รู้

    รู้แต่ว่า หาก น้าจร ใช้รูปแทนตัวนี้ เพื่อบอกใครต่อใครว่า ฉันจริงใจ

    ผมก็ได้แต่ยิ้ม ที่เห็นน้าจรใช้รูปนี้แสดงอยู่

    เพราะมั่นใจได้ว่า หากเมื่อใดน้า จรบอกเบอร์โทร หรือ ขอเบอร์โทร
    หรือ ขอดูรูปหน้าคร่าตา

    ผู้ที่สื่สารกับน้า จรจะอนุมานได้ทันทีว่า จะเอาไปทำอะไร

    นี่ งานที่ผมคอยตามดูน้าจรบอกเบอร์โทร ขอเบอร์โทร ก็ลด

    สบายใจได้เปาะหนึ่ง น้าจรก็สบายใจได้เปาะหนึ่ง

    เพราะผมจะไม่ตามไปดู ในทุกๆย่างก้าวของการดูกระทู้
     

แชร์หน้านี้